ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคำปรึกษา จากพยาบาล คนหนึ่งคะ  (อ่าน 3727 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

RATCHANEE

  • ผู้อุปถัมภ์
  • กำลังแหวกกระแส
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 100
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ขอคำปรึกษา จากพยาบาล คนหนึ่งคะ
« เมื่อ: มิถุนายน 06, 2011, 09:44:46 am »
0
เราทำงานเป็นพยาบาล ได้ไปทำโอทีที่รพ.หนึ่ง
รู้สึกหนักใจ และกำลังคิดไม่ออกว่าจะทำไงกับความรู้สึกนี้ดี เรื่องมีอยู่ว่า

มี คนไข้ที่อาการหนัก แต่แพทย์กลับไม่สนใจแก้ไข ปล่อยจนแย่ กว่าจะมาแก้ก็สาย สุดท้าย เคสนี้เสียชีวิต ในเวรเรา รู้สึกแย่มาก ทำไรไม่ได้เลย เราอยากให้คนไข้ย้าย รพ. มาก แต่ญาติไม่ยอมไป หมอก็มาอธิบาย แต่เราฟังแล้ว หมอก็ไม่อธิบายให้มันแรงๆไปเลยว่า เสี่ยงขนาดไหนถ้าไม่ย้าย สุดท้ายตามใจคนไข้กับญาิติ เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่อะ ทำไมคุณไม่พยายามชี้ให้เห็นว่ามันสำคัญและเสี่ยงมากจริงๆ สุดท้ายพอคนไข้ตาย ไม่มีีปัยหา ญาติเค้ารับได้ แต่ว่า มันติดในใจเรามาก

ต่อมา ญาติของคนที่เสีย มารพ.นี้ด้วยอาการที่ไม่ค่อยดี หลายระบบ เราเจออีกแล้ว เรารีบพยายามแจ้งญาติคนไข้ว่า ย้ายเถอะ เพราะว่า อาการที่เป็นมันแย่นะ รพ.นี้ เครื่องมือไม่พร้อม ไปรพ.ใหญ่กว่านี้ดีกว่า สุดท้ายคนไข้ยอมย้าย พอหมอมา เค้าก็เขียนใบย้ายให้ แต่เค้าไม่รู้หรอกว่าเราเป็นคนบอกเค้านึกว่า หมออีกท่านเป็นคนคุย แถมเค้ายังบอกว่า เนี่ยคุยยังไง คนไข้หนีเลย ... เรารู้สึกแย่มาก เพราะอาการที่คนไข้เป็นมันต้องใช้เครื่องมือต่างๆในการวินิจฉัย จะเก็บคนไข้ไว้ทำไม รู้สึกแย่อีกรอบ ...

จาก 2 กรณีที่กล่าวมา ( จริงๆเจอหลายที ) ทำให้รู้สึกว่า เราจะทำโอทีที่นี้ต่อดีมั้ย เรารู้สึกว่า เราทำบาป ที่ปล่อยให้คนไข้แย่ ทั้งที่รู้ว่ารักษาได้ มันผิดตามวิชาชีพ แต่เราไม่มีอำนาจในการรักษา เราทำได้แค่ดูแล บทบาทการรักษาคือหมอ แต่บางคนก็บอกว่า ไม่บาป ไม่ผิดหรอก เพราะเราทำตามหน้าที่เราแล้ว ในบทบาทที่รพ.นี้กำหนด ( คือ ห้ามไปยุ่งหรือให้ข้อมูลอะไรที่ก้าวก่ายหมอเค้า ) แค่ทำตามหน้าที่แล้วก็คิดว่ามาหาเงินพอ .... แต่ตอนเนี่ย สับสนอะ จริงๆแล้ว มันเหมือนคนที่รู้ว่า ควรช่วยยังไง ทำยังไง แต่ไม่ช่วยไม่ทำหรือเปล่า กำลังคิดจะลาออก เหมือนจะทนความรู้สึกนี้ไม่ได้จริงๆ แต่ชีวิตก็ต้องใช้เงิน ... คิดไม่ออกจริงๆ สรุป เราผิดมั้ยเนี่ย ถ้าต้องทำตัวตามสังคมที่นั้น เฮ้อ...

