ธุรกิจ 'ของขลัง-ศรัทธา-ความเชื่อ' กับนักท่องเที่ยวจีนสัปดาห์นี้มองธุรกิจของขลัง ศรัทธา ความเชื่อจากวัตถุมงคลในไทย กับนักท่องเที่ยวจีน กลับไร้ความผิดข้อหาหลอกลวงแต่อย่างใด
ศูนย์วิจัย ธนาคารกสิกรไทย ปี 2548 ระบุมูลค่าการได้มาซึ่งเงินจากการให้เช่าพระเครื่อง เครื่องราง ของขลัง แก่นักท่องเที่ยวจีน ทุกจีน ตั้งแต่จีนมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีนไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ โดยของที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้นิยม สามารถทำรายได้สูงถึง 20,000 ล้านบาท
แม้พระเครื่องบางรุ่นผู้ให้เช่าระบุกับผู้เช่าซื้อว่า ห้ามโดนน้ำ เหตุผลที่ผู้ขายรู้ดีกว่าใคร คือ จะลอกหรือไม่ก็ละลายไปกับน้ำ ขณะที่ผู้เช่าซื้อเข้าใจว่า จะทำให้ของเสื่อม
ธุรกิจเครื่องรางในบ้านเรามีต้นทุนต่ำกำไรสูงลิบร้อยละ 90 ที่เชื่อและศรัทธามาจากความต้องการในการค้าขายให้ร่ำรวย ส่วนความต้องการทางเสน่ห์มหานิยม ก็ตามมาไม่ห่าง
เทพภมรจำแลง หลากหลายสี วัตถุมงคลของ ครูบากฤษณะ อิณทวัณโณ คนจีนให้ความศรัทธาและนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ต่างไปจากเหรียญหลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่
เม็ดเงินมหาศาลจากธุรกิจต้นทุนต่ำกำไรสูงนี้ ทำให้เกิดเสนาสนะคล้ายโบสถ์ปรากฏขึ้นที่ วัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ
@@@@@@
จำลองภาพกิจพิธีทางสงฆ์มาไว้ในโบสถ์ไม่ขาดตกบกพร่อง มีพระนั่งประจำเพื่อประพรมน้ำมนต์ มัคนายกทำหน้าที่อธิบายสรรพคุณของวัตถุมงคลในตู้ พระปลอมเลี่ยมทองในตู้ราคาสูงลิ่ว
ปัจจุบันมีหลายวัดดังในกรุงเทพฯ ประสานกับบริษัททัวร์จีนนำนักท่องเที่ยวมาทีละหลายคันรถ จุดประสงค์หลักเพื่อจำหน่ายเครื่องรางของขลังโดยเฉพาะ เหตุผลของวัดหลายแห่งต่อการนำวัดมาเป็นแหล่งค้าวัตถุมงคลก็คือ หาเงินมาพัฒนาวัด
แต่อนิจจังอนิจจา เสนาสนะในวัดเหล่านี้กลับดูไม่เหมือนจะได้รับการพัฒนาแต่อย่างใด กรมการศาสนาเองก็ไม่สามารถจะหาเหตุไปตักเตือน ติเตียนอะไรได้
เรียกว่า ธุรกิจวัตถุมงคล คงจะไม่ผิดเพี้ยน ทุกวันนี้คนจีนจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เดินทางมานำวัตถุมงคลจากไทยไปขายที่ประเทศของตัวเอง มีทั้งของจริงและ ของปลอม ปนเปกันไป ประเด็นสำคัญตั้งราคาตามความขลัง เรียกราคาตามใจชอบ
@@@@@@
แม้ธุรกิจวงการพระเครื่องในตลาดสำหรับคนไทยจะซบเซาเรียกราคากันไม่ค่อยออก บอกราคาสูงพระก็ไม่ไป แต่สำหรับคนจีนนั้นธุรกิจพระเครื่อง ของขลังและวัตถุมงคลยังทำกำไรได้งดงามอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีความผิดข้อหาหลอกลวงนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด
สวนกับกระแสนักท่องเที่ยวจีนที่มากับทัวร์หดหาย แต่นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาเที่ยวไทยด้วยตัวเอง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้าถูกบริษัททัวร์หลอกลวงต้ม ตุ๋นจนเปื่อย ล้วงกระเป๋าจนขาดมาแล้วหลายปี
ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่คนทั้งประเทศร่วมเป็นเจ้าของ แต่น่าเสียดาย ที่เจ้าของบางคนกลับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่นำเงินมาบ้านเราเยี่ยงมิจฉาชีพ ร่วมกับบริษัททัวร์จากต่างบ้านต่างเมืองทำร้ายกลั่นแกล้งนักท่องเที่ยว เรียกค่าทัวร์สูงเกินจริง
เลิกพฤติกรรมแบบนี้ได้เมื่อไร อุตสาหกรรมเที่ยวไทยกลับมารุ่งเรืองอีกแน่นอนคอลัมน์ : ชำเลืองเมือง ,โดย “แรมทาง”
ขอบคุณภาพประกอบจาก คุณพระช่วยดอทคอม
ขอบคุณที่มา :
https://www.dailynews.co.th/article/722584อังคารที่ 30 กรกฎาคม 2562 เวลา 11.00 น.