ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา  (อ่าน 6027 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 





อุโบสถกลางน้ำ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 26, 2014, 11:34:15 am »
0





บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 26, 2014, 11:35:28 am »
0


เปิดแล้ว 'โบสถ์กลางน้ำ' หลวงพ่อปัญญา

เปิดแล้ว 'โบสถ์กลางน้ำ' มรดกธรรมหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ พร้อมมอบเหรียญรุ่น 1 ผู้ไปร่วมพิธี เปิดให้เข้าชมความงามจิตรกรรมฝาผนังทุกวัน เดินหน้าสร้างวัด "มจร" อำนวยความสะดวกพระนักศึกษานานาชาติปฏบัติศาสนากิจ

     29ตุลาคม2555 พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) พร้อมด้วยพระธรรมวิมลโมลี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ เจ้าคณะภาค 17 คณะผู้บริหาร คณาจารย์เจ้าหน้าที่ พระนิสิต มจร  คณะกรรมการดำเนินการสร้างอุโบสถกลางน้ำและพุทธศาสนิกชน ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดอุโบสถ์กลางน้ำและแถลงข่าวความคืบหน้าการสร้างอุโบสถกลางน้ำ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

    พระธรรมโกศาจารย์ กล่าวว่า อุโบสถกลางน้ำนี้ออกแบบโดยนายภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติปี 2537  ประเภทสาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) โดยรูปแบบของอุโบสถจะมีรูปแบบที่ต่างจากอุโบสถวัดอื่นๆ เพราะนอกจากจะเป็นอุโบสถกลางน้ำแล้ว ยังมีการสร้างให้มีลักษณะซ่อนรูป กล่าวคือ

    หากมองจากภายนอกจะเห็นว่าอุโบสถมีเพียงชั้นเดียว แต่ความจริงแล้วจะมีชั้นใต้ดินอยู่บริเวณใต้ลานของอุโบสถด้วย ซึ่งสามารถจุพระสงฆ์ได้ถึง 4,000  รูป  อุโบสถแห่งนี้ถือว่าเป็นอุโบสถกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะสามารถจุพระสงฆ์ได้ถึง 4,000 รูป

   "จุดเริ่มการก่อสร้างมาจากที่หลวงพ่อปัญญา (พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดวัดชลประทานรังสฤษดิ์) ต้องการสร้างศาสนสถานให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้อัศจรรย์ใจ เพราะท่านเห็นว่าคนสมัยก่อนยังสร้างศาสนสถานได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจได้ ทำไมคนสมัยนี้จะทำบ้างไม่ได้



    โดยเมื่อปี 2548 หลวงพ่อปัญญา เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ วังน้อย เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารที่พักสงฆ์ที่ท่านอนุเคราะห์สร้างให้กับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ ท่านก็เห็นสระน้ำภายในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ และท่านก็บอกเลยว่าจะสร้างอุโบสถขึ้นกลางสระน้ำแห่งนี้ และเริ่มดำเนินการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2548 ตรงกับวันมาฆบูชา

     โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธาน และตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทาง มจร จะได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมความงามของอุโบสถกลางน้ำตั้งแต่เวลา 07.00-18.00น.ทุกวัน" พระธรรมโกศาจารย์ กล่าวและว่า

    และเมื่ออุโบสถสร้างเสร็จแล้ว ทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯจะมีการสร้างวัดขึ้นอีก 1 แห่ง ซึ่งพื้นที่ในการสร้างวัดนั้นได้รับการถวายที่ดินจากนางทองเล็ก ไม้ตราวัฒนา  และครอบครัว ได้ถวายที่ดินเขตติดต่อกับอุโบสถให้กับทางมหาวิทยาลัย จำนวน 12 ไร่ และด้านข้างของมหาวิทยาลัยอีก จำนวน 3 ไร่

     ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการสร้างวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ ที่จะมีพระจากทั่วโลกมาศึกษาซึ่งจะต้องประจำอยู่ที่หอพัก หากมีวัดเกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยก็จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้พระได้ปฏิบัติศาสนากิจอย่างเช่นการลงพระอุโบสถ เป็นต้น

     พระธรรมวิมลโมลี กล่าวถึงความคืบหน้าการสร้างอุโบสถว่า ตามที่พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ ได้มีปณิธานก่อนที่จะมรณภาพว่า จะต้องสร้างอุโบสถกลางน้ำ ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยให้เสร็จก่อนที่จะมรณภาพ ถ้าอุโบสถไม่เสร็จ จะยังไม่ตาย แต่ด้วยความชราภาพทำให้หลวงพ่อปัญญา ต้องมรณภาพลงในวันที่ 10 ต.ค. 2550 ก่อนที่อุโบสถหลังนี้จะแล้วเสร็จ

      อาตมาจึงได้เข้ามารับช่วงเพื่อสานต่อปณิธานของหลวงพ่อซึ่งขณะนี้การดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้ว 99% คาดว่าราวปี 2555 หรือต้นปี 2556  จะแล้วเสร็จทั้งหมด หลังจากนั้นจะประกอบพิธียกช่อฟ้าและส่งมอบให้กับทาง มจร ต่อไปคาดว่าจะประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2556



     
      ขณะนี้ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถก็ดำเนินการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อย
      โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างอุโบสถกลางน้ำ ซึ่งเกิดจากศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไปแล้ว
      ประมาณ 192 ล้านบาท


      ขณะที่บริเวณโดยรอบฐานของอุโบสถด้านนอกจะใช้หินทรายเขียวซึ่งเป็นหินแบบเดียวกับที่ใช้สร้างปราสาทหินนครวัด ประเทศกัมพูชา มาแกะสลักเกี่ยวกับวัฒนธรรมของภาคต่างๆ ขณะที่ด้านข้างของฐานอุโบสถจะมีบานประตูรายรอบ โดยที่บานประตูแต่ละบานจะมีการสลักเป็นเหตุการณ์ต่างๆ 
      มีจุดที่น่าสนใจคือ มีการสลักเป็นรูปหมีแพนด้า “หลินปิง”
      ขณะอยู่ในอ้อมกอดของแม่ “หลินฮุ่ย”

      ส่วนด้านในของฐานอุโบสถ จะเป็นภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังเรื่องศีล 5 และภาพวาดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ที่เกิดในประเทศไทย เพื่อเป็นการจารึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของไทยไว้ด้วย
      ส่วนพระประธานในอุโบสถมีชื่อว่า พระรัตนโกสินทร์ทรงเครื่อง เป็นพระพุทธรูปปางปราบพระยาชมพูบดีหรือปางทรงเครื่อง  ขณะที่บริเวณด้านหน้าของอุโบสถจะประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อปัญญา ขนาดเท่าองค์จริง ส่วนศาลารายรอบอุโบสถจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิด




     พระธรรมวิมลโมลี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ภายในพระอุโบสถกลางน้ำนั้นมีภาพของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุทั้งภาพอดีตและปัจจุบัน ที่สำคัญภาพยังสื่อสะท้อนให้เห็นภาพของสังคมไทยที่แบ่งออกเป็นสีต่างๆ ภาพส่วนหนึ่งสื่อออกมาเป็นมือตบ ตีนตบ ปืน รวมทั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทางภาคใต้
 
     สำหรับผู้วาดภาพคือ นายเมืองสิงห์ จันทร์ฉาย ช่างวาดภาพชาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
     ที่เคยวาดภาพในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายแห่งอย่างเช่นที่วัดในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
     แต่ที่อุโบสถกลางน้ำแห่งนี้ถือว่าเด่นที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ และพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้ทราบถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างอุโบสถกลางน้ำ จึงพร้อมเปิดให้ชมจิตรกรรมฝาผนังซึ่งเป็นศิลปกรรมร่วมสมัยในวันนี้


     ในด้านห้องน้ำที่สร้างใต้อุโบสถก็จะมีการปรับใหม่ให้เป็นห้องรับรองและได้ดำเนินการสร้างห้องน้ำใหม่ด้านนอกอุโบสถเพื่ออำนวยความแก่ผู้ที่เข้ามาภายในมหาวิทยาลัยและเข้ามาภายในบริเวณอุโบสถกลางน้ำ

     "เมื่อเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก่อนถึงอุโบสถกลางน้ำ ท่านจะได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ด้านหน้ามหาวิทยาลัย จากนั้นก็ร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระนิสิตกว่า 2,000 รูปในอาคารหอฉัน และสักการะพระพุทธโสธรจำลองภายในอาคารหอประชุม มวก 48 พรรษา ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" พระธรรมวิมลโมลี กล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโอกาสนี้พระธรรมวิมลโมลียังได้มอบเหรียญหลวงพ่อปัญญารุ่น 1 ที่สร้างขึ้นเพียงรุ่นเดียวเพื่อเป็นอนุสรณ์ 108 ปีวัดอุปนันทาราม(วัดด่าน) จ.ระนอง เมื่อปี 2543 ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อปัญญาเคยบวชเป็นสามเณรและอนุญาตให้สร้างขึ้นสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้กับผู้ไปร่วมงานด้วย


ขอบคุณภาพขาวจาก
www.komchadluek.net/detail/20121029/143509/เปิดแล้วโบสถ์กลางน้ำหลวงพ่อปัญญา.html#.UI8z-Wfvolh
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 26, 2014, 11:49:59 am »
0



พระประธานในอุโบสถมีชื่อว่า พระรัตนโกสินทร์ทรงเครื่อง เป็นพระพุทธรูปปางปราบพระยาชมพูบดีหรือปางทรงเครื่อง




ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ วาดโดยนายเมืองสิงห์ จันทร์ฉาย ช่างวาดภาพชาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2014, 11:51:45 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 26, 2014, 12:01:13 pm »
0





ศาลารายที่บริเวณด้านหน้าของอุโบสถจะประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อปัญญา ขนาดเท่าองค์จริง
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 26, 2014, 12:09:27 pm »
0







ศาลารายรอบๆอุโบสถ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 26, 2014, 12:17:17 pm »
0





ชั้นใต้ดินอยู่บริเวณใต้ลานของอุโบสถ ซึ่งสามารถจุพระสงฆ์ได้ถึง 4,000  รูป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2014, 06:45:22 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 26, 2014, 12:25:54 pm »
0





กลับแล้วครับ


ทริปอุโบสถกลางน้ำ มจร. วังน้อย มีภาพให้ชมเท่านี้ครับ :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ อุโบสถกลางน้ำ มจร.วังน้อย อยุธยา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 26, 2014, 01:19:50 pm »
0




ต้องขอขอบคุณสำหรับสองภาพนี้ถูกใจ มีวงเทวดามาร่วมด้วย.........แปลก!

 ;)           thk56           :)           thk56           :86:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2014, 01:26:23 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา