ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิถีข้าว วิถีไทย..แต่จะถึงเมื่อไร.?  (อ่าน 865 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
วิถีข้าว วิถีไทย..แต่จะถึงเมื่อไร.?
« เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2019, 06:30:19 am »
0



วิถีข้าว วิถีไทย...แต่จะถึงเมื่อไร.?

เวลากลับบ้านที่ต่างจังหวัดในช่วงฤดูร้อน ผู้เขียนมักเห็นนาข้าวสีเหลืองทองอร่ามงามสุดลูกหูลูกตา เวลาแห่งการเก็บเกี่ยวใกล้เข้ามาแล้ว เห็นอย่างนี้ บางคนอาจฮัมเพลง บ้างอาจนึกถึงภาพวาดชนบทไทย หรือบางคนก็อาจนึกถึงข้าวสวยร้อนๆ กับไข่เจียว

วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับข้าวมาช้านาน เมืองไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารการกิน ตั้งแต่ยุค “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” แม้ในคำทักทายของเราก็ยังถามกันว่า “กินข้าวหรือยัง” แสดงความใส่ใจในปากท้องที่เรามีให้กัน

ชาวนาไทยแต่โบราณปราดเปรื่องเรื่อง “ข้าว” เราไม่ได้มีเพียงข้าวหอมมะลิ หอมนิล เสาไห้ ไรซ์เบอรี่ สังข์หยด ฯลฯ แต่ชาวนาไทยได้พัฒนาสายพันธุ์ข้าวจนเกิดข้าวพันธุ์พื้นเมืองกว่า 24,000 ชนิด เช่น ข้าวลืมผัว ข้าวพญาลืมแกง ข้าวพม่าแหกคุก เป็นต้น

@@@@@@

ข้าวมีความหมายกับเรามากจนเรายกให้ชาวนาเป็น “กระดูกสันหลังของชาติ” เพราะชาวนาผลิตอาหารหลักเลี้ยงผู้คน และยังมีส่วนสร้างเศรษฐกิจของประเทศด้วย เพราะข้าวยังเป็นพืชส่งออกอันดับหนึ่ง

แต่วันนี้ กระดูกสันหลังของชาติไม่ค่อยแข็งแรงนัก ชาวนาทำงานหนัก และโดยส่วนใหญ่ยังยากจน มีหนี้สิน อันเกิดจากต้นทุนการเกษตรที่สูงกว่าราคาผลผลิต ชาวนามีปัญหาสุขภาพ อันเกิดจากการใช้สารเคมีในการเกษตร เป็นต้น แม้หลายรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลืออย่างการประกันราคาข้าว หรือโครงการจำนำข้าว แต่ก็ดูเหมือนว่าจะแก้ไปไม่ถึงต้นตอของปัญหา

ยิ่งไปกว่านั้น กระดูกสันหลังของชาติเริ่มเข้าสู่วัยชรา และมีจำนวนลดลง ลูกหลานก็ไม่ได้สานต่ออาชีพเกษตรกร ที่ดินในการทำนาก็ถูกผันไปปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ ที่รัฐสนับสนุนและชวนเชื่อว่าจะทำรายได้ให้ดีกว่า เช่น ยางพารา อ้อย ข้าวโพด มะนาว ทุเรียน เป็นต้น นอกจากนั้น การขยายตัวของเมืองและภาคอุตสาหกรรมก็ทำให้ผืนดินอันอุดมสมบูรณ์หดหายไป


@@@@@@

อนาคตของข้าวไทย จะเป็นอย่างไร.?

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง หนึ่งในสิ่งที่ช่วยเชิดชูความหมายของข้าวในสังคมไทยและสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวนา คือ พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ที่จัดขึ้นในช่วงเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกของทุกปี

สำหรับผู้บริโภคอย่างเรา พระราชพิธีนี้อาจไม่มีความหมายอะไรมากนัก แต่สำหรับเกษตรกรแล้ว พวกเขาเฝ้ารอคำนำทายจากพระโคที่จะกินอาหารเสี่ยงทายเรื่องดินฟ้าอากาศ เพื่อให้เตรียมการเพาะปลูกให้ดี

พวกเขาตั้งตารอ และเตรียมวิ่งกรูเข้าไปเก็บเมล็ดข้าวเปลือก ที่พระยาแรกนาหว่านลงบนพื้น เพื่อนำเมล็ดข้าวไปบูชาหรือเพาะปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล ตราบใดที่ยังมีพระราชพิธีนี้ ชาวนายังคงมีกำลังใจ วิถีข้าวจะยังคงอยู่ในสังคมไทย และเราก็มั่นใจได้ว่า จะยังคงมีข้าวไทยอร่อยๆ ให้ได้กิน ขอขอบคุณชาวนา


ขอบคุณที่มา : https://www.sanook.com/campus/1395361/
11 พ.ค. 62 (09:21 น.)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: วิถีข้าว วิถีไทย..แต่จะถึงเมื่อไร.?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2019, 12:58:26 pm »
0
 thk56 like1
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น