ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไพรพัฒนา..ระลึก “ปู่สรวง” จัดกิจ “กตัญญู”ในสงกรานต์  (อ่าน 1159 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ไพรพัฒนา..ระลึก “ปู่สรวง” จัดกิจ “กตัญญู”ในสงกรานต์

เมษายน...เดือนแห่ง ความกตัญญู...!!

แม้ว่า...ไทยเราจะยกให้ วันมาฆบูชา เป็นวัน “กตัญญูแห่งชาติ” ตามประกาศของรัฐมาตั้งแต่ปี 2549 แต่ก็ยังยึดเอาคาบเวลาของ เมษายนถือปฏิบัติในการแสดงถึงความกตัญญู...อย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม

+ + +

เริ่มต้นเดือน...5 เมษายนชนไทยเชื้อสายแผ่นดินใหญ่ ก็พาลูกจูงหลานไป “เช็งเม้ง” นำสิ่ง ของไป เซ่นไหว้ ณ ฮวงจุ้ยของบรรพบุรุษ อันเป็น การแสดงออกถึงสัญลักษณ์ความ กตัญญูตามวัฒน-
ธรรมจีน

ถัดมาอีกสัปดาห์....ย่างเข้าสู่สงกรานต์ 13 ถึง 15 เมษายน และใน 3 วันนี้ก็มีการแยกแยะในความสำคัญแต่ละวัน ก็ยังไม่พ้นถึงการ แสดงออกถึงความกตัญญู อย่างวันที่ 13 เป็น วันผู้สูงอายุฯ ลูกหลานก็จะให้ความสำคัญแก่ญาติผู้ใหญ่ รุ่งขึ้นเป็น วันครอบครัว ต่างก็กลับมาบ้านเกิดเมืองนอนสร้างความอบอุ่นให้กับวงศาคณามิตร....ก็เป็นการ แสดงออกถึงความกตัญญู


+ + +

เช่นกัน....ช่วงสงกรานต์ ชาวอีสาน ที่ทำมาหากินในต่างแดน จะพากันด้วยการกลับถิ่นฐานร่วมกิจประเพณี รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระคล้ายกับชาวเหนือ แต่จะมีเกร็ดออกไปอีกนิดด้วยการทำบุญอัฐิบรรพบุรุษ เรียกว่า “สักอนิจจา” แสดงออกถึงความกตัญญูต่อบรรพชน

การแสดงออกถึง ความกตัญญูมิใช่เฉพาะทำกันในครัวเรือน เท่านั้น อาจขยายการจัดขึ้นตาม ศาสนสถาน หรือ วัดวา อาราม อย่างเช่น วัดไพร- พัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ ทุกๆปีในช่วงสงกรานต์จะจัดกิจให้ศิษยานุศิษย์ได้แสดง ออกถึงความกตัญญูมาโดยตลอด และต่อเนื่อง...

+ + +


หลวงพ่อพุฒ

วัดไพรพัฒนา...เดิมเป็นแค่สำนักสงฆ์ของหมู่บ้านชายแดนในเขตพื้นที่สีชมพู (คอมมิวนิสต์) แต่ก็มีพระสงฆ์จำพรรษาเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2526 ซึ่งก็มุ่งหวังจะพัฒนาเป็นวัดแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยปัญหาทางการเมือง

เมื่อ...หลวงพ่อพุฒ วายาโม (ปัจจุบันในฐานะ “พระครูโกศลสิกขกิจ”) มาจำพรรษาในปี 2530 ในฐานะพระลูกวัดได้ พัฒนาสะสางอุปสรรคต่างจนได้รับความสำเร็จเป็นวัดอย่างถูกต้อง ในปี 2550

หลวงพ่อพุฒ...ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสอย่างเป็นทางการในปีเดียวกัน (ก่อนหน้านั้น “หลวงปู่สรวง” เป็นเจ้าอาวาส) และศาสนสถานแห่งนี้ก็เป็นที่ ประดิษฐานสรีระสังขารอันไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวง ด้วย

+ + +


หลวงปู่สรวง...ถือเป็น เกจิอาจารย์ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาต่อชนชาวอีสานตอนล่าง อย่างสูงตั้งแต่เมื่อครั้งยังมีชีวิตและถึงจะ มรณภาพไปแล้วเกือบ 2 ทศวรรษก็ยังมิเสื่อมคลาย

ด้วยที่เป็นคนสันโดษ เงียบสงบ พูดน้อย จึง ไม่ค่อยจะมีใครรู้ถึงความเป็นมาของหลวงปู่สรวง เท่าใดนัก มา รู้จักกันก็ในรูปของนักบวชเชื้อสายเขมร ธุดงค์ตามเทือกเขาพนมดงรัก ข้ามไปมาระหว่าง 2 ประเทศ ชาวบ้านเรียกขานท่านตามภาษาเขมรว่า “ลูกเอ๊าะเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” (...หมายถึงพระดาบสผู้รักษาศีลและมีเมตตาธรรมสูง...)...แต่คนไทยเรียก “หลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน”

ซึ่ง...หากพบกับชาวบ้าน ท่านมักจะพูดและสอนว่า...“ออย เตียน สรู ตึ๊กเจย (แปลว่าให้มีสุขสบาย ข้าวดีน้ำดี อุดมสมบูรณ์ด้วยความพอเพียง)

+ + +


หลวงปู่สรวง เมื่อครั้งยังมีชีวิต

ตลอดระยะเวลา...หลวงปู่สรวงจะจำวัด ณ สำนักสงฆ์แห่งหมู่บ้านไพรบึงน้อย (วัดไพรพัฒนาปัจจุบัน) กับ กระท่อมหลังเล็กๆทั่วไปตามหัวไร่ปลายนา อยู่อย่างง่ายมีเพียงแผ่นไม้กระดานไม้ปูนอนก็เป็นที่พอใจ ส่วนใหญ่มักจะชอบป่าเขาลำเนาไพรมากกว่าในชุมชน

...ทุกแห่งที่หลวงปู่จำวัด จะปักเสาไม้ไผ่ตั้งลำไว้ให้เห็นอย่างเด่นชัด และเอาเชือกผูกโยงระหว่างกระท่อมกับเสาหรืออาจเป็นต้นไม้ในบางครั้ง แล้วจะ แขวนว่าว ขนาดใหญ่ทำด้วยจีวรหรือกระดาษ ผูกไว้เป็นสัญ– ลักษณ์ ที่สำคัญคือจะสุมกองไฟไว้ตลอดเวลา ไม่ว่ากลางวัน หรือกลางคืนและจะถือปฏิบัติเฉกนี้เป็นเอกลักษณ์

หลวงปู่สรวง...กระทั่ง 8 กันยายน 2543 มีอาพาธ ศิษยานุศิษย์ได้นำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ หลวงปู่ได้ละสังขารก่อนถึงจุดหมาย (ก่อนสำนัก สงฆ์จะเป็นวัด 6 ปี)

+ + +


หลวงปู่สรวง...เป็นอริยสงฆ์ที่มีพลังบารมีธรรมในขั้นสูงรูปหนึ่ง แม้มิสำแดงตนในอิทธิปา-ฏิหาริย์ แต่ก็มีบางรายได้สัมผัสในความศักดิ์สิทธิ์ แล้วมาเล่าขานจากปากต่อปากจนเป็นที่เลื่องลือเลื่อมใส

ในอดีตที่ผ่าน...เมื่อครั้งยังมีชีวิตได้ออกวัตถุมงคลหลายรุ่น และเมื่อละสังขารแล้วเหล่าศิษยานุศิษย์ก็มีการสร้างขึ้นมาเช่นกัน ซึ่ง วัตถุมงคลของหลวงปู่โดดเด่นตามคำอธิษฐาน ด้านเมตตามหานิยม มีโชคลาภในเชิงธุรกิจ แคล้วคลาดปลอดภัย หนุนดวง ชะตา คงกระพันชาตรี แก้อาถรรพณ์ คุณไสย ป้องกันผีสางนางไม้ ป้องกันฟ้าผ่า ป้องกันไฟไหม้...ฯลฯ

โดย...วัตถุมงคลตามแนวของหลวงปู่นั้นจะสร้าง ตามศรัทธา....มิใช่พุทธพาณิชย์


เหรียญเศรษฐีอุดมทรัพย์

+ + +
ทุกปี...ช่วงสงกรานต์ “หลวงพ่อพุฒ” จัด กิจกตัญญูครูบาอาจารย์โดยดำเนินการบรรพชาอุปสมบทหมู่ทั้งไทย-กัมพูชา บวชเนกขัมมะบารมี ปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน ถือศีล สรงน้ำพระ เปลี่ยนผ้าไตรสังขารหลวงปู่สรวง ปีนี้จัดขึ้น 5 ถึง 15 เมษายน (พญาวัน)...ซึ่งเริ่มงานไปเมื่อวันวานอันเป็น “วันเช็งเม้ง”

พรุ่งนี้ (7 เม.ย.) เปี่ยมด้วยจิตกตัญญู ร่วม เปลี่ยนผ้าไตรสังขารหลวงปู่สรวง

และ...12 เมษายน ฤกษ์ดีก่อนย่างเข้าวันตรุษ จึงจัดพิธี สรงน้ำพระ พร้อม พุทธาภิเษก วัตถุมงคลหลวงปู่สรวง รุ่นอุดมทรัพย์กับ เศรษฐีอุดมทรัพย์

+ + +


พิธีกรรมการสร้างและปลุกเสก...หลวงพ่อพุฒจัดตามแนวทางหลวงปู่เสี้ยมสอน ไว้ในแต่ละขั้นตอนและวัตถุประสงค์ (ครั้งยังมีชีวิตได้ถ่ายทอด วิชาอาคม พิธีกรรมต่างๆให้กับหลวงพ่อพุฒ เพื่อนำมาสืบต่อ)

จากนั้น “วันสูงอายุแห่งชาติ”...ก็จ่ายแจกผู้มีจิตศรัทธาร่วมพัฒนาศาสนสถาน “ ไพรพัฒนา”...!!



ศพหลวงปู่สรวงไม่เน่าเปื่อย

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/414731
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