ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ใครเป็นผู้ตั้ง ศาสนาพุทธ และ ใครเป็น ศาสดา ของศาสนา พุทธ คะ  (อ่าน 6203 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ก้านตอง

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 195
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ใครเป็นผู้ตั้ง ศาสนาพุทธ และ ใครเป็น ศาสดา ของศาสนา พุทธ คะ
  เมื่อเพื่อน ๆ ดิฉัน ถามดิฉัน อย่างนี้
     ดิฉันก็ตอบว่า พระพุทธเจ้า เป็นผู้ตั้งศาสนาพุทธ
                    ธรรมและวิันัย เป็นศาสดา ของศาสนาพุทธ

  เพื่อน ๆ ของดิฉัน ตอบมาว่า ดิฉันรู้อย่างนี้ คือไม่จริง
   ถามว่า ทำไม่ไม่จริง   เพื่อนตอบว่า พระพุทธเจ้า ไม่เคยตั้งศาสนา มีแต่พวกเราตั้งศาสนาขึ้นมากันเอง แท้ที่จริงแล้ว พุทธศาสนา ไม่มี
     ส่วนพระศาสดา นั้น พระพุทธเจ้าก็ไม่เคยตั้ง เป็นแต่พระอานนท์ และ พระสาวกที่ทำสังคายนา สรุปไว้ในพระไตรปิฏก

     แหมตอบอย่างนี้ ไม่รู้จะอธิบายกันอย่างไรต่อเลยคะ คือ หนึ่งเพื่อนไม่เชื่อ พระไตรปิฏก แต่เพื่อนเชื่อตามแนวอนุตรธรรมวิถี คะ เป็นสมาชิก รับธรรม อยู่คะ

    จะอธิบายอย่างไรดี คะ จะให้เข้าใจ ขอ คุณ nathaponson มาช่วยตอบเลยนะคะ

     :'( :smiley_confused1: :c017:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

อักษร หมู่ หมายถึง 'พระอนุตตรธรรมมารดา' ซึ่งเป็นพระเจ้าตามความเชื่อของอนุตตรธรรม

ลัทธิอนุตตรธรรม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ลัทธิอีก้วนเต้า (จีน: 一貫道 Yīguàn Dào) ในประเทศไทยเรียกว่าวิถีอนุตตรธรรม เป็นขบวนการศาสนาใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนราวคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีเนื้อหาคำสอนและความเชื่อที่ผสมกันระหว่างลัทธิขงจื๊อ ลัทธิเต๋า และศาสนาพุทธแบบจีน ทั้งยังยอมรับประเพณีนิยมที่มาจากต่างประเทศ เช่น ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลามด้วย

เมื่ออนุตตรธรรมได้เกิดขึ้นที่จีนแผ่นดินใหญ่แล้ว ก็ไปแพร่หลายที่ไต้หวันในทศวรรษ 1970 ในปัจจุบันเป็นความเชื่อที่มีผู้ศรัทธามากที่สุดเป็นอันดับสาม (รองจากศาสนาพุทธและศาสนาเต๋า) มีผู้ศรัทธาถึงสองล้านคนทั่วโลก ในปี 2002 มีผลสำรวจว่ามีศาสนิกชนถึง 845,000 คน มีสถานธรรมอยู่กว่า 31,000 แห่ง ในสาธารณรัฐประชาชนจีนยังไม่ได้รับการยอมรับ ส่วนไต้หวันเพิ่งได้รับรองในปี 1987

ปัจจุบันวิถีอนุตตรธรรมมีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ตั้งขึ้นปี ค.ศ. 1996



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
th.wikipedia.org/wiki/ลัทธิอนุตตรธรรม


     ปัญหาของคุณก้านตอง คือ ทำอย่างไร จะทำให้เพื่อนเชื่อว่า
     "พระพุทธเจ้าเป็น ผู้ประกาศสัทธรรม และเป็นผู้ประดิษฐาน 'พุทธศาสนาหรือธรรมวินัย' เอาไว้"
   
    ตามข้อมูลของคุณก้านตอง แสดงให้เห็นว่า
     เพื่อนคนนั้นไม่ได้ปฏิเสธการอุบัติของพระพทธเจ้า และไม่ได้ปฏิเสธพระไตรปิฎกซะทีเดียว
     แต่ข้องใจว่า คนตั้งพุทธศาสนาไม่ใช่พระพุทธเจ้า เป็นเพียงสาวกของพระพุทธเจ้าที่ตั้งศาสนาพุทธขึ้นเอง


     แนวคิดของเพื่อนคนนี้ ตามที่ผมเข้าใจ น่าจะมาจาก ความเชื่อของลัทธิอนุตตรธรรมที่ว่า
     "พระอนุตตรธรรมมารดา หรือ พระแม่องค์ธรรม เป็นผู้เปิดเผยธรรมะแก่ศาสดาทั้งหลาย"
     ดังนั้นผู้ตั้งศาสนาทุกศาสนาในโลกนี้ คือ พระอนุตตรธรรมมารดาองค์เดียวเท่านั้น(ไม่ใช่พระพุทธเจ้าหรือคนอื่นๆ)
     จะเห็นได้จาก การที่ลัทธิอนุตตรธรรมพยายามจะรวมคำสอนของ "พุทธ คริสต์ อิสลาม และอื่นๆ" เข้าด้วยกัน

     (ขอให้อ่านบทความข้างบนให้เข้าใจ)
    หากคิดแบบมี "อคติกับลัทธิอนุตตรธรรม" ก็ต้องกล่าวว่า ลัทธินี้เหมือนค้างคาว เป็นนกมีหู เป็นหนูมีปีก
     มีความพยายามที่จะบอกว่า "เราเข้าได้กับทุกศาสนา เราเป็นมิตร"


     ขอให้คุณก้านตอง ลองอ่านตารางเปรียบเทียบพุทธกับอนุตรธรรมดู
     จะเห็นว่า นี่มัน "มิจฉาทิฏฐิ ชัดๆ" อย่าไปยุ่งกับเค้าเลยครับ
     ส่วนดีเค้าก็มีอยู่ โดยเฉพาะเรื่องทานและศีล เค้าก็มีอยู่ระดับหนึ่ง


     การที่คนเราจะเปลี่ยนความคิดเห็นหรือทัศนคติใดๆ น่าจะมีผลมาจากการได้ปฏิบัติมากกว่า
     หากเพื่อนนี้ของคุณก้านตอง ปฏิบัติอยู่ในมรรคมีองค์แปด หากปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่อง
     เค้าจะเห็นผล และจะหันมาเชื่อเรื่องราวของพุทธศาสนาเอง

    ผมจำคำเทศน์ของหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ วัดสังฆทาน ได้ตอนหนึ่งว่า
     มีฝรั่งคนหนึ่งไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ แต่สนใจเรื่องสมาธิ มาให้ท่านสอน
     ปรากฏว่า หลังจากฝรั่งคนนั้นได้ทำตามคำสอนของท่านไประยะหนึ่ง ก็ทำสมาธิได้
     และเค้าก็เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ไปเอง โดยฝรั่งคนนั้นบอกว่า "ไม่รู้ทำไมจึงเชื่อ ไม่รู้เชื่อตั้งแต่เมื่อไหร่"


     หากคุณก้านเจอเพื่อนคนนั้นอีก ไม่จำเป็นต้องพูดหรืออธิบายอะไรให้มากความ
     ชวนเค้าปฏิบัติจะดีกว่า เค้าจะปฏิบัติหรือไม่อย่างไร ก็ปล่อยเค้าไป ให้ถือว่าหมดหน้าที่ของมิตรแล้ว
     
    "เค้าพูดก็ถูกของเค้า เราพูดก็ถูกของเรา เค้าเชื่อก็เรื่องของเค้า เราเชื่อก็เรื่องของเรา"
     "ตัวไม่ได้ติดกันซะหน่อย ไม่เห็นต้องเดือดร้อน"
     คำพูดเหล่านี้ ดูออกจะกวนๆ และไร้น้ำใจ แต่ถ้าเราปฏิบัติตามมรรคมีองค์แปดไประยะหนึ่ง
     จะพบว่า นี่คือ ความจริง ใครใคร่จะพ้นทุกข์ต้องดูที่กายและใจของตนเองเท่านั้น
     การส่งจิตออกนอกไปดูกายและใจของคนอื่น นักปฏิบัติธรรม เรียกว่า "ยังประมาทอยู่"


     ขอคุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ

      :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

vichai

  • ศิษย์ตรง
  • พอพึ่งพาได้
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 207
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เยี่ยมกับคำอธิบาย สมกับเป็น บัณฑิต ห้องส่งจิตออกนอก จริง ๆ ครับ

   สำหรับแนวความเขื่อ เรื่อง ศาสนาสากล มีเรื่องถกเถียงกันมาก
  แต่อยากให้ท่านย้อนกลับมาดู สาเหตุที่เรามาปฏิบัติธรรม ภาวนาธรรมกันดีกว่า ครับ ว่าเพราะอะไร ?
ผมอ่านบทความพระอาจารย์ ตั้งแต่ต้นพรรษามาท่านก็จะกล่้าวถึงเรื่องนี้ บ่อย ๆ นะครับ คือ การกำหนดเ้ป้าหมาย
ของการภาวนา และ เป้าหมายของพรหมจรรย์ของเราครับ

   โดยที่สุด ก็อย่างที่คุณ nathaponson กล่าวไว้นะครับ การส่งจิตออกนอกไปดูแต่คนอื่น นั้นบางครั้งก็เสียเวลาเหมือนกับว่าวันนี้ เราพยายามทำให้คนอื่นเชื่อ และทำตาม ทุกอย่างอยู่ที่วาสนา บารมีด้วยนะครับ

   ผมจำคำพระอาจารย์ที่ส่งเมล์ มาหาผมฉบับหนึ่งว่า

   "  อย่ามัวหาแสงสว่าง จากเทียน ในที่ๆ สว่างด้วยแสงอาทิตย์ เราเหมือนเทียน ที่ สว่างยามกลางวัน
     เรามีค่าก็เพียงแค่เทียน ที่เผาตัวเอง และ ไม่มีค่าใดที่เราต้องเปล่งแสง แต่หากเราเป็นเทียนที่ตั้งใน
     ที่เปิดเผย ก็ย่อมที่จะดับได้เพราะแรงลมฉันนั้น "


