ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มรณานุสสติ เมื่อเจริญ แล้วต้องไม่เกิดการท้อแท้ใจ นะจ๊ะ  (อ่าน 4437 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ตอบจดหมาย จากเมล
ปุจฉา

 หลังจากที่โยมได้เจริญ มรณานุสสติ คือระลึก ถึงความตายแล้ว รู้สึกท้อแท้จริง ๆ คะว่า เราเองต้องตาย จะสร้าง จะทำ จะภาวนาอะไร ไปทำไมเพื่ออะไร ในเมื่อเราก็จะตายแล้ว โยมจึงรู้สึกว่าคลายจากความขยัน รวมทั้งในอาชีพ และ การภาวนาด้วย เพราะเห็นว่า เราตายไปก็ไม่ได้อะไร ไม่รู้จะหา หรือ ทำไปเพื่ออะไรกันแน่

  ท้อแท้จริง ๆ โยมท้อแท้ มาก ๆ ขอพระคุณเจ้า ช่วยชี้แนะด้วยคะ ว่าควรทำอย่างไรดีคะ

ขอบคุณมากคะ

วิสัชชนา

  การเจริญนึกถึงความตายนั้น สำหรับ ปุถุชน ก็มีดี อยู่แต่ถ้าเจริญไม่เป็นก็จะไม่ได้ประโยชน์ อะไรเลยจากการเจริญ เพราะกระทำให้ใจเกิดความท้อแท้ ไม่อยากจะสู้ชีิวิต หรือ ทำอะไรในชีิวิต ซึ่งผลอย่างนี้เป็นการเจริญที่ผิด ไม่ถูกทางแล้ว

  ดังนั้นจะบอกอารมณ์ ของการเจริญมรณานุสสติ ที่ถูกต้องก่อน

  เมื่อผู้เจริญมรณานุสสติ ระลึกถึงความตาย อยู่เนืองนิตย์ จะมีอารมณ์ดังนี้
  1.จะเห็นความสำคัญของช่วงเวลาที่ยังมีชีิวิตอยู่ จักรีบขวนขวาย กิจที่ควรทำอย่างด่วน
  2.เมื่อเจริญอยุ่ในใจโดยแยบคายแล้ว จิตจักปล่อยวางในเรื่องที่ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา เป็นส่วนหนึ่งให้จิตละสักกายทิฏฐิได้
  3.ย่อมตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ขาดสติ
  4.ย่อมเลือกและกระทำในสิ่งที่มีคุณค่า มากที่สุดในชีิวิต
  5.ย่อมเกิดความสลดใจ และปล่อยวาง เมื่อความตายมาถึง และ เมื่อเกิดแก่ใครย่อมเห็นธรรมสังเวชว่า เป็นธรรมดาอย่างนั้น นั่นเอง
  6.ย่อมมองเห็นภัยในวัฏฏะสงสาร เพราะการตาย นั้นมาคู่กับการเกิด
 

   วิธีเจริญความตาย

   1.ท่องบ่น สาธยาย ว่าเรา มีความตายเป็นธรรมดา ให้เห็นว่าเป็นธรรมดา ( ไม่ใช่ไปท่องว่า เราตายแน่ ๆ อย่างนี้ไม่ได้เป็นโทษ )
   2.เจริญไว้ในใจโดยแยบคาย นอกจากเรา แล้ว คนอื่น ก็มีความตายเป็นธรรมดา เช่นเดียวกัน
   3.กระทำให้ไว้ในใจมากขึน ว่า ความตายอันจักมีแก่เรา นั้นมีแน่นอน แต่ไม่แน่นอนเรื่องเวลา จะตายวัน ตายพรุ่ง ก็เป็นได้ทั้งนั้น กิจอันใดที่ยังไม่ได้ทำ และเป็นกิจที่ควรทำเราจักทำกิจนั้น ๆ

   3 วิธีนี้เป็นการเจริญแบบ วิปัสสนา นะจ๊ะ เหมือนการท่องบ่น

     การเจริญของสมถะ มีรูปแบบต่างหาก แต่ต้องอาศัย อุปจาระสมาธิ หรือ ผลสมาบัติด้วย จึงจะกระทำได้
     ดังนั้นการเจริญกรรมฐาน อนุสสติ ส่วนนี้จึงเป็นส่วนของพระโสดาบันขึ้นไป จึงจักเจริญได้ขึ้นใจ กล่าวว่าพระโสดาบัน ระลึกถึงความตายได้อย่างน้อยวันละครั้ง ส่วนปุถุชนทั่วไป นั้นทำไม่ได้ทุกวัน จึงต้องมีการท่องสาธยาย กันอย่างบท อภิณหปัจจเวกขณเป็นต้น
     
 
   เอา 3 วิธีนี้ก่อน ส่งเสริมกรรมฐาน เป็นอย่างดี นะจ๊ะ
   เจริญธรรม / เจริญพร



 
ขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cheevaprapha&date=21-02-2008&group=1&gblog=56
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2012, 05:18:15 pm โดย kira-d-note »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2012, 03:42:00 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

kira-d-note

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 119
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา สาธุ คะ
   :25:
บันทึกการเข้า
แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ตาย...........คลาย
    อิตถีชาย เกิดแล้ว มิแคล้วตาย   

ด่วนขวนขวาย กิจเร่ง เพียรกุศล

อย่าเที่ยวท้อ เมินงาน พล่านสารวน

ชีพจักหม่น มิจฉา มิใช่ธรรม

จงพินิจ สุขุม รู้วางใจ

เขาเราใช่ เปรียบค้าน พาลถลำ

ผิดพลั้งพลาด ฤาขลาด รู้จารจำ

ชีพหน่วงนำ อยู่ยล แต่เพียงพอ

สลดเศร้า วางได้ เมื่อตายมี

อื่นจากนี้ ยากยื้อ มิขืนขอ

ท้ายเห็นภัย วัฏฏะ ตายเกิดท้อ

เพียรยลย่อ เพียงตาย นี่คลายใจ.



                                                                                                                   ธรรมธวัช.!



http://www.sookjai.com/index.php?topic=1413.0               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2012, 06:03:43 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
บทพิจารณาสังขาร

สัพเพ สังขารา อะนิจจสังขารคือร่างกายจิตใจ แลรูปธรรมนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น มันไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วดับไป มีแล้วหายไป

สัพเพ สังขารา ทุกขา
สังขารคือร่างกายจิตใจ แลรูปธรรมนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น มันเป็นทุกข์ทนยาก เพราะเกิดขึ้นแล้ว แก่เจ็บตายไป

สัพเพ สังขารา อะนัตตา
สังขารคือร่างกายจิตใจ แลรูปธรรมนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ควรถือว่าเราว่าของเราว่าตัวว่าตนของเรา

อะธุวัง ชีวิตัง
ชีวิตเป็นของไม่ยั่งยืน

ธุวัง มะระณัง
ความตายเป็นของยั่งยืน

อะวัสสัง มะยา มะริตัพพัง
อันเราจะพึงตายเป็นแท้

มะระณะปะริโยสานัง เม ชีวิตัง
ชีวิตของเรามีความตายเป็นที่สุดรอบ

ชีวิตัง เม อะนิยะตัง
ชีวิตของเราเป็นของไม่เที่ยง

มะระณัง เม นิยะตัง
ความตายของเราเป็นของเที่ยง

วะตะ
ควรที่จะสังเวช

อะยัง กาโย
ร่างกายนี้

อะจิรัง
มิได้ตั้งอยู่นาน

อะเปตะวิญญาโณ
ครั้นปราศจากวิญญาณ

ฉุฑโฑ
อันเขาทิ้งเสียแล้ว

อะธิเสสสะติ
จักนอนทับ

ปะฐะวิง
ซึ่งแผ่นดิน

กะลิงคะรัง อิวะ
ประดุจดังว่าท่อนไม้และท่อนฟืน

นิรัตถัง
หาประโยชน์มิได้

อนิจจา วะตะ สังขารา
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ

อุปาทะวะยะธัมมิโน
มีความเกิดขึ้นแล้ว มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา

อุปปัชชิตตะวา นิรุชฌันติ
ครั้นเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป

เตสัง วูปะสะโม สุโข
ความเข้าไปสงบระงับสังขารทั้งหลาย เป็นสุขอย่างยิ่ง ดังนี้

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

มะรันติ จะ มะริงสุ จะมะริสสะเร

ตายแล้วด้วย กำลังตายอยู่ด้วย และจะต้องตายอยู่ด้วย

ตาเถวาหังมะริสสามิ
เราก็จะต้องตายอย่างนั้นเหมือนกัน

นัตถิเม เอถะ สังสะโย
ความสงสัยในเรื่องตายนี้ ย่อมไม่มีสำหรับเรา...
[/size]
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มาสนับสนุน ครับ
 
สอนตนเองให้ได้  โพสต์โดย คุณ nathaponson
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5636.0

  เป็นเนื้อเรื่อง เกี่ยวกับ ธิดาช่างหูก ที่คนทั่วไปมองว่า พูดเล่นลิ้น เล่นสำนวน กับพระพุทธเจ้า ครับ

บันทึกการเข้า