ประโยค นี้อาจจะนำให้เห็นว่า การเห็นตามความเป็นจริง ไม่ต้องเข้า ฌาน ก็ได้นะครับ
พระพุทธศาสนา จำเป็นต้องมี ฌาน หรือ ไม่ ?

 

คุณ kob ชอบทวิต ทำไม ไม่อาสาเลย ครับ
แต่ผมก็เห็นประโยชน์เหมือนกันครับ แจ้งข่าวสารออกไปไว มาก
อันที่จริง ต้องช่วย follow ด้วยนะครับ

 

เมื่อก่อน ก็คิดว่าไม่มีผลกระทบกับพวกเรา ตอนนี้มีผลกระทบแล้วครับ

ในเขตอุตสาหกรรม ตอนนี้ ปิด หยุดการผลิต อย่างไม่มีกำหนด จนกว่า สถานการณ์น้ำจะคลี่คลาย

 ในเดือนแรก จะจ่ายเงินเต็ม เดือน ถ้าท่วมเดือนต่อไป ก็จะจ่ายเงินครึ่งเดือน ส่วนพนักงานรายวัน ผู้รับเหมารายวัน

ไม่ได้รับค่าจ้าง นึำกภาพเอาสิครับ จะมีคนเดือดร้อน กันเท่าไหร่ เฉพาะที่โรงงานผม ก็ประมาณ 600 กว่าคน

ข้างเคียง อีกไปต้องพูดกัน.....

  ที่เห็นผลกระทบกับงานบุญ โดยตรงตอนนี้ คือ เก็บซองกฐิน กันไม่ได้ครับ หัวหน้าสายแจ้งมาว่าไม่สามารถตามเก็บซองกฐินกันได้ ที่จะทอดกันในวันเสาร์ และ วันอาทิตย์นี้

 ดังนั้นตอนนี้ในเขต วังน้อย บางปะอิน พระอินทน์ นวนคร ได้รับผลกระทบกันแล้วนะครับ

 

[ดังนั้นวันนี้อาจจะหาคำตอบอย่างที่ใจต้องการในเว็บ ในวันแรกนั้น อาจจะไม่สมใจครับ]

ยินดีต้อนรับ คุณ lengwuchong ครับผมเองก็เคยไปฝึกที่วัดธรรมมงคลมาเมื่อปี 2548 ครับก็หลายปีแล้ว

แต่ตอนนี้ก็ฝึก ในแนวกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ขึ้นกรรมฐานที่วัดราชสิทธาราม ครับ

ก็ชอบครับ โดยเฉพาะ อยู่ที่หนองแค นี้อยู่ใกล้ ทางสระบุรีมาก จึงได้ไปพบพระอาจารย์ ที่วัดแก่งขนุน ครับ
ปัจจุบัน ไปหาไม่ได้ เพราะท่านออกจากวัด ปลีกวิเวก ปีืที่ 2 แล้วครับ ถ้าจะพบก็ต้องมาพบวันที่ สมาชิกกลุ่ม
สระบุรี นัดหมายกัน ผมเองก็พลาดโอกาสไปหลายครั้ง ติดงานวันเสาร์อาทิตย์ โอทีบังคับ หลายครั้ง

แต่ทดสอบนั่งกรรมฐาน ตามที่ฝึกสอนแล้วครับ สมาธิก้าวหน้ามากครับ
ดังนั้นวันนี้อาจจะหาคำตอบอย่างที่ใจต้องการในเว็บ ในวันแรกนั้น อาจจะไม่สมใจครับ

กระทู้ที่นี่มีครับ อ่านไปเรื่อย ๆ ครับ เดี๋ยวก็จะเข้าใจครับ ผมก็อาศัยอ่าน และ ฟังพระอาจารย์สอนตอนช่วงทุ่ม
เว็บหน้าแรกครับ มีเสียงออนไลน์อยู่ครับ ช่วงทุ่มจะเป็นช่วงสอนกรรมฐานโดยตรงครับ

ก็ฟังมาปีกว่า ๆ แล้ว ก็ได้เข้าใจเพิ่มขึ้นครับ

อย่าท้อถอยนะครับ เราเคยฝึกได้มาแล้ว มาปรับฐานรากก่อนก็ดีครับ เพราะช่วงกลาง ๆ แล้วถ้าฐาน มั่นคงก็จะ
ก่อสร้างต่อได้ครับ

 แต่ชอบอุปมาเจียวไข่ นะครับ

   

  ถ้ากรรมฐานปฏิบัติภาวนาได้ง่าย เหมือนแจียวไข่ก็ดี นะครับ
   
 

  ขอบคุณครับจะเพิ่มความพยายาม ให้มากขึ้น

 

ขอบคุณครับ กับคำแนะนำ ผมอาจจะถามในส่วนสภาวะกรรมฐาน ที่ได้จึงทำให้ดูเหมือนกรรมฐาน ตอบได้ยาก

อันที่จริง อยากได้รับคำแนะนำเพิ่มมากกว่านี้ อีกครับ เพราะสรุปตรงที่ว่าให้ภาวนาต่อไป อย่าได้หยุด แต่

ปัญหา มันอยู่ทีว่า อาการที่เกิดไม่ได้หายไป บางครั้งถึงกับต้องเลิกทำสมาธิภาวนา ก็หลายครั้ง ที่สำคัญที่สุด

ก็มักจะติดไปอยู่ีที่ลมหายใจ เข้า และ ออก เป็นต้น ครับ

 

อนุโมทนา ครับ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว มาก แล้วก็ทำกันเป็นประจำ จนนึกไม่ถึงว่า อุทิศผลแห่งศีล แล้วผู้ที่ได้รับจะได้ผลแห่งศีลอย่างไร บ้าง

 สนับสนุนทุกท่านให้ได้อ่าน พลานุภาพแห่งศึล ครับ เพราะว่าโลกเรานี้จะอยู่สุขสงบร่มเย็นกันได้เพราะศีลครับ

 

ช่วงที่ผมนั่งทำสมาธิ จะมี
1.ช่วงนึงที่รู้สึก ว่าร่างกายโอนเอนนิดหน่อย
2. แล้วรู้สึกเหมือนกับว่า อยู่ดีๆก็หลุดเข้าไปอยู่ในที่ๆกว้างมากๆ ลึกมากๆ
3. จากนั้นสักพักก็จะรู้สึกลมหายใจละเอียดขี้นเรื่อยๆ จนเกือบไม่มี อารมณ์ก็จะเครียดๆนิ่งๆแน่วแน่ อธิบายไม่ถูก

4. หลังจากถอนสมาธิ อารมณ์ก็จะนิ่งๆเพ่งๆเครียดๆอยู่พักนึงครับแล้วค่อยๆผ่อนออก บางทีผมต้องไปอาบน้ำ ไม่งั้นนอนไม่หลับ มันเหมือนสมองตื่นลุกโพลงอยู่ตลอดน่ะครับ

==================================
ไม่ ทราบว่าข้อ 1 และ 2 คืออาการในปีติห้าอย่างใช่มั้ยครับ

ข้อสามคือ อุปจารสมาธิใช่ไหมครับ คือเกือบถึงฌานใช่ไหมครับ

ผมอ่านหลายตำราค่อนข้างงง เพื่อนผมบอกว่าข้อสามผมคือฌาน4 ตำราบอกว่าตอนถึงฌาณ 1 ต้องมีอารมณ์ครบห้าอย่าง ของผมมันนิ่งเพ่งอย่างเดียว ไม่มีสุข ไม่มีปิติ ไม่มีนิมิต ไม่เห็นอะไรเลย เลยไม่แน่ใจว่าคืออะไรครับ

เวลาที่ใช้ในการนั่งราวๆ 1 ชั่วโมงครับ ข้อ 1,2 นี่ ราวๆ 20 นาทีหลังจากเริ่มนั่งส่วนข้อ 3 นี่ราวๆ 40 นาทีหลังจากเริ่มนั่ง

จากคุณ    : cantona_z

ทุกวันนี้จะมีสักกี่คนที่รู้สึกตัวว่ากำลังเป็นคน ทำลายพระพุทธศาสนาโดยไม่รู้ตัว เพราะมีความเห็นแก่ตัวของตัวเองเป็นที่ตั้ง....

- ทำบุญด้วยเงินทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะความรู้สึกลึก ๆ ว่า ทำบุญด้วยเงินผลจะแรง ได้บุญมาก ได้ดอกเบี้ยยิ่งกว่าฝากธนาคาร...

- พ่อค้าแม่ค้า ขายอาหาร สิ่งของให้ "คนอาศัยผ้าเหลือง" ....เพราะอยากได้เงิน

- ขอเลข ขอเบอร์ ด้วยคิดเอาว่า พระรูปนั้นวิเศษ เพราะ .... ความอยากได้ทรัพย์แบบง่าย ๆ

- และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ทำไปโดยเอาความต้องการของตนเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่รู้ตัว แม้จะอ้างว่าเป็นเจตนาบริสุทธิ์ แต่ก็มิได้คำนึงถึงผลที่ตามมา มองแต่ผลประโยชน์ของตัวเองที่เรียกว่า "บุญ" เฉพาะหน้า

คำสอน บางอย่าง เช่น ห้ามพระจับเงิน (ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกรึเปล่านะครับ) หรือสะสมทรัพย์......พุทธบริษัททั้งหลายก็พยายามซิกแซกหาช่องราวกับกฏหมาย ประเทศบางประเทศ ทำให้พระท่านได้ครอบครองโดยไม่ผิดพระธรรมวินัย...........................

................................................


..........................................................
โลก ร้อน

เจอพระไม่ดี

ให้หันมามองด้วยว่า เรามีส่วนด้วยรึเปล่า

ก่อน ที่จะไม่มี "ภิกษุ" ให้กราบไหว้

จากคุณ : Nosten

วัดมหาพฤฒาราม วรวิหาร ตั้งอยู่ 5/7 ถ.มหาพฤฒาราม แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ : 0-2236-5678 0-2266-2844 รถประจำทางสายที่ผ่านได้แก่สาย 1,16,35,36,75, 93 รถปรับอากาศสาย 93 สามารถโดยสารทางเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ ท่ากรมเจ้าท่า ท่าสี่พระยา หรือเรือข้ามฝาก ท่าสี่พระยาได้ การเข้าชมวัดมหาพฤฒารามไม่เสียค่าเข้าชม โดยโบสถ์ของวัดเปิดให้เข้าชมเวลา 8.00-18.00น.







ริมสองฝั่งของคลองผดุงกรุงเกษม คลองขุดในสมัยรัชกาลที่ 4 มีวัดวาอารามตั้งอยู่มากมาย แต่ละวัดล้วนแต่เป็นวัดเก่าแก่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ทั้งสิ้น อาทิ วัดเทพศิรินทราวาส วัดโสมนัสราชวรวิหาร หรือแม้แต่ "วัดมหาพฤฒาราม"พระอารามหลวงชั้นตรี เป็นวัดหลวงเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในเขตบางรัก

ที่เกริ่นนำเช่นนี้เป็นเพราะ เดือนนี้เป็นเดือนที่วันสำคัญทางพุทธศาสนา อย่างวันวิสาขบูชาจะเวียนมาบรรจบ ในวันที่ 19 พ.ค.2551 ที่ใกล้จะมาถึง ฉันในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง จึงขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องไปทำบุญด้วยกันเสียเลย ที่ "วัดมหาพฤฒาราม" วัดที่มีความผูกพันกับรัชกาลที่ 4 อยู่ไม่น้อย

ก่อนจะพาเที่ยวชมบริเวณวัด ฉันขอกล่าวถึงประวัติอันน่าสนใจของวัดแห่งนี้ให้รู้กันเสียก่อน "วัดมหาพฤฒาราม วรวิหาร" นั้นตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของคลองผดุงกรุงเกษม แถวๆบริเวณตลาดน้อย เป็นวัดโบราณที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานี

วัดนี้แต่เดิมชื่อว่า "วัดท่าเกวียน" เนื่องจากเคยเป็นที่พักแรมของกองเกวียน ที่เดินทางเข้ามาค้าขายในกรุงเทพฯ ในช่วงสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่ต่อมาชาวบ้านก็พากันเรียกชื่อวัดนี้ว่า "วัดตะเคียน" สันนิษฐานว่า เรียกชื่อวัดตามต้นตะเคียนที่ขึ้นหนาแน่นอยู่รอบบริเวณวัดที่มีอาณาบริเวณ ถึง 14 ไร่

วัดนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งหนึ่งเป็น "วัดมหาพฤฒาราม" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่4 ทรงมีพระราชดำริที่จะให้ชื่อวัดที่ทรงพระราชทานนาม เพื่อเฉลิมฉลองท่านเจ้าอาวาสของวัดที่มีอายุยืนยาวมาถึง 107 ปี ในปีที่มีการพระราชทานนามวัดนั้น

สำหรับความเกี่ยวข้องที่เป็นที่มาของความผูกพันระหว่างรัชกาลที่ 4 และวัดมหาพฤฒารามแห่งนี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เจ้าฟ้ามงกุฎ หรือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอยู่ในเพศบรรพชิตได้เสด็จมาพระราชทานผ้าป่าที่วัดนี้

ในคราวนั้น พระอธิการแก้วเจ้าอาวาสได้ทูลถวายพยากรณ์ว่า "จะได้เป็นเจ้าชีวิตในเร็วๆนี้" พระองค์จึงทรงรับสั่งว่า "ถ้าได้ครองแผ่นดินจริงจะมาสร้างวัดให้อยู่ใหม่" หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์จึงโปรดเกล้าฯให้สถาปนาวัดขึ้นใหม่

พระอาจารย์สนธยา ไปงานนี้ด้วย หรือครับ
 

[ขอให้ฝึกก้าวหน้า ต่อไปนะครับ]

ควรจะฝึกต่อไปนะครับ เพราะเหมือนการเจริญ วิปัสสนา ถ้าเราพอใจแต่เพียงขั้นต้น ก็ไม่สามารถไปสู่ความสิ้นสุดแห่งกิเลสได้ ครับ

  ขอให้ฝึกก้าวหน้า ต่อไปนะครับ

ขอเชิญปฏิบัติธรรมช่วงเทศกาลและวันหยุด ปี2554 (รวมทั้งทุกวันศุกร์-วันอาทิตย์)
ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวการสอนของ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่เจริญพระชนม์มายุจะครบ 84 พรรษา ที่ วัดบางพาน อ. ท่าวุ้ง จ. ลพบุรี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม ให้การอุปถัมภ์และเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์ของหลวงพ่อจรัญ ด้วย

การปฏิบัติธรรมจะเปิดครั้งละ 3 วัน เริ่มทุกวันศุกร์ – วันอาทิตย์ ดำเนินการสอนโดย แม่ชีพันธ์ทิพย์ เหมะกรม

ตารางการปฏิบัติธรรมช่วงเทศกาล/วันหยุด ปี 2554

เทศกาล/วันหยุด ปฏิบัติธรรมวันที่

สงกรานต์ 13 – 17 เมย. 54
วันแรงงาน 29 เมย. – 2 พค. 54
วิสาขบูชา 13 – 18 พค. 54
อาสฬหบูชา / เข้าพรรษา 14 – 18 กค. 54
วันแม่ / วันเกิดหลวงพ่อจรัญ 11 – 15 สค. 54
วันออกพรรษา 7 – 12 ตค. 54
วันปิยะมหาราช 21 – 24 ตค. 54
วันพ่อ 2 – 5 ธค. 54
วันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 29 ธค. 54 – 2 มค. 55

การเดินทาง
ผู้ที่ขับรถยนต์มา
1. มาจากกรุงเทพ มาตามสายเอเชีย ผ่าน อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี โลตัสสิงห์บุรี เลยทางเข้าสิงห์บุรี ช่วงที่ 2 ให้ชิดขวากลับรถหน้าศูนย์รถยนต์เชฟโรเลต หลัก กม.89 กลับไปทางกรุงเทพ และให้ชิดซ้ายขับผ่านทางเข้าสิงห์บุรีเหนือ ไปตามทางคู่ขนาน ประมาณ 500 เมตร จะมีป้ายทางเข้าวัดบางพานอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนอีก 3 กม. วัดจะอยู่ทางขวามือ
2. มาจากทางเหนือ ผ่านทางเข้าสิงห์บุรี ให้ชิดซ้ายไปตามทางคู่ขนาน ประมาณ 500 เมตร จะมีป้ายทางเข้าวัดบางพานอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนอีก 3 กม. วัดจะอยู่ทางขวามือ
ผู้ที่มาโดยรถประจำทาง
1. มาจากกรุงเทพ มีรถประจำทางไป อินทร์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ ผ่านทางเข้าวัด โดยให้ลงที่ โลตัส สิงห์บุรี แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ที่วัด จะมีรถออกมารับ
2. มาจากทางเหนือ เมื่อเลยทางเข้าสิงห์บุรี ให้เตรียมตัวลงที่ ปั๊มน้ำมัน ปตท. หงส์ชวลิต เยื้องกับโลตัส สิงห์บุรี แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ที่วัด จะมีรถออกมารับ

โทรศัพท์ 081-9475047 / 089-9036284

[เนื้อความจากมหาสติปัฏฐานสูตรดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุย่อมทำความรู้สึกตัว…- ในการก้าว ในการถอย- ในการแล ในการเหลียว- ในการคู้เข้า ในการเหยียดออก- ในการทรงผ้าสังฆาฏิบาตรและจีวร- ในการฉัน การดื่ม- การเคี้ยว การลิ้ม- ในการถ่ายอุจจาระและปัสสาวะย่อมทำความรู้สึกตัว- ในการเดิน การยืน การนั่ง การหลับ การตื่น- การพูด การนิ่ง]

เนื้อความจากมหาสติปัฏฐานสูตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุย่อมทำความรู้สึกตัว…
- ในการก้าว ในการถอย
- ในการแล ในการเหลียว
- ในการคู้เข้า ในการเหยียดออก
- ในการทรงผ้าสังฆาฏิบาตรและจีวร
- ในการฉัน การดื่ม
- การเคี้ยว การลิ้ม
- ในการถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ

ย่อมทำความรู้สึกตัว
- ในการเดิน การยืน การนั่ง การหลับ การตื่น
- การพูด การนิ่ง




  ผมเคยนึกคำถามสนุก ๆ ปาก อยู่ครั้งหนึ่ง และได้ถาม พระอาจารย์ว่า

  "เวลานั่งอึ ( อุจจาระ ) ปฏิบัติภาวนาได้หรือไม่"

  ก็ได้รับคำตอบว่า "ได้"

  "แล้วทำอย่างไร ละครับ"

  คำตอบที่ได้รับ อยู่เหนือความคาดหมาย จากการฝึกภาวนามากครับ พระอาจารย์ตอบว่า
  "ก็มีสติ ระลึก รู้ตัวอยู่ว่า กำลังนั่งถ่ายอุจจาระ"

  แหม มันคันความรู้สึกว่า "เท่านี้หรือ ? มันง่ายอย่างนั้น หรือ ?"

  พอถึงเวลาเข้าถ่าย อุจจาระ ( ไม่ใช่มุข นะครับ ไปทำจริง ๆ )

  ก็มานั่งนึกถึง คำสอนของ พระอาจารย์ ก็นั่งทำสติ ระลึก รู้ตัวว่านั่งถ่าย ขณะที่นั่งไป ก็เริ่มเห็นปัญญาทุกครั้ง
ผมนั่งถ่ายอุจจาระ มีปกติ ชอบนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ( นิสัยไม่ดี ) พอวันนี้มาทำความรู้สึก รู้ตัวอยู่ เลยไม่ได้อ่าน และไม่อยากอ่าน การเข้าถ่ายอุจจาระ ใช้เวลาน้อยลง
 
  และยังมีผลจากการภาวนา ทั้งวัน ในวันนั้นอีกครับ
  พอระลึกรู้ตัว ความฟุ้งซ่าน ก็ดับ ความคิด สาระตะแต่ ละเรื่องก็ดับ มีสติเฉพาะหน้า ในขณะนั้นจริง ๆ

  ยกแขน นั่ง ยืน เดิน ดูทีวี นั่งทำงาน กวาดพื้น ถูบ้าน ยกเว้นเรื่อง นอน เพราะหลับก่อน ( รู้สึกว่าจะหลับง่ายขึ้น )
 
  ดังนั้นหากใครยังฝึก สมาธิ ยังไม่ก้าวหน้า ลองหันมาฝึก สัมปชัญญบรรพ กันบ้างดีหรือไม่ครับ

   ธรรมะ เป็น อกาลิโก จริง ๆ นะครับ


  มาร่วมเจริญ สติ ยามเช้า เหมือนกัน ครับ

สติ เป็นธรรม เครื่องตื่นอยู่ในโลก

เห็นด้วยครับ เพราะเราสามารถเจริญกรรมฐาน มีพลังจิตที่ตื่นตัวด้วยอำนาจ สมาธิ แล้วนะครับ
ควรใช้ วิกฤติ ให้เป็นโอกาส ไม่ใช่ทำโอกาส เป็น วิกฤติ นะครับ

 หลัก ๆ ก็ควร จะเจริญ กรรมฐาน ที่ ผรณาปีติ นะครับแล้วภาวนา พุทโธ จนคิดว่าหลับไปในท่านอนเลยนะครับ
ส่วนเรื่องอารมณ์ วิปัสสนา ครูอาจารย์มักจะสอนให้หยุดก่อน แต่มักจะให้อธิษฐาน กรรมฐาน ส่วนพระรัศมีขึ้นมานะครับ เพราะพระรัศมี นั้นสำคัีญมาก เป็น สภาวะธรรมที่ กรรมฐาน ควรจะกำหนดให้ได้นะครับ

  อนุโมทนา ด้วยครับ

  อย่าท้อถอยนะครับ มาถึงตรงนี้ ผมไม่อยากชักใบให้เรือเสีย นะครับ
  ควรส่งเมล คุยกับพระอาจารย์ หรือ เข้าปรึกษา หลวงพ่อพระครูที่ วัดราชสิทธาราม คณะ 5 นะครับ

 

อนุโมทนา กับข่าวสารด้วยครับ
ช่วงนี้มีปฏิบัติธรรม วันแม่ เยอะครับ

 

เห็นเพื่อน นั่งกรรมฐาน คนหนึ่ง รู้สึก นิ่งมาก..... นั่งได้เป็นวัน ๆ

อย่างนี้จัดว่าได้บรรลุธรรม หรือยัง ครับ

   

 ผมเองเวลาภาวนากรรมฐาน ก็นิ่ง ๆ อยู่เป็นเวลา ไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ครับ

 อย่าเลยครับที่จะมาคิดว่า ผมบรรลุธรรม ผมตอบได้อย่างเต็มปาก เต็มคำเลยครับว่า 

 ยังไม่ได้บรรลุอะไรเลยครับ

 เวลาออกกรรมฐาน มาก็ยังมี โลภ โกรธ หลง อยู่ แต่อาจจะนอนลงไป สงบลงไปบ้างจากเมื่อก่อน

ดังนั้น การนั่งกรรมฐาน ได้นาน ๆ ก็ใช่ว่าจะบรรลุธรรมนะครับ

 การบรรลุธรรม ต้องตรวจที่สังโยชน์ 10 ประการ แล้วต้องตรวจตนเองเท่านั้นครับ ไม่มีใครตรวจให้กันได้ครับ

 

การปรากฏ วิปัสสนา คือ หยั่งพระไตรลักษณ์ มีในตอนไหน ของการฝึกกรรมฐาน
โดยเฉพาะ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ หรือต้องผ่านอย่างไร จึงจะมีวิปัสสนา ครับ

 

เป็นคำถามที่น่าสนใจ มาก ครับเพราะผมก็คิดอยู่เหมือนกัน ว่า วิปัสสนา จักเกิดขึ้นตอนไหน ในการภาวนากรรมฐาน
เสียดายจังยังไม่มีใครตอบ อาจจะเป็นเพราะพระอาจารย์นั่งกรรมฐาน ในช่วงพรรษาเลยไม่ได้ตอบคำถามในช่วงนี้

ผมเองก็ยังไม่สันถัดในคำตอบ ต้องรอศิษย์ที่เข้าใจช่วยกันตอบแล้วครับ

 

สั่งสมอินทรีย์ ไปก่อนก็ได้ครับ สักวันก็คงได้ใช้ ถ้ายังมีชีิวิตอยู่
การที่จะอยู่รอพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ก็ไม่ผิดแต่ประการใดครับ
หรือการที่จะสิ้นสุดกันในพระพุทธเจ้า พระองค์นี้ ก็ขออนุโมทนาด้วยครับ

ก็ขอให้ได้ความสบายใจ ตามที่หวังเบื้องต้นก่อนนะครับ
ที่สำคัญอย่าลืมอ่านติดตามข่าวสารหัวข้อธรรม ที่นี่ไปเรื่อย ๆ นะครับ

ผมเองเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยจะได้คิดว่า ธรรมะ สำคัญอย่างไร ชีวิตมีความหมายอย่างไร
แต่พอได้ติดตามอ่าน หัวข้อธรรมที่นี่มาเป็นเวลา ปีกว่า ๆ ก็รู้สึกได้ว่า ธรรมะมีความสำคัญ
ชีวิต มีความสำคัญ อะไรเป็นสาระ อะไร มิใช่สาระ

ที่สำคัญที่สุด กรรมฐาน นั้นยิ่งทำ จิตยิ่งผ่องใส เวลาเราโกรธก็ดับไว เวลาเราสับสน ก็หายมึนไว ครับ

เอาเุถอะครับ มาเป็นสหธรรมิก ร่วมกันไปก่อนนะครับ

อนุโมทนา กับการภาวนาด้วยครับ

 

ไหว้พระ 9 วัด ที่สระบุรี

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=378.0

โมโห  มานะ มานานุสัย คือการหลงตัวเอง ครับ ย่อมเป็นไปได้ครับว่า เราจะคิดว่าตัวเราเป็นนั้น เป็นนี้

แท้ที่จริง ก็เป็นเพียงธาตุ เท่านั้น

 พระอาจารย์ เคยกล่าวว่า ร่างกายนี้สักแต่ว่าธาตุ เป็นที่ประชุมแห่งธาตุ ไม่มีอะไรเลย นอกจากธาตุ ที่เกิดขึ้น

ธาตุที่ตั้งอยู่ และธาตุ ที่ดับไป

  ดังนั้น ความหลงตัวเอง ที่คิดว่า เป็น ว่าใช่ ก็เป็นความหลงครับ การเป็นพระโสดาบัน ต้องมีญาณสติเกิดขึ้นด้วย

ครับ ถึงจะสมบูรณ์ ไม่ใช่เป็นแต่กำลังความคิดว่าเป็นแล้ว จะเป็น นะครับ

  ญานสติ ของพระโสดาบัน คือ อะไร คือ ญาณรู้แจ้งตามความเป็นจริง ว่า นี้ไม่เที่ยง นี้เป็นทุกข์ ครับ สองประการนี้ครับ ลองไล่เรียงกับพระสูตร อนัตตลักขณสูตร ดูก็จะเข้าใจ นะครับ


  พระพุทธเจ้า ตรัสถาม พระปัญจวัคคีย์หลังจากเป็นพระโสดาบันแล้วว่า

   รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นี้เที่ยง หรือ ไม่เที่ยง

   ถ้า  รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นี้ ไม่เที่ยง ควรหรือที่เราจะตามยึดมั่น ถือมั่น ว่านี่เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัว เป็นตนของเรา ดังนี้

   สนทนาพอเป็นธรรม ภาคเช้า ครับ ชักชวนกันมาหลังสวดมนต์ ครับ

   

เป็นเรื่องที่พิสูจน์ ได้ยาก ว่า จริง หรือ ไม่จริง แต่ถ้าเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม และ การเวียนว่ายตายเกิด แล้ว

ก็ควรเชื่อเถอะครับ

 วิธีรับมือ กับเหตุการณ์ นี้อย่างดีที่สุด ก็คือ การตั้งสติ และ สวด บทพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
ไปเรื่อย ๆ ครับ น่าจะแก้ไขเหตุการณ์ นี้ได้ครับ

หรือ ถ้านึกไม่ออก ก็ ภาวนา พุทโธ ไปเรื่อย ๆ ครับ

 

อยากรู้เนื้อหาของเพลงครับ ฟังก็ไพเราะดีครับ

   ทำไมเรียกน้ำตา คนฟังและชมได้ ครับ

    ใครมีความรู้ ทางภาษาจีน ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ


   

เรื่องนี้เป็น เรื่อง ที่ควรส่งเสริมมากครับ สำหรับ ลูก ๆ ที่รักศรัทธา ในบุญกุศลแล้ว

สำหรับพระในบ้าน ไม่ควรทอดทิ้งต้องดูแล กันให้มากนะครับ

  กตัญญู เป็นเครื่องหมาย ของ คนดี ครับ

 

นึกภาพไม่ออก ว่า พระท่านเทศน์ แร็พ นี้แล้วงามไม่งาม ต้องไปติดตามดู หลวงพี่เท่ง ภาค 2 แล้วครับ

คงนึำกออกแล้วนะครับ ว่าจะเข้าท่า หรือ จะโดนสวดยับอีกตามกระแส

เฮ้อ......

 

เกาะติดกระแส ยังกับ วัยสะรุ่น เลยนะครับ

 แต่ผมชอบใจ กับ พับเพียบไทยแลนด์ ดีครับ

 

[ทรงทำประทักษิณพญาไม้โพธิใบ ๓ รอบแล้วประทับยืน ณ เบื้องทิศอีสาน ทรงลาดสันถัตหญ้าทรงขัดสมาธิสามชั้นทรงทำกรรมฐานมีเมตตาเป็นอารมณ์อันประกอบด้วยองค์ ๔ ให้เป็นเบื้องต้นทรงอธิษฐานความเพียร เสด็จขึ้นสู่บัลลังก์อันประเสริฐ ๑๔ ศอกผินพระปฤษฎางค์สู่ลำต้นโพธิ์อันสูง ๕๐ ศอก ราวกะต้นเงินที่ตั้งอยู่บนตั่งทองณ เบื้องบนมีกิ่งโพธิ์กางกั้นอยู่ราวกะฉัตรแก้วมณีมีหน่อโพธิ์ซึ่งคล้ายแก้วประพาฬหล่นลงที่จีวรซึ่งมีสีเหมือนทอง ยามพระอาทิตย์ใกล้จะอัสดงคต ทรงกำจัดมารและพลมารได้แล้วทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณในปฐมยามทรงชำระทิพยจักษุในมัชฌิมยามครั้นเวลาปัจจุสสมัยใกล้รุ่งทรงหยั่งพระปรีชาญาณลงในปัจจยาการที่พระสัพพัญญูพุทธเจ้าทั้งหลายทรงสั่งสมกันมายังจตุตถฌานมีอานาปานสติเป็นอารมณ์ให้บังเกิดทรงทำจตุตถฌาณนั้นให้เป็นบาท ทรงเจริญวิปัสสนา ทรงยังกิเลสทั้งปวงให้สิ้นไปด้วยมรรคที่ ๔ที่พระองค์ทรงบรรลุแล้ว ตามลำดับแห่งมรรค ทรงแทงตลอดพระพุทธคุณทั้งปวง.]

ทรงทำประทักษิณพญาไม้โพธิใบ ๓ รอบ
แล้วประทับยืน ณ เบื้องทิศอีสาน ทรงลาดสันถัตหญ้า
ทรงขัดสมาธิสามชั้น
ทรงทำกรรมฐานมีเมตตาเป็นอารมณ์อันประกอบด้วยองค์ ๔ ให้เป็นเบื้องต้น
ทรงอธิษฐานความเพียร เสด็จขึ้นสู่บัลลังก์อันประเสริฐ ๑๔ ศอก
ผินพระปฤษฎางค์สู่ลำต้นโพธิ์อันสูง ๕๐ ศอก ราวกะต้นเงินที่ตั้งอยู่บนตั่งทอง
ณ เบื้องบนมีกิ่งโพธิ์กางกั้นอยู่ราวกะฉัตรแก้วมณี
มีหน่อโพธิ์ซึ่งคล้ายแก้วประพาฬหล่นลงที่จีวรซึ่งมีสีเหมือนทอง
 
ยามพระอาทิตย์ใกล้จะอัสดงคต ทรงกำจัดมารและพลมารได้แล้ว
ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณในปฐมยาม
ทรงชำระทิพยจักษุในมัชฌิมยาม
ครั้นเวลาปัจจุสสมัยใกล้รุ่ง
ทรงหยั่งพระปรีชาญาณลงในปัจจยาการที่พระสัพพัญญูพุทธเจ้าทั้งหลายทรงสั่งสมกันมา
ยังจตุตถฌานมีอานาปานสติเป็นอารมณ์ให้บังเกิด
ทรงทำจตุตถฌาณนั้นให้เป็นบาท ทรงเจริญวิปัสสนา ทรงยังกิเลสทั้งปวงให้สิ้นไปด้วยมรรคที่ ๔
ที่พระองค์ทรงบรรลุแล้ว ตามลำดับแห่งมรรค ทรงแทงตลอดพระพุทธคุณทั้งปวง.

