สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: รักหนอ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:21:45 pm



หัวข้อ: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:21:45 pm
ในชีวิต เกิดมาไม่เคยรักใคร และไม่อยากรักใคร ผ่านอายุมา 27 ปี ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่อายุ 16

จนตอนนี้มาพบชายคนหนึ่ง ที่สบตาแค่ครั้งเดียว ทำให้ใจหวั่นไหว แอบมอง แอบเป็นห่วง แอบ......
ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์

อาการกระสับ กระส่าย ไม่เห็นหน้าชายคนนั้นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ
อยากพบ อยากเจอ อยากคุย อยากสนทนา
เวลาเห็นหญิงอื่น คุยสนทนากับชายคนนั้น แล้วรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกเลือดขึ้นหน้า

ถึงแม้รู้ อย่างนี้ ใจมันก็สับสน นั่งนึกภาวนา พุทโธ ๆๆๆๆๆ
แต่อารมณ์ ก็ไม่สงบ สักที

บางคืน ก็หงุดหงิด พาลให้งาน เสียด้วย
คุยคนเดียว เหมือนคนบ้า
รู้สึกตัว อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ก็หักห้ามใจ ไม่ได้

นึกถึง เว็บนี้ได้อยากได้คำปรึกษา วิธีปฏิบัติธรรม ต่อความรัก นี้ด้วย

ช่วยด้วย คะ :'( :-[ :'( :-[


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: หลวงพี่เฉย ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:37:22 pm
สาธุๆ ที่คิดถึงเว็บเรา ปัญหาของคุณโยมอ่านแล้ว  ก็สาธุ ที่คุณโยมได้ดวงตาเห็นธรรม "ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์" แต่เรื่องนี้ต้องคุยกันยาวม๊ากๆ ขอติดไว้ก่อนจ๊ะ  แต่อาตมานั้นมีคำถามสำหรับโยมก่อนว่า
๑.แท้จริงแล้วชีวิตนี้คุณโยมปรารถนาสิ่งใด (นิพพาน โพธิสัตว์ พรหม สวรรค์ หรือมนนุษย์)?
ขอความสุขความเจริญจงมีแด่โยมสิ้นกาลนาน...เทอญ...เจริญพร


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: NP2706 ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2010, 11:52:08 pm
สวัสดี...เลยวันวาเลนไทม์ มา2-3 วันแล้ว

            :88:แหมขอคุยเรื่องความรักเสียหน่อยนะ ถึงแม้จะอ่อนประสบการณ์แต่ก็ขอออกความคิดเห็นบ้างก็ยังดี ความรักเป็นความรู้สึกที่ดีที่ทำให้ใจรู้สึกตื่นเต้นระทึกเรียกว่า อยู่ในภาวะที่มองดูโลกเป็นสิ่งที่สวยงาม และคาดหวัง คิดแบบเข้าข้างตนเอง โอ้ย..เรียกว่าทุกลมหายใจเป็นเธอก็ว่าได้ อันนี้ถ้าห้ามความรู้สึกให้วางเฉยก็จะผิดปกตินะ แต่ถ้าปล่อยจิตให้ไปตามความคิดที่เรียกว่า เพ้อเจ้อไปเรื่อยๆ ก็ฟุ้งซ่านได้ทีเดียว ก็เอาแต่พอกลางๆ แค่เพียงว่ารู้สึกที่ดี ถ้าคิดในเชิงบวก (Positive  thinking) ขอฝรั่งจ๊าหน่อยนะ....ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาตั้ง 27 ปี ไม่เคยประสบ เมื่อพบกับสิ่งที่ดีก็ขอให้รักษาสิ่งนั้นให้อยู่กับเรานานๆ เรียกว่า  ได้พบประสบการณ์ที่ใหม่ๆ ก็ค่อยๆ ศีกษานั้นอย่างชาญฉลาด ให้ใช้การมองแบบที่เรียกว่า มองตาให้ทะลุถึงใจ มีเวลาให้เป็นประโยชน์ ใช้ให้มันถูกต้อง อย่าให้ผ่านไปเพียงเหมือนกับลมผ่านพัดเย็นเพียงชั่วคราว เพราะเวลานั้นเราเพียงแค่รู้สึกว่าพอใจ และเมื่อผ่านพ้นไปแล้วก็จะกลับมาอยู่ตัวเองเหมือนเดิม คงเหลือแต่ความรู้สึกที่ได้รับในช่วงเวลาที่ลมพัดผ่านมา :58: :58:
           จริงแล้ว...สิ่งที่กล่าวมาก็ล้วนแล้วแต่เป็นความรู้สึกทั้งสิ้น มีทั้งสุข ทุกข์ สมหวัง ไม่สมหวัง เปลี่ยนไปตามสภาวะ จะยึดติดไปทำไม เราไม่สามารถให้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นคงอยู่ได้ตลอดไป เสียเวลาเปล่าประโยชน์ที่จะรอให้เกิดสภาวะสุขบ้าง ทุกข์บ้าง สมหวังบ้าง และไม่สมหวังบ้าง  เอาเวลาที่เสียไปมาศึกษาธรรมชาติที่แท้จริงของสภาวะจิตใจจะดีกว่า  เพราะทุกๆ คนมีเวลาที่เท่ากัน 24 ชม./วัน แต่มีใครบ้างจะใช้เวลาดังกล่าวที่ได้ใช้ไปเพื่อประโยชน์ของเราอย่างแท้จริง นะ......

           

           


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2010, 01:05:29 am
 :67:
ความรัก เป็นเรื่องที่ปกติ ของมนุษย์ปุถุชชน ที่เวียนว่ายตายเกิด
การมีความรักนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ

ความรัก เมื่อมีแล้ว ย่อมทำให้ใจ กระวนกระวาย และ มีความสุข
ความรัก เมื่อประสพแล้ว จะมีคำหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจ คือความหวง
ความรัก เมื่อพัฒนาตัวจนถึงขั้นที่สุด ก็จะเป็นความเีสียสละ

มีชายหนุ่ม หญิงสาว ที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่รู้จักความรักนั้นไม่มี
แต่ ชายหนุ่ม หญิงสาว ทั้งหลายเหล่านั้นจะพบกับความสมหวังหรือป่าว นี่สิ.....

