ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - พรทิพย์
หน้า: [1]
1  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / มาแก้เคล็ด เบญจเพศ กันเถอะ เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2012, 09:19:37 am
คุณเชื่อเรื่องเบญจเพสกันบ้างรึป่าวเอ่ย…?

…..เมื่อเข้าสู่ช่วงเบญจเพส หรืออายุ 25 เชื่อว่าหลายต่อหลายคน มักเกิดความกังวลเรื่องของดวงชะตาของตัวเอง เรียกได้ว่า เป็นช่วงที่สำคัญมากที่สุดในชีวิต จะดีหรือจะร้าย เป็นเรื่องที่ทุกๆ คนต่างก็ให้ความสำคัญ ไม่จำเป็นเสมอไปว่า จะต้องเกิดเรื่องร้ายเมื่อเข้าสู่ช่วงนี้ บางคนอาจจะเจอกับเรื่องดีที่สุดในช่วงนี้ ก็เป็นได้ แต่ถ้าหากว่าคุณ ไม่อยากเจอะเจอเรื่องเลวร้าย อย่ามัวช้า มาทำบุญแก้เคล็ด เบญจเพส สลัดเคราะห์ร้ายกันดีกว่าค่ะ
1. ถวายสิ่งของที่เป็นคู่ให้กับที่วัด ไม่ว่าจะเป็นเทียนคู่ แจกันคู่ ธงคู่ หมอนคู่ อะไรก็ได้ที่เป็นคู่ ก็ตามความเชื่อและตามความคิดเหมือนกับว่าเป็นคู่กับคนอื่น และคนอื่นก็จะได้นำไปใช้เป็นคู่ๆและก็จะเป็นสิ่งที่ดีกับเรา
2. ร่วมพิธีเลี้ยงพระตอนเช้ากับคู่บ่าวสาวในงานแต่งงาน
3. ถวายพวงมาลัยดอกรักหรือดอกมะลิเป็นประจำเพื่อที่จะไหว้พระ
4. ปลูกต้นรัก ลงดินในบริเวณวัด แต่ห้ามปลูกในบ้าน
5. รักษาศีลพรหมวิหารสี่ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อผู้อื่น ยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี เมื่อเห็นผู้อื่นได้ทุกข์ก็ไม่ซ้ำเติมเขาปรับดวงเรื่องสุขภาพ
6. ทำบุญสะเดาะเคราห์ เพื่อที่จะแก้ดวง แก้ชง
7. ปล่อยเต่า 3 ตัว หรือ 9 ตัว ทุกๆ 7 วัน ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ให้ครบ 5 ครั้งปรับดวงธุรกิจการงาน
8. ไหว้พระพรหม ขอความสำเร็จด้านการงาน
9. สวดมนต์ไหว้พระอย่างตั้งใจ
10. กราบไหว้เจ้าที่เจ้าทางประจำบ้าน จัดผลไม้ ดอกไม้ ไหว้บูชาพระบนหิ้งที่บ้าน
11. กราบไหว้ ร.5 ขอความสำเร็จด้านการงาน ถวายกุหลาบสีชมพู ธูป 9 ดอก
12. ปล่อยปลาไหล ตามความเชื่อทำให้ชีวิตไหลลื่น



ขอบคุณภาพจาก http://farm4.staticflickr.com
2  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ความเห็น มันเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว คะ ในเรื่องการทำความดี เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 09:51:59 am
คือ เมื่อก่อนมีความรู้สึก และเห็นว่า คนเราทำดีแล้วไม่ได้ ดีคะ แต่ทำชั่ว แล้วได้ดี คะ

  แต่สักพักได้ศึกษาพระธรรม แล้ว ก็เห็นว่า คนเราทำดีแล้วก็ดี คะ คนทำชั่วแล้ว ก็ชั่ว คะ

 แต่ตอนนี้ เริ่มมีความคิด ทิฏฐิ กลับมาเห็นว่า

    การทำดี ไม่มีทางได้ดี เลยคะ เพราะคนทำดี ต้องหนีหัวซุก หัวซุนอยู่อย่างหลบซ่อน ตกงาน ไร้ที่อยู่ เท่าที่เห็นมีตัวอย่างมาหลายท่าน
     
    ส่วนคนที่ทำไม่ดี ทำเลว กลับอยู่อย่างปกติ มีคนนับหน้าถือตา เป็นอยู่อย่างสุขสบาย

    แล้วผลของความดี จะมาเมื่อไหร่ คะ

    ตอนนี้รู้สึกสับสน กับการสร้างกุศล ไปซะแล้ว ขอเพื่อน  ๆ พี่ ๆ ชาวธรรมช่วยแนะนำด้วยคะ ว่าเราควรจะวางใจอย่างคะ

     :'( :coffee2:
3  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ไม่พึงยินดีสังขารเก่า ไม่พึงทำความชอบใจในสังขารใหม่ เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 11:00:34 am
พระพุทธเจ้าตรัสว่า

           [๘๓๑] ไม่พึงยินดีสังขารเก่า ไม่พึงทำความชอบใจในสังขารใหม่ เมื่อสังขารเสื่อมไป ก็ไม่พึงเศร้าโศก ไม่พึงเป็นผู้อาศัยกิเลสเครื่องเกี่ยวข้อง.


พระสารีบุตรได้อธิบายดังนี้ -

            [๘๓๒] คำว่า ไม่พึงยินดีสังขารเก่า ความว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่ล่วงแล้ว เรียกว่า สังขารเก่า. บุคคลไม่ควรยินดี ไม่ควรบ่นถึง ไม่ควรติดใจ ซึ่งสังขารทั้งหลายที่ล่วงแล้วด้วยอาการของตัณหา ด้วยอาการของทิฏฐิ พึงละ บรรเทา ทำให้สิ้นไป ให้ถึงความไม่มี ซึ่งความชอบใจ ความบ่นถึง ความติดใจ ความถือ ความยึดถือ ความถือมั่นเพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ไม่พึงยินดีสังขารเก่า.

            [๘๓๓] คำว่า ไม่พึงทำความชอบใจสังขารใหม่ ความว่า รูป เวทนา สัญญา สังขารวิญญา เป็นปัจจุบัน เรียกว่า สังขารใหม่. ไม่ควรทำความชอบใจ ความพอใจ ความรักความกำหนัด ในสังขารทั้งหลายที่เป็นปัจจุบัน ด้วยสามารถแห่งตัณหา ด้วยสามารถแห่งทิฏฐิ คือ ไม่ให้เกิด ไม่ให้เกิดพร้อม ไม่ให้บังเกิด ไม่ให้บังเกิดเฉพาะ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าไม่พึงทำความชอบใจในสังขารใหม่.

            [๘๓๔] คำว่า เมื่อสังขารเสื่อมไป ไม่พึงเศร้าโศก ความว่า เมื่อสังขารเสื่อมไปเสียไป ละไป แปรไป หายไป อันตรธานไป ไม่พึงเศร้าโศก ไม่พึงลำบากใจ ไม่พึงถือมั่นไม่พึงร่ำไร ไม่พึงทุบอกคร่ำครวญ ไม่พึงถึงความหลงใหล คือ เมื่อจักษุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ สกุล คณะ อาวาส ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร เสื่อมไป เสียไป ละไป แปรไป หายไป อันตรธานไป ไม่พึงเศร้าโศก ไม่พึงลำบากใจ ไม่พึงถือมั่น ไม่พึงร่ำไร ไม่พึงทุบอกคร่ำครวญไม่พึงถึงความหลงใหล เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เมื่อสังขารเสื่อมไป ไม่พึงเศร้าโศก.




****************************

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙
ขุททกนิกาย มหานิทเทส
อัตตทัณฑสุตตนิทเทสที่ ๑๕
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=29&A=9094&Z=10136&pagebreak=0


ขอบคุณภาพจาก http://statics.atcloud.com
4  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / รายการธรรมะบันดาลใจ ตอนกรรมทันตา ตอน1 1 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 01:02:09 pm
รายการธรรมะบันดาลใจ ตอนกรรมทันตา ตอน1 1



ตอนอื่น ๆ ติดตามได้ www.youtube.com

เครดิต  http://www.youtube.com/user/suchadakrai


 :c017: :s_hi:
5  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / โปรแกรมพระไตรปิฎก ฉบับเรียนพระไตรปิฎก เมื่อ: สิงหาคม 04, 2011, 10:22:57 am
โปรแกรมพระไตรปิฎก ฉบับเรียนพระไตรปิฎก 


http://learntripitaka.com/Download.html

       ฉบับเรียนพระไตรปิฎก [รายละเอียด]
              2.1 พระไตรปิฎกภาษาบาลี
                    พระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทยฉบับสยามรัฏฐ จำนวน ๔๕ เล่ม
              2.2 พระไตรปิฎกภาษาไทย
                    พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับสยามรัฏฐ จำนวน ๔๕ เล่ม
              2.3 พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล
                    พระไตรปิฎกและอรรถกถาไทยฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย จำนวน ๙๑ เล่ม 
              2.4 อรรถกถาบาลี
                    อรรถกถาบาลีอักษรไทยฉบับสยามรัฏฐ จำนวน ๔๘ เล่ม
              2.5 หนังสือหมวดเปรียญประโยค ๑ ถึง ๙
                    หนังสือหมวดเปรียญประโยค ๑ ถึง ๙ จำนวน ๘๐ เล่ม
              2.6 หนังสือหมวดนักธรรมตรี โท เอก
                    หนังสือหมวดนักธรรมตรี โท เอก จำนวน ๕๒ เล่ม
              2.7 หนังสือหมวดสำหรับบุคคลทั่วไป
                    หนังสือหมวดสำหรับบุคคลทั่วไป จำนวน ๘ เล่ม

6  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รัสเซียฟันธง'วันสิ้นโลก2036' มนุษย์สังเวย10ล้านชีวิต! เมื่อ: มีนาคม 04, 2011, 10:49:21 am



รัสเซียฟันธง'วันสิ้นโลก2036' มนุษย์สังเวย10ล้านชีวิต!           
 

ภาพยนตร์เรื่อง 2012 วันสิ้นโลก หนังฮอลลีวู้ดเมื่อหลายปีก่อน ทำเอามนุษย์โลกหวาดผวาและตื่นกลัวว่าโลกจะถึงกาลแตกดับลงจริงๆ จากคำทำนายของหลายสำนักที่หนังนำมาอ้างอิง แต่นักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ชาติมหาอำนาจด้านอวกาศที่มีเทคโนโลยีด้านอวกาศก้าวหน้าไม่แพ้สหรัฐออกมาฟัน ธงว่า ระบุวันอาร์มาเก็ดดอน หรือวันสิ้นโลกตามพระคัมภีร์ของคริสต์ได้แล้ว โดยไม่ได้อยู่ในปี ค.ศ.2012 แต่จะเกิดขึ้นในอีก 24 ปีข้างหน้า หรือในปี ค.ศ.2036 (พ.ศ.2579)
     ศ.ลีโอนิด โซโคลอฟ จากมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์ สเบิร์กในรัสเซีย กล่าวว่า อุกกาบาตที่ชื่อ อะโพฟิส รหัส 99942 มฤตยูที่จะเดินทางมาชนโลก จะเข้ามาใกล้โลกที่ระยะ 37,000-38,000 กิโลเมตร ในวันที่ 13 เม.ย.2029 และมีแนวโน้มจะเข้ามาชนโลกในวันที่ 13 เม.ย.2036

          ย้อน ไปเมื่อปี 2547 มีการค้นพบอุกกาบาต อะโพฟิส รหัส 99942 ครั้งแรกว่าเป็นวัตถุอวกาศที่จะเข้ามาอยู่ในโซนอันตรายต่อโลก มีขนาดกว้าง 300 เมตร

          เครื่องมือจำลองสถานการณ์ของมหาวิทยาลัยเซาท์แธมป์ตันใน อังกฤษชี้ว่า ความเสียหายจะเลวร้ายมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่มันพุ่งชน ส่วนที่เลวร้ายที่สุดประเมินว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 10 ล้านราย แต่ก็ยังมีหลายเหตุผลที่ปลอบไม่ให้ตื่นตระหนก หนึ่งในนั้นคือความจริงที่ว่า มันอาจจะแตกตัวและเศษเล็กเศษน้อยอาจจะตกลงมาใส่โลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อีกเหตุผลที่ไม่ควรกลัวคือโลกจะได้รับคำเตือนก่อนแน่นอน

