ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ  (อ่าน 8483 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« เมื่อ: กันยายน 25, 2012, 08:33:48 am »
0
คือ เห็นเด็กฝาแฝดที่เกิดมาพร้อม ๆ กัน เป็นผู้ชายทั้งคู่ มีนิสัยแตกต่างกัน ทั้ง ๆ ที่ได้รับการอบรมดูแล มาเหมือนกัน อีกคนหนึ่ง สุภาพ อีกคนหนึ่ง มุทะลุ อย่างนี้

   อยากทราบว่า อะไรที่เป็นเหตุ ให้ นิสัย ต่างกัน เพราะอะไรคะ

   :c017:
บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 25, 2012, 10:02:21 pm »
0
จริตธาตุ ทําให้มีนิสัยแตกต่างกัน
     
       
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 25, 2012, 10:54:15 pm โดย aaaa »
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 26, 2012, 08:39:59 am »
0
เรื่อง กรรมและวิบาก จากพระไตรปิฏก
http://geocities.com/toursong1/kam/kam.htm

(๑) พุทธาปทานชื่อปุพพกรรมปิโลติที่ ๑๐ (๓๙๐) ว่าด้วยบุพจริยาของพระองค์เอง เล่มที่ ๓๒

[๓๙๒] พระผู้มีพระภาคผู้เป็นนายกของโลก แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์เป็นอันมากประทับนั่งอยู่ที่พื้นหิน อันเป็นรัมณียสถานโชติช่วงด้วยแก้วต่าง ๆ ในละแวกป่าอันมีกลิ่นหอมต่าง ๆ ใกล้สระอโนดาต ตรัสชี้แจงบุรพกรรมทั้งหลายของพระองค์ ณ ที่นั้นว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟังกรรมที่เราทำแล้วของเรา

เราเห็นภิกษุผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่งแล้วได้ถวายผ้าเก่า เราปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า ในกาลนั้น ผลแห่งกรรม คือ การถวายผ้าเก่าย่อมอำนวยผลให้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลก่อน

เราเป็นนายโคบาล ต้อนโคไปเลี้ยง เห็นแม่โคกำลังดื่มน้ำขุ่นมัว จึงห้ามมัน ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ (แม้) เราจะกระหายน้ำ ก็ไม่ได้ดื่มน้ำตามความปรารถนา

ในชาติอื่นในกาลก่อน เราเป็นนักเลงชื่อปุนาลิ ได้กล่าวตู่พระปัจเจกพุทธเจ้าชื่อว่าสุรภี ผู้ไม่ประทุษร้าย (ตอบ) ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราท่องเที่ยวอยู่ในนรกเป็นเวลานาน ได้เสวยทุกขเวทนาแสนสาหัส หลายพันปีเป็นอันมาก ด้วยผลกรรมอันเหลือนั้น ในภพหลังสุดนี้ เราจึงได้คำกล่าวตู่เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกา เพราะการกล่าวตู่พระเถระ นามว่านันทะ สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ครอบงำอันตรายทั้งปวง เราจึงท่องเที่ยวอยู่ในนรกสิ้นกาลนาน เราท่องเที่ยวอยู่ในนรกเป็นเวลานานถึงหมื่นปี ได้ความเป็นมนุษย์แล้ว ได้การกล่าวตู่เป็นอันมากด้วยผลกรรมที่เหลือนั้น นางจิญจมานวิกามากับหมู่ชน ได้กล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่เป็นจริง

เมื่อก่อน เราเป็นพราหมณ์ชื่อสุตวา อันชนทั้งหลายสักการะบูชา สอนมนต์ให้กับมาณพประมาณ ๕๐๐ คนในป่าใหญ่ ก็เราได้เห็นฤาษีผู้น่ากลัว ได้อภิญญา ๕ มีฤทธิ์มากมาในสำนักของเรา เราจึงกล่าวตู่ฤาษีผู้ไม่ประทุษร้าย โดยได้บอกกะพวกศิษย์ของเราว่า ฤาษีพวกนี้มักบริโภคกาม แม้เมื่อเราบอก (เท่านั้น) พวกมาณพก็เชื่อฟัง ครั้งนั้น มาณพทั้งปวง เที่ยวไปภิกษาในสกุล ๆ พากันบอกแก่มหาชนว่า ฤาษีพวกนี้ มักบริโภคกาม ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ภิกษุ ๕๐๐ เหล่านี้ ได้คำกล่าวตู่ทั้งหมด เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกา

ในกาลก่อน เราได้ฆ่าพี่น้องชายต่างมารดา เพราะเหตุแห่งทรัพย์ จับใส่ลงในซอกเขา และบด (ทับ) ด้วยหิน ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น พระเทวทัตจึงผลักก้อนหิน ก้อนหินกลิ้งลงมากระทบนิ้วแม่เท้าของเราจนห้อเลือด

ในกาลก่อน เราเป็นเด็กเล่นอยู่ที่หนทางใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ใส่ไฟเผา (ดัก) ไว้ทั่วหนทาง ด้วยวิบากกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ พระเทวทัตจึงชักชวนนายขมังธนู ผู้ฆ่าคนตายมาก เพื่อให้ฆ่าเรา

ในกาลก่อน เราเป็นนายควาญช้าง ได้ไสช้างให้จับมัดพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้อุดมมุนีแม้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ด้วยวิบากกรรมนั้น ช้างนาฬาคิรีอันดุร้าย วิ่งแล่นเข้าไปในคอก (ท้อง) เขา (วงกต) เบื้องหน้าผู้ประเสริฐ

ในกาลก่อน เราเป็นนายทหารราบ (เป็นแม่ทัพ) ฆ่าบุรุษเป็นอันมากด้วยหอก ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราถูกไฟไหม้อย่างเผ็ดร้อนอยู่ในนรก ด้วยผลอันเหลือแห่งกรรมนั้น บัดนี้ไฟนั้นยังมาไหม้ผิวหนังที่เท้าของเราทั้งสิ้น (อีก) เพราะว่ากรรมยังไม่พินาศไป

ในกาลก่อน เราเป็นเด็ก (ลูก) ของชาวประมงอยู่ในบ้านเกวัฏฏคาม เห็นคนทั้งหลายฆ่าปลาแล้ว เกิดความโสมนัส ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ความทุกข์ที่ศีรษะ (ปวดศีรษะ) ได้มีแล้วแก่เราในเมื่อเจ้าศากยะทั้งหลายถูกเบียดเบียน พระเจ้าวิฏฏุภะฆ่าแล้ว

เราได้บริภาษพระสาวกทั้งหลายในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระนามว่าผุสสะ ว่าท่านทั้งหลายจงเคี้ยว จงกินแต่ข้าวแดง แต่อย่ากินข้าวสาลีเลย ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราอันพราหมณ์นิมนต์แล้ว อยู่ในเมืองเวรัญชา บริโภคข้าวแดงตลอด ๓ เดือน

ในกาลนั้น เมื่อนักมวยกำลังชกกัน เราได้ห้ามบุตรนักมวยปล้ำ ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ความทุกข์ที่หลัง (ปวดหลัง) ได้มีแล้วแก่เรา

เมื่อก่อนเราเป็นหมอรักษาโรค ได้ถ่ายยาให้เศรษฐีบุตร (ตาย) ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น โรคปักขันทิกาพาธจึงมีแก่เรา

เราชื่อว่าโชติปาละ ได้กล่าวกะพระสุคตเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ในกาลนั้นว่า จักมีโพธิมณฑลแต่ที่ไหน โพธิญาณท่านได้ยากอย่างยิ่ง ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราได้ประพฤติกรรมที่ทำได้ยากมาก (ทุกกรกิริยา) ที่ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมตลอด ๖ ปี แต่นั้นจึงได้บรรลุโพธิญาณ แต่เราก็มิได้บรรลุโพธิญาณอันสูงสุดด้วยหนทางนี้ เราอันบุรพกรรมตักเตือนแล้ว จึงแสวงหาโพธิญาณโดยทางที่ผิด

(บัดนี้) เราเป็นผู้สิ้นบาปและบุญ เว้นจากความเร่าร้อนทั้งปวง ไม่มีความเศร้าโศก ไม่คับแค้น เป็นผู้ไม่มีอาสวะ จักนิพพาน พระชินเจ้าทรงบรรลุกำลังแห่งอภิญญาทั้งปวงแล้ว ทรงพยากรณ์โดยทรงหวังประโยชน์แก่ภิกษุสงฆ์ที่สระใหญ่อโนดาต ด้วยประการฉะนี้แล. ทราบว่า พระผู้มีพระภาคได้ทรงภาษิตธรรมบรรยายพุทธาปทานชื่อ ปุพพกรรมปิโลติ อันเป็นบุพจารีตของพระองค์ ด้วยประการฉะนี้แล.