พระพุทธองค์ พระองค์ทรงตรัสไว้

ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์
ความประสพกับสิ่งไม่เป็นที่รัก ที่พอใจก็เป็นทุกข์
ความพลัดพราก จากสิ่งที่เป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์

พูดง่าย ๆ ในเมื่อคุณรักหนอ ได้ปฏิบัติธรรมมานาน และยังพอมีสติอยู่
ก็ถือโอกาส นี้เรียนธรรม ดูนะคะ

ส่วนกรรมฐาน ที่จะแนะนำ มีเพียงอนุสสติ ทั้งหมดคะที่สามารถฝึกได้ในช่วงนี้
โดยเฉพาะ พุทธานุสสติ และั เมตตานุสสติ คะ

แต่ถ้าให้ดีแล้ว เจริญ กายคตาสติ ด้วยก็ดีนะคะ

ยินดีที่รู้จักคะ
 :08:


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: saithong ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2010, 09:33:01 am
ความรัก ที่จริงแล้วเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่ ความรัก ก็มากับคู่ กับความหลง
ลูกศิษย์ ของฉันเวลามีความรักแล้ว 80% กา่รเรียนจะตกต่ำทันที
เพราะต้องอุทิศเ้วลาให้กับการเที่ยว และเอาใจคนรัก และยอมเสียตัวให้กับคนรัก

ซึ่งทั้งหมดจะนำมาซึ่งปัญหา มากมาย สุดท้ายก็จะเรียนไม่จบ

ดังนั้น ความรัก ถ้าพัฒนาเป็นความหลงแล้ว ก็จะอันตราย

พระพุทธองค์ ทรงตรัสเกี่ยวกับเรื่องความรัก มีสาเหตุ 2 ประการ

1.เกิดจากบุพเพสันนิวาส เคยทำบุญร่วมกันมาในการก่อน
2.เกิดจากการอยู่ร่วมกัน ทำอะไรร่วมกันบ่อย ๆ


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: axe ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2010, 05:14:46 pm
 ;) :s_good:


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: lastman ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2010, 03:26:51 pm
 :29:

คนเราเกิดเมื่อ ก็รักได้ครับ อย่างน้อยก็รักตนครับ
แต่ระวังอย่าให้ตาบอด นะครับ

บางครั้ง ความรักนี่ละครับ สนับคนรักในการทำผิดได้ครับ
ต้องระวังตรงนี้นะครับ

เพราะเมื่อมีรักแล้ว ก็มีผิดหวังครับ เป็นของคู่กัน


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2010, 10:03:17 am
(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQqV_ZUQmJUSvh9lFsoBAr56BX6ExIycPdvA4J_07BFXtlF_osQ)
     
           อันความรักนั้นเห็นทีมีแต่ทุกข์     ยากสพสุขสมหวังได้ดั่งขวนขวาย
เพียรบากบั่นดั้นด้นหาทั้งหญิงชาย     ครั้นเบื้องปลายให้ระทมตรมอุรา
        เพียงเท่านี้คือชีวิตมิใช่ฝัน     ที่ผกผันวิถีแท้แก่ชะตา
อย่าพาลหลงว่าหนุ่มสาวมิชรา     มรณาชิดกรายกล่ำอย่าย่ามใจ
       หมั่นไตร่ตรองครองศีลทานการกุศล     รักซุกซนอย่าไขว่คว้าหาดีไม่
จงรักตัวห่วงตัวตนอย่าห่วงใคร     เบื้องหน้าไปมีแต่ตนเตือนตนแล.


                                                                                     :character0029:ธรรมธวัช.!



http://jakree2499.blogspot.com/2010/05/blog-post_993.html


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: หมิว ที่ มิถุนายน 09, 2010, 01:01:52 pm
โลกนี้เหมือนละคร

ฟังสถานี เปิดเพลงนี้บ่อยคะ คงต้องการสื่อเรื่องโลกให้ฟัง

 :88: :25:


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกเกด ที่ สิงหาคม 23, 2010, 10:58:52 pm
 บางสิ่งที่อยากจำ เรากลับลืม

บางสิ่งที่อยากลืม เรากลับจำ

คนเรานี้ คิดให้ดี ก็น่าขำ

อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ

 :25:


หัวข้อ: คุณรักหนอครับ "อัพเดตให้หน่อย"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 24, 2010, 01:14:31 am
คุณลูกเกด ขุดเรื่องนี้มาคุย ผมเป็นงงมาก

นึกไม่ออกว่า ทำไมผมไม่ตอบกระทู้นี้

แต่ตอนนี้นึกไ้ด้แล้วครับ "ผู้หญิงด้วยกันน่าจะตอบได้ดีกว่าผู้ชาย"

เรื่องนี้ผ่านมา ห้าเดือนกว่า คุณรักหนอน่าจะมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

เล่าให้อ่านบ้างนะครับ

 :88: :58: :) ;) :49: :34: :bedtime2:


หัวข้อ: เพลง"รักหนอรัก" บัวชมพู ฟอร์ด
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 24, 2010, 01:33:54 am

http://www.youtube.com/watch?v=z7bCfvoFlYo# (http://www.youtube.com/watch?v=z7bCfvoFlYo#)

เพลง รักหนอรัก
บัวชมพู ฟอร์ด
ประกอบหนัง วัยอลวล

รักหนอรักไม่จริง ถูกทอดทิ้งใจหาย รักหนอรักกลับกลาย
สิ้นสลายกลายขม รักหนอรักต้องตรม สุดระทมขมขื่น
รักหนอรักไม่รอ เฝ้างอนง้อรอฝืน รักหนอรักไม่คืน
ชื่นเป็นช้ำกำสรวญ เราหนอเราเฝ้าครวญ เมื่อรักรวนลับล่วง

*เธอหนอเธอขยี้รัก และภักดีของฉัน หวังกลายมลายเหมือนฝันฝันลวง
ใจหนอใจภักดี ฉันพลีให้เธอทั้งดวง โดนรักลวงทั้งทรวงแหลกแล้วเอย

**ลืมหนอลืมเท่าไร เจ็บเพียงไหนใจเอ๋ย ลืมไม่ลืมได้เลย
โปรดอย่าเย้ยผู้แพ้ ใจหนอใจอ่อนแอ ไม่ผันแปร..รักเธอ


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ สิงหาคม 24, 2010, 06:51:23 am
ขอบคุณ คะ กระทู้นี้ก็นานมากแล้ว

 เหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้น กับความกล้าหาญ ที่จะยอมรับความจริง

 คุณปุ้มอยากให้เล่า ก็เล่าสักนิดคะ



  อันความรัก ถ้ามีเกิดขึ้นกับใครแล้ว ในยามนั้น เหมือนโลกหยุด

ยิ่งยามที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก ด้วยแล้ว เวลาทั้งหมด อยากให้

