ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เห็นตามความเป็นจริง เห็นอย่างไร  (อ่าน 1974 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
เห็นตามความเป็นจริง เห็นอย่างไร
« เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2013, 07:57:32 am »
0
ask1
 เห็นตามความเป็นจริง เห็นอย่างไร



 ans1

 เห็นตามความเป็นจริง คือการเห็น สองประการ คือเห็นความเกิดขึ้น และ เห็นความเสื่อมไป เห็นทั้งด้านดี เห็นทั้งด้านไม่ดี เห็นสิ่งที่เป็นคู่ ไม่ใช่เห็นเพียงแต่ด้านเดียว เห็นเขาสรรเสริญ ก็ต้องเห็นเขานินทา เห็นได้ลาภ ก็ต้องเห็นเสื่อมลาภ เห็นได้ยศ ก็ต้องเห็นเสื่อมยศ เห็นในความสุข ก็เห็นในความทุกข์ สรุปคือเห็นตามความเป็นจริง ทั้งสองด้าน

    ที่นี่การเห็นตามความเป็นจริง ควรเริ่มอย่างไร

    1.เห็นว่าทุกข์ มีสาเหตุ เห็น ว่าสาเหตุแห่งทุกข์ เป็นเหตุให้เกิดทุกข์

       1.1 เห็นว่าทุกข์ เป็นอย่างนี้
       1.2 เห็นว่าทุกข์ ให้คุณและผลอย่างนี้
       1.3 เห็นว่าทุกข์ นั้นเรากำหนดรู้จัก ได้ดีแล้ว
        กำหนดได้แล้วนั่นแหละ ถึงจะเรียกว่า ถึงคำว่า ทุกขสัจจะ ความจริงแห่งทุกข์
   

    2.เห็นว่า สาเหตุแห่งทุกข์ เป็นต้นตอที่มาของทุกข์

       2.1 เห็๋นว่า สาเหตุทุกข์ เป็นอย่างนี้
       2.2 เห็นว่า สาเหตุทุกข์ ให้คุณและผลอย่างนี้
       2.3 เห็นว่า สาเหตุทุกข์ เรากำหนดได้แล้ว
      กำหนดได้แล้วนั่นแหละ ถึงจะเรียกว่า ถึงคำว่า สมุทัยสัจจะ ความจริงสาเหตุแห่งทุกข์

    3.เห็นว่า ความดับแห่งทุกข์ เป็นที่บรมสุข ( เพราะ ทุกข์ดับ สุข จึงเกิด )
     
       3.1 เห็นว่า ความดับแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้
       3.2 เห็นว่า ความดับแห่งทุกข์ ให้คุณและผลอย่างนี้
       3.3 เห็นว่า ความดับแห่งทุกข์ เรากำหนดได้แล้ว   
      กำหนดได้แล้วนั่นแหละ ถึงจะเรียกว่า ถึงคำว่า นิโรธสัจจะ ความจริงแห่งความดับไปแห่งทุกข์

    4.เห็นว่า หนทางแห่งความดับทุกข์ เป็นสิ่งจริงแท้ตรงต่อการข้ามห้วงแห่งวัฏฏะสงสาร

      4.1 เห็นว่า หนทางนี้แลเป็นหนทางอันเอกเป็นทางสายกลาย เป็นที่ถึงพร้อมแห่งความดับทุกข์ เป็นอย่างนี้
      4.2 เห็นว่า หนทางนี้แลเป็นหนทางอันเอกเป็นทางสายกลาย ให้คุณและผลอย่างนี้
      4.3 เห็นว่า หนทางนี้แลเป็นหนทางอันเอกเป็นทางสายกลาย เรากำหนดได้แล้วเข้าใจแล้ว รู้จักแล้ว
      กำหนดได้แล้วนั่นแหละ ถึงจะเรียกว่า ถึงคำว่า มรรคสัจจะ ความจริงแห่งหนทางของพระอริยะ

   การกำหนดได้ ก็คือการภาวนา นั่นเอง

   อันที่จริง พระธรรมไม่ได้ซับซ้อนมาก เพียงแต่ กิเลส อนุสัยของเราทั้งหลาย ซับซ้อนมาก เวลาถอดออกก็ต้องค่อยรื้อ ที่ละส่วนแต่บางท่าน ใช้วิธี ทุบ หรือ เผาทำลาย กิเลส ที่เรียกว่า ตบะ ที่นี่ท่านทั้งหลายเมื่อทำอย่างนี้ต้องมีความตั้งใจสูง มีกำลังบารมีเพียงพอ เพราะใช้แรงเยอะ ดังนั้นท่านที่มุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง จึงหายเข้าไปในป่า ในเขาเป็นจำนวนหนึ่ง แต่เราท่านทั้งหลายที่ยังต้องใช้ชีิวิตในสังคม ที่วุ่นวายด้วยโลกธรรม จึงควรทำตามกำลังด้วยการภาวนาไปเป็นลำดับ ถอดที่ละชิ้น ถอดที่ละส่วน เพื่อเห็นธรรมอันเป็นแก่นสาร คือ พระนิพพาน


     ขอให้ท่านทั้งหลาย จงถึงฝั่งแห่งที่ไม่มีน้ำ จงละกามเสีย เป็นผู้ไม่มีความกังวล จงยินดีต่อพระนิพพาน อันเป็นที่สงัด อันสัตว์ยินดีได้โดยยาก

      โครงเรือนของเจ้า เราหักเสียแล้ว ยอดเรือน เราก็รื้อเสียแล้ว เจ้าจะทำเืรือนให้เรา ไม่ได้อีกต่อไป เราได้ถึงแล้ว ซึ่งความสิ้นไปแห่งสงสาร

     เจริญธรรม / เจริญพร


   ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: เห็นตามความเป็นจริง เห็นอย่างไร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2013, 10:40:41 am »
0
ภาวนา ให้ค่อยเป็นค่อยไป ไปตามลำดับ ภาวนาไปตามลำดับ

ภาวนา แบบบุก หมดแรง และ ท้อแท้ ไม่ใช่แนวทาง ของ ทางสายกลาง

 ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา