พิมพ์

[ก้านตอง]

 :'( :'( :'( :'( :'(
กลุ้มใจ ๆๆๆๆ แฟนบอกให้ทิ้ง พ่อ แม่ หนู เพื่อไปอยู่กับเขา

[ทินกร]

เลือกพ่อแม่ ดีกว่าจ๊ะ  แฟนทิ้งเราไปก็เป็นคนอื่น
พ่อแม่ รักเรายิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ เลี้ยงเรามาทั้งชีวิต
แฟน เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน ไม่ถูกใจ พูดกันไม่รู้เรื่อง เดียวก็ทิ้งเรา
ก็ต้องกลับไปหาพ่อแม่อีก ถ้าเ้ข้ากันไม่ได้(หมายถึง ไม่เอาพ่อแม่เรา )
แนะนำว่าอย่าไปยุ่งเลยจ๊ะ แปป ๆ ก็จะเจอคนที่น้องคิดว่าใช่แล้ว (เนื้อคู่มั่ง)

[raponsan]

:'( :'( :'( :'( :'(
กลุ้มใจ ๆๆๆๆ แฟนบอกให้ทิ้ง พ่อ แม่ หนู เพื่อไปอยู่กับเขา

หากทำไปจะเป็นบาปมหันต์!!!! ตายไปตกนรกทันที!!!

ทำมาหากินอะไรไม่เจริญหรอกหนู มีแต่ฉิบหายล่มจม

กฏแห่งกรรมตอนนี้มันพัฒนาไปไกลมากนะหนู

มันออนไลน์-ไฮสปีด-ผ่านดาวเทียม

 มันผ่านมือถือของหนูได้ด้วยนะ

[arlogo]

อ่านข้อความแล้ว อาจารย์วิเคราะห์จาก 3 กระทู้แล้ว เห็นว่าควรจะรู้ความจริงเรื่องที่สำคัญก่อน

1.การเปลี่ยนศาสนาพุทธ เป็นศาสนาอื่นนั้น สำหรับพระสงฆ์แล้วเป็นอนันตริยกรรม เป็นกรรมที่หนัก เปรียบเหมือนทำกรรม ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้า และทำสงฆ์ให้แตกแยกจากกัน

2.การทำร้าย ใจ พ่อ แม่ ที่เป็นผู้ที่มีคุณธรรม ก็เป็นกรรมหนัก กรรมนี้ย่อมส่งผลให้เราทำอะไรก็ไม่เจริญ

3.กรรมที่เราหนีตามผู้อื่นไป ย่อมส่งผลไปถึง ลูก และ หลาน ไม่มีที่สุด และกรรมนั้นย่อมทำให้เรามีความหนักใจตลอดชีวิต จนกระทั่งอาจจะรับปัญหาไม่ได้ถึงกับต้องฆ่าตัวตาย

4.ถ้าเนื้อคู่ เราเป็นเนื้อคู่แท้  รักแท้ก็ไม่เกี่ยวกับศาสนา ไม่เกี่ยวกับว่าพ่อและแม่ ไม่เกี่ยวกับบุคคลรอบข้าง ถ้าฝ่ายชายรักเราจริง ก็ให้ฝ่ายชายเปลี่ยนมานับถือศาสนาเราบ้างสิ จ๊ะ เดี๋ยวเราก็จะเห็นรักแท้ ลองบอกให้ฝ่ายชายมาทำความดี ที่บ้านพ่อแม่เราบ้าง อย่าเอาเรื่องศาสนามาเป็นข้ออ้าง หนูรู้ไหมว่าผู้ชายมุสลิมนั้นมีภรรยาน้อยได้อย่างเปิดเผย และหลายคน มีลูกศิษย์อาตมาอยู่ที่อยุธยา ก็แต่งกับผู้ชายมุสลิมที่วังน้อย ทุกวันนี้ก็แอบมาทำบุญ และนั่งร้องไห้กับการแต่งเข้าไปแล้วไปเป็นเมียน้อย เธอไม่รู้มาก่อนเลย และยังถูกบังคับให้เปลี่ยนศาสนา ที่นี้ศาสนานั้นไม่ได้อยู่ที่บัตร มันอยู่ในใจ ข้อปฏิบัติแท้ก็มี เหตุ และ ผล อย่างดี
มาคุยกับอาตมาที่วัดอยู่แค่ลพบุรี มาเรียนกรรมฐานไว้จะได้ไม่ฟุ้ง หรือทุกข์ใจ ในเรื่องเหล่านี้

คนเราเกิดมา ก็ต้องตาย เมื่อตายก็ไม่ได้นำใครไปเป็นเพื่อนด้วย
เรามาผู้เดียว ก็ไปเพียงผู้เดียว
พิสูจน์รักแท้ให้เหมือน ปู่ชิว ก่อนตัดสินใจ

[ธุลีธวัช (chai173)]

  ฝากไว้
 
        ขอรวบตอบสะกิดนิดพินิจดู           เนื่องกระทู้ตอกย้ำรักซ้ำเรื่องทุกข์
อย่ารีบร้อนด่วนตัดสินไปมีสุข             รักแค่ฉุดให้หวั่นไหวใช่น่าคบ
      คิดวายวุ่นขุ่นเคืองใจใช่สาระ       จงคิดผละแผ้วถางทางใฝ่สงบ
ผิดมิสมตรองด้วยธรรมให้สยบ           แล้วจะพบสัจจะแท้แก้ได้เอง.
                                                                                          ธรรมธวัช.....!

