ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จะทำอย่างไร เมื่อแม่ไม่ยอมรับฟังเหตุผล  (อ่าน 1483 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 


จะทำอย่างไร เมื่อแม่ไม่ยอมรับฟังเหตุผล
ปุจฉา-วิสัชนา กับพระไพศาล วิสาโล

ปุจฉา : ท่านพระไพศาลคะ แม่ส่งให้เรียนจบปริญญาตรีแบบมิได้บังคับสาขาวิชา แต่หนูหางานทำตรงสายไม่ได้ แม่บอกให้กลับมาอยู่บ้านทำสวนดีกว่า สุดท้ายยังไงมันก็ตกเป็นของหนูแม่สร้างไว้ให้ลูกๆ หนูทำสวนหนูก็ไม่เกี่ยงนะคะ หนูทำได้แต่ไม่ได้หมดทุกอย่าง

ตอนแรกหนูมีกำลังใจที่จะทำสวนมากๆ เพราะยิ่งถ้าได้ผลผลิตเร็วเท่าใดก็ยิ่งดี แต่อยู่มาหลังๆ แม่เริ่มดุด่าหยาบคายแรงขึ้นทุกวัน หนูเลยไม่อยากอยู่บ้าน ขอแม่ไปทำงานสักพักหวังแค่แม่จะอารมณ์ดีขึ้นไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้หนูอายุจะเข้าเลขสามแล้วค่ะ ยังไม่มีอะไรในชีวิตเลย หนูจากแม่มาทำงานได้สามเดือนก็เป็นห่วงและคิดถึงแม่เพราะช่วงหลังๆ แม่หงุดหงิดอารมณ์ร้ายกับทุกคน

 :41: :41: :41: :41:

อีกเหตุผลที่หนูกลับบ้าน หนูมีความหวังอีกอย่างคือจะได้แต่งงานกับแฟน เพราะเขามาสู่ขอแล้ว แต่แม่ก็เรียกแพงไป ทำให้ฝ่ายโน้นคิดว่าฝ่ายเราไม่ยกให้ จึงเฉยๆ กันไป หนูหวังว่าการแต่งงานของหนูจะช่วยแบ่งเบางานในสวน แล้วหนูก็ได้อยู่ใกล้แม่ ได้ดูแลแม่ แต่ปัญหาหนูมีแฟนแต่ไม่เคยได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน โทรคุยกันก็ไม่ได้ เพราะแม่กีดกัน

ทุกวันนี้แม่ก็ดุด่าหนูมากกว่าเดิม ด่าหยาบคายเช่น “ทุกวันนี้เมิงไม่คิดอะไรแล้ว คิดอยู่อย่างเดียวจะมีผัวอย่างเดียว” หนูเสียใจที่แม่คิดแบบนี้ แค่ไม่ให้หนูกับแฟนมาเจอกันมันก็ทรมานใจอยู่แล้ว แม่ยังพูดด่าทำร้ายจิตใจอีก ไม่เพียงแค่นี้น้องชายต่างพ่อยังด่าหนูอีก หนูเครียดอยากหนีออกจากบ้านแล้ว ท่านพระไพศาล หนูควรทำอย่างไรดีค่ะ แม่หนูดุมากไม่ยอมรับเหตุผลของหนูสักอย่าง หนูควรทำอย่างไรคะ


 ans1 ans1 ans1 ans1

วิสัชนา : ก่อนอื่นคุณควรไตร่ตรองดูว่าคุณแม่ไม่พอใจคุณเรื่องอะไร อาจมีสาเหตุอื่นนอกเหนือจากเรื่องคุณกับแฟนก็ได้ ถ้ามองเห็นว่าตนเองผิดพลาดในเรื่องใดก็ควรแก้ไขในเรื่องนั้น หรือหากท่านเข้าใจคุณผิด ก็ควรชี้แจงให้ท่านเข้าใจ จะช่วยให้ท่านยอมรับคุณได้มากขึ้น อารมณ์เสียกับคุณน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้ท่านไม่ขัดขวางการมีคู่ครองของคุณ

