ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ต่อกระดูก-วางยาพิษ-ใช้ยาสั่ง โนว์ฮาวปราชญ์ชาวบ้าน "เมืองสุรินทร์" ในอดีต  (อ่าน 471 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

วิถีชีวิตชาวสุรินทร์ในอดีต เมื่อถึงฤดูแล้งผู้หญิงและเด็ก หาบกระเชอมารอตักน้ำจากบ่อช่วงฤดูแล้ง เจ็ยป่วยก็อาศัยความรู้จากปราชญ์ชาวบ้าน (ภาพจาก “100 เรื่อง เมืองสุรินทร์”)


ต่อกระดูก-วางยาพิษ-ใช้ยาสั่ง โนว์ฮาวปราชญ์ชาวบ้าน "เมืองสุรินทร์" ในอดีต

การต่อกระดูก เคลื่อนย้ายเส้นเอ็น และใช้ยาพิษต่างๆ ที่เคยได้เห็นได้ยินภาพยนต์จีนกำลังภายในบ่อยๆครั้ง  และบางเรื่องก็มีอยู่ในประวัติ แต่มันไม่ใช่แค่จริงประวัติศาสตร์ของจีนเท่านั้น ในประเทศไทย ปราญช์ชาวบ้านของเราก็มีความรู้ในเรื่องนี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทห่างไกล ดังกรณีตัวอย่างของปราญช์ชาวบ้าน จังหวัดสุรินทร์

อัน-ชาวกัมพูชาที่เป็นหนึ่งในคณะผู้นำทางให้ เอเตียน แอมอนิเยร์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสที่เดินทางเข้ามาในประเทศกัมพูชา, ลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เพื่อสำรวจโบราณสถานและจารึกโบราณเขมร ระหว่างปี 2426-2427 อันบันทึกสิ่งที่เขาได้พบเห็นในเมืองสังฆะ เมื่อ 100 กว่าปีก่อน ไว้หลายเรื่อง หนึ่งในจำนวนนั้นคือ การใช้ยาพิษ หรือยาสั่ง

อาณาเขตของเมืองสังฆะในเวลานั้น ทิศตะวันออกติดกับเมืองขุขันธ์ ทิศเหนือติดกับเมืองรัตนบุรี ทิศตะวันตกติดกับเมืองสุรินทร์ และทิศใต้ติดกับพนมดงแร็ก มีประชากรในทะเบียนราว 1,000 คน ส่วนเรื่องการใช้ยาพิษ หรือยาสั่งนั้น ชาวเมืองสังฆะพูดว่า “พวกเขามีความชำนาญ”

@@@@@@@

ดังนั้นการได้รับพิษ หรือถูกพิษ จึงรื่องปกติของคนสังฆะในเวลานั้น ยาพิษหรือยาสั่งจะถูกแอบใส่ลงในอาหารต่างๆ เช่น เนื้อหมู, ถั่วเหลือง, กล้วย, เหล้า ฯลฯ  ผู้วางยาพิษจะซุกซ่อนยาไว้ที่เล็บมือ แล้วแอบจุ่มลงในอาหารนั้นๆ ส่วนความรุนแรงของพิษก็มีตั้งแต่ทำให้เจ็บปวดทรมานจนถึงเสียชีวิต ขณะที่มีการวางยาพิษก็มีวิธีแก้พิษ โดยใช้ ปฺเตียล (ภาษาเขมรหมายถึงว่านที่ใช้แก้พิษ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นชนิดใด)

การวางยาพิษไม่ได้ใช้เพื่อทำร้ายคู่อริ หรือคนที่ขัดแย้งเท่านั้น บางครั้งก็ใช้เพื่อป้องกันตัวเองและทรัพย์สิน เช่น การเอาว่านที่ทำให้เกิดอาการหนาวสั่นเหมือนลูกหมาตกน้ำ และไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้ ไปซุกในนา ในสวน  ตรงจุดที่มักมีคนมาขโมยของ เมื่อหัวขโมยสัมผัสถูกว่านดังกล่าว ก็จะไปไหนไม่ได้ ต้องนั่งหนาวสั่นอยู่เช่นนั้น จนเจ้าทรัพย์มาแก้พิษที่วางให้ ก่อนจะส่งให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง

ส่วนการต่อกระดูกไม่ว่าแขนขาของใครจะหักมาด้วยเหตุใด ปราชญ์ชาวบ้านสามารถรักษาได้ แน่นอนว่าวิธีการรักษาก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการแพทย์ปัจจุบัน

สัมฤทธิ์ สหุนาฬุ ปราชญ์ชาวบ้าน บ้านอนันต์ ตำบลยาง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เรียนการต่อกระดูกจากผู้เฒ่าในหมู่บ้านเขียนเรื่องนี้ไว้ในบทความชื่อ “คาถาเป่ากระดูก”  (บทความหนึ่งใน 100 เรื่อง เมืองสุรินทร์) บอกว่า สิ่งที่ใช้รักษาก็คือคาถาและการเสกเป่าให้กระดูกเชื่อมกัน ที่เรียกว่า จอด

@@@@@@@

ครูผู็ถ่ายทอดวิชาจะบอกคาถาให้ท่องตามหลายๆ ครั้งจนจำได้ ในการเรียนนั้นถ้าเรียนในตอนที่มีการต่อกระดูกของผู้ป่วย หรือเรียนในเหตุการณ์จริง เรียนแล้วใช้รักษาเลยทันที ท่านว่าคาถาจะมีความขลังมากขึ้น เวลาจะใช้คาถานี้ก็ให้ระลึกถึงครูเดอม (ครูต้นกำเนิด) ก่อนจึงว่าคาถาดังนี้

“โอม พุทโธ, อะหิคะติด ธัมโม, อะหิคะติด สังโฆ, อะหิคะติด นะ อะหิคะติด ปะ, อะหิคะติด ระ, อะหิคะติด อะ, อะหิคะติด อุ, อะหิคะติด อะหัง อะหิคะติด”

ระหว่างบริกรรมคาถาดังกล่าว 3 จบ ก็เคี้ยวหมากในปากไปด้วย จนหมากแหลกแล้วเป่าพ่นน้ำหมากลงตําแหน่งที่กระดูกหัก 3 รอบ ทําเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็น ประมาณ 5-7 วัน กระดูกก็จะต่อกันได้ดังเดิม

ความรู้ของปราชญ์ชาวบ้านก็ดี การรักษาอาการเจ็บป่วยของหมอกลางบ้านก็ดี ที่ใช้สมุนไพร และคาถาอาคมเสกเป่า ในการรักษาพยาบาล ถึงวันนี้อาจดูเชย ไร้สาระ ไม่น่าเชื่อถือ ฯลฯ แต่ในอดีต ที่การแพทย์ยังไม่เจริญแพร่หลาย การคมนาคมไม่สะดวก ฯลฯ ก็ช่วยคนจำรวนไม่น้อยให้รอดชีวิตมาได้



ข้อมูลจาก : อัษฏางค์ ชมดี บรรณธิการ. 100 เรื่อง เมืองสุรินทร์, สำนักพิมพ์สุรินทร์สโมสร,  พิมพ์ครั้งที่ 1 เมษายน 2551
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2563
เผยแพร่ข้อมูลครั้งแรกในระบบออนไลน์ : เมื่อ 14 สิงหาคม 2563
ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/culture/article_54152
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 15, 2020, 06:50:36 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