ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ใครกันแน่.? เป็นผู้สร้าง "พระวัดพลับ"  (อ่าน 16184 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
พระพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ วัดพลับ หรือวัดราชสิทธาราม แบบขรัวตาจัน
ผงสมเด็จ สุก ไก่เถื่อน เป็นพิมพ์บาทฐาน ของพระกรรมฐาน ในห้องปีติ

พระสมเด็จวัดพลับ

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เรามาคุยกันถึงพระสมเด็จวัดพลับ หรือที่ในปัจจุบันเรียกกันสั้นๆ ว่าพระวัดพลับ พระวัดพลับเป็นพระเนื้อผงที่เก่าแก่ของกทม. และเชื่อกันว่าสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ได้สร้างไว้เมื่อคราวที่ยังจำพรรษาอยู่ที่ วัดพลับ หรือวัดราชสิทธารามในปัจจุบัน

พระวัดพลับนั้นมีทั้งพระที่บรรจุกรุ และที่ไม่ได้บรรจุกรุอีกจำนวนหนึ่ง การพบครั้งแรกเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ. 2485 ได้มีการปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ขณะรื้อกำแพงก็ได้มีผู้พบพระเครื่องเหล่านี้ ตามแนวกำแพง ประตูพัทธสีมา และเจดีย์รายต่างๆ ปรากฏว่าเป็นพระเนื้อผง และพบพระเนื้อชินตะกั่วบ้างเล็กน้อย

พระวัดพลับที่พบมีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์เช่น พระวัดพลับยืน พระวัดพลับพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ พระวัดพลับพิมพ์พุงป่องใหญ่ พระวัดพลับพิมพ์สมาธิใหญ่ พระวัดพลับพิมพ์สมาธิกลาง พระวัดพลับพิมพ์เข่ากว้างใหญ่ พระวัดพลับพิมพ์เข่ากว้างเล็ก พระวัดพลับพิมพ์พุงป่องเล็ก พระวัดพลับพิมพ์ตุ๊กตาเล็ก พระวัดพลับปิดตาพิมพ์ใหญ่ พระวัดพลับปิดตาพิมพ์เล็ก และยังพบเป็นพิมพ์สองหน้าอีกด้วย
   พระวัดพลับประเภทเนื้อผงเป็นพระที่พบเป็นส่วนใหญ่
   และมีเนื้อหาคล้ายคลึงกับพระสมเด็จ วัดระฆังฯ มาก


พระที่พบในครั้งนี้ทางวัดได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเช่าบูชาองค์ละ 2 บาท เพื่อนำเงินมาปฏิสังขรณ์พระอุโบสถดังกล่าว ทางวัดเปิดให้เช่าอยู่ 2-3 ปี ตอนตักบาตรเทโว จนพระเหลือน้อยแล้ว ทางวัดจึงได้นำพระไปบรรจุเข้าไว้ในเจดีย์ตามเดิม และได้ถูกลักเจาะในปีพ.ศ. 2494 พระที่ออกมาภายหลังนี้จะเป็นพิมพ์ตุ๊กตาเล็กเสียเป็นส่วนใหญ่

ต่อมาได้มีการพบพระวัดพลับอีกที่จังหวัดอุทัยธานี ที่วัดโค่ง ปัจจุบันชื่อวัดธรรมโสภิส ตามประวัติกล่าวไว้ว่า หลวงตาจัน เป็นผู้นำพระมาบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้ ในพระอุโบสถและในพระเจดีย์ และได้มีการพบพระวัดพลับที่วัดแห่งนี้ถึงสองครั้ง พระที่พบมีทั้งพระเนื้อผงและพระเนื้อตะกั่วเช่นเดียวกับที่พบที่วัดพลับ แต่พระเนื้อตะกั่วพบจำนวนน้อยมาก


พระสมเด็จวัดพลับ

พระวัดพลับที่เป็นพระพิมพ์เล็กนั้น มีอยู่ด้วยกันคือ พระพิมพ์เข่ากว้างเล็ก พิมพ์พุงป่องเล็ก และพิมพ์ตุ๊กตาเล็ก โดยส่วนตัวผมชอบพระพิมพ์เล็กของวัดนี้ เนื่องจากว่าเป็นพระที่มีขนาดกะทัดรัดน่ารักดีครับ

    วันนี้ผมมีรูปพระวัดพลับพิมพ์พุงป่องเล็กและพระพิมพ์ตุ๊กตาเล็กมาให้ชมกัน ครับ
    พระสองพิมพ์นี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไร ผมจะลองให้ท่านสังเกตดูนะครับ
    พระพิมพ์พุงป่องเล็กจะมีหัวไหล่แคบกว่าพระพิมพ์ตุ๊กตาเล็ก
    บริเวณที่เป็นลำพระองค์ พระพิมพ์พุงป่องเล็กจะมีหน้าอกและท้องกลมนูน
    ส่วนพิมพ์ตุ๊กตาเล็กจะมีลักษณะเป็นรูปตัวยูในภาษาอังกฤษ ส่วนแขนของพิมพ์ตุ๊กตาเล็กจะดูล่ำสันกว่า พิมพ์พุงป่องเล็ก และให้ดูที่หน้าตักด้านบน พระพิมพ์พุงป่องเล็กจะดูโค้งรับกับแขนและมือที่ประสานขององค์พระ ส่วนพระพิมพ์ตุ๊กตาเล็กหน้าตักจะไม่โค้งขึ้นมารับกับแขนของพระ


