สนใจ คะ แต่ยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน คะ

 จะขอได้หรือไม่ คะ
   

ได้ชมแบบจุใจ เลย คะ อยากให้พระอาจารย์ ช่วยกู้คืน ภาพอื่น ๆ ทั้งหมดเลยคะ

 

 

พระอาจารย์ ยังไม่ได้ ตอบที่หนูถามเลยคะ นานมากแล้ว คะ ตั้งแต่เดือนที่แล้ว คะ

 

 

ตอนนี้ ดูเเหมือนจะใช้งานได้ ตามปกติ คะ

 

ต่อไปพระสงฆ์ คงไม่ปลอดภัยแล้ว เพราะตอนนี้ หลายคนกำลังทำให้ พระสงฆ์ ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญ ให้เป็นเหมือนคนธรรมดา และตัวพระสงฆ์เองในปัจจุบัน ทิ้งการภาวนา แสวงหาลาภยศ จนทำให้ศรัทธาของคนต่ำลงไปเรื่อย ๆ ถ้าจะเป็นที่เคารพศรัทธา ก็ต้องแรง จริง ๆ เท่านั้น ถึงจะเป็นที่นับถือ ของคนในปัจจุบัน

 แปลกนะที่มีพระสงฆ์เข้าไปสอนหนังสือ ในโรงเรียนกันมากขึ้น แต่คนที่ดีในสังคม ก็หาน้อยมากจริง ๆ คนมีน้ำใจ คนบุญคนเข้าวัด จริง ๆ ตอนนี้น้อยลง ไปมากเนอะ
 

 

สรุปแล้วก็ไม่ต่างอะไร จาก ฮินดู เลย ศาสนาพุทธ บนบานศาลกล่าว ขอพร ให้เกิดโชคลาภ

 

 

อย่างน้อยก็ได้ทราบว่า ภัยแล้ง เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี้ขนาดหน้าฝนแล้ว ยังแล้งขนาดนี้ ชาวนา กสิกรรม จะเอาน้ำที่ไหน มาใช้กันหนอ .
 

 
การเห็น พอง ยุบ นั้นเห็นอย่างไร คะ การเห็น พอง ยุบ นั้นเป็น สมาธิ หรือ สติ คะ

   อยากทราบวัตถุประสงค์ ของการเห็น พอง ยุบ นั้นพือ่อะไรคะ และ ทำอย่างไร
   และการทำอย่างนี้ เป็น สติ หรือ สมาธิ คะ
   ควรฝึก แบบไหน ดี คะ ถ้าจะทำ วิปัสสนา คะ

 

 ชอบรูปพระอาจารย์ ดูท่าน สมบูรณ์ ดี นะ

 

 เนื้อเรื่องอ่านแล้ว ก็เข้าใจนิดเดียว เหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเป้นเรื่องของพระ ที่จะต้องรักษาวัตรด้วยการบิณฑบาตร เลี้ยงชีพ ซึ่งพยายามยามอ่านมาหลายตอน ก็มีทั้งพระสูตร บอกว่า เป้นของต่ำบ้าง เป็นของสูง ดูแล้วขัดกันดี เพราะการเลี้ยงชีพของพระต้อง อาศัย บิณฑบาตร ถ้าไม่บิณฑบาตร ก็เรียกว่า ขาดวัตร หรือ นิสสัย

 

พระนราสภา ผู้สาดส่องแสงสว่าง ผู้ประเสริฐ เป็นครูสอนของเทวดา และ มนุษย์ทั้งหลาย
ข้าพเจ้า นอบน้อมพระคุณแห่งพระพุทธเจ้า มาประทับในท่ามกลางแห่งใจ ของ ข้าพเจ้า ด้วยคำว่า พุทโธ

 ขอความสวัสดมีชัย จงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเทอญ

 

 

เจริญ สติ กับ เจริญ สมาธิ แตกต่างกันหรือ เป็นอันเดียวกัน คะ

 

ไม่ว่า จะเป็นของรางวัล อะไรก็ตามต้องเป็นของที่ผ่านการเคยใช้งานมาก่อนแล้วทั้ง คะ ทำอย่างไร จึงจะให้ชีวิต พบแต่ของมือหนึ่ง นี่ยังพวกผู้ชาย ก็กลัวจะเป็นมือสองมือสามมือสี่มือห้าด้วยคะ อยากได้คนรักเดียวใจเดียว มือหนึ่ง มือเดียว คะ

  ต้องทำอย่างไร คะ

    :'(

ตอนนี้ก็ใช้ได้ ดี นะคะ

 

อาจจะมีทางแก้แล้ว เพียงแต่ ยังไม่ได้ดำเนินการ เชื่อว่า บุญย่อมช่วย คนที่ตั้งใจดี คะ

 

คืออะไร หรือ ? สนใจ

 

 

เห็นด้วยคะ ผู้ชายสมัย นี้ พึ่งไม่ค่อยได้ คะ
ที่พึ่งได้ จริง ๆ มีน้อยมากคะ
  ผู้ชายบางคน ก็ดูถูกผู้หญิง มาก ๆ คะ

  อย่ายอมนะคะ เพราะสมัยนี้ ประชาธิปไตยแล้ว ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเป็นช้างเท้าหลัง คะ

 โบราณ

 

 

 การทำหมัน แมว สุนัข นี้เป็นบาปกรรมส่งผลอย่างไร คะ

   คือตอนนี้ประชากร ของ แมว สุนัข ที่บ้านกำลังเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากคะ เวลาเขาออกลูก ออกที่ละ 5 ตัว เราปล่อยเขาไว้อย่างนี้ปรากฏภายใน 2 ปี มีจำนวนเพิ่มขึ้น ถึง 30 ตัว ( เฉพาะแมว ) ก็เลยคิดทำหมันให้สัตว์ คือไม่ให้ขยายพันธ์ เพราะเริ่มสร้างความเดือดร้อนให้แก่ เพื่อนบ้านแล้วคะ สงสารตอนเขาถูกวางยา คะ เพราะเข้าไปในบ้านของผู้อื่นคะ เพราะเราควบคุมไม่ให้แมวปีนหลังคาบ้านไม่ได้คะ บางครั้งก็ไปกัดกันบนหลังคาบ้านเขา ถูกหนังสติ๊กยิง ก็มี คะ

   :'(

 

   คือไปทำบุญมาคะ บางวัดก็ให้พระฉันในบาตร บางวัดก็ัจัดเป็นสำรับ เป็นองค์เป็นรูป ไม่ทราบวิธีการไหน ถูกหรือผิด คะ

 

 

วัดป่าเชิงเลน 16 มีนาคม 2556 เวลา 13.00-16.00 น.

 

http://www.tvjaa.com/stream/dharmatv.html

ช่องทางการร่วมเผยแผ่่ธรรมะได้ที่
ธนาคาร กสิกรไทย สาขากล้วยน้ำไทย บัญชีออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 712-2-41159-6
ธนาคาร กรุงเทพ สาขาย่อยอาคารมาลีนนท์ บัญชีออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 014-0-06953-5

หน้าหลักl ประวัติความเป็นมาl ชมรายการย้อนหลัง l ดาวน์์โหลดธรรมะl ติดต่อเรา
มูลนิธิรวมใจเผยแผ่่ธรรมะ เลขที่ 196 ซ.ปรีดีพนมยงค์ 46 (ซ.จิตรวารี) ถ.สุขุมวิท 71
แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา คลองเตย, วัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทร. 0-2391-3565-6 FAX : 02-391-3567
E-mail : Dharmatv01@gmail.com

http://www.dharmatv.org/

[WBTV สถานีโทรทัศน์โลกพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย วัดยานนาวา เพื่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ เพื่อเป็นสื่อสร้างความเข้าใจและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ระหว่างคนในชาติซึ่งมีเชื้อชาติและศาสนาที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างสรรค์ และปลูกจิตสำนึก ให้คนในชาติมีความรักและเกิดความหวงแหน ในสถาบันชาติ ศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง หน้าสถานี| ห้องข่าว | ห้องภาพ | ห้องรายการCopyright @ 2009 Watyan | All Rights Reserved | Powered By MIT40 ถ.เจริญกรุง ตำบล ยานนาวา อำเภอ ยานนาวา จังหวัด กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์: 10120 โทร 0-2211-9317,02-672-3216 โทรสาร 02-672-3206http://www.watyan.tv/content/182/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-WBTV]

http://www.tvjaa.com/stream/wbtv.html

WBTV สถานีโทรทัศน์โลกพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย วัดยานนาวา เพื่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ เพื่อเป็นสื่อสร้างความเข้าใจและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ระหว่างคนในชาติซึ่งมีเชื้อชาติและศาสนาที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างสรรค์ และปลูกจิตสำนึก ให้คนในชาติมีความรักและเกิดความหวงแหน ในสถาบันชาติ ศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง


หน้าสถานี| ห้องข่าว | ห้องภาพ | ห้องรายการ
Copyright @ 2009 Watyan | All Rights Reserved | Powered By MIT
40 ถ.เจริญกรุง ตำบล ยานนาวา อำเภอ ยานนาวา จังหวัด กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์: 10120 โทร 0-2211-9317,02-672-3216 โทรสาร 02-672-3206

http://www.watyan.tv/content/182/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-WBTV

http://www.watyan.tv/flvideo/182.flv

จะมองแง่ ดี ว่า เข้าห้องสุขา เพราะปลดทุกข์ การปลดทุกข์ เหมือนการเข้าถึงธรรม อย่างนั้นหรือคะ

  การมองแง่ดีอย่างนี้หมายถึง การที่เราเข้าไปจัดการอะไรไม่ได้ เพื่อให้เราอารมณ์สงบ ลงใช่หรือ ไม่คะ
หรือต้องรื้อ พรหมชาลสูตร เข้ามาอ่าน หลาย ๆ รอบ  จึงจะถูกใจ ทุกท่าน

     คำถามคือ สิทธิมนุษยชน ที่ไม่ควรหมิ่นซึ่งกันและกันเพื่อการอยู่อย่างสันติสุข อยู่ตรงไหน คะ

    :'(

ไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงก์นี้ นะคะ
http://www.8875fm.com/index.php?name=webboard&file=read&id=176

เวลาที่รู้สึกเหงา ๆ อ้างว้าง ว้าเหว่ เราควรทำอย่างไร ดีคะ

  หลายครั้งที่รู้สึกอย่างนี้ จนรู้สึก เซ็ง ๆ กับชีวิต คะ
  เราควรทำอย่างไร ดีคะ ที่ถูกต้องในแนวกาารภาวนา คะ

  เพราะเวลารู้สึกอย่างนี้ ก็ไม่เอาการภาวนาเลยคะ เคยนั่งกรรมฐาน แล้ว ก็นั่งได้แป๊บเดียวเอง ทำให้รู้สึก หงุดหงิด ขึ้นมา มากขึ้น คะ


 

การจาริก ของ พระอาจารย์ปี 56 มีสาระธรรม มาฝากให้ ผู้อ่านได้อ่านเยอะมากคะ ไม่่ทราบพระอาจารย์จาริกอย่างนี้บ่อยครั้งหรือไม่คะ นำผู้ติดตามไปกี่ท่าน หรือ ส่วนใหญ่ ไปท่านเดียว คะ ปี 2555 ไปที่ไหนคะ จำได้ว่าเคยเห็นไปเชียงใหม่ กันเป็นคณะ

     อยากไปด้วย คะ ถ้ามีกำหนดการแน่นอน ได้เที่ยว ได้ทำบุญ ได้ฟังธรรม ได้ภาวนา

   

 

  เป็นกระทู้ที่ไขข้อข้องใจ ให้กับหลาย ๆ คนโดยเฉพาะเรา ที่สงสัยเช่นกัน จ้า

 

อ่านด่วน!!!!
ถ้าไม่อยากพลาดอะไรในชีวิต!!!!

อยากประสบความสำเร็จในชีวิต
ก็ต้องสะสมพลังจิต!!!
พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
ท่านสอนไว้อย่างนี้
ใครสนใจเรียนรู้การทำสมาธิอย่างเป็นระบบ
ขอเชิญนะครับ
ไปเรียนกันมากๆ เพราะหลักสูตรครูสมาธินี้
หลวงพ่อท่านเขียนขึ้นด้วยตนเอง
จากประสบการณ์ชั่วชีวิตของท่าน
ทุกอย่างที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตสอน
ถูกบรรจุอยู่ในเนื้อหาของหลักสูตรนี้ทั้งหมด
พลังจิตคืออะไร ฌาน ญาณคืออะไร
พลังจิตสามารถนำไปใช้
ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
อะไรคือการสูบกินพลังจิต
อะไรคือการผลิตพลังจิต
พระพุทธเจ้าใช้พลังจิตเพื่อการบรรลุธรรมอย่างไร
วิปัสสนาที่บรรลุธรรมได้จริงนั้นเขาทำกันอย่างไร
กายหยาบ กายละเอียดคืออะไร
พลังจิตจะมาช่วยเราในขณะจิตสุดท้ายได้อย่างไร
ทั้งหมดนี้คุณจะได้รู้แน่นอน!!!
หลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียนทั้งหมดหกเดือน
แต่ช่วยให้คุณสะสมพลังจิตได้ชั่วชีวิต
ข้ามภพข้ามชาติ
ได้รับความเจริญรุ่งเรืองทางโลก
เปิดประตูสวรรค์ ปิดประตูนรก
วางรากฐานสู่หนทางแห่งพระนิพพาน
มีพลังจิตแล้วเมื่อทำวิปัสสนาจะทำให้สามารถตัดกิเลสได้
เมื่อตัดกิเลสได้จริง ก็บรรลุธรรมได้จริง!!!
เกิดเป็นมนุษย์แสนยาก
พบเจอศาสนาพุทธยากยิ่งกว่า
ชีวิตนี้สั้นนัก อะไรที่ดีควรเร่งลงมือทำอย่าได้รอ...
ติดต่อสอบถามเพิ่มได้ที่เบอร์โทร...
02-3111387 หรือ02-3113903
ปฐมนิเทศวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้
เรื่องสถานที่เรียนคุณสามารถไปเรียนได้หลายๆ สาขา ใกล้ที่ไหนเรียนที่นั่น
เลือกเรียนในสาขาใกล้บ้านได้ตามความพอใจ
รุ่นนี้เปิดเป็นรุ่นที่ 32 แล้วมีชื่อรุ่นว่า "วิสุทธิผล"
ใครสนใจก็สมัครได้เลยนะครับ
เรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ได้ความรู้ ได้บุญ ได้เพื่อน ได้สังคมดีๆ
ได้ชีวิตที่ดีที่สุดกลับไป...

อนุโมทนา เป็น บทความวิสัชชนา จากพระอาจารย์ บทความแรกของเดือน กุมภาพันธ์ ขอบคุณมากคะ อ่านแล้วยังรู้สึกอบอุ่นใจ ว่า ที่บอร์ด พระอาจารย์ยังตอบอยู่คะ

 

เรียน คุณลุง มีประโยชน์มากคะ คิดว่าเป็นปฏิทินฤกษ์ ที่ดีที่สุด ที่อ่านมาตอนนี้ เพราะมีรายละเอียดเวลาพร้อมคำแนะนำ ที่ดี และขอบคุณที่ลุง ตอบจดหมายให้เร็วมากคะ เกินความคาดหมาย ด้วยคะ

 

ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่า ถ้าหากวันหนึ่ง มีเหตุให้ชีวิตเราต้องสะดุดล้มลง เราก็ควรจะลุกขึ้น แล้วเริ่มต้นเดินหน้าต่อไป แต่ในความจริง หากเราล้มลงจริงๆ คุณอาจสงสัยว่า เราจะลุกขึ้นได้อย่างไร
       
       ถ้าหากคุณล้มลง เพราะการกระทำของตัวเอง คุณอาจสูญเสียความเชื่อมั่น
       
       แต่หากคุณล้มลง เพราะการกระทำของคนอื่น คุณอาจมีความโกรธเคืองค้างอยู่ในใจ คิดแต่จะกล่าวโทษเขา ต้องการให้เขารับผิดชอบ จนแทบไม่เหลือพลังพอที่จะลุกขึ้นใหม่
       
       เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องน่าคิดนะครับ ว่าถ้าเราล้มลง เราจะมีวิธีลุกขึ้นใหม่ได้อย่างไร
       
       ก่อนอื่น ลองทบทวนดูว่า ....
       
       คุณเคยเห็นภาพคนที่ล้มลง แล้วลุกขึ้นมาใหม่ ได้อย่างน่าชื่นชมบ้างไหมครับ
       
       เชื่อแน่ว่าหลายคนคงนึกถึงเด็กๆ ที่กำลังหัดเดิน ที่ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า
       
       เด็กๆ เป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมนะครับ และยังน่ารักมากซะด้วย ทุกครั้งที่เขาล้มลง เขาจะลุกขึ้นมาได้ใหม่ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ บางรายอาจร้องไห้สักพัก แล้วจึงลุกขึ้นเดินต่อ บางรายก็ยิ้มหัวเราะกับการล้มของตนเอง หรือบางรายก็ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่ล้ม เด็กทุกคนต่างก็ลุกขึ้นได้ แล้วเดินหน้าต่อไป
       
       สงสัยไหมครับ ว่าอะไรทำให้เด็กๆ ล้มแล้วลุกขึ้นได้ ด้วยความน่ารัก
       
       เด็กๆ ทำได้ เพราะเขาไม่ได้มองว่าการล้มเป็นปัญหา ตรงกันข้าม เด็กๆ กลับเห็นเป็นเรื่องสนุกด้วยซ้ำที่จะได้เรียนรู้วิธีเดินด้วยท่าต่างๆ การล้มจึงเป็นเรื่องปกติ ที่พวกเขาจะต้องเจอะเจอ ล้มเมื่อไหร่ก็ได้เรียนรู้กันเมื่อนั้น
       
       การล้มจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กๆ และยังเป็นเรื่องของการเรียนรู้ ที่จะช่วยให้เด็กลุกขึ้นได้ ในทุกๆ ครั้ง
       
       เราทุกคน ต่างก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนั้นกันมาแล้วนะครับ เราเคยล้ม แล้วลุกขึ้นใหม่ ล้ม แล้วลุกขึ้นใหม่นับครั้งไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นตอนนี้ หากมีเหตุให้เราต้องล้มลงอีกครั้งหนึ่ง ก็น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่เราจะได้ทบทวนวิธีลุกขึ้นใหม่เหมือนอย่างที่เราเคยทำมาแล้วสมัยเป็นเด็กๆ
       
       ประเด็นสำคัญก็คือ การสะดุดล้มนี้นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้แล้ว เรายังอาจใช้เป็นเวลาของการทบทวนเป้าหมายชีวิต ได้ด้วยนะครับ เพราะคนที่เคยล้มหลายคน พูดคล้ายกันว่า การล้มทำให้เขาได้หันกลับมาทบทวนชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่งว่า
       
       ตัวเขาเองต้องการอะไร อะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตและสิ่งที่เขาทำอยู่ จนกระทั่งมีเหตุให้สะดุดล้มนั้น ใช่เส้นทางที่จะพาไปสู่จุดหมายที่แท้จริง หรือไม่
       
       การทบทวนเช่นนี้ทำให้หลายคนได้ค้นพบหนทางใหม่ที่ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ
       
       เราลองมาทบทวนกันดูนะครับ...
       
       เริ่มจากการถามตัวเองดูว่า ทุกวันนี้ ความสุขในชีวิตของคุณเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง กิจกรรมอะไร หรือการทำอะไร ที่ทำให้คุณมีความสุข คุณได้ทำสิ่งที่มีความสุขเช่นนี้ เป็นประจำ สม่ำเสมอ มากน้อยเพียงใด และอะไรทำให้เป็นเช่นนั้น
       
       หลายคนบอกว่า การได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัว คือ ความสุข
       
       หลายคนบอกว่า ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง ได้นั่งนิ่งๆ เงียบๆ ได้ทบทวนตัวเอง คือ ความสุข
       
       หลายคนบอกว่า การได้ทำสิ่งที่ชอบด้วยความเพลิดเพลิน เช่น อ่านหนังสือ รดน้ำต้นไม้ เดินเล่น คือ ความสุข
       
       หลายคนบอกกว่า การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้พัฒนาตัวเอง ได้เติมความเข้าใจชีวิตให้ลึกซึ้งขึ้น นั่นคือความสุข
       
       หลายคนบอกว่า เพียงแค่ได้สัมผัสความรื่นรมย์ของธรรมชาติรอบตัว เช่น แสงแดดอุ่นๆ ร่มไม้ที่เย็นสบาย อากาศบริสุทธิ์ยามเช้า หรือเห็นผีเสื้อสวยๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
       
       แล้วคุณล่ะครับ อะไรคือความสุขในชีวิตของคุณ
       
       ลองทบทวนดูว่า ครั้งสุดท้ายที่มีความสุข คุณกำลังทำอะไรอยู่ และคุณได้ทำสิ่งนั้นเป็นประจำ สม่ำเสมอเพียงใด คำตอบที่คุณมีให้กับตัวเอง จะช่วยให้คุณเห็นภาพชีวิตตัวเองได้ชัดขึ้น ว่าคุณได้เรียนรู้อะไร จากการสะดุดล้มครั้งนี้บ้าง
       
       การลุกขึ้นใหม่ในรอบนี้ คุณต้องการจะปรับเปลี่ยนจุดหมายในชีวิตใหม่หรือไม่
       
       จุดหมายในชีวิตของคุณ คืออะไร
       
       มีความลับที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งครับ ถ้ามนุษย์ค้นพบจุดหมายในชีวิตที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงแล้วมนุษย์จะมีพลังอย่างเพียงพอในการที่จะทำอะไรก็ได้
       
       ไม่เพียงแค่การลุกขึ้นเท่านั้นนะครับ แต่ยังรวมถึงการเดินไปข้างหน้า ด้วยความเชื่อมั่น ศรัทธาและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
       
       ลองถามตัวเองดูนะครับว่าวันนี้ คุณพบจุดหมายในชีวิต หรือยังและคุณพร้อมหรือยังที่จะลองเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
       
       (เรียบเรียงจาก บทสื่อเสียงชุด "ถามชีวิต" www.jitdee.com)
       
       (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 124 มีนาคม 2554 โดย นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิต สสส.)

มีคำกล่าวว่า We are what we think as we think so we become คุณเป็นอย่างที่คุณคิด หากคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้สำเร็จ จากการศึกษาผู้ที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้พบว่าทุกคน มีคุณสมบัติของความเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองจัดเป็นคุณลักษณะที่สำคัญยิ่ง

กลยุทธ์การสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในตนเอง

     1. พึ่งตนเองได้  " อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ " หมั่นฝึกตนช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
ก่อนจะร้องขอให้ผู้อื่นช่วย เพราะหากเราไม่ช่วยตนเองแล้วยากที่ใครจะมาช่วยเรา และจะเป็น
การตัดโอกาสและความก้าวหน้าของตนเองอย่างน่าเสียดาย เพราะไม่ได้พัฒนาความสามารถอย่างเต็มที่ ดังนั้นจงช่วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ แล้วคุณจะพบว่าคุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง

     2. รู้จักตนเอง  พยายามรู้จักตนเองให้ดีที่สุดด้วยการสำรวจตัวเองว่า มีจุดดี จุดด้อย จุดเด่นอะไรบ้าง จะปรับจุดด้อยให้ดีขึ้นได้อย่างไร ใช้จุดเด่นของตนให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นได้อย่างไร และยอมรับตนเองในฐานะมนุษย์ ซึ่งมีความสามารถ พลัง ค้นให้พบ
หาให้เจอ พลังที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวและนำมาใช้ให้เต็มที่ พร้อมกันนั้นก็ยอมรับจุดอ่อนที่มีหลังจากได้พยายามปรับแล้ว เพราะทุกคนก็ย่อมมีจุดแข็งจุดอ่อน " นี่คือมนุษย์ "

     3. ศรัทธาในตนเอง  นับถือตนเองเชื่อในความสามารถของตนเอง ไม่ดูถูกเหยียดหยามตนเอง เพราะคุณจะเรียกศรัทธาจากผู้อื่นได้ก็ต่อเมื่อคุณศรัทธาเชื่อถือตนเอง ดังคำพูดที่ว่า  " คุณทำได้หากคุณเชื่อว่าคุณสามารถทำได้ " ทุกข์ สุข อยู่ที่ความคิดของคุณเอง " ไม่มีใครจะนำความสุขความสำเร็จมาให้คุณนอกจากตัวคุณเอง"         

     4. กำจัดความกลัว  ความกลัวเป็นอุปสรรค์ต่อความสำเร็จและทำให้ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีจะผิดพลาดแต่คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย ก็จะไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ส่วนคนที่ทำงาน โอกาสสำเร็จและผิดพลาดก็ย่อมจะมีบ้างเป็นธรรมดาแต่หากทำดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับและไม่กลัวที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น พึงคิดเสมอว่า " ทำไม่ดี ไม่มี มีแต่ยังไม่ได้ทำหรือยังทำดีไม่มากพอ " การลงมือทำเป็นเรื่องสำคัญ อย่าได้กลัวที่จะลงมือทำ  ดังที่ว่า

        อย่าเพียงแต่ดู     จงลงมือทำ
        อย่าเพียงแต่พูด    จงลงมือทำ
        อย่าเพียงแต่กลัว    จงลงมือทำ
        ลงมือทำทันที     เดี๋ยวนี้เท่านั้น

