ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฌาน เสื่อมได้ หรือไม่ ถ้าเสื่อม แล้ว ควรทำอย่างไรครับ  (อ่าน 8157 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

bangsan

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 109
  • ( รูปพระอาจารย์ กิตติวุฑโท )
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปกติ การฝึกฌาน นั้น ได้ยินว่า ครูอาจารย์ บอกว่า เสื่อมได้ ครับ

ดังนั้นอยากถามเป็นความรู้เผื่อ เพื่อนท่านใด ที่ได้ฌานแล้ว เสื่อม ควรทำอย่างไรต่อไปครับ

ถ้าฌาน เสื่อม แล้วควรทำอย่างไรครับ และ จะให้เวลานานมาก หรือไม่ครับ

มีตัวอย่างในครั้งพุทธกาล ที่ฌาน เสื่อมให้อ่านเป็น อุทาหรณ์ บ้างหรือไม่ครับ

 :c017:
บันทึกการเข้า
ธรรม ธรรม ทำ ทำ ธรรม แล้ว ก็ ทำด้วย

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ปกติ การฝึกฌาน นั้น ได้ยินว่า ครูอาจารย์ บอกว่า เสื่อมได้ ครับ

ดังนั้นอยากถามเป็นความรู้เผื่อ เพื่อนท่านใด ที่ได้ฌานแล้ว เสื่อม ควรทำอย่างไรต่อไปครับ

ถ้าฌาน เสื่อม แล้วควรทำอย่างไรครับ และ จะให้เวลานานมาก หรือไม่ครับ

มีตัวอย่างในครั้งพุทธกาล ที่ฌาน เสื่อมให้อ่านเป็น อุทาหรณ์ บ้างหรือไม่ครับ

 :c017:

เรื่องฌานเสื่อม ผมหามาให้อ่านสองเรื่องครับ

นิทานชาดก  "ตักกชาดก"
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt123.php

ประวัติพระเทวทัต
http://buddhahistory2009.blogspot.com/2009/06/blog-post_8110.html


 :welcome: ;) :49:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ฌาน เสื่อมได้นะจ๊ะ แต่เมื่อเสื่อมแล้ว ก็ปฏิบัติแบบเดิมอีก ก็เกิดขึ้นใหม่ได้
ที่สำคัญอยู่ที่ ศีลวิสุทธิ ของเป็นบาทฐาน ดังนั้นคนที่ฝึกฌานแล้วไม่เสื่อมนี้ หาได้ยาก นะจ๊ะ

ส่วนมากผู้ภาวนาใหม่ ก็ได้ฌาน แล้ว ก็เสืือม สลับกันไปมา จนกว่าจะทรงฌานได้ นะจ๊ะ


เจริญธรรม

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

intro

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 77
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมว่าอีกตัวอย่างหนึ่ง ก็คือ พระโคธิกะ ที่ ได้ ฌานแล้ว เสื่อมจาก ฌาน
จึงตัดสินใจแน่วแน่ เพือ ญาณ ครับ

  :25: :25: :25:

   อ่านเนื้อเรื่องพระโคธิกะ ได้ที่ลิงก์นี้ ครับ

    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=864.0


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2012, 03:37:48 pm โดย intro »
บันทึกการเข้า

samapol

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 304
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฌาน เสื่อมได้ หรือไม่ ถ้าเสื่อม แล้ว ควรทำอย่างไรครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 01:46:09 am »
0
แสดงว่า บุคคลทั่วไป เวลาฝึกกรรมฐานแล้ว กรรมฐาน สูญหายไปได้
 อยากทราบสาเหตุ กรรมฐาน เสื่อมได้อย่างไร ตอนไหนครับ
  และเราจะรู้ได้อย่างไร ว่ากรรมฐานเราเสื่อมครับ
   และควรจะทำอย่างไร ถ้าเกิดเสื่อมแล้ว จะต้องสร้างขึ้นมาอีกอย่างไรครับ

    :41: :c017: :13:
บันทึกการเข้า

ส้ม

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 184
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฌาน เสื่อมได้ หรือไม่ ถ้าเสื่อม แล้ว ควรทำอย่างไรครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2012, 01:39:37 pm »
0
เมื่อก่อนไม่เคยคิดเลย กรรมฐาน มีเสื่อมได้ด้วยคะ

  พึ่งทราบวันนี้ คะ ว่า กรรมฐานที่เราฝึก ก็เสื่อมได้ คะ

  อนุโมทนากับเรื่องนี้คะ กว่าจะอ่านจบนั่งทำความเข้าใจ นานเลยคะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
เส้นทางแสนเปรี้ยว จะมีสุขจริงบ้างหรือไม่ ?

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฌาน เสื่อมได้ หรือไม่ ถ้าเสื่อม แล้ว ควรทำอย่างไรครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2012, 10:11:22 pm »
0
สาเหตุที่ทําให้ฌาณเสื่อม(ฌาณนี้คือฌานโลกียะคือยังมีปีติยุคคลผสมอยู่) คือการมีกิเลสอยู่ ยังมีสุข ยังมีทุกอยู่ ทําให้สมาธิตั้งอยู่ไม่ได้นาน แต่เมื่อพอกพูนสติสมาธิ จนมีอุเบกขาเกิดมาก อุเบกขามี 10 ขั้น ขั้นสุดท้ายชื่อว่า ปริสุทธุเบกขา
อุเบกขาคือความปล่อยวางจิต ไม่เอาสุข ไม่เอาทุกข์ สามารถเกิดได้โดยการบําเพ็ญ ด้วยการเข้าปีติ 5 ตามฃั้นตอน จนกว่าจะเห็น วิโมกข์ 3 ตามลําดับ  จิตที่จะแตกไตรลักษณ์ได้ อย่างน้อย ต้องอุปจารสมาธิ คือถ้าตามกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ก็ต้องสําเร็จ พุทธานุสสติ ก็จะเริ่มทรงสติสมาธิทรงฌานอยู่ได้นานเพิ่มขึ้น ตามที่บําเพ็ญ
          รู้ได้อย่างไรว่าเสื่อม เมื่อมีความฟุ้งซ่าน เกิดขึ้น ทั้งด้านสุข หรือทุกข์ ก็ทําให้เสื่อมได้ทั้งสิ้น
     การฝึกแบบมีวสี ทําให้เสื่อมได้ยาก คือวสี การเข้า และ การออก จากสมาธิ การรักษาอารมณ์ พระกรรมฐาน เริ่มตั้งแต่ การอธิฐานเป็นต้นไป นิมิต 3 ประการ  รวมทั้งการนําจิต เดินจิต การฝึกแบบมีฐานจิต สามารถประคอง ให้เสื่อมยาก เพิ่มขึ้น เป็นลําดับ ทุกอย่างคืออารมณ์พระกรรมฐาน จิตที่จดจ่ออยู่แต่ธรรม ก็ไม่ค่อยสนกิเลสไปเอง อุเบกขาก็จะมีมากสูงขึ้น เป็นลําดับลําดา ตามไปด้วย ควรฝึกและรักษาอารมณ์ พระกรรมฐาน ควรรักษาระดับไม่ให้เสื่อมและพอกพูนให้มีมากขึ้นไป กรรมฐานก็ไม่สูญหาย เรียกมาได้ตาม วสีที่ฝึกนั่นเอง
      ควรเปิดฟังไฟน์ชื่อ วสีขุททกา ของพระอาจารย์ท่าน เพื่อพอกพูนวสี ความชํานาญในการเข้าออก
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา