ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถาม ทำไมต้องปิดทองหลังพระ ด้วยครับ แล้วอย่างนี้ พอจ จะได้อะไรจากการปิดทองหลังพระ  (อ่าน 819 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ถาม ทำไมต้องปิดทองหลังพระ ด้วยครับ แล้วอย่างนี้ พอจ จะได้อะไรจากการปิดทองหลังพระ ครับ

ตอบ การปิดทองหลังพระนั้น ก็เป็นการทำตามพระราชโอวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9

ในหลวงท่านได้ทรงสอนพสกนิกรพี่เก่งๆ ว่าให้ทำการปิดทองหลังพระ หมายถึงการทำอะไรที่เป็นสิ่งที่ดีแต่ไม่ต้องประกาศว่าตนเองได้เป็นคนทำ เพื่อหลีกเลี่ยงความชอบและไม่ชอบของคนอื่นทั้งหลาย หรืออีกนัยหนึ่งก็เป็นการทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองโดยที่ไม่ได้หวังสิ่งอะไรตอบแทนกลับมา
เป็นการกระทำที่เสียสละเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวได้มีความสุข ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่

มองตามนโยบายของในหลวงก็เป็นการสอนให้คนที่ทำนั้นรู้จักการทำความดีโดยที่ไม่ต้องหวังเสียงสรรเสริญหรือผลตอบแทนกลับมา การทำคุณงามความดีนั้นควรจะเป็นสิ่งที่ทำออกมาจากจิตใจ

การทำคุณงามความดีนั้น มันอาจจะไม่มีรางวัลให้ไม่มีเสียงสรรเสริญให้ ไม่มีใครยกยอปอปั้น แต่ผลของการทำความดีนั้นคนที่เห็นความดีนั้นก็คือตนเอง เป็นผู้เห็น ผู้รู้ ผู้ที่กล่าวคำอนุโมทนา กับตนเอง ซึ่งสมควรเรียกบุคคลที่ทำการปิดทองหลังพระนั้น ว่าเป็นคนที่เสียสละ การเสียสละนั่นจัดว่าเป็นคุณธรรมที่สูงก็คนส่วนใหญ่นัน ถ้ามักทำอะไรที่เรียกว่าคุณงามความดีก็มักจะต้องแสดงความเป็นเจ้าของว่าเราเป็นคนทำเพื่อให้คนอื่นนั่นเห็น เพื่อจะได้มีคนมาสรรเสริญยกย่อง แต่คนที่ทำแบบปิดทองหลังพระ จะข้ามขั้นตอนเรื่องคนตอบสนองและผลตอบแทนไปทันที ซึ่งมองให้ดีก็จะเห็นใจของ ปิดทองหลังพระ นั้น สูงส่งกว่าเป็นอย่างมาก โลก ประเทศชาต สังคม ยังต้องการคนที่ปิดทองหลังพระ

ดังนั้นการปิดทองหลังพระเป็นการกระทำที่สมกับเป็นพสกนิกรของในหลวง ตามที่พระองค์ได้ให้พระราชดำรัส กับเหล่าบัณฑิตให้ทำเพื่อบ้านเมืองไว้ นั่นเอง

สำหรับการปิดทองหลังพระ ส่งเสริมธรรมทาน นั้น

ในส่วนของธรรมทานไม่ใช่เป็นแต่เพียงทำตามพระราชดำรัสของในหลวงเท่านั้นแต่เป็นการกระหำตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย

การปิดทองหลังพระ ก็คือการทำกุศลโดยที่กุศลนั้นเป็นกุศลที่เกิดขึ้นจากจิตใจที่ดีงามแล้วเมื่อกระทำลงไปก็ไม่ได้หวังประโยชน์อะไรนอกจากความปีติ อิ่มใจ พอใจ สุขใจ ที่เกิดขึ้นในใจ การทำสิ่งใดๆที่หวังแค่ผลคือความอิ่มใจ พอใจ สุขใจ เป็นการกระทำที่ปราศจากกิเลสเคลือบแฝงดังนั้นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าโดยที่กระทำเยี่ยงนี้ ย่อมยังมีจิตใจที่สูง เป็นจิดที่ปราศจากกิเลสเคลือบแฝงในจิตใจ

การปิดทองหลังพระนั้นจัดเป็นการสร้างกุศลที่สูง
เพราะ เป็นการทำทาน เป็นการเสียสละ เพื่อลดระดับกิเลส ของผู้ภาวนาโดยตรง

ก็ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ร่วมส่งเสริม ธรรมทานปิดทองหลังพระ กลับ ธัมมะวังโส มาด้วยกัน

สุขใดไหนจะเท่า สุขแห่งจิต ที่มีปีติ อิ่มใจ พอใจ สุขใจ ที่เกิดขึ้นแล้วในจิตใจ เป็นสิ่งที่สนับสนุนคุณธรรมทางด้านจิตใจในการประพฤติปฏิบัติ เจริญรอยตามครูอาจารย์ อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้อีกแล้ว

ขอให้ทุกท่านที่ได้ร่วมส่งเสริมปิดทองหลังพระ ร่วมกันกับ ธัมมะวังโส ได้ถึงที่หมายปลายฝั่งการคือการสิ้นสุดกิเลส ชื่อว่า มรรคผลนิพพาน โดยไว ฉับพลันทันใด ตามความปรารถนาเทอญ

เจริญธรรม / เจริญพร
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