สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

พระไตรปิฏก => พระธรรมตามพระไตรปิฏก => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 03, 2016, 10:21:55 am



หัวข้อ: เลื่อมใสในบุคคลใดแล้ว หากบุคคลนั้นเสื่อม ผู้เลื่อมใสอาจเสื่อมจากสัทธรรมได้
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 03, 2016, 10:21:55 am


(http://www.madchima.net/forum/gallery/30_03_11_16_10_21_15.jpeg)


โทษของความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคล ๕ ประการ

ปุคคลัปปสาทสูตร ว่าด้วยความเลื่อมใสเฉพาะบุคคล

[๒๕๐] ภิกษุทั้งหลาย ความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคล มีโทษ ๕ ประการนี้ โทษ ๕ ประการ อะไรบ้าง คือ

๑. บุคคลผู้เลื่อมใสในบุคคลที่ต้องอาบัติเป็นเหตุให้สงฆ์ยกวัตร มีความคิดอย่างนี้ว่า ‘บุคคลผู้เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของเรานี้ถูกสงฆ์ยกวัตรเสียแล้ว’ จึงไม่เลื่อมใสในภิกษุทั้งหลาย
        เมื่อไม่เลื่อมใสในภิกษุทั้งหลาย จึงไม่คบภิกษุเหล่าอื่น
        เมื่อไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ฟังสัทธรรม
        เมื่อไม่ฟังสัทธรรม จึงเสื่อมจากสัทธรรม
นี้เป็นโทษของความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลประการที่ ๑

๒. บุคคลผู้เลื่อมใสในบุคคลที่ต้องอาบัติเป็นเหตุให้สงฆ์สั่งให้เขานั่งท้าย(๑-)มีความคิดอย่างนี้ว่า ‘บุคคลผู้เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของเรานี้ถูกสงฆ์สั่งให้นั่งท้ายเสียแล้ว‘ จึงไม่เลื่อมใสในภิกษุทั้งหลาย
     เมื่อไม่เลื่อมใสในภิกษุทั้งหลาย จึงไม่คบภิกษุเหล่าอื่น
     เมื่อไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ฟังสัทธรรม
     เมื่อไม่ฟังสัทธรรม จึงเสื่อมจากสัทธรรม
นี้เป็นโทษของความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลประการที่ ๒

๓. บุคคลผู้เลื่อมใสในบุคคลที่หลีกไปสู่ทิศ มีความคิดอย่างนี้ว่า ‘บุคคลผู้เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของเรานี้หลีกไปสู่ทิศเสียแล้ว’ จึงไม่คบภิกษุเหล่าอื่น
     เมื่อไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ฟังสัทธรรม
     เมื่อไม่ฟังสัทธรรม จึงเสื่อมจากสัทธรรม
นี้เป็นโทษของความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลประการที่ ๓

๔. บุคคลผู้เลื่อมใสในบุคคลที่ลาสิกขา มีความคิดอย่างนี้ว่า ‘บุคคลผู้เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของเรานี้ได้ลาสิกขาไปแล้ว’ จึงไม่คบภิกษุเหล่าอื่น
     เมื่อไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ฟังสัทธรรม
     เมื่อไม่ฟังสัทธรรม จึงเสื่อมจากสัทธรรม
นี้เป็นโทษของความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลประการที่ ๔

๕. บุคคลผู้เลื่อมใสในบุคคลที่ตายแล้ว มีความคิดอย่างนี้ว่า ‘บุคคลผู้เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของเรานี้ได้ตายเสียแล้ว’ จึงไม่คบภิกษุเหล่าอื่น
     เมื่อไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ฟังสัทธรรม
     เมื่อไม่ฟังสัทธรรม จึงเสื่อมจากสัทธรรม
นี้เป็นโทษของความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลประการที่ ๕

ภิกษุทั้งหลาย ความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคล มีโทษ ๕ ประการนี้แล



เชิงอรรถ : (๑-) ท้าย หมายถึงอาสนะสุดท้ายของสงฆ์ (องฺ.ปญฺจก.อ. ๓/๒๕๐/๙๓)


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๒ หน้า : ๓๙๐-๓๙๑
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/m_siri.php?B=22&siri=250 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/m_siri.php?B=22&siri=250)


หัวข้อ: Re: เลื่อมใสในบุคคลใดแล้ว หากบุคคลนั้นเสื่อม ผู้เลื่อมใสอาจเสื่อมจากสัทธรรมได้
เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ พฤศจิกายน 03, 2016, 10:52:54 am
 st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: เลื่อมใสในบุคคลใดแล้ว หากบุคคลนั้นเสื่อม ผู้เลื่อมใสอาจเสื่อมจากสัทธรรมได้
เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ พฤศจิกายน 03, 2016, 03:44:41 pm
 thk56 thk56 thk56


หัวข้อ: Re: เลื่อมใสในบุคคลใดแล้ว หากบุคคลนั้นเสื่อม ผู้เลื่อมใสอาจเสื่อมจากสัทธรรมได้
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤศจิกายน 03, 2016, 11:08:36 pm
 st11