ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: นอนไม่หลับ ในช่วงที่ควรจะหลับ แต่ไปหลับ ในช่วงที่ควรจะตื่น คะ  (อ่าน 3284 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ประสบปัญหากับชีวิต คะ คือ ถึงเวลานอนหลับ คือ 20.00 - 02.00 น. มักจะนอนไม่ค่อยหลับคะ
แต่มักจะไป 02.00 น. - 05.00 น. ซึ่งพอหลับแล้วก็มีปัญหากับการทำงานคะ บางทีตื่นไม่ทันคะ อยากแก้ไขเรื่องนี้ ด้วยการภาวนา มีวิธีการอย่างไร บ้างคะ

  ขอบคุณทุกท่านที่ตอบคะ

   :03: :s_hi: :coffee2:
บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

เ็พ็ญนภา

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 17
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การนอนดึกเป็นเหตุให้อายุสั้น เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง การทำงานดึกทำให้ร่างกายล้า เหมือนกับ เครื่องยนต์ overload ไม่ช้าเครื่องก็พัง วิธีแก้ไขในกรณีต้องทำงานดึก (เพื่อไม่ให้ร่างกายโทรมเร็ว) ผู้ที่มีหน้าที่บริหารงาน มักจะพบปัญหานี้กันมาก เพราะต้องเร่งงาน ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนนอนดึก

1. ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดอาการล้า
2. ระบบร่างกายจะรวน ดังนี้


ระบบการย่อยอาหาร
ท้องอืด ท้องเฟ้อง่าย อาหารย่อยไม่ดี ทำให้อุจจาระหยาบ คืออาหารที่ทานเข้าไป ถ้าไม่นอนดึก อุจจาระจะสวย ไม่มีเศษอาหารติดอยู่ เหมือนกับแท่งทอง แต่ถ้าอดนอนแล้วอุจจาระจะหยาบ จะมีเศษ อะไรต่างๆ ติดอยู่ เหมือนกับรถที่มีเขม่าติด เกิดจากการที่ร่างกายย่อยไม่หมด เพราะล้า แนวทางแก้ไข ให้ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารเหนียวๆ มิฉะนั้นลำไส้ทำงานหนัก ยิ่งนอนดึกแม้ เราหลับไปแล้ว แต่ลำไส้ไม่หลับ ยังคงย่อยอยู่ต่อไป พอตื่นขึ้นมาก็เพลีย ให้ทานไข่ นม แทนพวกเนื้อ สัตว์ ก็จะพอถูไถไปได้ มิฉะนั้นท้องจะผูกเป็นประจำ ริดสีดวงทวารจะถามหา (ถ้าหากอ้วนก็ให้ทานนม แทนไข่)
ท้องผูก มี 2 ลักษณะ
1. ผูกแข็ง คือ อุจจาระแข็ง
2. ผูกเหลว คือ อาการถ่ายอุจจาระไม่หมด ยังค้างอยู่ แต่ลำไส้ล้า กระเพาะอาหารล้า ทำให้ไม่มี แรงบีบให้ออกจนหมด

ดังนั้นในวันหนึ่งๆ จึงต้องถ่ายหลายครั้ง โรคที่จะตามมาก็คือ ผื่นคันบริเวณขาหนีบ (ไม่ใช่เพราะความสกปรกหมักหมม) จะคันทั้งวัน ปกติอุจจาระจะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ถ้าแข็งแสดงว่าส่วนที่เป็นน้ำได้ซึมกลับเข้ามาในลำไส้ ซึ่ง มันเป็นของเสีย ที่ต้องขับออก ผลก็คือทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะมาประทุบริเวณเนื้ออ่อนๆ เช่นที่ขาหนีบ สาเหตุก็มาจาก ท้องผูกนั่นเอง เพราะฉะนั้น อย่านอนดึก ถ้าต้องดึกก็ให้ออกกำลังหน้าท้อง ให้ท้องเกิดกำลัง จะได้รีดอุจจาระออกมา ได้เร็ว ทานเสร็จแล้วอย่านอน ให้เดินสักครึ่งชั่วโมง เพราะพอขาได้เดิน ลำไส้มันก็ต้องไปกับขาด้วย จะช่วย ทำให้ย่อยได้ดีขึ้น ท้องจะผูกน้อยลง ผื่นคันก็จะหาย ถ้ายังไม่หาย (เนื่องจากอายุมาก) ให้ทานน้ำขิงสด (ไม่ใช่ขิงผง เป็นซองๆ) พวกที่นอนดึกต้องให้ท้องอุ่นมากๆ ให้หาผ้ามาห่ม เดี๋ยวท้องจะอืด เฟ้อ บางทีต้องให้เท้าอุ่นด้วย ให้หา ถุงเท้ามาใส่ มิฉะนั้นเท้าจะชา

ระบบปัสสาวะ
ถ้านอนไม่ดึก ประมาณ 3-4 ทุ่ม พอตื่นเช้าขึ้นมาจะปัสสาวะครั้งเดียวจบ แต่ถ้านอนดึก ยิ่งนอนตีหนึ่ง กลางดึกจะต้อง ลุกเข้าห้องน้ำถี่ เพราะร่างกาย overload ต้องการน้ำมาก กล้ามเนื้อข้างในจะบีบคั้นเอาพลังงานออกมาใช้ จึงต้องใช้น้ำมาก ผลก็คือปัสสาวะบ่อย ทำให้พวกเกลือแร่ที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะด้วย ยิ่งอายุ 35 ขึ้นไปจะยิ่งแย่ แนวทางแก้ไขคือ ให้ทานแคลเซี่ยมเม็ดได้ แต่อย่ามาก แค่ 1 เม็ดก็พอ ถ้าทานมากจะทำให้แคลเซี่ยมพอก คืออาการที่กระดูกงอกทับเส้นประสาท (ถ้า เป็นแล้วต้องให้คนนวด และทานยาละลายแคลเซี่ยมช่วย) ถ้าไม่ทานแคลเซี่ยมชดเชย จะทำให้เลือดจาง เม็ดโลหิตจาง
สรุปแล้วการอดนอน เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง การนอนดึกต้องดื่มน้ำให้มาก และเติมเกลือในน้ำด้วย คือพอเราดื่มแล้วมันออกมาหมดทั้งทางปัสสาวะและเหงื่อ เราทานเกลือมากๆ ยังออกทางเหงื่อได้ แต่ถ้าทานแคลเซี่ยมมากทำให้กระดูกงอก ส่วนโค้ก เป๊ปซี่ กระทิงแดง อย่าทาน พอเราอยู่ดึกและกลั้นปัสสาวะ มันจะซึมกลับเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะไปประทุที่ขาหนีบ หรือท้องแขนเป็นเม็ดแดงๆ เป็นจ้ำขึ้นทั่วเลย
บางคนไม่กลั้น แต่ดื่มน้ำน้อย อาการก็จะเหมือนกับการโม่แป้งฝืดๆ ลำไส้บีบตัวไม่ไหว ต้องเค้น ก็จะเพลีย แต่ถ้าดื่มน้ำมาก ทำให้ถ่ายสบาย ถ้าดื่มน้ำน้อยจะทำให้กรดยูเรียเข้มข้น พอเรากลั้นปัสสาวะมันก็จะซึมเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ถ้ากลั้นบ่อยๆ จะทำให้ปัสสาวะไม่หมด ระบบเหงื่อ คนที่ไม่มีเหงื่อออก จะแย่ ถ้าขับเหงื่อให้ออกได้ร่างกายสบาย ถ้าเหงื่อไม่ออกความร้อนภายในร่างกายจะระบายไม่ได้ ทำให้อึดอัด ของเสียในร่างกายก็ออกไม่ได้ โรคผิวหนังจะถามหา สิวฝ้าจะขึ้น เพราะฉะนั้น ดื่มน้ำให้มากพอและออกกำลังกาย เท่านั้นพอ เอาจนเหงื่อออกให้ได้ คนนอนดึกเหงื่อจะไม่ค่อยออก ของเสียตกใน สิวฝ้าขึ้น มันก็จะไปออกทางปัสสาวะแทน ไตเลยทำงานหนัก

ระบบหายใจ
ระบบหายใจจะเสียตามมา ร่างกายจะเอาออกซิเจนไปแลกเลือดดำให้เป็นเลือดแดงได้ต้องมีความชื้น ถ้าความชื้นน้อยมันจะไม่แลก ทำให้อึดอัด เหมือนอยู่ห้องแอร์แล้วอึดอัด เพราะความชื้นไม่พอ ไม่ใช่ อากาศไม่พอ อากาศมันแห้งเลยเอาความชื้นในตัวเราไป ทำให้ปอดทำงานไม่สะดวก และออกซิเจนไม่ ได้
แนวทางแก้ไข ให้เอาน้ำใส่กะละมังไว้ข้างตัว ยิ่งเป็นน้ำร้อนยิ่งดี ถ้าอึดอัดให้เอาผ้าหนุนเท้าให้สูง เลือดก็จะไหลลงมาได้ จะทำให้นอนสบาย การดื่มน้ำหวานๆ ตอนอยู่ดึกๆ ก็ช่วยได้ แต่อย่าหวานมากจะทำให้อ้วน ถ้าจะให้ดีที่สุดอย่าอยู่ดึก ดึกได้ เป็นครั้งคราวถ้าจำเป็น คนนอนดึกเสียงจะแห้ง เพราะไตมันล้า การใช้สบู่ ให้ใช้สบู่เด็ก เพราะเป็นสบู่อ่อน การกัดจะน้อย อย่าใช้สบู่แรงๆ ให้ฟอกสบู่วันละครั้งก็พอ ถ้าฟอกวันละหลายๆ ครั้งไขมันจะหมด จะทำให้ผิวแตก ถ้าคันมากๆ อันเนื่องมาจากการนอนดึก ถ้า เราไม่ทราบเราจะยิ่งฟอกสบู่หนักเข้าซึ่งไม่ดี ให้ฟอกวันเว้นวัน การดูแลรักษาร่างกายให้ดี จะทำให้นั่งสมาธิได้ดี นั่งได้นาน ไม่คัน ไม่เข้าห้องน้ำบ่อย
บันทึกการเข้า

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผลวิจัยจากฝรั่งเศสระบุผู้หญิงที่ทำงานดึกเป็นประจำ มีอัตราความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้นถึงร้อยละ 30

ผลการวิจัยของสถาบัน INSERM ซึ่งวิจัยเรื่องสุขภาพของฝรั่งเศส ได้รับการเผยแพร่ในวารสารโรคมะเร็งสากล หรือ International Journal of Cancer ในหัวข้อความสัมพันธ์กันระหว่างการทำงานกลางคืนกับโรคมะเร็งเต้านม โดยผลการวิจัยระบุว่าผู้หญิงที่ทำงานช่วงกลางคืน มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้นร้อยละ 30 และจัดให้การทำงานดึก เป็นปัจจัยความเสี่ยงในกลุ่มเดียวกับ การกลายสภาพของยีนส์ การตั้งครรภ์ในช่วงอายุมาก และ การบำบัดฮอร์โมน
การวิจัยนี้มาจากข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างสตรี ที่เป็นมะเร็งเต้านม จำนวน 1,232 รายในฝรั่งเศส ที่ทำงานกะดึกติดต่อกันมานานกว่า 4 ปีครึ่ง และเฉลี่ยทำงานดึกเฉลี่ย 3 วันต่อสัปดาห์ โดยเป็นการเก็บข้อมูลระหว่างช่วงปี 2005 ถึง 2007
นายปาสกาล เกแนล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย INSERM เปรียบเทียบความเสี่ยงของการทำงานดึกต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ว่าร้ายแรงในระดับเดียวกับ การสูบบุหรี่ ในกรณีความเสี่ยงมะเร็งปอด ซึ่งผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนทั่วไปถึง 8 เท่า นอกจากนี้นาย ปาสกาล ยังบอกอีกว่า กลุ่มผู้หญิงที่ทำงานดึกเป็นประจำก่อนการตั้งครรภ์ครั้งแรก มีความเสี่ยงสูงกว่า กลุ่มที่ค่อยมาทำงานดึกหลังการมีบุตรไปแล้ว
อย่างไรก็ตามกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาต่อไป ถึงสาเหตุที่ทำให้การทำงานดึกและมะเร็งเต้านม มีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งทฤษฎีที่น่าจะอธิบายได้มากที่สุดในขณะนี้คือ ยีนส์ที่ทำหน้าที่เป็น "นาฬิกาชีวิต" ถูกรบกวนการทำงานจากการนอนหลับที่ไม่เป็นเวลาปกติ ซึ่งส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
สถิติปัจจุบันระบุว่าในแต่ละปีมีผู้หญิงทั่วโลกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นมะเร็งเต้านม


 เห็นด้วยครับ ควรจะนอนได้ในเวลาปกติครับ การนอนดึก หรือ นอนน้อยเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพครับ

 
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทางวิทยาศาสตร์ คุณแพนด้า และ คุณเ็พ็ญนภา ได้แนะนำสิ่งที่ดีๆเป็นประโยชน์อย่างมากให้คุณได้ทราบแล้ว ทีนี้มาดูสิ่งเล็กๆของผมประกอบตามนะครับเป็นแนวทางกึ่งธรรมะกึ่งชีวจิตครับ
- การนอนไม่หลับเกิดจากระบบธาตุในร่างกายไม่สมดุลย์กัน มีส่วนที่ไม่เป็นอัตราส่วนที่สมดุลย์แก่กัน ทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกาย เมื่อสภาพธาตุไม่เป็นปกติเกิดเป็นอาการต่างๆ สภาพจิตก็จะแปรปรวนตามไป ทำให้ไม่มีกำลังมากพอควรแก่กิจการงาน
- เวลาที่คุณนอนไม่หลับ ลองปฏิบัติในแบบที่ผมกระทำอยู่สิครับ นอนลงบนที่นอนโดยนอนหงายธรรมดาไป หลับตา กำหนดลมหายใจ พุท-โธ อย่าให้จิตหลุดจาก พุท-โธ กระทำเหมือนนั่งสมาธิหรือทำสมาธิทั่วไป เมื่อจิตมันนิ่งขึ้นสงบขึ้น มีลมหายใจเป็นปกติ สภาพธาตุในร่างกายปรับสมดุยล์กัน ร่างกายเราก็จะอยู่สภาวะการผักผ่อน Stand by จิตตื่นสะสมกำลัง ร่างกายสู่ระบบการปรับสมดุลย์และได้พักผ่อน หากเมื่อมันเกิดฝันเห็นมโนภาพเป็นเรื่องราวๆก้อปล่อยจิตมันเป็นไปของมัน ไม่ต้องไปสะดุ้งรู้สึกตื่นตัวอะไร มันก็จะหลับไปเอง แม้ยังไม่หลับสภาพจิตก็ก่อเกิดพลังงาน ร่างกายก็ได้พักผ่อน ทำให้เกิดกำลังกายและใจแก่เรา
- หากจิตมันคิดฟุ้งซ่านมาก ก้ลองให้ระลึกนึกคิดในสิ่งที่มันสุขกาย สบายใจ เป็นสุข แล้วก็ทำสมาธิไปเรื่อยๆ จนหลับไปเอง

ผมเองก็นอนประมาณ 3-4 ชั่วโมง บางวันก็ 5 ชั่วโมง ผมก็กระทำวิธีนี้เอาครับ แม้เวลาพักเที่ยง ผมทานข้าวเสร็จก็มานั่งบนเก้าอี้หลับตาทำสมาธิเช่นๆเหมือนกัน สภาพกายและจิตผมก้มีกำลังที่ควรแก่งาน โดยเฉพาะผมทำงานเป็นกะ เวลาเปลี่ยนกะนี่ทรมานมากครับ แล้ว บางวันต้องทำงานควบกะด้วยยิ่งไปใหญ่ ผมก็อาศัยวิธีนี้แหละครับดำรงอยู่มา 3 ปี ร่างกายได้พักผ่านไม่พอ จิตยังมีกำลัง และ ได้กัมมัฏฐานไปในตัวด้วยครับ ลองปฏิบัติดูครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