พยายามตั้งสติให้ดี แล้วหันมาใคร่ครวญดูว่าอะไรเป็นสาเหตุให้คุณแม่ใช้อารมณ์กับคุณบ่อย ๆ อย่าเพิ่งโทษท่านอย่างเดียว แต่ควรกลับมาดูที่ตัวคุณเองด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าท่านกลัวคุณจะทิ้งท่านไปหากคุณมีครอบครัว ในกรณีเช่นนั้นควรพูดให้ท่านมั่นใจว่าคุณจะยังอยู่ดูแลหรือช่วยงานท่านแม้จะออกเรือนไปก็ตาม


ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20150822/212061.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

mongkol

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: จะทำอย่างไร เมื่อแม่ไม่ยอมรับฟังเหตุผล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2015, 11:22:19 am »
0
ไม่ฟัง ก็ไม่ฟัง ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย
 อยู่กันไม่กี่ปี ก็ต้องจากกันแล้ว
  อะไรคือแก่นสาร อะไรเรียกว่า กตัญญู สิ่งที่พูดแสดงมาเรียกว่า คร่ำครวญเสียมากกว่า

 เกิดเป็นคนต้องรู้จักคิด พินิจว่าเพราะอะไร บางทีลูกอาจจะเล่ามาไม่หมด ไม่เล่าส่วนที่เสียของตน
การจะแก้เคสนี้ มันต้องไปคุยกับแม่ ด้วย หมายถึงต้องฟัง ความสองฝ่าย

   ผมอยู่ฝ่ายสงเคราะห์มาก่อน เข้าใจ ทำงานสังคม เมื่อก่อนเขามาร้องเรียน ลูกมาร้องเรียน ว่าพ่อแม่ ข่มเหงตีทุกวัน จนวันหนึ่งเราเข้าไปสอบถาม จากชาวบ้าน หลายบ้านและตามดูความจริงสองอาทิตย์ ก็ทราบว่า ลูกหนีออกไปกับผู้ชาย ทุกวัน พ่อแม่เป็นห่วง ไม่รู้จะทำอย่างไร ห้ามก็ไม่ฟัง สุดท้ายก็ต้องเฆี่ยนตี เวลา หญิง ชาย ติดสัตว์ มันห้ามยาก ห้ามให้เลิกกันยังไม่ถึง วัย มันทำไม่ได้

   ที่บ้านหนึ่ง พ่อเป็นทนายห้ามลูกไว้ไม่ให้ไปกับผู้ชายกลางคืน ลูกรั้นหนีไป อุบัติเหตุรถชน ลูกเข้าโรงบาล ผ่าตัดสมอง พ่อแม่จ่ายตังค์ตามดูแล หมดกันเป็นแสน ในขณะที่ฝ่ายชายไม่ได้ช่วยอะไรเลย สุดท้ายพอหายมา ความหลงมันมีมากกว่าความกตัญญู เด็กผู้หญิง ก็หนีไปอยู่บ้านผู้ชาย

   พ่อแม่ละ ทุกข์ใจสิครับ

    ตบมือข้างเดียวไม่ได้ สังคมวันนี้ ต้องสอดส่ง ฟังความข้างเดียวไม่ได้ครับ

     :49:
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: จะทำอย่างไร เมื่อแม่ไม่ยอมรับฟังเหตุผล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2015, 09:36:31 am »
0



จะทำอย่างไร เมื่อแม่ไม่ยอมรับฟังเหตุผล
ปุจฉา-วิสัชนา กับพระไพศาล วิสาโล

ปุจฉา : ท่านพระไพศาลคะ แม่ส่งให้เรียนจบปริญญาตรีแบบมิได้บังคับสาขาวิชา แต่หนูหางานทำตรงสายไม่ได้ แม่บอกให้กลับมาอยู่บ้านทำสวนดีกว่า สุดท้ายยังไงมันก็ตกเป็นของหนูแม่สร้างไว้ให้ลูกๆ หนูทำสวนหนูก็ไม่เกี่ยงนะคะ หนูทำได้แต่ไม่ได้หมดทุกอย่าง

