ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จำเป็นต้องปฏิบัติ ภาวนา ตามลำดับ ทุกขั้นตอนหรือไม่ ครับ ถ้า เพื่อ มรรค ผล  (อ่าน 3066 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

จำเป็นต้องปฏิบัติ ภาวนา ตามลำดับ ทุกขั้นตอนหรือไม่ ครับ ถ้า เพื่อ มรรค ผล


 thk56 :25:
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 :welcome:

          ขอถามกลับว่า  .....ตัวท่านว่าจำเป็นหรือไม่ล่ะ

                       ถ้าจำเป็น ก็คือ เรียนไปตามครูสอน กรรมฐานนี้ มัชฌิมา แบบลำดับ อยู่แล้ว   ชื่อก็บอกอยู่เน๊าะ

                      ถ้าไม่จำเป็น   ก็คือ   หาวิธีเอง (ตามใจของท่าน)

                ความฉลาดบางคราว ก็เป็นมิจฉา ด้วย  การไม่ยอมรับความจริง  ผมเคยเป็นมาก่อน มีเล่ห์  เรียกว่ามีมานะทั้งนั้น

        กิเลสเฉพาะ องค์เดียวอาจทำให้เราเสียเวลานาน      เพราะ  โมหะ จริตหลงตัว   แต่คือโง่   ผมเป็นมาแล้ว


                  พระพุทธองค์กล่าวไว้ ว่า ในธรรมวินัย  นี้ มีการเรียน  (การศึกษาไปตามลำดับ) ไม่ได้มีการบรรลุอรหัตผลในทันที 

         

 ตอนผมเจอครูอาจารย์ ปัจจุบัน....พระอาจารย์ถามว่า  จะทำเอง หรือ จะให้อาตมาสอน

                ผมก็เลือกอย่างหลัง   ครานั้นได้ยินว่า ท่านได้พระอนาคามี  ตอนเป็นฆาราวาสแล้ว ลาออกงานออกบวช


       ผมรอหนึ่งเดือน  จนท่านบวชแล้ว ผมจึงแอบไปตามหาที่วัด  สมใจที่รอหนึ่งเดือน


                    แม้ครูอาจารย์จะอยู่หรือไม่อยู่  บอกตามตรงเลยว่า    ครูปูพื้นไว้ให้หมดแล้ว ในเรื่องภาวนา

       เพียงแต่เราต้องขยันหมั่นภาวนา ตามรอย ที่ท่านตั้งธาตุตั้งธรรมไว้ให้

             เพียงแต่ว่าใครจะเอาอย่างไร  มันก็เป็นเรื่อง ของท่าน

                 เพราะว่าเรื่องแบบนี้  มันเป็นเรื่องตัวใครตัวมัน


              แต่ถ้าจะเรียนเป็นลำดับ.....มัชฌิมา แบบลำดับ...ไปวัดราชสิทธาราม ครับ(ประตูเปิดทุกวัน-ครูอาจารย์ใจดี)


                         ขอคุยคร่าวๆตามความรู้สึก ครับ 
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
:welcome:

          ขอถามกลับว่า  .....ตัวท่านว่าจำเป็นหรือไม่ล่ะ

                       ถ้าจำเป็น ก็คือ เรียนไปตามครูสอน กรรมฐานนี้ มัชฌิมา แบบลำดับ อยู่แล้ว   ชื่อก็บอกอยู่เน๊าะ

                      ถ้าไม่จำเป็น   ก็คือ   หาวิธีเอง (ตามใจของท่าน)

                ความฉลาดบางคราว ก็เป็นมิจฉา ด้วย  การไม่ยอมรับความจริง  ผมเคยเป็นมาก่อน มีเล่ห์  เรียกว่ามีมานะทั้งนั้น

        กิเลสเฉพาะ องค์เดียวอาจทำให้เราเสียเวลานาน      เพราะ  โมหะ จริตหลงตัว   แต่คือโง่   ผมเป็นมาแล้ว


                  พระพุทธองค์กล่าวไว้ ว่า ในธรรมวินัย  นี้ มีการเรียน  (การศึกษาไปตามลำดับ) ไม่ได้มีการบรรลุอรหัตผลในทันที 

         

 ตอนผมเจอครูอาจารย์ ปัจจุบัน....พระอาจารย์ถามว่า  จะทำเอง หรือ จะให้อาตมาสอน

                ผมก็เลือกอย่างหลัง   ครานั้นได้ยินว่า ท่านได้พระอนาคามี  ตอนเป็นฆาราวาสแล้ว ลาออกงานออกบวช


       ผมรอหนึ่งเดือน  จนท่านบวชแล้ว ผมจึงแอบไปตามหาที่วัด  สมใจที่รอหนึ่งเดือน


                    แม้ครูอาจารย์จะอยู่หรือไม่อยู่  บอกตามตรงเลยว่า    ครูปูพื้นไว้ให้หมดแล้ว ในเรื่องภาวนา

       เพียงแต่เราต้องขยันหมั่นภาวนา ตามรอย ที่ท่านตั้งธาตุตั้งธรรมไว้ให้

             เพียงแต่ว่าใครจะเอาอย่างไร  มันก็เป็นเรื่อง ของท่าน

                 เพราะว่าเรื่องแบบนี้  มันเป็นเรื่องตัวใครตัวมัน


              แต่ถ้าจะเรียนเป็นลำดับ.....มัชฌิมา แบบลำดับ...ไปวัดราชสิทธาราม ครับ(ประตูเปิดทุกวัน-ครูอาจารย์ใจดี)


