ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: http://khampramong.org/ วัดคำประมง  (อ่าน 2991 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

เฉินหลง

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 153
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
http://khampramong.org/ วัดคำประมง
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 12:08:58 pm »
0


http://khampramong.org/
วัดคำประมง


วัดคำประมง
 
คัดย่อบางส่วน จากความเป็นมาของวัดคำประมง
 
พระปพนพัชร์ (พัลลภ) กล่าวว่า “เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๙ ช่วงนั้น หลวงตาไปภาวนาที่ถ้ำขาม ช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๒๙ มาวันหนึ่งได้ทราบข่าวหลังจากไปวิเวกได้ลงมาข้างล่างที่วัดสันติฆาราม บ้านบัว ตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ผู้ใหญ่บ้านสมัยนั้นชื่อนายเสริม มีจิตศรัทธาที่จะถวายที่ดินให้หลวงตาในนามของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงตาก็บอกนายเสริมว่า ให้นายเสริมพาไปดูที่ พอไปดูที่แล้วมันไม่เหมาะสมที่จะสร้างวัด มันอยู่ใกล้บ้านเลยถามผู้ใหญ่เสริมว่ามีที่ใหม่อีกไหม คือตอนแรกจะยกที่ตรงนี้ให้หลวงปู่สิม หลวงตาก็บอกว่ามันไม่เหมาะสม เพราะที่มันไม่ใช่ทำเลที่ตั้งวัด นายเสริมก็ว่า “มีครับมันอยู่ที่ดอนขาม” ก็เลยพาหลวงตาไปดู ต้องเดินลัดเลาะป่าเข้าไป ไม่ได้เป็นทางอย่างที่เห็นปัจจุบันนี้ หลวงตาทำมาหมดแล้ว ถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา หลวงตามทำทั้งหมด เดินลัดทุ่งลัดรอยเกวียนเข้าไปจนถึงดอนขาม ติดแม่น้ำอูน เป็นป่าที่ไม่ได้พัฒนา เป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว หลวงตาก็ว่า “อย่างนี้แหละใช่เหมาะจะสร้างวัด” แกก็เริ่มถวายที่ดิน ครั้งแรก ๔๘ ไร่ เป็น นส. ๓ ก ให้หลวงตาสร้างวัด ก็ไม่มีอะไรเลยเป็นป่าโปร่งๆ ป่าโล่งๆ ที่ทำมาหากินไม่ได้ เป็นที่เข็ดที่ขามของชาวบ้าน มันจะมีจอมปลวกใหญ่ที่เรียกว่าดอนขาม สูงใหญ่มาก จะมีลานที่เขาปักหลักไม้ไว้ และเขียนเป็นอักษรธรรมไม่รู้ความหมายว่า คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร แต่ว่าตอนที่หลวงตาไป ปลวกกินไปแล้ว ไฟไหม้หมดแล้วจึงเหลือแต่ดอนขามปัจจุบัน จอมปลวกนั้นก็ยังอยู่ หลวงตาก็ไปปักกรด ภาวนาอยู่คนเดียว แบกกรดสะพายบาตรพอลงจากถ้ำขาม อำเภอพรรณานิคม ที่หลวงปู่มั่นท่านไปจำพรรษา มันไม่มีอะไรสักอย่าง มีเขียงนาร้างๆ เสาก็ร้าง หลังคาก็ร้าง ผู้ใหญ่เสริมก็ไปทำนาได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าดีเขาคงไม่ให้ มันใช้อะไรไม่ได้เลย ก็เราชอบที่อย่างนี้ พอเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๒๙ ผู้ใหญ่เสริมก็มากล่าวคำถวายที่ดิน หลวงตาก็นิมนต์พระมารับที่ดินตรงนี้หลายท่านหลายองค์ เป็นสักขีพยานว่าผู้ใหญ่แกถวายที่ดินตรงนี้แล้วนะ ให้กับหลวงตา หลวงปู่สิม ตอนนั้นหลวงปู่สิมอยู่ที่ถ้ำผาปล่อง ไม่ได้ลงมา หลวงตาก็จัดการรับเรียบร้อย”



เพื่อนได้พาคุณพ่อไปรักษาที่วัดคำประมง จ.สกลนคร  ที่วัดรักษาโดยใช้ยาสมุนไพรหลายอย่างซึ่งพระอาจารย์ทำพิธีสวดมนต์อธิฐานจิต ต้มยาหม้อให้ทุกๆ 2 อาทิตย์  และคนไข้ต้องทานอาหารมังสวิรัสอย่างเคร่งครัดพร้อมกับทานยาสมุนไพรทุกวัน  ทางวัดจัดบ้านให้อยู่ฟรี  ยาก็ฟรี  แต่ต้องมีญาติอยู่ดูแลคนไข้ 1 คน ทุกวันจะมีฟังเทศน์ตอนเช้า  พร้อมกิจกรรมสันทนาการบำบัด ออกกำลังกาย  แงเพลง  ร้องเพลง  ส่วนตอนเย็นก็มีการทำวัตรเย็น สวดมนต์ฟังเทศน์  ถ้าคนไข้อาการดีมีแรงก็เข้าร่วมกิจกรรมได้ แต่ถ้าไม่มีแรงก็อยู่ในห้องพักฟังเสียงตามสายแทนก็ได้  มีเสียงเพลงดนตรีไทยไพเราะบรรเลงโดยวงดนตรีพื้นบ้าน (วงไม้หอม) พระอาจารย์จะมาตรวจเยี่ยมอาการที่บ้านทุกวัน  ส่วนคนไข้อาการหนักมากๆในระยะสุดท้ายของชีวิต  ท่านก็จะบอกทุกคนให้มาอยู่กับคนไข้เพื่อสวดอิติปิโส และช่วยเป็นกำลังใจให้กับคนไข้ไปในภพภูมิที่ดี

ถ้าอยากดูภาพบรรยากาศในวัดก็ลองเข้าไปดูรายการคนค้นคน  ตอนอโรคยาศาล

มาถ่ายทอดสิ่งที่ได้พบ เผื่อได้เป็นประโยชน์ค่ะ
จากคุณ : ปันน้ำใจ
บันทึกการเข้า