ไหลผ่านไปช้า ช้า

  ความรัก มาคู่กับ ธรรม 2 อย่าง คือ สมหวัง และ ผิดหวัง

 คุณจะได้ยืนอยู่ตรงไหนของความรัก ก็ขึ้นอยู่ที่บุพพกรรมที่ทำร่วมกันมา

 หากเราไม่เคย สั่งสมความเป็นเนื้อคู่กันมาก็ย่อมไม่ประสพกับความสมหวัง

 หากเราได้เคยสั่งสม ความเป็นเนื้อคู่กันมาก็ย่อมประสพกับความสมหวัง

    สำหรับธรรม ที่รักหนอได้ พบนั้นเป็นเรื่องของความไม่สมหวัง เนื่อง

จากคนที่เรารัก ก็พึ่งจะแต่งไปช่วงไม่กี่เดือนนี้แล้ว เขาใช้เวลาจีบ ดูใจกัน

เพียง 2 เดือน ในขณะที่เรานั้น คบกันมาตั้งแต่ ม4 ( 10 กว่าปี ) ด้วยสัญญา

หากเรียนจบแล้ว มีงาน มีฐานะ ก็จะมาสู่ขอหมั้นหมาย กัน

   คำสํญญา ในครั้งนั้นผูกมัด หัวใจของหญิงสาว ที่รอความหวัง

ให้ตั้งความหวัง และ ก็มอบใจให้ แต่ไม่พลีกายให้ เนื่องด้วยรักหนอ

นั้นเป็นอุบาสิกา มั่นคงในศีล มีการอบรมธรรมะมาตั้งแต่อายุ 15 ปี

เนื่องด้วยคุณยายเป็นผู้สนับสนุน ได้ฟังธรรมะ จากพระสงฆ์ ผู้ทรงศีล

และกิตติคุณ ไม่น้อย

  แต่ยามเมื่อความรัก มันแผลงศรเป็นพิษ ที่ปักในทรวง ยิ่งทรมาน

ด้วยความมาดหมายว่าเราเป็นเจ้าของ เจ้าของ และ เจ้าของ

  ด้วยธรรมะที่เกิดแต่สมาธิ มีพระอาจาย์เป็นผู้อบรมในกรรมฐาน

ใจที่รุ่มร้อนนั้น ก็มองเห็นได้ว่า แท้จริง กายนี้ไม่ใช่เรา การนี้ไม่เป็นเรา

กายนี้ไม่มีในเรา มีแต่จิตล้วน ๆ ที่ดำเนินตามกฏแห่งกรรม

  สังสารวัฏ มีแต่ความทุกข์ และ ความทุกข์ก็รอเราอยู่อีกมากในสังสารวัฏฏ์นี้

พุทโธ เป็นธรรมะที่ล้ำค่า เพราะประกอบด้วยประโยชน์แห่งจิต เมื่อได้ภาวนา

พุทโธ จึงส่งผลให้ใจแช่มชื่นด้วยปีติ และ เบิกบาน พร้อมปล่อยวาง ความเป็น

เรา มีเรา และ เรา ๆ ออก ถึงแม้จะปลดออกได้ไม่หมด ก็ขอตอบว่า

  ขณะนี้ใจรักหนอ สุขสงบมาหลายเดือน แล้วเทียว เปลี่ยนความสิเน่หา เป็น

การอนุโมทนา ให้กับคนที่เราเคยรัก และห่วงใย ตอนนี้ รักหนอ ก็ขอมอบความรัก

นี้ให้กับบุคคลที่สำคัญ กว่าใครอื่น ก็คือ คุณพ่อ และ คุณแม่ และ คุณยาย ที่อบรม

เลี้ยงดู มอบคุณธรรมให้รักหนอ ได้รู้จักและพบพาน พุทธศาสนา อันเป็นที่พึ่งที่แท้

   ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ที่ใดมีทุกข์ ที่นั่นก็มีธรรมะ ที่ใดมีสุข ที่นั้นก็มีวิป้สสนา

   คำสอนที่ รักหนอ จดจำไว้จากพระอาจารย์ ก็คือ "แม้สุขก็ต้องละ จักถึงนิพพานได้"

 :25: :25:


หัวข้อ: คุณรักหนอ "ลืมแต่งกลอน"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 24, 2010, 08:46:18 am
ขอขอบคุณ คุณรักหนอที่แชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้ร่วมรับรู้

สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้หญิงทุกคน

สำหรับผู้ชายอย่างผม ยอมรับว่า "ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกแบบนี้"

คุณรักหนอ กล่าวอิงธรรมะ ได้ดีครับ

แต่ถ้าจะให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น คุณรักหนอ น่าจะแต่งกลอนส่งท้ายสักนิด

 :49: :s_good: :c017: :25:


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ สิงหาคม 25, 2010, 02:56:32 am
คุณรักหนอ แต่งกลอน ไม่เป็น คร้า

มาตอบแทน เดี๋ยวจะรอ นะคร้า

 :25:


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ ตุลาคม 14, 2010, 10:51:41 am
ส่งสัยจังวว่า แล้วทำไมคุณรักหนอ ใช้ชื่อว่ารักหนอ  หรือว่าชื่อรักหนอ  ทำไมถึงชื่อนี้ละ


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: พรทิพย์ ที่ ตุลาคม 27, 2010, 07:33:17 pm
อยากทราบวิธีตัดใจจากความรัก รู้สึกว่าไม่มีความสุขเลยที่ใจรักเขา ใจเป็นทุกข์มาก ต้องทำอย่างไรใจจึงจะหลุดพ้นจากรัก

มีแนวทางปฏิบัติหรือป่าวคะ ที่จะให้ใจ ไม่รัก  เพราะใจรู้อยู่แล้วว่าทุกข์ เมื่อมีรัก แล้วเราจะฝึกอย่างไรคะ ที่จะไม่ให้รักแบบนี้

 :25: :25: :c017:


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ พฤศจิกายน 14, 2010, 08:31:58 am
อยากทราบวิธีตัดใจจากความรัก รู้สึกว่าไม่มีความสุขเลยที่ใจรักเขา ใจเป็นทุกข์มาก ต้องทำอย่างไรใจจึงจะหลุดพ้นจากรัก

มีแนวทางปฏิบัติหรือป่าวคะ ที่จะให้ใจ ไม่รัก  เพราะใจรู้อยู่แล้วว่าทุกข์ เมื่อมีรัก แล้วเราจะฝึกอย่างไรคะ ที่จะไม่ให้รักแบบนี้

(http://dl.glitter-graphics.net/pub/1145/1145081aqpfwtnijj.gif)
http://www.youtube.com/watch?v=_jQkT5dsupQ# (http://www.youtube.com/watch?v=_jQkT5dsupQ#)
(http://dl.glitter-graphics.net/pub/1145/1145081aqpfwtnijj.gif)


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: modtanoy31 ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 03:50:51 pm
ถ้ามีความรักแบบมีสติก็ดีไปนะคะ
เรื่องความรักห้ามไม่ได้เลย
รักแบบมีสติ ใช้สมองรักไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ
ดูนานๆบางทีอาจจะไม่ใช่ความรัก :104:


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 12:16:31 am
(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR4aEnNQE4ODocwJgTThnEo519so9Dy6OMNFRvORdMWoWajJDfm)

กุหลาบ...ไร้หนาม

    อิตถีหญิงหากจะรักระวังลวง
อย่าหลงบ่วงเล่ห์ชายชนที่ขลาดเขลา
จักสิ้นศรีรสสุคนธ์ให้หม่นเศร้า
ชายหยามเอาให้ต่ำค่าน่าอายชน.

                                      ธรรมธวัช.!


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ ธันวาคม 01, 2010, 07:21:22 pm
ในชีวิต เกิดมาไม่เคยรักใคร และไม่อยากรักใคร จนมาพบชายคนหนึ่ง ที่สบตาแค่ครั้งเดียว ทำให้ใจหวั่นไหว รู้สึกตัว แต่หักห้ามใจ ไม่ได้ ช่วยด้วยคะ

ความรักเป็นความรู้สึกที่ทำให้ใจอยู่ในภาวะที่มองดูโลกเป็นสิ่งสวยงาม และคาดหวังแบบเข้าข้างตนเอง อย่าให้แค่รู้สึกว่าพอใจ และเมื่อผ่านพ้นไปแล้ว ก็จะกลับมาเหลือแต่ความรู้สึกที่ได้รับในช่วงเวลาที่ลมพัดผ่าน

ความรัก เป็นเรื่องปกติ ของมนุษย์ปุถุชน เมื่อมีแล้ว ย่อมทำให้ใจ กระวนกระวาย และ มีความสุข

ความรัก ที่จริงแล้วเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ ความรัก ก็มากับคู่กับ ความหลง

โลกนี้เหมือนละคร

บางสิ่งที่อยากจำ เรากลับลืม บางสิ่งที่อยากลืม เรากลับจำ คนเรานี้ คิดให้ดี ก็น่าขำ อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ


สำหรับผู้ชายอย่างผม ยอมรับว่า "ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกแบบนี้"

อยากทราบวิธีตัดใจจากความรัก รู้สึกว่าไม่มีความสุขเลยที่ใจรักเขา ใจเป็นทุกข์มาก ต้องทำอย่างไรใจจึงจะหลุดพ้นจากรัก

เรื่องความรักห้ามไม่ได้เลย รักแบบมีสติ ใช้สมองรักไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ ดูนานๆบางทีอาจจะไม่ใช่ความรัก


ถูกทุกข้อ......ครับ!
(http://dl9.glitter-graphics.net/pub/185/185499fkwlunybl0.gif)
ความรัก คือ ความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ
(หึง,หวง,ห่วง)

ความรัก คือ โซ่ตรวนแห่งเวรภัยในวัฏฏะ
(สมหวัง ปักใจหน่วง / ผิดหวัง ชัง,โกรธ,เกลียด,อาฆาต,ผูกเวร,ตามจองล้างจองผลาญไม่สิ้น)

ความรัก คือ ความโง่
(ยอม..ที่จะเนรคุณผู้บังเกิดเกล้า, ยอม..ที่จะให้เขาเหยียดหยามย่ำยีคุณค่า และศักดิ์ศรี, ยอม..ให้กิเลสเผาผลาญตนเองอย่าไร้ค่า, ยอม..ที่จะก่อกรรมทำเลวเพื่อเขาหรือเธอ, ยอม..ตาย เพื่อรักแท้, ยอม..ทนทุกข์ตรากตรำลำเค็ญเพื่อเขาหรือเธอ)

ความรัก คือ บ่วงทุกข์
(สิ่งนี้ คือ ภาพลวงที่ชนผู้เขลาหมกอยู่ข้องอยู่ แล้วยึดถือเป็นสรณะเวียนวนทุกข์ทนซ้ำๆ ไม่งดงามเลยในเวไนยชนทั้งหลาย)


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ ธันวาคม 01, 2010, 08:45:37 pm
ยารักษาแผลใจ
(http://www.suriyothai.ac.th/files/u130/feat_heart.jpg)

คำนำ

       ใจที่ไม่มีโรค หมายถึงใจที่ปราศจากอารมณ์ที่เป็นเหตุให้ขุ่นมัว คนที่รักษาสภาวะจิตใจของตน จะรู้จักการ

ใช้กำลังใจไปในทางที่ถูกรู้จักระงับใจให้อยู่ในระดับปกติ ทำตนให้เป็นคนมีอารมณ์แจ่มใส ไม่มักมากในสิ่งต่างๆ

ไม่เก็บความทุกข์ร้อนมาใส่ใจ

       คนที่มีกำลังใจเข้มแข็ง จะรู้สึกมีความเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง มีความพอใจเป็นเบื้องหลัง มีความหวัง

เป็นเบื้องหน้า จึงสามารถทำคุณประโยชน์ให้ทั้งแก่ตนหรือส่วนรวมได้อย่างมากมาย ผิดกับคนที่ขาดกำลังใจ จะ

ทำอะไรก็ดูท้อแท้ กลัวแต่ความผิดหวัง จนไม่กล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

       ยา ล้างแผลใจ เล่มนี้ ได้แนะนำทั้งสมมติฐานของโรคใจ ที่เรียกว่ามะเร็งในอารมณ์ เช่น โรค

รัก-โลภ-โกรธ-หลง และโรคอารมณ์อีกหลายชนิด ที่จะเกิดติดตามมาหลังจากใจถูกอารมณ์ร้ายเหล่านี้เกาะกิน

พร้อมแนะวิธีรักษาด้วยพุทธโอสถ คือ ยาธรรมะของพระพุทธองค์ เพื่อใช้รักษาอารมณ์ในยามที่ท่านประสบกับ

โรค
 

โรคทางใจ

       ปกติใจของมนุษย์เป็นธรรมชาติที่ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง มีกำลังมากกว่าฟ้า ลึกกว่าท้องสมุทร กว้างใหญ่

กว่าแผ่นดิน กำลังใจจึงมีอิทธิพลเหนือกว่าทุกสรรพสิ่งที่มีในโลก คนที่มีกำลังใจย่อมสามารถทำสิ่งที่เป็น

ประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและคนอื่น ผิดกับคนที่ขาดกำลังใจ ทำสิ่งใดก็มักจะไม่สำเร็จ

       คน ที่เป็นโรคทางใจ ย่อมเกิดผลร้ายกว่าโรคทางกาย โรคใจสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วปานสายฟ้า

แลบและแผ่กระจายตัวไปได้ในพริบ ตา เกิดขึ้นได้วันละหลายครั้งไม่เลือกเวลา สถานที่ โรคใจที่ว่า คือ โรครัก

โรคโลภ โรคโกรธ โรคหลง ซึ่งแต่ละโรคนี้ทำให้มนุษย์พบกับความวิบัติมานักต่อนัก


โรคลุแก่โทสะ

       การคิดประทุษร้ายเพราะความไม่ชอบกัน เป็นโรคใจที่ทำให้คนโหดเ+++้ยม ดุร้าย ก่อให้เกิดแต่ความขุ่น

แค้น ยังใจให้ลุกโชนด้วยไฟ คือ โทสะที่คอยแผดเผาให้รุ่มร้อน ถ้าไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ย่อมนำความเดือดร้อนมา

ให้ได้มากกว่าไฟตามปกติหลายเท่านัก คนที่ลุแก่อำนาจโทสะ ก็เหมือนเหล็กที่ถูกสนิมกัดกร่อนย่อมไม่มีความ

แข็งแรง


โรคโกรธ          

       ความโกรธมักเกิดขึ้นจากการกระทำที่ผู้อื่นทำแก่ตนทั้งเจตนาหรือไม่เจตนา แต่ก็สร้างความขัดเคืองขุ่น

แค้นให้เกิดขึ้นได้ แม้แต่การกระทำของตัวที่ไม่ได้ดังประสงค์ก็ยังใจให้โกรธได้ คนมักโกรธแม้มีสติปัญญาดี

เฉลียวฉลาด มีความสามารถ แต่เมื่อถูกความโกรธครอบงำ ก็สามารถก่อกรรมทำเข็ญที่ร้ายแรงได้


โรคผูกโกรธ

       ความผูกโกรธเป็นโรคที่เกิดต่อจากความโกรธ แต่มีโทษที่รุนแรงกว่าความโกรธ เกิดขึ้นได้เพราะการ

กระทำของผู้อื่นที่ตนไม่พอใจ เมื่อโกรธแล้วก็ผูกโกรธเอาไว้ให้คุกรุ่นอยู่ในใจ เหมือนเถ้าที่กลบไฟไว้ ผูกโกรธไม่

รู้ลืม เมื่อพบเห็นหรือนึกถึงคนที่ทำให้โกรธขึ้นมาคราใด เป็นต้องฟุ้งซ่านแค้นเคือง พยายามหาทางทำตอบให้สม

กับความแค้นที่เขาทำไว้กับตน


โรคพยาบาท

       ความพยาบาทเป็นโรคร้ายที่เกิดต่อจากความผูกโกรธ เมื่อผูกไฟโกรธให้ลุกโชนในใจแล้ว จึงผูกพยาบาท

ปองร้ายผู้ที่ทำให้โกรธนั้น โรคนี้มีโทษร้ายแรงทั้งกว่าความโกรธและความผูกโกรธ ที่มุ่งโทษแต่การกระทำแก้

แค้นตอบแทน แต่ความพยาบาทนอกจากทำแก้แค้นแล้ว ยังหวังล้างผลาญผู้นั้นให้วิบัติย่อยยับไปเลยทีเดียว เมื่อ

ยังแก้แค้นไม่สำเร็จก็จองเวรต่อไป ไม่รู้จักจบสิ้น
 

ยารักษา

       โรค ทั้ง 4 คือ โรคลุแก่โทสะ โรคโกรธ โรคผูกโกรธ โรคพยาบาท สามารถรักษาได้ด้วยพุทธโอสถ คือ

ความเมตตา และความกรุณา เปลี่ยนความรู้สึกโกรธแค้น ผูกใจเจ็บ พยาบาทมาดร้ายต่อเขา ให้เป็นความรักใคร่

สงสารแทน เมื่อเกิดความรู้สึกรักและเมตตาในผู้อื่น ย่อมทำให้กลายเป็นคนที่มีน้ำใจโอบอ้อมอารี รู้ถึงหัวอกเขา

หัวอกเรา ก็จะบรรเทาเบาบางอารมณ์ร้ายให้จืดจางไปจากใจได้


โรครัก    
       
       ความรักที่มีเมตตาธรรม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น เคารพนับถือกันตามฐานะไม่

ถือว่าเป็นโรค แต่ความรักที่มีแต่ความหึงหวง แก่งแย่งกัน จึงจะนับว่าเป็นโรค เมื่อเกิดโรครักขึ้น ไฟราคะ ก็เผาใจ

ให้รุ่มร้อนกระวนกระวายในเมื่อยามผิดหวัง เมื่อยามตนสมหวังก็เผาผลาญร่างกายให้โรยรา เพราะเป็นไฟที่มีมาก

เกินพอดี


ยารักษา

       เมื่อเกิดโรครักขึ้นต้องแก้ด้วยยาคือ สติ ระมัดระวังใจมิให้หลงใหลไปตามอำนาจของกามารมณ์ ให้นึกถึง

โทษของความรักที่ทรมานตนจนฟุ้งซ่านกระวนกระวายขาดทั้งกำลังกายใจ ทำอะไรก็ให้รู้สึกท้อแท้ ต้องรู้เท่าทัน

ว่า เมื่อโรครักเกิดขึ้นในใจแล้ว ย่อมทำให้ใจมีความวิปริตเปลี่ยนแปลงไปได้ทั้งในทางที่ดีหรือร้าย

 
โรคโลภ

       ความอยากที่ไม่มีประมาณ ทำให้เป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ไม่รู้จักพอ ทั้งที่ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ก็น่า

จะมีความสุข แต่เพราะความโลภจึงทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน กระเสือกกระสน ดิ้นรนแสวงหา เมื่อไม่ได้สมใจ ก็

เกิดความเศร้าเสียใจ ตรมตรอมใจ เป็นบ้าใบ้ไปก็มี หนักเข้าถึงกับเป็นไข้ใจอย่างรุนแรง ถึงกับฆ่าตัวตายเพราะ

ความไม่สมอยาก


ยารักษา

       ยินดีในสิ่งที่ตนได้ พอใจในสิ่งที่ตนมี เป็นยาแก้ความโลภได้ดีที่สุด คือ รู้จักการแสวงด้วยหนทางที่ชอบ

อยู่ในกรอบของศีลธรรม ยับยั้งชั่งใจให้รู้ประมาณในการแสวงหา การได้มารวมถึงการใช้จ่ายก็ให้อยู่ในระดับที่พอ

เหมาะพอสมกับการได้มา ก็จะสามารถช่วยรักษาโรคของความโลภมากอยากได้ให้ผ่อนคลายและหายไปได้ในที่

สุด

 
โรคมักมาก

       โรคทางใจที่เร่งเร้าให้ชิงสุกก่อนห่าม มักใหญ่ใฝ่สูง มีจิตสันดานที่เอาแต่กอบโกย ถือแต่ส่วนตัวเป็นใหญ่

ถึงมีก็ไม่รู้จักพอ ไม่มีความรู้สึกพอใจในสิ่งใดๆ ไม่มีใครที่จะทำให้เขามีความรู้สึกอิ่มได้ เหมือนไฟที่ไม่อิ่มด้วย

เชื้อ มหาสมุทรไม่อิ่มด้วยน้ำ และความตายไม่แหนงหน่ายไปจากสรรพสัตว์


ยารักษา

       ความรู้จักพอ เป็นยาแก้ความมักมากที่ได้ผลทำให้มองเห็นค่าของความพอควรว่า เมื่อไม่มีสิ่งที่พอใจ ก็พอ

ใจในสิ่งที่มี ตนได้ลงโทษความอยากยังดีกว่าการที่ตนจะถูกลงโทษเพราะความมักมาก เมื่อทำได้เช่นนั้น จะ

สามารถรักษาโรคมักมากอยากได้ไม่มีที่สิ้นสุดให้ทุเลาเบาบางจนหายขาดได้


โรคความอยาก

       เป็นโรคประหลาดที่อยากมีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่อยากทำ ชอบการได้มาที่ไม่ต้องออกแรงแม้แต่จะคิด

คนที่เป็นโรคนี้มักทำตรงกันข้ามกับความอยาก เช่น กลัวความลำบากแต่เป็นคนเกียจคร้าน ชอบความสุขสบายแต่

ไพล่ไปทำเหตุแห่งทุกข์ อยากได้ดีแต่ไม่ทำความดี เข้าทำนองที่ว่า ทิ้งธุระที่มาถึงตัว มัวแต่พะวงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง


ยารักษา

       ต้องเป็นคนมีฉันทะ รักใคร่ที่จะทำความดี ฝึกฝนอบรมตนให้เห็นประโยชน์ของความดีที่ตนปรารถนา เห็น

โทษของความเลวที่ตนรังเกียจ พร้อมที่จะทำความดีตามที่ตนปรารถนา ละเว้นความเลวร้ายที่ตนรังเกียจ ก็ช่วยให้

จิตใจของท่านมีความปรารถนาอยากทำแต่ในสิ่งที่ดีๆ

 
โรคมายา

       คนที่มีมายาสาไถย เป็นคนเจ้าเล่ห์ ทำตัวเป็นเหมือนภูติผีที่เที่ยวหลอกผู้อื่นกิน คนที่ทำตัวเจ้าเล่ห์โกหก

ปลิ้นปล้อน เป็นคนคดในข้องอในกระดูก ย่อมไม่เป็นที่ไว้วางใจของใครต่อใคร เป็นคนที่หมดความน่าเชื่อถือ

ใหม่ๆ อาจจะหลอกใครต่อใครได้ แต่เมื่อเขารู้ทันก็จะเป็นเหมือนกับผีตายซาก ถูกปล่อยให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว

เดียวดาย


ยารักษา

       ต้องใช้สัจจะ คือ ความจริง มาปรับปรุงตัวรักษาใจให้เป็นคนมีคุณธรรมที่เที่ยงตรงต่อหน้าที่ จริงใจต่อ

เพื่อนฝูง ซื่อสัตย์ต่อนาย และต้องมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เมื่อได้หมั่นฝึกฝนอบรมจิตด้วยสัจจะแล้ว โรค

มายาก็ไม่อาจเกาะกุมใจของเขาได้อีก

 
โรคโอ้อวด

       เป็นคนประเภทขี้โอ่ คอยแต่จะฟังคำสรรเสริญเยินยอ เมื่อผู้อื่นกล่าวชมไม่ทันใจ ก็พูดบรรยายสรรพคุณ

ของตนอวดคนอื่นโดยไม่เลือกสถานที่ เวลา ว่าตนรู้อย่างนั้น ดีอย่างนี้ จนบางทีโอ่เสียจนน่ารังเกียจ ทั้งที่ใครเขา

ไม่อยากฟัง


ยารักษา

       ต้องรู้จักประมาณตน ปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับวุฒิภาวะฐานะว่าตนเป็นอยู่ในระดับไหน ไม่เย่อหยิ่งทะนงตน

ว่าวิเศษวิโสกว่าผู้อื่นแล้วเหยียบย่ำผู้อื่นเลวกว่าตน คนที่รู้จักประมาณตนเป็นเหตุให้เห็นคนเป็นคน จึงสามารถวาง

ตนได้เหมาะสม

 
โรคหลงงมงาย

       เป็นโรคทางใจที่ทำให้คนเป็นโรคนี้หลงเห็นผิดเป็นชอบ เห็นชั่วเป็นดี เป็นหมอกม่านปิดกั้นสติปัญญาให้

มืดมน คนที่ถูกไฟโมหะครอบงำจิตใจย่อมไม่อาจมองเห็นความเป็นจริงได้ แม้นต้องพบกับความทุกข์ลำบาก ก็ยัง

หลงหัวปักหัวปำ ไม่อาจถอนตัวถอนใจได้ เป็นเหตุให้มีชีวิตที่เศร้าหมองบั่นทอนชีวิตให้สั้นลง


ยารักษา

       ต้องใช้ยา คือ สติ ความระลึกได้ สัมปชัญญะ ความรู้ตัวพร้อม พินิจพิเคราะห์ให้ได้เหตุและผลที่แท้จริง

ก่อนค่อยทำหรือปลงใจเชื่อในสิ่งใด ทำตัวให้หนักแน่นในเหตุผล ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจให้เป็นในอำนาจของความ

หลง ก็จะช่วยผ่อนคลายอำนาจของความงมงายไม่ให้ครอบงำใจได้


โรคอิจฉา

       เป็นโรคอิจฉาริษยาในลักษณะที่หวงความดี ไม่อยากให้ผู้อื่นดีกว่าตน คนเป็นโรคใจประเภทนี้ไม่ปรารถนา

จะพบเห็นหรือแม้แต่ได้ยินว่าคนอื่นได้ดีทำ ความดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทนไม่ได้ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำดีเยี่ยงเขา

เพราะมัวแต่คิดอิจฉาความดีของคนอื่น ตัวเองเลยไม่มีเวลาทำดี ยิ่งทำให้ค่าความดีของตนตกต่ำลงไป คนที่ใช้

ความอิจฉาริษยาเป็นลูกศรยิงผู้อื่น แม้ตัวเองก็ได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานใจ


ยารักษา

       ต้องฝึกใจให้มี มุทิตา ความพลอยยินดี ในคุณความดีของผู้อื่น ฝึกฝนอบรมใจให้เป็นคนมีอัธยาศัย ไมตรี

ไม่แข็งกระด้าง เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีมีสุข ก็พลอยยินดีไปกับความสำเร็จของเขา แม้ตัวจะด้อยค่าลงไปกว่าเขา ก็ไม่

รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ โรคร้ายความอิจฉาตาร้อนก็จะผ่อนคลายหายไปในที่สุด

 
โรคหงุดหงิด

       คนเป็นโรคใจชนิดนี้เหมือนเป็นไข้เรื้อรัง ทำให้กลายเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นจุกจิกไม่เข้าเรื่อง สร้างความรำคาญใจ

ให้กับคนรอบข้างได้ไม่จบสิ้น ต้องหาเรื่องหงุดหงิดบ่นว่าใครต่อใครไม่เลือกหน้า ถ้าไม่มีก็ขุดคุ้ยเรื่องเก่ามากล่าว

อ้างจนได้ คนที่เป็นโรคนี้มักไม่รู้ตัวว่าเป็นคนทำความรำคาญใจกับผู้อื่น เป็นคนที่น่าเบื่อ ใครต่อใครก็ไม่อยากคบ


ยารักษา

       ต้องมีความสำนึกรู้ตัวตนอยู่เสมอ พิจารณาถึงโทษของความหงุดหงิดจู้จี้ขี้บ่น ว่าเราไม่ชอบคนประเภทนี้

อย่างใด คนอื่นเขาก็คงไม่ชอบนิสัยอย่างนั้นของเราเหมือนกัน เมื่อคิดได้ดังนี้ก็จะทำให้หายหงุดหงิดไม่จู้จี้ขี้บ่น มี

หน้าตาแจ่มใส มีจิตใจที่แช่มชื่น มีความเป็นอยู่ที่สุขกายสบายใจเลยทีเดียว

 
โรคขี้ขลาด

       โรคขี้ขลาดหรือกลัวในเรื่องที่ไม่ใช่เหตุ หรือในขณะที่ประสบเหตุ เมื่อกลัวจนเกินกว่าเหตุย่อมปิดบังสติ

ปัญญาที่จะใช้แก้ไขปัญหา นับเป็นโรคที่ยังใจให้หดหู่ห่อเ+++่ยว ไม่องอาจผลาญกำลังใจของชีวิต ไม่ให้ต่อสู้

กับปัญหาเพราะความขลาดกลัวเป็นเหตุ คนที่เป็นโรคนี้จึงต้องเสริมสร้างขวัญและกำลังใจเป็นพิเศษ


ยารักษา

       ต้องใช้ปัญญา พิจารณาถึงเหตุและผลของความกลัว ว่าเรากลัวในสิ่งที่จำเป็นต้องกลัวหรือไม่ เช่นกลัวต่อ

การทำดี เพราะเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าทำเอาหน้า เป็นต้น เมื่อตรึกตรองได้ดังนี้ ก็จะทำให้เห็นคุณของความกล้าในสิ่ง

ที่ชอบที่ควร ก็จะช่วยหยุดยั้งความกลัวที่ผิดปกติได้




(http://dl4.glitter-graphics.net/pub/166/166744ofnqhby1bd.gif)
อ้างอิง : http://www.tamdee.net/main/simple/?t569.html (http://www.tamdee.net/main/simple/?t569.html)


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: jittree ที่ ธันวาคม 12, 2010, 09:56:22 pm
การตัดเรื่องความรักนั้นไม่ยากค่ะ
ขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะคะ  ความรักเกิดจากความโง่  ความไม่รู้(อวิชชา) หลงคิดว่าถ้ามีอะไรเกินไปกว่าจิต( ซึ่งเป็นธรรมชาติเดิมไม่สูญสลาย)  คงจะดี  มีความสุข มากกว่าที่มีเราคนเดียว (คือร่างกายเรา) เป็นความหลงผิดค่ะ   ถ้าเราต้องการความรักนั่นหมายถึงเรารักตัวเอง  จึงหาผู้อื่นมาเพื่อปกป้องตัวเองให้ปลอดภัย  กลัวร่างกายจะสูญสลาย  สิ่งที่เกินไปกว่าจิตทำให้เกิดทุกข์ทั้งนั้น  เราจะหาทุกข์มาใส่ตัวทำไมล่ะ  เราต้องมีวิธีที่จะอยู่กับจิต(ใจ)อย่างมีความสุข  อย่าลืมถามตัวเองว่า   "เราต้องการอะไร" ต่างหาก? 


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: chatchay ที่ ธันวาคม 13, 2010, 01:01:30 am
อนุโมทนาครัับ กับความเห็น เรื่องกาย และ จิต

อ่านแล้วแสดงว่าผู้แนะนำต้องปรารถนา นิพพาน อยู่เป็นแน่

 :25:


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ปญฺญาวโร ที่ ธันวาคม 19, 2010, 10:49:31 pm
อยากทราบวิธีตัดใจจากความรัก รู้สึกว่าไม่มีความสุขเลยที่ใจรักเขา ใจเป็นทุกข์มาก ต้องทำอย่างไรใจจึงจะหลุดพ้นจากรัก

มีแนวทางปฏิบัติหรือป่าวคะ ที่จะให้ใจ ไม่รัก  เพราะใจรู้อยู่แล้วว่าทุกข์ เมื่อมีรัก แล้วเราจะฝึกอย่างไรคะ ที่จะไม่ให้รักแบบนี้

 :25: :25: :c017:
ปฏิจจสมุปบาทกับโยนิโสมนสิการครับใช้ได้ชัวร์
ค่อยๆเจริญปัญญา ใจเย็นๆจะเห็นเหตุและผล
ขออธิบายพอประมาณว่า
อวิชชาคือ ความไม่รู้จักอริยสัจสี่นั้นเอง ทำให้เกิด
สังขารๆคือ ความคิดปรุงแต่งไม่ได้แปลว่าร่างกาย ทำให้เกิด
วิญญาณๆคือ การรอรับรู้ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส มโนวิญญาณ ไม่ได้แปลว่า ผีวิญญาณ ทำให้เกิด
นามรูปๆคือ จิตเท่ากับนาม + กายเท่ากับรูป ทำให้เกิด
อายตนะๆคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทำให้เกิด
ผัสสะๆคือ การสัมผัสกันแล้วระหว่าง ตา+รูป หู+เสียง จมูก+กลิ่น ลิ้น+รส กาย+สัมผัส ใจ+ความนึกคิด ทำให้เกิด
เวทนาๆคือ ความรู้สึก ทุกข์ สุข หรือไม่ทุกข์ไม่สุก ทำให้เกิด
ตัณหาๆคือ ความต้องกการอยาก ทำให้เกิด
อุปาทานๆคือ ตัวเราของเรา ทำให้เกิด
ภพๆคือ ความแล้วที่จะเกิด ทำให้เกิด
ชาติๆคือ การเกิด แต่เป็นการตัวเราของเรา ไม่ได้หมายถึงการการเกิดจากท้องแม่
แล้วก็เลยเกิดทุกข์
หนึ่งวันเราอาจเกิดไม่รู้กี่ครั้งเลยก็ได้
เช่น
เห็นแฟนนั่งคุยกับคนอื่นก็คิดแล้วว่า
แฟนเราของๆเราหึงบ้าง ระแวงบ้าง แล้วก็ทุกข์ใจนี้แหละตัวสาเหตุของทุกข์
การจะพ้นจากทุกข์คือเราต้องมีสติตลอดเวลา ค่อยระวังสังเกตุตัวเองว่าตัวเรา
ของเราอย่าให้เกิด ถ้าเกิดก็ทุกข์ทันที
จริงๆแล้วตัวเราไม่มีเป็นแค่อุปทานการยืดมั่นถือมั่น
ตัวเราส่วนไหนที่เป็นตัวเราไม่มี เมื่อแยกส่วนออกไปเป็นขันธ์ทั้ง ๕ ก็ยังไม่มี
เป็นแต่การประกอบขึ้นของส่วนต่างๆจึงเรียกมีในอุปาทานว่าเราว่าเขา


หัวข้อ: "ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์" ภาษิตของพระพุทธเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 20, 2010, 11:02:34 am
"ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์"

(http://farm1.static.flickr.com/129/402765553_186a3c743b_o.gif)

ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์ ภาษิตของพระพุทธเจ้า
 
ถ้าหากใครไม่เคยประสบกับตนเองย่อมไม่มีวันเท่าใจได้อย่างแน่นนอน
เมื่อเรามีรัก1อย่างย่อมมีทุกข์1อย่าง มีรักในสิ่งใด100อย่างย่อมมีทุกข์100ตามไปด้วย
เพราะจิตที่ผูกพันกับสิ่งใดเรามักจะยึดมั่นในสิ่งต่างๆเหล่านั้น

และสิ่งที่เรารักและยึดมั่นไว้มักจะมาทำร้ายจิตใจของเราเสมอ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะสิ่งต่างๆๆทั้งหมดในโลกที่เรายึดมั่นไว้มันไม่มีความมั่นคงสักวันย่อมเปลี่ยนแปลงไปย่อมกฏแห่งความไม่เที่ยงแท้เราไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้เลย

พระพุทธศาสนาจึงมีจุดมุ่งหมายสูงสุด ในสิ่งที่เที่ยงแท้นั้นคือพระนิพพานสภาวะที่ไม่เป็นแปรไป มั่นคงพ้นไปซึ่งการเวียนว่ายตายและเกิด การเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์คำนี้เป็นจริงแท้ หากเราพิจารณาตั้งแต่เกิดจนมาปัจจุปันนี้ เราผ่าน ความทุกข์ต่างๆๆมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

หากมองย้อนไปในอดีตที่แสนยาวนานเราที่ยังเป็นปุถุชนผ่านทุกข์ต่างๆๆมาเเล้วนับไม่ได้เลย ทุกข์ประจำโลก เกิด  เเก่  ตายจาก กฏที่ไม่มีใครทำลายได้

ทุกข์จร  ความผิดหวัง พลัดพราก ท้อเเท้ โรคภัยไข้เจ็บ ความน้อยใจ ความเบื่อหน่าย  และความห่วงใยชีวิตที่เเสนสั้นของมนุษย์ เรากลับประสบกับสิ่งต่างๆๆข้างต้นอย่างมากมาย และมีการเเสวงหาที่ไม่สิ้นสุดลงเลย

พระพุทธศาสนาจึงไม่ใช่ศาสนาแห่งรัก แต่พระองค์สั่งสอนให้มนุษย์มีจิตและการปฏิบัติต่อกันอย่างนี้

เมตตา หมายความว่า การปรารถนาดีรักใคร่ต่อสัตว์ทั้งหลาย
เมตตาคือความไม่โกรธ (อโทสะ)

กรุณา หมายความว่า เมื่อเห็นสัตว์ทั้งหลายได้รับ
ความลำบาก  ย่อมช่วยผู้ที่ได้รับความลำบากนั้นให้ได้รับความสุข
 
มุทิตา หมายความว่า ความรื่นเริงบันเทิงใจ
ในความสุขความสมบูรณ์ของผู้อื่น
 
อุเบกขา มีลักษณะ คือ มีอาการเป็นไปอย่างกลาง
ในสัตว์ทั้งหลาย  มีการมองดูในสัตว์ทั้งหลายด้วยความเสมอกัน
 
ธรรมทั้งปวง หากมีประจำในใจของผู้ใด เขาย่อมเป็นสุขและยังความสุขนั้นไปสู่คนรอบๆๆข้างแต่เราจะมีโอกาสทุกครั้งในการ วนเวียนเกิดเวียนตายอย่างนี้ไหม 

การได้พบพุทธเจ้าเป็นของยาก
การได้ฟังพระสัทธรรมเป็นของยาก
การเข้าใจพระธรรมเป็นของยาก
การพบกัลยณมิตรเป็นของยาก

ถ้าเราเกิดในยุคที่ไม่มีสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ทั้งชึวิตนั้นคงก่อเเต่อกุศลตลอดชาติด้วยความเขลาบาปที่ทำย่อมนำไปอบาย4 ที่ๆมีแต่ทุกข์เป็นอาหาร

แล้วทำไมนะ คนเราจึงไม่เเสวงหาปัญญาเครื่องนำออกจากทุกข์นี้ นั้นอาจเป็นเพราะกิเลสที่หมักดองในจิตตสันดานเราจะพ้นไปเสียจากอำนาจของมันได้อย่าไร
 
เราควรตั้งคำถามนี้กับใจตัวเองหรือไม่

(http://th.88dbmedia1.jobsdb.com/DB88UploadFiles/2008/05/20/C24CE8F2-D65F-45F7-9CB4-6DCD3364456C.jpg)


ที่มา  http://www.daowadung.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=daowadungcom&thispage=1&No=1254885 (http://www.daowadung.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=daowadungcom&thispage=1&No=1254885)


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: cleansuiplus ที่ เมษายน 03, 2011, 09:38:35 am
ได้แนวคิดเยอะมากๆจากบอรด์นี้ครับ


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: hictoria ที่ เมษายน 05, 2011, 09:51:13 am
ขอบคุณที่มาแชร์ครับ


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: omgassist ที่ มิถุนายน 23, 2011, 04:19:41 pm
ความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนได้ มีหลายแบบ แต่ทุกคนก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและความจริง


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ สิงหาคม 02, 2011, 06:46:35 am
(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTfy9mXt21BDAPi2Mch_HCxGcp4PuGkCZvDuwzW6g5IYKzulOTp)

เพรียกหา..รัก

     โอดครวญคร่ำพร่ำร้อง         เพรียกชาย
รักเลือกผิดกลับกลาย              คิดไห้
ชีพหม่นค่าน่าอาย                 คืนยาก
ผิดเพราะหยิ่งเย่อไว้             หมิ่นข้ามคนดี.


                                                      ธรรมธวัช.!



http://www.diarythai.com/v2/Namekalon1/index.php?datestamp=20080729&thisday=1&dfMonth=7&dfYear=2008


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ ธันวาคม 19, 2011, 11:51:31 am
คุณธวัชชัย และคุณ ณฐพลสรรค์ ขอเคารพท่านทั้งสอง อ่านแล้วได้ขอคิดดีมากๆๆ ดูเหมือนท่านทั้งสองจะเข้าใจสัจจะธรรมของคำว่ารักได้ลึกซึ้งดีจริง  นับถือๆๆๆๆ   :c017: :25:


หัวข้อ: รักหนอรัก..จะทำอย่างไรกับมันดี
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2012, 10:53:48 am

http://www.youtube.com/watch?v=bTSoU9VJGPo# (http://www.youtube.com/watch?v=bTSoU9VJGPo#)


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: prayong ที่ มีนาคม 11, 2012, 04:15:59 am
ความรัก    คือให้   ไม่หวง
ไม่ทวง    ความรัก  โหยหา
แรงรัก    จักให้      ชีวา
ไม่พา     ความรัก   อับจน

ให้เธอ     ดีกว่า      ให้ ใคร
เพราะใจ   รักเธอ    ไม่สน
เพราะให้   ทำฉัน    อดทน
ยากจน   เพื่อเธอ    ไม่กลัว

ความทุกข์   คือจาก  ของรัก
ก็สัก      แต่ว่า      เสียหัว
ครู่เดียว   ก็หาย    เมามัว
เหมือนบัว  โผล่พ้น  โคลนตม

จากคุณ    : boon-m1

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/103/29103/images/happy.jpg)
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.oknation.net (http://www.oknation.net)


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ มีนาคม 11, 2012, 02:26:15 pm
รัก
(http://2.bp.blogspot.com/-ru96R0nKoss/TjvYStVKG3I/AAAAAAAAAEI/pMpjXRB66ck/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD.jpg)
     อันมนุษย์ โง่งม จมแต่รัก
ยากจะหัก ปลงใจ ให้ลืมหลง
ชายขลาดรี้ หญิงเขลา มีทนง
ใจหม่นเกลื่อน เหวหงษ์ หลากนี้มี.

                                                                             ธรรมธวัช.!




http://anicky-matrix.blogspot.com/2011/09/iosandroid.html


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: pongsatorn ที่ มีนาคม 13, 2012, 05:01:29 am
อืมม์ มีข้อคิดดี ๆ หลากหลาย นะเรื่องนี้ คุณ ๆ ที่กำลังมีรัก สร้างรัก หรือ กับระอุด้วยรัก น่าอ่านไว้นะครับ
สาธุ กับทุกท่านด้วยครับ

(http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/a161.jpg)


หัวข้อ: Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ พฤษภาคม 31, 2012, 12:36:54 pm
http://www.youtube.com/watch?v=bNC70CH23I8# (http://www.youtube.com/watch?v=bNC70CH23I8#)

http://www.youtube.com/watch?v=JApcBBeCfsQ# (http://www.youtube.com/watch?v=JApcBBeCfsQ#)

http://www.youtube.com/watch?v=nnSZ8EvQhOg# (http://www.youtube.com/watch?v=nnSZ8EvQhOg#)

http://www.youtube.com/watch?v=WC4BosJ1oL0# (http://www.youtube.com/watch?v=WC4BosJ1oL0#)

http://www.youtube.com/watch?v=qnYn1uC88kI# (http://www.youtube.com/watch?v=qnYn1uC88kI#)