ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จำนวนเอหิภิกขุ ๑,๒๕๐ รูป ในวันมาฆบูชานั้น มีใครกันบ้าง  (อ่าน 2511 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
จำนวนเอหิภิกขุ ๑,๒๕๐ รูป ในวันมาฆบูชานั้น มีใครกันบ้าง


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ 
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔
มหาวรรค ภาค ๑


สองสหายอำลาอาจารย์
             [๗๐] ครั้งนั้น โมคคัลลานปริพาชกได้กล่าวชักชวนสารีบุตรปริพาชกว่า ผู้มีอายุ เรา
พากันไปสำนักพระผู้มีพระภาคเถิด เพราะพระผู้มีพระภาคนั้นเป็นพระศาสดาของเรา.

             สารีบุตรปริพาชกกล่าวว่า ผู้มีอายุ ปริพาชก ๒๕๐ คนนี้อาศัยเรา เห็นแก่เรา จึงอยู่ใน
สำนักนี้ เราจงบอกกล่าวพวกนั้นก่อน พวกนั้นจักทำตามที่เข้าใจ.


             ลำดับนั้น สารีบุตรโมคคัลลานะพากันเข้าไปหาปริพาชกเหล่านั้น ครั้นถึงแล้วได้กล่าว
คำนี้ต่อพวกปริพาชกนั้นว่า ท่านทั้งหลาย เราจะไปในสำนักพระผู้มีพระภาค เพราะพระผู้มีพระภาค
นั้นเป็นพระศาสดาของเรา.

             พวกปริพาชกตอบว่า พวกข้าพเจ้าอาศัยท่าน เห็นแก่ท่านจึงอยู่ในสำนักนี้ ถ้าท่าน
จักประพฤติพรหมจรรย์ในพระมหาสมณะ พวกข้าพเจ้าทั้งหมด ก็จักประพฤติพรหมจรรย์ใน
พระมหาสมณะด้วย.

             ต่อมา สารีบุตรโมคคัลลานะได้พากันเข้าไปหาท่านสญชัยปริพาชก ครั้นถึงแล้วได้เรียน
ว่า ท่านขอรับ พวกกระผมจะไปในสำนักพระผู้มีพระภาค เพราะพระผู้มีพระภาคนั้นเป็นพระ
ศาสดาของพวกกระผม

             สญชัยปริพาชกพูดห้ามว่า อย่าเลย ท่านทั้งหลาย อย่าไปเลย เราทั้งหมด ๓ คน
จักช่วยกันบริหารคณะนี้.


             แม้ครั้งที่ ๒ ...
             แม้ครั้งที่สาม สารีบุตรโมคคัลลานะได้กล่าวคำนี้ต่อสญชัยปริพาชกว่า ท่านขอรับ พวก
กระผมจะไปในสำนักพระผู้มีพระภาค เพราะพระผู้มีพระภาคนั้นเป็นพระศาสดาของพวกกระผม.

             สญชัยปริพาชกพูดห้ามว่า อย่าเลย ท่านทั้งหลาย อย่าไปเลย เราทั้งหมด ๓ คน
จักช่วยกันบริหารคณะนี้.

             ครั้งนั้น สารีบุตรโมคคัลลานะพาปริพาชก ๒๕๐ คนนั้น มุ่งไปทางที่จะไปพระวิหาร
เวฬุวัน. ก็โลหิตร้อนได้พุ่งออกจากปากสญชัยปริพาชกในที่นั้นเอง.


อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔  บรรทัดที่ ๑๓๖๐ - ๑๔๕๖.  หน้าที่  ๕๖ - ๖๐.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=1360&Z=1456&pagebreak=0



อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ปริพพาชกวรรค
ทีฆนขสูตร เรื่องทีฆนขปริพาชก

               
๔. อรรถกถาทีฆนขสูตร
ด้วยเหตุประมาณเท่านี้ ท่านพระสารีบุตรดุจบุคคลบริโภคอาหารที่เขาตักให้ผู้อื่นแล้ว บรรเทาความหิวลงได้ เมื่อส่งญาณไปในธรรมเทศนาที่ปรารภผู้อื่นจึงเจริญวิปัสสนา ได้บรรลุพระอรหัต แทงตลอดที่สุดแห่งสาวกบารมีญาณและปัญญา ๑๖ แล้วดำรงอยู่.


               ส่วนทีฆนขะได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้วดำรงอยู่ในสรณะทั้งหลาย.
               ฝ่ายพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อดวงอาทิตย์ยังปรากฏอยู่ ทรงจบเทศนานี้ แล้วเสด็จลงจากภูเขาคิชฌกูฏ เสด็จไปพระวิหารเวฬุวันได้ทรงประชุมพระสาวก ได้มีสันนิบาตประกอบด้วยองค์ ๔.

องค์ ๔ เหล่านี้ คือ

วันนั้นเป็นวันอุโบสถขึ้น ๑๕ ค่ำประกอบด้วยมาฆนักษัตร ๑
ภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป ประชุมกันตามธรรมดาของตนๆ ไม่มีใครนัดหมายมา ๑
ภิกษุเหล่านั้นไม่มีแม้สักรูปหนึ่งที่เป็นปุถุชน หรือพระโสดาบัน พระสกกาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ผู้สุกขวิปัสสก ภิกษุทั้งหมดเป็นผู้ได้อภิญญาหกทั้งนั้น ๑
มิได้ปลงผมด้วยมีดโกนบวชแม้แต่รูปเดียว ภิกษุทั้งหมดเป็นเอหิภิกขุ ๑.


ที่มา  http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=269


อรรถกถา ขุททกนิกาย พุทธวงศ์
๒๕. โคตมพุทธวงศ์


ต่อมาอีก ในการทรงแสดงราหุโลวาทสูตร ก็ทรงยังสัตว์เกินที่จะนับให้ดื่มน้ำอมฤตคืออภิสมัย.
               นี้เป็นอภิสมัยครั้งที่ ๓ ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
                         บัดนี้เราสั่งสอนราหุลลูกของเราในที่นี้นี่แล
                         อภิสมัยครั้งที่ ๓ ก็มีแก่สัตว์นับจำนวนไม่ได้.

               ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีสาวกสันนิบาตประชุมพระสาวกครั้งเดียวเท่านั้น คือ การประชุมพระอรหันต์สาวก ๑,๒๕๐ รูป เหล่านี้คือชฏิลสามพี่น้องมีพระอุรุเวลกัสสปเป็นต้น ๑,๐๐๐ รูป พระอัครสาวกทั้งสอง ๒๕๐ รูป.

               ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
                         เรามีสันนิบาตประชุมพระสาวกผู้แสวงหาคุณยิ่งใหญ่
                         เพียงครั้งเดียว คือการประชุมภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป.


ที่มา  http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.2&i=26&p=3
อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=33&A=8517&Z=8562



พรรษาที่ ๑
ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้กรุงพาราณสี



ภายหลังจากพระมหาบุรุษตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ แล้วพระองค์ทรงประทับเสวยวิมุตติสุข คือสุขอันเกิดแต่ความหลุดพ้นจากกิเลส อาสวะ และปวงทุกข์ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เป็นเวลา ๗ สัปดาห์

จากนั้นพระพุทธเจ้าเสด็จดำเนินจากโพธมณฑล ดำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ ไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้กรุงพาราณสี แคว้นกาสี ใช้เวลาเสด็จพุทธดำเนิน ๑๑ วัน เสด็จถึงป่าอิสิปตนฤคทายวันใน เวลาเย็นวันขึ้น ๑๔ ค่ำเดือน ๘ ปีระกา

- จำพรรษาที่อิสิปตนมฤคทายวัน โปรดปัญจวัคคีย์ สังฆรัตนะ เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก
- โปรดพระยสะ และสหาย ๕๕ คน


ออกพรรษา ให้สาวก ๖๐ รูป มีอำนาจบวชกุลบุตร ได้โดยวิธีให้รับไตรสรณคมน์
- โปรดภัททวัคคีย์ ๓๐ รูป
- โปรดชฎิลสามพี่น้อง บวชเป็นเอหิภิกขุ ๑,๐๐๐ รูป แสดงอาทิตตปริยายสูตรสำเร็จพระอรหันต์ทั้งหมด
- ไปราชคฤห์โปรดชาวเมืองและพระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบัน ถวายวัดเวฬุวันเป็นวัดแรก
- ให้สงฆ์สาวกรับอารามที่มีผู้ถวายได้
- พระอัญญาโกณฑัญญะบวชปุณณมันตานีบุตร ( ลูกน้องสาว ) บรรลุอรหันต์
- ได้ ๒ อัครสาวก อุปติสสะและโกลิตะ บวชบรรรลุเป็นพระอรหันต์
- บวชพระมหากัสสปะโดยรับโอวาท ๓ ข้อ


ที่มา   http://www.baanmaha.com/community/thread29145.html


เหตุการณ์เริ่มตรัสรู้และปีที่ 1

หลังจากนั้นพระองค์ทรงดำเนินมุ่งตรงไปยังตำบลอุรุเวลา ในสมัยนั้นตำบลอุรุเวลา เป็นตำบลที่ฤาษีต่างๆ มาแสวงหาโมกธรรมกันจำนวนมาก และเนื่องด้วยชฎิล 3 พี่น้องอยู่ในข่ายพระญาณของพระพุทธองค์ ชฎิล 3 พี่น้อง

ได้แก่ 1.อุรุเวลกัสสป 2.นทีกัสสป 3.คยากัสสป อุรุเวลกัสสป เป็นพี่คนโตมีลูกศิษย์ 500 คน มีอาศรมอยู่บนต้นน้ำ นทีกัสสปเป็นคนรองมีลูกศิษย์ 300 คน มีอาศรมถัดลงมา และคยากัสสปเป็นคนเล็กมีลูกศิษย์ 200 คนมีอาศรมถัดลงมา

พระพุทธองค์ทรงมุ่งตรงไปยัง อุรุเวลกัสสป ทรงแสดงฤทธิ์ให้ปรากฏแค่ อุรุเวลกัสสปอยู่พักหนึ่ง จนอุรุเวลกัสสปศรัทธาในพระพุทธเจ้า แล้วได้บวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาพร้อมทั้งลูกศิษย์ 500 คน ต่อมานทีกัสสปและคยากัสสปก็ได้ออกบวชตาม รวมทั้งหมด 1003 รูป และทั้งหมดก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ด้วย อาทิตตปริยายสูตร


ที่มา  http://www.vichadham.com/budda1.html




เรามาดูกันว่า จำนวนเอหิภิกขุ ๑,๒๕๐ รูป ที่มาประชุมกันในวันจาตุรงคสันนิบาตนั้น มีใครบ้าง

ในอรรถกถา ขุททกนิกาย  พุทธวงศ์ ระบุไว้ชัดเจนว่า

“การประชุมพระอรหันต์สาวก ๑,๒๕๐ รูป เหล่านี้ คือ ชฏิลสามพี่น้อง มีพระอุรุเวลกัสสป เป็นต้น ๑,๐๐๐  รูป พระอัครสาวกทั้งสอง ๒๕๐ รูป.”


ลองมานับกันดู ว่ามีใครบ้าง

ชฎิลสามพี่น้องประกอบด้วย
1.อุรุเวลกัสสป
2.นทีกัสสป
3.คยากัสสป
บริวารอีก ๑,๐๐๐ คน รวมแล้ว ๑,๐๐๓ คน

พระอัครสาวก คือ
พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ
บริวารอีก ๒๕๐ คน รวมเป็น ๒๕๒ คน

รวมทั้งหมด คือ ๑,๒๕๕ รูป ซึ่งไม่ตรงกับอรรถกถาที่ระบุว่า ๑,๒๕๐ รูปเท่านั้น
อันนี้เป็นความไม่ชัดเจนของพระไตรปิฎก เรื่องนี้ผมไม่ทราบรายละเอียดอื่นๆ
เพื่อนๆท่านใด มีข้อมูลที่ยิ่งกว่านี้ช่วยบอกด้วยครับ

ปัญหานี้ถ้าจะเดากันเล่นๆ ผมขอเดาว่า ในบรรดาบริวารของชฎิลสามพี่น้องและของพระอัครสาวก
ต้องมีใครไม่ได้ไปร่วมประชุม กล่าวคือ บริวารชฎิล ๓ คน บริวารพระอัครสาวก ๒ คน
เพื่อนๆเห็นด้วยกับผมรึเปล่า


ส่วนพระสาวกที่สำคัญ ที่ไม่ได้ไปร่วม ได้แก่
- ปัญจวัคคีย์
- พระยสะ สหายและบริวารรวม ๕๕ คน(สหายพระยสะ คือ วิมล  สุพาหุ ปุณณชิ และควัมปติ )
- ภัททวัคคีย์ ๓๐ รูป

มีเรื่องที่น่าสังเกต ในอรรถกถา ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ระบุว่า

                         "เรามีสันนิบาตประชุมพระสาวกผู้แสวงหาคุณยิ่งใหญ่
                         เพียงครั้งเดียว คือการประชุมภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป."


การตรัสของพระพุทธองค์ในครั้งนั้น อาจจะหมายถึง สมัยพุทธกาลมีวันจาตุรงคสันนิบาตเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

 ;) :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