และหากยังคงมีจิตใจกลัวและหวาดหวั่นต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ ก็ให้บอกกับตนเองว่า

        คนที่ดีที่สุด     ยังไม่เกิดขึ้น
        คนเก่งที่สุด     ยังไม่เกิดขึ้น

แต่ฉันนี่แหละคือคนเก่ง คนที่ดีที่สุดที่จะต้องสร้างสรรค์ และจัดการทำให้ได้  ดังนั้น จงขจัดความกลัว และเพิ่มความกล้า ให้คุณมีก้าวแรกเกิดขึ้นให้ได้ และก้าวต่อไปไม่ยาก ดังที่ว่า " ร้อยลี้พันลี้ ไม่สำคัญเท่าลี้แรก "

     5. การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน  เมื่อจะทำสิ่งใดให้ใส่ใจเอาใจจดจ่อกับสิ่งที่ทำ รวมพลังความคิดลงสู่การกระทำในขณะนั้นไม่ห่วงหน้า พะวงหลัง หรือยึดติดกับอดีต กังวลกับอนาคต แต่มุ่งใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับเวลาปัจจุบัน ทำเรื่องใดก็สนใจทุ่มเท มีสมาธิและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นดังที่ว่า " ถอดหัวใจให้สิ่งที่ทำ " ณ เวลานั้น

     6. คิดในทางบวก  พยายามคิดในเรื่องที่ดีที่ทำให้เป็นสุขเกิดพลังใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นให้คิดว่าเป็นประสบการณ์เป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้เราเติบโตขึ้น แกร่งขึ้น และเพิ่มพูนประสบการณ์ ตัวอย่าง เพลงของเบิร์ด " ผิดเป็นครู " อกหักทำให้รู้จักชีวิตมากขึ้น ให้หัดคิดเปลี่ยนปัญหาอุปสรรคให้กลายเป็นความสำเร็จมองวิกฤตให้เป็นโอกาสและเปลี่ยนปัญหาให้เป็นการพัฒนา

     7. ปลูกฝังอุปนิสัยที่ดี  การที่เราจะมีการเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองได้ ก็ต้องฝึกฝน เสริมสร้างและสั่งสมนิสัยที่ดี เช่น เป็นผู้มีความหวังเสมอ พรุ่งนี้ยังมีวันใหม่ให้ก้าวเดิน ความไม่กลัวต่อความลำบาก จิตใจเข้มแข็ง ต่อสู้ กล้าหาญ อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอ ไม่ประมาท เกิดเป็นคนไม่ควรขลาดกลัว จงเก่งกาจ กล้าหาญชาญชัย

     ขอฝากความคิดสะกิดใจเพื่อเพิ่มพลังสู่ความสำเร็จ

" ถ้าคุณคิดว่าคุณพ่ายแพ้ คุณจะพ่ายแพ้ ถ้าคุณคิดว่า คุณไม่กล้า คุณจะไม่กล้า ถ้าคุณต้องการที่จะชนะ แต่คุณคิดว่าคุณไม่อาจชนะ เกือบจะ แน่นอนว่าคุณจะไม่ชนะ ถ้าคุณคิดว่าคุณย่อยยับคุณจะย่อยยับ " เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ความสำเร็จเริ่มต้นด้วยความต้องการของคนผู้นั้นทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับท่าทีของจิตใจ ถ้าคุณคิดว่าคุณแพ้ยับเยิน คุณจะเป็นเช่นนั้น คุณจะต้องคิดให้สูงเพื่อที่จะยกตัวของคุณให้สูงขึ้น

     คุณจะต้องเชื่อถือในตัวของคุณเองก่อน ก่อนที่คุณจะชนะ รางวัลสงครามชีวิตมิได้อยู่ที่ผู้ที่แข็งแรง หรือเร็วกว่าเสมอไปแต่ในที่สุดไม่เร็วก็ช้า คนที่ชนะคือคนที่คิดว่าเขาทำได้

ที่มา : http://sa.sa.ku.ac.th

การปรากฏของ ศูนย์ นาภี นั้นปรากฏอย่างไร คะ มีขั้นตอนอย่างไร
อยากให้อธิบาย เพิ่มเติมให้ด้วย คะ การปรากฏของศูนย์ นาภี นั้นเป็นอย่างไรคะ