ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เจอมารมาขัดขวางทางบุญ  (อ่าน 5953 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
เจอมารมาขัดขวางทางบุญ
« เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2012, 03:22:29 pm »
0

 วันนี้จารวี เกิดอุบัติเหตุ รถมอเตอร์ไซด์ล้ม เจ็บไม่ใช่น้อย ด้วยตั้งใจว่า จะนำหนังสือธรรมะไปแจกเพื่อนๆ และจะจัดทำหนังสือธรรมะแจก ด้วยการจะไปรวบรวมจากเพื่อนๆ หลายครั้งที่จารวีจะทำบุญมีแต่สิ่งมาขัดขวาง แต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่าใจที่เต็มไปด้วยศรัทธาที่จะทำความดี วันนี้ต้องกลับมานอนรักษาตัว จารวีไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น รบกวนถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆชาวธรรมว่ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง ขอบคุณค่ะ :'( :'(
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เจอมารมาขัดขวางทางบุญ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2012, 05:31:08 pm »
0
อาจจะไม่ใช่ มาร หรอกครับ แต่เป็นเจ้าเวร นายกรรมของเราที่ติดตามเราอยู่นะครับ

 ต้องสร้างกุศลให้มากครับ พวกกรรมตัดรอน ส่วนมากก็เป็นอย่างนี้ครับ... ที่ผมเจอบางคนปางตายเลยครับ
แต่ความตั้งใจสร้างกุศล นั้นก็ไม่หาย ทั้ง ๆ ที่ชีวิตเขาไม่ทำบาป อันนี้ฟังมาจาก พระ ก็คือเจ้ากรรมนายเวร แต่ชาตก่อน ๆ  เขากำลังทำการตัดรอนครับ

   เพราะชาติก่อน เราไม่รู้ว่า เราเคยไปสร้างกรรมเบียดเบียนใครไว้บ้างนะครับ จึงต้องตั้งมั่นในบุญกุศล การให้อภัยจากวิญญาณอาฆาตพยาบาท นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

    สิ่งที่ทำได้คือต้องสร้างบุญกุศล ไว้ให้มาก ๆ นะครับ ทำเท่าที่จะทำได้ครับ
 
    :welcome: :49:

   
บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เจอมารมาขัดขวางทางบุญ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 12:02:32 pm »
0
- มันไม่มีมารที่ไหนมาขัดขวางหรอกครับ นั่นจิตคุณตกไปเอง เมื่อเกิดปัญหาใดๆขึ้นกับตนเอง คุณมักจะหาทางออกโดยโทษนั่น โทษนี่ เพื่อความสบายใจในตนเอง แต่คุณเคยคิดดูไหมว่า คุณทำอะไรด้วยความประมาท เลินเล่อ หรือ ความพลาดพลั้งจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึกก่อให้เกิดอุบัติเหตุในหลายครั้ง
- ลองคิดดูว่าเวลาขับรถคุณขาดสติไหม ขับๆอยู่คิดอะไรเพลินๆจนหลงลืมด้วยโมหะว่าตนเองกำลังขับรถอยู่ นี่เรียกว่าจิตส่งออกนอกจนขาดสติ
- คุณทำดี คิดดี พูดดี สิ่งดีๆย่อมเกิดแก่คุณ อยู่ที่คุณตรวจทานแก้ไขตัวคุณเองดีแล้วหรือยัง ไม่ใช่จะโทษหาแพะรับแทนไปทุกเรื่อง
- พระพุทธเจ้าสอนให้เรามีสติ ให้คิดทบทวนตนเอง ไม่ให้โทษคนนั้นคนนี้ สิ่งนั้นสิ่งนี้ เพื่อให้สบายใจและพ้นผิดจากการกระทำของตนโดยเจตนา นั่นก็คือ กรรม กรรมคือการกระทำในปัจจุบันนี้โดยเจตนา ทุกข์อยู่ที่ใจคุณ คุณไปโทษว่ามารทำ มารมากลั่ยแกล้ง ถามว่าชีวิตคุณหายจากทุกข์ไหม หากตัวคุณนั้นไม่สู้มันตรงๆและหาทางดับทุกข์นั้นที่เหตุ
- ผมเชื่อว่าคุณโทษมารไปเถอะครับว่ามารทำคุณ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอีกตอนไหนอีก คุณก็จะเจอแต่เรื่องอย่างนี้เสมอๆไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นไปจนตลอดชีวิต
- เว้นเสียแต่ คุณพิจารณารู้ตนในปัจจุบันว่ากำลังทำอะไร ควรมีสติตั้งอยู่ที่ไหน พิจารณาข้อผิดพลาดตนเองแล้วแก้ไข อยู่โดยความไม่ประมาทเลินเล่อ สิ่งนี้เรื่องร้ายๆจึงจะไม่เกิดแก่คุณ
- ความคิดฟุ้งซ่านปรุงแต่งจิต ทำให้คนเราโง่มรการหาทางออกแก้ไข ความพูดพร่ำเพ้อ เพ้อเจ้อ พูดใส่ร้าย ทำให้เราเป้นคนไม่น่าเชื่อถือและนับถือเคารพ การกระทำใดๆที่เป้นการเบียดเบียนตนเองและคนอื่น หรือทำเพื่อหลีกลี้ความผิดตน ย่อมเป้นคนที่ไม่ควรคบแก่มนุษย์ทั้งหลาย ไม่เป้นที่รักของ เทวดา มาร พรหม มนุษย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งหลาย

เอาเป็นว่าคุณเลือกเอาแล้วกันครับว่า จะโทษมารต่อ หรือ อยู่โดยความไม่ประมาท
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2012, 12:04:33 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: เจอมารมาขัดขวางทางบุญ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 12:19:54 pm »
0

อัปโหลดโดย oh2n เมื่อ 1 ธ.ค. 2008

                     
                               ชื่อเพลง : เหตุผลที่ทนเจ็บ
                                     ศิลปิน : ต่าย อรทัย
                                     อัลบัม : ชุดที่ 6 คนในความคิดฮอด

                     
                               มื้อใด๋น้ออ้ายจะพอ เห็นว่ารูปหล่อก็แจกฮักเรื่อยไป
                               อ้ายบ่เคยถนอมน้ำใจ ทำน้องร้องไห้จนจมบ่อน้ำตา
                               สัญญาอ้ายคงบ่จำ นอกใจทุกยามเท่าที่รู้มา
                               หลูโตนน้องแนเด้ออ้ายจ๋า คงหมดปัญญาสิเหนี่ยวรั้งหัวใจ


                               เจ็บเรียกร้องบ่ได้ แต่ใจก็ยอมสู้ทน
                               มีเพียงหนึ่งเหตุผล ก็คือรักรู้ไหม
                               เสียน้ำตากี่ครั้ง อ้ายก็ยังหลายใจ
                               คำว่าแคร์หล่นหาย ในวันอ้ายลืมห่วงหา


                               จากนี้คงได้แค่รอ เส้นทางรักต่อคงได้แต่ภาวนา
                               สาธุเด้อให้อ้ายเห็นค่า หวนคืนกลับมาฮักน้องคนเดียว

                               เจ็บเรียกร้องบ่ได้ แต่ใจก็ยอมสู้ทน
                               มีเพียงหนึ่งเหตุผล ก็คือรักรู้ไหม
                               เสียน้ำตากี่ครั้ง อ้ายก็ยังหลายใจ
                               คำว่าแคร์หล่นหาย ในวันอ้ายลืมห่วงหา


                               จากนี้คงได้แค่รอ เส้นทางรักต่อคงได้แต่ภาวนา
                               สาธุเด้อให้อ้ายเห็นค่า หวนคืนกลับมาฮักน้องคนเดียว
                               สาธุเด้อให้อ้ายเห็นค่า หวนคืนกลับมา ฮักเดียวใจเดียว


 
                                              ที่มา http://www.nangdee.com/lyrics/song_preview.php?c_id=10836


      :25: :25: :25: :s_good: :s_good: :s_good:
     สาธุเด้อ ออนซอนนำแน กับการสร้างธรรมทาน
   
     
     หนูป้อมคะ....ในตัวหนูมีมารอยู่สองตัว คือ
     ๑. กิเลสมาร (มารคือกิเลส, กิเลสเป็นมารเพราะเป็นตัวกำจัดและขัดขวางความดี ทำให้สัตว์ประสบความพินาศทั้งในปัจจุบันและอนาคต)
     ๒. ขันธมาร (มารคือเบญจขันธ์, ขันธ์ ๕ เป็นมาร เพราะเป็นสภาพอันปัจจัยปรุงแต่ง มีความขัดแย้งกันเองอยู่ภายใน ไม่มั่นคงทนนาน เป็นภาระในการบริหาร ทั้งแปรปรวนเสื่อมโทรมไปเพราะชราพยาธิ เป็นต้น ล้วนรอนโอกาสมิให้บุคคลทำกิจหน้าที่ หรือบำเพ็ญคุณความดีได้เต็มปรารถนา อย่างแรง อาจถึงกับพรากโอกาสนั้นโดยสิ้นเชิง)

      การที่จะรับมือ หรือบริหารจัดการกับ "มารสองตัว" นี้ได้ มีอยู่ทางเดียว คือ "ภาวนา"
      หนูป้อมไม่มีทางเลือกอื่น "ต้องอดทนพากเพียร" แต่เพียงอย่างดียว
      ทุกวันคืนอย่าลืม "นั่งสมาธิ ท่องคาถาไก่เถื่อน"
      ขอให้ระลึกเสมอว่า "มารไม่มี บารมีไม่เกิด"
      สาธุเด้อ..ขอให้มารจงพินาศ
:49:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2012, 12:21:48 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: เจอมารมาขัดขวางทางบุญ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 01:03:20 pm »
0
ในศรัทธา 4 มีข้อหนึ่ง  คือ

วิปากสัทธา  เชื่อ ผลของวิบากกรรม
   
        มีคำพูดว่า หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลพืชเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
        ในบท อภิณหปัจเวกขณ มีข้อหนึ่ง ก็กล่าวถึงเรื่องนี้ ไม่ว่าเราทำกรรมใด ๆ เราย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

   ที่นี้ ปัญหา อยู่ที่ว่า กรรม มี 3 สภาวะ คือ กรรมที่ทำแล้วในอดีต ( รวมอดีตชาต )กรรมที่ทำแล้วในปัจจุบันกรรมที่กำลังจะทำในอนาคต ( ยังไม่ได้ทำ แต่ คิดไว้ว่าจะทำ เช่น พยาบาท ไม่พยาบาท เป็นต้น )

    กรรมตัวไหน ส่งผลมากที่สุด...... ตอบไม่ได้ ส่วนนี้ ตอบไม่ได้จริง ๆ ใครเป็นผู้จัดสรร ลำดับการคืนให้ ไม่สามารถจะตอบเป็นรูปธรรมให้ได้ เพียงแต่ผู้จัดสรรก็คือจิต ที่แรงกล้า และ เหตุปัจจัยที่เหมาะสม กรรมส่วนนี้ก็จะกลับมาหาเราในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่เราอาจจะรู้ และ อาจจะไม่รู้ ด้วยซ้ำไป

    ดังนั้นการเชื่อ ผลแห่งกรรม สำหรับผู้เริ่มต้นภาวนา จนถึงปลายทางการภาวนา จึงสมควรที่จะเชื่อ เพราะถ้าไม่เชื่อผลของกรรม ก็จะไม่มีอะไรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในกุศล ....

    เล่าให้ฟัง เรื่องส่วนตัว นะ

       สมัยหนึ่งที่อาตมาเป็น ฆราวาส ทำงานไปกับเพื่อนฝูง ชอบเฮฮาปาร์ตี้ กินเหล้า เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น ตอนนั้นมันสนุก มันเพลินเพลิน ทำอะไรก็ไม่มีใครขัดขวาง เพราะเป็นกลุ่มเดียวกัน พวกเดียวกัน จึงทำให้เหมือนไม่มีอุปสรรค แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เกิดได้ชอบใจในธรรม ของหลวงปู่ขึ้นมา จึงหันหลังให้กับ อบายมุข และเลิกรากับกลุ่มเพื่อน ต่าง ๆ เหล่านี้ เลยเหลือหัวเดียวกระเทียมลีบ ที่ไปวัดไปวา สมาทานศีล นั่งภาวนากรรมฐาน

    ที่นี้เหตุมันก็เกิด ตามหลังจากที่เรากำลังมุ่งเป็นคนดี ทำดี พูดดี คิดดี และภาวนา มีอุปสรรคเกิดขึ้นมากมาย ขนาดตอนนั่งกรรมฐาน ที่ชายน้ำเพื่อนมันเอาก้อนหินปาใส่ ก็มี กลั่นแกล้งในงานก็มี แกล้งได้สาระพัด สาระเพเลย รวมทั้งเกิดความต่าง แต่ขณะเดียวกัน คนดีก็เข้ามาหา เพื่อนดีก็เข้ามาคบ ครูอาจารย์ดี ก็ได้พบเจอมากยิ่งขึ้น บางครั้งช่วงนั้นน้ำตาไหลหยดแมะ เลยนะ เพราะเป็นสภาวะบีบคั้นให้เราต้องตัดสินใจ เชือ่หรือไม่ว่า ตอนนั้นถูกเจ้านายกลั่นแกล้ง ขึ้นเงินเดือนให้ต่ำติดดินเลย เรียกว่าอ่านแล้วอยากลาออกกันเลย