         โดนัลด์ เยียแมนส์ หัวหน้าสำนักงานวัตถุใกล้โลกขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซ่า กล่าวว่า ในปี 2029 เมื่อมันแกว่งเข้ามาใกล้โลก เราจะพบว่าอะโพฟิสมีหลุมแรงดึงดูดที่จะลากมันเข้ามาในวงโคจรโลกในอีก 7 ปีให้หลังหรือไม่ ช่องว่างมีเพียงแค่ 600 เมตร ดังนั้น จึงยังพอมีโอกาสที่มันจะไม่เกิดขึ้น
      ศ.โซโคลอฟ กล่าวด้วยว่า ภารกิจของนักวิทยาศาสตร์รัสเซียเวลานี้คือการพิจารณาทางเลือกและพัฒนา โครงการและแผนปฏิบัติการเพื่อรับมือกับอะโพฟิสขอบคุณ


http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=313867.0

http://talk.mthai.com/topic/149626
7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เพื่อสถิติ หรือ เพื่อความสะัใจ หรือ ต้องการทดสอบกำลังใจ เมื่อ: มีนาคม 04, 2011, 10:32:40 am
ก็ชื่นชมกับความกล้า

















 :smiley_confused1:
8  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ที่จริงแล้ว ชฏิล ยอมแพ้เพราะถูกตำหนิว่า "บุรษว่างเปล่า" เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 01:14:14 pm
ภาพที่ ๔๐. วันหนึ่ง ฝนตักหนัก น้ำท่วม แต่ไม่ท่วมที่ประทับ ชฎิลเห็นอัศจรรย์จึงทูลขอบรรพชา


วันหนึ่ง ฝนตักหนัก น้ำท่วม แต่ไม่ท่วมที่ประทับ
ชฎิลเห็นอัศจรรย์จึงทูลขอบรรพชา

สมุดภาพพระพุทธประวัติ
ฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระพุทธศาสนา โดย ครูเหม เวชกร



ภาพที่ ๔๐

วันหนึ่ง ฝนตักหนัก น้ำท่วม แต่ไม่ท่วมที่ประทับ ชฎิลเห็นอัศจรรย์จึงทูลขอบรรพชา

การที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดชฎิลสามพี่น้องดังได้บรรยายไว้แล้ว ก็เพราะนักบวชสามพี่น้องนี้ เป็นคณาจารย์ใหญ่ที่คนเคารพนับถือมากในสมัยนั้น

การให้นักบวชที่มีอิทธิพลทางความนับถือมาก ได้หันมานับถือพระองค์นั้น เป็นนโยบายสำคัญของพระพุทธเจ้า ในการประกาศพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่เพิ่งเกิดใหม่

เพราะถ้าปราบนักบวชที่มีอิทธิพลมากลงได้เสียแล้ว การประกาศพระศาสนาของพระองค์ก็ง่ายขึ้นและจะได้ผลรวดเร็ว

พระ พุทธเจ้าจึงเสด็จมาสำนักของชฎิลสามพี่น้องซึ่งตั้งตนว่าเป็นอรหันต์ และพระองค์ได้ทรงทรมาน คือ การแสดงหรือพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกชฎิลไม่ใช่พระอรหันต์อย่างที่อ้าง

คุณธรรมใดๆ ที่พวกชฎิลถือว่าพวกตนมีและว่าวิเศษ พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงให้เห็นว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่

ที่ถือว่าพญางูใหญ่มีพิษร้ายกาจ พระองค์ก็จับขดลงในบาตรเสีย เมื่อเกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ พวกชฎิลเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าจมน้ำตายเสียแล้ว ต่างลงเรือพายมาดู ก็เห็นพระพุทธเจ้าเดินจงกรมอยู่ภายใต้ท้องน้ำ

ปฐมสมโพธิว่า พระพุทธเจ้าทรงใช้เวลากลับใจพวกชฎิลอยู่ถึงสองเดือน จึงสำเร็จ โดยชฎิลผู้หัวหน้าคณาจารย์ใหญ่ คือ อุรุเวลกัสสป เกิดความสังเวชสลดใจว่า ตนมิใชพระอรหันต์อย่างที่เคยหลงเข้าใจผิด

ทั้ง นี้ด้วยพุทธานุภาพที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้ประจักษ์เห็นได้ หัวหน้าชฎิลจึงลอยเครื่องบริขารและเครื่องบูชาไฟทิ้งลงในแม่น้ำเนรัญชรา แล้วกราบแทบพระบาทพระพุทธเจ้า ขอบวชยอมเป็นพระสาวก

ฝ่ายน้องชายอีกสองคน ที่ตั้งอาศรมอยู่คุ้งน้ำทางใต้ลงไป เห็นบริขารพี่ชายลอยมาก็จำได้ นึกว่าอันตรายเกิดแก่พี่ชายตนก็พากันมาดู

ทั้งสองได้ทราบเรื่องโดยตลอด ก็ยอมตนเป็นพระสาวกทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมโปรดชฎิลทั้งหมด ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าเลยมีนักบวชเป็นพระสาวกเพิ่มขึ้นใหม่อีก ๑,๐๐๐ รูป


ขอขอบพระคุณ

- DhammaPerfect@hotmail.com
- อ.เหม เวชกร
- กรอบ ป้ามด
9  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระพุทธเจ้าโปรดชฏิลด้วย ฤทธิ์ แต่ก็ไม่ศรัทธา เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 01:10:32 pm
ภาพที่ ๓๙. ทรงทรมานนาคราชร้าย ขดกายพญานาคใส่บาตรให้ชฎิลดู ชฎิลก็ยังไม่เลื่อมใส



ทรงทรมานนาคราชร้าย ขดกายพญานาคใส่บาตรให้ชฎิลดู
ชฎิลก็ยังไม่เลื่อมใส






สมุดภาพพระพุทธประวัติ
ฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระพุทธศาสนา โดย ครูเหม เวชกร



ภาพที่ ๓๙

ทรงทรมานนาคราชร้าย ขดกายพญานาคใส่บาตรให้ชฎิลดู ชฎิลก็ยังไม่เลื่อมใส

ชฎิลสามพี่น้อง โดยเฉพาะอุรุเวลกัสสปผู้พี่ชายใหญ่ เป็นหัวหน้านักบวช ที่ชาวเมืองราชคฤห์นับถือมาก ท่านผู้นี้ประกาศตนเป็นผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์ บำเพ็ญพรตบูชาไฟ

เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปถึง และตรัสขอพักอาศัยในโรงไฟ ซึ่งพวกชฎิลถือว่าเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ และเป็นอันตรายแก่ผู้จะไปอยู่อาศัยภายในโรงไฟ เพราะมีพญานาค หรือพญางูใหญ่มีพิษร้ายกาจอาศัยอยู่ในนั้น

ชฎิลจึงนึกในใจว่า พระพุทธเจ้าทรงอวดดีที่ไม่กลัวอันตราย

ตาม ท้องเรื่องในปฐมสมโพธิกล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จเข้าไปประทับภายในโรงไฟ พญานาคก็มีจิตขึ้งเคียดทุกขโทมนัส คือ โกรธมาก จึงพ่นพิษใส่พระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าเตโชกสินสมาบัติ (หมายถึง การเข้าฌานชนิดหนึ่ง ซึ่งบันดาลให้เกิดเปลวไฟขึ้นจากกายได้) พิษของพญานาคและเปลวเพลิงจากเตโชกสินของพระพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้นเป็นแสง แดงสว่าง ดุจเผาผลาญโรงเพลิงนั้นให้เป็นภัสมธุลี (แหลกละเอียด)

พวกชฎิลได้เห็นแสงเพลิงนั้นก็ปริวิตกว่า พระสมณะรูปนี้ (หมายถึงพระพุทธเจ้า) เห็นทีจะวอดวายด้วยพิษพญานาคคราวนี้เป็นแน่

ปฐม สมโพธิว่า "ครั้นล่วงราตรีรุ่งเช้า พระสัพพัญญูเจ้าก็ยังเดชแห่งพญานาค ให้อันตรธานหาย บันดาลให้นาคนั้นขนดกายลงในบาตร แล้วทรงสำแดงแก่อุรุเวลกัสสป ตรัสบอกว่า นาคนี้สิ้นฤทธิ์ด้วย
เดชตถาคต..."


ขอขอบพระคุณ

- DhammaPerfect@hotmail.com
- อ.เหม เวชกร
- กรอบ ป้ามด
10  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีจุดมุ่งหมายอะไรคะ เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 08:22:46 pm
การฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีจุดมุ่งหมายอะไรคะ

 เหมือนจะถามคำถามที่ดูเหมือนเริ่มต้นฝึก แต่คำถามนี้ พวกเพื่อน พ่อ แม่

ก็มักจะพูดขึ้นว่า จะฝึกไปทำไม กรรมฐาน ใช้ชีวิตให้มันเหมือนชาวบ้านเขาไม่ได้หรือ

อย่าเคร่งศาสนาให้มาก

  บางครั้ง ก็สับสนกับความเห็นของผู้ใหญ่ ที่จะมองเหมือนเราว่ากำลังหลงอยู่ในเรื่องศาสนา คะ

  :25:
11  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คำขวัญ ประจำวันเด็ก ปี 2554 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2010, 04:46:24 pm
“รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ”

พ.ศ. 2554 – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ

ที่ มาที่ไปของ คำขวัญวันเด็ก ……..เด็กเป็นทรัพยากร บุคคลที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง โดยปกติอายุของเด็กที่เข้าร่วมฉลองในงานนี้จะต่ำกว่า 14 ปี เพื่อเตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ เด็กควรจะมีความขยันหมั่นศึกษาหาความรู้ รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ มีระเบียบวินัย ขยันขันแข็ง ช่วยเหลือกันและกัน เสียสละรู้จักสิทธิหน้าที่ ความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งรักษาความสะอาดและรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสาธารณสมบัติ …….

…. ..ถ้าหากเด็กตระหนักถึงอนาคตของตนเองและของชาติโดยการปฏิบัติตนตามที่กล่าว มานั้น ก็จะได้ชื่อว่าเป็น “เด็กดี” และประเทศชาติก็จะเจริญรุ่งเรือง ใน ขณะเดียวกัน เพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ จึงได้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรกในวันจันทร์แรกของเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2498 และถือปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2506 แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม เพราะเป็นช่วงหมดฤดูฝนแล้วและเป็นวันหยุดราชการอีกด้วย ดังนั้นจึงถือปฏิบัติมาจนถึงวันนี้ ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคติเตือนใจ สำหรับเด็กปีละ 1 คำขวัญ นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา ได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาดังนี้

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ในปีต่าง ๆ
ความเป็นมา

ใน ปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคติเตือนใจ สำหรับเด็กปีละ 1 คำขวัญ นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา ได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาดังนี้

พ.ศ. 2499 จอมพล ป.พิบูลสงคราม – จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม

พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า

พ.ศ. 2503 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด

พ.ศ. 2504 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย

พ.ศ. 2505 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด

พ.ศ. 2506 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด

พ.ศ. 2507 งดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ

พ.ศ. 2508 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี

พ.ศ. 2509 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี

พ.ศ. 2510 จอมพล ถนอม กิตติขจร – อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย

พ.ศ. 2511 จอมพล ถนอม กิตติขจร – ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง

พ.ศ. 2512 จอมพล ถนอม กิตติขจร – รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ

พ.ศ. 2513 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส

พ.ศ. 2514 จอมพล ถนอม กิตติขจร – ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ

พ.ศ. 2515 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ

พ.ศ. 2516 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

พ.ศ. 2517 นายสัญญา ธรรมศักดิ์ – สามัคคีคือพลัง

พ.ศ. 2518 นายสัญญา ธรรมศักดิ์ – เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี

พ.ศ. 2519 หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช – เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้

พ.ศ. 2520 นายธานินทร์ กรัยวิเชียร – รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย

พ.ศ. 2521 พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ – เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

พ.ศ. 2522 พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ – เด็กไทยคือหัวใจของชาติ

พ.ศ. 2523 พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ – อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

พ.ศ. 2524 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม

พ.ศ. 2525 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

พ.ศ. 2526 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม

พ.ศ. 2527 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา

พ.ศ. 2528 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม

พ.ศ. 2529 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2530 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2531 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2532 – พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ – รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2533 – พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ – รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2534 – พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ – รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา

พ.ศ. 2535 – นายอานันท์ ปันยารชุน – สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม

พ.ศ. 2536 – นายชวน หลีกภัย – ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2537 – นายชวน หลีกภัย – ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2538 – นายชวน หลีกภัย – สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2539 – นายบรรหาร ศิลปอาชา – มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด

พ.ศ. 2540 – พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ – รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด

พ.ศ. 2541 – นายชวน หลีกภัย ขยัน – ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

พ.ศ. 2542 – นายชวน หลีกภัย ขยัน – ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

พ.ศ. 2543 – นายชวน หลีกภัย – มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

พ.ศ. 2544 – นายชวน หลีกภัย – มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

พ.ศ. 2545 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส

พ.ศ. 2546 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี

พ.ศ. 2547 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน

พ.ศ. 2548 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด

พ.ศ. 2549 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด

พ.ศ. 2550 – พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ – มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข

พ.ศ. 2551 – พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ – สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม

พ.ศ. 2552 – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี

พ.ศ. 2553 – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม

พ.ศ. 2554 – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ,  คำขวัญวันเด็กปี 2554, คำขวัญวันเด็ก ปี 54, คำขวัญวันเด็ก

ที่มา
http://maxvariety.com/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%9B/
12  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ทำไม เราทำดี ถึงไม่ได้ดีตามที่หวัง ตั้งใจ คะ เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 02:04:43 pm
หนู เป็นคนที่ขยันทำงาน ตามที่เจ้านายสั่ง ในระบบราชการ

แต่ปรากฏ ถึงเวลาประเมินผลงาน ทุกครั้ง หนูก็ไม่เคยได้เลื่อน หรือ ขึ้นตามที่หวังเลยคะ

ทั้ง ๆ ที่เราก็ทำดี ลูกพี่ ก็บอกว่าทำดี แต่ติดนายใหญ่ ส่งเสริม ลูกน้องตนเองก่อน

อย่างนี้เรียกว่า เราทำดี ตั้งใจทำงาน ขยัน ซื่อตรง ไม่คด ไม่โกง แล้ว ทำไมจึงไม่ได้ ผลดี คะ

 :'( :'( :'(
13  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แพทย์แผนจีนเผย 6 เหตุมีลูกยาก เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 01:52:08 pm
แพทย์แผนจีนเผย 6 เหตุมีลูกยาก

ภาวการณ์ มีบุตรยากบั่นทอนคู่สามีภรรยาไทยไม่น้อย ปัจจุบันพบว่าคนไทยนิยมรักษาตามตำรับแพทย์แผนจีนมากขึ้น แพทย์จีนเผย 6 สาเหตุส่ออาการมีลูกยาก ชี้ทางวิธีรักษาแบบจีนให้ได้ผล อายุน้อยรักษาได้ผลกว่าอายุมาก พร้อมเตือนเดินทางไปรักษาเมืองจีน ระวังหมอเถื่อนตรึม

สถิติของคู่แต่งงานในประเทศ ไทยนับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น แพทย์หลายสำนักออกมาฟันธงว่าต้นเหตุสำคัญเป็นเพราะคนไทยแต่งงานช้าลงโดย เฉพาะในสังคมเมือง ยิ่งแต่งงานอายุมากเท่าไรโอกาสมีลูกยากยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการมีลูกยากปฏิเสธ ไม่ได้ว่าเป็นส่วนที่ทำให้ครอบครัวไทยมีสิทธิแตกร้าว หรือไม่ก็หดหู่ เศร้าใจอยู่ตลอดเวลาเมื่อเห็นคนจูงลูกจูงหลานไปตามที่ต่างๆ อย่างไรก็ดี จากหลายสาเหตุที่ส่อว่าเราอาจเป็นผู้หนึ่งที่มีลูกยาก นอกจากพึ่งแพทย์แผนปัจจุบันในการรักษาแล้ว แพทย์แผนจีนยังเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ


หญิง-ชายต้องตรวจภายในก่อนรักษา

คุณหมอ จี๋ ชุน หลิง แพทย์จีนประจำโรงพยาบาลเทียนจินแพทย์แผนจีน ซึ่งได้เข้ามาทำรักษาแผนกสูตินารีเวชที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ฝ่ายการแพทย์จีนเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2550-มีนาคม 2551 ตามโครงการแลกเปลี่ยนแพทย์ของทั้ง 2 โรงพยาบาล ถือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์รักษาด้านสูตินารีเวชสูง และมีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคผู้มีบุตรยาก กล่าวว่า คนที่ถือว่ามีบุตรยาก ดูได้ง่ายๆ คือ แต่งงานแล้ว 1-2 ปี ไม่ได้คุมกำเนิดใดๆ แต่ยังไม่มีลูก หรือคนที่เคยมีลูกมาแล้ว แต่หลังจากมีลูก 1-2 ปี ไม่ตั้งครรภ์อีก ก็ถือว่าเข้าข่ายคนเป็นโรคผู้มีบุตรยากทั้งสิ้น

เมื่อคู่ไหนตัดสินใจแล้วว่าจะทำการรักษาโดยการแพทย์แผนจีน แนะนำว่าต้องเริ่มต้นจากการไปตรวจร่างกายที่การแพทย์แผนปัจจุบันก่อนดังนี้

ฝ่ายหญิง ต้องตรวจ 3 ประเภทด้วยกันคือ หนึ่งให้ตรวจอุลตร้าซาวน์ช่องท้อง มดลูก และรังไข่ ในช่วง 1 สัปดาห์หลังประจำเดือนหมดแล้ว สองให้ตรวจฮอร์โมน 6 ชนิดด้วยกัน คือ TSH, FSH, LH, Estradiol, Prolactin และ Progesterone ซึ่งระยะเวลาการตรวจที่ดีที่สุดคือช่วงมีประจำเดือน 2-4 วัน และสามตรวจดูท่อนำไข่ว่าอุดตันหรือไม่ ซึ่งควรตรวจช่วง 9 -10 วันหลังมีประจำเดือน

ฝ่ายชาย ต้องตรวจน้ำเชื้ออสุจิ ว่าเชื้ออสุจิมีปริมาณมากหรือน้อย และมีความแข็งแรงหรือไม่ โดยควรงดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำการตรวจ


“แมะ”- “ดูลิ้น” แก้ปัญหาตรงจุด

หลังจากทราบผลตรวจแล้ว จึงค่อยเดินทางไปตรวจแบบ “การแมะ” ตามตำราแพทย์แผนจีน ซึ่งจะมีการดูผลการตรวจของแพทย์แผนปัจจุบัน อาการของผู้ป่วย ร่วมกับการแมะ และการดูลิ้น เพื่อหาวิธีรักษาที่ดีที่สุด ตรงจุดปัญหาที่สุด และจะเน้นการใช้วิธีตามธรรมชาติ

“ลิ้นสามารถดูได้ว่าเป็นโรคอะไร แต่คนที่จะดูออกคือต้องเรียนแพทย์แผนจีนมาเท่านั้น”

โดยปกติแล้วการปฏิสนธิเป็นเรื่องซับซ้อนมาก ต้องพึ่งรังไข่ที่ปกติ สามารถผลิตไข่ตามธรรมชาติ ส่วนผู้ชายก็ต้องมีเชื้ออสุจิที่แข็งแรง ได้มาตรฐาน และเมื่อมีการปฏิสนธิ ก็จะไปฝังตัวในมดลูก ฉะนั้นมดลูกเป็นอีกส่วนสำคัญที่มีบทบาทในการรับสิ่งแปลกปลอมเข้าไปฝังตัว และทำให้เกิดการเจริญเติบโตขึ้น ถ้าจุดไหน ขั้นตอนไหนหรือจุดไหนมีปัญหา ถือว่ามีบุตรยากทั้งสิ้น

“ผู้หญิงอาจเกิดจาก ไข่ไม่ตก ฮอร์โมนตัวใดตัวหนึ่งผิดปกติ ท่อนำไข่หรือมดลูกมีปัญหา ปากช่องคลอด อุ้งเชิงกราน ตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหา ส่วนผู้ชายเชื้ออสุจิอาจไม่แข็งแรง ไม่สมบูรณ์ หรือลูกอัณฑะ 2 ลูกไม่เท่ากัน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีลูกยากเช่นกัน”


6 สาเหตุใหญ่มีลูกยาก

ในการแพทย์แผนจีนจะแยกประเภทของสาเหตุใหญ่ๆ ไว้ 6 ประการด้วยกัน คือ

   1. ไต บกพร่อง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ที่สำคัญคือภาวะหยิน-หยางในร่างกายไม่สมดุล ตับบกพร่อง และเลือดลมไม่ดี ซึ่งในผู้หญิงอาจทำให้มดลูกมีขนาดเล็กเกินไป รอบเดือนน้อยกว่าปกติ ผู้ที่มีไตบกพร่องมักจะไม่สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ ต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย
       
   2. ตับ บกพร่อง เกิดขึ้นได้จากสาเหตุ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญคือการดื่มเหล้ามากเกินไป แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ดื่มเหล้าจะเกิดปัญหานี้ ในผู้หญิงภาวะตับบกพร่องอาจทำให้เกิดการมีประจำเดือนที่ไม่ปกติ มีผลต่อฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ไม่แข็งแรง
       
   3. เลือดลมบกพร่อง เกิดจากผู้มีร่างกายอ่อนแอ ระบบการย่อยไม่สมบูรณ์ จุกเสียดง่าย
       
   4. มี เสลดเกาะจำนวนมาก เสลดในที่นี้เป็นสารหล่อลื่นที่จะอยู่ในอวัยวะภายในร่างกาย ซึ่งไม่สามารถขากทิ้งได้เหมือนเสลดที่คอ แต่จำทำให้เกิดซีสต์ในรังไข่ หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ ซึ่งเสลดนี้สามารถเกาะได้หลายที่ ถ้าเกาะที่จุดไหนเยอะแสดงว่าจุดนั้นมีปัญหาทำให้มีบุตรยาก โดยเสลดนี้สามารถก่อตัวกลายเป็นพังผืดในภายหลังได้ด้วย
       
   5. ธาตุในร่างกายร้อนเกินไป จะทำให้ส่งผลให้ช่วงเชิงกรานอักเสบได้
       
   6. เลือด คั่ง ส่งผลให้เกิดอาการท่อนำไข่ตีบตัน หรือ เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ มีเนื้องอกฝังในมดลูก พังผืดอยู่ในมดลูก ปากช่องคลอดมีพังผืด ซึ่งส่งผลต่อการมีบุตรยากทั้งสิ้น

อาการ ทั้งหมดนี้ อาจนำไปใช้สังเกตอาการของตนได้แต่เพียงคร่าวๆ เพราะเท่าที่พบมานั้น ผู้ที่มีบุตรยาก มันเกิดจากสาเหตุหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกัน และแต่ละคนจะมีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถกินยาชุดเดียวกันได้ หรือหากมีคนนำยามาขายโดยบรรยายสรรพคุณว่าแก้ปัญหามีบุตรยากได้นั้น ไม่ควรเชื่อ และซื้อมากินเด็ดขาด เพราะจะไม่ได้ผล

ทางที่ดีคือต้องไปหาแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อหาสาเหตุหลักให้ได้ก่อน จากนั้นแพทย์แผนจีนจะทำการรักษาให้ตรงจุดนั้นๆ โดยยาที่รักษาก็จะใช้สมุนไพรหลายตัวที่แตกต่างกัน ไม่สามารถหาซื้อมาทานเองได้ อีกทั้งใน 1 สูตรยาประกอบด้วยตัวยาสมุนไพรกว่า 10 ชนิด

“รู้ต้นเหตุจะรักษาได้ดีกว่าการแมะอย่างเดียว เพราะไม่ค่อยได้ผล คนที่มาหาหมอจีนและได้ยาจีนไปกิน ก็จะต้องกินยาอย่างต่อเนื่องให้ครบชุด อย่ากินครึ่งๆ กลางๆ ”

ทั้งนี้นอกจากการรักษาโดยให้ยารักษาไปตามอาการแล้วนั้น คู่สามีภรรยาที่ตัดสินใจทำการผสมเทียม หรือทำกิฟท์ ก็สามารถมาหาแพทย์จีนได้เช่นกัน โดยแพทย์จีนจะให้ยาสมุนไพรประเภทบำรุงร่างกายให้


1 เดือนโอกาสมีลูกแค่ 1 วัน

อย่างไรก็ดี ว่ายการแพทย์จีน โรงพยาบาลหัวเฉียว จะเน้นการรักษาโดยใช้วิธีธรรมชาติ ซึ่งปัญหาที่ผ่านมาพบว่า จำนวนหนึ่งของคนที่มาหาในโรคมีบุตรยากนี้ เกิดจากสาเหตุของการนับวันไข่ตกไม่เป็น ซึ่งหลายคู่เมื่อแนะนำการนับวันไข่ตกเพื่อให้มีความสัมพันธ์กันได้ตรงช่วง เวลาแล้ว ก็สามารถมีลูกได้ ซึ่งช่วงเวลาไข่ตกสามารถนับง่ายๆ ได้จาก วันไข่ตกจะเป็นวันที่อยู่ตรงกลางระหว่างวันแรกที่เริ่มมีประจำเดือนของเดือน ที่ผ่านมา และวันแรกที่เริ่มมีประจำเดือนของเดือนต่อไป ซึ่งจะใช้ได้ผลสำหรับผู้ที่มีประจำเดือนปกติเท่านั้น ซึ่งใน 1 เดือนจะมีวันไข่ตกได้เพียง 1 วันและไข่จะมีอายุอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น

ส่วนผู้ที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติ สามารถใช้ปรอทวัดไข้ตรวจดูทุกเช้า วันใดที่ไข่ตก ก็จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่าปกติ หรือจะใช้เครื่องมือวัดไข่ตกที่มีขายอยู่ทั่วไปตามการแพทย์แผนปัจจุบันก็ได้ เช่นกัน นอกจากนี้แนะนำว่าคนที่อายุน้อย จะรักษาได้ง่ายกว่าคนอายุมากด้วย


เตือนเดินทางไปจีนระวังหมอเถื่อน!

สำหรับกรณีที่คนไทยนิยมเดินทางไปรักษาพยาบาลในประเทศจีนโดยตรงนั้น เห็นว่าเป็นเพราะคนไทยนั้นๆ เชื่อว่าการรักษาแบบแพทย์แผนจีนต้องไปรักษาที่แหล่งต้นตำรับจะดีที่สุด แต่อยากจะขอเตือนว่าหมอในเมืองจีนที่เป็นหมอเถื่อนมีจำนวนมาก หากจะไปรักษาที่เมืองจีนควรเดินทางไปรักษากับโรงพยาบาลใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียง หรือโรงพยาบาลเอกชนที่เปิดแผนกผู้มีบุตรยากโดยตรงจะดีกว่า โดยสามารถสังเกตว่าหมอจริงหรือหมอเถื่อนนั้น หมอเถื่อนจะใช้วิธีแมะเพื่อทำการรักษาอย่างเดียว แมะแล้วรู้เลยว่าอาการอยู่ตรงไหน โดยไม่ให้มีการไปตรวจร่างกายตามแผนปัจจุบันมาก่อน ฉะนั้นอาจไม่ได้ผลใดๆ ในการเดินทางไปรักษาถึงเมืองจีน


ที่
1
2
3
4
5
6
สาเหตุ
ไตบกพร่อง
ตับบกพร่อง
เลือดลมบกพร่อง
เสลดเกาะตามอวัยวะสำคัญ
ธาตุในร่างกายร้อนเกิน
เลือดคั่ง
อาการ
มดลูกเล็กเกินไป ประจำเดือนมาน้อย
ประจำเดือนไม่ปรกติ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไม่แข็งแรง
ระบบการย่อยไม่สมบูรณ์ จุกเสียดง่าย
ซีสต์รังไข่ ประจำเดือนไม่มา ผังผืด
ช่วงเชิงกรานอักเสบ
ท่อนำไข่ตีบ เยื่อบุหมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกในมดลูก ผังผืดในมดลูก ผังผืดที่ปากช่องคลอด

14  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นั่งสมาธิอายุยืนจริงหรือ เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 01:36:59 pm

นั่งสมาธิอายุยืนจริงหรือ

ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมีมากมาย
เป็นที่น่ายินดีว่าได้มีการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือได้
ลองพิจารณาบทความเรื่อง “ชีวิตก้าวหน้า” ของนิวตรอน ดังต่อไปนี้

พิสูจน์ได้แล้ว การทำสมาธิ ทำจิตใจให้ว่าง เป็นยาอายุวัฒนะ
ทำให้ยังคงดูหนุ่มสาว ชั่วแต่เพียงทำให้ได้วันละแค่ ๒๐ นาทีเท่านั้น

รายงาน การศึกษาอันน่าตื่นใจ
เปิดเผยในวารสารเวชศาสตร์พฤติกรรม เล่มใหม่
กล่าวว่า ผู้ทำสมาธิจะมีปริมาณฮอร์โมนอายุยืนในร่างกาย
มากเท่ากับผู้ที่หนุ่มสาวกว่าตั้ง ๕ - ๑๐ ปี
พร้อมกับสอนว่าเพียงแค่หาที่นั่งสมาธิตามมุมสงบ จะนั่งเก้าอี้หรือนั่งกับพื้นก็ได้
ปล่อยตัวตามสบาย นั่งหลังตั้งตรง แล้วทำจิตใจให้ว่างเท่านั้น

“การนั่งสมาธิทำให้เรารู้จักชีวิต มีขันติ และจิตใจสบาย”
หมอเจย์ แกลเซอร์ ที่ศูนย์สาธารณสุข ที่เมืองแลงคาสเตอร์ รัฐแมสซาจูเส็ตต์
กล่าวและบอกว่า “ความแก่ชรานี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่น
มันก็คือความเครียดที่ฝังสะสมอยู่มานานนั่นเอง”
การศึกษาคุณประโยชน์ของการทำสมาธิครั้งนี้ ได้ทำกับผู้นั่งสมาธิ ๔๒๓ คน
เปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้นั่งสมาธิ วัยตั้งแต่ ๒๐ ถึง ๘๐ ปี จำนวน ๑,๕๒๕ คน

ก่อนหน้านี้ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญคนอื่น อย่างเช่น แพทย์ใหญ่เบอรนี่ ฟอร์เมอร์
ศาสตราจารย์แพทย์ มหาวิทยาลัยเยลของอเมริกา ก็บอกอย่างเชื่อมั่นว่า
การทำสมาธิสามารถป้องกัน
และแม้แต่รักษาโรคอย่างข้ออักเสบและมะเร็งให้หายได้
และยังได้เผยว่า ในประเทศฮอลแลนด์ได้มีการศึกษาพบว่า
ผู้ทำสมาธิจะเจ็บไข้ได้ป่วยน้อยกว่าธรรมดาตั้งครึ่ง
มีเอกสารเรื่องของคนที่ใช้พลังจิตพิชิตโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ
เอาชนะโรคที่ทำให้พิกลพิการอย่างโรคข้ออักเสบ
ให้กลับมีชีวิตอย่างแข็งแรงได้ อยู่ตั้งมากมายหลายราย


ที่มา...หนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม ๗
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
15  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญชวนท่านที่มีของใช้แล้ว แต่ยังมีสภาพดีอยู่มาบริจาคได้ที่วัดอ้อน้อย เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2010, 02:36:13 pm

เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2553 จะมีการจัดงานวันพ่อ ซึ่งที่วัดจะมีกิจกรรมหลายอย่างให้ทุกท่านได้ร่วมสนุกกัน รวมทั้งการจัดร้านขายของมือสองในราคาถูก เพื่อนำรายได้มาร่วมสร้างองค์พระนาคปรก โดยนำถวายองค์หลวงปู่พุทธะอิสระ

จึงขอเชิญชวนท่านที่มีของใช้แล้ว แต่ยังมีสภาพดีอยู่มาบริจาคได้ที่วัดในวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน ติดต่อได้ที่เต้นท์สีขาว บริเวณด้านหน้าศาลาปฏิบัติธรรมค่ะ

และขอเชิญทุกท่านมาร่วมงานในวันที่ 5 ธันวาคมด้วยนะคะ มีการใส่บาตรโลหะ ตั้งแต่ 8.00 น. และมีกิจกรรมจนถึงเย็น จับฉลากรางวัลพิเศษสำหรับคู่พ่อลูกที่มางานด้วยค่ะ ลงทะเบียนหน้างาน (บริเวณหน้าโรงเจ) และร่วมกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

Hight light ของงานคือการหล่อพระเศียรพระมหาพุทธพิมพ์ ขององค์พระนาคปรก พลาดไม่ได้เลยค่ะ

สุดท้ายก็จะเป็นการเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขอให้สมาชิกชมรมเรารักในหลวงทุกท่าน และเพื่อนๆ ทุกคนมาร่วมงานกันให้ได้นะคะ

อนุโมทนาค่ะ

   1. โอนเงินมาที่ ชื่อบัญชี วัดอ้อน้อยธรรมอิสระmalai
            บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 358-2-20289-2
            ธนาคารนครหลวงไทย สาขากำแพงแสน

   2. โอนเงินมาที่ ชื่อบัญชี มูลนิธิธรรมอิสระ
            บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 358-2-20200-3
            ธนาคารนครหลวงไทย สาขากำแพงแสน

   3. กรณีสั่งซื้อสมุนไพร
           โอนเงินมาที่ ชื่อบัญชี วัดอ้อน้อยสมุนไพร
           บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 358-2-25998-3
           ธนาคารนครหลวงไทย สาขากำแพงแสน

      * ข้อ 1 - 3 เมื่อโอนเงินแล้ว กรุณาแฟกซ์หลักฐานการโอนมาที่โทรสาร. 034-204-818, 034-204-820

   4. ธนาณัติสั่งจ่าย "มูลนิธิธรรมอิสระ"
           วัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ)
           ถ.มาลัยแมน ต.ห้วยขวาง
           อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

   5. โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 034-204-738, 034-204-823, 034-204-815



รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ คะ
16  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมเป็นเจ้าบวชพระ 83 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พ่อหลวง เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2010, 02:28:15 pm




             เนื่องจากทางวัดมะลิ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37,35 แขวงบางขุนศรี  เขตบางกอกน้อย  กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการจัดทำโคงการอุปสมบทพระภิกษุ และบวชศิลจาริณี เพื่อเฉลิมพระเกิยรติถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช ตั้งแต่ วันพุธที่ 1 ธันวาคม ถึง วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2553 พระภิกษุจำนวน 83 รูป และศิจาริณี 83 คน ท่านที่สนใจจะ อุปสมบทและบวชศิลจาริณี จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
           
             ในการนี้จึงขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธา  บริจาคปัจจัยและเป็นเจ้าภาพอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์ หรือถวายภัตตาหารเช้าเพล มีค่าใช้จ่ายดังนี้
         
ค่าอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์ รูปละ 2,000 .- บาท

ค่าอาหารและน้ำปานะ 1 วัน

อาหารเช้า    มื้อละ 2,000  .- บาท
อาหารเพล   มื้อละ 6,000  .- บาท
น้ำปานะ      วันละ 2,000  .- บาท

รวมเป็นเงินวันละ 10,000 .- บาท   หรือ บริจาคตามกำลังศรัทธาของท่าน


ติดต่อสอบถามได้ที่

พระครูธรรมวิมล   เจ้าอาวาสวัดมะลิ                       โทร.  02-411-1807
พระครูสมุห์ประเสริฐ   ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมะลิ         โทร.  089-686-4347, 02-864-5190, 02-418-0491

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://www.watmali.org/modules.php?name=News&file=article&sid=23 :08:
17  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / มหัสจรรย์รักแท้ ไม่มีคำว่าสาย...... เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2010, 10:56:23 am
ภาพหยวน ตี้เปา และแดนนี่ หลี่ ในช่วงปี 2493 (ภาพไชน่า เดลี่)

      ไชน่า เดลี่ -เรื่องราวความรักของคนคู่หนึ่ง ที่ฝ่ามรสุมการเมืองและชีวิตส่วนตัว เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ กระทั่งได้มาพบกันอีกครั้ง ได้สมปรารถนาครองคู่ครองรักกันในยามไม้ใกล้ฝั่ง

       สาวลูกครึ่ง แดนนี่ หลี่ กับ นายหยวน ตี้เปา พบกันที่เมืองหังโจวในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2496 แต่โชคชะตาทำให้เขาทั้งสองพรากจากกันไปไกลถึงคนละซีกโลก นานถึง 54 ปี และปาฏิหาริย์แห่งรักก็เกิดขึ้น นำพาพวกเขามาพบกันอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองได้กลับมาครองรักแต่งงานกันในที่สุด ในวัยกว่า 80 ปี!

