ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )  (อ่าน 27469 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ก็อีกหลายวัน แต่รวมปัญหา ตอบในที่นี้ ฉลองก่อนออกพรรษากันในวันพรุ่งนี้
 
ปุจฉา ( ท่านถามแต่เรายังไม่ได้ตอบ )
  1.พระอาจารย์มีความเห็นอย่างไร สำหรับเรื่องการทานเจ หรือ มังสะวิรัติ
  2.ถ้าเราจะนับถือ ศาสนา 2 อย่าง เป็นไรหรือไม่คะ
  3.กิจในอริยสัจจะ 4 จะเกิดขึ้นเมื่อไร ครับ มีข้อปฏิบัติอย่างไร ครับ
  4.ฝันเห็นเรื่อง เดิม ๆ หลายครั้ง ดี หรือ ไม่ดี คะ
  5.กินอาหารเหลือ ทิ้งขว้าง เป็นบาปหรือไม่คะ
  6.สวดมนต์กับ นั่งกรรมฐาน อันไหนได้บุญมากกว่ากันคะ
  7.การไปประเทศอินเดีย กราบไหว้สังเวชนียสถาน ได้บุญเทียบกับ รอยพระพุทธบาท แตกต่างกันอย่างไรครับ
  8.เรื่องพระมาลัย มีในพระสูตร พระไตรปิฏก หรือไม่คะ หรือว่าเป็นเรื่องที่แต่งกันขึ้นมา
  9.คนที่เป็นกระเทย บวชอุทิศบุญให้พ่อแม่ จะได้บุญหรือไม่คะ
 10.ทำบุญวันพระ กับ ทำบุญวันธรรมดาปกติ อันไหนได้บุญมากกว่าคะ
 11.เอา อัฐิ ของคุณพ่อ คุณแม่ ไปอัดกรอบ แล้วแขวนไว้ที่คอ กับพระ เป็นไรหรือไม่คะ
 12.ถ้าเราปฏิเสธ ซอง กฐิน ผ้าป่า คือไม่รับ เราบาปหรือไม่คะ
 13.ถ้าเรารับซอง กฐิน ผ้าป่า แล้วไม่ได้ใส่ซอง ช่วยเหลือกลับไป มีผลกรรมอย่างไรคะ
 14.ทำไมซองกฐิน ผ้าป่า ช่วงเดือน ต.ค. พ.ย. เยอะมากคะ
 15.ถ้าจะสวดมนต์ เป็นประจำ ควรท่องบทอะไรบ้าง โปรดแนะนำด้วยครับ
 16.นั่งกรรมฐาน แต่ไม่มีห้อง พระเลยปฏิบัติไม่ได้ เกี่ยวกันหรือไม่ครับ
 17.ถ้าจะพิมพ์หนังสือแจกในงาน กฐิน ที่เราเป็นเจ้าภาพ ควรพิมพ์แจกเรื่องอะไรดีคะ พระคุณเจ้าช่วยแนะนำด้วยคะ
 18.เราจะรู้ได้อย่างไร ว่า คนที่เรารัก เช่นพ่อแม่ ของเราที่ตายไป ไปเกิดแล้ว เพราะวันนี้ยังฝันถึงอยู่เลย การฝันถึงแสดงว่า ท่านยังไม่ได้ไปเกิดใช่หรือไม่คะ
 19.นั่งสมาธิ แล้ว รู้สึกหัวหมุน เวียนศรีษะ เกิดจากอะไรคะ เป็นทุกครั้งที่นั่งสมาธิคะ กำหนด พุทโธ แบบกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับคะ ขึ้นกรรมฐานที่ คณะ 5 ยังไม่เคยถามหลวงพ่อพระครู คะ ( ไม่กล้าถาม )
 20.การที่เราไม่บริโภค เนื้อสัตว์ ได้บุญมากหรือไม่คะ
 21.ระหว่างเดินจงกรม กับ นั่งกรรมฐาน ถ้าหนูเลือกเดินจงกรมอย่างเดียว ได้หรือไม่คะ คือไม่นั่งกรรมฐานต่อ ควรปฏิบัติอย่างไร คะ
 22.พระถังซัมจั๋ง มีจริง ๆ ใช่หรือไม่ คะ ถ้ามีจริง แล้ว เห้งเจีย มีจริงหรือไม่ คะ
 23.คนป่วย ควรฝึก กรรรมฐาน อะไร คะ
 24.ถ้าเราทำจิตให้สงบ เพียงแค่ ช้างกระดิกหู ชั่วงูแลบลิ้น นี้หมายความว่าอย่างไร คะ
 25.ทำไมการเกิดเป็น มนุษย์ ดีกว่า เกิดเป็นเทวดา คะ
 26.โคตรภูญาณ พระโยคาวจร โยคี  มีความหมายอย่างไร เหมือนกันหรือไม่คะ ตอนนี้เข้าใจว่าเหมือนกันคะ
 27.สมาทานกรรมฐาน กับ อธิษฐานกรรมฐาน เหมือนกันหรือไม่ครับ
 28.เดินจงกรม ย่างซ้ายหนอ ย่างขวาหนอ เป็น สมาธิ หรือ สติ ครับ
 29.อานิสงค์ การบำรุง เลี้ยงดู บุตร ภรรยา มีอานิสงค์ อย่างไร ครับ
 30.ควรเชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ แบบ ภพหรือไม่ครับ หรือ เชื่อ แบบ สภาวะ ดีกว่า หรือว่าไม่เชื่อจะดีครับ

 วันนี้รวมปัญหา 30 ปัญหา ทั่วไป มาให้ท่านทั้งหลายรับทราบ ใครช่วยตอบได้ ก็ช่วยนำไปตอบกันหน่อย ตัดหัวข้อ ชี้ลิงก์ไปตอบกันเลย ก็ดีนะจ๊ะ จะได้ลดภาระทางการตอบของ พระอาจารย์ลงไปบ้าง

 ส่วนวิสัชชนา เดี๋ยวค่อยว่ากันไปนะจ๊ะ

 เจริญธรรม / เจริญพร


 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2012, 11:53:26 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา ( ท่านถามมานาน แล้ว เราพึ่งจะตอบ )
1.พระอาจารย์มีความเห็นอย่างไร สำหรับเรื่องการทานเจ หรือ มังสะวิรัติ

วิสัชนา
  ทานเจก็ดี ได้สุขภาพ การบริโภคเนื้อสัตว์มาก ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดี ลูกศิษย์ 80 เปอร์เซ็นต์ ที่นับถือกัน ส่วนใหญ่บริโภค อาหารเจเป็นประจำ บางท่านก็พึ่งเริ่มทาน บางท่านก็ทานมานานแล้ว ส่วนตัวก็เห็นว่าดี ถ้าทำได้

  แต่สำหรับพระอาจารย์ นั้นเลือกไม่ได้ การฉัน ( ทาน กิน )ก็ต้องตามศรัทธา สาธุชนที่ได้ทำบุญกันมาถวายให้ฉัน เวลาฉันก็ต้องวิปัสสนาให้เป็นเพียง ธาตุธรรมชาติ เท่านั้นเพื่อการมีชีวิตต่อไป การฉันอย่างนี้เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ให้ปฏิบัติ เรียกว่า การปัจจเวกขณะ ในปัจจัย 4 เพื่อไม่ให้จิต ฟู หรือ แฟ่บ หลงยึดติด กับปัจจัย 4

   สรุปใครทำได้ ไม่เดือนร้อน เกินวิสัย ก็อนุโมทนาด้วยนะจ๊ะ
  เจริญธรรม / เจริญพร



Aeva Debug: 0.0004 seconds.Aeva Debug: 0.0005 seconds.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2012, 11:54:58 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
2.ถ้าเราจะนับถือ ศาสนา 2 อย่าง เป็นไรหรือไม่คะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2012, 11:04:31 am »
0
ปุจฉา ( ท่านถามมานาน แล้ว เราพึ่งจะตอบ )
2.ถ้าเราจะนับถือ ศาสนา 2 อย่าง เป็นไรหรือไม่คะ

วิสัชชนา

   อันที่จริง คำว่า ศาสนา นั้นแปลกันอย่างเข้าใจได้ง่าย ๆ ก็คือ ที่พึ่ง ใครพึ่งอะไร สิ่งนั้น ก็เป็น ศาสนาของเขา สำหรับชาวพุทธ ก็พึ่ง พระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์  ตามที่เราได้กล่าวว่า
   พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ   ข้าพเจ้าถือเอา พระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง
   ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ   ข้าพเจ้าถือเอา พระธรรมเจ้า เป็นที่พึ่ง
   สังฆัว สะระณัง คัจฉามิ   ข้าพเจ้าถือเอา พระสงฆ์พระอริยเจ้า เป็นที่พึ่ง

  ดังนั้นถ้าผู้ใด ถือเอา พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่เคารพ ที่ระลึกถึง ผู้นั้นก็ชื่อว่า นับถือ พุทธศาสนา
 
  ส่วนผู้ใด ถือเอา ป่าไม้ โคนไม้ เจดีย์ อาราม เป็นที่พึ่งเป็นต้น พระพุทธเจ้า ตรัสว่า มิใช่ ที่พึ่งอันเกษม ไม่ใช่ที่พึ่งอันสูงสุด เขาอาศัยที่พึ่งอย่างนั้นย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

  ดังนั้นเมื่อเรานับถือพระพุทธเจ้า แสดงว่ามีปัญญามองเห็นความทุกข์ และ ต้องการนำออกจากทุกข์ ได้เราจึงมาถึงเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ดังนั้นเรื่องการนับถือ ศาสนา สองแบบ จึงไม่มี

  ดังนั้นการนับถือศาสนา นั้นขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของท่านเป็นหลัก จะตอบว่า ดี หรือ ไม่ดี ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตของท่านเป็นเครื่องตัดสิน
 
 เจริญธรรม / เจริญพร




 

 

Aeva Debug: 0.0005 seconds.Aeva Debug: 0.0004 seconds.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2012, 11:54:46 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0

ปุจฉา ( ท่านถามมานาน แล้ว เราพึ่งจะตอบ )
3.กิจในอริยสัจจะ 4 จะเกิดขึ้นเมื่อไร ครับ มีข้อปฏิบัติอย่างไร ครับ

วิสัชชนา
   กิจในอริยสัจจะ 4 นั้น มีอยู่ 3 อย่างเรียกว่า ปริวัฏ 3 คือ
     1.กตญาณ
     2.กิจจะญาณ
     3.สัจจะญาณ
   
  โดยเริ่มตั้งแต่ กำหนด ทุกขสัจจะ เพื่อให้เห็น ทุกข์สัจจะ จริง ๆ แท้ ว่าทุกข์เป็นเช่นนี้ มีโทษอย่างนี้ ลำบากอย่างนี้ เข็ดแล้วกับทุกข์อย่างนี้ จนถึงกับว่า ฉันไม่ยอมทุกข์อย่างนี้อีกแล้ว นั่นคือการเข้าถึง สัจจะญาณ คือ รู้จริง  การกำหนดอย่างนี้เรียกว่า ปริวัฏ 3 รอบที่ 1 ซึ่งทั้งหมดมีอาการ 12 จนจบอริยสัจจะสุดท้าย คือ มรรค
 
     ข้อปฏิบัติ อยู่ที่การกำหนด ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ขึ้นมาเป็นองค์บริกรรม ส่วนปัญญา ญาณอยู่ที่การเข้าไปพิจารณา ค้นหาความเป็นจริงด้วยกำลังแห่งจิต

    กล่าวว่า ผู้กำหนดทุกข์ ได้ เป็น สามัญญะชน โคตรภูบุคคล คือ ผู้ที่หน่ายจาก สังสารวัฏฏะ
 
    ดังนั้นการเข้าไปกำหนด จึงมีการกำหนด ตามลำดับชั้นของพระอริยะบุคคล ด้วย กำลังแห่ง มรรค ผล จึงมีวิธีการแตกต่างกันไป

   เจริญธรรม / เจริญพร

 

Aeva Debug: 0.0004 seconds.Aeva Debug: 0.0004 seconds.Aeva Debug: 0.0004 seconds.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2012, 11:54:33 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
4.ฝันเห็นเรื่อง เดิม ๆ หลายครั้ง ดี หรือ ไม่ดี คะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2012, 12:02:44 pm »
0

ปุจฉา ( ท่านถามมานาน แล้ว เราพึ่งจะตอบ )

4.ฝันเห็นเรื่อง เดิม ๆ หลายครั้ง ดี หรือ ไม่ดี คะ

วิสัชชนา

  ตอบได้เลยว่า ดี เพราะเป็นการยาก ที่คนเราจะฝันเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ได้ การที่ท่าน ฝันแต่เรื่องเดิม ๆ แสดง ว่ามีจิตคิดอยู่ในเรื่องเดิม ๆ
 
  ลองมาเล่าให้ฟังหน่อย ว่าฝันเรื่องเดิม ๆ นั้นเป็นอย่างไร แต่ถ้าอย่างไร ก็มีกระทู้แบบนี้อยู่อันหนึ่ง ลองไปอ่านดูนะจ๊ะ

ฝันว่า ไปถึง สถานีรถไฟ บ่อยมากคะ 
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8789.0


บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2012, 08:39:47 pm »
0
รอลุ้นพระอาจารย์ตอบมาทั้งวันเลย ว่า จะตอบ 30 คำถามจบหรือไม่ นี่ก็ล่วงเลย 20.40 น.แล้ว จึงทราบว่าน่าจะไม่ตอบแล้ววันนี้ อนุโมทนาสาธุ คะ

  :c017: :25: :25:
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

mongkol

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2012, 09:13:41 pm »
0
รอลุ้นพระอาจารย์ตอบมาทั้งวันเลย ว่า จะตอบ 30 คำถามจบหรือไม่ นี่ก็ล่วงเลย 20.40 น.แล้ว จึงทราบว่าน่าจะไม่ตอบแล้ววันนี้ อนุโมทนาสาธุ คะ

  :c017: :25: :25:

  คิดว่าพระอาจารย์ ท่านมีเวลาตอบเท่านั้นนะครับ ประเมินจากที่ท่านตอบก็ ไปตั้ง 20 กว่ากระทู้ ครับ ถ้าพิมพ์เองอย่างนี้ ก็ไม่ต่ำ กว่า 4 ชั่วโมง แถมจัดรูปแบบ มีภาพประกอบอีก ด้วยผมว่า ใครไม่เคยโพสต์ นี้ก็จะไม่ทราบนะครับ ว่าใช้เวลามากนะครับ ที่ยกนิ้วในบอร์ดนี้ ก็มี คุณ nathaponson พระอาจารย์ คุณธรรมธวัช คุณ Admax คุณ aaaa คุณ suchin_tum ที่โพสต์เห็นเป็นประจำวัน นะครับ

 ส่วนที่ผมชอบมากๆ ๆ ก็ ลุง kittisak ครับ
 
 
บันทึกการเข้า

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2012, 12:24:12 am »
0
อนุโมทนา สาธุ ครับที่พระอาจารย์ มาตอบปัญหา ธรรม ครับ ใจผมเองก็อยากช่วยตอบครับ แต่ภูมิธรรม ยังไม่พอครับ อ่านคำถามแล้วตอบรับรองได้เลยว่า ตอบมั่วครับ

  :25: :c017:
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
5.กินอาหารเหลือ ทิ้งขว้าง เป็นบาปหรือไม่คะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2012, 09:11:40 am »
0
ปุจฉา
5.กินอาหารเหลือ ทิ้งขว้าง เป็นบาปหรือไม่คะ

วิสัชชนา
   การบริโภค อาหาร นั้น สำหรับผู้ดำเนินมรรค ต้องทำตามความถูกต้อง หลักปฏิบัติข้อหนึ่ง เรียกว่า โภชเน มัตตัญญุตา คือรู้จักประมาณในการบริโภค ดังนั้นเวลาพระฉันภัตร  นั้นจึงต้องพิจารณาตามความพอดีแก่ร่างกาย แต่เนื่องด้วยบางครั้ง หลายครั้ง กำลังศรัทธาของผู้มีจิตเป็นบุญนั้น มีมากกว่า จำนวนพระสงฆ์ เช่น มีพระสงฆ์หนึ่งรูป แต่มีผู้ถวายภัตร จำนวนมากกว่า 2 คนขึ้นไป แน่นอน ภัตรที่รับมานั้น ก็จะเกินความพอดีในการบริโภคได้ ดังนั้น พระสงฆ์จึงต้อง ตักภัตร แต่พอดีด้วยการทำปัจจเวกขณวิธี ที่เหลือ ก็คือ ส่งเป็นทานแก่ผู้ที่ต้องการภัตรต่อไป

   แต่ปัญหาของภัตร ที่เหลือนั้น ก็เป็นปัญหาจริง ๆ สำหรับในสถานที่ ๆ มีสัปปายะทางด้านอาหาร เพราะภัตรที่เหลือนั้น บางครั้งก็ไม่รู้จะนำไปให้ใครได้ ถึงแม้จะแจกไปบ้าง ให้ทานแก่สัตว์บ้าง ก็ยังเหลืออยู่ดี ซึ่งกรณีอย่างนี้ จัดว่า กินทิ้ง กินขว้าง หรือไม่ ก็ตอบว่า พระสงฆ์ไม่มีเจตนาแบบนั้น จึงไม่สงเคราะห์ว่าเป็นการกินทิ้ง กินขว้าง ดังนั้นบาปจึงไม่เกิดแก่พระสงฆ์ ที่รับภัตร มีแต่บุญที่เกิดกับ ผู้มีจิตศรัทธา  อันนี้เป็นกรณีของสงฆ์ นะจ๊ะ