จบพุทธาปทานชื่อปุพพกรรมปิโลติ

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ บรรทัดที่ ๗๘๔๙ - ๗๙๒๔. หน้าที่ ๓๖๑ - ๓๖๔.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=392
บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

ก้านตอง

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 195
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 26, 2012, 08:01:26 pm »
0
อ่านแล้ว รู้สึกหนาว เลยนะคะ ดังนั้นพิจารณาจากผลกรรมยิ่งเป็นพระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสงฆ์ผู้มีวัตรปฏิบัติ อันดี อย่างนี้ ใครบริภาษ ใครด่า ใครมุ่งร้าย ย่อมเกิดผล คือ วิบากกรรมที่จะส่งผลในไม่ช้า หรือ ชาติถัด ๆ ไป

  :c017: :25:
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 26, 2012, 09:33:19 pm »
0
อ่านแล้ว รู้สึกหนาว เลยนะคะ ดังนั้นพระสงฆ์ผู้มีวัตรปฏิบัติดี ใครบริภาษ ด่า มุ่งร้าย ย่อมเกิดผล คือ วิบากในไม่ช้า

น้องก้านตอง(ก้านกล้วย) ถึงกับหนาว หากแต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีคนเขลาบ้ากล้าบริภาษพระสงฆ์สุปฏิปันโนอยู่หารู้

โทษทัณฑ์วิบากจะเยือนตนนั้นมีอีกมาก ดังนั้นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบจึงมักเร้นกายอยู่ป่าสันโดษหาย ครั้นอยู่ใน

เมืองมากผู้หลากเขลาชนมักหม่นก่นด่าชะตามืดกันเกลื่อน แม้ผมอยู่ใกล้ปฏิบัติพระอาจารย์ก็อนาจคนพวกนี้นิมนต์

ท่านไว้อยู่เมืองช่วยคน แต่คนก็หม่นสร้างกรรม ผมพินิจแล้วก็ให้เศร้าแก่ใจเหลือเกินครับ (มนุษย์นี้โง่จริงๆ)

บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 01:42:48 am »
0
เกิดจากครรภ์เดียวกัน เวลาไล่เลี่ยกัน สงสัย จะเป็นเพราะฤกษ์ คนละฤกษ์ กระมังครับ ถึงได้ต่างกันบางคนผมเห็นต่างกันอย่างสิ้นเชิง เลยนะครับ
  :13:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 10:51:57 am »
0
ขอเรียนถามบัณฑิต ชาวธรรม ทุกท่านนะคะว่า
ความเลว กับ ความดี เป็นสิ่งที่ติดมาเป็นอุปนิสัยโดยกำเนิด หรือว่า เกิดจากสิ่งแวดล้อม

 เช่น เด็ก ทำไมมีนิสัยก้าวร้าว ทั้ง ๆที่พ่อแม่ เป็นคนดี อบมรมดี
    แต่เด็ก อีกคนหนึ่ง มีนิสัยอ่อนโยน ทั้งที่ ๆ พ่อแม่ ตบตี กิเนเหล้าทุกวัน

  เห็นจากชุมชนที่ไปดูแล คะ

  เลยสับสนว่า เด็กจะดี เพราะชาติกำเนิดหรือไม่ หรือ ไม่ดี เพราะชาติกำเนิด หรือว่าอุปนิสัยที่ติดตัวมาแต่อดี่ตชาติ ส่งผล หรือมีกำเนิดมาจาก อสูร เปตร นิริยะ ดิรัจฉาน กันแน่
 
   ในหลักทางพุทธศาสนา มีคำอธิบาย เรื่องนี้อย่างไร คะ
 

   :c017:


อุปนิสัย ความประพฤติที่เคยชินเป็นพื้นมาในสันดาน, ความดีที่เป็นทุนหรือเป็นพื้นอยู่ในจิตต์, ธรรมที่เป็นเครื่องอุดหนุน

