ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธลีลา : ปางประดิษฐานรอยพระพุทธบาท  (อ่าน 463 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




พุทธลีลา : ปางประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

พระพุทธรูปปางประดิษฐานรอยพระพุทธบาท เป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืนพระบาทซ้ายทรงเหยียบหลังพระบาทขวา เป็นกิริยากดพระบาท ส่วนพระหัตถ์ทั้งสองวางอยู่ที่พระเพลา(ตัก) มีบางแบบที่พระหัตถ์ประสานกันวางที่พระเพลา

@@@@@@

พระพุทธรูปปางนี้ปรากฏเรื่องราวในพระไตรปิฎก ๓ ครั้ง ในอรรถกถาปุณโณวาทสูตรที่ ๓ กล่าวไว้ว่า

ครั้งเมื่อพระศาสดาจะเสด็จไปบิณฑบาตที่หมู่บ้านพ่อค้าในแคว้นสุนาปรันตะ พระอินทร์ได้สั่งให้เนรมิตรเรือนยอดสำหรับพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระอัครสาวก ๕๐๐ หลัง ลอยไปในอากาศ เมื่อถึงภูเขาชื่อสัจจพันธ์ ทรงหยุดเรือนยอดไว้ในอากาศ เพราะที่ภูเขานั้น มีดาบสมิจฉาทิฐิ ชื่อว่า สัจจพันธ์ ที่สอนให้มหาชนมีความเห็นผิดอยู่ แต่พุทธองค์ทรงรู้ว่าดาบสนี้จะบรรลุอรหัตผลได้ จึงได้แสดงธรรมโปรด ดาบสก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ และเป็นเอหิภิกขุ

จากนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมพระสาวกจึงเสด็จต่อไปยังหมู่บ้านพ่อค้า พวกพ่อค้าได้ถวายทานใหญ่แก่หมู่ภิกษุซึ่งมีพระพุทธเจ้าทรงเป็นประมุข พระศาสดาทรงแสดงธรรมแก่มหาชน และประทับที่นั่น ๒-๓ วัน เพื่อสงเคราะห์มหาชน วันหนึ่งได้เสด็จเที่ยวบิณฑบาตในหมู่บ้าน ระหว่างทางมีแม่น้ำชื่อนิมมทา ได้เสด็จไปถึงฝั่งของแม่น้ำนั้น นิมมทานาคราชได้ถวายการต้อนรับพระศาสดา พระองค์ทรงแสดงธรรมแก่พญานาคแล้ว ก็เสด็จออกจากภพนาค นาคราชจึงกราบทูลขอให้ทรงประทานสิ่งที่ควรสักการะไว้แก่ตน พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแสดงรอยพระบาทไว้ที่ฝั่งแม่น้ำนิมมทา รอยพระบาทนั้นเมื่อคลื่นซัดมาก็ถูกปิด เมื่อคลื่นเลยไปแล้วก็ถูกเปิด กลายเป็นรอยพระบาทที่ถึงสักการะอย่างใหญ่



เมื่อทรงออกจากนั้นแล้วก็เสด็จถึงภูเขาสัจจพันธ์ ตรัสกับพระสัจจพันธ์ว่า มหาชนถูกเธอทำให้จมลงในทางอบาย เธอต้องอยู่ในที่นี้ แก้ความเห็นผิดของคนเหล่านี้ แล้วให้พวกเขาดำรงอยู่ในทางพระนิพพาน แล้วพระศาสดาก็ทรงแสดงรอยพระบาทไว้บนหลังแผ่นหินทึบ ตามที่พระสัจจพันธ์ทูลขอ

ส่วนอีกครั้งหนึ่งนั้น ปรากฏในอรรถกถามาคันทิยสูตรที่ ๙ กล่าวว่า สมัยหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงตรวจดูโลกด้วยทิพยจักษุ ทรงเห็นว่ามาคันทิยพราหมณ์พร้อมกับ ภรรยาในแคว้นกุรุจะบรรลุอรหัตผล จึงเสด็จไปโปรด เมื่อมาคันทิยะเห็นพระพุทธองค์ ทรงมีพระรัศมีสีทอง พระรูปโฉมงดงาม ก็คิดจะยกลูกสาวให้ จึงรีบกลับบ้าน เพื่อบอกนางพราหมณีผู้เป็นภรรยา และพาลูกสาวมา แต่เมื่อกลับมาอีกครั้ง ไม่เห็นพระองค์ประทับอยู่ที่เดิม เห็นแต่เพียงรอยพระบาทเบื้องขวา

นางพราหมณี จึงบอกสามีว่าคงผิดหวัง เพราะผู้นี้ไม่ใช่ผู้หมกมุ่นในกาม เพราะตามตำราพราหมณ์นั้น คนมากด้วยราคะพื้นฝ่าเท้าจะเว้าลึกเข้าไป คนมากด้วยโทสะจะหนักส้นเท้า คนมากด้วยโมหะจะหนักปลายเท้า ส่วนคนมีพื้นเท้าเสมอเช่นนี้เป็นผู้หา ราคะ โทสะ และโมหะ มิได้ และเมื่อได้พบพระพุทธองค์ที่ประทับอยู่ห่างออกไป ก็ทรงแสดงธรรมโปรดจน พราหมณ์ทั้งสองเป็นพระอนาคามี




จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 112 มีนาคม 2553 โดย กานต์ธีรา
ขอบคุณ : https://mgronline.com/dhamma/detail/9530000030271
เผยแพร่ : 3 มี.ค. 2553 16:06 , โดย : MGR Online
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