เรื่อง ราวตำนานรักของทั้งสอง ได้กลายเป็นข่าวยอดนิยมในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์จีน นอกจากนี้ บรรดาชาวเน็ตจีน ต่างยกย่องความรักของคู่รักคู่นี้ว่าเป็น “ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก”

แดนนี่ หลี่ กล่าวว่า “มันเหมือนความฝัน ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง”

หลี่ เกิดในปี 2469 ณ กรุงปักกิ่ง มีแม่เป็นชาวฝรั่งเศส และพ่อเป็นชาวจีน เมื่อเธออายุ 24 ปี ก็ได้เป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง ในเมืองหังโจว และด้วยความเชี่ยวชาญถึง 4 ภาษา คือ ภาษาจีน อังกฤษ รัสเซีย และภาษาฝรั่งเศส จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก

หยวน ตี้เปา นักศึกษาปีหนึ่ง รูปหล่อ วัย 25 ปี ผู้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และเป็นนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชั้นเรียนภาษารัสเซียของหลี่ หยวนทั้งฉลาดและขยัน ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยการได้คะแนนสอบมากที่สุดในชั้นเรียน

“เขาเป็นคนดี ทั้งยังดีกับคนอื่นๆด้วย บรรดานักศึกษาและครูอาจารย์ล้วนชอบเขามาก” หลี่ รำลึกหยวนในช่วงวัยเรียน

ขณะ ที่ หลี่ เริ่มศึกษาถึงตัวตนของหยวน เธอก็พบว่า ทั้งหยวนกับเธอ มีสิ่งที่คล้ายกันอยู่มาก และความรู้สึกอันแสนอบอุ่นของหลี่ที่มีให้หยวน ก็ได้พัฒนาไปสู่ความรักอันแสนบริสุทธิ์ในที่สุด

ถึง แม้สังคมจะมองความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์เป็นเรื่องไม่ดีนัก ทั้งคู่ก็ยังสนิทสนมกัน โดยมีเพียงครอบครัวของหลี่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

ทุกๆครั้งที่หยวนไปขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนที่ห้องทำงานของหลี่ พวกเขาก็จะนัดกันต่อหลังเลิกเรียน

เมืองหังโจว ที่แห่งความรักอันแสนหวานปานน้ำผึ้ง

ที่ หังโจว หยวนมักเดินไปส่งหลี่ที่บ้าน และแวะบ้านของหลี่ครู่หนึ่งเสมอ ครอบครัวของหลี่ก็มิได้ขัดขวางแต่ประการใด กลับต้อนรับชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์และมีความสุภาพอ่อนโยนนี้อย่างดี

เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน หลี่มีความสุขหวานชื่น ขณะที่หยวน กลับสับสนว้าวุ่นอยู่ระหว่างความสุขและความรู้สึกผิด

“ฉันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาเก็บงำไว้” หลี่ เล่า

ในตอนนั้น สิ่งที่หลี่ไม่รู้ ก็คือ หยวนได้แต่งงานมีภรรยาแล้ว

ครอบ ครัวของหยวนได้จัดการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวของเพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู้หลังอี้ว์ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ ในปี 2496

หยวนไม่ได้บอกหลี่ เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว

จนกระทั่งเมื่อปี 2497 ก่อนที่หยวนจะย้ายไปศึกษาต่อยังเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เขาจึงได้รวบรวมความกล้า และบอกกับหลี่ว่า

“ผมมีภรรยาแล้ว และจะต้องดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน”

หัวใจของหลี่ร้าวรานเมื่อได้ยินคำสารภาพของหยวน และแม้ว่าจะรักหยวนมากเพียงใด แต่ทั้งคู่ก็จำต้องแยกจากกัน

“ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน” หลี่ ให้ความเห็น

หลังจากนั้น หลี่และหยวนก็ไม่ได้พบกันอีก

จากกันไกลถึงซีกโลก...

ในปี 2499 หลี่ กับแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะออกจากประเทศจีน หลี่ได้เขียนจดหมายบอกลาหยวน

ทว่าไม่กี่วันต่อมา หยวนก็ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการส่งจดหมายอีกหลายฉบับ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อกันผ่านทางจดหมายมาตลอด

โดยจดหมายจากหลี่ จะส่งไปถึงที่ทำงานของหยวน ขณะเดียวกัน หยวนก็เก็บจดหมายทุกฉบับของหลี่ไว้ที่บ้านญาติ เพื่อไม่ให้ภรรยารู้

หลี่ ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ในสังคมที่เธอไม่คุ้นเคยในประเทศฝรั่งเศส ประกอบกับใบรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาของเธอก็ยังถูกปฏิเสธ อีกทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างจนทำให้เกิดความรู้สึกสับสน

หลี่ ได้เรียนรู้การเขียนชวเลข และการพิมพ์ดีด จนท้ายที่สุดก็ได้งานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทการค้าระหว่างประเทศแห่ง หนึ่ง ขณะที่ หยวนก็สำเร็จการศึกษาและเริ่มทำงานในซย่าเหมิน

เนื้อ ความในจดหมายของทั้งสอง แทบจะไม่มีการระบายถึงความทุกข์ยากของแต่ละฝ่าย หยวนเล่าถึงความสุขที่ได้เป็นพ่อคน ขณะที่ หลี่ ก็ส่งนมผงสำหรับทารกและเสื้อผ้าเด็กมาให้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศจีนยังค่อนข้างขาดแคลนสินค้าดังกล่าว

เมื่อถึง ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (2509-2519) จดหมายของหลี่ก็เริ่มถูกตีกลับ และเธอได้หยุดเขียนจดหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหยวน แต่หลี่ ก็ไม่สามารถลืมหยวนได้

“ฉันไม่สามารถ เริ่มความสัมพันธ์ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตฉันก็ตาม ฉันพบว่าความรักของหยวน เป็นรักแท้ และรู้สึกถึงความพิเศษที่ไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้” หลี่ เผยความใน

ใน ปี 2519 ทันทีที่หลี่มั่นใจว่าความวุ่นวายจากการปฏิวัตวัฒนธรรมในประเทศจีนได้สงบลง เธอก็เขียนจดหมายส่งไปยังที่ทำงานของหยวนเช่นเคย แต่จดหมายดังกล่าวถูกตีกลับ ในตอนนั้น เธอไม่รู้ว่า หยวนได้เปลี่ยนที่ทำงานแล้ว ซึ่งในปี 2516 หยวนได้เขียนจดหมายบอกหลี่ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง ทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีกครั้ง เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้เอง (2553) นานถึง 45 ปี ที่ทั้งสองพรากจากกันหลังจากได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย

แสงสว่างฉายโฉนบนเส้นทางรัก...

ช่วง ระหว่างเทศกาลตรุษจีน (ปลายเดือนก.พ.) โอวหยัง ลู่อิง ลูกสะใภ้คนที่สามของหยวน ได้ล่วงรู้จากญาติที่เป็นผู้ช่วยกุมความลับจดหมายของหลี่ไว้ ว่า พ่อสามีของเธอ ได้เคยตกหลุมรักกับครูต่างชาติสาวสวย เธอกล่าวว่า

“เมื่อ ได้ฟังเรื่องของพ่อสามีฉัน ก็สัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งในความรัก และเมื่อแม่สามีของฉันได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2537 ฉันจึงขอให้พ่อเขียนจดหมายอีกครั้ง”

แม้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หยวนมักจะไปยังสถานที่ที่เขากับหลี่เคยมาด้วยกันเป็นประจำในเมืองหังโจว แต่หยวนก็ไม่เคยคาดคิดที่จะกลับไปติดต่อกับหลี่อีก

จน เมื่อลูกสะใภ้โอวหยังได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดจากก้นบึ้งในจิตใจ หยวนจึงมีกำลังใจและมีความหวังที่จะพบกับหลี่อีกครั้ง เขาใช้เวลาหลายวันในการเขียนจดหมายทั้งสิ้น 5 ฉบับ นอกจากจะเขียนเป็นภาษาจีนอวยพรให้หลี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หยวนยังเขียนถึงญาติของหลี่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเกรงว่าหลี่อาจเสียชีวิตแล้ว โดยเขียนว่า

"ผมเป็นนักเรียนและเพื่อนของหลี่ และต้องการทราบถึงที่อยู่ของหลี่"

ทุกๆ วันเว้นวัน หยวนได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ และหากไม่ได้รับจดหมายตอบกลับเลยสักฉบับ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจต้องยุติลงเพียงเท่านี้

ใน ที่สุดก็มีจดหมายส่งตรงจากฝรั่งเศส หยวนซึ่งบัดนี้อายุ 80 ปี ได้เปิดจดหมายฉบับนั้นด้วยมือที่สั่นเทา และได้เห็นลายมือที่คุ้นเคยอีกครั้ง หยวนเล่าถึงความรู้สึก ณ ขณะนั้น ว่า “ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่” ในซองจดหมายมีรูปของหลี่แนบมาพร้อมกับเนื้อความ 3 หน้ากระดาษ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอว่า...

"ใน ปี 2517 เป็นระยะเวลา 9 ปี หลังจากการติดต่อกันครั้งสุดท้าย ฉันจบการศึกษาภาษาจีนและได้รับคุณวุฒิเทียบเท่ามหาบัณฑิต จึงได้งานสอนภาษาจีนในมหาวิทยาลัยช็อง มูแลง - ลียง 3

ในปี 2535 ฉันเกษียณในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว และจากนั้นได้ทำงานเป็นรองประธานองค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยเหลือนักศึกษาชาว จีนในมหาวิทยาลัยนี้

เธอยังคงครองโสดและอยู่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตลง

ใน วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลี่กลับมาถึงบ้านก็พบจดหมายของหยวนวางอยู่ที่พื้น เธอเล่าว่า “ฉันยังไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เพราะฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง”

เธอ นั่งมองจดหมายของหยวนที่สวนในบ้านตั้งแต่เที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืน กระทั่งเมื่อรุ่งอรุณเบิกฟ้าของวันถัดมา เธอก็ได้รับจดหมายของหยวนอีกฉบับ หลี่จึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่ความฝัน

จากนั้นทั้งคู่ได้เริ่ม ส่งจดหมายหากันเหมือนแต่ก่อน และในบางครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของโอวหยัง ทำให้ทั้งหลี่ และหยวน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่นานก็กลับไปใช้การเขียนจดหมายเช่นเดิม เพราะหยวนมีปัญหาด้านการได้ยิน

ในการคุยโทรศัพท์ครั้งแรก หลี่ ได้เล่าว่า “โอวหยัง เรียกฉันว่าคุณแม่แดนนี่ ยังไม่เคยมีใครเรียกฉันว่าแม่มาก่อน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้ได้”

หนึ่งเดือนต่อมา หยวนได้เชิญชวนให้หลี่มาที่ซย่าเหมิน และได้บอกกับหลี่ว่า “เธอต้องการมาอยู่กับฉันหรือแค่มาเยี่ยมก็ได้ แล้วแต่เธอจะตัดสินใจ”

เมื่อ หลี่ มาถึงซย่าเหมิน หยวนและครอบครัวก็ได้พบกับเธอที่สนามบิน และ ณ เวลานั้น หยวนได้ถือช่อกุหลาบอันสวยสด 55 ดอก เพื่อขอเธอแต่งงาน หลี่ได้ตอบรับคำขอของหยวน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา หนึ่งวันก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป้นช่วงเวลาที่ครอบครัวชาวจีนกลับมาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

      ในวันที่ 26 ก.ย.2553 บุตรชายของหยวน ได้จัดงานแต่งงานให้กับพวกเขา จากนั้น ทั้งหลี่และหยวนก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านของบุตรชายคนที่ 3 และในทุกๆเช้า หยวนกับหลี่ ก็จะจับมือกันเดินตากลมทะเลริมชายหาดรับกลิ่นอายรุ่งอรุณของวันใหม่อัน แสนอบอุ่น


     หลี่ กล่าวปิดท้ายตำนานรักสุดขอบฟ้าของเธอกับหยวน ว่า “สิ่ง ที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้นฉันจึงเป็นหู
ให้กับเขา และเขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน”



หยวน ตี้เปา ในวัย 82 ปี และแดนนี่ หลี่ ในวัย 83 ปี กำลังนั่งอ่านจดหมายด้วยกัน
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ใจเราเหมือนแก้วน้ำ เมื่อ: ตุลาคม 27, 2010, 07:24:03 pm
ใจเราก็เหมือนกับแก้วน้ำ...


