ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คนที่อยู่กันมา 10 กว่าปีต้องเลิกร้างกัน จะช่วยอย่างไรดี  (อ่าน 8226 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

lastman

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 158
  • สระบุรี มีอรอยพระพุทธบาทมากที่สุด.................
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปัญหาครอบครัว อีกแล้วเพื่อน ๆ สมาชิก เป็นข้อความจากเพื่อนของผม



อ้างถึง
แฟนผม มีปฏิกิริยาแปลก ๆ มา 3-4 เดือน ตั้งแต่ผมซื้อโทรศัพท์ให้เขา



    ปกติผมก็ไม่ค่อยได้สนใจกับเรื่องงานของแฟนผม เพราะเราแต่งงานอยู่กินกันมาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว มีลูกสาว 1 คนแฟนผมปีนี้อายุ 29 ปี ลูกสาวอายุ 10 ปี

   แฟนผมมีกิริยาแปลก ๆ คือชอบคุยโทรศัพท์กลางคืนบ่อยขึ้น และจะคุยหนุงหนิง เริ่มคุยนานขึ้นผมถามว่าคุยกับใคร เขาตอบว่าคุยกับแม่

    จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้ไปหาแม่เขาเข้าและพูดขึ้นว่า เดี๋ยวนี้แม่ชอบคุยโทรศัพท์กับ ลูกสาว บ่อยนะ คำตอบจากแม่แฟนผมตอบมาว่า โทรศัพท์ ข้ายังไม่มีโทรศัพท์ สักเครื่องผมก็อึ้ง

    คืนนั้นผมก็เลยแอบฟัง แฟนผมพูดโทรศัพท์จนกระทั่งความแตก และจับได้ว่าแฟนผมมีกิ๊ก ผมก็แอบตามสืบดูจนรู้ว่าเป็นใคร มันเจ็บที่ใจมากครับพี่ มันปวดกลางใจ ( ก็น่าจะใช่เพราะงานที่เพื่อนผมคนนี้มันทำออกมาไม่ดีเลยมีผลกับงานมาก )

    จากนั้นมาอีกประมาณ 1 เดือนแฟนผมก็บอกเลิกกับผม เพราะอะไรจิตใจผู้หญิงถึงแปรปรวนอย่างนี้ หรือผมจะดีเกินไป ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสีย ทำงานหาเงิน เลี้ยงลูก และแฟนมาตลอด
     
ตอนนี้แฟนผมได้ขอหย่าผม และวางแผน เรื่องสมบัติอีก มีการมาหลอกให้เซ็นชื่อมอบอำนาจให้ตัวเขาเป็นผู้ดูแลลูก และสมบัติด้วย ทำไมเขาจึงหักหลังผมได้อย่างนี้


เพื่อนสมาชิก มีคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยเพื่อนผมคนนี้ได้หรือป่าวครับ

ยิ่งตอนนี้ จากคนดี ๆ ไม่เคยกินเหล้า ก็มานั่งกินเหล้า นั่งเงียบ นั่งซึม

คนที่เคยขยันทำงาน ก็เป็นคนขาดงาน ขาดการ ซะนี่

ชีวิตคน ทำไมช่างวุ่นวาย เสียจริงครับ

ผมเอง ก็เป็นคนวัด ถึงแนะนำให้ปล่อยวาง ก็ยังไม่เกิดประโยชน์อะไร เลยกับคำแนะนำ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2010, 06:33:45 am โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
อนันตริยกรรม ๖ พึงงดเว้น
มีเพื่อนบอกว่าคุณจะเลวอย่างไรก็ได้ แต่อย่าทำผิดศีล ๕

ทิด...คนหนึ่งที่นับถืออาจารย์

lastman

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 158
  • สระบุรี มีอรอยพระพุทธบาทมากที่สุด.................
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
วันนี้ ผมได้ดูรายการตีสิบ เพราะต้องทำงานดึก

เป็นเรื่องของผู้หญิง คนหนึ่ง ที่ประชดแฟนด้วยการ กินน้ำยาล้างห้องน้ำ เพื่อฆ่าตัวตายประชดครับ

บทสัมภาษณ์ หยาดน้ำตา และชีวิต หลังจากรอดตายนั้น เหมือนตายทั้งเป็นครับ

เพราะ เธอไม่มีกระเพาะ และชีวิต ต้องอยูด้วย พ่อ แม่

ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากให้ทุกคน ได้ใช้ชีวิตให้เป็น เพราะแท้ที่จริง ไม่มีอะไรเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้

ของการดำเนินชีวิต

แท้ที่จริง ปุถุชน นั้นย่อมมองเห็นว่าการเป็นคู่ นั้นมีความสำคัญมาก

ชีวิต ก็ต้องเวียนวนอยู่ ด้วย รัก โลภ โกรธ หลง

ถ้าได้คู่ ที่ดี ก็อยู่กันจนแก่เฒ่า

แต่ความเป็นจริง ในยุคที่ มนุษย์กำลังพัฒนา แต่เทคโนโลยี แต่ไม่พัฒนาจิตใจ

หนุ่ม สาว ปัจจุบันนี้ ไม่สนใจเรื่องการพัฒนาจิต แบบเมื่อก่อน


---------------------------------------------------------

วันนี้ผมได้ พบเพื่อนผมคนนี้ กลับอาการที่น่าละเหี่ยใจ เหมือนคนไร้สติ

สิ่งที่ผมทำได้ ตอนนี้ ก็คือ การเตือนสติ และ ดึงสติ ของเพื่อนผมกลับมา

แต่ผมจะทำอะไรได้มากกว่านี้

ถ้าเพื่อนผม ไม่เป็นเครื่องรับ ที่รับเรื่อง

เป็นเครื่องที่ว่างเปล่า

=============================================

เมื่อช่วงบ่าย ผมได้ฟังเรื่อง ปฏาจารา แล้ว

จึงทราบว่า

ปุถุชน คนเรา ล้วนแล้ว ทิ้งชีวิต กับคำว่า รัก ผู้อื่น แต่ แท้ที่จริง ปุถุชน คนเราเกิดมา

เพื่ออะไร ต้องเวียนวน ตายเกิด อยู่กับเรื่องอย่างนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด

==================================================
หวังว่าเรื่องราว ที่เล่าให้ฟัง คงมีประโยชน์ กับเพื่อนสมาชิกบ้างนะครับ

บันทึกการเข้า
อนันตริยกรรม ๖ พึงงดเว้น
มีเพื่อนบอกว่าคุณจะเลวอย่างไรก็ได้ แต่อย่าทำผิดศีล ๕

ทิด...คนหนึ่งที่นับถืออาจารย์

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


นี่หรือ ชีวิตคู่


ขออนุญาตเปลี่ยน วีดีโอให้นะครับ เพราะที่คุณโพสต์ไว้นั้นปัจจุบันไม่มี วีดีโอแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 07, 2013, 10:56:59 am โดย vichai »
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มีเพลง ภาคใต้ บทหนึ่งที่ นีย์ ร้องได้ตั้งแต่อายุ 14

แลหนัง แลคอน ให้ย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง........


 :88: :88:

ขอให้เพื่อนคุณ Lastman ได้สติเร็ว ๆ นะคร้า
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
จากประสพการณ์ ชีวิต ของผมเห็นว่า

ผู้ที่กำลังตกอยู่ในฐานะอย่างนี้ นั้น

   ส่วนมากแล้วต้องการ เพื่อน คอยเตือน สติ ครับ

   ถึงแม้ว่า วันนี้ เราจะเตือนหรือ ช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ เชื่อคนแก่อย่างผมเถอะครับ
 