จิตตสันดาน การสืบต่อมาโดยไม่ขาดสายของจิต;
       ในภาษาไทยหมายถึง พื้นความรู้สึกนึกคิดหรืออุปนิสัยใจคอที่ฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจมาแต่กำเนิด
       (ความหมายนัยหลังนี้ มิใช่มาในบาลี)

สันดาน ความสืบต่อแห่งจิต คือกระแสจิตที่เกิดดับต่อเนื่องกันมา;
       ในภาษาไทยมักใช้ในความหมายว่า อุปนิสัยที่มีมาแต่กำเนิด, อัธยาศัยที่มีติดต่อมา


วาสนา อาการกายวาจา ที่เป็นลักษณะพิเศษของบุคคล ซึ่งเกิดจากกิเลสบางอย่าง และได้สั่งสมอบรมมาเป็นเวลานาน จนเคยชินติดเป็นพื้นประจำตัว แม้จะละกิเลสนั้นได้แล้ว แต่ก็อาจจะละอาการกายวาจาที่เคยชินไม่ได้ เช่น คำพูดติดปาก อาการเดินที่เร็ว หรือเดินต้วมเตี้ยม เป็นต้น
       ท่านขยายความว่า วาสนา ที่เป็นกุศล ก็มี เป็นอกุศล ก็มี เป็นอัพยากฤต คือ เป็นกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่ว ก็มี
       ที่เป็นกุศลกับอัพยากฤตนั้น ไม่ต้องละ
       แต่ที่เป็นอกุศลซึ่งควรจะละนั้น แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนที่จะเป็นเหตุให้เข้าถึงอบายกับส่วนที่เป็นเหตุให้เกิดอาการแสดงออกทางกายวาจาแปลกๆ ต่างๆ ส่วนแรก พระอรหันต์ทุกองค์ละได้ แต่ส่วนหลัง พระพุทธเจ้าเท่านั้นละได้ พระอรหันต์อื่นละไม่ได้
       จึงมีคำกล่าวว่า พระพุทธเจ้าเท่านั้นละกิเลสทั้งหมดได้ พร้อมทั้งวาสนา;
       ในภาษาไทย คำว่า วาสนา มีความหมายเพี้ยนไป กลายเป็นอำนาจบุญเก่า หรือกุศลที่ทำให้ได้รับลาภยศ




       
        ขอให้หนูหมิวทำความเข้าใจกับ ความหมายของคำต่างๆที่อยู่ด้านบนให้ดี
        ในที่สุดแล้ว จะได้ข้อสรุปว่า อุปนิสัยของคนเราถูกสั่งสมกันมาหลายภพหลายชาติ
        อุปนิสัยนั้นฝั่งอยู่ในจิตและถูกถ่ายทอดสืบเนืองมาจนถึงชาติปัจจุบัน
        คนเราจะละอุปนิสัยที่ไม่ดีได้ก็ต่อเมื่อเป็นอรหันต์
        แต่อรหันตสาวกทุกองค์ ละวาสนาไม่ได้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ละได้

         :49:


คือ เห็นเด็กฝาแฝดที่เกิดมาพร้อม ๆ กัน เป็นผู้ชายทั้งคู่ มีนิสัยแตกต่างกัน ทั้ง ๆ ที่ได้รับการอบรมดูแล มาเหมือนกัน อีกคนหนึ่ง สุภาพ อีกคนหนึ่ง มุทะลุ อย่างนี้

   อยากทราบว่า อะไรที่เป็นเหตุ ให้ นิสัย ต่างกัน เพราะอะไรคะ

   :c017:

     
     หนูหมิว..เคยตั้งคำถามคล้ายๆกันมาแล้ว อยู่กระทู้นี้ครับ
     ความเลว กับ ความดี เป็นสิ่งที่ติดมาเป็นอุปนิสัยโดยกำเนิด หรือว่า เกิดจาก....
     http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7990.0#quickreply

     ผมก็ขอตอบ..เหมือนเดิม แต่ขอเพิ่มเติม "จังกมสูตร"
     อยู่ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
     http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=4087&Z=4138&pagebreak=0 
     
      พระสูตรนี้พระพุทธองค์บอกว่า "คนเราคบกันโดยธาตุ" ธาตุในที่นี้ก็คือ "อัธยาศัย"
      อัธยาศัย หมายถึง นิสัยใจคอ, ความนิยมในใจ
      ดังนั้น เราอาจกล่าวได้ว่า นิสัยของคนเราถูกกำหนดด้วยธาตุ
      เมื่อธาตุต่างกัน นิสัยก็ต่างกัน
   


จังกมสูตร

      [๓๖๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันโดยธาตุเทียว คือ
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี


      แม้ในอดีตกาล สัตว์ทั้งหลายก็ได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว โดยธาตุเทียว คือ
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี


      แม้ในอนาคตกาล สัตว์ทั้งหลายก็จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือ
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี


      แม้ในปัจจุบันกาล สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือ
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
      สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ฯ


      จบสูตรที่ ๕

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 10:53:15 am »
0




       คนเราย่อมมีนิสัยแตกต่างกันไป บางคนนิสัยดี บางคนนิสัยไม่ดี นิสัยของคนเราทั้งดีและไม่ดีนี้ เกิดขึ้นมาได้อย่างไรเจ้าค่ะ ?



       นิสัยของคนเราไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี ก็ตาม ล้วนเกิดมาจากการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ของตัวเอง นิสัยของใครก็ขึ้นอยู่กับการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ของผู้นั้น



     โดยมีหลักอยู่ว่า ผู้ที่มีทัศนคติ และวิธีการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ในทางที่ถูก ที่ควร ก็จะได้นิสัยดีๆ
     ส่วนผู้ที่มีทัศนคติ และวิธีการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ในเรื่องไม่ดี ในสิ่งที่ผิด ก็จะได้นิสัยไม่ดีติดตัวไป
สำหรับเรื่องที่มนุษย์ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ กันเป็นประจำ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายนั้น มีอยู่ ๔ เรื่องใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่


     ๑. ปัจจัย ๔ คือ เรื่องอาหาร เรื่องเสื้อผ้า เรื่องที่อยู่อาศัย และเรื่องการรักษาสุขภาพของตัวเอง ภาษาพระเรียกว่าปัจจัย ๔ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ กันตลอดชีวิตทีเดียว
     ๒. กิจวัตรประจำวัน เช่น การนอน การตื่น การอาบน้ำ การแปรงฟัน เป็นต้น
     ๓. อาชีพ ถ้าเป็นอาชีพการงานประเภทสัมมาทิฏฐิ คือ ทำมาหาเลี้ยงชีพในทางที่ชอบ นิสัยที่ดีก็จะเกิดขึ้นมา แต่ว่าถ้าหาเลี้ยงชีวิตในทางไม่ชอบ เช่น มีอาชีพขโมยเขากิน เราก็คงเดากันได้ว่านิสัยของผู้นั้นจะเป็นอย่างไร
     ๔. สิ่งแวดล้อม เรื่องที่มนุษย์ต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ เป็นประจำอีกอย่างหนึ่ง ทั้งที่อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็คือ สภาพสิ่งแวดล้อมของเขา ไม่ว่าสภาพแวดล้อมนั้นจะเป็นคน หรือว่าเป็นธรรมชาติก็ตาม


     เช่น รอบๆ บ้านเป็นสลัม เช้าขึ้นมาก็มีเสียง จ้อกแจ้ก จอแจ โหวกเหวก โครมคราม ดูช่างสับสนวุ่นวายไปหมด ผู้คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ ก็จะมีนิสัยไปอย่างหนึ่ง
     ส่วนผู้ที่มีบ้านอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ชอบไปวัดปฏิบัติธรรม นิสัยก็จะเป็นไปอีกอย่างหนึ่ง





นิสัยเกิดจากอาหาร

    นิสัยที่เกิดจากปัจจัย ๔ ในเรื่องของอาหารที่เรากินกัน แต่ละมื้อ แต่ละคำ ถ้าบ้านไหนแค่พ่อแม่มีทัศนคติว่า "คนเรากินเพื่ออยู่" ก็จะทำให้คนในบ้านนั้น มีนิสัยประหยัด มีนิสัยรักที่จะทำความดี
    แต่ถ้าบ้านไหนมีทัศนคติว่า "คนเราอยู่เพื่อกิน" อย่างนี้แสดงว่าคนในบ้านนั้นเตรียมกินบ้านกินเมือง เตรียมโกงกันเสียแล้ว