น่าสนใจมากครับ กิจทีี่เกิดขึ้นในคืนตรัสรู้



ทรงขัดสมาธิสามชั้น

อยากถามส่วนนี้ครับ มีลักษณะอย่างไรครับ

 

รอบนี้รู้สึกว่า เสียงดีขึ้นกว่าเดิม มากครับ

อนุโมทนากับ ทีมงานมัชฌิมา และ เว็บมาสเตอร์ ด้วยครับ

สาธุ ครับ

 

ขึ้นชื่อว่า คนพาล ก็เป็นคนโง่เขลา

   คนพาล จะอ่านข้อความเหล่านี้รู้เรื่องหรือไม่ คะ

   

คนพาล ย่อมพูดคิด ทำอะไร ในสิ่งที่คนดีไม่เข้าใจหรอกครับ
ถูกต้องแล้วครับ
 

[http://media.watnapahpong.org/ วัดนาป่าพง]

http://media.watnapahpong.org/   
วัดนาป่าพง

[http://www.vipassanathai.com/ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ วิปัสสนาไทย.คอม]

http://www.vipassanathai.com/
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ วิปัสสนาไทย.คอม


ติดต่องานอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ได้ที่
พระมหาเมธา  จนฺทสาโร
หัวหน้าฝ่ายวิปัสสนาธุระ  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
โทร. ๐-๓๕๒๔-๘๐๐๐ ต่อ ๘๗๘๒ หรือ ๐๘-๙๘๘๘-๖๕๗๔

 
Fax : ๐-๓๕๒๔-๘๐๔๔ และ ๐-๓๕๒๔-๘๐๔๗
อีเมล์:  sumetha333@yahoo.com และ metha09@gmail.com

ตารางการอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน
โครงการอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานแก่ประชาชนทั่วไป ประจําปี ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔
ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย   อําเภอวังน้อย    จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น  เว้นแต่จะบริจาคบำรุงมหาวิทยาลัย ตามกำลังศรัทธา)
***************
ครั้งที่ ๖ ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๓                  -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๗ ระหว่างวันที่ ๗ - ๙ มกราคม ๒๕๕๔                          -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๒๘ - ๓๐ มกราคม ๒๕๕๔                  -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๑๖ - ๒๐ กุมภาพันธ์๒๕๕๔                -ปฏิบัติธรรม “วันมาฆบูชา”
ครั้งที่ ๑๐ ระหว่างวันที่ ๗ - ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๔                      -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๑๑ ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔                -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๑๒ ระหว่างวันที่ ๑ - ๓ เมษายน ๒๕๕๔                       -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๑๓ ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔              -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๑๔ ระหว่างวันที่ ๑๖ - ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔             -ปฏิบัติธรรม “วันวิสาขบูชา”
ครั้งที่ ๑๕ ระหว่างวันที่ ๖ - ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๔                  -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๑๖ ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๔              -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๑๗ ระหว่างวันที่ ๔ - ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔               -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๑๘ ระหว่างวันที่ ๒๙ - ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔             -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๑๙ ระหว่างวันที่ ๑๐ - ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๔                -ปฏิบัติธรรม “วันแม่แห่งชาติ”
ครั้งที่ ๒๐ ระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘สิงหาคม ๒๕๕๔               -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๒๑ ระหว่างวันที่ ๕ - ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔                   -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
ครั้งที่ ๒๒ ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๕ กันยายน ๒๕๕๔             -ปฏิบัติธรรมประชาชนทั่วไป
 *******************
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ส่วนธรรมนิเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
(ตึกสำนักงานอธิการบดี) โทร. ๐-๓๕๒๔-๘๐๐๐ ต่อ ๘๗๘๒ , ๘๘๑๘ , ๘๘๑๖ , ๘๘๑๕ ,
และ๐๘-๙๗๗๒-๙๒๔๐   โทรสาร ๐-๓๕๒๔-๘๐๔๔ , ๐-๓๕๒๔-๘๐๔๗
หรือ www.vipassanathai.com
อีเมล์: sumetha333@yahoo.com    และ  metha09@gmail.com

[http://www.dhammasiri.or.th/index.phpศูนย์ปฏิบัติธรรม “ ต้นบุญธรรมสถาน ” (ชื่อเดิมสิริธรรมสถาน)]

ศูนย์ปฏิบัติธรรม “ ต้นบุญธรรมสถาน ” (ชื่อเดิมสิริธรรมสถาน)
   

เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่และ ฝึกอบรมปฏิบัติธรรม  ตามแนวทางที่พระพุทธองค์ได้ทรงสั่งสอนไว้  ให้แก่พุทธ บริษัท  นักเรียน  นิสิต นักศึกษา ประชาชน และ
สาธุชนทั่วไป   ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ           
        “ ต้นบุญธรรมสถาน ”   ได้ เริ่มต้นก่อสร้างมาตั้งแต่ปลายปี   พ.ศ. 2549   ด้วยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ของกัลยาณมิตร พุทธศาสนิกชนทั่วไป ผู้มีจิตศรัทรา คณะกรรมการต้นบุญธรรมสถาน   มูลนิธิธรรมสิริ  โดยการก่อสร้างได้ดำเนินไปพร้อมๆ กับการจัดปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง   ตามเหตุปัจจัยมากว่า 20 รุ่นแล้ว
         ปัจจุบัน  “ ต้นบุญธรรมสถาน ”  กำลังก่อสร้างอาคารศูนย์ปฏิบัติธรรมหลังใหญ่     โดยมุงกระเบื้องหลังคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว    ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน  ก่อผนัง กั้นห้อง   กรุฝ้า ปูไม้พื้นห้อง ติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและประปา  ประตู  หน้าต่าง  สุขภัณฑ์ ตลอดจนอุปกรณ์ที่จำเป็น    อาคาร นี้จะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ   3,335 ตรม.  โดยสามารถรองรับผู้มาปฏิบัติธรรมได้ครั้งละกว่า   100 คน     จึงขอเรียนเชิญทุกท่านเป็นเจ้าภาพร่วมกันในการสร้างอาคารหลังนี้ให้แล้ว เสร็จในเร็ววัน
        การสร้างสถานปฏิบัติธรรม   นับว่าเป็นการสร้างอริยทรัพย์ให้แก่ตนเอง  ครอบครัวและวงศ์ตระกูลโดยแท้   ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและจตุรพิธพรชัยทั้ง   4 ประการ   คือ  อายุ   วรรณะ  สุขะ  พละ   จงเป็นตบะ เดช พลวปัจจัยอำนวยพร  นำโสตถิผลให้สำเร็จแก่ท่านและครอบครัวตลอดกาลนานเทอญ






http://www.dhammasiri.or.th/index.php
ศูนย์ปฏิบัติธรรม “ ต้นบุญธรรมสถาน ” (ชื่อเดิมสิริธรรมสถาน)

สำหรับ การสมัคร ต้องขอให้ท่านมี email กันด้วยนะครับ
ใครไม่มี email ก็เข้าไปสมัคร ที่ hotmail หรือ Gmail ก็ได้นะครับ

เพราะว่าป้องกันคนที่ใช้งานผิดทาง ผิดวัตถุประสงค์ นะครับ

จึงไม่อนุญาตคนที่ไม่มี email มาสมัครใช้งานได้นะครับ



ขอบคุณภาพจาก http://4.bp.blogspot.com

ดีครับ มีบังคับเรื่อง email ไว้สักหน่อยก็ดีครับ จะได้หาที่ไปที่มา หรือ ส่งคำเตือนให้ได้ครับ
อนุโมทนากับทีมงานที่แก้ปัญหา ส่วนนี้ได้ครับ

เพราะผมเห็น ภาพกบแช่แข็ง เยอะเหมือนกัน แสดงว่าผู้ใช้เว็บนี้ต้องสมัคร เว็บกบ เป็นส่วนใหญ่ครับ

สาธุครับ

 

ผมว่า คุณ pongsatorn แตกกระทู้ไปเรื่องสงครามแล้วนะครับ

อันนี้ยังอยู่แค่ สิ่งมีชีวิต ที่เรียกว่าแมลงนะครับ เรืื่่องมนุษย์ คน จัดการยากกว่านะครับ

  มโนธรรม ระหว่างการฆ่าคน กับการฆ่า แมลง น่าจะต่างกันนะครับ

 

อาจจะต้องผ่อนจิต บ้างครับ ลักษณะจิตเป็นสมาธิ จะเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นครับ
จิตได้พักผ่อนไปด้วย จะไม่ทำให้เครียดครับ

ที่สำคัญ ไม่ใช่อยู่ที่จิตเป็นสมาธิ จะบรรลุธรรมนะครับ

การจะบรรลุธรรม อยู่ที่เจริญสติตาม อริยสัจจะ 4 ครับ
ต้องเจริญสติ ไปคู่กันด้วยครับ

 

อนุโมทนา ครับ สาธุ
จะเห็นความศรัทธา ของศิษย์สายหลวงปู่มั่นนั้น ยังมั่นคงไม่ถอยกันนะครับ

ถึงแม้ครูอาจารย์ จะจากกันไป ก็ยังมีสานุศิษย์ สืบทอดกรรมฐาน กันต่อไปครับ

 

อ่านแล้ว ก็เห็นใจนะครับ ขนาดผ่านไปที่ 20 ปีแล้ว แถมไม่เคยคุยกัน ทำไมจึงพูดอย่างกับรู้ัจักเราดี
นี่แหละครับ มนุษย์เครื่องขยายเสียงครับ

   เสียงกระซิบ มักจะเพี้ยนนะครับ .... ยิ่งกระซิบกัน หลายคน...ความเพี้ยน ก็ยิ่งมากครับ
   เพื่อนคุณไม่แน่ใจในตัวคุณ.... จึงตัดเครดิต คุณ...

  ปลงเุถอะครับ ในเมื่อเราไม่ได้เดือดร้อน ...

  อย่าให้เรื่อง 20 ปีที่แล้วมาทำลายความสุขในปัจจุบัน เลยครับ

  ทำบุญ กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้มาก เรื่องต่าง คงจะจบไป เมื่อเราตายไปแล้วครับ

   

ผมติดตาม คุณ ISSARAPAP หลายกระทู้นะครับ นึกว่าหายไปไหนที่แท้่ไปประจำที่ญี่ปุ่น นี่เอง

อนุโมทนาสาธุ ครับ กับ พุทธภาษิต ที่นำมาให้ครับ

 

อนุโมทนากับข่าวสาร นี้ด้วยครับ

 

ขอบคุณ เว็บมาสเตอร์ ที่มีทางออกเรื่องเว็บฝากไฟล์ภาพให้ครับ