[pornpimol]

http://www.youtube.com/watch?v=_hO4gPXXXsw

http://www.youtube.com/watch?v=SfxRNJGSnL0

มาช่วยเสริมเรื่อง ปู่ชิว คะ พระอาจารย์พูดถึง เดี่๋ยวคนไม่รู้จักนะคะ

[Admax]

เรื่องความรักนี่มันพูดยากนะครับ การที่เรารักใครสักคนทุ่มเทไปทั้งกายใจแล้ว ไม่ว่าเจอสิ่งใดก็ไม่สนทั้งนั้น เรียกว่าเห็นช้างตัวเท่ามดเลยทีเดียว แม้ตอนนี้หลายๆท่านจะเตือนสติคุณได้ แต่การกระทำใดๆก็ขึ้นอยู่ที่ใจคุณทั้งหมดน่ะครับ เรื่องนี้มันยากที่จะตอบแต่อาจจะมีแง่คิดที่ขัดแย้งกับใจคุณแต่อาจจะเป็นประโยชน์อย่างสูงกับคุณดังนี้ครับ


ทางโลก
- เมื่อคุณคบหากันมานานพอสมควร อยากจะอยู่ด้วยกัน หากมีปัญหาขวางทางไม่ให้อยู่ด้วยกันได้ ให้ใช้ปัญญาพินิจพิเคราะห์ สู้อดทน เพียรพยายามฟันฝ่ามันไปก่อน
- หากถึงที่สุดแล้ว(แต่ที่สุดของคนแต่ละคนมันต่างกันในจุดนี้ครับ) ไม่สามารถทำได้ คุณลองคุยกับพ่อและแม่ดีๆก่อน หากเป็นไปไม่ได้ก็ค่อยตัดสินใจกันอีกที
- แต่ถ้าหากหนีไปเลยก็ต้องมีซักวันที่ท่านรู้ แล้ววันนั้นจะเป็นยังไงบ้างครับ รอให้มีบุตรหลานก่อนจึงมาขอขมาท่านหรืออย่างไร
- นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในความคิดที่เสพย์ความพอใจยินดี อยากทะยานให้ได้ตามความปารถนาใคร่ได้ของตนเอง
- ลองมองหาหนทางที่ให้พ่อแม่ยอมรับได้ โดยให้เกิดความเสียหายระหว่างความรักของคุณกับครอบครัวน้อยที่สุดดีกว่าไหม เช่น อาจจะบอกท่านว่าคบคนนี้อยู่ และ รักเขามาก มีความสัมพันธ์กันมานานเท่าไหร่ กี่ปี กี่เดือน กี่วัน ไว้ใจเขาได้แค่ไหน เขาให้ความสำคัญกับคุณแค่ไหน ขอให้พ่อแม่อนุเคราะห์ให้คบหากัน เป็นต้น
- แต่หากที่จะหนีไปกับแฟน ไม่ใช่เพราะมีอุปสรรคใดๆมากั้นขวาง นั่นก็คงเป็นเพราะความเห็นแก่ตน หรือ ทิฐิที่แฟนคุณมีอยู่ เป็นต้น ลองถามแฟนคุณดูสิครับว่า เขารักพ่อกับแม่ หรือ บุพการีท่านๆอื่นๆที่มีพระคุณกับเขาไหม พ่อแม่เขาเลี้ยงดูเขามาอย่างดีไหม ให้ความสุขเขาไหม หากพ่อแม่เป็นสิ่งที่เขาเคารพรักและดูแลเขามาอย่างดีตั้งแต่เกิด ให้ข้าวให้น้ำ เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ ให้การศึกษา ที่อยู่อาศัย จนโตมาถึงปัจจุบันนี้ หากวันหนึ่งมีคนมาบอกให้เขาทิ้งพ่อแม่บุพการีทั้งหลายของเขาไปเสีย เพื่อไปเสพย์สุขในกามารมณ์ใดๆที่เขาเองก็ต้องการและขาดไม่ได้ เขาจะทำไหม
- หากเขาตอบว่าได้ ก็แสดงว่าบุคคลผู้นี้ไม่มีความกตัญญูกตเวที เป็นบุคลที่ไม่สามารถจะพึ่งพาได้ยามยาก ยอมรับความช่วยเหลือแต่ไม่ทำแทนคุณ เห็นประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่มากกว่าความถูกต้องในคำว่า ลูก หรือ มนุษย์
- หากเขาตอบว่าไม่ได้ ยังไงก็ต้องดูแล พ่อ แม่ บุพการี อย่างนี้ก็ถือว่าเขามีความกตัญญูอยู่ แต่ยังมองในมุมที่ตนเองพอใจ ยังไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ว่าคนอื่นก็ไม่ต่างกัน แต่สามารถที่จะบอกพูดคุยให้เข้าใจกันได้

อันนี้จะเป็นแง่คิดถึงกาลอนาคตภายภาคหน้าต่อไปน่ะครับ ไม่ได้บอกว่าแฟนคุณไม่ดี หรือ พ่อแม่คุณขัดขวางใดๆ


ทางธรรม
บุคคลใดที่มี ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน กาย วาจา ใจ งดงาม บุคคลนี้ชื่อว่ามนุษย์ที่ แม้เทวดาก็รักษา เป็นมิตรที่ควรคบ
บุคคลใดที่มี ความกตัญญู กตเวที ต่อบุพการี บุคคลนี้ชื่อว่าเทวดาก็รักษา เป็นบุคคลที่ควรคบ
บุคคลใดที่มีความตั้งมั่น อดทน เพียร พยายามอุตสาหะ กระทำในสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ไม่ลุ่มหลงมัวเมา บุคคลนี้ชื่อว่าเทวดาก็รักษา เป็นบุคคลที่ควรคบ
บุคคลใดที่ใช้เหตุผล มากกว่าอารมณ์ มีความคิดเห็นใจผู้อื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา มีความเคารพต่อ บุพการี บุคคลนี้เป็นผู้ที่ควรคบ

บุคคลใดที่ไม่มีศีล พรหมวิหาร๔ ทาน กาย วาจา ใจ ทุจริต บุคคลนี้ย่อมนำความวิบัติมาสู่ตนเองและบริวารผู้คบหา
บุคคลใดที่ไม่มีไม่มีความกตัญญู กตเวที บุคคลนี้ย่อมไม่รู้คุณคน มักนำความวิบัติมาสู่ตนเองและบริวารผู้คบหา
บุคคลใดที่ไม่มีความอดทน ไม่มีความเพียรพยายาม ไม่มีความตั้งมั่น-ตั้งใจอุตสาหะทำในสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร อยู่ด้วยลุ่มหลงมัวเมาบุคคลนี้ย่อมนำความวิบัติมาสู่ตนเองและบริวารผู้คบหา
บุคคลใดที่ไม่มีใช้เหตุผล ใช้อารมณ์ความรู้สึกของตนเองเป็นใหญ่ ย่อมนำความเดือดร้อน และ ความวิบัติมาสู่ตนเองและบริวารผู้คบหา

ตรงนี้นำมาให้พิจารณาโดยย่อน่ะครับ


ทีนี้ถามข้อหนึ่งนะครับว่า
1. คุณมั่นใจได้หรือไม่ว่าเขาจะรักคุณคนเดียวไม่มีอื่น
2. คุณมั่นใจได้หรือไม่ว่าเขาสามารถดูแลคุณได้ มีความปารถนาดี เอื้ออนุเคราะห์แบ่งปัน ยินดีเมื่อคุณเป็นสุข รู้วางใจกลางๆในกาลอันควร ไม่เบียดเบียนทำร้ายคุณ
3. คุณมั่นใจได้หรือไม่ว่า เขาจะให้ความเคารพบิดา มารดา บุพการีของตนเองและคุณ ด้วยความเคารพเอื้อเฟื้อ
4. คุณมั่นใจได้หรือไม่ว่า เขาจะไม่มีวันทิ้งคุณไป จะไม่ทำให้คุณเสียใจ

- พ่อ แม่ บุพการี ที่เลี้ยงดูเรามาอย่างดี ตายไป 3 วัน เราเลิกเสียใจ เอาไปเผาก็จบ เก็บอัฏฐิไว้วัด
- เลิกกับกับแฟน หรือ คนที่รัก ที่ให้เราไม่ได้เท่าพ่อ แม่ บุพการี ไม่ได้เลี้ยงดูแลเรามาอย่างดี เวลาผ่านไป 10 ปี ก็ยังคงเสียใจและโหยหา
- นี่มันแปลกไหมครับ นี่ล่ะคน จะถือเอาความพอใจยินดีที่สำคัญมั่นหมายเอาไว้เป็นสรณะแห่งตนมากกว่าความถูกต้องของคำว่าคน

ลองถามใจตนเองดูนะครับว่าจะเดินไปทางไหน แล้วพึงเจริญปฏิบัติในสิ่งที่ถูกที่ควร หรือ คุณเห็นว่าดี ใช้สติสัมปชัญญะ คือ ความระลึกรู้ รู้ตัวพร้อม พิจารณา มากกว่าการใช้อารมณ์ความรู้สึกของตนเอง

[นิรตา ป้อมนาวิน]

  อนุโมทนา สาธุค่ะ