ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - bangsan
หน้า: [1] 2
1  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สตรีนิยมไม่ใช่ทางนิพพาน : มรรคาภิกษุณีในสังคมไทย เมื่อ: มกราคม 05, 2019, 08:34:17 am
อันตราย มากเลยนะครับ เรื่องนี้
ถ้าพิจารณา ให้ดีแล้ว ทำไมพระพุทธเจ้าจึงไม่ให้ผู้หญิงสอนธรรม พระภิกษุ แม้บวชใหม่

เพราะความคิดของ คุณ อาริสา เป็นความคิดของผู้หญิงทุกคนที่อยากบวช

วันนี้กลุ่มผู้หญิงที่ไปบวช ที่ศรีลังกา ต้องการเรียกตนเองว่า เถรวาททำไม ทั้ง ๆที่สายที่บวชมาจาก มหายาน ต้องการทำอะไร ต้องการเสมอพระภิกษุในเถรวาท เพื่ออะไร ทำไมไม่ยอมรับในความเป็นมหายานไป เสียละ

แต่นี่ที่ทำเรียกร้องสิทธิสตรี อยู่นะ  สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้คือเรียกร้องกับ รัฐบาล คือ เรื่อง กฏหมาย
แต่ความเป็นพระ มันต้องตามหลักธรรม และ วินัย มันต้องพูดเจรจากับ คณะ มส จึงจะถูกต้อง
แต่ถ้า คณะ มส ตัดสินวินิจฉัยแล้ว ก็ควรฟังตามคณะ มส ก็น่าจะจบแต่ออกไปดิ้นทางกฏหมาย เพื่อให้กฏหมายมาบีบ คณะ มส หรือ ให้สังคม กดดัน คณะ มส

มองอย่างไร ก็เป็น มหันตภัยทาง พระพุทธศาสนา ในประเทศไทย

ถ้าภิกษุณี ที่เป็นฝ่าย มหายานขณะนี้ ถ้าประกอบด้วย ธรรมควรจะยุติ การเรียกร้องได้แล้ว
เพราะที่ผ่านมา คณะสงฆ์ไทย ฝ่าย มส ก็ไม่ได้ห้ามในการเปิดวัด สำนัก ส่วนของ ภิกษุณี เหล่านี้ในประเทศไทย คณะ มส. ยังไม่ได้จัดการเพราะเห็นว่า เป็นฝ่าย มหายาน

เลยเถิดไปใหญ่ แล้ว เรื่องนี้

 :96: :96: :96:
2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ไม่เห็น พอจ โพสต์ในเฟส เลยครับ ตอนนี้ ไม่ทราบเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อ: ตุลาคม 18, 2018, 08:56:20 pm
ตามหัวข้อเลยนะครับ

ไม่เห็น พอจ โพสต์ในเฟส เลยครับ ตอนนี้ ไม่ทราบเป็นอย่างไรบ้าง
ผิดปกติ นะครับ ปกติจะเห็นในเฟสทุกวัน หรือ ขาดก็อย่างน้อย 3 วัน อันนี้เป็นอาทิตย์แล้วนะครับ ไม่ทราบ พอจ ท่านไม่สบายหรือป่าว

 :25: :25: :25:
3  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: คณะสงฆ์รู้ยัง.? ออมสินจะตั้ง 'ธนาคารพุทธ' เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 01:37:13 pm
อ่านแล้วดูเหมือนดี แต่ ที่จริงต้องการควบคุม ด้วยระบบ พร้อมพย์ และที่สำคัญ สามารถเรียกเก็บภาษี ได้เมื่อข้อมูลมีถึงระดับหนึ่ง ทางรัฐมั่นใจว่า พระมีรายได้ มาก ( พวกมีสมณศักดิ์ เจ้าอาวาส เจ้าคณะต่าง ๆ ในเมือง เชื่อว่ามีเงินบัญชี ตามธนาคารต่าง ๆ จำนวนมาก )

ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง ที่รัฐเห็นว่า พระสงฆ์ มีรายได้ ก็จะเรียกเก็บภาษี หรือ ทอนสวัสดิการ ที่มันต่ำอยู่แล้วออกไป ซึ่งมองภาพรวม นี้ไม่ดี เลย เพราะพระสงฆ์ ที่เดือดร้อนไม่มีรายได้ มีจำนวนมากกว่า ปัญหาหลายอย่างตอนนี้ มองเห็นเลยว่า พระสงฆ์ ท่านไม่มีสวัสดิการ เช่นเงินยังชีพก็ไม่มี  และอีกหลายเรื่อง

แผนนี้แยบยลมาก ๆ

 :49:
4  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นมีข่าวสาร ที่บอร์ดนี้ เลยครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2018, 08:26:15 pm
เห็นกระแสเฟค มาแรง ช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้ติดตามจากเว็บเช่นกัน ครับ

อนุโมทนา กับ พอจ ที่ยังยืนหยัดทำงานปิดทองหลังพระ อยู่ และ ท่านที่ช่วยโพสต์ เห็นเหลืออยู่คนเดียวแจกธรรม อนุโมทนา ด้วยครับ

 st12 st12 st12
5  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอความร่วมมือ สมาชิก เพื่อสำรวจสถานะ ของสมาชิก เพื่อ ธรรมวิจยะ ให้เหมาะสม เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2016, 05:54:00 pm
เว็บที่นี่ มีคุณภาพ มากทางด้านเนื้อหาสาระ ทางแนวปฏิบัติ แต่เสียดาย เรื่องข้อบังคับ หยุมหยิม คือเรื่่องการขึ้นกรรมฐาน และ การเข้าพบอาจารย์ ทำได้ยาก และ สถานที่ จะร่วมปฏิบัติภาวนาด้วย หาไม่ได้ ในปัจจุบัน คงต้องไป วัดราชสิทธาราม อย่างเดียว ซึ่งไปถึงที่โน่น แล้ว การสอนครั้งแรกไม่ประทับใจครับ

  เพราะหลังจากขึ้นกรรมฐาน เสร็จ คำสอน มีเพียง ตั่งจิตไว้ที่ ต่ำจากสะดือสองนิ้ว ภาวนาพุทโธไปเรื่อย ๆ และก็กลับไปอย่างนี้ หลายครั้ง ก็จะถูกถาม เห็นสีอะไร ที่ ฐานจิตบ้าง อย่างนี้ ผมไม่รู้สึก ว่า ทำได้ หลายปีแล้ว สู้แบบอานาปานสติ ตรง ๆ ไม่ได้ ทุกวันพระผมก็จะไปร่วมปฏิบัติอยู่ที่ คณะ 5 วัดมหาธาตุ ครับ อันนี้ รู้สึก ถูกอารมณ์มากกว่า

  แต่อย่างไร หลังจากผมได้ฟัง และปฏิบัติตาม พระธรรมปีติ มูลกรรมฐาน แล้ว รู้สึกชอบมาก เพราะสามารถปฏิบัติตามได้จนจบกระบวนการ ทุกวันนี้ ผมก็ใช้วิธีการนี้ ฝึกกรรมฐาน จาก 30 นาที จนสามารถนั่งกรรมฐานได้ ถึง 8 ชม.แล้วครับ

    ขอบคุณที่พระอาจารย์ แนะนำวิธีการปฏิบัติครับ

    :25: :25: :25:
6  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: มานานุสัย เป็นเครื่องขวางธรรม ขั้นสูง เมื่อ: ตุลาคม 01, 2015, 02:25:41 pm
 st12 st12 st12
  อยากให้ช่วยขยาย ความ เรื่องการปฏิบัติ อนิจจสัญญา ในกรรมฐาน ด้วยครับ

   :25:
7  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / อยากชมภาพ ธรรมะสัญจร ภาคอิสาณ ธันวาคม 57 โดยทีมงาน เมื่อ: ธันวาคม 25, 2014, 09:45:34 pm
ทราบว่า ทางทีมงาน ไปภาคอิสาณ กัน อยากชมภาพครับ

  thk56 thk56 thk56 ล่วงหน้า ครับ :49:
8  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ กองผ้าป่า ช่วยเหลือ สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน ปี 2557 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2014, 03:04:15 pm
 st11 st12
9  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ กองผ้าป่า ช่วยเหลือ สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน ปี 2557 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2014, 03:03:59 pm
 st11 st12
10  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ กองผ้าป่า ช่วยเหลือ สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน ปี 2557 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2014, 03:03:43 pm
 st11 st12
11  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถ้าไม่ใช่พระโสดาบันขึ้นไป วัตถุเหล่านี้ ยังมีประโยชน์ แก่ท่าน เมื่อ: กันยายน 25, 2014, 11:49:57 pm
อ่านแล้ว แม้แต่ถ้าถามผม ๆ ก็คงตอบว่า ไม่แน่ใจ ครับ