                         ขอคุยคร่าวๆตามความรู้สึก ครับ




st12 st12 st12 st11
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ น่าสนใจ คุณ aaaa ถ้าจะทราบประวัติ พระอาจารย์ ดีมาก ท่านหนึ่ง
คงต้องได้ปรึกษา กันเป็นส่วนตัว ......


  st11 st12 thk56
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 :035: :welcome: :49: st11 st12 :banghead: :043:
       ทราบความเข้าใจ   แต่ยังไม่รับปรึกษา


            เพราะกลัวโมหะ เดี๋ยวจะเอาตัวเองไม่รอด

                ปรึกษาก็เพื่อ สุข-และสุขก็ไม่ใช่

      ปริยัติตำราของพระพุทธเจ้า  พระราหุล พระโสณะ พระอุตตระ(หลวงปู่เทพโลกอุดร) สมเด็จสุก ไก่เถื่อน ปรามาจารย์

           สถิตอยู่ที่วัดราชสิทธาราม

                 ปฏิบัติ ปฏิเวธ....ต้องหาเอาเอง


                  ส่วนความชอบใจไม่ชอบใจ เป็นธรรมของคู่ เรียกว่าธรรมสองส่วน คือ สุข-กับทุกข์ เป็นกิเลสไม่ได้เป็นธรรม

                      ความขี้เกียจ เกียจคร้าน ไม่หมั่นฝึกฝน  พระพุทธองค์ตรัสว่า...ไม่เป็นธรรม

                        การจะไปสู่ธรรม  ทุกท่านต้องทำอย่างไร.....ลองถามตัวเองว่าเรา   อ่อนอะไร

                     1.ปริยัติ(ท่านไม่ต้องทำเป็นรู้กันหรอกถ้ายังไม่ถึงพระโสดาบัน กิเลสมันหรอกท่านทั้งหมด เรียกว่าทำเป็นรู้ดี แต่รู้ไม่จริง    )....วันนี้ผมยังไม่รู้อะไรเลย แค่เอาของพระอาจารย์ ยกมาคุยเป็นเพื่อนเฉยๆ  ให้พระอาจารย์ได้พักในสมาธิ ขันธ์ท่านจะได้ สมบูรณ์ อยู่กับเราไปนานๆ ขออาราธนา ไว้ตรงนี้

        ควรขออาราธนาพระอาจารย์กันไว้บ้าง...หลวงพ่อจรัญท่านสอนไว้ อยากให้ครูอยู่ต้องขอครูเอาไว้นะจะบอกให้

            ไม่มีใครขอเดี๋ยวเค้าเอาไป.....พระอานนท์ไม่ทูลขอเพราะถูกมารบังตา

           2.ปฏิบัติ(ทำเอง)

           3.ปฏิเวธ(ยังไม่รู้อะไร)



        .......พระธรรม.....เป็นของกลาง เป็นของทุกท่านที่ไฝ่ในธรรม  ตามไตรสิกขา เป็นตำรา

              พระพุทธองค์ ตรัสไว้ว่า ตราบใดที่เราตถาคตสิ้นไป พระธรรม คือตัวแทนของเราตถาคต

                ปฏิบัติธรรมถ้ายังอยากคุยกับคนโน้นคนนี้ บอกตามตรง ยังไม่ได้อะไร...อยากอวดดี อวดรู้ แต่ไม่ได้รู้จริง มันเป็นหมันโมฆะครับ  ถ้าเป็นแบบนี้นะเป็นคนขี้เกียจคร้านฝึกฝนด้วย ไม่ต้องไปแปร

           คนถ้าขยันฝึก จริง ไม่ขี้สงสัย   เพราะได้ล้างองค์ธาตุเบาบางลง

               ฝึกบ่อยๆ ก็อยากเงียบไปเอง  เมื่อเข้าไปเห็นจิต ก็จะรู้ว่าอะไรมันก็ไม่ใช่

                    อดีตนั้นทำไมเราช่าง โง่เง่า อวดรู้ โง่จริงๆ


                             เอาเป็นว่าบอกไว้ให้  หมดแล้ว นะครับ


                   วัดกันที่ไตรสิกขาจะดีกว่า      นึกถึงรูปลิงปิดทวารไว้

                หรือถ้าสงสัยก็ถามมาในเว็บ   ที่นี่ มีผู้ดูแลอยู่....ช่วงนี้  พระอาจารย์ให้ท่านได้พักบ้าง

           ขออนุโมทนาสาธุธรรม ทุกท่าน


           

                       

           
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

meditation

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 127
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ท่าน aaaa แสดงความเห็น ได้ดี คะ

  แต่อย่างไร ปริยัติ ที่มาจาก พระอริยะ นั้น หาเรียน อ่าน ฟัง ได้ยาก
 
 ยิ่งเป็น พระที่ ปฏิบัติ สายตรงด้วย นั้น เราควรรีบตักตวง ไว้คะ ......

     st11 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ข้าพเจ้าปรียบเหมือนนกที่กำลังหัดเดิน มีสิ่งใดที่ล่วงเกินใคร ก็ขอกราบอภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ภาวนากรรมฐาน เพื่อใคร เพื่ออะไร ทำไม ? หาคำตอบจากใจเราก่อนนะคะ

ดนัย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 179
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
"พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน"