สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ธรรมะสาระ => บทสวดมนต์ มนต์พิธี => ข้อความที่เริ่มโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 24, 2011, 07:19:33 am



หัวข้อ: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 24, 2011, 07:19:33 am
บทสวดภาณยักษ์
http://www.youtube.com/watch?v=-cTbcu5Ot0E# (http://www.youtube.com/watch?v=-cTbcu5Ot0E#)


ขอเชิญทุกท่านร่วมกันสวด เพื่อให้บ้านเมืองพ้นภัย ครอบครัวพ้นภัย

บทนี้มีอีกชื่อว่า บทอาฏานาติยสูตร

เจริญพร

 ;)


หัวข้อ: ผู้เจริญพุทธานุสสติ กรรมฐาน พึงเจริญบทสวด อาฏานาติยะสูตร เถิด
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ มิถุนายน 13, 2011, 09:04:41 am
บทสวดภาณยักษ์ เป็นบทสวด ที่ดีมากอีกบท ผู้ใดได้ฝึกภาวนา พุทธนุสสติกรรมฐาน พึงได้สวดทุกวันให้ขึ้นใจ
ในบทสวดนี้ เป็นการกล่าวสรรเสริญ คุณของพระพุทธเจ้า ทั้งกัปป์นี้ และ บรรดาพระพุทธเจ้าอีก 28 พระองค์

เหล่าเทวดา ที่คอยปกปักษ์รักษา พระพุทธศาสนา

และผลของการภาวนา

ผลของการทำบุญ เจริญ ธรรม 4 ประการ

ดังนั้น ผู้ใดใคร่ฝึก พระพุทธานุสสติ กรรมฐาน มีเทวดาช่วยรักษา พึงหมั่นสวดบทนี้

บทสวดนี้แม้ผู้คนเรียกว่า บทสวดภาณยักษ์ แต่ ชื่อบทสวดนี้จริง ๆ ชื่อว่า พระอาฏานาติยะสูตร

ส่วนเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกันนั้น วานผู้รู้ที่ทราบ ช่วยโพสต์ต่อด้วยนะจ๊ะ


หัวข้อ: เนื้อเรื่อง อาฏานาฏิยปริตร
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ มิถุนายน 13, 2011, 09:45:15 am
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม ที่ลิงก์ นี้นะ ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ แต่ก็พอได้อรรถสาระบ้าง

(http://www.bloggang.com/data/p/prommayanee/picture/1251949724.jpg)

http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=203 (http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=203)





หัวข้อ: Re: "ท้าวเวสสุวรรณ" ควรใส่ใจมีไว้ในเรือน
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ มิถุนายน 18, 2011, 04:38:27 pm
"ท้าวเวสสุวรรณ"     เทพเจ้าแห่งขุมทรัพย์ ผู้เป็นใหญ่เหนือเหล่าภูติผีวิญญาณ
(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQGX6B3lbDHIkr2VKlk8R4g0p_pt7-MsCfeeVpLngHJstS-GAER2A)          (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQGX6B3lbDHIkr2VKlk8R4g0p_pt7-MsCfeeVpLngHJstS-GAER2A)          (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQGX6B3lbDHIkr2VKlk8R4g0p_pt7-MsCfeeVpLngHJstS-GAER2A)          (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQGX6B3lbDHIkr2VKlk8R4g0p_pt7-MsCfeeVpLngHJstS-GAER2A)
http://www.youtube.com/watch?v=8NCBZlIFDuY# (http://www.youtube.com/watch?v=8NCBZlIFDuY#)



http://www.siristore.com/Products/51_LPFooWesuwan_1.asp


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ มิถุนายน 18, 2011, 05:17:55 pm
เมื่อก่อนคิดว่า การบูชา กราบไหว้ ท้าวเวสสุวรรณเป็นเรื่องงมงาย พอได้ฟังประวัติที่ไปที่มาแล้ว รู้สึกนับถือมากขึ้นจริง ๆ  :d030:


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: KIDSADA ที่ มิถุนายน 18, 2011, 08:28:06 pm
อ่านติดตามเนื้อหา แล้วอยากได้บูชาที่บ้านสักองค์ ครับ

 :25:


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: juntra ที่ มิถุนายน 19, 2011, 05:45:35 am
การบูชา เวสสุวรรณ เมื่อก่อนคิดว่าเป็นเรื่องงมงาย

แต่พอได้ติดตามบทความในนี้แล้ว จึงทราบได้ว่า

ท้าวเวสสุวรรณ เป็นผู้ภาวนาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ด้วย...