เขียนมายาวมาก รบกวนท่านทั้งหลาย ออกความคิดเห็น เพื่อให้ได้แง่คิดด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

จากคุณ : คนธรรมดาคนหนึ่ง
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28362
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอคำปรึกษา จากพยาบาล คนหนึ่งคะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2011, 11:58:52 am »
0
คุณพยาบาลครับ รู้สึกเห็นใจ แต่ผมเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่อาจเข้าใจความรู้สึกลึกๆของคุณได้

ผมต้องขอออกตัวอย่างนี้ก่อน เนื่องจากระดับความเข้าใจในธรรมของแต่ละท่าน อาจไม่เท่ากัน

ธรรมะในใจของคุณรัชนี มันแย้งกับพฤติกรรมทางโลก โดยเฉพาะในเชิงธุรกิจ

เบื้องต้นขอให้คำนึงถึงปากท้องของคุณรัชนีเองก่อน อย่าได้ออกจากงานเลย

ทุกคนที่เกิดมา ต้องประกอบสัมมาอาชีพ และถูกกำหนดให้มีบทบาทที่ต่างกันไป

ขอให้คุณรัชนีภูมิใจในตัวเองได้เลย คุณทำดีที่สุดแล้วครับ



การกระทำของคนอื่นๆ อย่าได้ใส่ใจให้มากนัก เราไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้ และเราก็ไม่มีหน้าที่ไปเปลี่ยนใคร

การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องเฉพาะตัว ต้องดูกายและใจของตัวเองเท่านั้น หากขืนส่งจิตไปยุ่งกับคนอื่น

ทุกข์จะเพิ่มเป็นสองเท่า แค่กายใจของตัวเอง คิดดูซิว่า เราต้องดูแลมันขนาดไหน สิ่งที่ได้รับ เป็นสุขหรือทุกข์กันแน่



ขอให้พิจารณาพรหมวิหาร ๔ ว่า มี เมตตา กรุณา แล้ว ทำไมต้องมีอุเบกขาด้วย

พระพุทธเจ้า บอกให้รัก บอกให้สงสาร แต่สุดท้ายก็บอกว่า ให้วางเฉย

เรื่องอุเบกขานี้ เมื่อก่อนผมไม่เคยสงสัย และไม่ใส่ใจ คิดว่าตัวเอง มีความเข้าใจธรรมข้อนี้

แต่พอมาศึกษาเรื่องกรรม ก็พบว่า ทุกสิ่งล้วนเกิดแต่เหตุ มีเหตุมันถึงเกิด หมดเหตุผลก็ดับ

ผมเคยสงสัยว่า ทำไมพระพุทธเจ้าช่วย องคุลีมาร แต่ไม่ช่วยพระเทวทัต

หากพระพุทธเจ้าไม่ช่วยองคุลีมาร องคุลีมารจะลงไปอยู่นรกอเวจี เช่นเดียวกับพระเทวทัต

พระพุทธเจ้า เลือกที่จะใช้อุเบกขากับพระเทวทัต แต่ใช้เมตตากับองคุลีมาร

เรื่องนี้เข้ายากครับ เป็นเรื่องอจินไตย คือเป็น "พุทธวิสัย" ที่ไม่มีใครหยั่งรู้หรือเข้าใจได้



กลับมาที่เคสของคุณรัชนี คุณรัชนีต้องทำใจว่า คนเราสร้างบารมีมาต่างกัน

ทุกคนล้วนมีกรรมเ้ป็นของตนเอง มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

เราไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยใครได้ ก็ควรต้องปล่อยวาง

พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ก่อนปรินิพพานว่า "แม้ตถาคตก็เป็นเพียงผู้บอกทาง"

นั่นหมายความว่า พระพุทธองค์เอง ก็ไม่สามารถช่วยให้ทุกคนไปนิพพานได้


บารมีสูงส่งอย่างพระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้เลย แล้วเราล่ะ บารมีมีแค่ไหน

 :welcome: ;) :49: :s_good: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2011, 12:04:02 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ทินกร

  • ถวายชีวิตเพื่อพุทธศาสน์
  • ผู้บริหารเว็บ
  • มีเหตุมีผล
  • *
  • ผลบุญ: +17/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 365
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ขอคำปรึกษา จากพยาบาล คนหนึ่งคะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2011, 04:17:21 pm »
0
เราทำงานเป็นพยาบาล ได้ไปทำโอทีที่รพ.หนึ่ง
รู้สึกหนักใจ และกำลังคิดไม่ออกว่าจะทำไงกับความรู้สึกนี้ดี เรื่องมีอยู่ว่า

มี คนไข้ที่อาการหนัก แต่แพทย์กลับไม่สนใจแก้ไข ปล่อยจนแย่ กว่าจะมาแก้ก็สาย สุดท้าย เคสนี้เสียชีวิต ในเวรเรา รู้สึกแย่มาก ทำไรไม่ได้เลย เราอยากให้คนไข้ย้าย รพ. มาก แต่ญาติไม่ยอมไป หมอก็มาอธิบาย แต่เราฟังแล้ว หมอก็ไม่อธิบายให้มันแรงๆไปเลยว่า เสี่ยงขนาดไหนถ้าไม่ย้าย สุดท้ายตามใจคนไข้กับญาิติ เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่อะ ทำไมคุณไม่พยายามชี้ให้เห็นว่ามันสำคัญและเสี่ยงมากจริงๆ สุดท้ายพอคนไข้ตาย ไม่มีีปัยหา ญาติเค้ารับได้ แต่ว่า มันติดในใจเรามาก

ต่อมา ญาติของคนที่เสีย มารพ.นี้ด้วยอาการที่ไม่ค่อยดี หลายระบบ เราเจออีกแล้ว เรารีบพยายามแจ้งญาติคนไข้ว่า ย้ายเถอะ เพราะว่า อาการที่เป็นมันแย่นะ รพ.นี้ เครื่องมือไม่พร้อม ไปรพ.ใหญ่กว่านี้ดีกว่า สุดท้ายคนไข้ยอมย้าย พอหมอมา เค้าก็เขียนใบย้ายให้ แต่เค้าไม่รู้หรอกว่าเราเป็นคนบอกเค้านึกว่า หมออีกท่านเป็นคนคุย แถมเค้ายังบอกว่า เนี่ยคุยยังไง คนไข้หนีเลย ... เรารู้สึกแย่มาก เพราะอาการที่คนไข้เป็นมันต้องใช้เครื่องมือต่างๆในการวินิจฉัย จะเก็บคนไข้ไว้ทำไม รู้สึกแย่อีกรอบ ...

จาก 2 กรณีที่กล่าวมา ( จริงๆเจอหลายที ) ทำให้รู้สึกว่า เราจะทำโอทีที่นี้ต่อดีมั้ย เรารู้สึกว่า เราทำบาป ที่ปล่อยให้คนไข้แย่ ทั้งที่รู้ว่ารักษาได้ มันผิดตามวิชาชีพ แต่เราไม่มีอำนาจในการรักษา เราทำได้แค่ดูแล บทบาทการรักษาคือหมอ แต่บางคนก็บอกว่า ไม่บาป ไม่ผิดหรอก เพราะเราทำตามหน้าที่เราแล้ว ในบทบาทที่รพ.นี้กำหนด ( คือ ห้ามไปยุ่งหรือให้ข้อมูลอะไรที่ก้าวก่ายหมอเค้า ) แค่ทำตามหน้าที่แล้วก็คิดว่ามาหาเงินพอ .... แต่ตอนเนี่ย สับสนอะ จริงๆแล้ว มันเหมือนคนที่รู้ว่า ควรช่วยยังไง ทำยังไง แต่ไม่ช่วยไม่ทำหรือเปล่า กำลังคิดจะลาออก เหมือนจะทนความรู้สึกนี้ไม่ได้จริงๆ แต่ชีวิตก็ต้องใช้เงิน ... คิดไม่ออกจริงๆ สรุป เราผิดมั้ยเนี่ย ถ้าต้องทำตัวตามสังคมที่นั้น เฮ้อ...

เขียนมายาวมาก รบกวนท่านทั้งหลาย ออกความคิดเห็น เพื่อให้ได้แง่คิดด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

จากคุณ : คนธรรมดาคนหนึ่ง

รู้สึกว่าจะ copy มาจากบทความอีกทีนึงหรือป่าวครับเพราะเห็นมี
อ้างถึง
จากคุณ : คนธรรมดาคนหนึ่ง
บันทึกการเข้า
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

www.madchima.org
http://saraburisat.ps-satcom.com รับติดตั้งจานดาวเทียมครับ
http://www.yutyaplaza.com ลงประกาศฟรี ของชาวอยุธยา

ทินกร

  • ถวายชีวิตเพื่อพุทธศาสน์
  • ผู้บริหารเว็บ
  • มีเหตุมีผล
  • *
  • ผลบุญ: +17/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 365
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ขอคำปรึกษา จากพยาบาล คนหนึ่งคะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2011, 04:49:05 pm »
0
ขอออกตัวก่อนนะครับ ที่ถามเพราะ จะเข้าใจว่าเป็นตัวคุณ ratchanee  หรืออาจจะใช่ก็ได้ครับ
เลยถามก่อนว่า บทความนี้ นำมาเพื่อให้เพื่อนๆ ได้พิจารณา เท่านั้น โดยมิได้หมายถึงตัวเจ้าของนะครับ
ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ
บันทึกการเข้า
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

www.madchima.org
http://saraburisat.ps-satcom.com รับติดตั้งจานดาวเทียมครับ
http://www.yutyaplaza.com ลงประกาศฟรี ของชาวอยุธยา

sakda

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 98
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ขอคำปรึกษา จากพยาบาล คนหนึ่งคะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2011, 05:58:33 pm »
0


ใช่หรือไม่ใช่ ก็เป็นไร หรอกครับ เราชาวธรรม ช่วยกันแสดงความเห็นเป็นทางออกก็ดีครับ
ถือว่าเป็นโจทก์การบ้าน ของกัลยาณมิตร ซึ่งอาจจะจริง หรือไม่จริง เพียงแต่สอบถามมา
เราก็ช่วยกันตอบ ตามน้ำใจกัลยาณมิตร ครับ

สำหรับเรื่องนี้ ก็ขอให้คุณพยาบาล จขกท.
ได้โปรดตัดสินใจให้รอบคอบ ครับ บางครั้งเส้นทางอาชีพก็ไม่ได้โรยด้วย กุหลาบ หรือ อุดมการณ์ นะครับ
หลายครั้งที่สังคมเรา ต้องเป็นไปตามกระแสโลก จนลืมความถูกต้อง ก็เหมือนกฏหมายที่ออกมาให้งดความ
ช่วยเหลือคนป่วยที่ใกล้ตาย นั่นแหละครับ

หากเราทำความดี ด้วยการพูดดี คิดดี ก็ใช่ว่าสังคมจะตอบรับความหวังดี ที่เราทำครับ

ที่สำคัญต้องหาที่ปรึกษาครับ อาจจะมีทางออกที่ดีได้

แต่เมื่อเราทำจนสุดความสามารถแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฏแห่งกรรมครับ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า