วันนี้ เราอาจรู้สึกผูกพันต่อสิ่งหนึ่ง จนคิดว่าเราขาดไม่ได้...
แต่เวลาจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
สักวันเราจะรู้ว่า สิ่งที่เราผูกพันในวันนี้
เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เติมชีวิตเรา ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต

วันหนึ่ง หากเรามีโอกาสได้เจอสิ่งที่ถูกใจสิ่งใหม่ที่เราคิดว่าเราพึงใจ..ปรารถนา..ต้องการ..ขาดไม่ได้
เราก็จะเริ่มผูกพันกับสิ่งใหม่ได้ในเวลาไม่นานนัก

เวลา.. จะสอนเราเองว่า ความผูกพันกับสิ่งใดๆในช่วงเวลาหนึ่ง
จะเป็นความสุขในช่วงเวลานั้นๆ
อย่าได้ไปยึดติด อย่าได้ไปใช้ชีวิตทั้งชีวิตลุ่มหลง
คิดเสียว่าเราโชคดีที่มีโอกาสได้ผูกพันกับสิ่งที่เรารัก

ความผูกพันก็เหมือนกับ ความรัก หรืออาจจะเป็นผลพวงที่มาจาก ความรัก หากเรารักใครคนใดคนหนึ่งมาก
เราก็จะรู้สึกว่าผูกพันมาก
แต่ความผูกพันที่ว่า ไม่ได้หมายถึงการหยุดตัวเองไว้กับสิ่งนั้นๆ
เพราะคนเราทุกคนย่อมผูกพันกับหลายๆสิ่ง

เปรียบเสมือน เรามีแก้วนำอยู่หนึ่งใบ
ในยามเช้า...เราอาจต้องใช้แก้วใบนี้ดื่มนม
พออากาศร้อนหน่อย...เราอาจต้องการน้ำเย็นๆ
บางครั้งที่เราไม่สบาย...เราอาจต้องการน้ำอุ่น

ใจเราก็เหมือนกับแก้วน้ำ...
ต้องเติมสิ่งต่างๆ ในเวลาที่แตกต่างกัน ตามความเหมาะสม

หากเราเติมน้ำเย็นลงไปในแก้วน้ำ
แล้วเติมน้ำร้อนลงไปในทันที ในแก้วใบเดียวกัน
แก้วใบนั้น..ก็จะร้าว..เริ่มแตก ซึ่งก็เหมือนกับใจเรา...

ความผูกพันต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในช่วงเวลาหนึ่งนั้น..ไม่ผิด
ถ้าเราค่อยๆปรับใจ..ปรับตัวของเราเอง..
ให้กลับคืนในเวลาที่ควร เพราะอย่างน้อยที่สุด..เราก็มีโอกาสได้ผูกพัน
ซึ่งก็เหมือนเรามีโอกาสได้รักนั่นเอง

ถ้าคุณมีความสุขที่เห็นเค้าเดินกับคนอื่น... คือ ความรัก
ถ้าคุณเศร้า..เหงา..คิดถึงเค้า..อยากเจอ..อยากพูดคุย... คือ ความรัก

ถ้าคุณร้อนรนที่เค้าอยู่กับใครๆที่ไม่ใช่คุณ... คือ ความใคร่
อยากเก็บไว้เป็นเจ้าของคนเดียว

ถ้าคุณเมามาย..เค้าลูบหลังไหล่..ดูแล... คือ ความรัก ที่บริสุทธิ์ใจ
ถ้าคุณเมามาย..เค้ากอดและสัมผัสร่างกาย... คือ ความใคร่จากเค้าของคุณ

ถ้าคุณเข้าหา.. แต่เค้าหนี... ... คือ ความใคร่ ที่หมดเยื่อใยแล้ว
ถ้าคุณหนี.. แต่เขาวิ่งตามมา... ... คือ ความรัก ที่ยังไม่มีจุดจบ

ถ้าคุณร้องไห้ให้กับคนที่ไม่มีเยื่อใยในตัวคุณ...
คุณคือ คนโง่ และบ้า อย่างน่าอาย

แต่ถ้าคุณพอใจ..จงรัก..และมอบ ความรัก ให้กับเค้า...
แม้มันจะไม่กลับมาหาคุณก็ตาม

จงดีใจที่ได้รักซะวันนี้.. ดีกว่าที่จะมานั่งเสียใจในวันหน้า
จงภูมิใจที่มีความใคร่.. เสน่หา
เพราะมันจะไม่ย้อนกลับมาหาอีกต่อไป..
19  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ยอากทราบตำนาน ธงจรเข้ ที่ใช้ในงานกฐิน เมื่อ: ตุลาคม 27, 2010, 07:15:51 pm
คือเห็น เขาทอดกฐิน กันที่วัดแล้ว เวลาเก็บของกัน มีคนแย่งธงจระเข้ กัน เพราะเหตุไร

แล้วทำไม ธงจรเข้ จึงเกี่ยวข้องกับงานทอดกฐิน ด้วยคะ

 :c017:
20  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / เชิญร่วมงาน ตักบาตรข้าวต้มลูกโยน วัดพระพุทธฉาย เมื่อ: ตุลาคม 15, 2010, 09:31:19 am
เชิญร่วมงาน ตักบาตรข้าวต้มลูกโยน วัดพระพุทธฉาย

งานตักบารข้าวต้มลูกโยน ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี

ด้วย วัดพระพุทธฉาย ร่วมกับอำเภอเมืองสระบุรี ได้กำหนดจัดงานประเพณีตักบาตรเทโว ฯ วันออกพรรษา (ตักบาตรข้าวต้มลูกโยน) เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีซึ่งมีมาแต่โบราณกาล ผสมผสานให้เป็นสื่อปลูกฝังส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมแก่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนจะได้ปลูกฝัง ความรัก ความกตัญญู ต่อพ่อแม่ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างที่พระองค์เสด็จจำพรรษาในเทวโลกชั้น ดาวดึงส์แสดงพระอภิธรรมปิฎก เพื่อตอบแทนคุณของพุทธมารดา ที่ได้เลี้ยงดูมา และได้ปลูกฝังความสามัคคี ความมีน้ำใจ เสียสละ ในการร่วมกันจัดงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อนึ่งเพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยววัดพระพุทธฉายซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญของ จังหวัดสระบุรีให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยมีกำหนดการจัดงานดังนี้
   
ขบวนแห่ข้าวต้มลูกโยนพร้อมกัน ณ บริเวณโรงเรียนวัดพระพุทธฉาย

เคลื่อนขบวนไปยังวัดพระพุทธฉาย

เริ่มพิธีตักบาตรข้าวต้มลูกโยน และผลไม้ ภิกษุ-สามเณร

 

ชมการแสดง(ภาคค่ำ)
21  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แม่เป็นภาระของเรา.... เมื่อ: ตุลาคม 05, 2010, 02:53:26 pm

ซึ้งๆมาอีกเเล้วพี่น้อองวันที่แม่รอคอย
     แม่ เป็นภาระให้แก่ลูกทุกคนมาตั้งแต่เกิด นั่นเป็นความจริงที่เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ ก็ลองคิดดูสิ ตั้งแต่เราเกิดมา ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลย อยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนี้ก็มาโอบอุ้ม ถูกเนื้อต้องตัวเรา มิวายที่เราจะแหกปากร้องไห้ขับไล่ไสส่งยายผู้หญิงคนนี้ขนาดไหน เธอก็ยังพยายามปลอบโยน เห่กล่อมเราอยู่นั่นแหละ เป็นภาระให้เราต้องจำใจเงียบ ยอมนอนดูดนมเธออยู่จั่บๆๆ

          พอเราเริ่มเตาะแตะ ตั้งไข่จะเดินไปไหนต่อไหนมั่ง คุณเธอก็ยังคอยเรียกหาเราอยู่นั่นแหละ 

          "มานี่มาลูก มานี่มา อีกนิดเดียวลูก อีกนิดเดียว อีกก้าวเดียว "ไม่รู้จะเรียกทำไมนักหนา ไอ้เราก็เดินล้มลุกคลุกคลานอยู่ เห็นมั้ย เป็นภาระที่เราต้องเดินไปให้เธอกอดอีก 

           โตขึ้นมาอีกนิด เราเริ่มกินอาหารได้ หล่อนก็เอาอะไรนักหนาไม่รู้ เละๆ เทะๆ มาบดให้เรากิน ไอ้เราจะไม่กินก็ไม่ได้ เดี๋ยวแม่จะน้อยใจ ก็เอาวะ เอาซะหน่อย เคี้ยวไปเเจ่บๆ อย่างนั้นแหละ แม่คุณก็ยิ้มปลื้ม คงนึกว่าเราอร่อยตายล่ะมั้งนั่นน่ะ กล้วยบดนะจ๊ะ เธอจ๋า ในปากฉันตอนนี้น่ะ ถ้าคิดว่ามันอร่อยขนาดนั้น ทำไมไม่ลองทานเองดูมั่งล่ะ
       
          ทีนี้พอเราเริ่มพูดจารู้เรื่องขึ้นมาหน่อย คราวนี้ยังไงล่ะ ผู้หญิงคนนี้กลับขับไล่ไสส่งให้เราไปโรงเรียนซะอีก ไม่ไปก็ไม่ได้ด้วยนะ บางทีมีตีเราเข้าให้อีก ภาษาอะไรนักก็ไม่รู้ เอามาให้เราหัดอ่านหัดเรียนใช่มั้ย ลองคิดดูนะ สัปดาห์หนึ่งต้องไปโรงเรียนตั้งห้าวันน่ะ มันภาระหนักหนาแก่เราแค่ไหน

          แต่พอถึงเวลาเราจะดูทีวี ดูหนังการ์ตูน นอนดึกขึ้นมาสักหน่อย ลองนึกย้อนไปสิ ใครกันเคี่ยวเข็ญให้เราไปนอนด้วย ตัวเองง่วงจะนอนคนเดียวก็ไม่ได้นะ ต้องบังคับให้เราไปนอนเป็นเพื่อนด้วย ใช่มั้ย ที่พูดนี่ไม่ใช่ลำเลิกหรอกนะ เพียงแค่อยากให้เห็นใจกันบ้างเท่านั้น

          วันเวลาผ่านไป เราโตขึ้น แต่แม่ก็ยังไม่ยอมโตตามเราสักที ลูกอยากจะทำผมทำเผ้า แต่งเนื้อเเต่งตัวให้มันดูอินเทรนด์ ดูทันสมัย ใคร ใครกันเป็นตัวสกัดดาวรุ่ง พูดแล้วขนลุก ผู้หญิงคนนี้มีพัฒนาการไม่คืบหน้าไปไหนเลย ว่ามั้ย

 

 

 

          พอเราสำเร็จจบการศึกษาเเล้วเป็นยังไง... เธอร้องไห้ครับ เชื่อเถอะว่าเธอต้องร้องไห้ ถ้าเราไม่เห็นก็แปลว่าเธอต้องแอบร้องไห้ มีอย่างที่ไหน เราคร่ำเคร่งร่ำเรียนมาแทบตาย แล้วตัวเองแท้ๆ ที่เป็นคนเริ่มเรื่อง พอเราเรียบจบแทนที่จะดีใจดันมาร้องไห้ มีอย่างที่ไหน

