ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณยาย ปลูกต้นไทร ผู้ยิ่งใหญ่ แห่ง รัฐกรณาฏกะ  (อ่าน 362 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28420
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


คุณยาย ปลูกต้นไทร ผู้ยิ่งใหญ่ แห่ง รัฐกรณาฏกะ

ชาวฮินดูเชื่อกันว่า หากหญิงคนไหนแต่งงานแล้วไม่มีลูกสืบสกุล ถือว่าเป็นหญิงอาภัพและเป็นที่รังเกียจของสังคม ครั้นตายไปก็ต้องตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ผุดได้เกิด

ด้วยเหตุนี้ ทิมมาก้า(Thimmakka) จึงเป็นกังวลเหลือเกิน ที่เธอไม่สามารถมีลูกกับชิกกันยา(Chikkanna) ได้ แม้ว่าทั้งสองจะแต่งงานอยู่กินกันมานานนับสิบปีแล้วก็ตาม ยิ่งได้ยินได้ฟังผู้เฒ่าผู้แก่เล่ากันมาว่า บาปนี้ไม่เพียงตกแก่หญิงผู้เป็นภรรยาเท่านั้น แต่ยังตกแก่ชายผู้เป็นสามีด้วย ทิมมาก้าก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น

วันหนึ่งทิมมาก้าจึงตัดสินใจบอกสามีตามตรงว่า “ฉันคงมีลูกให้เธอไม่ได้ เธอไปหาภรรยาใหม่เถอะนะ” ทันทีที่ได้ฟัง ชิกกันยาไม่เพียงปฏิเสธเท่านั้น หากแต่เขายังปลอบใจภรรยาว่า “ช่างเถอะถึงเราไม่มีลูกก็ไม่เป็นไร” ครั้นเวลาผ่านไปจนกระทั่งปีที่ 25 ของการแต่งงาน วันหนึ่งชิกกันยาก็เอ่ยปากกับภรรยาอย่างจริงๆจังๆว่า

“ในเมื่อเราไม่สามารถมีลูกได้ เรามาช่วยกันปลูกต้นไทรให้แผ่นดินแทนก็แล้วกัน”

@@@@@@

แรกทีเดียวทิมมาก้าไม่เข้าใจสักนิดว่า “จะปลูกไปทำไม” สามีจึงพาภรรยาเดินไปดูต้นไทรตามแนวถนนของหมู่บ้านใกล้ๆ ทิมมาก้าจึงเห็นว่าที่นี่มีต้นไทรมากกว่าหมู่บ้านของพวกเขาก็จริง แต่กว่าครึ่งอยู่ในสภาพยืนต้นตาย ส่วนที่เหลือก็ส่อเค้าว่าใกล้จะยืนต้นตายในไม่ช้า นั่นหมายความว่า อีกไม่นานหมู่บ้านแห่งนี้จะไม่มีต้นไทร ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติของอินเดียหลงเหลืออยู่เลย!

“เราสองคนมาช่วยกันสร้างชีวิตใหม่ให้ต้นไทรที่นี่กันนะ ฉันจะเป็นพ่อ แล้วเธอก็เป็นแม่ไง…ดีไหม”

เพียงเท่านี้ทิมมาก้าก็เข้าใจทุกอย่าง เมื่อกลับถึงบ้านสองสามีภรรยาผู้ยากไร้ก็รีบหาเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับตอนกิ่ง ก่อนจะพากันไปเลือกหาต้นไทรขนาดใหญ่ในหมู่บ้าน จัดแจงตอนกิ่งทิ้งเอาไว้จากนั้นก็รอเวลาให้กิ่งตอนเหล่านั้นแตกรากออก ก่อนจะนำมาเพาะเลี้ยงเป็นกล้าไทรต่อไป

เมื่อกล้าไทรแข็งแรงมากพอ สองสามีภรรยาก็ช่วยกันนำไปปลูกทุกวัน วันละ 2-3 ต้น โดยไม่ลืมที่จะล้อมรั้วเล็กๆ เพื่อป้องกันสัตว์เข้าไปกัดกินหรือทำลายต้นไทรด้วย จากนั้นทุก เช้าทั้งสองคนก็จะเทินหม้อน้ำไปรดต้นไทรจนครบทุกต้น ก่อนจะออกไปทำงานรับจ้างประจำวัน ครั้นเลิกงานกลับมา สองสามีภรรยาก็จะทยอยตอนกิ่งไทรชุดใหม่ต่อเพื่อให้มีกล้าไทรไว้ปลูกอย่างไม่ขาดตอน…ปรากฏว่า ปีที่หนึ่งทั้งคู่ปลูกต้นไทรไปทั้งหมด 10 ต้น ปีที่สอง 15 ต้น ปีที่สาม 20 ต้น และค่อยๆเพิ่มขึ้นทุกปี


@@@@@@

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี สองสามีภรรยาแห่งรัฐกรณาฏกะได้ปลูกต้นไทรมาแล้วเกือบ 300 ต้น ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า “การปลูกต้นไทรมีความสุขไม่ต่างจากการเลี้ยงดูชีวิตน้อยๆเลย ยิ่งได้เห็นต้นไทรเติบโต ก็ยิ่งมีความสุขเราสองคนตั้งใจไว้ว่า จะปลูกต้นไทรไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายจะมาถึง”

ในปี ค.ศ.1991 แม้ชิกกันยาจะเสียชีวิตลงด้วยโรคชรา แต่ทิมมาก้าซึ่งบัดนี้ใครๆ พากันเรียกเธอว่า “คุณยาย” ก็ยังคงมุ่งมั่นปลูกต้นไทรต่อไป…ดูเหมือนว่าวัยที่เพิ่มขึ้นและสังขารที่โรยราไม่ได้เป็นอุปสรรคในการปลูกต้นไทรสำหรับเธอเลย

หลายปีต่อมา ชาวกรณาฏกะได้พร้อมใจกันมอบคำว่า “Saalumarada” อันหมายถึง “ทิวแถวของต้นไม้” ให้เป็นคำนำหน้าชื่อของคุณยายทิมมาก้า เพื่อเป็นเกียรติให้กับความเพียรพยายามและความดีงามของเธอ

Saalumarada Thimmakka ได้รับการเชิดชูจากอินเดียในฐานะพลเมืองผู้ทรงคุณค่าเมื่อ ค.ศ.1995 และได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากหน่วยงานและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลกอีกไม่น้อยกว่า



ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/inspiration/39785.html
เรื่อง : ปาปิรัส , By Minou ,17 November 2016
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2020, 05:45:51 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