ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - มหายันต์
หน้า: [1] 2 3
1  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ปชช.กว่า 5 หมื่นคน แห่ทำบุญหลวงพ่อคูณละสังขาร ครบ 1 ปี เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2016, 10:47:18 pm
 st11 st12 st12

   :25: :25: :25:
2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พระพุทธเจ้า ตั้งแต่ เริ่ม มี 28 พระองค์ ปัจจุบัน แต่นับ พุทธวงศ์ ในพระไตรปิฏก ที เมื่อ: กันยายน 12, 2015, 06:16:25 am
 st11 st12 st12
ขอบมากครับ อยากให้เล่าหรือบรรยาย เรื่อง พุทธวงศ์ ครับ
เคยฟังในรายการ 3 ตอนแล้ว ก็ไม่เห็นพระอาจารย์ บรรยายเรื่องนี้ อีก

   ชอบฟังครับ

   :25: :25: :25:
3  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เรียนถามว่า โคตรภูบุคคล คือใคร มีอารมณ์อย่างไร เห็นอย่างไร ในธรรม ครับ เมื่อ: สิงหาคม 11, 2015, 08:54:39 pm
พระโยคาวจร น่าจะหมายพ ถึง พระสมมุติสงฆ์ นะครับ

   :character0029: :character0029: :character0029:
4  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พิจารณาวิบากกรรม ของศิษย์แต่ละคน ( หรือผู้ที่เคยนับถือกัน ) เมื่อ: สิงหาคม 11, 2015, 08:53:48 pm
ส่วนผม ชอบ สายเสก สวด นั่งปรกครับ สายอย่างหลวงพ่อคูณ เป็นต้น

   :34: :34: :34: :34:
5  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สงฆ์ไทยช่วย "ผู้ประสบภัยน้ำท่วมเมียนมา" เมื่อ: สิงหาคม 11, 2015, 08:52:42 pm
สังเกตให้ดี นะครับ ที่ประสบภัย ทางธรรมชาติ จะเป็นประเทศที่มีพระพุทธศาสนา ในระดับ ใหญ่
  อย่างเชน แผ่นดิน ( ดิน ) ไหว ที่ ประเทศ เนปาล
            อุทกภัย ( น้ำ ) ที่  พม่า
             วาตภัย  ( ลม ) ....................
              อัคคีภัย (  ไฟ  ) .......................

   เรื่องนี้ผมฟังในรายการ ไปเมื่อเดือนที่ แล้ว แต่หาชื่อไฟล์ ไม่ได้ เพียงเขียนว่า รายการสด ( ออกอากาศสด ) แล้วพระอาจารย์เลือกออกตอนที่คนไม่ค่อยฟัง ซะด้วยนะครับ 03.15 น. -  04.15 น. ( 60 นาที )

   :49: thk56

 
6  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ กองผ้าป่า ช่วยเหลือ สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน ปี 2557 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2014, 02:57:55 pm
 st11 st12
7  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปณิธาน ในการภาวนา และการเผยแผ่ พระธรรม เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2014, 08:00:08 am
 st11 st12
8  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: ธรรมะสัญจร 16 มี.ค.56 ภาระกิจไปหล่อ พระราหุล และ หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน เมื่อ: มีนาคม 20, 2013, 10:17:42 am


  อนุโมทนา สาธุ ครับ แต่ผมว่า ยังขาดภาพจาก ผู้ติดตามประจำอยู่นะครับ คือ คุณ ณฐพลสรรค์ นะครับ ยังไม่เห็นภาพ เกี่ยวกับการหล่อ เลยนะครับ มีแต่ภาพของคุณธรรมธวัช


  ขอบคุณมากครับ ที่นำภาพมาฝากกัน แอบกระซิบหน่อยครับ ผมเองก็ไปด้วยนะครับวันนั้น แต่ยังไม่ได้เข้าไปสนทนา กับพระอาจารย์ครับ เพราะยังไม่มีโอกาสครับ อันทีจริงไม่แน่ใจว่าใช่พระอาจารย์หรือไม่ครับ

  เสียดายมาก

    thk56

 
9  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / บรรยายธรรมและฝึกปฏิบัติกรรมฐานแบบทิเบต อานุภาพของจิตใจ 16 มีค 56 เมื่อ: มีนาคม 08, 2013, 11:57:22 am
บรรยายธรรมและฝึกปฏิบัติกรรมฐานแบบทิเบต อานุภาพของจิตใจ (Power of the Mind)
วันเสาร์ที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น.
ห้อง ๑๐๕ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ไม่เก็บค่าลงทะเบียน มีอาหารว่างบริการ

รูปแบบ

ช่วงเช้า บรรยายธรรม ซักถาม สวดมนต์ภาวนา
ช่วงบ่าย ฝึกปฏิบัติ มนตราภาวนา ซักถาม บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ แปลเป็นภาษาไทยโดยอาจารย์กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์

ลงทะเบียน

สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่บัดนี้ที่ 1000tara@gmail.com ภายในวันที่ 13 มีนาคม 2556 เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดอาหารกลางวัน


หลักการและเหตุผล

บรรยายธรรม เสวนาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและประชุมทางวิชาการในหัวข้อเกี่ยวเนื่องกับจิตวิญญาณและยุคสมัยที่เราดำรงอยู่ ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาตลอดนับแต่มีการจัดตั้งมูลนิธิในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ปฏิบัติธรรม นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาในด้านต่างๆโดยเฉพาะจากทิเบตหิมาลัย และเพื่อให้สังคมได้เกิดการตื่นตัวเกี่ยวกับคุณธรรมต่างๆ เช่น ความเมตตากรุณา ความปรองดองกัน อันจะทาให้เกิดสันติสุขและสันติภาพที่ยั่งยืน

๒๕๕๖ นี้ เราจะเริ่มกิจกรรมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยบรรยายพิเศษและฝึกปฏิบัติกรรมฐานในหัวข้อ “อานุภาพของจิตใจ” (Power of the Mind) ซึ่งถือว่าเป็นการทำรีทรีทวันเดียวที่ตอนเช้าเน้นการให้ความรู้ หลักการในการภาวนา ในตอนบ่ายเน้นการทำสมาธิ ผู้สนใจจึงควรเข้าร่วมกิจกรรมทั้งวันเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

พระอาจารย์ผู้นำภาวนาได้แก่ ลาตรี เกเช ญีมา ทรักปา ริมโปเช ธรรมาจารย์ด้านการทำสมาธิแบบทิเบตโดยเฉพาะในสายซกเช็น (Dzogchen) ผู้ก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมในหลายประเทศทั่วโลก

เกี่ยวกับหัวข้อการบรรยาย

ในทางพระพุทธศาสนา จิตมีอานุภาพยิ่งใหญ่มาก มีคากล่าวในพระธรรมบทว่า “ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจเป็นใหญ่ และสำเร็จขึ้นด้วยใจ” ดังนั้น การฝึกจิตเพื่อให้เราเป็นนายของจิต ไม่ใช่ให้จิตมาเป็นนายเราจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ จิตใจยังเป็นตัวกำหนดการรับรู้ของเรา และจริงๆแล้วเป็นตัวกำหนดว่า โลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นอย่างไร หากเรามีจิตใจที่ดี ก็แน่นอนว่าโลกและสิ่งแวดล้อมของเราจะไปในทางที่ดี แต่หากจิตใจของเราไม่ดีเช่น ตกอยู่ในอำนาจของกิเลส ก็จะทำให้เราตกอยู่ในโลกและสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ไม่พึงปรารถนา ด้วยเหตุนี้ ชาวพุทธจึงสนใจการปฏิบัติเพื่อฝึกจิตเป็นอย่างยิ่ง พระอาจารย์ญีมา ทักปา ริมโปเช ก็จะมานำภาวนา ชี้ให้เห็นความสำคัญและอานุภาพของจิตใจ รวมถึงสอนวิธีการฝึกจิตและการทำสมาธิแบบพุทธทิเบตอีกด้วย


วัตถุประสงค์

๑. อบรมทางวิชาการเกี่ยวกับอานุภาพของจิตใจ และความสำคัญของการฝึกจิตในชีวิตประจาวัน
๒. นำเสนอกิจกรรมทางธรรมะและวิชาการสู่ประชาชน
๓. เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติ และสร้างความเข้าใจระหว่างกันระหว่างประเพณีทางพระพุทธศาสนาของไทยและทิเบต
10  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระอรหันต์ เสื่อมจาก อรหัตตผล ได้ อันนี้จริง หรือ ไม่ครับ เมื่อ: มีนาคม 08, 2013, 11:50:50 am
คือ เห็นเพื่อน ๆ มักกล่าวว่า ในอภิธรรม มีกล่าวไว้อย่างนี้ แต่ผมค้นไปก็ไม่เจอ ใครรู้บ้าง ครับ

 thk56
11  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / เมื่อเวทนาเกิดขึ้น กับผม ๆ ควรจะ ภาวนาว่า ปวดหนอ หรือ พุทโธ ดีครับ เมื่อ: ธันวาคม 27, 2012, 03:34:38 pm
คือตอนนั่งสมาธิบางทีจะมีอาการปวดขาเกิดขึ้นมาและเกิดขึ้นนานมาก จนมีความรู้สึกทรมานมาก ๆ ครับ
 ผมควรจะกำหนด บริกรรม พุทโธ ฝืนไปเรื่อยๆ หรือว่่า ควร จะน้อมเข้ามาพิจารณาถึงความไม่เที่ยงว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ดีครับ หรือ จะกำหนดว่า ปวดหนอ ปวดหนอ ปวดหนอ อย่างนี้

 หรือมีอุบายอื่นๆที่ดีกว่าในการรับมือ ก็ขอรบกวนเพื่อน ๆ แนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
ทั้งนี้ ผมขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าครับผม อยากทำสมาธิให้ได้ในช่วงสิ้นปี นี้ครับ

  ขอความกรุณาชาวธรรม ช่วยชี้แนะ ด้วยครับ

   :c017:
12  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เตือนภัยพิบัติ 3 มกราคม 56 เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส...รับมือ.."วันสิ้นโลก"... เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 04:28:15 pm
ศูนย์พัฒนาความสุขมนุษย์ มศว เผยวิธีรับมือวันสิ้นโลก
 

ศูนย์พัฒนาความสุขมนุษย์ มศว บอกวิธีรับมือวันสิ้นโลก 21/12/2012  แนะควรดำรงอยู่กับปัจจุบัน ไม่วิตกกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง พร้อมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง

ดร.จิตรา ดุษฏีเมธา ประธานโครงการศูนย์พัฒนาความสุขมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า จากกระแสเรื่องวันสิ้นโลก วันที่ 21 เดือน ธ.ค. เดือนที่ 12 ตามปฏิทินสากล ปี ค.ศ.2012 หรือ 21/12/2012 ซึ่งมีการตีความเชื่อมโยงกับปฏิทินมายาของชนเผ่าโบราณแห่งอาณาจักรมายานั้น ว่า เป็นเรื่องที่เกิดจากกระแสความกลัวที่มีอยู่ในจิตใจของมนุษย์ เราจะกลัวกับสิ่งที่ไม่แน่นอนในชีวิต สิ่งที่คาดเดาหรือสิ่งที่ยังไม่เกิด เพราะมนุษย์ชอบความมั่นคงแน่นอนและต้องการความปลอดภัยในชีวิต เมื่อมีข่าวในลักษณะนี้ออกมา ทำให้เราเห็นถึงความไม่มั่นคงในชีวิต และเกิดความกลัวขึ้น ซึ่งความกลัวในจิตใจมนุษย์ทุกคนมีอยู่แล้ว ซึ่งมาจากการต้องการชีวิตที่สุขสบาย มั่นคงและมีความสุขปลอดภัย เมื่อมีกระแสข่าวโลกจะแตกทำให้มนุษย์รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียความมั่นคง ความปลอดภัยความสะดวกสบายในชีวิต ประกอบกับข่าวสารที่โหมกระหน่ำทุกวันก็ยิ่งทำให้คนเรายิ่งวิตกกังวลมากขึ้นๆ คนที่นำเสนอข้อมูลเรื่องวันสิ้นโลกก็เล่นกับกระแสความกลัวของมนุษย์ สร้างกระแสข่าวคู่ไปกับความกลัว คนก็ตื่นกลัวตื่นตูมและเชื่อในข่าวลือ และนำไปเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากทั่วมุมโลก คนก็ยิ่งเชื่อมากขึ้นๆ
     
      “ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์วันสิ้นโลกหรือไม่ อยากบอกผู้คนในสังคมว่า คนเราเกิดมาแล้วต้องตาย ดังนั้นเราต้องอยู่กับปัจจุบัน เรากำหนดความตายไม่ได้ว่าจะตายวันไหน แต่ทำอย่างไรให้เรามีสติกับทุกขณะเวลาและอยู่กับปัจจุบันให้ได้ และจงทำทุกอย่างในวินาทีนี้ให้ดีที่สุด อย่าให้เกิดการคั้งค้างคาใจ หลายสิ่งหลายอย่างยังไม่ได้ทำ เก็บความโกรธ ความโมโหและผลัดวันประกันพรุ่งอยู่ตลอดเวลา หลายคนจึงกลัวตายเพราะรู้ว่าตัวเองยังทำอะไรได้ไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าเราได้ทำทุกอย่างในทุกวันให้เสร็จสมบูรณ์หรือดีที่สุด ไม่ค้างคา ไม่เคืองแค้น เราก็จะโปร่งเบาและพร้อมจะรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง พร้อมจะรับเหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ได้ อะไรจะเกิดก็พร้อมรับสภาพอย่างคงที่เตรียมตัวเองอยู่ในความพร้อมตลอดเวลา”
     
      ดร.จิตรา กล่าวอีกว่า คนบางไม่เคยพูดดีกับคนในครอบครัว ไม่เคยกอดแม่ ไม่เคยให้อภัยเวลาที่โกรธหรือทะเลาะกับเพื่อนๆ หรือคนใกล้ชิด มันมีการคั้งค้างใจ จิตไม่เสร็จสมบูรณ์ คนประเภทนี้จะเป็นคนที่ตื่นกลัวกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง และกังวลกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเรามีอยู่เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หากแต่สิ่งที่เราดูแลและควบคุมได้มีถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวเราเองเป็นสำคัญ


อ้างอิง

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9550000152243

จากคุณ    : ต่อmcu
13  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เจดีย์ ที่สำคัญอีกแห่ง เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 04:00:03 pm

บางครั้งก็นึกน้อยใจนะครับ ที่คนรุ่นปัจจุบัน ได้นำองค์ความรู้ใหม่ (ซึ่งไม่ถูกต้อง) มาล้มล้าง หรือบดบัง หลักฐานเก่า บันทึกโบราณ ว่า เป็นเรื่องเล่าที่เป็นเพียงแค่ตำนาน ที่ไม่ใช่เรื่องจริง

ดังเช่น "การรู้จัก และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดน ไทย มอญ ลาวและกัมพูชา" ซึ่ง ได้กล่าวถึงการรู้จักพระพุทธศาสนา มาแต่ครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ แต่ยุคสมัยปัจจุบัน กลับ เชื่อตามองค์ความรู้ใหม่ว่า "เพิ่งรู้จักพระพุทธศาสนา ยุคพระเจ้าอโศกส่ง พระโสณะ-พระอุตตระ มายังสุวรรณภูมิ" เท่านั้น

และที่สำคัญ คนรุ่นปัจจุบัน ที่เสพองค์ความรู้ใหม่ คงไม่เชื่อว่า พระเจ้าอโศกมหาราช จะเสด็จมายังดินแดน พม่า มอญ ไทย ลาว ทั้งที่ เรามี เอกสารบันทึกโบราณ ถ่ายทอดกันไว้ ไม่ใช่ แต่ในพม่า-มอญ แต่รวมถึงในเมืองไทยด้วย เช่น

ที่ "พระธาตุศรีจอมทอง" ที่เชียงใหม่ ดังในประวัติที่ว่า..

จำ เดิมแต่กาลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้วได้ ๒๑๘ ปี มีพระราชาองค์หนึ่งพระนามว่า ศรีธรรมาโศกราชหรืออีกนัยหนึ่งว่า พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นผู้ทรงเดชานุภาพปราบชมพูทวีปทั้งมวลได้เสด็จไปสู่ดอยศรีจอมทอง พร้อมด้วยท้าวพระยาเสนามาตย์ราชบริพารเป็นอันมาก ด้วยอานุภาพแห่งพระอินทร์ เทพยดาและพระอรหันต์แล้ว ได้ให้ขุดคูหาอุโมงค์ที่ใต้พื้นดอยศรีจอมทองลึกนัก ใหญ่ประมาณเท่าที่ตั้งพระคันธกุฏีแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระเชตวันมหาวิหาร พระนครสาวัตถี ในสมัยพุทธกาล แล้วให้สร้างพระถูปองค์หนึ่งแล้วด้วยทองคำสูง ๖ ศอก ไว้ในคูหานั้น หล่อ พระพุทธรูปยืนด้วยทองทิพย์หนัก ๑ แสน ๒ องค์ ตั้งไว้ทางทิศเหนือพระสถูปองค์ ๑ ทิศใต้ ๑ องค์ หล่อพระพุทธรูปนั่งด้วยทองคำ ๒ องค์หนักองค์ละ ๑ แสน ตั้งไว้ ณ ทิศตะวันออกพระสถูปองค์ ๑ ทิศตะวันตก องค์ ๑ และได้จัดสร้างดุริยดนตรี เครื่องปูลาด เตียงตั้ง และฉัตรธงไว้ทั้ง ๔ ด้านแห่งพระสถูปนั้น แล้วให้หล่อรูปยักษ์ ๘ ตน ยืนเฝ้าที่หน้ามุขพระสถูปทั้ง ๔ ด้าน ๆ ละตน และยืนเฝ้าประตูแห่งคูหาทั้ง ๔ ด้าน ๆ ละตน แล้วพระเจ้าอโศกมหาราชจึงเอาโกศแก้ววชิระ หนัก ๑ พันน้ำ มาตั้งไว้เหนืออาสนะทองคำ ครั้นได้นักขัตฤกษ์ชัยมงคล จึงพร้อมด้วยพระอรหันต์ เทวดา นาค ครุฑและสมณพราหมณ์ ทำการฉลองสมโภชบูชาพระบรมธาตุแห่งสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นมหาปางอันใหญ่ตลอด ๗ วัน ครั้นแล้วจึงได้ทำการอัญเชิญพระทักษิณโมลีธาตุจอมพระเศียรเบื้องขวาแห่งพระ พุทธเจ้า เท่าเมล็ดในพุทราเสด็จเข้าสู่โกศแก้ววชิระนั้น พร้อมทั้งพระธาตุกระดูกด้ามมีดเบื้องขวา โตเท่าเมล็ดข้าวสารหัก มีสัณฐานเป็นสามเหลี่ยม และพระบรมธาตุย่อยอีก ๕ องค์เท่าเมล็ดพันธ์ผักกาด รวมเป็นพระธาตุ ๗ องค์ ให้เข้าอยู่ในโกศแก้ววชิระนั้น จึงเชิญโกศแก้ววชิระให้เข้าประดิษฐานไว้ในพระสถูปทองคำเสร็จแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราช พร้อมด้วยท้าวพระยาเสนามาตย์ เทพยดา และพระอรหันต์ทั้งหลาย จึงกล่าวคำอธิษฐานไว้ว่า “ข้าแต่พระบรมธาตุเจ้า องค์ประเสริฐในกาลเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ได้เคยเสด็จมาสู่ที่นี่ และได้ตรัสทำนายไว้แก่พระยาอังครัฏฐะว่า "พระ ทักษิณโมลีธาตุของเราตถาคตจะมาประดิษฐานอยู่ที่นี่" ดังนี้ และบัดนี้พระบรมธาตุเจ้าก็ได้เสด็จเข้าประดิษฐานอยู่ในที่นี่ สมดังพระพุทธทำนายแล้ว ในกาลต่อไปข้างหน้า แม้ว่าคน เทวดาและครุฑ นาคใด ๆ ก็ดี จักมานำเอาพระบรมธาตุเจ้าไปในสถานที่ใดก็ดีขอพระบรมธาตุเจ้าอย่าได้เสด็จไป เลย แม้ถึงว่าได้เสด็จไปแล้วก็ขอจงได้ เสด็จกลับคืนมาอยู่ ณ สถานที่นี้ตราบเท่า ๕๐๐๐ พระวัสสา เพื่อได้เป็นที่สักการบูชาแก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายชั่วกาลนาน ข้าแต่พระบรมธาตุเจ้าในอนาคตกาลข้างหน้า หากมีพระราชาหรือมหาอำมาตย์ผู้ใด ได้มาสักการะพระบรมธาตุเจ้า ณ ดอยศรีจอมทองที่นี่ ขอจงให้พระราชาเป็นต้น พระองค์นั้นจงมีเดชานุภาพเหมือนดั่งข้าพระพุทธเจ้าอโศกมหาราชธรรมราชานี้ เทอญ ข้าแต่พระบรมธาตุเจ้า เมื่อใดพระราชามหาอำมาตย์ผู้เสวยราชบ้านเมือง มีบุญวาสนาเสมอดั่งข้าพระพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอนิมนต์พระบรมธาตุเจ้า จงเสด็จออกมาจากพระสถูปทองคำแสดงอภินิหารให้ปรากฏแก่คนและเทพยดาทั้งหลาย เพื่อให้พระพุทธศาสนารุ่งเรืองต่อไปตลอด ๕,๐๐๐ พระวัสสา ถ้าหากพระราชาและอำมาตย์เสวยราชบ้านเมืองที่นี้ ปราศจากการเคารพนับถือพระรัตนตรัย กระทำแต่บาปอกุศลกรรมมีประการต่าง ๆ ไซร้ ขอพระบรมธาตุเจ้า จงเสด็จประทับอยู่ในพระสถูปทองคำ แห่งข้าพระพุทธเจ้า ขอจงอย่าได้เสด็จออกมาให้ปรากฏแก่ผู้ใดเลย ข้าแต่พระบรมธาตุเจ้า กาลใดเมื่อพระพุทธศาสนาตั้งอยู่ตลอด ๕,๐๐๐ พระวัสสา แล้ว พระธาตุแห่งพระพุทธเจ้าก็จักเสด็จไปรวมกันในที่แห่งเดียว ขอพระสถูปทองคำของข้าพระพุทธเจ้ากับทั้งเครื่องสักการบูชาทั้งหลาย จงอย่าได้สูญหายเป็นอันตรายไปเลย ขอจงตั้งอยู่ตราบเท่าถึงศาสนาพระศรีอริยะเมตไตรยผู้จะมาตรัสในภายหน้า และขอจงให้พระศรีอริยะเมตไตรยพระองค์นั้นจงนำพระสถูปทองคำของข้าพระพุทธเจ้า นี้ออกมาแสดงแก่เทพยดา และมนุษย์ทั้งหลาย ได้กระทำสักการบูชาทุก ๗ วันเทอญ” เมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชทรงอธิษฐานดังนี้แล้ว เหล่าเทพยดา นาคครุฑ ทั้งหลายจึงไปนำเอาหินจากป่าหิมพานต์ เอามาก่อแวดล้อมพระสถูปไว้ ๗ ชั้น เพื่อมิให้คนและสัตว์มาทำอันตรายได้ แล้วจึงอาณัติสั่งเทวดา ๒ ตนและพญานาค ๒ ตน ให้อยู่พิทักษ์รักษาพระบรมธาตุเจ้าต่อไป ในกาลใดถ้าหากพระราชามหาอำมาตย์และฝูงชนทั้งหลาย ประกอบด้วยบุญสมภารมีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ในกาลนั้น เทพยดา และพระยานาคผู้รักษาพระบรมธาตุ ก็ดลบันดาลให้ชนทั้งหลายทราบว่าพระบรมธาตุเจ้ามีอยู่ในที่นี้ ถ้าชนทั้งหลายมีใจหนาแน่นไปด้วยกิเลสประกอบแต่กรรมอันเป็นอกุศลบาปธรรม เทพเจ้าผู้รักษาพระบรมธาตุก็นิมนต์พระบรมธาตุให้เข้าอยู่ในคูหาใต้พื้นดอย ศรีจอมทองเสีย มิให้ออกมาปรากฏแก่คนทั้งหลาย และในกาลนั้นพระเจ้าอโศกธรรมราชาได้รับสั่งให้เสนาอำมาตย์ราชบริพารทั้งหลาย ให้ขุดหลุมใหญ่ฝังทองคำไว้ในทิศทั้ง ๘ แห่งดอยศรีจอมทอง ทรงอธิษฐานไว้ว่าเมื่อใดพระบรมธาตุเจ้าเจริญรุ่งเรืองไปภายหน้า ขอจงให้ผู้อยู่ปฏิบัติรักษาพระบรมธาตุนี้ จงขุดเอาทองคำที่ฝังไว้นี้ออกบำรุงก่อสร้าง สถาปนาพระพุทธศาสนาให้เจริญถาวรต่อไปชั่วกาลนานเทอญ ครั้นแล้วท้าวเธอพร้อมด้วยเสนามาตย์ราชบริพารก็เสด็จคมนาการกลับไปสู่พระนคร ของพระองค์ ณ กาลนั้นแล 

   
 
 

จากคุณ    : ศรีวรุณะอิสโร
14  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอเสนอให้ พระอาจารย์ พบลูกศิษย์ ทาง MSN อาทิตย์ ละครั้ง เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 03:01:50 pm
แสดงว่าโดยรวม ยังใช้ง่าย อย่างที่คิดไม่ได้ ใช่หรือไม่ครับ
ดังนั้น ใครเคยใช้ มีความชำนาญ ก็ต้องช่วยแนะนำ ทีมงานกันด้วยนะครับ

  :25: :c017: :49:
15  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: รวมตอบปัญหา เดือน ก.ย. 55 20 คำถาม โดย ธัมมะวังโส ( ตอบเพิ่ม ต.ค.55 ) เมื่อ: ธันวาคม 18, 2012, 11:13:03 pm
น่าจะมีการช่วยกันตอบ หากครูอาจารย์ท่านไม่ตอบก็แสดง ว่ามีคำตอบในเว็บแล้ว

  :s_hi: :c017: :49:
16  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เมื่อลูกศิษย์ ถามพระอาจารย์ว่า การเจริญ มรณัสสติ ควรเจริญอย่างไร ? เมื่อ: ธันวาคม 18, 2012, 11:12:06 pm
ท่าน aaaa กล่าวได้ดีครับ

  :25: :c017:
17  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / เพื่อนผมเป็นโรค ปวดหัว ซีกเดียว ( ไมเกรน ) จะแนะนำกรรมฐาน อะไรดีครับ เมื่อ: ธันวาคม 04, 2012, 02:57:52 pm
เพื่อนผมเป็นโรค ปวดหัว ซีกเดียว ( ไมเกรน )  จะแนะนำกรรมฐาน อะไรดีครับ
ผมเคยแนะนำให้ภาวนา พุทโธ แล้ว ก็ทำได้ไม่นาน บอกจริตไม่ชอบ ผมเกรงว่าถ้าจะให้ฝึกประเภทกสิณ กลัวจะเครียดหนัก ปวดหนัก กว่าเดิม ปกติ จะแนะนำกรรมฐาน อะไรให้คนที่ป่วยอย่างนี้ปฏิบัติครับ

    :s_hi: :25: :c017:
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: พุทธพาณิชย์ กับ "การสร้างศรัทธาในพุทธศาสนา" เมื่อ: ธันวาคม 04, 2012, 02:55:35 pm
 :c017: สาธุ ได้ความรู้ และมุมมองใหม่ครับ

 
19  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: พระกำลังแผ่นดิน..แรง.! 'ทั้งพุทธคุณและค่านิยม' เมื่อ: ธันวาคม 04, 2012, 02:47:52 pm
สมเด็จ นางพญา จิตรลดา เป็นพระที่นิยม อีกพิมพ์ ครับ

 ขอบคุณครับ

  :25: :25: :25:
20  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: แม่เฒ่า 86 แจ้งความตามทรัพย์สินกว่า 3 แสนคืน หลังน้องสาวโดนหลอกนำไปทำบุญต่ออายุว เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2012, 03:44:07 pm
คือไม่ทราบ ว่า เรามีศรัทธาบริจาค ทรัพทย์ แล้ว ก็ไปขอทรัพย์ คืน กฏหมายว่าอย่างไร ?
 วัดต้องคืน ทรัพย์ส่วนนี้หรือไม่ครับ ?
   :smiley_confused1:
21  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แม่เฒ่า 86 แจ้งความตามทรัพย์สินกว่า 3 แสนคืน หลังน้องสาวโดนหลอกนำไปทำบุญต่ออายุว เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2012, 03:43:02 pm
แม่เฒ่า 86 แจ้งความตามทรัพย์สินกว่า 3 แสนคืน หลังน้องสาวโดนหลอกนำไปทำบุญต่ออายุวัดดัง

ราชบุรี - “ชาติก่อนเคยเป็นหนี้ ชาตินี้ต้องเอาเงินมาทำบุญชดใช้” แม่เฒ่าวัย 76 ปี หลงเชื่อ กลัวพี่สาววัย 86 ปีที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลจะตาย นำเอาเงิน และทองของพี่สาวรวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาทให้หญิงคนรู้จักนำไปทำบุญต่ออายุให้ที่วัดดังปทุมธานี พอเจ้าตัวออกจาก รพ.พบทรัพย์สินสูญหาย แจ้งความตำรวจให้นำมาคืน
     
      เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (27 พ.ย.) น.ส.ภาวิดา บุญยินดี อายุ 36 ปี ได้พาแม่เฒ่า ผู้เป็นป้า คือ นางสุมิตรา บุญยินดี อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ถนนยุคประชา เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.อภิวิชญ์ จันทวงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สภ.บ้านโป่งว่า ทรัพย์สินของนางสุมิตรา ผู้เป็นป้า มีสร้อยคอทองคำ พร้อมเข็มขัดนาค 2 เส้น รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท ซึ่งเก็บไว้ในตู้ภายในบ้าน ถูกนางมนกาญจน์ สุขสวัสดิ์ อายุ 63 ปี คนรู้จักกันนำเอาไปขาย แล้วนำเอาเงินทั้งหมดไปถวายให้แก่ทางวัดดังแห่งหนึ่งที่ จ.ปทุมธานี
     
      นางสุมิตรา แม่ฒ่าเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนเจ็บป่วย และได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่หลายอาทิตย์ ซึ่งในช่วงที่นอนอยู่โรงพยาบาล มีนางสุขเกษม บุญยินดี อายุ 76 ปี น้องสาว เฝ้าบ้านเพียงลำพัง ภายหลังตนออกจากโรงพยาบาลเมื่อเปิดตู้ที่เก็บทรัพย์สินเงินทอง ปรากฏว่า สร้อยคอทองคำ และเข็มขัดนาคอีก 2 เส้น พร้อมเงินสดอีกจำนวนหนึ่งได้หายไป จึงได้สอบถามนางสุขเกษม ผู้เป็นน้องสาว จึงทราบว่า ในระหว่างที่ตนล้มป่วยนอนรักษาตัวโรงพยาบาล ได้มีนางมนกาญจน์ สุขสวัสดิ์ ได้ไปมาหาสู่ที่บ้านเป็นประจำ
     
      และนางมนกาญจน์ ได้บอกแก่น้องสาวตนว่า “เมื่อชาติก่อนนางสุมิตรา พี่สาว เป็นหนี้สินนางมนกาญจน์ และที่ล้มป่วยเพราะว่ากำลังจะหมดบุญ จะต้องเอาเงินไปทำบุญเพื่อเป็นการต่ออายุให้แก่นางสุมิตรา”
     
      เมื่อนางสุขเกษม น้องสาวตนได้ฟังก็ตกใจ และด้วยความเป็นห่วงตน ซึ่งเป็นพี่สาวที่ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงหลงเชื่อ จึงได้นำเอาสร้อยคอทองคำ และเข็มขัดนาคของตนมอบให้แก่นางมนกาญจน์ ไปเพื่อนำไปขาย แล้วนำเงินไปถวายวัดต่ออายุให้ตน หลังจากตนทราบเรื่องจึงได้ให้ น.ส.ภาวิดา หลานสาว พาเข้าแจ้งความดังกล่าว
     
      ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนางมนกาญจน์ สุขสวัสดิ์ มาสอบปากคำ โดยนางมนกาญจน์ รับว่า ได้นำเอาทรัพย์สินที่นางสุขเกษม ให้มาไปขาย 2 ครั้งได้เงิน 290,000 บาท จากนั้นก็ได้นำเงินทั้งหมดไปถวายให้แก่ทางวัดดังแห่งหนึ่งที่ จ.ปทุมธานี พร้อมกับนำใบอนุโมทนาบัตรวัดจำนวน 2 ใบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจดู ซึ่งใบอนุโมทนาบัตรวัดทั้ง 2 ใบระบุเงินที่ถวายให้กับทางวัดเพียง 203,400 บาท และก็ไม่มีชื่อของนางสุมิตรา เจ้าของเงิน มีเพียงชื่อของพระภิษุรูปหนึ่ง กับนางมนกาญจน์ เท่านั้น
     
      พ.ต.ท.อภิวิชญ์ จันทวงศ์ กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นางมนกาญจน์ ติดต่อกับพระภิษุที่มีชื่อในใบอนุโมทนาบัตรวัด เดินทางไปประสานกับทางวัด เพื่อขอเงินที่ถวายไปกลับคืนมาให้แก่คุณยาย หรือนางสุมิตรา ก่อน เนื่องจากเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของคุณยาย อีกทั้งเจ้าของไม่ได้รู้เห็น และเต็มใจที่จะถวายให้แก่วัด ส่วนในเรื่องคดีความนั้นก็ต้องอยู่กับทางเจ้าทุกข์แต่เพียงผู้เดียว

อ้างอิง

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000144866
22  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระท้องเสีย เพราะสาเหตุมาจาก นมเปรี้ยว ที่ไปถวาย ไม่ทราบเป็นบุญหรือบาปคะ เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 04:22:21 pm
บาป สิครับ เพราะตอนนี้ คุณใจเศร้าหมองแล้ว นะครับ
ต่อไป ก็เป็นบทเรียน นะครับ ว่านมเปรี้ยวสำหรับ พระที่ฉันมื้อเดียวไม่เหมาะสมครับ และไม่เหมาะบริโภคในยามท้องว่างนะครับ

ถ้าจะถวายนม ให้ถวายเป็นนมผง ครับ ประเภท แอนลีน นะครับ พวกนี้จะดีกว่า นมข้นเพราะนมข้น ผมเห็นมาครับพระอาจารย์ ที่ผมเคยไปดูแล ท่านฉันบ้างไม่ฉันบ้าง นมหลังจากเปิดแล้ว ก็ 4 วันก็เสียแล้วครับ

ถ้าจะถวาย ก็ประเภท แอนลีน แลคโตเย่น พวกนี้ครับ จะดีกว่ามาก ๆ ครับ

 ให้ไปขอขมาก่อนนะครับ เพราะเราไม่ได้เจตนา ควรจัดหายา ดูแล ตอนอาพาธ ทำบุญแก้ตัวครับ

  :13:
23  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: จำเป็นต้องปฏิบัติ ฐานจิตที่ 1 ทุกครั้งหรือไม่ คือ.... เมื่อ: สิงหาคม 22, 2012, 04:04:53 pm
อ่านคำตอบแล้ว รู้สึกว่า กรรมฐาน มีส่วนที่เข้าใจได้ยาก อยู่มากเลยนะครับ
ไม่ใช่เรื่องที่เคยคิดว่า ธรรมะในพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ปฏิบัติได้ง่าย ถึงได้ง่าย

 แต่ตอนนี้ผมเริ่มเปลี่ยนความคิดแล้วครับ พระธรรมไม่ใช่เรื่องที่จะรู้แจ้งได้โดยง่าย เข้าถึงได้ง่าย หรือภาวนาได้ง่ายๆ เพราะถ้าง่าย จริง ๆ ตอนนี้บ้านเมืองเรามีพระอริยะ เต็มเลยนะครับ

  :s_hi: :c017:
24  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การอธิษฐาน กรรมฐาน มีความจำเป็นมากอย่างไรครับ เมื่อ: สิงหาคม 22, 2012, 04:02:14 pm
สัญญา ในความหมายไหน ต้องพิจารณาให้ดีนะครับ ว่าพระอาจารย์ ต้องการสื่อคำว่า สัญญา อันไหน

 สัญญา หมายถึง ความจำ หรือ

 สัญญา หมายถึง คำที่ตกลงไว้ว่าจะทำ หรือ ต้องทำ โดยไม่บิดพริ้ว

  :s_hi: :c017:
25  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ประกาศเรื่องการตอบปัญหาธรรม ทั้งในกระทู้ และ เมล เมื่อ: สิงหาคม 22, 2012, 04:00:24 pm
เห็นด้วยครับ ถ้าโพสต์ ถามกันบ้างจะดีนะครับ ถ้าให้ไปอ่านอย่างเดียว เว็บจะไม่มีการเคลื่อนไหวนะครับ เว็บที่ดีต้องมีการเคลื่อนไหว ทางด้านถามตอบ คุยกันนะครับ

 อันนี้เห็นด้วย ครับ
 
 ยิ่งเป็นเว็บ ที่เป็นเว็บ ธรรมะกรรมฐาน โดยตรงหาพระอาจารย์ ที่ คนเคารพศรัทธา มาตอบกันตรง ๆ นั้นผมว่ายากนะครับ แต่สำหรับเว็บนี้ ผมเห็นพระอาจารย์ ที่เป็นพระกรรมฐานโดยตรงมาตอบเลย นับว่าแปลกจากเว็บอื่นๆ มากครับ เพราะที่เห็นพระอาจารย์ที่ เป็นฝ่ายกรรมฐาน จะไม่ใช้ สื่อ อินเตอร์เน็ต ออนไลน์นะครับ และดูจะไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้ ด้วยนะครับ

  :s_good: :s_good: :s_good: :welcome: :c017:
26  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / คนที่ต้องการภาวนาจริง ๆ จำเป็นต้องศึกษาคัมภีร์ต่าง ๆ มากด้วยหรือไม่ครับ ? เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 07:23:29 pm
คนที่ต้องการภาวนาจริง ๆ  จำเป็นต้องศึกษาคัมภีร์ต่าง ๆ มากด้วยหรือไม่ครับ ?

 เหตุเกิดเพราะเพื่อนผมเอง คนข้างเคียงอีกหลายท่าน ที่ได้สัญญากันไว้ว่า จะร่วมภาวนาปฏิบัติธรรมกรรมฐานกันมา 2 ปีแล้ว แต่ไม่เห็นจะภาวนาอะไรเลยครับ ยังมัวแต่นั่งอ่านตำรา อยู่หลายเล่มหนังสือกองบนโต๊ะหลากหลาย



   จึงสงสัยว่า คนที่จะภาวนากันจริง ๆ นี่ควรเรียนศึกษา กันแค่ไหนครับ มีขอบเขตหรือไม่ครับ

   :41: :smiley_confused1: :s_hi: :c017:
27  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ้เรียนถามเรื่อง ภยาคติ กับ อุเบกขา แตกต่างกันอย่างไรครับ เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 07:17:13 pm
โอ้ เหตุการณ์อย่างนี้ ยังคงมีต่อไปในสังคมของคนที่ขาดธรรมะ
แต่ผมว่า บางครั้งการวางเฉยนั้น สำหรับชาวธรรม ต้องประกอบด้วยความพยายามที่จะแก้ปัญหาก่อนใช่หรือไม่ครับ ที่คุณ painting กล่าวว่า ต้องผ่านลำัดับธรรม คือ เมตตา กรุณา มุทิตา มาก่อน

   ดังนั้นในกรณี ที่คุยเล่าไว้นั้น ผมก็คิดว่าคุณก็คงจะผ่านลำดับ พรมวิหาร 4 มาก่อนแล้วใช่หรือไม่ครับ ผมเองก็คงต้องคิดหนักนะครับ ถ้าต้องตกงาน แล้ว คนรอบข้างเราต้องเดือดร้อน

    สมมุติ นะครับ ว่า เจ้านายคนนั้นเป็นลูกของนายจ้างใหญ่ (เดาเอานะครับ) ถ้าผมช่วยเหลือผู้หญิง ผมก็เดือดร้อน ครอบครัวผมก็เดือดร้อน คนรอบข้างก็ต้องเดือดร้อนเพราะผมอย่างนี้ จะหาว่าผมขาดเมตตา กรุณา มุทิตา ได้หรือไม่ครับ เพราะห่วงคนที่จะเดือดร้อนข้างเคียงกัน
   
    หรือยังคงอยู่ในความหมาย ว่า ลำเอียงเพราะกลัว อยู่อีก

   ลองวิจัยเป็นเพื่อนนะครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ เข้าใจยากนะครับ
   
    :49: :c017:
28  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.thaibhuda.com ไทยบุดดา เมื่อ: สิงหาคม 05, 2012, 02:56:21 pm

พระบรมสารีริกธาตุ เขี้ยวแก้ว
สามารถดาวน์โหลดภาพความละเอียดสูงได้ที่นี่ครับ
http://www.thaibhuda.com/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=7&Itemid=13



http://www.thaibhuda.com
ไทยบุดดา
29  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ซื้อปูนเทลานปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าสุวรรณคูหา เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2012, 08:13:15 pm
อนุโมทนา บุญด้วยครับ
คุณธรรมธวัช นี้มีงานบุญให้เห็นเป็นประจำนะครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ

  :13: :13: :13:
30  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / Re: http://thaiglasses.atspace.com/ แว่นตาคนจนวงเวียนใหญ่ เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2012, 07:19:02 pm
ดีใจที่ยังมีร้านดี ๆ ส่งเสริม คนจนอยู่ ว่าแต่ทำไมเขาแจกฟรีเฉพาะวันที่ 1 และ 16 ละครับ

  :25: :smiley_confused1:
31  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: ไปสร้างกุศล พุทธชยันตี 4 มิ.ย.255 กับ คณะทีมมัชฌิมา เมื่อ: มิถุนายน 05, 2012, 09:37:35 pm
อนุโมทนา บุญกุศลกับทุกท่านด้วยความเคารพครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

  :25: :25: :25:
32  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ความเชื่อในเรื่องกรรม เพื่อชีวิตที่รุ่งเรือง เมื่อ: เมษายน 01, 2012, 03:41:31 pm
ความเชื่อในเรื่องกรรม  เพื่อชีวิตที่รุ่งเรือง
   
ความเชื่อในเรื่องกรรม
   

ตามคำสอนในพุทธศาสนา ชาวพุทธควรมีศรัทธา ๔ อย่าง คือ

๑. ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คือ เชื่อว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จริง เป็นผู้ประกอบด้วยพระปัญญาธิคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ

๒. กัมมสัทธา เชื่อเรื่องกรรม คือ เชื่อว่ากรรมมีจริง

๓. วิปากสัทธา เชื่อเรื่องผลของกรรม คือ เชื่อว่ากรรมที่บุคคลทำไม่ว่าดีหรือชั่ว ย่อมให้ผลเสมอ

๔. กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตน คือ เชื่อว่าผลที่เราได้รับเป็นผลแห่งการกระทำของเราเอง ซึ่งอาจจะเป็นกรรมที่ทำในปัจจุบันชาติหรืออดีตชาติ

หลายคนคิดว่ากฎแห่งกรรมไม่มีจริง จนถึงกับประชดประชันว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป ด้วยเห็นว่าคนทำกรรมชั่วได้รับผลเป็นคนร่ำรวย เป็นคนมีวาสนา มีคนเคารพยกย่อง ตรงข้ามกับคนที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ขยันขันแข็ง กลับต้องมีชีวิตที่ยากลำบากหรือคนที่ทำงานไม่ป็น เลี่ยงงาน ประจบสอพลอ กลับได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง

กรรมให้ผลไม่เหมือนกัน ให้ผลทันเวลาและให้ผลระยะยาวต่อไป ฉะนั้นทุกคนจึงมีโอกาสรับกรรมไม่เหมือนกัน ความดีที่ทำไว้ครั้งนั้นยังมาไม่ถึง ความชั่วหนักกว่าก็มาให้ผลก่อน ส่วนความดีนั้นเขาก็จให้ผลในภายหลัง

คนที่เชื่อเรื่องกรรม ย่อมสามารถอดทน ยอมรับความทุกข์ ยากลำบาก ความผิดหวัง ขมขื่น และเคราะห์ที่เกิดแก่ตนได้ ไม่ตีโพยตีพายว่าโลกไม่มีความยุติธรรม ทำดีต้องได้รับผลดีแน่นอน และทำชั่วก็จะได้รับผลชั่วอย่างหนีไม่พ้น กรรมบางอย่างอาจให้ผลในชาตินี้ บางอย่างอาจให้ผลในชาติหน้า หรือชาติต่อไป เช่นเดียวกับการปลูกพืชบางอย่างให้ผลในไม่กี่เดือน บางอย่างก็เป็นปี


33  ธรรมะสาระ / บทสวดมนต์ มนต์พิธี / เค้ามูลปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร เมื่อ: เมษายน 01, 2012, 03:37:29 pm

เค้ามูลปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร



จากวันนั้นย้อนหลังขึ้นไปกว่า ๒๕๐๐ปีมาแล้ว ณ เชิงเขาคิชฌกูฎ กรุงราชคฤห์ครานั้นองค์พระศากยมุนีพุทธเจ้ากำลังทรงเข้าสู่สมาธิที่ชื่อว่า "คัมภีราวสมาธิ"ท่ามกลางบรรดาพระโพธิสัตต์และพระอรหันต์สาวกจำนวนมากอยู่นั้นเป็นขณะเดียวกันกับที่

พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตต์ได้

ดำริขึ้นว่า ขันธ์ทั้ง ๕เป็นความว่างเปล่าอยู่แล้วตามธรรมชาติ ดังนั้น พระอรหันต์สาวกองค์หนึ่งซึ่งมีนามว่า "ท่านสารีบุตร"จึงได้ปรารภขอให้องค์พระมหาโพธิสัตต์อวโลกิเตศวรจงแสดงธรรมเรื่อง

"ความว่าง สุญญตา"

ให้แก่บรรดาพุทธบริษัทที่ชุมนุมอยู่ ณ ที่นั้นด้วยด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีกำเนิดแห่งพระสูตรเลื่องชื่อซึ่งมีความหมาย

"พระสูตรที่ว่าด้วยปัญญาเป็นส่วนสำคัญที่จะพาไปให้ถึงฝั่ง(พระนิพพาน)"
   


ใจความสำคัญปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร


พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตต์ เมื่อทรงได้บำเพ็ญปัญญาบารมีจนบรรลุถึงโลกุตรธรรมอันลึกซึ้งแล้ว ก็พิจารณาเล็งเห็นว่าที่แท้จริงแล้วขันธ์ ๕นั้นเป็นสูญ(สูญญตาหรืออนัตตาหรือความว่าง) และเมื่อสามารถมองเห็นว่าขันธ์ ๕ เป็นสูญแล้ว จักช่วยให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
“ท่านสารีบุตร รุปไม่ต่างจากความสูญ ความสูญไม่ต่างไปจากรูป
รูปก็คือความสูญ ความสูญก็คือรูปนั้นเอง
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เป็นความสูญเช่นเดียวกัน ท่านสารีบุตร ธรรมทั้งปวงมีความสูญเป็นลักษณะไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่หย่อน ไม่เต็มอย่างนี้
เพราะฉะนั้นแหละ ในความสูญจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (อายตนะภายใน ๖อย่าง) ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์
(อายตนะภายนอก ๖อย่าง) ไม่มีวิญญาณ(ความรู้สึกรับรู้ได้) ในอายตนะภายในทั้ง ๖ด้วย (จักษุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ และมโนวิญญาณ) ไม่มีวิชา ไม่มีอวิชา ไม่มีความสิ้นไปแห่งวิชชาและอวิชชา จนถึงไม่มีความแก่ความตาย และไม่มีสิ้นไปแห่งความแก่ความตาย
ไม่มีทุกข์ สมัทัย นิโรธ มรรค ไม่มีญาณ(ปัญญา) ไม่มีการบรรลุถึงซึ่งปัญญา และไม่มีอะไรที่ต้องบรรลุอยู่ต่อไป
พระโพธิสัตต์ เมื่อได้ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมีแล้ว เป็นผู้ถึงความเป็นผู้มีจิตที่เหลืออยู่ต่อไปแล้ว จึงเป็นผู้มีความเห็นถูกต้องชอบธรรม (สัมมาทิฐิ) และกระทำกิจทั้งปวงอย่างถูกต้องโดยเสมอ ในที่สุดก็บรรลุถึงพระนิพพาน บรรดาปวงพระพุทธเจ้าทุกๆองค์มีทั้งอดีตกาล ปัจจุบันกาล และอนาคตกาล ล้วนต่างได้เคยบำเพ็ญปัญญาบารมีมาด้วยกันแล้วทุกๆพระองค์ และเมื่อได้บำเพ็ญคุณธรรมนี้แล้วจึงได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ดังนั้นควรได้ทราบว่าปัญญาบารมีนี้เป็นมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมนต์ที่ไม่อาจมีมนต์บทใดมาเทียบเคียงได้ เป็นมนต์ที่สามารถขจัดทุกข์ภัยทั้งปวง และนำพาไปสู่แดนนิพพานได้แน่นอน จึงไม่ควรจะมีความกงขาใดๆต่อไปเลย
ดังนั้นควรหมั่นสวดภาวนามนต์บทนี้ ด้วยเหตุนี้แล...จงไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิงไปสู่ความเป็นผู้รู้ไปสู่ความสงบสันติเบิกบานเกษมศานต์เถิด ”
   
   

   
   

ป รั ช ญ า ป า ร มิ ต า ห ฤ ทั ย สู ต ร
( พระสูตรว่าด้วยปัญญาอันเป็นหัวใจพาไปถึงฝั่งพระนิพพาน )

อายาวะโลกิติซัวรา โบดิสัตจัว กรรมบิรัม ปรัชญาปารมิตาจารัม จารา มาโน
วียาวะโลกิติสมา ปัญจะ สกันดา อะสัตตัสจา ซัวปาวะสูญนิยะ ปาสัตติสมา
อีฮา สารีบุทรา รูปังสูญญะ สูญนิยะตา อีวารูปา
รูปานา เวทะสูญนิยะตา สูญญา นายะนา เวทะ ซารูปัง
ยารูปัง สา สูญนิยะตะยา สูญนียะตา ซารูปัง
อีวา วีดานา สังญาสัง สการา วียานัม
อีฮา สารีบุทรา ซาวาดามา สูญนิยะตะ ลักษาณา
อานุภานา อานิรูตา อะมะระ อะวิมะลา อานุนา อาปาริปุนา
ทัสมาต สารีบุทรา สูญนิยะตายะ นารูปัง นาวิยานา นาสังญานา สังสการานา วียานัม
นา จักษุ โสตรา กรรณนา ชิวหา กายา มะนา ซานะรูปัง
สัพพะ กันดา รัสสัส สปัตตะ วียา ดามา
นาจักษุ ดาตุ ยาวะนา มะโนวีนยะนัม ดาตุ นาวิดียา นาวิดียา เจียโย
ยาวัดนา จาระมา ระนัม นะจาระมา ระนัม เจียโย
นาตุขา สมุดา นิโรดา มาคา นายะนัม นาประติ
นาอะบิส สะมะยัง ตัสมาตนะ ปรัตติถา โพธิสัตวะนัม
ปรัชญา ปารมิตา อาสริดะ วิหะรัชชะ จิตตา อะวะระนา
จิตตา อะวะระนา จิตตา อะวะระนา นัสติ ตวะนะ ทรัสโส
วิปาริยะซา อาติกันดา นิสทรา เนียวานัม
ทรียาวะ เรียววะ สิทธะ สาวา บุดดา ปรัชญา ปารมิตา
อาสวิชชะ อะนุตตะระ สัมยัก สัมโบดิม อะบิ สัมโบดา
ทัสมาต เนียทาวียา ปรัชญา ปารมิตา มหามันทรา
มหาวิทยะ มันทรา อะนุตตะระ มันตรา อสมา สมาธิ มันทรา
สาวา ตุขา ปรัชสา มานา สังญา อามิ เจียจัว
ปรัชญา ปารมิตา มุขา มันทรา ตะติติยะ
"คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โบดิซัวฮา"
   
   

   
   

คำแปล ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผู้ประกอบด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้ง
ได้มองเห็นว่า โดยธรรมชาติแท้แล้ว ขันธ์ทั้งห้านั้นว่างเปล่า
และด้วยเหตุที่เห็นเช่นนั้น จึงได้ก้าวล่วง พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้
สารีบุตร รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่าง ก็ไม่ต่างไปจากรูป
รูปคือความว่างนั่นเอง และความว่างก็คือรูปนั่นเอง
เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็เป็นดังนี้ด้วย
สารีบุตร ธรรมทั้งหลาย มีธรรมชาติแห่งความว่าง ไม่ได้เกิดขึ้นและไม่ได้ดับลง
ไม่ได้สะอาดและไม่ได้สกปรก ไม่ได้เพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลง

ดังนั้น ในความว่างจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา หรือสัญญา ไม่มีสังขาร หรือวิญญาณ
ไม่มีตาหรือหู ไม่มีจมูกหรือลิ้น ไม่มีกายหรือจิต ไม่มีรูปหรือเสียง ไม่มีกลิ่นหรือรส
ไม่มีโผฏฐัพพะหรือธรรมารมณ์ ไม่มีโลกแห่งผัสสะ หรือวิญญาณ
ไม่มีอวิชชา และไม่มีความดับลงแห่งอวิชชา ไม่มีความแก่และความตาย
และไม่มีความดับลงซึ่งความแก่ และความตาย ไม่มีความทุกข์
และไม่มีต้นเหตุแห่งความทุกข์ ไม่มีความดับลงแห่งความทุกข์
และไม่มีมรรคทางให้ถึง ซึ่งความดับลงแห่งความทุกข์
ไม่มีการประจักษ์แจ้งและไม่มีการลุถึง เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องลุถึง

พระโพธิสัตว์ผู้วางใจในโลกุตรปัญญา จะมีจิตที่เป็นอิสระจากอุปสรรคสิ่งกีดกั้น
เพราะจิตของพระองค์เป็นอิสระจาก อุปสรรคสิ่งกีดกั้น
พระองค์จึงไม่มีความกลัวใดๆ ก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตา
ลุถึงพระนิพพานได้ในที่สุด พระพุทธในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ผู้ทรงวางใจในโลกุตรปัญญา ได้ประจักษ์แจ้งแล้วซึ่งภาวะอันตื่นขึ้น
อันเป็นภาวะที่สมบูรณ์และไม่มีใดอื่นยิ่ง ดังนั้น จงรู้ได้เถิดว่า โลกุตรปัญญา
เป็นมหามนต์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นมนต์แห่งความรู้อันยิ่งใหญ่
เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นยิ่งกว่า เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นใดมาเทียบได้ซึ่งจะตัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง
นี่เป็นสัจจะ เป็นอิสระจากความเท็จทั้งมวล ดังนั้น จงท่องมนต์แห่งโลกุตรปัญญา
คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิ สวาหา
ไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง ลุถึง การรู้แจ้ง ความเบิกบาน
   
   

   
   

อานิสงส์ที่จากการสวดมนต์ภาวนา ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร
1.เพื่อเพิ่มพูนสติปํญญาให้สามารถเห็นแจ้งในธรรมะ
2.เพื่อการบรรลุภาวะการเป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม
3.เพื่อการตรัสรู้และการบรรลุนิพพานโลกธาตุในที่สุด

สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เดินทางเสี่ยงต่ออันตราย หรือ เผชิญภาวะฉุกเฉิน
และ ต้องการตั้งสติขจัดความตื่นกลัวออกไปโดยเร็ว ควรบริกรรม โดยใช้บทสวดมนต์ย่อว่า
"คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิสวาหา"
ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ท่านหลวงจีนเฮียงจั๋ง (พระถังซำจั๋ง) ท่านกล่าวว่า
ท่านสวดบทนี้เมื่อท่านอยู่ในภาวะคับขันในการเดินทางข้ามทะเลทราย
ท่านเชื่อว่าทำให้มีสติตั้งมั่น เกิดปํญญา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
34  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / Re: รวมคาถาโบราณจากศรีลังก ครหะสันติคาถา,คาถาปะโชตา (กำลังจักรพรรดิ).สัมพุทธะคาถา.ที่มาชินบั เมื่อ: มีนาคม 22, 2012, 11:41:36 am
เป็นคาถาที่ยาว นะครับ สวดทุกวันก็ไม่น่าจะยาก แต่ ตอนนี้ยัง รัก และ ศรัทธา ในคาถา พญาไก่เื่ถื่อน อยู่ครับถึงแม้จะยังไม่รู้ความหมายหรือ คำแปล ก็ตามก็ยังสวดเป็น นิสัย เหมือนเดิม ครับ คิดว่าเรื่องคาถาแค่นี้ก้น่าจะพอแล้วครับ

  :c017: :25: :13:
35  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สวด คาถา พญาไก่เถื่อน เป็นความงมงาย หรือ ไม่ ? เมื่อ: มีนาคม 04, 2012, 08:34:55 am
สวด คาถา พญาไก่เถื่อน เป็นความงมงาย หรือ ไม่ ?

อยากให้ผู้รู้ ช่วยไขประเด็น เหล่านี้ด้วยครับ คือ

1.ที่มา ที่ไป เกี่ยวอะไรกับการปฏิบัติ มีปรากฏข้อความในพระไตรปิฏก หรือ ไม่
2.ระหว่างสวด คาถาพญาไก่เถื่อน กับ สวดบทพุทธคุณ อันไหน จะดีกว่า
3.การที่เราสวด แบบไม่รู้อะไร เลย แล้วสวดไปเรื่อย ๆ จะต่างอะไรกับพวกพราหมณ์ ที่ท่่องบ่นคาถา
4.่สวดแล้ว จะดีขึ้นได้อย่างไร อะไร ดีขึ้น ในเมื่อพระพุทธเจ้าพระองค์ตรัสว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
5.สวดแล้ว ถ้ายังทำชั่ว ทำเลว โกงกิน รับสินบน เป็นต้น คาถาจะช่วยอะไรได้
6.การสวดคาถา พญาไก่เถื่อนเป็น กรรมฐานได้อย่างไร อยู่ในพระสูตรไหน
7.คนที่สวด กับ ผู้ชักชวนให้สวด จัดไว้ว่าเป็นความงมงายหรือไม่ ?
8.คาถานี้ จะทำให้ผู้สวด ละ กิเลสได้อย่างไร

 และยังมีอีกหลายคำถามที่ผม โดนเพื่อน ๆ ชาวกลุ่มปัญญาสวนกลับมา เมื่อไปชักชวนเขาสวดด้วยกันครับ
หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ช่วยแก้ข้อสงสัย นี้ด้วยนะครับ

  :smiley_confused1: :c017:
36  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมะวันนี้ "ความพยายามมีพอแล้วหรือยัง" เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2012, 01:55:32 pm

อย่างไร ชื่อว่า ทำใจให้บริสุทธิ์
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6010.0

  กระทู้นี้น่าจะ ช่วยในเรื่องของกุศล ได้นะครับ

  :25: :25: :25:
37  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมะวันนี้ "อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด" เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2012, 12:33:49 pm
เรื่องนี้ถ้าพิจารณา จากที่พระอาจารย์ ได้แนะนำไว้ ว่ามีการปฏิบัิติ 2 แบบ

   คือ 1. แบบสติ เพื่อ ตั้งรับกับ ความคิด โดยตรง

       2. แบบสมาธิ เพื่อ ถอนราก ถอนโคน ความคิด โดยตรง

  ใช่หรือไม่ครับ

    :c017: :13: :welcome:
38  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ควรพิจารณาหาทางป้องกัน ด้วยระเบียบสำหรับการควบคุมการลบกระทู้นะครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2012, 11:12:35 am
เห็นด้วยครับ

 อนุโมทนากับ ไอเดียของคุณ เด็กวัด ครับ

  :25: :25: :25:
39  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เพื่อน ๆ มีเหตุผลดี ๆ ที่เราควรจะต้องปฏิบัติกรรมฐาน กันหรือไ่ม่ครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 07:40:04 pm
ศึกษาธรรม กรรมฐาน เป็นบารมีไว้ก่อนดีกว่า เรื่องอื่น ๆ เราเรียนกันได้ แต่เรื่องกรรมฐาน เรียนไว้เถอะครับ ได้คุณมากกว่าโทษ นะครับ


  สาธุ อาจจะตอบไม่โดนใจ แต่ก็มาเอี่ยวด้วยแล้วนะครับ
 :49:
40  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: การมีกัลยาณมิตร เพื่อส่งเสริม อริยะมรรค 8 ให้สมบูรณ์ มิได้มีเพื่อความโชคดี เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 01:25:40 pm
อ้างถึง "จัดระดับสมาชิกตามที่ขอให้แล้วนะครับ"
คงตีความหมายผิดไปนะคะ  คำว่าการถูกไล่ออกจากทีมงานฯทันทีที่ได้รับข้อมูลหลังจากโพสไม่กี่นาที ดิฉันก็ขอน้อมรับกรรมด้วยความเคารพ 

ผมอ่านแล้วจึงพอทราบ ปกติ เคยตามอ่านมา 2 ปี ทีมงานโพสต์ จะมีเรื่องสาระที่อ่านแล้ว สร้างความปกติสุขแก่ชนอื่นที่เข้ามาอ่าน แต่ได้กระทู้คุณ 2 กระทู้ที่ผ่านมา เป็นกระทู้ที่แสดงความหดหู่ในการปฏิบัติ พิจารณาจากข้อความที่เขียนออกมา จึงทราบว่าคุณไม่สบายใจอยู่แน่นอน หลังจากที่ได้อ่าน ยิ่งพระอาจารย์ ออกมาตอบด้วยตนเองเลย ผมยิ่งให้น้ำหนักสูงขึ้น เพราะถ้าถามว่าระหว่าง คุณ jittree กับ ธัมมะวังโส ผมเคารพใน ธัมมะวังโส มากกว่าครับ ดังนั้นพิจารณาธรรมแล้ว น่าจะเป็นอย่างที่พระอาจารย์เห็นชอบครับ

 
หน้า: [1] 2 3