ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วันอาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา สองวันสำคัญทางศาสนาพุทธ  (อ่าน 2083 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28444
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 

วันอาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา สองวันสำคัญทางศาสนาพุทธ
 
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ และวันหยุดราชการในประเทศไทย คำว่า "อาสาฬหบูชา" ย่อมาจาก "อาสาฬหปูรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ" ตรงกับวันเพ็ญ เดือน ๘ ตามปฏิทินจันทรคติของไทย (ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗)
   
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรก (ปฐมเทศนา) คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่ปัญจวัคคีย์
   
การแสดงธรรมครั้งนั้น ทำให้พราหมณ์โกณฑัญญะ ๑ ใน ๕ ปัญจวัคคีย์ เกิดความเลื่อมใสในพระธรรมของพระพุทธเจ้าจนได้ "ดวงตาเห็นธรรม" หรือบรรลุเป็นพระอริยบุคคลระดับโสดาบัน จึงขออุปสมบทในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ด้วยวิธี "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" (หมายถึงพระพุทธเจ้า บวชให้โดยตรง)


 :25: :25: :25:
   
พระอัญญาโกณฑัญญะ จึงนับเป็นพระสงฆ์รูปแรกในศาสนาพุทธ และด้วยเหตุที่ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล (อนุพุทธะ) เป็นคนแรก จึงทำให้ในวันนั้นมี "พระรัตนตรัย" ครบองค์ ๓ บริบูรณ์เป็นครั้งแรกในโลก คือ มีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

สิ่งที่ชาวพุทธควรปฏิบัติใน "วันอาสาฬหบูชา" คือ ทำบุญตักบาตร เข้าวัดทำบุญกุศล สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ฟังพระธรรมเทศนา เวียนเทียนรอบโบสถ์ (หรือเจดีย์) อันเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าโดยตรง





วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์จะอธิษฐานว่าจะพำนักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝน เป็นระยะเวลา ๓ เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น ที่เรียกว่า "จำพรรษา"
 
พิธีเข้าพรรษา ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม โดยเริ่มนับตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ของทุกปี (หรือเดือน ๘ หลัง ถ้ามีเดือน ๘ สองหน) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือ "วันออกพรรษา"
 
สาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงกำหนดให้พระสงฆ์จำพรรษาอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอด ๓ เดือนนั้น ก็เพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการจาริกเผยแผ่ศาสนาไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งการเดินทางจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน และเพื่อป้องกันความเสียหายจากการเดินเหยียบย่ำธัญพืชของชาวบ้านที่ปลูกลงแปลงในฤดูฝน รวมทั้งการไปเหยียบย่ำสัตว์เล็กสัตว์น้อยโดยไม่ตั้งใจก็ได้

   



นอกจากนี้การจำพรรษาตลอด ๓ เดือน จะเป็นโอกาสสำคัญที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ด้วยกัน
   
สิ่งที่ชาวพุทธควรปฏิบัติใน "วันเข้าพรรษา" คือ ทำบุญถวายเทียนพรรษา (หรือหลอดไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ) ผ้าอาบน้ำฝน ตลอดจนเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับพระสงฆ์

ส่วนกิจกรรมในระหว่างเข้าพรรษา คือ เข้าวัดฟังพระธรรมเทศนา ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิภาวนา งดเว้นสิ่งอบายมุขทั้งปวง อาทิ เหล้า บุหรี่ การพนัน ฯลฯ...สำหรับปีนี้ "วันเข้าพรรษา" ตรงกับ วันเสาร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140710/187938.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2014, 06:06:37 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

nongyao

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 380
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
กราบนอบน้อมพระพุทธเจ้าอันเป็นอดีต อนาคต แลปัจจุบัน ด้วยเศียรเกล้า
                 พุทธัง  ธัมมัง  สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
                       
                         ข้าพเจ้าจักขอทำเหตุที่ดี