    เล่าให้ฟัง ก้เพื่อให้ระลึกถึงคุณค่า ของการสั่งสมบารมี นะจีะ
   
    การสั่งสมบารมี ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

     ที่ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราต้องได้บททดสอบทางจิต ทางกาย อยู่ตลอดเวลา ผู้สั่่งสมบารมีจัดเป็นพระโพธิสัตว์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นบทเรียนของชีวิต มีหนักเบา คละเคล้ากันไปตามบารมีที่สั่งสม ดังนั้นผู้ที่สร้างบารมี ต้องหมั่นเจริญ สติ สัมปชัญญะ เพราะ สติ และ สัมปชัญญะ จะทำให้เราเป็นผู้ไม่ประมาท รู้จักคิด รู้จักกระทำ รู้เหตุผล ปัจจัยที่ควรจะทำ พูด คิด

     ที่บอกไม่ใช่ เรื่องยาก
     ก็เพราะว่า การที่เราสั่งสมบารมีตอนนีี มีระเบียบ แบบแผน ซึ่งผู้วางไว้ คือ พระผู้พระภาคเจ้า ผู้ทรงตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ได้วางรากฐาน แบบแผนให้เรารู้แล้วว่า ควรทำอย่างไร จงเป็นบัณฑิต ละธรรมดำเสีย แล้ว เจริญธรรมขาว เป็นต้น

     เรื่องของมาร ก็เป็นหน้าที่ของเขา เรื่องของเรา ก็คือ เจริญสติ อดทน อย่าทิ้งการสะสมบารมี จะทำได้มากน้อย ขึ้นอยุ่กับสติปัญญา ของเรา
 
     เจริญธรรม / เจริญพร  ขอให้หายป่วย หายเจ็บ โดยไว และมีกำลังใจในการสร้างบารมีธรรมต่อไป

     ;)

   
   



บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: เจอมารมาขัดขวางทางบุญ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 02:31:05 pm »
0
วันนี้จารวี เกิดอุบัติเหตุ เจ็บไม่ใช่น้อย ด้วยตั้งใจจะนำหนังสือธรรมะไปแจก แต่ วันนี้ต้องกลับมานอนรักษาตัว จารวีไม่เข้าใจว่า ทำไม เพื่อนๆชาวธรรมมีความคิดเห็นยังไง ขอบคุณค่ะ

ชั่วถากดีทำ

     สัตว์ชนหม่นหมื่นข้อง          เขลาโอบ
นุชหนึ่งนี้เดี่ยวโฉบ                 ร่ำเศร้า
แท้โลกเกลื่อนหลากโลภ        ชนชั่ว
ดีเกริ่นมารคลอเคล้า             เจ็บไห้นี้กรรม.


                                                       ธรรมธวัช.!          

                                                                             

:03:   :s_laugh:
http://feelgoood.diaryclub.com/20090401/%C3%D1%A1-%E4%C1%E8%C3%D1%A1-%A4%D4%B4%CB%B9%D1%A1%E0%CB%C1%D7%CD%B9%A1%D1%B9         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2012, 02:50:38 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

drift-999

  • ศิษย์ตรง
  • พอพึ่งพาได้
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 239
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เจอมารมาขัดขวางทางบุญ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2012, 01:10:06 am »
0
ชีวิตมีอุปสรรค ครับ ไม่ลื่นไหล กันเสียทุกเรือง

  เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก นะครับ นั่งอยู่ดี ๆ ก็มีลาภมา คุณจะว่าเป็นเพราะบังเอิญ หรือ เทวดามามอบให้

  นั่งอยู่ดี กับโดนของตกหล่นใส่กลางศรีษะเป็นลมสลบไป ก็เจอมาแล้ว อันนี้จะบอกว่าบังเอิญ หรือครับ ดังนั้นกรรมตัดรอน นั้นล้วนแล้วมีแก่ผู้สร้างบารมี นะครับ กรรมส่วนนี้ใครเป็นผู้ทำให้เกิด ก็เรานั่นแหละเป็นผู้ทำให้เกิดครับ เพราะกรรมมาจากการกระทำของเรา จะในอดีต และปัจจุบัน ....

   แต่สิ่งสำคัญ ที่สุด ปณิธาน ที่จะละจาก อกุศล อย่าให้สูญหายครับ

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า