สาธุ สาุธุ กับเนื้อหาที่นำมาเสนอ คะ

 :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 19, 2011, 02:17:00 pm

อาฏานาฏิยสูตร อยู่ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

สนใจอ่าน คลิกลิงค์ข้างล่างเลยครับ


เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  บรรทัดที่ ๔๒๐๗ - ๔๕๐๐.  หน้าที่  ๑๗๓ - ๑๘๕.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=4207&Z=4500&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=4207&Z=4500&pagebreak=0)
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=11&i=207 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=11&i=207)



   ซีรีีย์ พระปริตร ตอน"คำนมัสการพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ จากอาฏานาฏินคร"
        http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2518.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2518.0)

   สวดภาณยักษ์นี่เป็นส่วนหนึ่งของศาสนาพุทธหรือเปล่าครับ
        http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=135.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=135.0)
       
        สนใจก็คลิกได้ตามอัธยาศัย

 :welcome: :49: ;) :s_good: :25:

 


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: sakol ที่ มิถุนายน 19, 2011, 04:51:26 pm
พอได้อ่านเรื่องราว พระสูตรแล้ว ทำให้เปลี่ยนทัศนคติกับ ท้าวจาตุมหาราชทั้ง สี่ เลยครับ
รู้สึกเคารพ มากขึ้นครับ


ขอบคุณเจ้าของเนื้อหา นำเสนอ ทุกท่าน ครับ

 :25:


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: DANAPOL ที่ มิถุนายน 19, 2011, 05:11:16 pm
(http://www.madchima.net/images/428_tdl82.jpg)

(http://www.madchima.net/images/277_3.JPG)

(http://www.madchima.net/images/422_4.JPG)

หลวงพ่อฤๅษีท่านได้กล่าวถึงท้าวเวสสุวรรณไว้ดังนี้

.....ตาม ปกติฉันนอน ๒๒.๐๐ น. และตื่น ๑.๓๐ น. เป็นปกติ ทำวัตรสวดมนต์แบบย่อ ๆ พอเวลาใกล้ ๒ น. ฉันก็เริ่มทำสมาธิ พอถึง ๔ น. ฉันก็ดูตำรา ๕ น. ฉันก็กลับทำสมาธิใหม่ เพื่อรักษาอารมณ์เวลาออกบิณฑบาตตามแบบฉบับของพระโบราณ ปฏิปทาของพระสมัยใหม่ท่านทำกันอย่างไรฉันไม่รู้ ด้วยฉันแก่แล้ว และมานั่งเป็นฤๅษีหัวล้านอยู่ในป่าห่างเมืองหลวงตั้ง ๓๐๐ ก.ม.เศษ จะรู้เรื่องของพระในเมืองหลวงได้อย่างไร

วิธี ที่เข้าฌานก่อน แล้วคลายอารมณ์มาสู่อุปจารฌานหรือปฐมฌาน แล้วออกบิณฑบาต แบบนี้ท่านเรียกว่าพระโปรดสัตว์ เพราะท่านที่ใส่บาตรมีผลมาก ได้บุญแรง มีลาภง่าย ยิ่งได้พระอริยเจ้าท่านเข้าผลสมาบัติ คือ พิจารณาวิปัสสนาญาณก่อน เมื่อจิตสะอาดดีแล้ว เข้าฌานเต็มกำลังแล้วคลายออก ทรงอยู่เพียงอุปจารฌานฌานหรือปฐมฌานอย่างนี้อานิสงส์ยิ่งมาก บุญมาก ลาภสูง

ที่ท่านพอตื่นมาก็ร้องเพลงหรือนึกถึงคนรัก นึกถึงสถาน ที่หรือวิธีหากิน ซักซ้อมความคล่องเพื่อลาภสักการะ อย่างนี้ท่านไม่เรียกพระโปรดสัตว์ ท่านเรียกว่าไปให้สัตว์โปรด ด้วยท่านไม่มีอะไรดีที่จะให้บรรดาท่านที่สงเคราะห์เลย นี่ว่ากันตามแบบพระโบราณไม่ทันสมัยนะ สำหรับท่านที่ทันสมัย มีลาภ มียศ มีคนสรรเสริญ มีกามสุขสมบูรณ์ ท่านอาจจะมีความเห็นไปอีกอย่างหนึ่ง และทำให้พระทันสมัยขึ้น อาจจะมีผลดีกว่าที่ฉันว่าอย่างนี้ ได้ฟังแล้วอย่าถือเอาไปเป็นแบบแผนนะ ประเดี๋ยวจะหาพระครึ ๆ อย่างฉันพูดไม่ได้เรื่อง เลยไม่มีโอกาสทำบุญ

พูด เลยเรื่องไปเสียแล้วอีกกระมัง มาเข้าประเด็น คำว่าประเด็นหมายความว่าอย่างไรฉันไม่รู้เรื่อง เคยเข้าในเมืองหลวงเห็นเขาพูดกันฉันก็เลยพูดบ้าง มันเข้าท่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาแบบเก่าดีกว่านะ พูดว่าเรามาเข้าเรื่องที่ค้างไว้ดีกว่า อย่างนี้ฟังง่ายดีนะ

ขณะที่หลวงพ่อปานท่านเชิญท้าวมหาราชทั้ง ๔ พอหลวงพ่อท่านหยุดนิ่ง ฉันไม่ประสงค์องค์อื่น อยากรู้จักท้าวเวสสุวรรณองค์เดียว เห็นช่างภาพเขาเขียนรูปท่านเป็นยักษ์ ไม่ใช่ยักยอก เป็นยักษ์มีเขี้ยวยาว มีกระบองยาวคล้ายพลองลูกเสือ ท่าทางน่ากลัว ก็เลยอยากเห็นยักษ์ ตามข่าวที่เล่าลือกัน เขาว่าท่านมีอานุภาพมาก

ฉันเลยขอเห็นท่านท้าวเวสสุวรรณองค์เดียว กรุณามาให้เห็นเวลา ๒ น. ฉันก็เข้าสมาธิ เรื่องของสมาธิ เข้าเพียงหายใจเข้าไม่ทันหายใจออกก็จมเบ้า (เต็มอัตรา) คำว่าจมเบ้าเป็นภาษาเด็กเลี้ยงควาย เกรงว่าจะหายสาบสูญไปเสีย ก็เลยเอามาพูดไว้ เพื่อรักษาศัพท์วัฒนธรรมเลี้ยงควาย เมื่อถึงเวลา ๒ น. ตรง ฉันก็คลายออกมาสู่อุปจารสมาธิเป็นอารมณ์ที่พอจะเห็นนิมิตได้

เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา ๒ นาฬิกาเพียงเป๋งแรก ทั้ง ๆ ที่หลับตา ก็มองเห็นชายคนหนึ่ง นุ่งผ้าขาว ห่มผ้าสไบเฉียงขาว ถือไม้พลองยาวแค่หัว เดินลิ่ว ๆ มาทางทิศเหนือ แกเดินเร็วเหลือเกิน ไม่ถึงนาทีก็มาถึงที่ฉันอยู่แล้ว ใจฉันบอกเลยว่าท่านผู้นี้คือท่านท้าวเวสสุวรรณ ดูท่านแล้ว ท่านมายืนห่างจากฉันสัก ๒ วา ท่านไม่มีเขี้ยว หน้าตาท่านสวย ผิวสวย ทรงงามมาก.....



ที่มา...จากหนังสือประวัติหลวงปู่ปาน


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: DANAPOL ที่ มิถุนายน 19, 2011, 05:17:20 pm
เรื่องที่ ๙๘
(http://www.madchima.net/images/891_jatum4.JPG)
ตายจากมนุษย์ไปเกิดเป็นท่านท้าวมหาราชบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช


"..วัน ที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ สองวันที่ผ่านมาร่างกายไม่ดี ใช้กำลังสมถภาวนาไม่ได้ ต้องใช้กำลังวิปัสสนาญาณเป็นตัวยืน อารมณ์ของคนเราถ้าเจริญพระกรรมฐาน ต้องเข้าใจว่า กรรมฐานที่ทรงตัวจริง ๆ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ๑๑ อย่าง และกรรมฐานแบบคิดอีก ๒๙ อย่าง เวลาที่ร่างกายมีกำลังดี ไม่ป่วยไข้มากจิตจะทรงตัว ใช้กรรมฐานทรงตัวได้ แต่ถ้าจิตเกิดฟุ้งซ่านขึ้นมา ด้วยโรคภัยไข้เจ็บมากวนมาก มีความเพลียมาก ก็ต้องใช้กรรมฐานคิด ใช้วิปัสสนาญาณควบ ไม่ต้องการรู้อะไรทั้งหมด

ท้าวจตุโลกบาล

มา วันนี้อารมณ์เริ่มทรงตัวขึ้นมาบ้าง ก็ใช้กำลังทรงตัวได้ แต่ถ้าใช้กำลังทรงตัวแน่นไปอีกก็ไม่เห็นอะไร พอขยับจิตเคลื่อนลงมานิดหนึ่งอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ ก็เห็นท่านท้าวมหาราชนั่งอยู่ข้าง ๆ ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ เขาเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล มีหน้าที่รักษาคุ้มครองชาวมนุษยโลก ถ้าสร้างความดีก็หาทางป้องกันช่วยเหลือ จะส่งเทวดาไปอารักขา ถ้าสร้างความชั่ว สุดวิสัยที่จะช่วยได้ก็อดใจไว้ และมีหน้าที่บันทึกความดีความชั่วของคน ทั้งการพูด การคิด การทำทุกอย่าง สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชอยู่กึ่งกลางเขาพระสุเมรุ คนที่ตายแล้วมาเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชได้ ต้องเคยได้ฌานสมาบัติ แต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ถ้าขณะที่ตายเข้าฌานตาย ก็จะไปเกิดเป็นพรหม

ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ

๑) ท่านท้าวเวสสุวรรณ คุมด้านทิศเหนือ

๒) ท่านท้าวธตรฐ คุมด้านทิศตะวันออก

๓) ท่านท้าววิรุฬหก คุมด้านทิศใต้

๔) ท่านท้าววิรูปักข์ คุมด้านทิศตะวันตก


ที่มา....จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: ปักษาวายุ ที่ มิถุนายน 19, 2011, 08:16:53 pm
อ่านแล้วได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ท้าวจาตุมหาราชทั้งสี่ ผู้พิทักษ์ พระพุทธศาสนา

เมื่อไหร่พระอาจารย์ จะจัดสร้าง ท้าวจาตุมหาราช บ้างครับ

 :13: :25:


