« เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2020, 05:42:40 am »
0
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พระราหุล ทำใจเหมือน ดิน น้ำ ลม ไฟพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ได้ตรัสสสอนพระราหุลถึงการพิจารณาธาตุ ๕ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศ โดยแยกออกเป็นส่วนๆ ตอนท้ายได้ตรัสให้พระราหุลทำใจเหมือน ดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศ พอสรุปเป็นใจความได้ดังนี้
@@@@@@
๑. ราหุล.! เธอจงทำจิตให้เหมือนแผ่นดินเถิด เพราะเมื่อเธอทำจิตให้เหมือนแผ่นดินเป็นประจำอยู่เสมอแล้ว เมื่อกระทบอารมณ์ ที่ชอบใจหรือไม่ชอบใจก็ดี อารมณ์เหล่านั้นจะไม่สามารถทำให้จิตใจหวั่นไหวได้
ราหุล.! เปรียบเสมือนคนทั้งหลาย ทิ้งสิ่งของที่สะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ถ่ายอุจจาระรดบ้าง ถ่ายปัสสาวะรดบ้าง บ้วนน้ำลายรดบ้าง เทสิ่งของสกปรกอื่นลงบ้าง ลงที่แผ่นดิน แต่แผ่นดินจะอึดอัดระอา หรือรังเกียจด้วยสิ่งของนั้น ๆ ก็หาไม่ ฉันใด.?
ราหุล.! เธอจงทำจิตให้เสมอแผ่นดินฉันนั้นแล เพราะเมื่อเธอทำจิตให้เหมือนแผ่นดินอยู่ เมื่อมีการกระทบกับอารมณ์เกิดขึ้น ความรักหรือความชัง ก็จะไม่สามารถครอบงำจิตเธอได้ฉันนั้น
๒. ราหุล.! เธอจงทำจิตให้เหมือนน้ำเถิด เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนน้ำแล้ว จะไม่เกิดความชอบหรือความชัง ครอบงำจิตได้
ราหุล.! เปรียบเหมือนคนทั้งหลาย ล้างของหรือทิ้งของที่สะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้างลงในน้ำ น้ำจะอึดอัดระอาหรือรังเกียจด้วยของนั้น ๆ ก็หาไม่ ฉันใด.?
ราหุล.! เธอจงทำจิตให้เสมอด้วยน้ำฉันนั้นแล เมื่อกระทบอารมณ์แล้ว ความชอบและความชัง จะไม่สามารถครอบงำจิตเธอได้ฉันนั้น.
@@@@@@
๓. ราหุล.! เธอจงทำจิตให้เหมือนไฟเถิด เพราะไฟนั้น เมื่อมีผู้ทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งอุจจาระ ปัสสาวะบ้างฯ ไฟจะรู้สึกอึดอัดระอาหรือรังเกียจด้วยสิ่งนั้น ๆ ก็หาไม่ ฉันใด.?
ราหุล.! เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนด้วยไฟอยู่ การกระทบกับสิ่งที่ชอบและชังก็ย่อมจะไม่ปรุงแต่งให้จิตแปรปรวนได้ ฉันนั้น.
๔. ราหุล.! เธอจงทำจิตให้เหมือนลมเถิด เพราะลมนั้นย่อมพัดไปถูกต้องของสะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง พัดถูกอุจจาระ ปัสสาวะบ้างฯ ลมจะรู้สึกอึดอัดระอาหรือรังเกียจต่อสิ่งเหล่านั้นก็หาไม่ ฉันใด"?
ราหุล.! เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนด้วยลมอยู่ การกระทบกับสิ่งที่ชอบและชังก็ย่อมจะไมปรุงแต่งให้จิตของเธอแปรปรวนได้ฉันนั้น.
๕. ราหุล.! เธอจงทำจิตให้เหมือนอากาศเถิด เพราะอากาศนั้นไม่ตั้งอยู่ในที่ไหน ฉันใด.?
ราหุล"! เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนด้วยอากาศอยู่ตลอดเวลาแล้ว เมื่อกระทบกับอารมณ์ย่อมจะไม่เกิดความชอบและความชังขึ้นได้ ฉันนั้น
(มหาราหุโลวาทสูตร ๑๓/๑๒๖)
@@@@@@
พระสูตรนี้เหมาะกับเป็นหลักคิดของท่านใดบ้าง.?
ผู้ที่มีทิฏฐิ มานะ อัตตา และโทสะจริต น่าจะลองนำเอาคำสอน ในพระสูตรนี้ไปใช้เป็นประจำ เพื่อลดความโทมนัส น้อยใจหรือขัดเคืองใจ เมื่อเห็นว่าผู้อื่นล่วงเกินแล้ว ทำให้เกิดความไม่สบายใจ หงุดหงิดหรือรำคาญใจ
แม้ทำไม่ได้เด็ดขาด ตามพระสูตรนี้ ถ้าเราได้หัดทำอยู่เสมอ ๆ มีสติสัมปชัญญะ ระวังจิต ไม่ปล่อยไปตามอารมณ์ ที่มากระทบ จิตของเราก็จะสงบ นั่นก็คือจุดหมายปลายทางของความสุขที่ทุกคนปรารถนา แม้ได้รับเพียงครั้งคราว ก็นับว่าประเสริฐสุดแล้ว. แหล่งข้อมูล : ธรรมจักร
ขอบคุณ :
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/54747/-relbud-rel-dhart-Posted By มหัทธโน | 13 ต.ค. 59