   ความหมาย ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ หรอกครับ แต่ผมเข้าใจว่า แสงเทียน ไม่มีค่า เมื่อ แสงอาิทิตย์ยังส่าดส่อง ก็เหมือนว่า ความรู้ที่เกิดเป็นปัจจัตตังในตัวเรานั้น อาจจะไม่สามารถ เทียบแรงศรัทธาของชนทั้งหลายที่ยังมีกำลังอยู่มาก น่าจะเป็นอย่างนี้ใช่หรือไม่ครับ

   
   
บันทึกการเข้า
มาศึกษาธรรมะ ครับ ยินดีรู้จักทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร ครับ
เครดิต คุณกบแย้มกะลา

ก้านตอง

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 195
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณกับข้อเปรียบ เทียบที่แสดงให้เห็น ซึงเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คะ เพราะเพื่อนดิฉันนั้นพยายามที่จะพูดให้ฟังว่า ทุกศาสนาล้วนกำเนิดจาก อนุตตรธรรมทั้งหมด ประมาณนี้จริง ๆ แต่อย่างไร ด้วยรวมก็เป็นปรัชญาแบบของเขาแต่ไม่ทำให้ศรัทธา ของเรา หวั่นไหวตามคะ

  ที่สำคัญเวลาเพื่อนดิฉันยก ก็จะยก พระจี้กง มาเป็นใหญ่ มากกว่า โดยไม่มีพระพุทธเจ้า พระอัครสาวกใด ๆ สำคัญกว่า พระจี้กง เพื่อน ๆ จะนับถือมาก คะ

   :c017:
บันทึกการเข้า

sinjai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 144
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ยุคนี้ต้องเชื่อ ตามพระไตรปิฏก ครับ เพราะว่า ผู้สืบทอดคำสอนของพระพุทธเจ้าได้เป็นผู้ สืบอายุพระพุทธศาสนา

   ใครเป็นผู้ตั้งพระพุทธศาสนา

       เจ้าชายสิทธัตถะ ตระกูล ศากยะ เป็นผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธ คำว่า ศาสนาแปลว่า คำสอน ที่พึ่ง พุทธะ ก็คือพระพุทธเจ้า ซึ่งการอุบัติของพระพุทธเจ้า ใช้เวลายาวนานมากถึงจะมี 1 พระองค์ ปัจจุบัน องค์ที่ 28
 
       เมื่อเจ้าชาย ตรัสรู้ ( คือ พระสัมมาสัมโพธิญาณ ) แล้วก็ขนานนามพระองค์ว่า พุทธะ ตถาคตบ้าง ไม่ได้เรียกตนเองว่านักบวช หรือเจ้าชายสิทธัตถะ

       สิ่งที่พระองค์ทำมาตลอด 45 พรรษา ก็คือการเผยแผ่พระธรรม

       ใครเป็นผู้ก่อตั้ง พระพุทธศาสนา ก็คือ พระพุทธเจ้า ได้แต่งตั้ง ดำรัสไว้ใน มหาปรินิพพานสูตร มีใจความว่า  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมและวินัย จักเป็น ศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย   ดังนี้
   
       นี่คือพระดำรัสแต่งตั้ง พระธรรม และ พระวินัย  สองพระนี้เป็นศาสดา ดังนั้นทั้งสองอย่างต้องสอดคล้องกัน จึงเรียกว่า พระศาสดาของศาสนาพุทธ


    จบข่าว.....

    :)     
บันทึกการเข้า

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา กับคำตอบของทุกท่าน ครับ แต่แท้จริง อยู่ที่การกำหนดเป้าหมาย จริง ๆ ครับ
  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

ทินกร

  • ถวายชีวิตเพื่อพุทธศาสน์
  • ผู้บริหารเว็บ
  • มีเหตุมีผล
  • *
  • ผลบุญ: +17/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 365
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
มิจฉาทิฐิของพวกเค้า  อย่าทำให้เกิดความลังเล สงสัย เป็นเครื่องขัดขวางการเจริญปัญญา
พระพุทธเจ้า มีมาหลายพระองค์อันนับไม่ถ้วน ตามที่พระองค์ทรงตรัส
พระธรรม ไม่ใช้สิ่งที่พระองค์คิดเอาเอง แต่พระองค์ทรงค้นพบ แล้วนำมาประกาศ
พระอริยะสงค์ เป็นผู้สืบทอด ปฏิบัติ และเผยแผ่ สัจธรรม นั้น
ผมคิดเอาองค์ และ ศรัทธา อย่างยิ่ง ว่าผู้ใด ยึดถือและปฏิบัติตาม ยอมเห็นผลได้จริง มีความสุข มีความเจริญ
บันทึกการเข้า
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

www.madchima.org
http://saraburisat.ps-satcom.com รับติดตั้งจานดาวเทียมครับ
http://www.yutyaplaza.com ลงประกาศฟรี ของชาวอยุธยา