ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การปฏิบัติธรรม ทำไมต้องแบ่งว่าเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ ครับ  (อ่าน 6557 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ISSARAPAP

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +11/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 129
  • โดดเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย สัจจะธรรมแท้ ไม่มีสูตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การปฏิบัติธรรม ทำไมต้องแบ่งว่าเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ ครับ

การภาวนานั้น ไม่น่าจะต้องมีรูปแบบอะไร ?
ยิ่งเราภาวนา ก็ควรอยู่ในท่าไหน ๆ ก็ได้ ไม่ใ่ช่หรือครับ ?
ทำไมต้องนั่งหลับตา ภาวนาครับ ?
ความสำคัญของการภาวนา อยู่ที่การวิป้สสนา ไม่ใช่หรือครับ ?
การวิปัสสนา ก็คือ พิจารณา ความจริง ใน กาย ใน จิต ใน เวทนา ในธรรม ไม่ใช่ หรือครับ ?

ผมว่า ทุกวันนี้ เราติดเพียงรูปแบบภายนอก ไม่ได้พิจารณา ในธรรม ตามความเป็นจริง หรือป่าว
ยังติด สมมุติ เรื่อง สำนัก โน้น สำนัก นี้
แท้ที่จริง เป็นสำนักอะไรครับ ?

พระพุทธเจ้า สอนให้เราพิจารณาตามความจริงไม่ใช่หรือครับ ?
มัวแต่มานั่งหลับตา แล้วเมื่อไร จะเข้าถึง ธรรมชาติ ล่ะครับ ?

ลองพิจารณา สติปัฏฐาน 4 ให้ดีนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา..... ;)
บันทึกการเข้า
ความสันโดษ เป็นบรมสุข

axe

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 187
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
การปฏิบัติธรรม ทำไมต้องแบ่งว่าเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ ครับ

การปฏิบัติธรรม นั้นไม่ได้แบ่งหรอกครับ เพราะมีหลักการเดียวกันทั้งหมด คือ ศีล สมาธิ และ ปัญญา
เป้าหมาย คือ การละสังโยชน์ ทั้ง 10 ประการ

ส่วนกรรมฐาน นั้น ต้องแบ่งออกเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ พระพุทธองค์แบ่งไว้เป็น 2 แบบครับ
1.สะมะถะกรรมฐาน มีทั้งหมด 40 กองกรรมฐาน แบ่งตามพื้นฐานของบุคคล เรียกว่า จริตทั้ง 6
2.วิปัสสนากรรมฐาน มีตั้งแต่ วิสุทธิ 7 อนุวัปัสสนา 3 วิโมกข์ 3 วิปัสสนาญาณ 9 และ 16 โพชฌงค์ 7 และ โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ

เหตุที่ต้องแบ่ง เพราะระดับบารมีของบุคคลไม่เท่ากัน อุปนิสัยไม่เหมือนกัน
พระอรหันต มีเอตทัคคะไม่เหมือนกัน หน้าตาคนจะเหมือนกัน หรือ คล้ายคลึงกัน น้อย ๆๆๆๆ มาก ๆๆๆ
อ้างถึง
การภาวนานั้น ไม่น่าจะต้องมีรูปแบบอะไร ?
ยิ่งเราภาวนา ก็ควรอยู่ในท่าไหน ๆ ก็ได้ ไม่ใ่ช่หรือครับ ?
ทำไมต้องนั่งหลับตา ภาวนาครับ ?
ความสำคัญของการภาวนา อยู่ที่การวิป้สสนา ไม่ใช่หรือครับ ?

อนุโมทนา กับคุณ ISSARAPAP ด้วยถ้าคุณสามารถเข้าถึงวิปัสสนา ขั้นสูงละสังโยชน์ได้ทั้ง 10 ประการ
ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณก็คงต้องรักษา ประเพณี แบบแผน ให้กับชนรุ่นหลังด้วย พระพุทธองค์ฺ ไม่ได้ทรงนำศีล ออกนะครับ ไม่ได้นำเอา สมาธิ ออก ไม่ได้แยกว่าต้อง ใช้ปัญญา โดยส่วนเดียว แต่ต้องมีทั้ง 3 ประการ คือ ศีล สมาธิ และ ปัญญา

สำหรับการปฎิบัติ ภาวนาต้องเิริ่มจากขั้นน้อย ไปหาขั้นสูง ครับ ถ้าก้าวกระโดดแล้วอาจจะพลาดได้ นะครับ
สาเหตุที่ต้องนั่งหลับตาภาวนาก่อนนั้น เพื่อปิดสะกัด อารมณ์ภายนอก เพื่อ ไปสู้กับอารมณ์ภายในก่อน คือก่อนที่จะชนะเหตุ ผล ภายนอก ก็ต้อง มาชนะเหตุ ผล ภายในก่อนครับ