 แต่เนื่องด้วยผมไม่ใช่ศิษย์ ก็เลยไม่ค่อยรู้สึก ว่าผิด ครับ

  st11 st12 st12
12  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ตัวอักษรย่อ มะ อะ อุ มีความหมายอย่างไร ครับ เมื่อ: กันยายน 25, 2014, 11:48:40 pm
 st11 st12 thk56
13  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปณิธาน ในการภาวนา และการเผยแผ่ พระธรรม เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2014, 07:56:43 am
 st11 st12
14  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: วันที่นั่งสวด คาถาพญาไก่เถื่อน เห็นพระรูปงามเหลืองเป็นสีทองนั่งสมาธิหลังหมอกดำ เมื่อ: มีนาคม 20, 2014, 04:20:54 pm
 st12 st12 st12
15  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ปฏิบัติธรรม และญาติโยมจัดงานวันเกิดพระครูสิทธิสังวร วันที่ 15-16 มีนาคม. 57 เมื่อ: มีนาคม 16, 2014, 12:01:08 am
st11 st12
16  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เซ็น ใช่พระพุทธศาสนา หรือไม่ เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2013, 03:27:07 pm
 st11 st12
17  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ขอบคุณ ท่านที่ Hack เข้ามาแก้ Domain redirect เรา เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2013, 03:34:36 pm
 :33: :33: :040:
18  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ไม่ชอบ แล้วก็ไม่อยาก ร่วมด้วย จะชนะใจตนเองได้อย่างไร เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 07:43:59 pm
ต้องเจริญ สติ สัมปชัญญะ ให้มากครับ

  :49:
19  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระสนธยา ธัมมะวังโส มีอะไร ดี ในการนำทางธรรม กรรมฐาน อยากรู้ เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 07:34:07 pm
 st11 st12 :49:
20  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: คนพื้นเมืองสองฝั่งโขง ถูกเกณฑ์สร้างปราสาทพระวิหาร เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 08:15:32 am
ขอบคุณประวัติศาสตร์ ที่มีบันทึกให้เรารับทราบกัน ถ้าดูแผนที่ ตอนเป็น สุวรรณภูมิ ก็รวมเขมร ลาว เข้าไปด้วย รวมถึงสิบสองปันนา ในจีนตอนใต้ จะเห็นว่าประเทศไทย ทางใต้ก็สุดทะเล คือ มาเลเซีย ด้วย

    ปัจจุบัน ก็เริ่มน้อยด้วยการรุกราน ของเพื่อนบ้าน ที่ฉีกยิ้มให้กัน แต่ก็มาปักรั้วเพิ่มขึ้นทุกวัน พอต่อสู้เรียกร้องอะไรกัน คนในบ้าน ในเมื่องเรา ก็มีส่วนขายชาติ ขายประเทศ เพียงเพื่อให้ตระกูลมั่งมี ศรีสุข

    สงสารบรรพบุรุษไทย ที่กอบกู้สละชีพกันหลายครั้ง สงสารบรรดาทหารที่ออกไปป้องกันเขตแดน กันอยู่ทุกวัน และตายเยี่ยงวีรบุรุษที่ไม่มีใครได้รู้


    ชะตากรรมของประเทศ ล้วนแล้วอยู่บน อะไร ?

    :s_hi:
21  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เพลินโลก.! เป็นการ " ส่ ง จิ ต อ อ ก น อ ก " เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 08:48:02 am
อนุโมทนา สาธุ มีเนื้อหา ที่เจริญสติ ดีครับ

 :25: :25: :25: :c017:
22  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: อนุโมทนา กับ สมาชิกทุกท่าน ที่ร่วมสนับสนุน เว็บ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 (2556)นะจ๊ะ เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 08:44:57 am
อนุโมทนา ครับ ผมติดตามอ่าน มาเสมอครับ เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกท่าน นะครับ
 :25: :25: :25:
23  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญร่วมปฏิบัตธรรมประจำเดือน พฤศจิกายน 10-11,24-25 พ.ย. ณ คณะ 5 วัดราชสิทธาราม เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 08:44:15 am
อนุโมทนา สาธุ ครับ จะถึงกำหนดวันภาวนา ช่วงแรกแล้วนะครับ
ขอให้ทุกท่าน เจริญธรรม สำเร็จตามประสงค์กันนะครับ

  :25: :25: :25:
24  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2555 ณ วัดแก่งขนุน สระุบุรี เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 08:43:24 am
อนุโมทนา สาธุ ครับ
 :25:
25  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ประเพณีไทย [วันลอยกระทง] เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 08:43:05 am
อนุโมทนา ขอบคุณครับ เกือบลืมเรื่อง ลอยกระทงไปแล้วนะครับ
 :25: :c017:
26  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: กินเจ 10 วัน คุณทำได้ เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 11:05:20 am
เราเคย ทานมังฯ ต่อเนื่องยาวนานสัก 7-8 ปี แล้วกลับมาทานปกติใหม่ เพราะความอยาก ยังไม่หมด แต่อุปนิสัย ชอบทานผักอยู่แล้ว จึงทานเนื้อไม่มากนัก ปัญหาคือ เนื้อสัตว์ ที่มีเครื่องเทศนี่แหระ เป็นตัวยั่วกิเลสตัณหาเราได้ดีนัก แล
------------
อาหาร ๔ เหล่านี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความดำรงอยู่ของหมู่สัตว์ผู้เกิดมาแล้ว หรือเพื่ออนุเคราะห์หมู่สัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด อาหาร ๔ เป็นไฉน คือ
(๑) กวฬีการาหารหยาบ หรือละเอียด
(๒) ผัสสาหาร
(๓) มโนสัญเจตนาหาร
(๔) วิญญาณาหาร อาหาร ๔ เหล่านี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความดำรงอยู่ของหมู่สัตว์ผู้เกิด มาแล้ว หรือเพื่ออนุเคราะห์หมู่สัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด ฯ
/////
ถ้าความยินดี ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยาก ไม่มีอยู่ในกวฬีการาหารไซร้ ... ในผัสสาหารไซร้ ... ในมโนสัญเจตนาหารไซร้ ... ในวิญญาณาหารไซร้ วิญญาณก็ไม่ตั้งอยู่ไม่งอกงามในวิญญาณาหารนั้น ในที่ใด วิญญาณไม่ตั้งอยู่ ไม่งอกงาม ในที่นั้น ย่อมไม่มีการหยั่งลงแห่งนามรูป ในที่ใด ไม่มีการหยั่งลงแห่งนามรูป ในที่นั้นย่อมไม่มีความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ในที่ใด ไม่มีความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ในที่นั้น ย่อมไม่มีการเกิดในภพใหม่ต่อไป ในที่ใด ไม่มีการเกิดในภพใหม่ต่อไป ในที่นั้นย่อมไม่มีชาติ ชรามรณะต่อไป ในที่ใด ไม่มีชาติชรามรณะต่อไป เราเรียกที่นั้นว่าไม่มีความโศก ไม่มีธุลีไม่มีความคับแค้น ฯ

สยามรัฐเล่ม๑๖ข้อ๒๔๙

จากคุณ    : การบูร (Camphor)
27  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / พระพุทธุเจ้า ทรงตรัสบัญญัติ วินัย เรื่อง ยกพุทธวจนะ เป็น ภาษาสันสกฤต เพราะเหตุไร เมื่อ: ตุลาคม 02, 2012, 02:48:30 pm
พระพุทธุเจ้า ทรงตรัสบัญญัติ วินัย เรื่อง ยกพุทธวจนะ เป็น ภาษาสันสกฤต เพราะเหตุไร ด้วยความสงสัยจากพระสูตรด้านล่างนี้ครับ แสดงให้เห็นว่า ภาษาสันสกฤต นั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสห้ามไว้เพราะเหตุไร

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗
จุลวรรค ภาค ๒

[๑๘๐] สมัยนั้น ภิกษุสองรูปเป็นพี่น้องกัน ชื่อเมฏฐะและโกกุฏฐะ
เป็นชาติพราหมณ์ พูดจาอ่อนหวาน เสียงไพเราะ เธอสองรูปนั้นเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาค ถวายบังคม นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลว่า พระ-
*พุทธเจ้าข้า บัดนี้ ภิกษุทั้งหลายต่างชื่อ ต่างโคตร ต่างชาติ ต่างสกุลกันเข้ามา
บวช พวกเธอจะทำพระพุทธวจนะให้ผิดเพี้ยนจากภาษาเดิม ผิฉะนั้น ข้าพระ-
*พุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต
            พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย ไฉน พวก
เธอจึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า ผิฉะนั้น ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะ
ขึ้นโดยภาษาสันสกฤตดังนี้เล่า ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย การกระทำของพวกเธอนั่น
ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ... ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถา
รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงยกพุทธวจนะขึ้นโดยภาษา
สันสกฤต รูปใดยกขึ้น ต้องอาบัติทุกกฏ
            เราอนุญาตให้เล่าเรียนพุทธวจนะตามภาษาเดิม ฯ

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๗  บรรทัดที่ ๑๓๑๕ - ๑๓๒๗.  หน้าที่  ๕๔ - ๕๕.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=1315&Z=1327&pagebreak=0
28  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / วสลสูตรที่ ๗ บุคคล ๒๐ พวกที่เป็นคนหยาบช้า เมื่อ: ตุลาคม 02, 2012, 02:45:08 pm
วสลสูตรที่ ๗
            [๓๐๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
            สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เป็นเวลาเช้า พระผู้มี
พระภาคทรงครองอันตรวาสกแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาต
ยังพระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ก่อไฟแล้วตกแต่ง
ของที่ควรบูชา อยู่ในนิเวศน์ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จเที่ยวบิณฑบาต
ตามลำดับตรอก ในพระนครสาวัตถี เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของอัคคิกภารทวาช-
*พราหมณ์ อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกลทีเดียว
ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนโล้น หยุดอยู่ที่
นั่นแหละสมณะ หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนถ่อย ฯ
            เมื่ออัคคิกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัส
ถามว่า ดูกรพราหมณ์ ก็ท่านรู้จักคนถ่อย หรือธรรมเป็นเครื่องกระทำให้เป็น
คนถ่อยหรือ ฯ
            อ. ท่านพระโคดม ข้าพเจ้าไม่รู้จักคนถ่อยหรือธรรมเป็นเครื่องกระทำ
ให้เป็นคนถ่อย ดีละ ขอท่านพระโคดมจงแสดงธรรมตามที่ข้าพเจ้าจะพึงรู้จักคน
ถ่อยหรือธรรมเป็นเครื่องกระทำให้เป็นคนถ่อยเถิด ฯ
            พ. ดูกรพราหมณ์ ถ้าอย่างนั้น ท่านจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว
อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระ-
*คาถาประพันธ์นี้ว่า
            [๓๐๖] ๑. คนมักโกรธ ผูกโกรธ ลบหลู่อย่างเลว มีทิฐิวิบัติ และ
                         มีมายา พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย
                         ๒. คนผู้เบียดเบียนสัตว์ที่เกิดหนเดียว แม้หรือเกิดสองหน
                         ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์ พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๓. คนเบียดเบียน เที่ยวปล้น มีชื่อเสียงว่า ฆ่าชาวบ้าน
                         และชาวนิคม พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๔. คนลักทรัพย์ที่ผู้อื่นหวงแหน ไม่ได้อนุญาตให้ ใน
                         บ้านหรือในป่า พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๕. คนที่กู้หนี้มาใช้แล้วกล่าวว่า หาได้เป็นหนี้ท่านไม่ หนี
                         ไปเสีย พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๖. คนฆ่าคนเดินทาง ชิงเอาสิ่งของ เพราะอยากได้สิ่งของ
                         พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๗. คนถูกเขาถามเป็นพยาน แล้วกล่าวคำเท็จ เพราะเหตุ
                         แห่งตนก็ดี  เพราะเหตุแห่งผู้อื่นก็ดี เพราะเหตุแห่งทรัพย์
                         ก็ดี พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๘. คนผู้ประพฤติล่วงเกิน ในภริยาของญาติก็ตาม ของ
                         เพื่อนก็ตาม ด้วยข่มขืนหรือด้วยการร่วมรักกัน พึงรู้ว่าเป็น
                         คนถ่อย ฯ
                         ๙. คนผู้สามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดาหรือบิดาผู้แก่เฒ่าผ่านวัย
                         หนุ่มสาวไปแล้ว พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๐. คนผู้ทุบตีด่าว่ามารดาบิดา พี่ชายพี่สาว พ่อตาแม่ยาย
                         แม่ผัวหรือพ่อผัว พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๑. คนผู้ถูกถามถึงประโยชน์ บอกสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
                         พูดกลบเกลื่อนเสีย พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๒. คนทำกรรมชั่วแล้ว ปรารถนาว่าใครอย่าพึงรู้เรา ปกปิด
                         ไว้ พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๓. คนผู้ไปสู่สกุลอื่นแล้ว และบริโภคโภชนะที่สะอาด
                         ย่อมไม่ตอบแทนเขาผู้มาสู่สกุลของตน พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๔. คนผู้ลวงสมณะ พราหมณ์ หรือแม้วณิพกอื่น ด้วย
                         มุสาวาท พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๕. เมื่อเวลาบริโภคอาหาร คนผู้ด่าสมณะหรือพราหมณ์
                         และไม่ให้โภชนะ พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๖. คนในโลกนี้ ผู้อันโมหะครอบงำแล้ว ปรารถนา
                         ของเล็กน้อย พูดอวดสิ่งที่ไม่มี พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๗. คนเลวทราม ยกตนและดูหมิ่นผู้อื่น ด้วยมานะ
                         ของตน พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๘. คนฉุนเฉียว กระด้าง มีความปรารถนาลามก มี
                         ความตระหนี่ โอ้อวด ไม่ละอาย ไม่สะดุ้งกลัว
                         พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๑๙. คนติเตียนพระพุทธเจ้า หรือติเตียนบรรพชิต หรือ
                         คฤหัสถ์สาวกของพระพุทธเจ้า พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         ๒๐. ผู้ใดแลไม่เป็นพระอรหันต์ แต่ปฏิญาณว่าเป็นพระ-
                         อรหันต์ ผู้นั้นแลเป็นคนถ่อยต่ำช้า เป็นโจรในโลกพร้อม
                         ทั้งพรหมโลก คนเหล่าใด เราประกาศแก่ท่านแล้ว
                         คนเหล่านั้นนั่นแล เรากล่าวว่าเป็นคนถ่อย ฯ
                         บุคคลไม่เป็นคนถ่อยเพราะชาติ ไม่เป็นพราหมณ์เพราะชาติ
                         แต่เป็นคนถ่อยเพราะกรรม เป็นพราหมณ์เพราะกรรม ท่าน
                         จงรู้ข้อนั้น ตามที่เราแสดงนี้ บุตรของคนจัณฑาลเลี้ยง
                         ตัวเองได้ ปรากฏชื่อว่าตังมาคะ เป็นคนกินของที่ตนให้
                         สุกเอง เขาได้ยศอย่างสูงที่ได้แสนยาก กษัตริย์และ
                         พราหมณ์เป็นอันมากได้มาสู่ที่บำรุงของเขา เขาขึ้นยานอัน
                         ประเสริฐ ไปสู่หนทางใหญ่อันไม่มีฝุ่น เขาสำรอกกาม-
                         ราคะเสียได้แล้ว เป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก ชาติไม่ได้
                         ห้ามเขาให้เข้าถึงพรหมโลก พราหมณ์เกิดในสกุลผู้สาธยาย-
                         มนต์ เป็นพวกร่ายมนต์ แต่พวกเขาปรากฏในบาปกรรม
                         อยู่เนืองๆ พึงถูกติเตียนในปัจจุบันทีเดียว และภพหน้า
                         ก็เป็นทุคติ ชาติห้ามกันพวกเขาจากทุคติหรือจากครหาไม่ได้
                         บุคคลไม่เป็นคนถ่อยเพราะชาติ ไม่เป็นพราหมณ์เพราะชาติ
                         แต่เป็นคนถ่อยเพราะกรรม เป็นพราหมณ์เพราะกรรม ฯ
            [๓๐๗] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว อัคคิกภารทวาชพราหมณ์
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์
แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์
ทรงประกาศธรรม โดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทาง หรือตามประทีปไว้ในที่มืด ด้วยหวังว่า คนมีจักษุ
จักเห็นรูปได้ ฉะนั้น ข้าพระองค์ขอถึงพระองค์กับทั้งพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์
เป็นสรณะ ขอพระองค์ทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต
จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ
จบวสลสูตรที่ ๗
29  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / มรณัสสติสูตรที่ ๑ Z นำมาให้อ่าน ครับ Z เมื่อ: ตุลาคม 02, 2012, 02:26:53 pm
  พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
            อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
            มรณัสสติสูตรที่ ๑
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

            [๒๙๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทสร้างด้วยอิฐ
ใกล้บ้านนาทิกคาม ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว
            พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย มรณัสสติอันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก
มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายย่อมเจริญมรณัสสติหรือ

            เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสถามอย่างนี้ ภิกษุรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณัสสติ ฯ
            พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
            ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็นอยู่ได้
ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจ
ให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่างนี้แล ฯ

            ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณัสสติ ฯ
            พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
            ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็นอยู่ได้
ตลอดวันหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่างนี้แล ฯ

            ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณัสสติ ฯ
            พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
            ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็นอยู่ชั่วขณะ
ที่ฉันบิณฑบาตมื้อหนึ่ง เราพึงมนสิกาคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจ
ให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่างนี้แล ฯ

            ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณัสสติ ฯ
            พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
            ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็นอยู่ชั่วขณะ
ที่เคี้ยวคำข้าวสี่คำกลืนกิน เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจ
ให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่างนี้แล ฯ

            ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณัสสติ ฯ
            พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
            ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็นอยู่ชั่วขณะ
ที่เคี้ยวข้าวคำหนึ่งกลืนกิน เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจ
ให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่างนี้แล ฯ

            ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณัสสติ ฯ
            พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
            ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะ
ที่หายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือหายใจออกแล้วหายใจเข้า เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของ
พระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญ
มรณัสสติอย่างนี้แล ฯ

            เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้
ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ
            ก็ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ตลอดวันหนึ่ง
เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ
            ก็ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่ฉัน
บิณฑบาตมื้อหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ
และภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่เคี้ยวคำข้าวสี่
คำกลืนกิน เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้ประมาท เจริญมรณัสสติ
เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายช้า
            ส่วนภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า
            โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่เคี้ยวข้าวคำหนึ่งกลืนกิน เราพึงมนสิการ
คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ และภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติ
อย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่หายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือหายใจออก
แล้วหายใจเข้า เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้ เรากล่าวว่าเป็นผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญมรณัสสติ
เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายแรงกล้า
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ประมาท จักเจริญมรณัสสติ เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
อย่างแรงกล้า
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒  บรรทัดที่ ๗๑๘๘ - ๗๒๕๔.  หน้าที่  ๓๑๕ - ๓๑๘.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=7188&Z=7254
            ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=290

30  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อย่างไร ชือ่ว่า เราสร้าง วิหารทาน วิหารธรรม คะ ขอบคุณมากคะ เมื่อ: กันยายน 05, 2012, 07:29:49 pm
อนุโมทนา ครับ อ่านชัดแจ้ง สมกับเป็นผู้ดูแลห้องนี้ ครับ ติดตามผลงานการโพสต์มาหลายปี ไม่ผิดหวังกับเนื้อหามาตลอด เมื่อไรจะออกหนังสือธรรมะสักเล่ม ครับ

  :25: :25: :25: :c017:
31  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมสาระวันนี้ "คุณเป็น สัมมาทิฏฐิ แล้ว หรือ ยัง หรือเพียงคิดว่าเป็น บทที่ 1" เมื่อ: มิถุนายน 30, 2012, 03:19:17 pm
ด้วยความเคารพ กำลังทบทวน อ่านกลับไปกลับมาอยู่ครับ

  :25: :c017:
32  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: วัดน้อย.."วัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทย" เมื่อ: มิถุนายน 25, 2012, 10:17:32 am
มองไกล ๆ เหมือนศาลพระภูมิ มากกว่าวัดนะครับ

   :c017:
33  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ระทึกขวัญ..วันไหว้ครู นศ.วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี..ของขึ้น.!! เมื่อ: มิถุนายน 25, 2012, 10:16:56 am
โอ้ ระบาดเข้าไปในโรงเรียน แล้วหรือนี่ พิธีไหว้ครูของไทยแต่ไหน แต่ไร มาก็ไม่มีลักษณะนี้นะครับ ตอนนี้ถูกชักโยงใย กลายเป็นเรื่อง เข้าทรง โดนของ พิธีกรรมการไหว้ รู้สึกจะเพี้ยนไปแล้ว น่าเป็นห่วงในอนาคต เนอะ

   ผมไม่ค่อยจะเชื่อหรอกครับ เพราะนักเรียน นักศึกษา พวกนี้บางครั้ง ก็รับอาสาเพื่อนสร้างเหตุการณ์ ให้เด่นขึ้น ยิ่งเป็น พวก วิทยาลัยเทคนิค อาชีวะ ด้วยพวกนี้พูดตรง ๆ ผมเข้าไปเป็นอาจารย์พิเศษสอนมาแล้ว ความคิดในทางสันติ มีน้อย อยู่ วิทยาลัยเดียวกันยังตีกัน เลย สมัยที่ผมคลุกคลีอยู่ในวงการนี้ ก็จะเป็นอย่างนี้

   คิดว่า อุปาทานหมู่ น่าจะไม่ใช่ แต่เป็นการเล่นละคร ของนักเรียนเองนะครับ

 :c017:
34  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สักการะพระบรมสารีริกธาตุ สร้างพระมหาเจดีย์มงคล วัดป่าศรีคุณาราม อุดรธานี เมื่อ: มิถุนายน 25, 2012, 10:12:26 am
ก็อนุโมทนา ด้วยครับ

แต่ที่เกิดเป้นข่าว เรื่อง พระจักบุธาตุ นั้นไม่ใช่ของจริง ที่วัดนี้ใช่หรือไม่ครับ ที่เกิดกระแสวิพาก์วิจารณ์กัน ถึงกับต้องมีการส่งพิสูจน์ การก่อสร้างจึงได้ยุติ ลง

  ตอนนี้ ช่วยกันสานต่อเรื่องการสร้างใช่หรือไม่ครับ

  :25:
35  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เศร้า! หนุ่มจีนอดนอนดูบอลยูโร 11 คืน จนเสียชีวิต ( ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ นะ) เมื่อ: มิถุนายน 25, 2012, 10:07:48 am
อันที่จริงก็ไม่น่าจะมีแล้ว นะ พวกคลั่งแบบนี้

 :33:
36  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทำอย่างไร ถึงจะปิดกั้นเสียง ที่ดังอยู่ภายนอกได้ครับ ในตอนภาวนา เมื่อ: มิถุนายน 15, 2012, 09:47:29 am
คุณ pichai หมายถึงเรื่องนี้ใช่หรือไม่ครับ ที่คิดเหมือนผมว่า พระอาจารย์คงจะต้องตอบยาว แน่ๆ เหมือนหนูจินตนาก็คงคิดอย่างนั้น จึงบอกว่า ผิดหวังในคำตอบ อย่างนี้ก้หมายถึงพระอาจารย์ไม่ตอบใช่หรือไม่ครับ หรือ ว่า คำถามเราถามยังไม่ตรงประเด็นกันแน่ครับ

   สาธุ
   :hee20hee20hee:
37  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ประกาศเรื่องการตอบปัญหาธรรม ทั้งในกระทู้ และ เมล เมื่อ: มิถุนายน 14, 2012, 03:45:43 pm
เป็นกำลังใจ ครับ นับว่าเป็นงานหนัก สำหรับการเผยแผ่ธรรม เชิงรับ อย่างนี้นะครับ ยิ่งทีมถ้ามีน้อยก็นับว่าพระอาจารย์ต้องเหนืื่อยมากขึ้น ผมซาบซึ้ง มากครับ ที่การทำงานของพระอาจารย์นั้น ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากผู้ที่ศึกษาธรรม เลยครับ อนุโมทนา ครับ