          ดีนะว่าเราเข้าใจ คู่มือการเลี้ยงแม่ ก็เลยทำใจได้ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ขอไปฉลองการสำเร็จการศึกษากับพวกเพื่อนๆ ที่นอกบ้านก่อน ก็แหม เรียนจบทั้งที จะมาให้นั่งดูผู้หญิงแก่ๆ นั่งร้องไห้ทำไมล่ะ ใช่มั้ย

          เป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้วนี่ คราวนี้ใครๆ ก็ต้องอยากมีแฟน คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็เรื่องมาก ผมยาวไปมั่งล่ะ ดูไม่มีความรับผิดชอบมั่งล่ะ...แม่ แม่จะไปรู้อะไร แม่เคยคบกับเขาเหรอ

          ไม่ใช่แค่เรื่องคู่ครองเท่านั้นนะ แม่เขายังอยากรู้ไปจนถึงเรื่องอาชีพการงานด้วยว่าเราจะไปทำอะไร อยากเป็นอะไร

          แม่ครับ แม่ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ยพวกเราจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของพวกเรา อนาคตของเรา ขอให้เราได้ตัดสินมันเอง แต่เรารับรองกับแม่ได้อย่างหนึ่งว่า เราจะไม่เป็นเหมือนแม่หรอก... เชย

          นับจากบรรทัดแรก จนมาถึงบรรทัดนี้ เวลาก็ผ่านไปหลายปีแล้ว สมควรที่พวกเราจะแต่งงานมีครอบครัวเป็นของตนเองสักที ว่าแล้วเราก็ย้ายออกจากบ้านแม่ มายืนด้วยลำแข้งของตัวเอง อย่างที่แม่เคยพูดไง แล้วทำไมต้องมาทำตาละห้อยด้วยล่ะ วันที่เราย้ายออกมาน่ะ มันก็ไม่ได้ใกล้ มันก็ไม่ได้ไกลหรอกนะ ไอ้ที่ย้ายออกมาน่ะ แต่เวลามันรัดตัวจริงๆ ใช้โทร.คุยกันก็ได้นะแม่นะ

          ถึงวันที่เรามีลูก แม่ยังพยายามอยากมาทำตัวเป็นภาระกับลูกเราด้วย เราบอกแม่ว่าไม่ต้องมายุ่งหรอก เราดูแลลูกของเราได้ เด็กสมัยนี้มันไม่เหมือนกับสมัยแม่แล้วล่ะ

          แม่อายุเกือบหกสิบปีแล้ว โทร.มาไอแค่กๆ บอกไม่ค่อยสบาย เราบอกแม่ว่าอย่าคิดมาก ในใจเรารู้อยู่แล้วว่าแม่พยายามเรียกร้องความสนใจ นั่นเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติของคุณแม่วัยนี้

          จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง คุณโทร.กลับไปที่บ้านแม่ แต่... ไม่มีคนรับสายแล้ว อย่าเพิ่งตกใจ แม่อาจจะออกไปทำบุญที่วัดตามประสาคนแก่ก็ได้ ลองโทร.เข้ามือถือแม่ดูซิ...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก...

          อย่าเพิ่งด่วนสรุป มือถือแม่อาจจะแบตหมดก็ได้ ผู้หญิงคนนี้กระดูกเหล็กจะตายไป เธอต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ คิดฟุ้งซ่านไปได้ ยังไงแม่ก็ต้องรอเราอยู่เหมือนเดิมน่ะแหละ ไปหาเมื่อไหร่ก็ต้องเจอ อย่างมากแกก็อาจจะงอนนิดๆ หน่อยๆ พอเห็นหลานตัวเล็กๆ วิ่งเข้าไปกอดก็ขี้คร้านจะอ่อนยวบเป็นขี้ผึ้ง หลายวันผ่านไป ทำไมแม่ยังไม่โทร.กลับมาอีกนะ ทำบุญตักบาตรก็ไม่น่าจะรอคิวนานขนาดนี้ ชาร์จแบตมือถือไม่เต็มก็เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นแบตเตอรี่รถสิบล้อป่านนี้ไฟทะลักแล้ว

          วันนี้แวะไปหาแม่สักหน่อยดีกว่า ระหว่างทางที่คุณขับรถไป ลูกคุณซนเป็นลิงอยู่ข้างๆ ประโยคมากมายที่หลุดจากปากคุณ ล้วนเเต่เป็นคำที่แม่คุณเคยพูดมาแล้วทั้งสิ้น คุณเพิ่งสัมผัสได้ ภาพเก่าๆ มากมายที่ผู้หญิงคนนั้นทำวิ่งวนอยู่ในหัวคุณ ช่างเถอะ.. เดี๋ยวเจอเธอแล้ว คุณจะสารภาพผิด แล้วทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น แล้วคุณก็ได้เจอ คนที่คุณรู้สึกว่าเธอเป็นภาระให้กับคุณมาตั้งแต่เกิด

          ผู้หญิงคนนั้น นอนตายในท่าที่คอยคุณมาตลอดชีวิต...
22  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / การ์ตุน หลวงพี่เอี้ยงวัดมะนาวหวาน คะ เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 01:40:27 pm
23  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / มายา หญิง ที่ผู้ชายควรจะรู้ไว้บ้างนะจ๊ะ เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 01:26:47 pm
มารยาหญิง ที่ผู้ชายตามไม่ทัน

ใน สายตาผู้ชายส่วนใหญ่ มักมองผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ และสามารถอยู่ใต้บังคับบัญชาพวกเขาได้ตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงที่พวกเราเห็นและคิดว่าอ่อนแอเสมอนั้น ก็มีมารยาหญิงที่ชายอย่างเราก็อาจจะจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเหมือนกัน อ่านแต่ละข้อต่อไปนี้แล้ว ชาว Men.Mthai รู้สึกอึ้งๆ กันบ้างรึเปล่าละเนี่ย ...

 
 

 

1. แกล้งเปิดขวดโค้กลิตรไม่ไหว ทั้งที่ความจริงพวกเธอสามารถหักคอหมูป่าได้ด้วยมือเปล่ามาแล้ว

2. "ตอนเย็นซื้อกับข้าวมาด้วยนะ" แปลว่า ... เลิกงานแล้วห้ามไปใหนเด็ดขาด!!!

3. "ทะเลาะกับแม่มาอีกแล้ว" คือ ... จะเรียกร้องความสนใจอีกแล้วครับพี่น้อง

4. ใส่เสื้อคอกว้างคว้านลึกถึงสะดือ เพื่อหลอกให้เราติดกับ ... ระวังไว้

5. ชอบพูดเปรยบ่อยๆ ว่าเธอกำลังจะเลิกกับแฟนคนเก่า ... เพื่อให้เราคิดว่ามีหวัง!

6. เลิกคิ้ว ทำตาโต เอนตัวมาข้างหน้า ทำท่าใสซือ นี่คือไม้ตายเอาไว้ขโมยหัวใจผู้ชาย

7. นั่งจิกตามองผู้ชาย พอเราหันไปเจอ ก็ทำเป็นหลบตา ... แต่ไม่วายช้อนตาขึ้นมามองทำขวยเขิน

8. ชอบมาสายกว่าเวลานัดนิดหน่อย ... ที่จริงคือ ... อยากให้เราเห็นตอนที่เธอเดินสวยเข้ามา

9. ทำเป็นกินเผ็ดไม่ได้ เพื่อหลอกให้เราคิดว่าเธอแสนจะบอบบาง แต่พอลับหลังสามารถจกส้มตำใส่พริก 10 เม็ดกินได้หน้าตาเฉย

10. เวลาคุยกับเธอมักจะพยายามวางมือไว้ในที่โล่ง ... เพื่อล่อเป้าให้มือเราวิ่งไปชน

11. จากนั้นเธอจะดึงมือตัวเองหนีมือเราเบาๆ พร้อมรอยยิ้มหวานๆ แต่ในใจกระหยิ่มว่า ... "เสร็จชั้นล่ะแก"

12. แกล้งเล่นตัวไม่รับโทรศัพท์ ... เพื่อให้เรากระวนกระวายใจ

13. ชอบลองเครื่องประดับที่ร้านแล้วถามเราว่า "สวยมั้ย" บอกนัยๆ ให้รู้ว่า ... ชอบนะ ... ซื้อให้หน่อย!!

14. เสยผมบ่อยๆ ต่อหน้าเรา เพราะรู้ว่าเราเคยอ่านเจอว่า ... นั่นเป็นการแสดงความสนใจ

15. ชอบเข้ามาปัดฝุ่นตามเสื้อเรา เพื่อให้เราคิดว่าเธอเป็นห่วง แต่ความจริงเธอกำลังหารอยลิปสติก และกลิ่นน้ำหอมของหญิงอื่น

16. ใส่น้ำหอมไว้หลังหูแล้วแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเวลาเราพูด เพื่อเธอจะได้เอียงหูมาใกล้ๆ แค่นั้นเราก็ไปใหนไม่รอดแล้ว!!

17. ทำเป็นไม่รู้ทิศทางกลับบ้านไม่ถูก (หรือตกรถ ตอนมาทำงาน) เพื่อหลอกเราให้ไปส่ง ประหยัดน้ำมัน

18. ถ้าเธอชวนถ่ายรูปคู่อิงแอบไว้ในโทรศัพท์เรา ให้รู้ไว้ว่า ... นั่นเป็นการติดป้ายจองแบบเนียนๆ

19. โทรเช็คพิกัดอยู่บ่อยๆ แต่อ้างว่า ... "คิดถึง"

20. ถึงไม่รัก ไม่สนใจ แต่ก็ขอส่งข้อความ ทิ้งเชื้อไว้เนืองๆ เพื่อบริหารเสน่ห์

21. ทำหวานเมื่อเราโกรธ ... ทำโทษเมื่อเราผิด ... ทำหงุดหงิดเมื่อเราไม่ตามใจ ...

22. "พี่คิดยังไงกับหนู" ประโยคเด็ด ที่ผู้ชายต้องเจอทุกคนระหว่างกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม

23. "พี่ทำไมทำแบบนี้" ประโยคน็อค ที่พวกหล่อนต้องพูดหลังจากเก็บด้ายเก็บเข็มเข้าที่เรียบร้อยแล้ว

 

รู้ อย่างนี้แล้วหนาวๆ ร้อนๆ กันขึ้นมาบ้างมั้ยล่ะ สาวคนไหนที่อ่านแล้วไม่ใช่ก็มาชี้แจงกันได้นะจ๊ะ แต่ผู้ชายเราเนี่ย บางข้อก็รู้อยู่แล้วล่ะครับแต่ก็ยอมตามน้ำไปเหมือนกันแหละ ฮ่าๆๆๆ

 
24  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ิวีดีโอที่ ชาวเนปาล บอกว่าเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 01:24:30 pm
ที่มา http://www.fwdder.com/topic/82554

http://www.fwdder.com/data/mail/2008/11/14/1226636750086/video/__fwdD.flv
25  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / พระสัทธรรมปฏิรูป คืออะไร เมื่อ: กันยายน 24, 2010, 01:14:38 pm
เคยได้คุยกับเพื่อน และ ครู แม้แต่ฟังจาก คนที่มีความรู้แล้ว

หลายครั้ง ก็ไม่เคยสนใจ เหมือนกันคำว่า โลกาภิวัฒน์ ฟังแล้วเหมือนจะเข้าใจ

แต่พอมาวันนี้ ได้ฟังคำว่า สัทธรรมปฏิรูป ก็งงอีก ไม่ทราบมีผู้ใด พอจะอธิบายความหมาย

ของคำว่า สัทธรรมปฏิรูป ได้หรือป่าว คะ

 :25: :25:
26  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญ ร่วมทำบุญ เป็นเจ้าภาพกฐิน ๘๔,๐๐๐ กอง 6-7 พ.ย.53 เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 12:27:32 pm
    
 
ขอเชิญ ร่วมทำบุญ เป็นเจ้าภาพกฐิน ๘๔,๐๐๐ กอง วัดธรรมบรรพต (ถ้ำพระเวส) ๖-๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