ตอนแรกหนูมีกำลังใจที่จะทำสวนมากๆ เพราะยิ่งถ้าได้ผลผลิตเร็วเท่าใดก็ยิ่งดี แต่อยู่มาหลังๆ แม่เริ่มดุด่าหยาบคายแรงขึ้นทุกวัน หนูเลยไม่อยากอยู่บ้าน ขอแม่ไปทำงานสักพักหวังแค่แม่จะอารมณ์ดีขึ้นไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้หนูอายุจะเข้าเลขสามแล้วค่ะ ยังไม่มีอะไรในชีวิตเลย หนูจากแม่มาทำงานได้สามเดือนก็เป็นห่วงและคิดถึงแม่เพราะช่วงหลังๆ แม่หงุดหงิดอารมณ์ร้ายกับทุกคน

 :41: :41: :41: :41:

อีกเหตุผลที่หนูกลับบ้าน หนูมีความหวังอีกอย่างคือจะได้แต่งงานกับแฟน เพราะเขามาสู่ขอแล้ว แต่แม่ก็เรียกแพงไป ทำให้ฝ่ายโน้นคิดว่าฝ่ายเราไม่ยกให้ จึงเฉยๆ กันไป หนูหวังว่าการแต่งงานของหนูจะช่วยแบ่งเบางานในสวน แล้วหนูก็ได้อยู่ใกล้แม่ ได้ดูแลแม่ แต่ปัญหาหนูมีแฟนแต่ไม่เคยได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน โทรคุยกันก็ไม่ได้ เพราะแม่กีดกัน

ทุกวันนี้แม่ก็ดุด่าหนูมากกว่าเดิม ด่าหยาบคายเช่น “ทุกวันนี้เมิงไม่คิดอะไรแล้ว คิดอยู่อย่างเดียวจะมีผัวอย่างเดียว” หนูเสียใจที่แม่คิดแบบนี้ แค่ไม่ให้หนูกับแฟนมาเจอกันมันก็ทรมานใจอยู่แล้ว แม่ยังพูดด่าทำร้ายจิตใจอีก ไม่เพียงแค่นี้น้องชายต่างพ่อยังด่าหนูอีก หนูเครียดอยากหนีออกจากบ้านแล้ว ท่านพระไพศาล หนูควรทำอย่างไรดีค่ะ แม่หนูดุมากไม่ยอมรับเหตุผลของหนูสักอย่าง หนูควรทำอย่างไรคะ


 ans1 ans1 ans1 ans1

วิสัชนา : ก่อนอื่นคุณควรไตร่ตรองดูว่าคุณแม่ไม่พอใจคุณเรื่องอะไร อาจมีสาเหตุอื่นนอกเหนือจากเรื่องคุณกับแฟนก็ได้ ถ้ามองเห็นว่าตนเองผิดพลาดในเรื่องใดก็ควรแก้ไขในเรื่องนั้น หรือหากท่านเข้าใจคุณผิด ก็ควรชี้แจงให้ท่านเข้าใจ จะช่วยให้ท่านยอมรับคุณได้มากขึ้น อารมณ์เสียกับคุณน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้ท่านไม่ขัดขวางการมีคู่ครองของคุณ

พยายามตั้งสติให้ดี แล้วหันมาใคร่ครวญดูว่าอะไรเป็นสาเหตุให้คุณแม่ใช้อารมณ์กับคุณบ่อย ๆ อย่าเพิ่งโทษท่านอย่างเดียว แต่ควรกลับมาดูที่ตัวคุณเองด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าท่านกลัวคุณจะทิ้งท่านไปหากคุณมีครอบครัว ในกรณีเช่นนั้นควรพูดให้ท่านมั่นใจว่าคุณจะยังอยู่ดูแลหรือช่วยงานท่านแม้จะออกเรือนไปก็ตาม


ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20150822/212061.html




 st12 st12 st12 st11
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