    เพราะฉะนั้น ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องอาหาร สามารถทำให้เกิดเป็นนิสัยของคนขึ้นมาได้

    วิธีกินอาหารก็เหมือนกัน บ้านไหนพ่อแม่ลูกกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา คนในบ้านนั้น จะมีนิสัยรักกัน เป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน

    ถ้าหากบ้านไหนถึงเวลากินข้าว ใครหิวก็กินก่อน ใครยังไม่หิวก็ตัวใครตัวมัน ลูก ๓ - ๔ คน ไม่เคยกินข้าวพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่เลย เด็กๆ เหล่านี้ พอโตขึ้นจะไม่รัก ไม่ห่วงใยกัน เพราะว่าได้ฝึกความเป็นตัวใครตัวมันมาตั้งแต่แรกเสียแล้ว



นิสัยเกิดจากเสื้อผ้า
      เรื่องเสื้อผ้าก็เหมือนกัน บ้านไหนมีทัศนคติว่า เสื้อผ้ามีไว้เพื่อใช้กันแดด กันลม กันฝน กันร้อน กันหนาว กันอาย คนบ้านนั้น จะมีนิสัยไม่ชอบการฟุ้งเฟ้อ ติดตัวมาตั้งแต่เล็ก แต่ถ้าบ้านไหนเวลาแต่งตัวแต่ละที นอกจากจะต้องเด่น ต้องดังแล้ว ยังต้องตามแฟชั่นให้ทันด้วย คนพวกนี้ก็จะได้นิสัยไปอีกอย่างหนึ่ง คือมีนิสัยชอบตามกระแสโลก ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง


นิสัยเกิดจากที่อยู่อาศัย
      ที่อยู่อาศัยก็ทำให้กลายเป็นนิสัยได้ เช่น ลูกที่ตื่นนอนขึ้นมา พับผ้าห่ม เก็บที่นอน ปัดกวาดเช็ดถูห้องนอนเรียบร้อย แถมยังมาช่วยคุณแม่เก็บกวาดเสียรอบบ้าน ก็จะได้นิสัยมีความ รับผิดชอบมาตั้งแต่เล็กๆ
      ส่วนเด็กที่ตื่นนอนขึ้นมา ไม่เคยเก็บที่นอน ไม่เคยช่วยคุณแม่ทำความสะอาดบ้านเลย ก็จะได้นิสัยไม่มีความรับผิดชอบแม้กระทั่งตัวเอง

   
   
นิสัยเกิดจากการรักษาสุขภาพ
    ถ้าคุณพ่อคุณแม่สอนให้ลูกๆ รู้จักรักษาสุขภาพตั้งแต่เล็ก แล้วลูกก็ปฏิบัติตามอย่างดี ตั้งแต่ สอนให้แปรงฟันอย่างถูกวิธี สอนวิธีอาบน้ำให้สะอาด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะถูก ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ แล้วกลายเป็นนิสัยได้อีกเหมือนกัน


ส่วนเรื่องของกิจวัตรประจำวัน อาชีพการงาน สภาพสิ่งแวดล้อม
    ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ทำให้ต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ จนกระทั่งกลายเป็นนิสัยของคนเราทั้งนั้น

    เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะให้ตัวเอง หรือลูกหลานวงศ์วานว่านเครือเนื้อหน่อในครอบครัว
    มีนิสัยดีอย่างไรก็เลือก ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ แต่สิ่งที่ดีๆ เหล่านั้นก็แล้วกัน



ที่มา http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/main/index.php?option=com_content&task=view&id=144&Itemid=4
ขอบคุณภาพจาก http://www.kalyanamitra.org/,http://mblog.manager.co.th/,http://www.talkystory.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

nonestop

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 87
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไร ที่ทำให้นิสัย คนต่างกันคะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2012, 12:34:06 am »
0
อนุโมทนา กับทุกท่านที่ตอบกันนะครับ ผมได้อ่านเรื่องนี้วันนี้แล้ว จึงมองเห็นความแตกต่างด้วยอำนาจ จริต วาสนา บารมี ที่สังสมกันมาแตกต่างกันเลยนะครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ

  :25: :c017:
บันทึกการเข้า
nonestop  หยุดทำ้ร้าย หยุดเบียดเบียน หยุดการกลับมาเกิด กันเถิดครับ