ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้สึก ท้อถอย เวลาปฏิบัติภาวนา คะ เมื่อไหร่จะปฏิบัติได้เสียที  (อ่าน 5245 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ศรีสมัย

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 24
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผ่านมาหลายปีแล้วที่ เรา หันมาสนใจศึกษา การภาวนาเพื่อให้จิต และ ชีวิตมีแก่นสาร แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ไม่รู้สึกก้าวหน้าในการภาวนาเลยคะ กลับรู้สึกท้อถอยจนไม่อยากที่จะภาวนาต่อไปแล้วคะ ไม่ทราบว่าควรแก้ไขอย่างไรดีคะ ถึงจะทำให้การภาวนานี้  ดำเนินได้ต่อไปคะ

  :smiley_confused1: :'(
บันทึกการเข้า

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมเคยถาม พระอาจารย์ไป เวลาท้อถอย นะครับ แล้วท่านก็แนะนำวิธี ก็คือ พุทโธ ดูลมหายใจเข้า ออก แล้วก็ พุทโธ ง่าย ๆ อย่างนี้ แต่เมื่อลองทำแล้ว รู้สึกดีขึ้นครับ แต่ก็ไม่นาน

 บางครั้ง เราอาจจะตั้งเป้าหมายในการภาวนาผิด จึงคิดว่าเราไม่ได้ นะครับ
 1 พรรษาที่ผ่านมาผมได้ทบทวน เป้าหมายในการภาวนา ให้ตรง... ขึ้น จึงรูสึก ได้ว่า วันนี้ไม่ใช่ปฏิบัตไม่ได้ ไม่ใช่ว่า ภาวนาไม่ได้แต่เป็นเพราะเรา ตั้งเป้าหมายในการภาวนา ผิด นะครับ

   ดังนั้น อยากจะให้ คุณ กลับไปดูเป้าหมาย ภาวนา ของตนเอง ด้วยครับ

  :s_hi: :49:
บันทึกการเข้า

vijitchai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 100
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมเองก็รู้สึกเช่นกัน ครับ เวลานี้รู้สึก ว่ากรรมฐาน ไม่ก้าวหน้า เลยครับ เพื่อน ๆ พากันแซงทางโค้งไปกันหมดแล้วครับ ผมเองไปขึ้นกรรมฐาน ที่วัดพลับ มาแต่รู้สึกได้ว่า ไม่ก้าวหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ใด ๆ กับผมเลยครับ ทำไมการภาวนา ถึงทำได้ยาก อย่างนี้นะครับ

   :'( :'( :'(
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อม ครูบาอาจารย์ ผู้สอนกรรมฐาน ทุก ๆ รูป ครับ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึง พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ตลอดชีวิต พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
- การวัดผลในการพัฒนาจากการเจริญปฏิบัติกัมมัฏฐานในพระพุทธศาสนานั้น ไม่ได้วัดที่ว่าใครได้ ใครมีปิติ ใครมียุคล ใครมีฌาณ ใครมีญาณทิพย์
- แต่ดูที่ว่าบุคคลใดที่มี กุศลจิตมากกว่าอกุศลจิต มีความคิดดี พูดดี ทำดีมากกว่ากัน หากผู้ใดปฏิบัติได้ ผู้นั้นย่อมมี กาย วาจา ใจ งดงามโดยชอบ ความขุ่นมัวใจ ติดข้องใจ ลุ่มหลงถือตนใดๆย่อมไม่มี เห็นจริงและเข้าถึงในอริยะสัจ๔ เป็นเบื้องต้น


- ความขุ่นมัวใจใดๆจากการกรรมฐานนี้เกิดขึ้นจากความไม่พอใจยินดีทั้งหมด ที่เรียกว่า อัปปิเยหิ สัมปะโยโคทุกโข ความประสบกับสิ่งอันไม่เป้นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์
- ละที่ความพอใจยินดีนั้นเสีย เพราะพอใจยินดีมาก ก็ปารถนาใคร่ได้มาก ก็ยิ่งมีสิ่งที่ไม่รักพอใจยินดี ไม่ปารถนาใคร่ได้ยินดีมากท่ากัน
- การปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนานี้ ไม่ได้เป็นไปเพื่ออวดอุตริ ไม่ด้เป็นไปเพื่อฤทธิ์เดช แต่เป็นไปเพื่อให้พ้นจากกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้เท่านั้น
- ดังนั้นให้ละความพอใจนั้นๆไปเสีย เพราะยิ่งพอใจปารถนามาก ตัณหาอุปาทานก็มาก สิ่งใดๆนี้มันจับต้องไม่ได้ บังคับให้เป็นไปดังใจไม่ได้
- ปฏิบัติให้รู้ใน อริยะสัจ๔ เป็นหัวใจหลักสำคัญ เมื่อรู้เห็นในอริยสัจ๔ ตามจริง มรรค๘ จะเกิดขึ้นในใจเองอัตโนมัติ นี่สูงกว่าคนที่อวดว่ามีญาณทิพย์ มีฌาณ ที่สักแต่ว่ามี แต่ไม่เห็นทางพ้นทุกข์อีก
- พึงพิจารณาในอริยะสัจ๔ ให้มาก เจริญใน สติ ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน สัมปะชัญญะ คิดดี-พูดดี-ทำดี ให้มาก
- ลองคิดดูนะครับ คุณมีคนรู้จักคนหนึ่งรวยมาก มีเงินใช้มากมาย แต่ตัวคุณมีแค่พอกินพอใช้ไม่มากมาย แต่ผู้ที่มีเงินมากนั้นกลับใช้เงินโดยเป้นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นน้อย กลับนำเงินนั้นปรนเปรอตามความลุ่มหลงพอใจยินดีของตนเองมาก ส่วนคุณแม้มีเงินน้อยแต่ใช้จ่ายเพื่อกินเพื่อใช้ในสิ่งที่ที่เป็นประโยชน์สุจริต มีความแบ่งปันเอื้อเฟื้อช่วยเหลือผู้อื่นบ้างอยู่เนืองๆ คุณคิดว่าคนที่มองดูระหว่างคน 2 คน เขาจะมองใครที่มีค่ากว่ากันครับ
- ดังนั้นละความยินดีลุ่มหลงมัวเมาในกธรรมปฏิบัตินั้นเสีย มันเป็นมิจฉามรรค มันเป็นอวิชชา วิชชาและอริยะมรรคต้องมีความผ่องใส สงบ ไม่ร้อนรน ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ ไม่ใช่ก่อให้เกิดทุกข์อย่างที่คุณ  vijitchai และ คุณ ศรีสมัย รู้สึกนึกคิดอยู่ตอนนี้
- ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้เอาพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่าง เดินตามวิถีแนวทางอันวิจิตรงดงามที่พระพุทธเจ้าเดิน




ลองพิจารณาดูนะครับ หากไม่สมควรประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2012, 01:37:45 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

because

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 71
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จำได้ว่าเคยฟังเสียงธรรม น่าจะเป็นพระอาจารย์ ท่านจะกล่าวเรื่อง ปณิธานการภาวนาพระกรรมฐาน และ ปณิธานของการเผยแผ่พระกรรมฐาน นี้แหละครับแต่จำชื่อเรื่องไม่ได้

   ในเนื้อหากล่าวว่า  มีพระรูปหนึ่ง ท่านภาวนาของท่านตั้งแต่ท่านเริ่มบวช จนกระทั่งมรณะภาพ ท่านไม่ได้สอน ท่านไม่ได้ขอ ท่านไม่ได้โพทะนา ว่าตนเองวิเศษ ท่านไม่ได้อะไรจากชาวโลก นอกเสียจากภัตรประจำวันที่ มีไม่กี่อย่าง แต่ท่านเป็นพระภาวนาที่สุดของที่สุด ทั้งอายุท่านใช้ผ้าไตร อยู่ 3 ชุดเท่านั้น ยามที่ท่านมรณะภาพ ก็ไม่ได้มีใครมาจัดการศพท่าน เพราะศพท่านอยู่ในถ้ำ ท่านก็หายไปจากชาวโลกอย่างนั้น

   ท่านเดินไป เที่ยวชมบ้านญาติพี่น้อง ก็ไม่มีใครสนใจจะสนทนากับท่าน เพราะมองว่าท่านเป็นพระบ้า ๆ เสียสติไม่เอาอะไรกับใครทั้งสิ้นนอกเสียจากอยู่คนเดียวเงียบ ไปเงียบ ๆ

   เรื่องยังอีกยาว แต่เอาเป็นว่า
   หลวงตาท่านนี้ ท่านบวชแล้วปฏิบัติ ของท่าน ในช่วงที่ท่านมีชีิวิตอยู่ ไม่มีใครไปมาหาสู่กับท่าน ไม่มีใครเรียกท่านว่าอาจารย์ ท่านไม่มีทรัพย์สมบัติใด ๆ มรณะภาพอย่างโดดเดี่ยว มีชีวิตที่อัตคัตยากแสนตามสภาพพระป่า

   แล้วเป็นยังไงครับ.....

   อ่านแล้วยังไม่เข้าใจใช่หรือไม่ครับ ... ครับ ผมเองก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่ต้องฟังเต็มรูปแบบ ถึงจะเข้าใจนะครับ ไม่รู้จะสื่ออย่างไรให้เ้ข้าใจในสิ่งที่ผมเ้ข้าใจในครั้งนั้นได้

  จบดีกว่า....