ขอเชิญ ร่วมทำบุญ เป็นเจ้าภาพกฐิน ๘๔,๐๐๐ กอง กองละ ๑๐๐ บาท ณ วัดธรรมบรรพต (ถ้ำพระเวส) อ.นาแก จ.นครพนม ในวันที่ ๖-๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เพื่อ สมทบทุน สร้างเจดีย์บูรพาจารย์ วัดธรรมบรรพต(ถ้ำพระเวส) เพื่อเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ และ พระธาตุครูบาอาจารย์สาย พระวัดป่า(สายพระธุดงค์กัมมัฏฐาน) ที่เคยมาพำนัก จำพรรษา ภาวนา อาทิ เช่น หลวงปู่เสาร์กนฺตสีโล,
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต, หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นต้น โดยในวันงาน ได้รับความเมตตา จาก พระเดชพระคุณ หลวงปู่แฟ้บ สุภทฺโท, หลวงปู่บุญมา คมฺภีรธมฺโม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และเจริญพระพุทธมนต์

หรือ ร่วมบริจาคสร้างเจดีย์บูรพาจารย์ วัดธรรมบรรพต (ถ้ำพระเวส) ได้ที่บัญชี ของทางวัด ชื่อบัญชี : วัดธรรมบรรพต (ถ้ำพระเวส) ธนาคารกรุงไทย สาขานาแก อ.นาแก จ.นครพนม เลขที่บัญชี : 421 - 0 - 15644 - 7
สอบถามรายละเอียดได้ที่ : คุณบูรณประภา โทร 086 - 2345060
คุณประพาส โทร 080 - 1807315
 
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก http://www.dhammathai.org/



27  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / ร่วมปฏิบัติ กรรมฐาน วัดเทพลีลา เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 12:19:06 pm


 ขอเชิญปฏิบัติธรรมกรรมฐาน วัดเทพลีลา(หน้ารามฯ)

วัดเทพลีลา ปากซอยรามคำแหง 39 ติดสพานข้ามคลองแสนแสบ เดินทางสะดวก

ทางรถเมลย์ และรถตู้ทุกสายที่ผ่านหน้าราม 

สาย                  เส้นทาง

40                 ศรีนครินทร์ - สายใต้ใหม่
60                 มีนบุรี - ปากคลองตลาด   
71                  สวนสยาม - วัดธาตุทอง

92                 สามแยกพัฒนาการ - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
93                 หมู่บ้านนักกีฬา - สี่พระยา
95                 รังสิต - บางเขน
97                  มหาวิทยาลัยรามคำแหง - ปากเกร็ด
98                 มหาวิทยาลัยรามคำแหง - ดอนเมือง

99                  เทเวศน์ - ม.ราม

109                 คลองกุ่ม - หัวลำโพง

113                 มีนบุรี - หัวลำโพง
115                 สวนสยาม - สีลม

117                 ม.รามคำแหง - ลำลูกกา
122                ม.ราม - กำแพงเพชร 2  (ผ่านหน้าวัด)
126                 บางเขน - มหาวิทยาลัยรามคำแหง

136                 อนุสาวรีย์ชัยฯ - การเคหะบางพลี
137                 วงกลม รามคำแหง - ถนน รัชดาภิเษก
171                 อู่บางขุนเทียน - หมู่บ้านนักกีฬา
168                 สวนสยาม - อนุสาวรีย์ชัยฯ

207                 ม.ราม1 - ม.ราม2
501                 มีนบุรี - หัวลำโพง
512                 หมอชิดใหม่ - ปากคลองตลาด   

545                 นนทบุรี - สำโรง   
ปอ.พ.4                 ร่มเกล้า - สายใต้ใหม่
ปอ.พ.17                 สวนสยาม - สีลม
ปอ.พ.24                บางขุนนนท์ – บางกะปิ
ปอ.พ.25                 ท่าราชวรดิษฐ์ – สวนสยาม     
ปอ.พ.34                 หมอชิตใหม่-บางกะปิ

หากมาจากลาดพร้าว ลำสาลี ลงป้ายเมเจอร์ฮอลีวูดแล้วข้ามสะพานลอยมาทางขวามือ หรือหากเป็นรถที่สุดสายที่หน้า ม.รามคำแหง ให้ลงที่อู่แล้วเดินไปข้ามสะพานลอยหน้าโรงเรียนวัดเทพลีลา

หากมาจากคลองตัน พระราม9 ลงรถป้ายเมเจอร์ฮอลีวูดแล้วเดินตรงไป หรือลงหน้าโรงเรียนเทพลีลา

เดินทางโดยเรือโดยสารคลองแสนแสบขึ้นที่ท่าเรื่อวัดเทพลีลา










28  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / เชิญปฏิบัติ เดือน ก.ย. 2553 เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 12:13:03 pm
ขอเชิญปฏิบัติธรรม

สำนักการแพทย์ทางเลือก ขอเชิญผู้สนใจทุกท่าน

เข้าร่วมกิจกรรม "การพัฒนาสุขภาพจิตด้วยกรรมฐานวิถีพุทธ" โดยมีกิจกรรม ปฏิบัติธรรม เจริญศีล ภาวนา สมาธิ เฉลิมพระเกียรติถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ในวันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

ณ ห้องประชุมไพจิตร ปวบุตร อาคาร 7 ชั้น 9 ตึกปลัดกระทรวงสาธารณสุขเริ่ม


ปฏิบัติธรรมเวลา 13.00 - 16.00 น.(โปรดแต่งกายชุดสีขาว)

บรรยายธรรมโดย พระอาจารย์ ธมฺมทีโป

สอบถามรายละเอียด โทร. 0-2965-9194 ต่อ 146, 081-4516926 (คุณพัทยา อินทรกำแหง)
29  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / กิจกรรม แบ่งปัน ขอเชิญ ปฏิบัติธรรม หลักสูตร ออกกำลังจิต เพิ่มวัคซีนใจ Mode เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 12:09:48 pm


วิปัสสนา ล้ำสมัย เข้าใจง่าย ได้ผลจริง ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรม ชั้น2 วัดอัมพวัน ดุสิต กทม  วันอาทิตย์ที่ 10  และ 17  ตุลาคม  2553    เวลา 12.30 - 16.30 น. สร้างพลังและภูมิคุ้มกันใจ  ให้มีสติ  สมาธิ  เกิดปัญญา  แก้ไขปัญหาได้ รักษาโรคใจ  เช่น  เครียด    ปล่อยวางความทุกข์ได้ง่าย  ก่อเกิดความสุขสงบเย็น
ใช้หลักธรรมที่ล้ำสมัย  ภาษาเข้าใจง่าย  ได้ผลจริง  ปฏิบัติทุกอิริยาบถ ทุกเวลา ทุกสถานที่สำหรับ   เยาวชน   ผู้เริ่มสนใจ   ผู้มีภาระกิจมาก   ผู้สนใจเป็นอาจารย์วิปัสสนาฯใช้หลักธรรมที่ล้ำสมัย  ภาษาเข้าใจง่าย  ได้ผลจริง  ปฏิบัติทุกอิริยาบถ ทุกเวลา ทุกสถานที่

     สำหรับ   เยาวชน   ผู้เริ่มสนใจ   ผู้มีภาระกิจมาก   ผู้สนใจเป็นอาจารย์วิปัสสนาฯ

   กำหนดการอบรม
   เวลา  5 นาที . . . กล่าวบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล
       “   15   “   . . . ธรรมบรรยาย  1  บท
      “   30     “    . . . กำหนดสติเคลื่อนมือ / เท้า  นั่งสมาธิ
      “   10   “   . . . แก้ไขอารมณ์กรรมฐาน

    วันแรก : ธรรมบรรยาย
     บทแรก . .  . ออกกำลังจิต จิตเปรียบเหมือน COMPUTER กิเลสเปรียบเหมือน VIRUS
          “  ที่ 2 . . . วิธีทำลายกิเลส มีกิเลสเหมือนมีระเบิดติดตามตัว
          “  ที่ 3 . . . การสร้างความสุขแบบไม่มีสารพิษ มีทั้งแบบให้ทำ และไม่ต้องทำ
 หมายเหตุ - ใช้เป็นพื้นฐาน ในการเข้าปฏิบัติธรรมฯ วันที่สอง

    วันที่สอง : ธรรมบรรยาย
    บทแรก . . . ธรรมะที่บอกว่า จิตเหมือน COMPUTER ความล้ำสมัยของพุทธศาสนา
        “  ที่ 2 . . . เปลี่ยนผี ! ให้เป็น . .มนุษย์  เชิญมาสำรวจ  ท่านเคยเป็นผีบ้างหรือไม่ ?
        “  ที่ 3 . . . ลงทุนปฏิบัติธรรมน้อย ให้ผลตอบแทนมาก ไม่จำกัดเวลาและสถานที่

ประวัติวิทยากร
  ชื่อ : นุชพร วิปัสสนานนท์     เกิด : ปี 2499
  ที่อยู่ : 1148/44 ถ.นครไชยศรี ดุสิต กทม.10300
  โทรศัพท์ : 02-241-0721   084-933-4009
  การศึกษา : ปริญญาตรี  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  คณะพาณิชย์ศาสตร์ฯ สาขาการเงิน  ปี 2519-2523
  การศึกษาและเผยแผ่พระศาสนา : เมื่อเรียนประถม 4 บิดาสอนทำสมาธิ 
  ตั้งแต่ปี 2537 เข้าอบรมพัฒนาจิตฯ
  ของคุณแม่ ดร.สิริ 12 ครั้ง และเข้าปฏิบัติแบบเข้มหลายครั้ง   ปี 2538
  ศึกษาพระอภิธรรมจากหนังสือมูลนิธิแนบฯ
  ตั้งแต่ปี 2542 - 2547 เป็นผู้ช่วย และวิทยากรอบรมพัฒนาจิตฯหลักสูตร 8วัน7คืน   
  และ5วัน4คืน จำนวน 49 ครั้ง
  ในปี 2548 จัดทำหลักสูตร "ออกกำลังจิต เพิ่มวัคซีนใจ ให้เกิดปัญญาและสันติสุข" ระดับพื้นฐาน
  ปี 2550 จัดปฏิบัติวิปัสสนาฯ หลักสูตร "ออกกำลังจิต เพิ่มวัคซีนใจ” แบบเข้ม
  ปี 2551 จัด หลักสูตร "ออกกำลังจิต เพิ่มวัคซีนใจ” ระดับก้าวหน้า

หมายเหตุ
– เป็นพื้นฐานเข้า ปฏิบัติธรรมฯ  ระดับก้าวหน้า และแบบเข้ม
-- ออกใบรับรองการเข้าปฏิบัติธรรมฯ ให้นักเรียนมัธยมปลาย   
เป็นคะแนนคุณธรรม ในการสอบ Entrance


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่    http://killsad.bloggang.com
รับจำนวนจำกัด    โทร.  02-241-0721   084-933-4009
(แต่งกาย : เสื้อขาว กางเกงหลวมๆสีสุภาพ)


รายละเอียดเพิ่มเติม

http://www.thaitv3.com/ch3/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/885/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D-%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88-Modern-Vipassana.html
30  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เวลาเรา นอนหลับ แล้วฝัน ทำไมปรากฏเป็นความจริง เมื่อ: สิงหาคม 11, 2010, 09:42:52 am
หลายครั้ง ที่หนู นอนหลับไป แล้วไม่ค่อยจะลืมความฝัน

พอหลังจากตื่น ในวันนั้น หรือ ไม่เกิน 2 วัน

ก็จะเห็นเหตุการณ์ เหมือนในฝัน

ทุกคนจะเป็นอย่างนี้หรือป่าว คะุ
 :25: :25:
31  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ุถ้าเราเลือกเรียนในวิชา ที่ชอบ จะเป็นบาปหรือป่าว คะ เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2010, 12:51:38 pm
ปีนี้เป็นปีสุดท้าย แล้วที่หนู จะต้องเตรียมเอ็นทราน ตั้งใจว่าจะไปสอบเข้าที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี

ที่ มช. คะแต่ คุณพ่อ และ คุณแม่ ต้องการให้หนูเลือก แพทย์ ซึ่งท่านบอกว่า ควรจะเป็นแพทย์

เพราะการเรียนหนูอยู่ระดับเยี่ยมที่สุดในโรงเรียนคะ และเรียนสาย วิทย์ มาตลอด และหนูก็เก็บความรู้สึก

ที่ คุณพ่อ คุณแม่ บังคับใจหนูตรงนี้

หนูควรทำตามสิ่งที่หนูคิด หรือว่า ควรทำตาม คุณพ่อ คุณแม่ ดีคะ

  :73: :73: :17: :17:
หน้า: [1]