   เวลา เป็นที่เยียวยาหัวใจ

     การเตือนของเรานั้น จะช่วยให้เขาตัดสินใจ ในทางที่ผิดน้อยลง นั่นเป็นบุญกุศล
   
     การพูด การคุย ของเรานั้น เรื่องอย่างนี้ จะให้เห็นผลทันที นั้นเป็นไปได้ยากครับ

ถ้าบุคคลที่ ตกอยู่ในสภาวะนี้ ส่วนมากแล้วจะเป็นพวกที่ จริงจังกับชีวิตมากครับ

  คนที่จริงจัง กับชีวิตนี้ ส่วนใหญ่ จะเป็นคนหนักไปทาง โทสะ และ วิตก เป็นส่วนใหญ่ครับ

ดังนั้น การชักนำ มีผล ครับ

  และก็อีกเช่นกัน บางคน หลงโลก เป็นอย่างมาก ถึงกับถึงชีวิตเลยครับ

  ที่ผมพบมา ถึงกับทำลายชีวิต ตนเอง ประชดโลก ประชดสังคม ไปเลยครับ พวกนี้ช่วยยากมากครับ

==========================================================


  ยังไง ก็ให้ นึกถึง พวก บัวสี่เหล่า ด้วยนะครับ

  อย่าคาดหวัง ในการช่วยผู้อื่น จงคาดหวังที่หัวใจเรา ว่า...ทำอะไรอยู่

 
=========================================================


 :25: :25: :25:

       สัตว์มนุษย์ เสมอกัน อยู่สี่อย่าง   
     
       กิน นอนอยู่ เสพกาม มีภัยหนี
   
       ส่วนมนุษย์ สูงกว่าสัตว์ บรรดามี

       เพราะใจดี มีคุณธรรม ค้ำประคอง

                     เครดิตกลอนนี้ของพระอาจารย์ครับ ธัมมะวังโส







     
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา

รักหนอ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +22/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 369
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อันความรัก เมื่อเกิดขึ้นแก่ใครแล้ว ย่อมทำให้พบแต่ความทุกข์

มีความปรารถนา สิ่งใด ไม่ได้ สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์

ความพลัดพราก จากสิ่งที่เป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์

ความประสบกับสิ่ง ไม่เป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์

=======================================



พระพุทธองค์ สอนให้เราฉลาด ในการดำเนิน ชีวิต นะคะ

=======================================

รักหนอ ก็พึ่งผ่าน เหตุการณ์ เรื่องรักมาไม่นาน ตอนนี้ปล่อยวาง ได้แล้วคะ

ส่วนผู้ชาย ที่เราหลงรัก นั้นตอนนี้ก็เตรียมเข้าวิวาห์ กับเพื่อน รักหนอ แล้ว

เฮ้อ .........

===========================================
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2010, 08:29:28 am โดย รักหนอ »
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ความรัก คือ แก่นแท้ของชีวิตจริงหรือ ?


ความรัก คือ เงื้อนปมแห่งพันธสัญญาระหว่างคนสองคน ที่จะขอผูกพันธ์อยู่ร่วมสุขร่วมทุกข์กันชั่วชีวิต 

นี่คือนิยามแห่งหลักการและเหตุผลที่ดูงดงาม แต่ความเป็นจริงแล้ว กลับมีหย่าร้างเลิกรา เมื่อใจมีรัก แต่ขาด

ธรรม ชีวิตก็บรรลัยนับแต่เริ่ม คนเราต้องการความรัก และน้อมเอาคนอื่นเข้ามาข้องแวะในชีวิต โดยพิจารณาเห็น

นิยามแห่งรักเพียงหลักการที่ดูงดงามเพียงผิวเผิน เมื่อหลงเพลินก้าวย่างเดินก็ตกหลุมพรางให้เจ็บจำเป็นบทเรียน

หลายคนแก้ปัญหาชีวิตไม่เป็นด้วยการสร้างเงื้อนปมปัญหาแห่งทุกข์เข้าไปซ้ำเติมตัวเอง เพราะใจขาดศีลขาด

ธรรม ขาดความชั่งใจหลงลืมบทบาทแห่งตัวตนที่เป็นจริง เพ้อฝันเกินเลยไป ว่าตัวเองนั้นสำคัญมีค่ามีความ

หมายเป็นที่หมายใจ แท้จริงแล้วเราหลอกตัวเอง หลงตัวเอง ตกเป็นทาสกิเลสเพราะรู้ไม่เท่าทันมัน ชีวิตก็ลื้น

ไหลไปตามแรงผลักแห่งกิเลสกรรม ที่สุดก็ทุกข์ ชีวิตในหลายๆคนเป็นอย่างนี้เสียมาก เราท่านลองหันมาพิจารณา

ตัวตนอย่างผู้มีสติมีธรรม รู้แก้ปัญหาอย่างรู้เท่าทัน รู้ระงับยับยั้ง อย่างผู้มีศีล รู้คุณค่าความหมายในชีวิตแท้ อยู่

อย่างผู้ไม่มีเวรภัย ไม่ผูกเวรสร้างกรรมกับใคร ใช้ชีวิตอย่างรู้เห็นค่าอย่างมีความสุขกันเถอะครับ


คิดจาก พรากกัน บั่นทอน

รักคลอน ครางแครง แยกกัน

คู่เคียง เลี่ยงเดิน เมินครัน

น่าขัน ขลาดเขลา เศร้าใจ

                   ธรรมธวัช..!


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 05, 2010, 07:50:57 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

NP2706

  • เราต้องสร้างสะพานระหว่างสมองกับหัวใจ ให้ความรู้ที่เป็นสัญญานี้ทราบซึ้งเข้าไปถึงหัวใจ
  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 96
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คนที่อยู่ด้วยกันเป็นคู่นั้นอาจต้องมีธรรมะที่เสมอกัน ไม่แตกต่างกันเท่าใด ซึ่งเมื่อต้องแยกกันด้วยเหตุผลประการใด สิ่งที่ต้องเก็บไว้ก็คือสิ่งที่ดีๆ ที่เคยมีต่อกัน :58: อย่างน้อยก็เมื่อระลึกถึงกันหรือต้องพบปะเจอกัน  แต่ความรู้สึกเสียใจย่อมเป็นธรรมดา เพราะความมีสุข ย่อมคู่กับความมีทุกข์ เป็นหลักสัจจธรรม สี่งที่แนะนำได้ในหลักธรรม ก็คงจะเป็นการแผ่เมตตา   :25:ตราบเท่าที่เราให้อภัย มุ่งหวังให้เขามีความสุข พ้นจากความทุกข์ ความเศร้าโศก หม่นหมอง อาจจะคลายลงไปบ้าง แต่อย่าลืมว่าการแผ่เมตตาส่วนสำคัญก็ต้องไม่ลืม ตนเอง เพราะถ้าเราไม่หวังให้ตัวเราพ้นทุกข้ โศรกเศร้าเสียใจ หรือเรียกง่ายๆ ว่าถ้าเรายังไม่รักตนเองแล้ว ใครจะมารักเรา หรือเราจะไปรักใครได้ นะ :welcome:
บันทึกการเข้า
"Only two things are infinite, the universe and human stupidity,
and I'm not sure about the former."

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
คู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันดอก

ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร

รักเธอเท่าฟ้า รักเธอเหนือจักรวาล

ทั้งชีวิตนี้ทำได้เพื่อเธอ แม้ชีวิตนี้ก็มอบให้เธอได้



ด้านบนนี้ ก็เป็นคำพูด ที่เกี่ยวกับความรัก ที่ทั้ง ชาย และ หญิง ที่รักกัน หรือ สิเน่หา กล่าววาจาได้ อรรถรส

ประดับจิตใจ ฟังแล้ว ก็ชุ่มชื่นหัวใจ สำหรับ คนหนุ่ม สาว หรือไม่หนุ่ม ไม่สาว



พิจารณากันให้ดี แล้ว คู่ที่อยู่กินกัน แล้วอยู่กันยืดจนปิดฝาโลงให้ซึ่งกันและกัน นั้นหาได้ยากจริง ๆ แต่ก็ใช่จะไม่มี ในปัจจุบันมีสาเหตุมากมายที่ทำให้คู่ต่าง ๆ นั้นอยู่กันไม่ยืด หรือ ไปได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง รวมสาเหตุแล้วนยานับประการ ซึ่งนักออนไลน์ล้วนแล้วหาอ่านได้ ในเว็บมากมายเลย แม้หน้าหนังสือพิมพ์ ก็มีแทบจะทุกวัน



แต่ในหลักธรรมในพระพุทธศาสนานั้น ประมวลแล้ว ก็มีเพียงเรื่องเีดียว คือ ผิดศีล และ ผิดธรรม

ผิดศีล ก็คือละเมิด ต่อศีล 5 อันเป็นพืิ้นฐานของมนุษย์ จึงทำให้ต้องเลิกร้างกัน

ผิดธรรม ก็คือขาดการพัฒนาทางด้านจิตใจ ให้หลงใหลใฝ่ตัณหา คือความอยาก

ดังนั้นเมื่อมีคน ผิดศีล ผิดธรรม ก็จึงมีเรื่องของความร้าวฉานในความรัก เกิดขึ้นมากมาย เพราะความไม่รู้จักพอ

ในรสแห่งความอยาก

ดังนั้นผุ้ที่ไม่ได้ฝึกจิตมา ก็ย่อมประสพกับสภาพทางจิตใจ คือเป็นความทุกข์

ยกตัวอย่างเมื่อเราเห็นคนที่เรารัก กำลังไปผิดศีลกับ คนอื่น ต่อหน้า หรือ ได้ยิน มาจิตใจของคนผู้นั้นย่อมเร่า

ร้อนไปด้วยความผิดหวัง ความโกรธ หัวใจจะเต้นเร็ว ตุบ ๆ ตับ ๆ ในหน้าอก เวิ้งว้างเพราะความทุกข์เข้าเสียด

แทงใจ

ดังนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงชี้ให้เห็นความเป็นจริงว่า

นั่นไม่ใช่เรา นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ได้เป็นตัวตนของเรา ไม่ควรเข้าไปยึดมั่น ถือมั่น

เมื่อรู้ดังนี้จิตใจก็จักปล่อยวาง แม้สังขารคือกายเราเองยังบังคับบัญชาไม่ได้ เราจะมีอำนาจอะไรไปบังคับบัญชา

สังขารของผู้อื่นได้ เมื่อจิตรู้เห็นตามความเป็นจริงดังนี้ ก็จักปล่อยวางความทุกข์ทั้งปวงลงได้


แต่เพราะสภาพจิตที่ไม่ได้ปล่อยวาง กับสนองอารมณ์ตัณหา วาดฝันไว้ จึงทำให้เกิดนำปัญหา 108 1000

ประการเข้ามารุม หนักเข้า ก็จักคิดสั้น ทำลายชื่อเสียง วงศ์ตระกูล พวกพ้อง และ เป็นบุคคลที่บ้าไปในที่สุด


พิษแห่งความรัก ( ตัณหา ) นี้ย่อมร้อยรัดหมู่สัตว์ ให้ติดอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์ นับเป็นคนมากมาย

ทางออกของบุคคลนี้ ถ้าไม่มีกัลยาณมิตร ก็ต้องใช้เวลาประสานใจให้หาย ยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น

อย่าคิดสั้น ๆ

ทางออกของบุคคลที่มีกัลยาณมิตร ย่อมผ่องใสกว่า เพราะมีคนคอยชี้แนะ





ที่น่าเป็นห่วง คือ ไม่ว่า ภาพยนต์ หนัง ละคร เวลาคนมีปัญหาเรื่องความรัก นี้ทีไร มักจะแสดงวิธีแก้ปัญหา

พอจะสรุปได้แทบจะทุกเรื่องคือ การกินสุรา การตบตี การตามฆ่า ซึ่งเมื่อคนได้ชมและรับข้อมูลก็เลยเป็น

แฟชั่นในการแก้ปัญหาอย่างนี้

อาตมายังรอ ว่าจะมีบุคคลใด ที่ประสพปัญหาของความรัก และแก้ปัญหา อย่างถูกวิธี

ก็เห็นมาโพสต์อยู่เรื่องเดียว

ลองอ่านเรื่องนี้ดู ถึงแม้จะไม่มีภาคต่อ แต่คุณโยมผู้นี้ก็ประสพความสำเร็จในการใช้หลักธรรม ครองชีวิต

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=443.0



ก็ขอ ให้คุณโยม ที่ประสพปัญหา แบบนี้ทุกท่าน ผ่านพ้นปัญหา ได้อย่างดี ทุกท่าน
 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

translate

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 105
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
รักแท้ ก็มีอยู่ น่าชื่นชม
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 01, 2010, 11:09:46 pm »
0
ข่าว รักนิรันด์! แม่เฒ่านอนกอดศพผัว3วัน


12 ส.ค. พ.ต.ท.วิชาญ บัวศักดิ์ พงส. (สบ.3) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 18 ถนนราเมศวร ต.ในเมือง อ.เมือง ซึ่งเป็นบ้านของนางประทุม ต้นไสว อายุ 83 ปี หลังจากที่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านในละแวกว่าได้กลิ่นเหม็นเหมือนซากศพ ลอยออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว จึงเข้าตรวจสอบพบศพนายประสงค์ ต้นไสว อายุ 93 ปี นอนอยู่ในมุงสภาพเริ่มขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง



จาก การสอบถามนางประทุม ให้การว่า นายประสงค์ เป็นสามีที่อยู่กินกันมากว่า 60 ปี ช่วงสามียังมีชีวิตก็รักกันมาก แทบไม่เคยมีปากเสียงกันและคิดจะจากกันเลย จนเมื่อ 2 เดือนก่อน สามีเกิดเป็นอัมพาต ตนจึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ไม่เคยคิดจะทิ้งไปไหน กระทั่งมาจากไปเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังรู้ว่าสามีหมดลมแล้ว ด้วยความที่กลัวว่าจะต้องพรากกัน จึงเก็บเรื่องไว้ไม่บอกใคร นอนกอดศพมา 3 คืนแล้ว



เจ้า หน้าที่จึงขออนุญาตนำศพส่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่นางประทุม ไม่ยินยอม โดยให้เหตุผลว่า ต้องการรอลูกที่ทำงานอยู่ต่างถิ่นให้กลับมาดูศพพ่อเป็นครั้งสุดท้าย แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามหาเหตุผลมาอธิบาย นางประทุม ก็ไม่ยอม จนเจ้าหน้าที่ต้องยอมล่าถอยกลับ




กระทั่ง ช่วงค่ำลูกบุญธรรมเดินทางกลับมาเคารพศพพ่อแล้ว ทางเพื่อนบ้านและนางประทุม จึงติดต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ เพื่อให้มานำศพไปดำเนินการชันสูตร ซึ่งระหว่างนำศพออกจากบ้านนางประทุม ถึงแทบรับไม่ได้ยืนมองด้วยสายตาอาลัย



สำหรับ ผลการชันสูตรพบว่านายประสงค์ เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลวจากโรคชรา จากนั้นได้ประสานมอบศพให้นางประทุม นำกลับไปบำเพ็ญตามหลักศาสนาที่วัดหนองบัว อ.เมืองพิษณุโลก ต่อไป



อยู่ใน email มาแบ่งให้อ่านครับ
บันทึกการเข้า