   ตายอย่างมดปลวก
   ตายอย่างพญาช้าง
   ตายอย่างพระ
   ตายอย่างคน
   ตายอย่างราชา
   ท่านเห็นอะไร ? ก็อันนั้น ละครับ คือผลการภาวนาของท่าน


  :smiley_confused1: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 02, 2012, 08:48:52 pm โดย because »
บันทึกการเข้า

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
ที่ท้อถอย ก็มีหลาย สาเหตุนะคะ สรุปตามเมลที่พระอาจารย์เคยแนะนำไว้นะคะ พึ่งจะมีโอกาสนำมาโพสต์กับเขาบ้างคะ

   1. ไม่ได้แจ้งพระกรรมฐาน
   2. ไม่ได้ภาวนากรรมฐาน
   3. ไม่ได้เติมเต็มพระธรรมที่ยังขาดในใจ
   4. คบอสัตบุรุษ ผู้ที่ฟุ้งซ่าน ทั้งวัน ทุกวัน
   5. ไม่ได้สร้างเสริม บารมี ทาน และ ธรรม
   6. ไมมีเป้าหมายในการภาวนา ปฏิบัติ
   7. มีเป้าหมายแอบแฝงในการภาวนา เช่น ยศเกรียติ ลาภสักการะ สรรเสริญ สุขปุถุชน 

    เป็นคำแนะนำจาก เมล ที่ เราก็ได้รับข้อความตอนปรึกษาธรรม กับพระอาจารย์ เพราะรู้สึกท้อแท้เหมือนกันว่าเราเองก็ไปวัดเป็นประจำ ฟังธรรมก็บ่อย ภาวนากรรมฐาน ทั้งนั่ง ยืน เดิน นอน แต่ก็ไม่รู้สึกว่า กิเลสมันจะยอมหายไปจากเรา บางครั้งก็ใจฟู บางครั้งก็ใจห่อเหี่ยว อันนี้เป็นกันทุกท่านทุกคน แต่ใครจะพ้นได้หรือไม่นั้น ครูอาจารย์ ท่านก็สอนแนะนำแล้วว่า ให้ไปกำหนด ทุกข์ ขึ้นมาก่อน เพื่อตามหาตนเอง และเป้าหมายในการภาวนา


   
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ตายอย่างมดปลวก

ผมพอใจที่จะขอตายอย่างนี้ จะเอาอะไรมากกับคนในโลกธรรมที่แปดเปื้อน
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

because

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 71
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ตายอย่างมดปลวก

ผมพอใจที่จะขอตายอย่างนี้ จะเอาอะไรมากกับคนในโลกธรรมที่แปดเปื้อน

   สมกับเป็น ศิษย์ ที่ช่วยดูแลเว็บนี้จริง ๆ คะ คุณธรรมธวัช ตอบได้อย่างที่พระอาจารย์บรรยายเลยคะ อัศจรรย์จริง ๆ คะที่มีศิษย์พระอาจารย์ตอบได้เหมือนพระอาจารย์ตอนบรรยาย

   สาธุ สาธุ สาธุ

   :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 02, 2012, 09:39:15 pm โดย whuchi »
บันทึกการเข้า

whuchi

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 80
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


เผยแพร่เมื่อ 14 พ.ค. 2012 โดย dhammawangso

เพลงปณิธานเพื่อการเผยแผ่พระกรรมฐาน
แสดงจุดยืน และ การทำงานของเรา แต่งเพลงนี้ออกมาเื่พื่อให้ศิษย์ทุกคนระลึกนึกถึง ปณิธาน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ แต่เราทำเพื่อให้ท่านได้มีโอกาสศึกษาภาวนา กรรมฐาน ในแนวทางกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ พอได้แต่งเพลงนี้ออกมาแล้ว ก็นับว่ามีบุญอยู่ มีผู้เข้ามาช่วยใส่ทำนองเพลงให้คือ คุณบุญญฤทธิ์ โสมรัตนานนท์ ช่วยใส่ทำนองและขับร้องให้
ก็เอาเป็นเพลงเปิดรายการในสถานี จึงได้จัดเป็นวีดีโอสำหรับ คนที่ต้องการนำไว้ฟังเพื่อได้ระลึกถึุงปณิธาน ที่อาจารย์ได้ดำเนินการเผยแผ่พระกรรมฐาน ด้วยการปิดทองหลังพระมาตลอด


อ่านพบใน Facebook ของ madchimaRDN มาครับ แต่เห็นในเว็บยังไม่มีนะครับ

 ขออนูญาต ได้ช่วยโพสต์ ครับ
 :c017: :25: :25: :25:

 copy ข้อความมาจาก ลิงก์นี้นะครับ
 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7624.0

อยากให้ทุกท่านฟังแล้ว จะเข้าใจ พระอาจารย์ว่าทำไมท่าน ปลีกวิเวกด้วยครับ
บันทึกการเข้า