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 19, 2011, 08:40:56 pm
(http://images.palungjit.com/attachments/400-%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B8%87-%E0%B8%88-%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-t00029_101_0106-jpg)
ท้าวจาตุมหาราช วัดจันทาราม (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ เป็นเทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นที่ 1 (จาตุมหาราชิกา)
1.ท้าวธตรฐ ปกครองทิศตะวันออก มี คนธรรพ์ เป็นบริวาร
2.ท้าววิรุฬหก ปกครองทิศใต้ มี กุมภัณฑ์ เป็นบริวาร
3.ท้าววิรูปักษ์ ปกครองทิศตะวันตก มี นาค เป็นบริวาร
4.ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองทิศเหนือ มี ยักษ์ เป็นบริวาร


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.geocities.com/puttakun/narok18.html (http://www.geocities.com/puttakun/narok18.html)

(http://images.palungjit.com/attachments/17253d1229167792-r1-11-jpg)

(http://images.palungjit.com/attachments/4879d1222602073-22-jpg)

(http://images.palungjit.com/attachments/48141-%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B8%87-%E0%B8%88-%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-001-jpg)

ขอบคุณภาพจากเว็บพลังจิต


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: samathi ที่ มิถุนายน 20, 2011, 08:15:59 pm
อ่านแล้วได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ท้าวจาตุมหาราชทั้งสี่ ผู้พิทักษ์ พระพุทธศาสนา

เมื่อไหร่พระอาจารย์ จะจัดสร้าง ท้าวจาตุมหาราช บ้างครับ

 :13: :25:

สนใจเหมือนกันครับ พระอาจารย์จัดสร้าง สักรุ่นได้หรือไม่ครับ ขนาด 5 นิ้ว
อยากได้ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำััดับ ปลุกเสกครับ

 :25:


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ มิถุนายน 21, 2011, 08:19:33 am
กำลังคิดอยู่ ว่าจะจัดสร้าง สักรุ่น นะ
อาจจะเป็นรุ่นให้ทำบุญ สร้างสำนักงาน ก็ได้นะจ๊ะ

เจริญพร

 ;)


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ มิถุนายน 21, 2011, 06:31:19 pm
กำลังคิดอยู่ ว่าจะจัดสร้าง สักรุ่น นะ
อาจจะเป็นรุ่นให้ทำบุญ สร้างสำนักงาน ก็ได้นะจ๊ะ

เจริญพร
(http://www.siristore.com/Images/Products/51_LPFooWesuwan/Wesuwan_Goldpatch.jpg)
(http://www.siristore.com/Images/Products/51_LPFooWesuwan/Wesuwan_Brass.jpg)
กราบนมัสการจัดสร้างตามแบบนี้เลยครับ เนื่องด้วยท้าวมหาราชปกปักพระศาสนาและผู้ภาวนา ย่อมต้องมีผู้ปรารถนาได้ไว้สักการะบูชา



หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ มิถุนายน 22, 2011, 09:53:13 am
ก็รับไว้พิจารณา อยู่นะ แต่การดำเนินการจัดสร้างนั้น ต้องมีทุนจัดสร้างด้วย

จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะจัดทำ

คงต้องให้มียอดสั่งจอง ก่อนนะ

เพราะสำหรับ ท้าวเวสสุวรรณนั้นไม่ควรจัดสร้าง เป็นองค์เล็ก

 ;)



หัวข้อ: รูปหล่อ "ท้าวเวสสุวัณโณมหาราช"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 22, 2011, 11:09:03 am
(http://www.madchima.net/images/119_NEW_POSTER_CMYK_RED_resize.jpg)

(http://www.madchima.net/images/835_NEWER_POSTER_CMYK_BLUE_resize.jpg)

ขอบคุณภาพจากเว็บพลังจิต



(http://www.jengsud.com/upload/pic/111426378.jpg)

(http://www.jengsud.com/upload/pic/116168515.jpg)

(http://www.jengsud.com/upload/pic/141542493.jpg)

(http://www.jengsud.com/upload/pic/143494267.jpg)

ขอบคุณภาพจากเว็บ http://www.ongtep.com/detail.php?id=294 (http://www.ongtep.com/detail.php?id=294)


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: sakda ที่ มิถุนายน 22, 2011, 12:50:46 pm
(http://www.madchima.net/images/119_NEW_POSTER_CMYK_RED_resize.jpg)(http://www.siristore.com/Images/Products/51_LPFooWesuwan/Wesuwan_Goldpatch.jpg)

ผมว่า ทั้งสองภาพ ให้ความรู้สึกแตกต่างกันเลยนะครับ

 แท้ที่จริง รูปร่างไหน เป็นของท้าวเวสสุวรรณ

 แต่ใจผมก็ชอบรูปยักษ์ มากกว่า ครับ

 ถ้าจัดสร้าง ประมาณ 5 นิ้ว นี้ บูชา เท่าไหร่ครับ

 :25:


หัวข้อ: ที่เขาเขียนเป็นยักษ์ บอก "ไอ้คนเขียนมันไม่รู้จักผม"....(ท่านสวยเหมือนพรหม)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 22, 2011, 01:27:38 pm

ผมว่า ทั้งสองภาพ ให้ความรู้สึกแตกต่างกันเลยนะครับ

 แท้ที่จริง รูปร่างไหน เป็นของท้าวเวสสุวรรณ

 แต่ใจผมก็ชอบรูปยักษ์ มากกว่า ครับ

 ถ้าจัดสร้าง ประมาณ 5 นิ้ว นี้ บูชา เท่าไหร่ครับ

 :25:

(http://www.toprich24ince.com/article/art_453814.jpg)

ท้าวเวสสุวัณ
เมื่อ วันอังคาร 21 พฤศจิกายน 2006 @ 2:09:07
หัวข้อ: บทความคำสอนปกิณกะ


เมื่อฉันบวชใหม่ๆ ในพรรษาแรก วันนั้นหลวงพ่อปานบวงสรวงจะเชิญพระพักตร์พระพุทธรูปไปที่เขาวงพระจันทร์ ฉันถามว่า "หลวงพ่อครับ เวลาหลวงพ่อเชิญนี่ ท้าวเวสสุวัณ ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ท่านมาไหม"

ท่านบอก "เอ็งเจริญกรรมฐานหรือเปล่า?"
บอก "เจริญครับ"
ท่านบอก "แกเห็นไหม?"
บอก "ไม่เห็นครับ"
ท่านบอก "ถุย ขี้หมา"
ความจริงหลวงพ่อปานตาไม่ดีมองเห็นคนเป็นขี้หมาไปได้...

ท่านบอก "ถุย ขี้หมา ไม่เคยเห็นหรือ"
บอก "ไม่เคยเห็น"
ท่านบอก "เอางี้ซี เวลาฉันเชิญมานะ แกต้องการจะพบองค์ไหนก็เชิญองค์นั้น แกเจริญกรรมฐานเวลาเท่าไหร่"
บอก "ตามปกติตี ๒ ครับ"
ท่านบอก "เวลาตี ๒ เชิญให้ท่านไปพบที่แกนอน"

ฉันตั้งนาฬิกาปลุก ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาทำวัตรเสร็จ เหลือเวลาอีก ๕ นาทีก็เข้าเจริญพระกรรมฐาน พอตี ๒ เป๋ง กุฏิมีฝานะ แต่มองแล้วเหมือนไม่มีฝาทางด้านเหนือ นุ่งขาวห่มสไบเฉียงนะ ไม้พลองแบบพลองลูกเสือ มาลิ่วๆ เห็นชัด มาถึงยืนปุ๊บบนหน้าต่าง หัวไม่สูงยันขื่อ มาถึงมายืนปั๊บ ฉันขนลุกซู่ ปอดลอย มันยิ่งกว่ากลัวอีก ทั้งๆ ที่ท่านมาสวย

ก็เลยบอก "กลับไปก่อนเถอะท่านอาจารย์ เชิญกลับไปได้แล้ว ขอบคุณที่มาให้เห็น"
ท่านถาม "กลัวผมทำไมครับ"
ถามทำไมถึงรู้สึกกลัว
ท่านบอก "ท่านเป็นเทวดา นึกในใจก็รู้หมด"
ท่านก็เลยคุย บอก "ท่านอย่ากลัวผมซิ ท่านอย่ากลัวผมซิ ท่านกับผมน่ะเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนนะ" ท่านพูดแล้วท่านก็ยิ้ม
ท่านบอก "กระบองที่เตรียมมา ไม่ได้เตรียมมาตีท่านหรอกนะ ผมเอายันกันจะล้ม"
ถาม "ทำไม"
ท่านบอก "เจอะนักเลงเก่า เกรงกลัวจะสู้กัน"

ท่านเล่าให้ฟังถึงอดีตชาติ บอกในสมัยหนึ่งเราทั้งสองต่างคนต่างเป็นลูกกษัตริย์ ท่านเล่ามายาวมากให้หายกลัว
ท่านบอกว่า "ทำไมต้องการพบองค์เดียวล่ะ"
ก็เลยบอกว่า "เขาว่าท้าวเวสสุวัณเป็นยักษ์"
ท่านถามว่า "เห็นเขี้ยวผมไหม"ฃ
บอก "ยังไม่เห็น"
ถาม "มีหรือไม่มี"
ท่านบอก "อยากเห็นไหมล่ะ"
บอก "อยากเห็นเขี้ยวออกทางจมูก"
ท่านบอก "นี่มันไม่ใช่เขี้ยวยักษ์ มันเขี้ยวหมู"
ท่านหัวเราะชอบใจใหญ่ บอก "นี่ท่านยังไม่แปลกจากของเก่านะ ยังเหมือนเดิม"

สรุปแล้วว่า "ท่านมานี่ ท่านนุ่งขาวห่มขาวใช่ไหม"
ท่านบอกว่า "ไม่ใช่นะ เข้าเขตพระต้องใช้นุ่งเหลืองห่มเหลือง แต่กลางคืนท่านเห็นเป็นขาวไปเอง
ถามว่า "ความจริงท่านแต่งตัวอย่างไร"
ท่านบอก "ปกติแต่งตัว เหมือนคนธรรมดา"
ก็ถามว่า "ถ้าแต่งตัวเต็มที่"