เอาล่ะครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ลองพิจารณาดูว่าเป็นอย่างที่ผมว่าหรือไม่ ส่วนเรื่องพุทธคุณนั้น พระวัดพลับมีดีครบเครื่องทุกพิมพ์ครับ คือเด่นทั้งเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพันและแคล้วคลาดครับ

ด้วยความจริงใจ...แทน ท่าพระจันทร์
ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538703711&Ntype=40
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ค Weera Sukmetup
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2013, 11:07:32 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ใครกันแน่.? เป็นผู้สร้าง "พระวัดพลับ"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 09, 2013, 11:02:19 am »
0

ใครกันแน่ ผู้สร้าง พระวัดพลับ
ภาพและเรื่องโดย จ.ส.อ.เอนก เจกะโพธิ์

พระวัดพลับวัดพลับ เดิมเป็นวัดโบราณ ตั้งอยู่ใกล้คลองบางกอกใหญ่ จังหวัดธนบุรี ปัจจุบันเป็นจังหวัดนนทบุรี รวมเขตกับ กทม. เป็นวัดที่มีมานานแล้ว แต่สมัยกรุงศรีอยุธยา อยู่ต่อหรือถัดจาก วัดราชสิทธาราม เดี๋ยวนี้ขึ้นไปทางทิศตะวันตก

สมัยเมื่อรัชกาลที่ 1 ได้เถลิงถวัลย์ราชสมบัติแล้ว ได้นิมนต์ พระอาจารย์สุก ซึ่งเป็นพระอาจารย์จากอยุธยา ให้ลงมาอยู่ในกรุงเทพฯ พระอาจารย์สุก ขออยู่วัดฝ่ายอรัญวาสี ที่สงบเงียบเพื่อบำเพ็ญวิปัสสนาธุระ ไม่ชอบอยู่วัดในเมือง รัชกาลที่ 1 ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯตามอัธยาศัย และให้สร้างวัดราชสิทธารามขึ้น
     เพื่อให้สมพระเกียรติที่เป็นพระอาจารย์ ถวายให้จำพรรษากับแต่งตั้งให้เป็น
     พระราชาคณะที่ พระญาณสังวร เมื่อ พ.ศ.2325
     ปีเดียวกับที่สร้างกรุงเทพมหานครนั่นเอง


เมื่อสร้าง วัดราชสิทธาราม แล้วเสร็จโปรดเกล้าฯให้รวมวัดพลับเข้าไปอยู่ในเขต วัดราชสิทธาราม ด้วยกันราษฎร และชาวบ้านแถบนั้น คงยังเรียกชื่อ วัดราชสิทธาราม ว่า วัดพลับ สืบมาตราบเท่าทุกวันนี้
    ต่อมา รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯให้สถาปนาพระอาจารย์สุกขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราช
    โปรดฯให้แห่จากวัดพลับมาอยู่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ปัจจุบันนี้ อยู่ได้ปีเดียวก็สิ้นพระชนม์


พระปิดตาย้อนยุค พระสังวรานุวงศ์เถร(ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

ใครกันแน่ ผู้สร้าง พระวัดพลับ
ทุกท่านคงสงสัยว่าท่านสร้างไว้จริงหรือ เป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายไม่สามารถจะหาข้ออ้างใดมายืนยันได้ เพราะมีนักเล่น นักสะสมหลายกลุ่ม มีความคิดเห็นไม่ตรงกันเลยสักคนเดียว แม้แต่ผู้เขียนเองก็มีความคิดเห็นเป็นอิสระ (ส่วนตัว) ไม่เหมือนใครอื่น

และเพราะเหตุนี้เอง จึงทำให้คนหลายกลุ่มกล่าวกันเป็นทำนองว่า ความคิดเห็นว่า สมเด็จพระสังฆราชสุก เป็นผู้สร้างนั้น เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็บรรจุไว้ที่พระเจดีย์บ้างอะไรทำนองนี้ และอีกส่วนหนึ่งที่เหลือจากการบรรจุในเจดีย์ ก็นำไปบรรจุไว้ที่วัดโค่ง จังหวัดอุทัยฯ อะไรโน่น

กลุ่มที่สองมีความเห็นว่า สมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน เมื่อจำพรรษาอยู่ใน วัดพลับ ท่านได้สร้างพระสมเด็จอรหังไว้แจกชาวบ้านอีก ขรัวตาจันภิกษุชาวเขมร เป็นลูกมือช่วยเหลือเมื่อสมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์แล้ว ขรัวตาจัน พระภิกษุชาวเขมรผู้เรืองวิทยาคม จึงเริ่มสร้าง พระวัดพลับ ส่วนหนึ่ง (ที่ยังไม่รู้ว่าใครกันแน่สร้าง พระวัดพลับ)

กลุ่มที่สาม ชาวอุทัยธานีมีความเห็นว่า มีภิกษุชาวพม่า ชื่อ หลวงตาจันจำพรรษาอยู่ที่วัดโค่ง อุทัยธานี เป็นผู้สร้าง พระวัดพลับ ชาวบ้านเรียกชื่อพระที่ว่า หลวงตาจัน สมัยนั้นว่า โค่ง อุทัยธานี เป็นผู้สร้าง พระวัดพลับ ชาวบ้านเรียกชื่อพระที่ว่า หลวงตาจัน สมัยนั้นว่า พระวัดโค่ง



    ทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวของผู้ที่มีความคิดเห็นแตกแยกกันนี้ จึงไม่ได้เป็นข้อยุติของเรื่องได้
    ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนใครจะว่าผมไม่โกรธ เพราะเป็นความนึกคิดเท่านั้น
    ความคิดความเชื่อของผมอาจจะไม่เหมือนกับใครสักคนก็ได้ ความคิดนี้คือ พระร้อย จากนักสร้างพระ ซึ่งเหมือนพระสมัยนี้นั่นเอง ทำเป็นหลายแบบหลายทรง เนื้อหาสาระดีมาก เปรียบเทียบได้เท่ากับเนื้อของสมเด็จเมื่อใช้ถูกเหงื่อ จะมีความหนึกนุ่มเกิดขึ้น ผิวคล้ายเปลือกไข่ มีความวาวเป็นมันในตัวเอง
     เพราะมีส่วนผสมของเปลือกหอยเผาไฟ กล้วย ปูนขาว น้ำมัน ตังอิ้ว กระดาษฟาง หมักเป็นเวลานานๆ แล้วนำมาบดตำให้ละเอียด แล้วผสมด้วยน้ำตาลอ้อย จึงเกิดความละเอียดในตัวของมันเอง
     จึงทำให้เนื้อพระวัดพลับมีความใกล้เคียงกับเนื้อพระสมเด็จ
     ถ้าเนื้อพระสมเด็จไม่ใกล้เคียงกับพระวัดพลับ ผมไม่เล่น ผมไม่นิยม


ท่านที่เคารพทั้งหลาย ท่านที่ได้ชื่อว่าเป็นกรรมการตัดสิน ลองพิจารณาดูซิครับว่า ใครสร้างพระวัดพลับกันแน่ หาข้อยุติกันได้ไหม ความคิดของผมผิดแผกแปลกประหลาดกับคนทั้งหลาย เพราะเป็นความคิดอิสระของผมเท่านั้น พระนี้เป็นพระดี เป็นพระที่มีผู้สร้างแน่นอน (แต่ไม่รู้ใครสร้างเท่านั้น) โปรดอย่าคิดว่าความคิดของผมไร้สาระ เพราะเสรีภาพในทางความคิดเขาเปิดช่องไว้ให้คิดคิดคิด

ข้อมูลจำเพาะ พระวัดพลับ
    สถานที่พบ : วัดพลับ-คลองบางกอกใหญ่, มีทั้งบรรจุกรุและไม่บรรจุกรุ
    ผู้สร้าง : ไม่เป็นข้อยุติ (สมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน, ขรัวตาจันภิกษุเขมร หรือผู้สร้างอื่น)
    จำนวนสร้าง : ไม่ปรากฏหลักฐานแน่นอน
    อายุการสร้าง : ไม่ปรากฏแน่นอน
    เนื้อพระ : เนื้อผงผสมปูนขาวปั้น
    พระปลอม : พบได้ทั่วไป ทั้งในและนอกสนามพระ
    ราคาเช่าบูชา : หลักหมื่นต้น ถึงหลายๆ หมื่น
    จำนวนพิมพ์ทรง: เท่าที่เล่นหา 10 พิมพ์ทรง :
         - พิมพ์สมาธิใหญ่, สมาธิเล็ก, สมาธิเข่ากว้าง
         - พิมพ์พุงป่องใหญ่, พุงป่องเล็ก
         - พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ทรงชะลูด, ตุ๊กตาใหญ่ทรงเตี้ย, ตุ๊กตาเล็ก
         - พิมพ์ปิดตา
         - พิมพ์ปิดตา
         - พิมพ์โมคคัลลา



ที่มา: ลานโพธิ์ ฉบับที่ 843 เดือนพฤศจิกายน 2544 : พระวัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาเล็ก ภาพและเรื่องโดย จ.ส.อ.เอนก เจกะโพธิ์
www.lanpothai.com/hiding-place/powder/533-ใครกันแน่-ผู้สร้าง-พระวัดพลับ.html
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ค Weera Sukmetup
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2013, 11:07:53 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