ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้สึก กังวลกับชีวิตคะ คิดแล้วก็หดหู่ ควรทำอย่างไรดี  (อ่าน 8779 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

catwoman

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 88
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยู่ตัวคนเดียว รู้สึกเงียบเหงา มากคะ บางครั้งรู้สึกเป็นทุกข์มากคะ กลุ้มใจไม่รู้จะปรึกษาใครคะ จนบางครั้งรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง หรือ มีความรู้สึกอัดแน่นที่น่าอก รู้สึกคะว่ากังวลกับชีวิตมากคะ บางครั้งกังวลจนนอนไม่หลับ เพราะรู้สึกว่า เราอยู่ตัวคนเดียว ตอนนี้มีแรงทำงาน ตอนเจ็บไข้ได้ป่วยก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวคะ และความกลัวต่าง ๆ นานา ประการคะ ยิ่งด้วยการเลี้ยงชีวิต ก็กลัวจะตกงาน คะ มีแนวโน้มว่าจะตกงาน ด้วยคะ... ยิ่งกังวลไปกันใหญ่เลย รู้สึกกังวลมาก ๆ เครียด อยากระบาย แต่ก็รู้ว่าไม่มีใครช่วยเราได้ นอกเสียจากตัวเอง

   เหมือนเป็นคนมีกรรม เลยคะ....
 
  ขอบคุณทุกท่านที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้ คะ....

   :c017: :03:
บันทึกการเข้า

intro

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 77
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
หลากหลายชีวิต มีรูปแบบต่างกันไป ตามบุพพกรรมที่สร้างมาไว้ ใครสร้างกรรมไว้ดี ก็มีปัญหาน้อย ใครสร้างกรรมไม่ดีก็มีปัญหามาก ไม่มีชีิวิตใด ราบรื่นหมดจด ทุกคนต้องฟันผ่า  มรสุมแห่งชีวิตที่เรียกว่า วัฏฏจักร วังวนแห่งการเวียนว่ายตายเกิด กันอยู่อย่างนี้ ตราบเท่าไม่รู้จักพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็ต้องเวียนว่ายกันอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ไปตราบนานเท่านาน

   คนมีสติ มีกำลังปัญญา จึงรู้แจ้งชัดว่า กรรม ก็เป็นเหตุให้เวียนว่ายตายเกิด ด้วยเช่นกัน แม้วิบาก ก็เป็นเหตุด้วยเช่นกัน กิเลส ก็เป็นเหตุให้ เวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนี้

   การมีชีวิตคนเดียว ไม่มีใครเป็นที่พึ่ง... แม้มวลหมู่พี่น้อง นับว่าเป็นเรื่องลำบาก ผมเจอมาหลายคนอยากจะบอกว่า มีชีิวิตก็ใช้ชีวิตนี้ให้มีค่า มีคุณ

   ผมมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นคนมาจากฐานะยากจน แต่ก็สุ้ชีวิตมามีฐานะในระดับกลาง เธอเป็นครูที่ดีคนหนึ่งในสายตาผม เธอเป็นเด็กในเมือง ที่มีเพียง พ่อ แม่ เป็นญาติ ครั้นพอสิ้นพ่อแม่ เธอไปแล้วเธอ ก็ทุ่มเทชีวิตให้กับการสอนและมอบทุนให้เด็กทุกปี

   มีวันหนึ่งผมได้ไปเป็นแขกที่บ้านเธอ ได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำมื้อนั้นแล้ว รู้สึกได้ถึงความเป็นผู้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยบทบาทของคนที่ประหยัด เธอมีกับข้าวสองสามอย่างที่รับแขก ซึ่งผมเองก็ได้แซวเธอในฐานะเพื่อนว่า จะเก็บเงินไว้ให้ใคร ครับ.... เงินเดือนก็ต้องเยอะแล้ว ลูกหลานก็ไม่มี ทานอาหารดี ๆ เสียบ้างสิครับ

   ผมได้รับคำตอบว่า .... ทานอย่างนี้แล้ว เหมือนนั่งทานกับ พ่อแม่อยู่ และ รู้สึกว่าพ่อแม่ ก็ยังอยู่ด้วย

   ผมฟังแล้วก็อึ้ง แต่รู้สึกตีืนตันใจเมื่อได้ยิน......

   และเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง เธอก้ได้จากเราไปด้วยโรคประจำตัว พร้อมกับทุนทรัพย์ที่เก็บไว้ ด้วยคำสั่งว่า ขอมอบเป้นทุนให้กับนักเรียน ที่ดี ต่อไป

   ผมก็ไม่ทราบว่า การบริหารเงินสินทรัพย์ ซึ่งไม่มีญาติ นั้นเป็นอย่างไร แต่ที่ผมจะกล่าวก้คือ

   บางครั้งการที่เราอยู่ในโลก สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะมั่งมี หรือ ยากจน เราต้องมีอุดมการณ์ เพระาอุดมการณ์ เป็นเครื่องสนับสนุนและกำลังใจให้เรามีชีิวิตอยู่ได้ในโลกอัน หฤโหด ที่เต็มไปด้วย ทุกข์ นี้ ครับ

   คุยเป็นเพื่อน แต่เพียงเท่านี้นะครับ

    :58: :88: :49:
บันทึกการเข้า

ส้ม

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 184
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สู้ คะ อย่ายอมแพ้ นะคะ ถึงแม้จะเงียบเหงาไปบ้าง อย่างน้อยชาวธรรมก้เป็นเหมือนญาต นะคะ

มีอะไร ก็ลองประกาศบอกดูก็ได้คะ เผื่่อใครจะช่วยแบ่งเบาได้นะคะ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า
เส้นทางแสนเปรี้ยว จะมีสุขจริงบ้างหรือไม่ ?

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อาจจะว้าเหว่ บางคะ แต่ถ้าเราศึกษาหลักธรรม ก็คือ ศึกษาหลักของชีวิต ก็น่าจะทำให้เข้าใจได้มากขึ้นนะคะ ในโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ มีแต่ เรื่องของกรรมคะ กรรมดีที่สร้างไว้จะมาก่อน หรือ กรรมชั่วที่สร้างไว้จะมาก่อน ก็ขอให้อดทนไว้นะคะ ถ้าเหงามาก ๆ ก็มาร่วม join กับ แก็งค์ อ๊๊บ อ๊บ ก็ได้นะคะ เรามีงานอาสาพาเหนื่อย ประจำคะ


    :s_hi: :49:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อยู่ตัวคนเดียว รู้สึกเงียบเหงา เป็นทุกข์ กังวลกับชีวิต เครียด คะ



ผมอยากบอกคุณ "catwoman" ว่า คนเราสุขทุกข์ล้วนปัตจัตตัง เฉพาะตนเพียงตนที่รู้ นั่นก็คือ เรามี เราเป็น สมมติแต่งปรุงด้วยบุญกรรม แต่เนื้อแท้แก่นธรรมเราทุกคนตัวคนเดียวทั้งนั้น

     "เสียงเพรียกอุบัติเกิด      เขาชมเชิดสเน่หา
พอแก่ครางเยียวยา      ชีพก็เคว้งเดี่ยวเดียวดาย."


ผมเองนั้นก็ตัวคนเดียว น้องๆแยกย้ายมีเรือนกันไปหมด อยู่ทุกวันนี้มีเพียงพ่อแม่เป็นหลักชัยในชีวิตที่ยังขวนขวายเหน็ดเหนื่อยอยู่อย่างทรนง ไร้คู่ ไร้หวังแล ไร้คนใส่ใจเคียงข้าง ก็ขออยู่เพียรศึกษาภาวนาเอาเป็นสมบัติติดตัวเมื่อตาย ครับ!

     "อย่าเขลาลำพังสู้     อย่าหดหู่ทานศีลหา
เหงาเศร้าภาวนา     ไม่เปลี่ยวเปล่าเครียดคลายวาง."




http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=12599.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2012, 03:07:38 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ไม่ต้องกังวลครับ คนที่อยู่โดดเดี่ยว จริง ๆ แล้วยังมีอีกมากมาย ครับ
แ่ต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความโดดเดี่ยวครับ แต่อยู่ เราจะมีชีวิตอยู่อย่างไรโดยที่มีความทุกข์น้อยที่สุดครับ

  ก็คงต้อง พิจารณาบท อภิณหปัจจเวกขณ์ 5 ให้มากขึ้นหน่อยครับ
  เริ่มตั้งแต่ เตือนจิตสะกิดใจ จนกระทั่งเข้าใจ เห็นตามและ รู้แจ้งครับ

  อันคนเรา เกิดมา มาแต่ตัว เพิ่งมามัว เมามาย เอาหลายสิ่ง
ยามเราตาย เอาอะไร ไม่ไหวติง นอนแน่นิ่ง ทิ้งตัวกู (เรา ) อยู่ในโลง


    :s_hi: :s_hi: :s_hi:
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อันคนเรา เกิดมา มาแต่ตัว เพิ่งมามัว เมามาย เอาหลายสิ่ง ยามเราตาย เอาอะไร ไม่ไหวติง นอนแน่นิ่ง ทิ้งตัวกู (เรา ) อยู่ในโลง





http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1939387
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2012, 02:23:42 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การยอมรับความจริง ครับ บางครั้ง ความจริงอาจจะขมขื่น มาก ๆ
แต่ความจริง ก็คือกฏ แห่งกรรม ตามบารมีที่เราสร้างไว้ ครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ  ควรต้องหมั่นภาวนากันบ้างครับ

 :25:
บันทึกการเข้า

inlove

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 51
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
บางครั้ง ก็ต้องมีคนช่วยเหลือ คะ เป็นไปตามวัย และ สังขารคะ
ไม่มีใครบอกได้หรอกคะ ว่า เมื่อชรา จะมีใครมาดูแล เราได้


ดูแลเด็กง่าย กว่าดูแลคนชรา คะ โดยส่วนตัวนะคะ เพราะเด็กนั้นมีพัฒนาการ ๆ รับรู้ คะ

 
ดูแลคนชรา เป็นเรื่องยากมากคะ เพราะตัวใหญ่ และร่างกายเปราะบาง และสมองไม่มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นมีแต่ลืมไวมากขึ้น คะ

ดังนั้น เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจกันได้ง่าย ๆ นะคะ กับชีวิตที่ต้องเหนื่อยแล้ว เหนื่อยอีก หรืออยู่ตัวคนเดียว ไม่ต้องไปพะวงมากคะ ให้ใช้ชีิวิตอย่างที่เป็นทุกวันนั่นแหละคะ จะเข้าใจคำตอบเองว่าควรทำอย่างไร ดังนั้นสิ่งสำคัญ เก็บออม หยอดไว้ ยามฉุกเฉิน นะคะ

  คุยพอให้สบายใจคะ เข้าใจคะ ว่า การอยู่คนเดียว นั่นก็มีความทุกข์ เช่นกันคะ
  แต่การอยู่เป็น คู่ ก็มีทุกข์เช่นเดียวกัน เหมือนกันคะ
 
   :49:
 
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
- สภาพนี้เขาเรียกว่าฟุ้งซ่านไป เพราะคุณไม่มีสติระลึกรู้ปัจจุบันอยู่กับตนใช่ไหมครับ
- เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะอะไรจึงทำให้คุณเป็นแบบนั้น


ตอบ

- เพราะคุณมีการคิดปรุงแต่งสร้างเรื่องราวสมมติบัญญัติไปต่างๆนาๆ สภาพจิตเลื่อนลอยปรุงเข้ากับความคิดนานานับประการ คิดจับเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปรุงระคนกันไปหมด จนคุณฟุ้งซ่านแล้วเสวยอารมณ์ความรู้สึกเป็นทุกข์ ทรมานไปทั้งกายและใจ
- คำว่ากรรมนั้น แปลว่า การกระทำโดยเจตนาในปัจุบันนี้แหละครับ มันไม่มีกรรมเก่า มีแต่สิ่งที่คุณกระทำในปัจุบันนี้แหละครับส่งผลให้คุณเป็นอยู่แบบนี้


ทางแก้ไข

1. ทำสมาธิวันละ 20-30 นาที พิจารณาลมหายใจเข้าออก กำหนดพุทธ-โธ พยายามระลึกถึงเรื่องที่มีความสุข จนเข้าสู้สภาวะที่จิตนิ่งสงบ อบอุ่น เบาบาง แต่ผ่องใส ไม่ขุ่นข้องใจ จะช่วยให้คุณลดความฟุ้งซ่านไป ลดขยะในสมอง(นั้นคือลบความคิดทั้งหลายที่ไม่จำเป็นออกจากใจ) และ คุณจะเริ่มมีสติคิดหาทางออกที่ดีได้
2. บางครั้ง เรื่องอะไรที่ยังไม่เกิดขึ้น ก็ไม่ควรเอามาคิดฟุ้งซ่านไปซะจนคุณไม่เป็นอันทำการทำงาน ไม่เป็นอันกินอันนอน เพราะยิ่งคิดมากก้อยิ่งฟุ้งมาก พยายามอยู่กับปัจจุบันมีสติระลึกรู้ตัว ไม่ติดหลงไปกับความคิด
3. หากคุณคิดว่าต้องออกจากงานแน่นอนคุณลองเข้าเวบสมัครงาน แล้วลองประกาศหางานทำดูครับ มีเยอะแยะหลายที่ที่รับสมัคร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 15, 2012, 11:25:29 am โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 
  ลองหาวิหารธรรม ให้ตัวเองนะครับ เช่น สวดคาถา สวดบทพุทธคุณ ต้องสวดบ่อยๆ เท่าำที่จะทำได้
  วิหารธรรมนี้ จะช่วยให้มีสติและสมาธิเพิ่มขึ้น นิวรณ์ต่างๆจะครอบงำได้ยาก
  ความหดหู่ กระวนกระวาย ฟุ้งซ่าน เกิดจากจิตที่ไร้ที่พึ่ง


  ขอให้ระลึกถึงบทไตรสรณคมน์เข้าไว้
      พุทธัง สาระณัง คัจฉามิ
      ธัมมัง สาระณัง คัจฉามิ
      สังฆัง สาระณัง คัจฉามิ
      ทุติยัมปิ พุทธัง สาระณัง คัจฉามิ
      ทุติยัมปิ ธัมมัง สาระณัง คัจฉามิ
      ทุติยัมปิ สังฆัง สาระณัง คัจฉามิ
      ตติยัมปิ พุทธัง สาระณัง คัจฉามิ
      ตติยัมปิ ธัมมัง สาระณัง คัจฉามิ
      ตติยัมปิ สังฆัง สาระณัง คัจฉามิ


      หากคุณไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว ต้องยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ัง
      หากกิจกรรมที่เนื่องด้วยกุศลทำ ทำสังฆทาน ไปไหว้สิ่งศักด์สิทธิ์
      หากิจกรรมทางโลกทำบู้าง เช่น งานอดิเรก ดูหนัง ฟังเพลง  เที่ยวพักผ่อน ฯลฯ


      อดีตก็ล่วงไปแล้ว
      อนาคตก็ยังมาไม่ถึง
      วันๆล่วงไป บัดนี้เราทำอะไรอยู่
      ขอให้ทำปัุจจุบันให้ดีที่สุด ทำกุศลให้เกิดแก่ใจให้มากที่สุด

       :welcome: :49: :25: :s_good:   




หากคุณกำลังคิดว่า "คุณเป็นคนโชคร้าย" หรือมีทุกข์ ลองมาดูภาพนี้

ถ้าคุณคิดว่างานของคุณหนักหนาสาหัส แล้วเด็กคนนี้ล่ะ....


ถ้าคุณคิดว่าสังคมที่คุณอยู่ไม่ยุติธรรม....แล้วคุณยายคนนี้ล่ะครับ...


     ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ กระทู้
     "หากคุณกำลังคิดว่าคุณเป็นคนโชคร้าย ...ลองดูภาพนี้"
     http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6647.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 11:52:45 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 
  ลองหาวิหารธรรม ให้ตัวเองนะครับ เช่น สวดคาถา สวดบทพุทธคุณ ต้องสวดบ่อยๆ เท่าำที่จะทำได้
  วิหารธรรมนี้ จะช่วยให้มีสติและสมาธิเพิ่มขึ้น นิวรณ์ต่างๆจะครอบงำได้ยาก
  ความหดหู่ กระวนกระวาย ฟุ้งซ่าน เกิดจากจิตที่ไร้ที่พึ่ง


  ขอให้ระลึกถึงบทไตรสรณคมน์เข้าไว้
      พุทธัง สาระณัง คัจฉามิ
      ธัมมัง สาระณัง คัจฉามิ
      สังฆัง สาระณัง คัจฉามิ
      ทุติยัมปิ พุทธัง สาระณัง คัจฉามิ
      ทุติยัมปิ ธัมมัง สาระณัง คัจฉามิ
      ทุติยัมปิ สังฆัง สาระณัง คัจฉามิ
      ตติยัมปิ พุทธัง สาระณัง คัจฉามิ
      ตติยัมปิ ธัมมัง สาระณัง คัจฉามิ
      ตติยัมปิ สังฆัง สาระณัง คัจฉามิ


      หากคุณไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว ต้องยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ัง
      หากกิจกรรมที่เนื่องด้วยกุศลทำ ทำสังฆทาน ไปไหว้สิ่งศักด์สิทธิ์
      หากิจกรรมทางโลกทำบู้าง เช่น งานอดิเรก ดูหนัง ฟังเพลง  เที่ยวพักผ่อน ฯลฯ


      อดีตก็ล่วงไปแล้ว
      อนาคตก็ยังมาไม่ถึง
      วันๆล่วงไป บัดนี้เราทำอะไรอยู่
      ขอให้ทำปัุจจุบันให้ดีที่สุด ทำกุศลให้เกิดแก่ใจให้มากที่สุด

       :welcome: :49: :25: :s_good:   

สาธุเป็นแนวทางที่ดีที่กระทำได้ง่าย เข้าถึง่ายดีครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