ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระ-นิสิต ป.เอก 'มจร' ช่วยชาวบ้าน "ดำนา" ยึดพอเพียง (ชมภาพ)  (อ่าน 872 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระ-นิสิต ป.เอก 'มจร' ช่วยชาวบ้าน "ดำนา" ยึดพอเพียง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ย.2557 พระครูปริยัติกิตติธำรง ผศ.คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตติปญโญ ผอ.หลักสูตรพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต  สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม ผอ.หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา น.ท.หญิง ศรีพนา ศรีเชื้อ พร้อมพระนิสิตปริญญาเอกและนักศึกษาปริษาเอกจำนวน 88 รูป/คน ร่วมโครงการเศรษฐกิจพอเพียงด้วยวิถีชาวบ้าน ลงดำนาปลูกข้าว ที่แปลงนา หมู่ 3 ต.บางกระบือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้ มจร เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างเครือข่ายที่จะก่อให้เกิดประโยชน์เพื่อการพัฒนาในสาขาอาชีพ การศึกษา ความปรองดอง และความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้นักนิสิตสามารถน้อมนำแนวทางการดำเนินชีวิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยวิถีชาวบ้านและเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยในฐานะที่อยู่ในสถาบันเดียวกัน




ด้าน ผศ.ดร.สุรพล กล่าวว่า เพื่อเป็นการจัดการความรู้เกี่ยวกับการทำนาทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การผลิตเบื้องต้น ปลูกข้าวไปจนถึงขบวนการการเก็บเกี่ยวข้าว เนื่องจาก มจร เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่มีคำสอนพระพุทธศาสนา จึงผนวกกับการหาองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนามีมุมมองต่อการทำนาของเกษตรกรชาวนาอย่างไร

แต่หลักสำคัญก็คือ ตามแผนพัฒนาเศษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่องโครงการเศษฐกิจพอเพียงตามแนวราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญยิ่ง วิถีชีวิตของชาวนาเป็นวิถีชีวิตแบบเศษฐกิจพอเพียง เป็นการน้อมนำพระราชดำริไปปฏิบัติ ปีนี้มหาวิทยาลัยของเรานั้นโชคดี คือมีนิสิตชาวนามาเรียนปริญาเอก เพราะฉะนั้นองค์ความรู้ของชาวนาเขามีเต็มที่




     "สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ เป็นสาขาวิชาที่เป็นสหวิทยาการ คือเรียนความรู้หลากหลาย จากหลายองค์ความรู้ การเรียนความรู้ในปัจจุบันหากเรายึดติดกับเพียงแค่ในตำราที่เราเรียนอย่างเดียว โดยที่ไม่ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงจากพื้นที่หรือจากแหล่งความรู้จริงๆ ก็จะมีความรู้ที่น้อย ดังนั้นการให้นิสิตไปลงพื้นที่โดยตรง เขาจะได้ซาบซึ้งว่าการบวนการเริ่มการผลิตข้าว การทำนา การเก็บเกี่ยว ซึ่งกระบวนการทุกอย่างที่ได้รับรู้จากชาวนาโดยตรง ตนเองคิดว่านี้จะเป็นองค์ความรู้จริงๆที่นิสิตจะได้รับจากการได้ลงมือปฏิบัติเอง

     รวมถึงรับรู้สาเหตุที่ทำไมชาวนาถึงเป็นหนี้ ทำไมชาวนาปลูกข้าวแล้วได้ผลผลิตน้อย จำนำราคาข้าวดีหรือประกันราคาข้าวดี เราเข้าไปถามจากชาวนาเลย ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้เป็นองค์ความรู้ที่นิสิตปริญญาเอกบางส่วนเป็นข้าราชการ เป็นพระที่อ่านแต่ตำรามาเยอะ แต่ไม่เคยปฏิบัติจริง เมื่อได้ลงไปสัมผัสจริงก็จะทราบถึงปัญหา เพื่อที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ ไปเผยแพร่ต่อจะเกิดประโชยน์อย่างแท้จริง"
ผศ.ดร.สุรพล กล่าว




พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์  กล่าวว่า ซึ่งมหาวิทยาลยสงฆ์เป็นมหาลัยทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพราะมหาวิทยาลัยสงฆ์มีการบูรณาการกับศาสน์สมัยใหม่ โดยสาขาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คือศึกษาทั้งการบริหารและการพัฒนา รวมถึงเศษฐกิจพอเพียงตามแวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เน้นการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ที่ผ่านมามีชาวต่างชาวเข้ามาศึกษาสังคมไทย

โดยเขากล่าวว่า สังคมไทยเราทันสมัยแต่ไม่พัฒนา หมายถึงเรามีความเจริญในเรื่องของวัตถุมากมาย เพียงแต่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสังคมไทยจริง นั้นก็คือ สังคมเกษตรกรรม อย่างนิสิตสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ในปีนี้มีตัวแทน คือชาวนาได้เข้ามาศึกษาร่วมกับพระสงฆ์ และข้าราชการ หลากหลายหน่วยงาน ซึ่งเราจะได้เรียนพื้นฐานการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน การทำนาสามารถส่งผลต่อการพัฒนาประเทศได้อย่างไร หากเราสามารถพัฒนาประเทศให้อยู่บนพื้นฐานที่แท้จริง ซึ่งเป็นการยืนอยู่บนขาของตนเอง




  "หลายฝ่ายที่ร่วมกันในครั้งนี้ อยากจะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ได้เรียนรู้จากการฝึกหัดขัดเกลาจริงๆ ด้านหลักพระพุทธศาสนา มี ปฏิยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวท โดยปฏิยัติคือเรียนในชั้นเรียน ปฏิบัติคือการลงมือทำจริง และปฏิเวทคือการได้รู้ผลจากการลงมือปฏิบัติ ง่ายๆคือการเรียนรู้ปฏิบัติและสัมผัสผล ทำให้นิสิตซาบซึ้งว่า ข้าวทุกจานอาหารทุกอย่างที่เราได้กิน มาจากความทุกข์ยากลำบากขนาดไหน และจะนำไปสู่การเห็นอกเห็นใจและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมไทยต่อไป" พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ระบุ



ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net/detail/20141114/195914.html
ขอบคุณภาพจาก www.dailynews.co.th/Content/Article/280844/ดำนา (ภาพโดย แสงกฤช จิตสว่าง)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