ท่านเลยแต่งตัวเต็มที่เลย แต่งเครื่องทรง แสงสว่างจ้าเหมือนกับพรหม
ที่เขาเขียนเป็นยักษ์ บอก "ไอ้คนเขียนมันไม่รู้จักผม"
ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ท่านมีสภาพเหมือนกันแบบนี้ สวยเหมือนพรหม


อ้างอิง
จากหนังสือพ่อสอนลูก เล่มสีทอง
http://board.palungjit.com/f23/ (http://board.palungjit.com/f23/)เมื่อท้าวเวสสุวรรณพบหลวงพ่อของเรา-82020.html
ขอบคุณภาพจาก toprich24ince


หัวข้อ: Re: บทสวดภาณยักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: kallaya ที่ กรกฎาคม 01, 2011, 03:48:04 pm
ท้าวเวสสุวัณประทับเสนาบดียักษ์ จอมเทพแห่งอตุรทิศ ผู้บันดาลความร่ำรวยและขจัดภูติผีปีศาจ

       ท้าวเวสสุวัณประทับเสนาบดียักษ์ เทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติ จ้าวแห่งยักษ์หมั่นบูชา ทำให้ทรัพย์เพิ่มพูนทวี
 
     คาถาบูชา  ตั้งนะโม ๓ จบ ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ และหลวงปู่กาหลง
อิ ติปิโส ภะคะวา ยมราชาโน ท้าวเวสสุวัณโน มรณังสุขัง อหังสุคโต นโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวัณโน จตุมหาราชิกา ยักขพันตาภัทภูริโต เวสสะพุสะ พุทธังอรหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวัณโน นโมพุทธายะ

       ภาวนาพระคาถานี้ ๙จบ แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากท่านท้าวเวสสุวัณ จะสำเร็จสมความมุ่งมั่นปรารถนา ปกป้อง คุ้มครองตัว เดินทางปลอดภัยปราศจากอุบัติเหตุภยันอันตรายทั้งปวง หากบูชาในช่วงระยะเวลา  ๓ เดือนขึ้นไป จะสังเกตุได้อย่างดีว่ามักจะมีโชคมีลาภลอยมาอยู่เสมอบรรดาภูตผีทั้งหลายต่าง เกรงกลัวกันนัก
      หากต้องการสักการบูชาขอพร หรือปรารถนาสิ่งใดๆให้กระทำในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ โดยบูชาด้วย กุหลาบแดง ๙ ดอก  จุดธูป ๙ดอกภาวนาคาถานี้ ๙ จบแล้วตั้งจิตอธิษฐานตามความปรารถนา จะประสพผลสำเร็จทุกประการ หรือ จะภาวนาคาถานี้เวลาเดินทางไปค้างแรมต่างถิ่น
      หากต้องการจะขับไล่คนถูกผีเข้าหรือบ้านเรือนที่มีความเฮี้ยน ความอาถรรพณ์ของวิญญาณแอบแฝงอยู่ หรือขับไล่คุณไสย์เสนียดจัญไรออกจากตัวให้อารธนารูปหล่อท้าวเวสสุวัณแช่ใน ขัน เพื่อทำน้ำมนต์ จุดธูป ๙ ดอก เทียน ๒ เล่ม และใช้เทียนอีก ๑ เล่มวางบนขอบขขันน้ำมนต์ ทำจิตให้เป็นสมาธิตั้งนโม ๓ จบบูชาพระรัตนไตร แล้วว่าพระคาถานี้ โอมท้าวเวสสุวัณผู้เป็นใหญ่ในหมู่อสูร ท้าวเธอจึงใช้ให้กูมากำหราบปราบหมู่มารไพรี ฝูงผีปีศาจ ราชทูต ผีภูติ ผีพรายอันร้ายกาจทุกแห่งหนสูจะทนทาน กูอยู่มิได้พวกสูจงเร่งพากันหนีไปให้พ้นกูจะปัดจะพ่นด้วย พระมนต์อันศักดา ท้าวกุเวรมหาราชประสิทธิไว้ให้กู เวสสุวัณโนมหาราช เวสสะวุธทัสสะ อัตถะมหายักขังเสนาสุขิตา ภวันตุเม โอมสวาหะ สวาหายฯ
 
       มนต์บทนี้ใช้ทำน้ำมนต์หากมีคนถูกผีเข้าหรือทำให้ถูกคุณไสย์มนต์ดำให้เขากิน น้ำมนต์นี้ พร้อมกับรดน้ำมนต์ไปและภาวนาคาถานี้พร้อมกันไปด้วย ผีที่เข้าสิงจะออกจากร่างคนนั้นพากันหนีไปสิ้น หากต้องการปัดเป่าเสนียดจัญไรออกจากตัวเองให้อาบน้ำมนต์นี้บริเวณกลางแจ้ง ก่อนเวลาตะวันตกดิน หรือจะภาวนามนต์ทั้งหลายนี้อาราธนารวมกันกับพระคาถาในตอนต้นก็ได้ ยิ่งทวีความศักดิ์สิทธิดีนักแล
      พระคาถาต่างๆนี้มีปรากฏในตำราคัมภีร์โบราณแท้ๆซึ่งเป็นลายมือ หลวงพ่อเนียม ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่กาหลง โดยท่านมีศักดิ์เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยมีเนื้อความอัญเชิญพระพุทธคุณ และอำนาจทิพย์แห่งท้าวเวสสุวัณมาสถิตในร่างกาย พร้อมอัญเชิญอำนาจแห่งเสนาบดียักษ์ของท้าวเวสสุวัณมาช่วยเสริมอำนาจพลัง ต่างๆเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้บูชาดีนักแล

     โดยเหตุที่ท้าวเวสสุวัณเป็น “ เทพเจ้าแห่งทรัพย์ “เป็นผู้รักษาทรัพย์ในแผ่นดินเป็นท้าวโลกบาลประจำทิศเหนือของสวรรค์ชั้นจตุ มหาราชิกาเป็นเทพเจ้าแห่งยักษ์และภูตผีปีศาจและความมั่งคั่งไพบูลย์ทั้งหลาย มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ไวศรวัณ เวสสุวัณ  ธนบดี(เป็นใหญ่ในทรัพย์) ธเนศวร(เจ้าแห่งทรัพย์) อุจฉาวสุ(มั่งมีได้ดั่งใจ) ยักษราช(ขุนแห่งยักษ์)  รัตนครรณ(พุงแก้ว)อีศะสขี(เพื่อนพระศิวะ)ฯลฯ
      ในคัมภีร์ไตรภูมิพระร่วง เรียกท้าวเวสสุวัณว่า “ท้าวไพศรพมหาราช” และได้พรรณนาถึงการแต่งองค์ไว้ว่า”ท้าว ไพศรพมหาราชเป็นพระยาแก่ฝูงยักษ์แลเทพยดาทั้งหลายฝ่ายทิศอุดรเถิงกำแพง จักรวาลเบื้องอุดรทิศพระสุเมรุราชแลเครื่องประดับตัว แลบริวารทั้งหลายเทียรย่อมทองเนื้อสุกฝูงยักษ์ทั้งหลายนั้น บ้างถือค้อน ถือสากแลจามจุรีเทียรย่อมทองคำบ่มิรู้ขิร้อยล้านแลฝูงยักษ์นั้นมีหน้าอันพึง กลัวแลท้าวไพศรพจึงขึ้นม้าเหลืองตัว๑ดูงามดั่งทอง” จากคำพรรณนาดัง กล่าวแสดงให้เห็นว่าท้าวเวสสุวัณหรือท้าไพศรพนั้นร่ำรวยมหาศาลมีทองคำมากมาย ไม่รู้กี่ร้อยล้าน ทั้งยังมีเครื่องประดับเป็นทองคำ บริวารก็ถือ ค้อนทอง สากทอง และทรงม้าสีทอง
     ฝ่ายพุทธศาสนามีปรากฏในคัมภีร์พระไตรปิฎกมหานิทานสูตร มหาวรรค ทีฆนิกาย กล่าว ไว้ว่าดินแดนที่ประทับของท้าวเวสสุวัณชื่ออาลกมันทาราชธานีเป็นนครเทพเจ้า ที่งดงามรุ่งเรืองมากโดยท้าวเวสสุวัณเทวราชโลกบาลองค์นี้เป็นพระอริยบุคคล ชั้นโสดาบันและเมื่อพระมหาโมคคัลลานะเดินทางขึ้นมาเยี่ยมเยียนพระอินทร์ท้าว สักกะเทวราช ณ มหาปราสาทไพชยนต์วิมาน ท้าวเวสสุวัณพระองค์นี้ก็ได้เสด็จเข้าร่วมให้การต้อนรับด้วยพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งแคว้นมคธ หลังจากที่เสด็จสวรรคตเนื่องจากการทารุณกรรมของพระเจ้าอชาตศัตรูผู้เป็นราช โอรสที่เข้ายึดอำนาจก็ได้มาอุบัติในโลกสวรรค์เป็นพญายักษ์เสนาบดีตนหนึ่งของ ท้าวเวสสุวัณนั่นเอง
      ในอรรถาโลภปาลสูตรกล่าวว่าเมื่อ ถึงวันอุโบสถคือขึ้นหรือแรม ๘ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ องค์ จะลงมาตรวจโลกมนุษย์อยู่เสมอโดยจะถือแผ่นทองและดินสอมาด้วยและจะเที่ยวเดิน ดูไปทุกแห่งทั่วถิ่นฐานบ้านเมืองใหญ่น้อยทั้งหลายในโลกมนุษย์ถ้าใครทำบุญ ประพฤติธรรมทำความดีก็จะเขียนชื่อและการกระทำลงบนแผ่นทองคำแล้วนำแผ่นทองคำ ไปให้ปัญจสิขรเทวบุตรซึ่งจะนำไปให้พระมาตุลีอีกต่อหนึ่ง พระมาตุลีจึงเอาไปทูลถวายแด่พระอินทร์ถ้าบัญชีในแผ่นทองมีมากเทวดาทั้งหลาย ก็จะแซ่ซ้องสาธุการ ด้วยความยินดีที่มนุษย์จะได้ขึ้นสวรรค์มาก แต่หากมนุษย์ใดทำความชั่วก็จะจดชื่อส่งบัญชีให้พญายมราช เพื่อให้นายนิรยบาลทั้งหลายจะได้ทำกรรมกรณ์ให้ต้องตามโทษานุโทษเท่าสัตว์นรก เหล่านั้น
      ศิลาจารึกสมัยกรุงศรีอยุธยากล่าวว่า ท้าว เวสสุวัณมีปราสาทช้างเรืองอร่ามด้วยแสงแก้วอยู่เหนือยอดเขายุคนทร มียักษ์เฝ้าประตูวังและยักษ์เสนาบดีอยู่หลายตนมีร่างทิพย์ ม้าทิพย์ ราชรถทิพย์และบุษกทิพย์ มีศักดิ์เป็นใหญ่แก่ฝูงยักษ์ทั้งหลาย ๙ ตนมีบริวารที่เรียกว่า”ยักขรัฏฐิภะ”ซึ่งมีหน้าที่สืบข่าวและตรวจตรา เหตุการณ์ต่างๆรวม ๑๒ ตนและยังมียักษ์ที่สำคัญเป็นเสนาบดียักษ์อีก ๒๘ นายที่คอยรับใช้ท้าวเวสสุวัณอยู่ดังจะเห็นว่า
 
      ท้าวเวสสุวัณ มีกำเนิดจากหลายตำนาน แม้กระทั่งใน ลัทธิของจีนฝ่ายมหายานว่า ท้าวโลกบาลทิศอุดรมีชื่อว่า ”โตบุ๋น” เป็นขุนแห่งยักษ์มีพวกยักษ์บริวารมีกายสีดำ ถือดวงแก้วและงู ทางทิเบตมีกายสีทองคำถือธงและพังพอน ทางญี่ปุ่น ถือ ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภนามว่า " พิสะมอน " ถือแก้วมณีทวนและธงตามที่ได้พรรณนามานั้นเป็นเพียงประวัติย่อๆของท้าว เวสสุวัณเพื่อชี้ให้เห็นว่าท่านมีความสำคัญมากเพียงใดโบราณาจารย์จึงได้จัด สร้างรูปไว้เคารพบูชามาตั้งกว่าพันปีมาแล้ว
 
      โดยสรุปแล้วท้าวเวสสุวัณ ถือเป็นเทพเจ้าที่สำคัญยิ่ง เป็นที่เคารพนับถือในหลายต่อหลายประเทศ ในไทยเราเองนั้นนับถือเทพเจ้าองค์นี้มาก ในฐานะผู้คุ้มครองในห้ปลอดภัยจากวิญญาณร้าย ดังเราจะเห็นได้ว่าครุบาอาจารย์มักทำผ้ายันต์ท้าวเวสสุวัณ เป็นผืนสีแดงไว้ติดตามประตู เพื่อป้องกันภูตีผีปีศาจ คติความเชื่อนี้ถือว่าเก่าแก่ และเป็นที่คุ้นตาที่สุด หรืออย่างพิธีสวดภาณยักษ์ ก็เช่น พระคาถาภาณยักษ์ หรือบท “วิปัสสิ” นี้เป็นพระคาถาทีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ท่าน โดยมีท้าวเวสสุวัณเป็นหัวหน้า นำมามอบให้พระพุทธเจ้า เพราะเห็นว่าบริวารของตนนั้นมีมาก บางพวกก็มีนิสัยดี แต่บางพวกมีนิสัยพาลเกเร อาจทำร้ายแก่พระธุดงค์ที่อยู่ตามป่าช้า ตามเขา ตามป่าได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันจึงได้มอบพระคาถาภาณยักษ์ถวายแต่พระพุทธองค์
     ปัจจุบันเราก็ยังสามารถพบเห็นการสวดภาณยักษ์ได้อยู่ และ จะเห็นรูปท้าวเวสสุวัณเด่นเป็นสง่าเสมอ ในพิธีสวดภาณยักษ์นี้ เพราะท้าวเวสสุวัณเป็นผู้ที่มีสิทธิเฉียบขาดในการลงโทษภูตีผีปีศาจทั้งหลาย จึงเป็นที่ศรัทธาเชื่อมั่นว่า ท้าวเวสสุวรรณนี้เป็นเทพเจ้าที่มีคุณในการทำลายล้างสิ่งอัปมงคล ทั้งกันทั้งแก้เรื่องผีปีศาจ คุณไสยมนต์ดำทั้งหลายได้ ทั้งยังให้คุณเรื่องโภคทรัพย์อีกประการหนึ่งดังที่กล่าวมาแล้ว
 
ที่มา : หนังสือ หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว เรื่อง ท้าวเวสสุวัณจอมเทพแห่งอตุรทิศ ผู้บันดาลความร่ำรวยและขจัดภูติผีปีศาจ