มีพระภิกษุรูปหนึ่งในครั้งพระัพุทธกาล ท่านแสดงธรรมเก่งมาก เหมือนทรงพระไตรปิฏก สอนลูกศิษย์เป็นพระอรหันต์ มากมายแต่ท่านกลับไม่ได้สำเร็จอะไรเลย มาวันหนึ่งท่านก็มาพิจารณาได้ว่าท่านขาดอะไร จึงยอมลดมานะลงไปเรียน กับสามเณร ๆ ก็แนะนำปราย ๆ ให้ท่านว่า พระอาจารย์ เห็นรูตัวเงิน ตัวทอง หรือไม่ครับ ถ้าเราอุดมันไม่ได้มันก็ออกมาได้ ท่านก็ยังวิปัสสนาโดยการเีที่ยบกับ อายตะนะ ภายใน และ ภายนอก ท่านจึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์ครับ

ความสำคัญในการภาวนา อยู่ที่การ มีศีล สมาธิ และ ปัญญา ครับ ไม่ใช่ให้ความสำคัญด้านใด ด้านหนึ่ง ผู้ฝึกสมาธิ ไม่ใช่คนขาดเหตุ ผล หรือ หลง งมงาย ไม่ได้เป็นคนขาดการทำบุญ ไม่ได้เอาแต่นั่งหลับตาปี๋ อย่างเดียวครับ แต่ทุกอย่างฝึกไปพร้อมกันครับ ตามฐานะผู้ฝึกปฏิบัติ และ บารมีที่สั่งสมมา
อ้างถึง
ผมว่า ทุกวันนี้ เราติดเพียงรูปแบบภายนอก ไม่ได้พิจารณา ในธรรม ตามความเป็นจริง หรือป่าว
ยังติด สมมุติ เรื่อง สำนัก โน้น สำนัก นี้
แท้ที่จริง เป็นสำนักอะไรครับ ?

รูปแบบภายนอก มีไว้เพื่อให้เป็นระเบียบครับ ศีลธรรม เป็นเรื่องจำเป็นครับ เพราะถ้าขาดหายไปแล้ว ทุกคนจะไม่ได้อยู่สุขสงบอย่างนี้ คุณธรรมเป็นเรื่องภายในครับ มองเห็นกันไม่ได้ รูปแบบภายนอกทำให้คุณมีใจผ่องแผ้วก่อน สมมุติว่าถ้าบ้านคุณไม่มีคนเก็บกวาดให้ คุณจะอยู่ได้ หรือป่าว นึกจะอุจจาระตรงนี้ ก็อุจจาระตรงนี้ ทั่วไปทั้งบ้าน ดังนั้น ศีลธรรม มี จริยธรรม มี วัฒนธรรม ด้วยครับ เราถึงอยู่กันได้สงบๆ บ้าง

สำนัก วัด อาราม มี เยอะแยะ แต่ ปณิธานอันเดียวกัน ครับ
ถ้าปฏิบัติตาม ปณิธาน ของพระพุทธเจ้า ก็เป็นสำนักของพระพุทธองค์ครับ

อ้างถึง
พระพุทธเจ้า สอนให้เราพิจารณาตามความจริงไม่ใช่หรือครับ ?
มัวแต่มานั่งหลับตา แล้วเมื่อไร จะเข้าถึง ธรรมชาติ ล่ะครับ ?

สมาธิง ภิกขะเว ภาเวถะ สะมาหิโต ยะถาภูตัง ปะชานาติ

ดูก่อน ภิกษุทั้งพวกเธอทั้งหลาย พึงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด
ผู้ที่มีิจิตตั้งมั่นแล้ว ( มีสมาธิ ) ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=337.0
อ่านตรงนี้เพิ่มนะครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=455.0
อ่านตรงนี้ด้วยนะครับ

อ้างถึง
ลองพิจารณา สติปัฏฐาน 4 ให้ดีนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา....
กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีสติปัฏฐาน 4 อยู่ในกรรมฐานอยู่แล้วครับ

สติปัฏฐาน 4 อยู่ในโพธิปักขิยธรรม 37 ครับ เป็นธรรมส่วนหนึ่งไม่ใช่ส่วนใหญ่

สติปัฏฐาน 4 ตั้งมั่นได้เพราะมี สังวรปธาน 4 อิทธิบาท 4 สติปัฏฐาน 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8

 :welcome:
บันทึกการเข้า
หนุ่มหล่อ ใจดี AXE

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 
ยอดมาก ตอบได้ดีมาก ขอยกนิ้วให้ หนุ่มหล่อ ใจดี AXE  :25: :s_good:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

การปฏิบัติธรรม ทำไมต้องแบ่งว่าเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ ครับ

ตอบ
  ระดับสาวกอย่างเราคงตอบลำบาก แต่พอสันนิษฐานได้ว่า
 
สมถกรรมฐาน ทั้ง ๔๐ กองนั้น จำนวนทั้ง ๔๐ กอง
สามารถเลือกกองใดกองหนึ่งมาปฏิบัติได้ ตามที่ใจชอบ
หรือตามจริตของแต่ละคนนั่นเอง พูดง่ายๆก็คือ
มีไว้ให้เลือกตามใจชอบ

ส่วนวิปัสสนากรรมฐานทั้ง ๔ ฐานนั้น(สติปัฎฐาน ๔)
น่าจะเป็นตัวเลือกเท่าที่มีอยู่ ตามที่ธรรมชาติได้กำหนดไว้
ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เป็นทางเดียวเท่านั้นที่จะเข้าถึงนิพพานได้
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

“ทางนี้เป็นที่ไปอันเอก ในกาลก่อน ชนทั้งหลายข้ามโอฆะได้แล้วด้วยทางนี้
ในอนาคต ก็จักข้ามด้วยทางนี้ และในบัดนี้ ก็ข้ามอยู่ด้วยหนทางนี้”

การจะใช้วิธีไหนทางไหน ก็เป็นไปตามจริตนิสัยของแต่ละคน

-----------------------------------

การภาวนานั้น ไม่น่าจะต้องมีรูปแบบอะไร ?

ตอบ  ระดับสาวกอย่างเราคงตอบลำบาก จะอย่างไรก็ตาม
พระพุทธเจ้าได้กำหนดรูปแบบเอาไว้แล้ว คือ
สมถกรรมฐาน ๔๐ กอง และวิปัสสนากรรมฐาน ก็คือ สติปัฏฐาน ๔

หรือคุณหมายถึง อุบายวิธีการสอน ถ้าหมายถึงอันนี้
ก็ต้องตอบว่า เป็นไปตามจริตนิสัย คนเราจะให้เหมือนทุกอย่าง คงยาก
พระพุทธเจ้า สอนเราแค่ใบไม้กำมือเดียว ใบไม้นอกกำมือ ก็คือ อุบายวิธีนั่นเอง
อุบายวิธีนี้เราต้องหาเอง

-----------------------------------

ยิ่ง เราภาวนา ก็ควรอยู่ในท่าไหน ๆ ก็ได้ ไม่ใ่ช่หรือครับ ?

ตอบ
  พระพุทธเจ้าไม่ได้กำหนดท่า คุณสามารถทำได้ตามใจชอบ
ในสมัยพุทธกาลมีคนบรรลุธรรมในอิริยาบถที่ต่างกัน ขอให้
ไปค้นดูกระทู้ในห้องนี้ ได้กล่าวไว้แล้ว

-----------------------------------

ทำไมต้องนั่งหลับ ตา ภาวนาครับ ?

ตอบ  การหลับตาเป็นเพียงอุบายตัดความกังวลและตัดนิวรณ์ต่างๆ
หากคุณลืมตาแล้วข่มนิวรณ์หรือกังวลต่างๆได้ ก็ไม่ผิดกติกาใดๆ

-----------------------------------

ความสำคัญของการภาวนา อยู่ที่การวิป้สสนา ไม่ใช่หรือครับ ?

ตอบ
  วิปัสสนาสำคัญที่สุด แต่เจริญวิปัสสนาแล้วต้องเห็นไตรลักษณ์ จึงจะได้ชื่อว่า เจริญวิปัสสนา

-----------------------------------

การวิปัสสนา ก็คือ พิจารณา ความจริง ใน กาย ใน จิต ใน เวทนา ในธรรม ไม่ใช่ หรือครับ ?

ตอบ
  พิจารณาความจริงนะใช่ แต่ความจริงที่คุณว่านั้น ต้องเป็นไตรลักษณ์เท่านั้น อย่างต่ำต้องได้
อุทยัทพยญาณ จึงจะเรียกได้ว่า วิปัสสนา

-----------------------------------

ผมว่า ทุกวันนี้ เราติดเพียงรูปแบบภายนอก ไม่ได้พิจารณา ในธรรม ตามความเป็นจริง หรือป่าวยัง ติด สมมุติ เรื่อง สำนัก โน้น สำนัก นี้ แท้ที่จริง เป็นสำนักอะไรครับ ?