  :25: :25: :25:
38  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมสาระวันนี้ "เข้าใจ ธาตุ ก็เข้าใจ นามรูป รู้ที่ตั้งที่ดับ เพราะ อุปาทายรูป " เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 12:38:59 pm
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ทุกท่านแม้จะอ่านกันยังไม่เข้าใจ ผมเองก็พยายามทำความเข้าใจ
นั่นแสดงให้เห็นว่า ใจในการภาวนา ส่วนนี้น่าจะเหมือนกัน นะครับ

                 1. สิ่งแรกก็คือ สมาธิ มีความสำคัญมาก
                        เพราะสมาธิ เป็น มรรคองค์สุดท้ายที่คนปัจจุบัน ภาวนาไม่ค่อยจะกันผ่านครับ จึงได้ไปเลือกฝึกสติ ให้เป็นสมาธิกัน ซึ่งใช้เวลามากกว่าการฝึกสมาธิโดยตรง ครูอาจารย์ท่านกล่าวว่า ความสมบูรณ์ของมรรค คือความสมบูรณ์ของผู้ที่จะได้ธรรมจักษุ ครับ ดังนั้นพวกเราคงหนีเรื่องสมาธิ ไม่ได้ครับ
                       
                 2. การเข้าถึงธาตุ เป็นเรื่องที่ต้องภาวนา ให้ถึง ไม่ใช่ไปเรียนรู้หรือจำให้ถึง
                     การเข้าถึงธาตุ มีในกรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ อันนี้ผมว่ามาถูกทางแล้วนะครับ เพราะว่า พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสสอนพระโอรสของท่าน ก็คือ เรื่องธาตุ นี้เป็นเรื่องแรกเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น จูฬราหุโรวาทสูตร หรือ มหาราหุโรวาทสูตร ผมว่าธาตุเป็นเรื่องแรกที่เราควรทำความเข้าใจครับ เพราะในขันธ์ 5 เรียกว่า รูป ก็ปรากฏเป็นส่วนแรกนะครับ และปัญหาจริง ๆ ที่เราเป็นทุกข์กันนั้นก็มาจากธาตุ ทั้งสิ้นใช่หรือไม่ครับ

                 3. นามรูป เนื่องด้วยอุปาทายรูป
                     อุปาทายรูป คือ อะไร ?

                 4. อุปาทายรูป มีนับเนื่อง จาก จริมกวิญญาณ หรือ อภิสังขารวิญญาณ
                     ตรงนี้เริ่มไม่เข้าใจ เหมือนกันครับ ?
                         
                 5. วิญญาณ คือ นิพพาน  วิญญาณในนี้น่าจะหมายถึงการดับการปรุงแต่งที่ผัสสะ
                     แล้วทำไม วิญญาณ จึงเป็นนิพพานไปได้ ละครับ อย่างนี้จัดเป็นบัญญัติใหม่หรือไม่ ครับ เห็นในทางอภิธรรม ให้ความหมายของนิพพานมี 28 แบบ แต่ไม่มี วิญญาณ

                 6. นิพพานมีได้ เพราะเข้าถึง นามรูป
                      อันนี้อาจจะผิดนะครับ น่าจะใช้คำว่า นิพพาน มีได้ เพราะ นามรูปดับ นะครับ พิจารณาจากปฏิจจสมุปบาท ดูก็คือ อวิชชา ไป สังขาร ไป นามรูป ดังนั้น เพราะนามรูปดับ สังขารดับ อวิชชาดับ นิพพานครับ

      อนุโมทนาครับ ผมว่าพระอาจารย์ออกข้อธรรมทดสอบเราอยู่นะครับ ตอนนี้

 :25: :25: :25:
                         
39  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การส่งกระแสจิต คุยกันได้ เหมือนโทรศัพท์ เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 03:59:51 pm
ยอดเยี่ยม ครับ

สาธุ

  :c017:
40  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ใครจะรู้ใจ ของเด็กบ้าง ว่า มันทุกข์ ขนาดไหน ? เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2012, 01:32:17 pm
ควรให้กำลัง กับ บุตรหลาน น้องชาย น้องสาว ทุกคนครับ ผู้ปกครองก็ต้องอดทนอย่าไประเบิดอารมณ์ เมื่อไม่สมหวังดั่งใจ การศึกษาบางครั้ง อาจจะไม่ได้เรียนในที่มีชื่อเสียง แต่ก็ใช่ว่า จะเป็นคนดี คนเก่งไม่ได้ ครับ

  :25:
หน้า: [1] 2