    ส่วนกรณีเราชาวบ้านเอง ซึ่งเลี้ยงดูกันเอง ทำอาหารกินทิ้ง กินขว้างนั้น แสดงว่ามีฐานะ ไม่อด แต่ถามว่าเป็นบาปหรือไม่ ก็ตอบว่าในชาตินี้ชื่อว่าเป็นผู้ประมาท การเป็นผู้ประมาทในความเป็นอยู่อย่างนี้ ย่อมส่งผลให้แก่ภพชาติต่อไปด้วย ดังนั้นการบริโภคอาหารเหลือทิ้งขว้างกันเองนั้น เป็นบาปแน่นอน เพราะเป็นการใช้ชีวิตอย่างประมาท

   เจริญธรรม / เจริญพร


   
คาถาที่สอนสามเณรภาค ฤดูร้อน ทุกครั้งก่อนฉันภัตร เพื่อให้ติดตัวเป็นนิสัย ว่าดังนี้

    ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า พ่อแม่เหนื่อยยาก ลำบากนักหนา สงสารบรรดาคนยาก คนจน ขอบคุณพระพุทธ ขอบคุณพระธรรม ขอบคุณพระสงฆ์ ที่ทำให้เรามีอาหารได้ทานในมือ้นี้


[/]
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา

6.สวดมนต์กับ นั่งกรรมฐาน อันไหนได้บุญมากกว่ากันคะ

วิสัชชนา

   สวดมนต์ ก็คือ การท่องบ่น คาถา ต่าง ๆ มีผลทำให้จิตสงบ แต่ปัจจุบัน นักปราชญ์ยุคนี้ ก็มีการพัฒนามนต์ให้เป็นการใช้สังขาร ปรุงแต่งขณะสวดไปด้วย ( เขาเรียกว่าใช้ปัญญา แต่อาตมาเรียกว่าการใช้สังขาร ) วิธีการนี้เรียกว่า การสวดมนต์แปล เพราะยุคนี้ถ้าไปวัดไหน ๆ ที่จัดปฏิบัติธรรม อบรมธรรม แล้วไม่มีการสวดมนต์แปลใน ประเทศไทย ขณะนี้ จะถือว่าเชย หรือ ล้าสมัย ขาดปัญญา เคยได้ยินหลายท่านมักจะพูดอย่างนี้ ดังนั้นแบ่งการสวดมนต์ มี 4 แบบ

   1.สวดมนต์ด้วยความ ศรัทธา
   2.สวดมนต์เพื่อส่งเสริม ปัญญา
   3.สวดมนต์เพื่อรักษาประเพณี
   4.สวดมนต์เพื่อแทนการขับร้อง

       1.สวดมนต์ ด้วยความศรัทธา คือการสวดมนต์ด้วยความเขื่อว่า มนต์นี้ จักให้คุณอย่างนี้ ถ้าเจริญสวดมนต์บทนี้ทุกวัน ก็จะได้ผลอย่างนี้ เช่น การสวดต่ออายุ ต่อชะตา เสริมดวง เป็นต้น

       2.สวดมนต์เพื่อส่งเสริมปัญญา คือการสวดมนต์และเรียนรู้ความหมายของมนต์การสวดแบบนี้ คิดเป็นทางระนาบเดียวคือ เพื่อต้องการรู้ความหมายของมนต์ ว่ามนต์นี้สอนอะไร ให้รู้เป็นไปเพื่อการรู้ ส่งเสริมความรู้ เช่นการสวดมนต์แปลบาลี เป็น ไทยเป็นต้น

       3.สวดมนต์เพื่อรักษาประเพณี ก็ตามนั้นสวดเพราะเขาสวดกันมาอย่างนี้ ก็ต้องรักษาการสวดไว้อย่างนี้การสวดอย่างนี้มีทั้งศรัทธา และ ส่งเสริมความรู้ด้วย เช่น การประกวดแข่งขัน สวดมนต์เป็นต้น

       4.สวดมนต์เพื่อทดแทนการขับร้อง ความหมายตรง ๆ เพราะพระพุทธเจ้าพระองค์ ทรงตรัสศีล เว้นจากฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรีอันเป็นข้าศึกแห่งกุศล ดังนั้นก็จึงมีผู้นำบทสวดมนต์มาขับขานใส่ทำนองเพลง กันซึ่งก็ยังเป็นฝ่ายกุศล

       ดังนั้นจะเห็นว่า เป้าหมายการสวดมนต์นั้น มีหลากหลายมาก ใครจะสวดแบบไหนก็อยู่ที่จริต ศรัทธา ของบุคคลผู้นั้นด้วยเป็นหลัก

      ที่นี้กลับมาดูคำถาม อีกครั้ง

     การนั่งกรรมฐาน นั้น มีอยู่ 2 แบบคือ การเจริญสมาธิ กับ การเจริญมรรค ซึ่งมีการพูดเป็นภาษาทางการว่า การเจริญสมถะ ทำให้ใจสงบตั้งมั่น การเจริญวิปัสสนา ทำให้ใจที่สงบตั้งมั่นนั้นให้เห็นตามความเป็นจริง

    ดังนั้นจะเห็นว่า การนั่งกรรมฐาน มีข้อบ่งชัดเจนกว่าเรื่องการสวดมนต์ และ เป็นหลักปฏิบัติเรียกว่า มรรค โดยตรง ผลของการนั่งกรรมฐานนั้น ถ้าผู้ภาวนาสำเร็จ ก็จะได้ สมาบัติ ผลสมาบัติ เป็นต้น


    จากคำถามที่ว่า สวดมนต์ กับ นั่งกรรมฐาน อันไหนได้บุญมากกว่า

   ก็ต้องตามตรงว่า นั่งกรรมฐาน ได้บุญมากกว่า เพราะเป็น มรรค โดยตรง มีผลเป็นพระอริยะบุคคล ชัดเจนกว่าเรื่องการสวดมนต์

   เจริญธรรม / เจริญพร

 

[/]

[/]
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา

  7.การไปประเทศอินเดีย กราบไหว้สังเวชนียสถาน ได้บุญเทียบกับ รอยพระพุทธบาท แตกต่างกันอย่างไรครับ


วิสัชชนา

อานิสงค์ การกราบบูชาสักการะ รอยพระพุทธบาท
           ๕. โกรัณฑปุปผิยเถราปทาน
         ประวัติในอดีตชาติของพระโกรัณฑปุปผิยเถระ
            (พระโกรัณฑปุปผิยเถระ    เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน    จึงกล่าวว่า)
                      [๖๘]   เมื่อชาติปางก่อน    ข้าพเจ้ากับบิดาและปู่เป็นคนทำงานในป่า เลี้ยงชีพด้วยการฆ่าสัตว์    กุศลกรรมของเราไม่มี
                      [๖๙]    ใกล้ที่อยู่ของข้าพเจ้า    พระศาสดาพระนามว่าติสสะ ผู้ทรงเป็นผู้นำชั้นเลิศของโลก    ผู้มีพระจักษุ ได้ทรงแสดงรอยพระบาทไว้   ๓    รอยเพื่ออนุเคราะห์(ข้าพเจ้า)
                      [๗๐]  ข้าพเจ้าเห็นรอยพระบาทของพระศาสดาพระนามว่าติสสะ ที่พระองค์ทรงประทับไว้ ข้าพเจ้าเป็นผู้มีจิตร่าเริงบันเทิงใจได้ทำจิตให้เลื่อมใสในรอยพระบาทนั้น
                      [๗๑]   ข้าพเจ้าเห็นต้นอังกาบซึ่งงอกเลื้อยไปตามพื้นดิน
 มีดอกบานสะพรั่ง    จึงเด็ดมาพร้อมทั้งยอดได้บูชารอยพระบาทอันประเสริฐที่สุด
                      [๗๒]    ด้วยกรรมที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้วนั้น และด้วยเจตนาที่ตั้งไว้มั่น ข้าพเจ้าละกายมนุษย์แล้ว จึงได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
                      [๗๓]    ข้าพเจ้าเกิดในกำเนิดใด  ๆ  คือจะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็ตาม (ในกำเนิดนั้น  ๆ    )ข้าพเจ้ามีผิวพรรณดังดอกอังกาบมีรัศมีซ่านออกจากกาย
                      [๗๔]  ในกัปที่    ๙๒    นับจากกัปนี้ไป ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชารอยพระบาท
                      [๗๕]   กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว  ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ   ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
                      [๗๖]   การที่ข้าพเจ้ามาในสำนักของพระพุทธเจ้า เป็นการมาดีแล้วโดยแท้ วิชชา    ๓    ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ  คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า    ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
                      [๗๗]    คุณวิเศษเหล่านี้  คือ ปฏิสัมภิทา ๔  วิโมกข์    ๘
   และอภิญญา    ๖    ข้าพเจ้าก็ได้ทำให้แจ้งแล้ว

               คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า    ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว    ดังนี้แล  ได้ทราบว่า    ท่านพระโกรัณฑปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้    ด้วยประการฉะนี้
            โกรัณฑปุปผิยเถราปทานที่ ๕ จบ



อานิสงค์ การกราบไหว้ สังเวชนียสถาน
               สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
            [๒๐๒]    ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ    เมื่อก่อนภิกษุทั้งหลายผู้จำพรรษาในทิศทั้งหลายมาเฝ้าพระตถาคต    ข้าพระองค์ทั้งหลายย่อมได้พบ    ได้ใกล้ชิดภิกษุทั้งหลายผู้เป็นที่เจริญใจ    ก็เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จล่วงลับไป    ข้าพระองค์ทั้งหลายจะไม่ได้พบ    ไม่ได้ใกล้ชิดภิกษุทั้งหลายผู้เป็นที่เจริญใจ    (อีก)”
            พระผู้มีพระภาคตรัสว่า    “อานนท์    สังเวชนียสถาน    ๔    แห่งนี้เป็นสถานที่    (เป็นศูนย์รวม)    ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู
       สังเวชนียสถาน    ๔    แห่ง    อะไรบ้าง    คือ
       ๑.    สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู    ด้วยระลึกว่า    ‘ตถาคต  ประสูติในที่นี้’
       ๒.    สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู    ด้วยระลึกว่า    ‘ตถาคตได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้’
       ๓.    สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู    ด้วยระลึกว่า    ‘ตถาคตทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยมในที่นี้’
       ๔.    สังเวชนียสถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู    ด้วยระลึกว่า    ‘ตถาคต ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้’
      อานนท์    สังเวชนียสถาน    ๔    แห่งนี้เป็นสถานที่ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรไปดู๑
            ภิกษุ    ภิกษุณี    อุบาสก    อุบาสิกา    ผู้มีศรัทธาจะมาดู    ด้วยระลึกว่า    ‘ตถาคประสูติ    ในที่นี้’  ...  ว่า    ‘ตถาคตได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมสัมโพธิญาณในที่นี้’  ...  ว่า    ‘ตถาคตประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยมในที่นี้’    ...  ว่า    ‘ตถาคตได้เสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้’

            อานนท์    ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งจาริกไปยังเจดีย์จักมีจิตเลื่อมใสตายไป    ชนเหล่านั้น
ทั้งหมดหลังจากตายแล้วจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์




สำหรับ เรื่อง บุญอานิสงค์ ท่านทั้งหลาย จงเปรียบเทียบเอาเถิด นะจ๊ะ ดังนั้นคนที่มีทุนทรัพทย์ไปประเทศอินเดียนั้น ก็ไปสักการะ รอยพระพุทธบาทที่สะดวก ที่เราอยู่ใกล้ เถิดนะจ๊ะ



เจริญธรรม / เจริญพร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2012, 09:49:42 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา

  8.เรื่องพระมาลัย มีในพระสูตร พระไตรปิฏก หรือไม่คะ หรือว่าเป็นเรื่องที่แต่งกันขึ้นมา

วิสัชชนา

  มีหลักฐาน ว่าเป็น วรรณกรรม
  แต่เพียงจะชี้แนะท่าน สั้น ๆ ว่า ประวัติพระอริยะบุคคล ช่วงหลัง นั้นก็ล้วนเป็นตำนานที่อยู่นอกพระไตรปิฏกทั้งสิ้น

  ไม่ต้องไปดูใครไกลเลย ก็ดูที่หลวงปู่เรานี่แหละ ถึงแม้เราจะอยู่ยุคนี้ ประวัติพระองค์ท่านก็เป็นตำนาน วรรณกรรม ไปแล้ว สมญานามของพระองค์ท่าน หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน ก็เป็นตำนาน วรรณกรรมต่อไป

  แต่จะเป็นอย่างไรก็ช่างเถิด เพราะ เราแค่นำสิ่งสำคัญใน วรรณกรรมตำนานนั้น มาเป็นครูสอนเราให้เดินถูกตามมรรค ก็ใช้ได้

  ดังนั้น พระมาลัย จะมีตัวตนจริง หรือ ไม่ ตอนนี้ไม่สำคัญเท่ากับ สิ่งที่พระมาลัยทำ ก็คือ การชี้เรื่อง สวรรค์ นรก ที่เป็นภพ อันเกิดแต่วิบาก ที่เราแต่ละท่านได้สร้างกันในปัจจุบันนี้ นั้นเป็นเรื่องที่สอนใจให้เรา ยึดมั่นในคุณงามความดี กุศล ไม่หลงตกไปเกลือกกลั้ว กับ อบายภูมิ 4

   ทำไมไม่มีใครคิดว่า อบายภูมิ 4 พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้เล่น หรือ ไร ดั้งนั้นผู้หลุดพ้น จาก อบายภูมิ 4 ก็ตั้งแต่พระโสดาบัน ขึ้นไปนั่นแหละที่หลุดพ้นแล้ว
 
   ดังนั้นอยากให้ท่าน มองเนื้อหาสาระ ตรงนี้กันน่าจะดีกว่า ไปสาวสาเหตุส่วนนั้น

   
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Roj khonkaen

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 414
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2012, 10:30:20 am »
0
อนุโมทนา สาธุค่ะ พระอาจารย์
บันทึกการเข้า

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 29, 2012, 09:36:44 am »
0
ผมเสนอให้พระอาจารย์ ตัดหัวข้อ ดีหรือไม่ครับ เพราะ กระทู้เดียว หลายเรื่อง หลายเนื้อหา เวลาค้นหาข้อความแล้ว ค้นเจอยากครับ อีกอย่างเวลาพระอาจารย์ตอบก็จะได้ดูเหมือนไม่ค้างตอบครับ อย่างนี้ก็ค้างตอบเยอะมากเลยนะครับ 

  สาธุ  :c017:
บันทึกการเข้า

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 29, 2012, 03:39:17 pm »
0
แต่คิดว่าอย่างนี้ ก็ดีนะคะ มาหัวข้อนี้ แล้วอ่านคำถาม คำตอบ น่าจะต้องเพิ่มลิงก์ตรงส่วนกระทูแรกหนังจากพระอาจารย์ ตอบแล้วนะคะ แล้ว ลิงก์กับไปจุดเริ่มต้น

 จากคนชอบอ่าน คะ
  :25: :25: :88:
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา

9.คนที่เป็นกระเทย บวชอุทิศบุญให้พ่อแม่ จะได้บุญหรือไม่คะ

วิสัชชนา

    คนเป็นกระเทย ภาษาพระ เรียกว่า บัณเฑาะก์ ถ้าตามระเบียบการบวชแล้ว ก็คือห้ามบวชพระ เพราะเป็นข้าศึกต่อ พระภิกษุด้วยกันได้ มีแนวโน้มทำให้พระปาราชิกกันได้ เพราะการเสพสังวาสกับ บัณเฑาะก์ ก็เป็นเรื่องที่ร้ายแรงเช่นกัน ดังนั้น คนเป็นกระเทย จึงห้ามบวช เนื่องด้วยต้องปรับทิฏฐิให้ถูกต้องก่อน จัดเป็น อาภัพบุคคลด้วย

  แต่ไม่ได้ห้ามบวชรักษาศีล 8 นะจ๊ะ ยังได้บุญอยู่

  สำหรับท่านที่ต้องการอุทิศบุญให้กับพ่อแม่ ท่านจะเก็บอารมณ์ได้หรือไม่ในระหว่างที่บวช นั้นเป็นความสามารถของท่าน

  ถ้าถามว่าได้บุญหรือไม่ ...

  สิ่งใด ที่พระพุทธเจ้าตรัสห้ามไว้แล้ว ถ้าเราละเมิด มันก็เป็นบาป สิจ๊ะ

  ดังนั้นคำตอบในตัวแล้วนะจ๊ะ

  เจริญธรรม

 
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา

10.ทำบุญวันพระ กับ ทำบุญวันธรรมดาปกติ อันไหนได้บุญมากกว่าคะ

วิสัชชนา

    บุญ แปลว่า ความอิ่มใจ เต็มใจ พอใจ

    ท่านทำบุญวันธรรมดา และ วันพระผลของบุญ ไม่แตกต่างกัน ตรงนี้ดังนั้น ทำบุญวันไหน ก็ได้ผลแบบเดียวกัน แต่ระดับของบุญ มีถึง 8 ระดับให้ไปเรื่อง ทานูปฏินิสสัคคาต่อ ในเว็บนะจ๊ะ
    แต่ย่อ ๆ ให้ก่อน
    หมายถึง การทำบุญ โดยความปรารถนา ที่แตกต่างกัน
   
    เช่นทำบุญ เพราะอยากได้ บุญ
    เช่นทำบุญ เพราะอยากโชคดี
    เช่นทำบุญ เพราะอยากสร้างบารมี

    เป็นต้น ผลบุญที่ยกไว้นั้น ย่อมแตกต่างกัน ตามความปรารถนา พระพุทธเจ้ายกย่องที่สุด ในข้อสุดท้าย ว่า

    ผู้ใดทำบุญ สร้างบุญ ด้วยความปรารถนาว่า นิพพาน นิพพาน ทำบุญเพื่อสงบระงับคือ นิพพาน เป็นบุญที่ประเสริฐสุด เพราะบุญที่ปรารถนานิพพาน นั้นว่างจากความเป็น บุรุษ บุคคล ตัวตน เราเขา การทำบุญเช่นนี้ ผู้ทำบุญจึงยังจิตในบุญว่า ทำเพื่อพระนิพพาน

  นี้เป็นเรื่องผลของบุญ

  แต่ถ้าถามอาตมา ว่า ทำบุญ วันพระ กับ วันธรรมดา สำหรับอาตมานั้น ตอนนี้พอดีคือ เพราะผู้มาทำบุญมีน้อยคือพอดี กับ ฉันไปวัน ๆ เท่านั้น ไม่เหมือนอยู่วัด ถ้าเป็นวันพระ อาหารเหลือ มากมาย วันธรรมดา ก็เหลือมาก เช่นกัน ดังนั้นถ้าอยู่วัด อาหารเหลือ

  แต่อยู่วิเวก อดอยาก ยากแค้น แต่พอดีอยู่ได้ เคยบิณฑบาตร แล้วไม่ได้อาหารเลย ก็บ่อยครั้ง คือ ไปบาตรเปล่า กลับมาด้วยบาตรเปล่า เดินไปกลับ 16 กม. ไป 8 กลับ 8 ในป่า ในเขา ตามทางหมู่บ้านไม่มี มีแต่รถขับผ่านไปมา

   ถ้าถามอาตมาในช่วงนั้น ให้ทำทุกวัน ดีกว่า ทำวันเดียว แต่ถ้าไม่สามารถทำทุกวันได้ ให้ทำวันเดียว ดีกว่าไม่ทำ แต่ถ้าไม่ทำสักวันเลย อันนี้ ไม่ดี แน่ ๆ นะจ๊ะ

  ดังนั้นทำย่อม ดีกว่าไม่ทำ จะปีหนึ่งทำครั้งหนึ่ง ก็ดีกว่าไม่ทำซะเลย เพราะไม่รู้ว่า เสบียงบุญเราจะหมดวันไหน

  จากสาเหตุที่อาตมา บิณฑบาตรได้บาตรเปล่า เวลานั่งรถผ่านพระคุณเจ้า ที่เดินจาริก ก็มักจะให้รถจอดแวะ ถวายภัตรแก่ พระคุณเจ้าที่เดินอยู่ เวลาที่เดินทางก็จะทำอย่างนี้ประจำ เพราะบุญเราทำน้อย ผลบุญจึงมีน้อย ก็ต้องเพิ่มผลบุญกันบ้างนะจ๊ะ เสบียงบุญจะได้ไม่หมด

 เจริญธรรม / เจริญพร

 
;)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2012, 11:22:47 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2012, 04:45:20 pm »
0
อนุโมทนา ครับ ขนาดคัดคำถาม ทั่วไป 30 คำถามผมคิดว่า ไม่ใช่น้อยนะครับ

  :c017: :25:
บันทึกการเข้า

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา

11.เอา อัฐิ ของคุณพ่อ คุณแม่ ไปอัดกรอบ แล้วแขวนไว้ที่คอ กับพระ เป็นไรหรือไม่คะ

วิสัชชนา

   ไม่เป็นไรหรอก เพราะเราเคารพ แต่ให้ดี ก็จัดไว้คนละส่วนกับ พระเครื่องก็ดี นะจ๊ะ บางท่านแขวนพระอรหันต์ของลูก เป็นล็อกเก็ต ก็ดีนะจ๊ะ แสดงว่าเคารพพ่อแม่มาก แต่การทำอย่างนี้ ในทางกลับกันก็จะทำให้ วิญญาณมีห่วงมากขึ้น นะจ๊ะ ดังนั้นทางที่ดีก็เก็บไว้เป็นสัดส่วน ไม่ต้องนำมาด้วยก็จะดี พ่ีอแม่เมื่อสิ้นชีิวิตไปแล้วจะได้ไม่มีห่วง ต่อเราเดี๋ยวก็วนเวียนเป็นสัมภะเวสี อยู่ในโลกนี้อีก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่มากล่าวให้เล่น ๆ หรือเป็นนิยาย

   ถ้าคนที่ตายก่อนตายห่วงอะไร ก็จะมาเกิดใกล้ ๆ สิ่งนั้นคนนั้น เช่น สมัยก่อนพระห่วงจีวร ตายไปเกิดเป็นเล็นอยู่ในจีวร บางท่านตายแล้วห่วงบ้าน ห่วงลูก มาเกิดเป็นจิ้งจก ตุ๊กแก ก็มี

  สรุปก็คือ อยู่ที่ปัญญาของเราในการนำมาพกติดตัว นะจ๊ะ

  อยากให้ทำความเข้าใจ พระอรหันต์ของลูก ไม่ใช่พระอรหันต์จริง ๆ นะจ๊ะ ถ้าเป็นพระอรหันต์จริง ห้อยดีจ้า

    ;)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2012, 07:48:04 pm โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา

12.ถ้าเราปฏิเสธ ซอง กฐิน ผ้าป่า คือไม่รับ เราบาปหรือไม่คะ

วิสัชชนา
   ถ้ามีมาก ก็ปฏิเสธบ้างก็ได้นะจ๊ะ ทำแต่พอดี เคยเห็นคุณยายท่านหนึ่งท่านรับมา 10 ซอง แล้วท่านไปแตกแบ็งค์ 10 หนึ่งร้อย ใส่ 10 คืนวัดไป สมัยนั้นค่าซองพิมพ์ก็ประมาณ 2 บาท เอ้าก็ยังดีนะยังทำตั้งร้อยหนึ่ง แต่ แยกเป็น 10 ซอง คือคุณยายท่านมีความศรัทธาต้องการทำ ร้อยหนึ่งอยู่แล้ว แต่ขัดกรรมการหลวงพ่อหลวงพี่ไม่ได้ให้นำชองไปช่วยแจก เมื่อไม่รู้จะแจกใคร ก็เลยใช้วิธีกระจายเงินใส่ซองให้ครบซอง

   เคยถามว่า แล้วทำไมโยมไม่คืนซองเปล่ากลับไปละ โยมตอบว่า โยมไม่เคยคืนซองเปล่าให้วัดเลยในชีิวิตนี้ ก็จะไม่ทำ

  ดังนั้นการทำบุญเมื่อก็ทำลงไป อย่าให้ตนเดือดร้อนนะจ๊ะ
 
  เจริญธรรม เจริญพร
 ;)
 
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 10:46:36 pm »
0
ขอบคุณพระอาจารย์อย่างสูงครับ โดยเฉพาะเรื่องที่นำกระดูกพ่อแม่มาห้อยกับพระ และ ถามว่าถ้าเป็นชายผ้าถุงแม่ ชายเสื้อพ่อ จะได้ด้วยไหมครับ หรือจะให้ดีเอาชายเสื้อหริอเส้นผมอย่างเดียวครับเพราะท่านยังมีชีวิตอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 04, 2012, 02:52:21 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2012, 11:02:12 am »
0
ผมว่ากระทู้ จะยาว แล้วนะครับ กว่าพระอาจารย์จะตอบจบ 30 ข้อ นี้ผมว่าจะทำให้กระทู้ยาวนะครับ แต่ก็ขออนุโมทนา ขอบคุณพระอาจารย์ทีมาตอบคำถามรวมในกระทู้เดียวครับ

  :c017: :25:
บันทึกการเข้า

SAWWALUK

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 246
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 09:49:20 am »
0
คิดว่าน่าจะต้องตัดคำถาม ไปบ้างนะคะ ส่งไปยังห้องอื่น บ้างคะ
 :25: :88: :c017:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 04:05:26 pm »
0
ขอบคุณพระอาจารย์อย่างสูงครับ โดยเฉพาะเรื่องที่นำกระดูกพ่อแม่มาห้อยกับพระ และ ถามว่าถ้าเป็นชายผ้าถุงแม่ ชายเสื้อพ่อ จะได้ด้วยไหมครับ หรือจะให้ดีเอาชายเสื้อหริอเส้นผมอย่างเดียวครับเพราะท่านยังมีชีวิตอยู่
Aeva Debug: 0.0004 seconds.

 สำหรับพ่อแม่ ของเรา ก็ย่อมสำคัญสำหรับเรา จะเก็บส่วนใดไว้รักษาไว้ พกไว้ ก็ย่อมดีสำหรับเรา แต่ควรเก็บกับเราให้เหมาะสม ตามลำดับความสำคัญ เช่นไม่นำพกรวมกับ พระพุทธพระเครื่องอย่างนี้เป็นต้น เพราะเป็นการไม่สมควร บางคนเอากระดูกพ่อแม่ อัดกรอบรวมกับพระสมเด็จ พ่อแม่มาเข้าฝันบอกว่าร้อน ๆ กว่าจะทราบความผ่านไปหลายเดือน อาตมาจึงแนะให้ไปนำออก แยกส่วนกัน กระดูกพ่อแม่พกใ่ส่กระเป๋าเสื้อ พระสมเด็จห้อยคอเหมือนเดิม ตั้งแต่นั้นก็ไม่ฝันว่า พ่อแม่มาบอกว่า้ร้อนอีก อันนี้ประสบการณ์มาจากลูกศิษย์ที่มาขอคำปรึกษา 

  ดังนั้นจึงย้ำพวกท่านทั้งหลายว่า พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก แต่พ่อแม่ไม่ได้เป็นพระอรหันต์จริง ๆ ในโลกดังนั้นจึงไม่จัดเข้าใน สังฆะรัตนะ นะจ๊ะ

 เจริญธรรม / เจริญพร

   ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 04:08:03 pm »
0
คิดว่าน่าจะต้องตัดคำถาม ไปบ้างนะคะ ส่งไปยังห้องอื่น บ้างคะ
 :25: :88: :c017: Aeva Debug: 0.0004 seconds.
ผมว่ากระทู้ จะยาว แล้วนะครับ กว่าพระอาจารย์จะตอบจบ 30 ข้อ นี้ผมว่าจะทำให้กระทู้ยาวนะครับ แต่ก็ขออนุโมทนา ขอบคุณพระอาจารย์ทีมาตอบคำถามรวมในกระทู้เดียวครับ

  :c017: :25:

ก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม อันที่จริง คำถามทั่วไป ที่มาวางนี้ ก็เพื่อให้ท่านที่อยากร่วมทำบุญด้วยการให้ธรรมทาน กันเป็นผู้ช่วยกันตอบ เพราะปัญหาดูแล้วไม่ยาก เป้นปัญหาทั่วไป ไม่ได้เกี่ยวกับกรรมฐาน โดยตรง แต่เห็นมาหลายวัน ก็ไม่มีใครมาช่วยตอบ เป็นเพราะว่าอยากอ่านกันเท่านั้น กระมัง ก็ไม่เป็นไร อาตมาจะตอบไปเรื่อย ๆ นะจ๊ะ ดูตามความเหมาะสม ถ้าเดือนนี้ตอบไม่หมด ก็ยกยอดขึ้นกระทู้เป็นเืดือนต่อไปนะจ๊ะ

 เจริญธรรม

  ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

nongmai-new

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 73
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 01:04:33 am »
0
ขอบคุณพระอาจารย์ ที่มาแจกความรู้ ครับ อย่างน้อยก็ตอบปัญหาที่ผมถามไปในนี้ด้วยครับ รอตั้งนานได้อ่านคำตอบเสียที แต่คำตอบไม่เหมือนที่ผมคิดไว้เลยครับ เป็นคำตอบที่ผมคิดไม่ถึงจริง ๆ ครับ อย่างนี้ละครับผมว่าคนที่จะตอบจึงไม่อยากเข้ามาตอบในห้องที่พระอาจารย์ตอบกันครับ เพราะว่าเวลาพระอาจารย์ตอบนั้นไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้นะครับ เพราะผู้อ่านมักจะคาดการณ์ไว้ก่อนว่า ถามไปแบบนี้พระอาจารย์ต้องตอบแบบนี้แน่นอน แต่เอาเป็นว่าพระอาจารย์ตอบต่างจากที่ผมนึกไว้มากเลยครับ แสดงให้เห็นว่าภูมิธรรมผมนั้นยังไม่พอ ที่จะตอบคำถามอย่างนี้ครับ

 ขอบคุณมากครับ ที่ตอบคำถามให้ผมครับ

   :c017: :c017: :c017:
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 04:47:25 pm »
0
ของพระคุณพรอาจารย์ที่ไขความกระจ่างใจนี้ให้ครับ ผมจะนำไปปฏิบัติอย่างดีครับ ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

nonestop

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 87
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 12:39:44 am »
0
พระอาจารย์ ยังไม่ได้ตอบคำถามอีกหลายคำถาม เลยนะครับ

 อนุโมทนา ด้วยครับ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
nonestop  หยุดทำ้ร้าย หยุดเบียดเบียน หยุดการกลับมาเกิด กันเถิดครับ

inlove

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 51
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 05:13:20 pm »
0
ใครช่วยตอบได้ ก็ช่วยตอบดีหรือ ไม่คะ

 :58: :58: :58:
บันทึกการเข้า

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2013, 10:01:02 am »
0
ยังมีปัญหา ยังไม่ได้ตอบอีกหลายข้อ เลย จ้า
ลูกศิษย์ พระอาจารย์ มาช่วยตอบด้วยก็ดี นะคะ เห็นหัวข้อนี้ มีคำถามดี ๆ อยากรู้เหมือนกัน คะ

 thk56 thk56 thk56
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2013, 04:03:27 pm »
0
ขอบคุณพระอาจารย์อย่างสูงครับ โดยเฉพาะเรื่องที่นำกระดูกพ่อแม่มาห้อยกับพระ และ ถามว่าถ้าเป็นชายผ้าถุงแม่ ชายเสื้อพ่อ จะได้ด้วยไหมครับ หรือจะให้ดีเอาชายเสื้อหรือเส้นผมอย่างเดียวครับเพราะท่านยังมีชีวิตอยู่
Aeva Debug: 0.0004 seconds.

 สำหรับพ่อแม่ ของเรา ก็ย่อมสำคัญสำหรับเรา จะเก็บส่วนใดไว้รักษาไว้ พกไว้ ก็ย่อมดีสำหรับเรา แต่ควรเก็บกับเราให้เหมาะสม ตามลำดับความสำคัญ เช่นไม่นำพกรวมกับ พระพุทธพระเครื่องอย่างนี้เป็นต้น เพราะเป็นการไม่สมควร บางคนเอากระดูกพ่อแม่ อัดกรอบรวมกับพระสมเด็จ พ่อแม่มาเข้าฝันบอกว่าร้อน ๆ กว่าจะทราบความผ่านไปหลายเดือน อาตมาจึงแนะให้ไปนำออก แยกส่วนกัน กระดูกพ่อแม่พกใ่ส่กระเป๋าเสื้อ พระสมเด็จห้อยคอเหมือนเดิม ตั้งแต่นั้นก็ไม่ฝันว่า พ่อแม่มาบอกว่า้ร้อนอีก อันนี้ประสบการณ์มาจากลูกศิษย์ที่มาขอคำปรึกษา 

  ดังนั้นจึงย้ำพวกท่านทั้งหลายว่า พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก แต่พ่อแม่ไม่ได้เป็นพระอรหันต์จริง ๆ ในโลกดังนั้นจึงไม่จัดเข้าใน สังฆะรัตนะ นะจ๊ะ

 เจริญธรรม / เจริญพร

   ;)

เจอะเจอคำถามในลักษณะอย่างนี้ ซึ่งก็มีในกรณีอย่างคุณแม่และคุณน้าผมที่มีการนำเอาฟันของคุณยายมาใส่ในองค์พระอุดฐานแล้วห้อยคอตั้งแต่ยังเยาว์นานปีจึงได้ถอดเก็บโดยวางรวมรวมกับพระเครื่องไว้ แต่ต่อมากับได้รับการทักท้วงโดยผู้รู้(คนทรงเจ้า)ให้นำออกแยกที่เก็บจากพระเครื่องกล่าวคือไม่ให้นำมาเก็บรวมใกล้กัน นี่เป็นเพียงสนับสนุนข้อเฉลยตอบของพระอาจารย์ที่ว่าพ่อแม่ไม่ใช่พระอรหันต์จริงเพียงแต่คุณธรรมท่านมีเทียบเคียงโดยสัญชาตญาณเท่านั้น สำหรับผมไม่ถึงขนาดให้พ่อแม่เป็นอรหันต์หากแต่ยกเทียบเคียงให้เป็นจักรพรรดิที่ต้องยกย่องสรรเสริญกราบได้ไหว้ทุกหน้าเทศกาล(ตรุษ/เช็งเม้ง/สาร์ท)กรณีท่านละไปแล้ว) ซึ่งไม่เพียงแต่พ่อแม่แต่รวมถึงปู่ย่าตายาย ฯลฯ คุณคุณต่างเคารพรักพ่อแม่จะแสดงความเคารพถึงขนาดผูกท่านไว้กับตัวได้ ถ้าให้ดีมีวิธีที่ผมชอบทำและทำบ่อยคือไปจองเจ้าภาพสร้างพระสร้างศาลาเอาชื่อพ่อแม่ฝากไว้จารึกไว้ให้ปรากฏตราบนานเท่านานอย่างนี้นี่เป็นทางเลือกคุณคุณจะพิจารณาทำบ้างก็ได้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2013, 10:04:41 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ปุจฉา

