ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ใช้ ธรรม คือ ความอดทน เป็นเครื่องดำรงชีวิต คร้า...  (อ่าน 2227 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ใครจะซวย ซ้ำ ซวย ซ้อน อีก กว่านี้ มีอีกไหม ?

  น้ำท่วม อยุธยา ที่บ้าน ก็ปลอบใจ ว่า เรายังมีอาชีพอยู่ มีบ้านนอน รับ พี่น้อง มาพักก่อนชั่วคราว

  จากนั้นมา น้ำท่วม ที่บ้านพัก หนีเสือ มา ปะจรเข้ ปลอบใจ ว่า อดทน นะ เพราะยังมีงานทำ

  ต่อมา น้ำบุกที่ทำงาน ปิดไม่มีกำหนด ...... รายได้ หาย จ้อย ต้อง อพยพ มาอยู่ ศุนย์

  ฝากท้อง ชีวิต กับ เพื่อน ๆ ที่ใจบุญ

   คนเราล้ม แล้ว ต้องลุก อย่า เครียด  เครียดแล้ว เป็น ทุกข์ หายใจเข้าออก เป็น พุทโธ กันเถิด

   ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมากมาย

   มาบ่น และให้กำลังใจ ทุกท่าน คร้า.....

บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28420
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ใช้ ธรรม คือ ความอดทน เป็นเครื่องดำรงชีวิต คร้า...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2011, 06:46:02 pm »
0

หมวยนีย์ครับ บ้านผมก็อยู่อยุธยา อยู่ติดแม่น้ำน้อย น้ำก็ท่วมทุกปี แต่เค้าไม่เรียกว่า "น้ำท่วม"
 ชาวบ้านที่มีชีวิตอยู่กับน้ำ เีรียกว่า ฤดูน้ำหลาก เมื่อมีน้ำหลากมา เป็นสัญญานว่า ได้เวลาสนุกแล้ว
 ในวัยเด็ก ผมสนุกกับน้ำมาก เมื่อน้ำมามากจะรู้ทันทีว่า ใกล้ลอยกระทงแล้ว

 ช่วงเวลานั้น ไม่รู้สึกว่ามีความทุกข์ มีแต่ความสนุก บ้านที่อยู่ใกล้แม่น้ำทั้งหมดจะสูงมาก(ใต้ถุนสูง)
 จึงไม่มีใครกังวลว่า จะไม่มีที่อยู่ บางบ้านก็เป็นเรือนแพ

 ตอนน้ำหลากเวลาอาบน้ำสนุกมากครับ ผมกระโจนพุ่งหลาวจากชั้นสอง เล่นน้ำอย่างสบายใจ
 ผมว่ายน้ำเป็น ก็เพราะฤดูน้ำหลากนี่แหละ พี่ชายจับผมโยนลงน้ำ ตามคำสั่งพ่อ ผมร้องไห้ แต่ก็ไม่จม
 กระเสือกกระสนจนว่ายน้ำเป็น ดูเหมือนว่าพี่ชายผมทั้งสองคนก็เคยถูกพ่อจับโยนน้ำมาแล้ว
 เรื่องนี้ห้ามทำตามนะครับ ขอสงวนเอาไว้เฉพาะครอบครัวผมเท่านั้น

 เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆนั้น สมัยนั้นไม่มีส้วมหรอกครับ เวลาจะถ่ายหนักเบาก็ถ่ายลงน้ำไป สะดวกมากๆ
 จริงๆแล้วแม้ฤดูแล้ง ก็ยังไม่มีส้วมอยู่ดี คนจะเข้าป่าไปถ่ายกัน

 
เรื่องน้ำดื่ม สมัยนั้นจะใช้สารส้มกวนในน้ำ น้ำที่ได้จากการกวนสารส้มจะใช้ดื่มและหุงข้าว
 ส่วนอาหารการกิน คนอยุธยาเป็นชาวนาอยู่แล้ว ในน้ำก็มีปลา ก็ตกปลาจากบนบ้านนั่นแหละครับ
 เรื่องไฟฟ้าก็จากตะเกียงไง ไม่เห็นต้องง้อ การไฟฟ้าการประปาให้ยุ่งยาก

 ส่วนสิ่งบันเทิง นอกจากเทศกาลลอยกระทง ก็จะมีหนังกลางแปลง เชื่อไหม ตั้งจอกันในน้ำเลย
 คนดูก็พายเรือไปดู เหมือนปัจจุบันที่ขับรถไปจอดหน้าจอหนังนั่นแหละ


การคุยของผมคงเป็นเพื่อนคลายทุกข์ได้บ้างนะครับ
 หมวยนีย์ครับ พี่สาวผมอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี(สนง.ใหญ่) ที่นั่นเป็นศูนย์อพยพ
 พี่ผมเป็นข้าราชการกระทรวงนี้ ดูแลผู้อพยพอยู่ หมวยนีย์ขาดเหลืออะไร ก็แจ้งมาได้ไม่ต้องเกรงใจ
 คนอยุธยาด้วยกัน อย่าได้เกรงใจ อยากช่วยจริงๆ เคยได้ยินสำนวนคำนี้ไหมครับ


    "กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี"

 :welcome: :49: :25: ;)


บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