ตอบ  คุณคิดมากไปหรือเปล่า การภาวนาต้องดูกายใจของตนเองเท่านั้น การไปเพ่งโทษคนอื่น เป็นการส่งจิตออกนอก ทำให้การปฏิบัติของคุณล่าช้า
คำตอบนี้อาจจะแรงไปบ้างต้องขออภัย

-----------------------------------

พระพุทธเจ้า สอนให้เราพิจารณาตามความจริงไม่ใช่หรือครับ ?
มัว แต่มานั่งหลับตา แล้วเมื่อไร จะเข้าถึง ธรรมชาติ ล่ะครับ ?
ลอง พิจารณา สติปัฏฐาน 4 ให้ดีนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา.....

ตอบ บางอย่างตอบไปแล้ว อยากให้คุณลองไปทบทวนเรื่องสติปัฏฐาน ๔ ให้ดี
อ่านตามพระไตรปิฎกอาจเข้าใจได้ยาก  ขอแนะนำให้หาคำสอนของพระอาจารย์สอนกรรมฐานมาอ่าน
อีกอย่าง อยากให้ลองศึกษาเรื่องวิปัสสนาญาณดู สำคัญมาก จะช่วย
เสริมความเข้าใจเรื่องสติฐานได้ดีขึ้น สงสัยอะไรก็มาถามได้ ยินดีตอบทุกเรื่อง

-----------------------------------

คำตอบข้างบน ขอให้ถือว่า เป็นการคุยเป็นเพื่อนเท่านั้น

ขอให้ธรรมคุ้มครอง
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

sangtham

  • สมาชิก
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
ธรรมชาติ ของ คนครับ
กิน นอน สืบภ้ย หนีภัย  แสดงว่าคนก็ถึงธรรมชาติได้ครับ

ธรรมชาติ ของ มนุษย์
ศีล 5 ธรรม 5

ธรรมชาติ ของ พระอริยะ
ละสังโยชน์ 10
==========================
นี่ก็ ธรรมชาติ บุคคล
คนจริงชอบทำ
คนจัญไรชอบติ
........
 :57:
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 :welcome:
 
:banghead:  :040:       จากหลากหลายคำถามดูคุณอิสรภาพแล้วออกจะติดแนวแนวปัญญามากเกินหรือจะเป็นลัทธิเต๋า (แนวพระปัจเจกของท่านเล่าจื้อ) ยึดติดธรรมชาติ เข้าถึงธรรมชาติ เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เหมือนปลาในน้ำ ยึดติด เข้าถึง เป็นหนึ่งเดียวกับน้ำ จึงมองไม่เห็นน้ำ การยึดติดเข้าถึงเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาตินั้น ตามความเข้าใจของคุณอิสรภาพที่อ้างถึงในหลายกระทู้ดูก็คล้ายสวนโมกข์ (ออกแนวเซ็นของท่านโพธิธรรมตั๊กม้อ) จะอย่างไรก็ดีการยึดติดเข้าถึงเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาตินั้นตามที่คุณอิสรภาพอ้างถึงนั้นเป็นวิสัยของพระอริยะเจ้ามิใช่วิสัยปุถุชนที่จะปรุงแต่งเอาตามที่คิดอ่านด้วยการเรียนรู้เข้าใจเอาเองอย่างนั้นเป็นการปิดกั้นตนเองอยู่อย่างฤาษีผละโลกแต่ไม่ละโลก ปุถุชนเราต้องเข้าถึงสมาธิจิตต้องนิ่ง นิ่งบริกรรมมีอาภรณ์พุทโธ มิใช่นิ่งแช่ว่างว่างเป็นอทุกขมสุข เท่าที่กล่าวมาเพียงชี้แนะย้ำแนวตามวิสัยกัลยาณมิตรนะครับอย่างมานะเอาความกัน....ทิ่งท้ายไว้นิด     
 :043: :040:         
        :035:ขอให้มีความสุขสวัสดี
ธรรมวิถีดำรงคงอยู่ด้วย
ละทิฏฐิมีสติเกื้ออำนวย
เป็นเพื่อนช่วยวิชชาแจ้งอย่าแคลงใจ.

                          :character0029:ธรรมธวัช...!
 
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

มะเดื่อ

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 181
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องนี้ น่าอ่านลุง ISSARAPAP โพสต์แบบเซ็น
เลยครับ เห็นว่าทุกวันนี้ ปฏิบัติ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
 :25:
บันทึกการเข้า