    10.ทำบุญวันพระ กับ ทำบุญวันธรรมดาปกติ อันไหนได้บุญมากกว่าคะ

วิสัชชนา

    บุญ แปลว่า ความอิ่มใจ เต็มใจ พอใจ

    ท่านทำบุญวันธรรมดา และ วันพระผลของบุญ ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น ทำบุญวันไหน ก็ได้ผลแบบเดียวกัน แต่ถ้าถามอาตมานั้น ให้ทำทุกวัน ดีกว่า ทำวันเดียว แต่ถ้าไม่สามารถทำทุกวันได้ ให้ทำวันเดียว ดีกว่าไม่ทำ แต่ถ้าไม่ทำสักวันเลย อันนี้ ไม่ดี แน่ ๆ นะจ๊ะ

    ดังนั้นทำย่อม ดีกว่าไม่ทำ จะปีหนึ่งทำครั้งหนึ่ง ก็ดีกว่าไม่ทำซะเลย เพราะไม่รู้ว่า เสบียงบุญเราจะหมดวันไหน

    จากสาเหตุที่อาตมา บิณฑบาตรได้บาตรเปล่า เวลานั่งรถผ่านพระคุณเจ้า ที่เดินจาริก ก็มักจะให้รถจอดแวะ ถวายภัตรแก่ พระคุณเจ้าที่เดินอยู่ เวลาที่เดินทางก็จะทำอย่างนี้ประจำ เพราะบุญเราทำน้อย ผลบุญจึงมีน้อย ก็ต้องเพิ่มผลบุญกันบ้างนะจ๊ะ เสบียงบุญจะได้ไม่หมด

    เจริญธรรม / เจริญพร


ผมนั้นเป็นคนขวนขวายน้อยเงินเดือนไม่แพงแต่ชอบสร้างกุศลมากมากเห็นเป็นทำไม่ให้โอกาสผ่านเลยกระทั่งไม่มีจะกินก็ทำทำจนไม่มีเหลือจะเก็บทำไมผมถึงบ้าขนาดนี้ก็เพราะชีวิตนี้ไม่ประสพพบความสุขสำเร็จเหมือนคนอื่นทั่วไปจะน้อยเนื้อต่ำใจก็สายจึงสร้างจึงทำจึงสั่งสมไม่คิดชีวิต ดังนั้นผมอยากทำบุญกุศลให้ได้ทุกทุกวันจะทำอย่างไร? ผมใช้วิธีนำกระปุกออมเงินรูปทรงพระปฏิมามาตั้งไว้ในห้องส่วนตัวก่อนจะไปทำงานจะต้องสวดมนต์บทใดบทหนึ่งแล้วอธิษฐานถวายสังฆทานแด่พระพุทธศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยหยอดเหรียญสองบาทเฉพาะสีทอง(สีเงินไม่เอา)ลงกระปุกทุกวันเพื่อเสมือนได้ทำบุญทุกวันหากเต็มเมื่อไหร่ก็จะนำไปถวาย ณ ที่ใดที่หนึ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านเป็นสงฆ์วิปัสสนาเผยแผ่ธรรมคำสอนเพื่อฉุดช่วยเวไนยชนผู้ทุกข์หม่นด้วยกรรมทั้งหลาย คุณคุณลองพิจารณาเอาเยื่องแต่ไม่ต้องตามอย่างก็ได้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2013, 09:58:54 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2013, 07:19:39 pm »
0
17.ถ้าจะพิมพ์หนังสือแจกในงาน กฐิน ที่เราเป็นเจ้าภาพ ควรพิมพ์แจกเรื่องอะไรดีคะ พระคุณเจ้าช่วยแนะนำด้วยคะ
 18.เราจะรู้ได้อย่างไร ว่า คนที่เรารัก เช่นพ่อแม่ ของเราที่ตายไป ไปเกิดแล้ว เพราะวันนี้ยังฝันถึงอยู่เลย การฝันถึงแสดงว่า ท่านยังไม่ได้ไปเกิดใช่หรือไม่คะ
 19.นั่งสมาธิ แล้ว รู้สึกหัวหมุน เวียนศรีษะ เกิดจากอะไรคะ เป็นทุกครั้งที่นั่งสมาธิคะ กำหนด พุทโธ แบบกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับคะ ขึ้นกรรมฐานที่ คณะ 5 ยังไม่เคยถามหลวงพ่อพระครู คะ ( ไม่กล้าถาม )
 20.การที่เราไม่บริโภค เนื้อสัตว์ ได้บุญมากหรือไม่คะ
 21.ระหว่างเดินจงกรม กับ นั่งกรรมฐาน ถ้าหนูเลือกเดินจงกรมอย่างเดียว ได้หรือไม่คะ คือไม่นั่งกรรมฐานต่อ ควรปฏิบัติอย่างไร คะ
 22.พระถังซัมจั๋ง มีจริง ๆ ใช่หรือไม่ คะ ถ้ามีจริง แล้ว เห้งเจีย มีจริงหรือไม่ คะ
 23.คนป่วย ควรฝึก กรรรมฐาน อะไร คะ
 24.ถ้าเราทำจิตให้สงบ เพียงแค่ ช้างกระดิกหู ชั่วงูแลบลิ้น นี้หมายความว่าอย่างไร คะ
 25.ทำไมการเกิดเป็น มนุษย์ ดีกว่า เกิดเป็นเทวดา คะ
 26.โคตรภูญาณ พระโยคาวจร โยคี  มีความหมายอย่างไร เหมือนกันหรือไม่คะ ตอนนี้เข้าใจว่าเหมือนกันคะ
 27.สมาทานกรรมฐาน กับ อธิษฐานกรรมฐาน เหมือนกันหรือไม่ครับ
 28.เดินจงกรม ย่างซ้ายหนอ ย่างขวาหนอ เป็น สมาธิ หรือ สติ ครับ
 29.อานิสงค์ การบำรุง เลี้ยงดู บุตร ภรรยา มีอานิสงค์ อย่างไร ครับ
 30.ควรเชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ แบบ ภพหรือไม่ครับ หรือ เชื่อ แบบ สภาวะ ดีกว่า หรือว่าไม่เชื่อจะดีครับ

ผมคิดว่า ยังไม่ได้ตอบครับ กำลังหาอ่านคำตอบอยู่ครับ ถ้าพระอาจารย์ไม่ว่าง ผมว่าให้ลูกศิษย์ช่วยตอบก็ได้นะครับ อย่างไรก็ตามผมจะนำคำถามนี้ไปไว้ยังห้องส่งจิตออกนอก ด้วยนะครับ

 st12 st12 st12 st12 st12 thk56
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

Roj khonkaen

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 414
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2013, 01:49:15 pm »
0
 st11  st12  st12  :25:  :88:  :58:
บันทึกการเข้า

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: เมษายน 21, 2015, 08:13:32 am »
0
ตั้งใจว่า จะตั้ง คำถาม พอดี ครับ แต่ พอค้นหา แล้ว เจอคำถาม

ก็เลยไม่รู้ว่า จะถามอะไร

 st11 st12 st12 thk56
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 21, 2015, 10:03:10 am »
0
17.ถ้าจะพิมพ์หนังสือแจกในงาน กฐิน ที่เราเป็นเจ้าภาพ ควรพิมพ์แจกเรื่องอะไรดีคะ พระคุณเจ้าช่วยแนะนำด้วยคะ
 18.เราจะรู้ได้อย่างไร ว่า คนที่เรารัก เช่นพ่อแม่ ของเราที่ตายไป ไปเกิดแล้ว เพราะวันนี้ยังฝันถึงอยู่เลย การฝันถึงแสดงว่า ท่านยังไม่ได้ไปเกิดใช่หรือไม่คะ
 19.นั่งสมาธิ แล้ว รู้สึกหัวหมุน เวียนศรีษะ เกิดจากอะไรคะ เป็นทุกครั้งที่นั่งสมาธิคะ กำหนด พุทโธ แบบกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับคะ ขึ้นกรรมฐานที่ คณะ 5 ยังไม่เคยถามหลวงพ่อพระครู คะ ( ไม่กล้าถาม )
 20.การที่เราไม่บริโภค เนื้อสัตว์ ได้บุญมากหรือไม่คะ
 21.ระหว่างเดินจงกรม กับ นั่งกรรมฐาน ถ้าหนูเลือกเดินจงกรมอย่างเดียว ได้หรือไม่คะ คือไม่นั่งกรรมฐานต่อ ควรปฏิบัติอย่างไร คะ
 22.พระถังซัมจั๋ง มีจริง ๆ ใช่หรือไม่ คะ ถ้ามีจริง แล้ว เห้งเจีย มีจริงหรือไม่ คะ
 23.คนป่วย ควรฝึก กรรรมฐาน อะไร คะ
 24.ถ้าเราทำจิตให้สงบ เพียงแค่ ช้างกระดิกหู ชั่วงูแลบลิ้น นี้หมายความว่าอย่างไร คะ
 25.ทำไมการเกิดเป็น มนุษย์ ดีกว่า เกิดเป็นเทวดา คะ
 26.โคตรภูญาณ พระโยคาวจร โยคี  มีความหมายอย่างไร เหมือนกันหรือไม่คะ ตอนนี้เข้าใจว่าเหมือนกันคะ
 27.สมาทานกรรมฐาน กับ อธิษฐานกรรมฐาน เหมือนกันหรือไม่ครับ
 28.เดินจงกรม ย่างซ้ายหนอ ย่างขวาหนอ เป็น สมาธิ หรือ สติ ครับ
 29.อานิสงค์ การบำรุง เลี้ยงดู บุตร ภรรยา มีอานิสงค์ อย่างไร ครับ
 30.ควรเชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ แบบ ภพหรือไม่ครับ หรือ เชื่อ แบบ สภาวะ ดีกว่า หรือว่าไม่เชื่อจะดีครับ

ผมคิดว่า ยังไม่ได้ตอบครับ กำลังหาอ่านคำตอบอยู่ครับ ถ้าพระอาจารย์ไม่ว่าง ผมว่าให้ลูกศิษย์ช่วยตอบก็ได้นะครับ อย่างไรก็ตามผมจะนำคำถามนี้ไปไว้ยังห้องส่งจิตออกนอก ด้วยนะครับ

 st12 st12 st12 st12 st12 thk56


อย่างน้อยก็รู้ว่า ส่วนนี้ ยังไม่ได้ ตอบ นะคะ


 :49: :25: thk56
บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: เมษายน 21, 2015, 10:06:24 am »
0
เป็นแก่น หลัก ของเว็บที่นี่ เลย นะคะ ที่มีคำถาม ตอบ เรื่อง กรรมฐาน โดยตรง โดยพระนักปฏิบัติ ตรง ๆ

  :49: :25: :25: thk56
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: เมษายน 21, 2015, 10:08:28 am »
0
 st11 st12 thk56
17.ถ้าจะพิมพ์หนังสือแจกในงาน กฐิน ที่เราเป็นเจ้าภาพ ควรพิมพ์แจกเรื่องอะไรดีคะ พระคุณเจ้าช่วยแนะนำด้วยคะ
 18.เราจะรู้ได้อย่างไร ว่า คนที่เรารัก เช่นพ่อแม่ ของเราที่ตายไป ไปเกิดแล้ว เพราะวันนี้ยังฝันถึงอยู่เลย การฝันถึงแสดงว่า ท่านยังไม่ได้ไปเกิดใช่หรือไม่คะ
 19.นั่งสมาธิ แล้ว รู้สึกหัวหมุน เวียนศรีษะ เกิดจากอะไรคะ เป็นทุกครั้งที่นั่งสมาธิคะ กำหนด พุทโธ แบบกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับคะ ขึ้นกรรมฐานที่ คณะ 5 ยังไม่เคยถามหลวงพ่อพระครู คะ ( ไม่กล้าถาม )
 20.การที่เราไม่บริโภค เนื้อสัตว์ ได้บุญมากหรือไม่คะ
 21.ระหว่างเดินจงกรม กับ นั่งกรรมฐาน ถ้าหนูเลือกเดินจงกรมอย่างเดียว ได้หรือไม่คะ คือไม่นั่งกรรมฐานต่อ ควรปฏิบัติอย่างไร คะ
 22.พระถังซัมจั๋ง มีจริง ๆ ใช่หรือไม่ คะ ถ้ามีจริง แล้ว เห้งเจีย มีจริงหรือไม่ คะ
 23.คนป่วย ควรฝึก กรรรมฐาน อะไร คะ
 24.ถ้าเราทำจิตให้สงบ เพียงแค่ ช้างกระดิกหู ชั่วงูแลบลิ้น นี้หมายความว่าอย่างไร คะ
 25.ทำไมการเกิดเป็น มนุษย์ ดีกว่า เกิดเป็นเทวดา คะ
 26.โคตรภูญาณ พระโยคาวจร โยคี  มีความหมายอย่างไร เหมือนกันหรือไม่คะ ตอนนี้เข้าใจว่าเหมือนกันคะ
 27.สมาทานกรรมฐาน กับ อธิษฐานกรรมฐาน เหมือนกันหรือไม่ครับ
 28.เดินจงกรม ย่างซ้ายหนอ ย่างขวาหนอ เป็น สมาธิ หรือ สติ ครับ
 29.อานิสงค์ การบำรุง เลี้ยงดู บุตร ภรรยา มีอานิสงค์ อย่างไร ครับ
 30.ควรเชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ แบบ ภพหรือไม่ครับ หรือ เชื่อ แบบ สภาวะ ดีกว่า หรือว่าไม่เชื่อจะดีครับ

ผมคิดว่า ยังไม่ได้ตอบครับ กำลังหาอ่านคำตอบอยู่ครับ ถ้าพระอาจารย์ไม่ว่าง ผมว่าให้ลูกศิษย์ช่วยตอบก็ได้นะครับ อย่างไรก็ตามผมจะนำคำถามนี้ไปไว้ยังห้องส่งจิตออกนอก ด้วยนะครับ

 st12 st12 st12 st12 st12 thk56


อย่างน้อยก็รู้ว่า ส่วนนี้ ยังไม่ได้ ตอบ นะคะ


 :49: :25: thk56
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: เมษายน 21, 2015, 05:03:31 pm »
0
ปุจฉา ( ท่านถามแต่เรายังไม่ได้ตอบ )
 
2. ถ้าเราจะนับถือ ศาสนา 2 อย่าง เป็นไรหรือไม่คะ

การนับถือ 2 ศาสนา อย่างกรณีอย่างพุทธกับพราหมณ์นั้น ผนวกกันเป็นอะไรที่แยกไม่ออก อาจจะด้วยหลักการคล้องจองกันในวิถีฝึกจิต ยอมรับการมีตัวตนขององค์เทพหลากหลาย สำหรับผมนั้นมีศรัทธาในแบบฉบับคนไทยเชื้อสายจีนที่วิถีการธำรงอยู่นั้นมีทั้งพุทธและขงจื้อรวมกันไม่แยก ถ้าจะสรุปพุทธ,พราหมณ์ และ เต๋า มีวิถีการยอมรับเรื่องการฝึกจิตขั้นสูงจะเป็น อริยะสงฆ์,โยคี(ฤาษี/ดาบส) หรือ เต้าหยิน หลักการศาสน์คำสอนในแถบโลกฝากตะวันออกเราสามารถผนวกกลืนเป็นเอกภาพได้ หากแต่ศาสน์คำสอนแบบคริสต์,อิสลาม ไม่มีการฝึกจิตเน้นศรัทธาจูงเดินเพียงอย่างเดียวนั้น ต้องให้กล่าวว่าเป็นแนวทางเดียวกันยากกว่า หากจะรับนับถือให้นับถือไปที่องค์ศาสดาเพียงองค์เดียวเท่านั้นได้ เพราะเทียบเคียงได้กับโพธิสัตว์บำเพ็ญตนสร้างบารมี แต่ถ้าเปลี่ยนศาสนาเปลี่ยนศาสดาเลยเป็นอนันตริยะกรรมตกไปสู่ข้างอบายนะ ขอบอก! สรุปอย่างนี้ ครับ!

ศาสนาพุทธ มีเป้าหมายอยู่ที่ การภาวนาก้าวล่วงสู่การไม่กลับมาเกิด กล่าวคือ นิพพาน

ศาสนาพราหมณ์ มีเป้าหมายอยู่ที่ การยกระดับจิตบริกรรมสู่วิถีการธำรงอยู่เยื่องพรหม

ศาสนาเต๋า มีเป้าหมายอยู่ที่ การยกระดับจิตบำเพ็ญสู่วิถีแห่งการหลุดพ้น ซึ่งคงมีเพียง "เล่าจื้อ" ที่ธำรงตนเป็นปัจเจกพุทธะได้อย่างน่าเชื่อ แต่ผู้ภายหลังจะศึกษาเพียรนั้น คงเพียรได้เพียงรูปสัญญา,อรูปสัญญา เท่านั้นเสียมากกว่า

ศาสนาขงจื้อ เป็นศาสน์คำสอนในวิถีจริยะธรรม รัฐวิธี มากกว่า ไม่เน้นหลุดพ้น

ศาสนาคริสต์/อิสลาม ไม่ต้องพูด,ไม่ต้องดู,ฟังอย่างเดียว ศรัทธาล้วนๆ ทุกสิ่งสรรพ พระเจ้าตัดสินเอง (พระเจ้าถือคันเบ็ด เราท่านเป็นปลา)

บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: รวม ตอบปัญหาทั่วไป ที่สอบถามกันมา ( พ.ย.55 )
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: เมษายน 21, 2015, 06:16:51 pm »
0
ได้ความรู้มากมายค่ะ 
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