ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - ธุลีธวัช (chai173)
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 70
81  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: หนึ่งเดียวในไทย “ตักบาตรขนมครก – น้ำตาลทราย” ที่ จ.สมุทรสงคราม เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 09:06:16 pm
คติดี  สาธุ สาธุติ       :smiley_confused1:
82  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ชัยภูมิฮือฮา 'เหมียวกินเจ' ไม่แตะเนื้อสัตว์-ก้างปลา เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 09:03:47 pm
แปลกเนอะ     :smiley_confused1:
83  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เชิญบริจาคค่าเลี้ยงดูสุนัข 400 กว่าตัว วัดเวฬุวนาราม ลำปาง เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 09:00:13 pm
เรื่องราวอย่างนี้เห็นออกอยู่บ่อย เจอเจอะคาตาเห็นครั้งเมื่อบวชอยู่สำนักวัดปากเพรียวมีทั้งหมาแมว         :smiley_confused1:
84  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: "ทิฐิพระ" ปะทะ "มานะโยม" ว่าด้วย..ซุปเปอร์อุลตร้าอุบาสิกา สาวน้อยเปรียญ ๖ เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 08:50:43 pm
น่ารักเนอะ
   st12 st12 st12

เอาเป็นว่า เห็นด้วยอีกคน       :smiley_confused1:
85  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การเดินทางของชีวิต เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 05:08:42 pm
ทำให้ถึงที่สุด แล้วจงหยุดเมื่อทางมันตัน (ให้พิจารณาทางหมารอดหนี)

(แต่ผมไม่พิจารณาทางหมารอดหนี กลับเลือกรอดหว่างขาศัตรู)
86  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การเดินตามพุทธองค์ มีความผิดพลาด เพียง ๒ ประการเท่านั้น..!!?? เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 04:59:34 pm
สาธุ สาธุติ.

 :smiley_confused1:     :smiley_confused1:     :smiley_confused1:
87  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำอย่างไร.? โยมพ่อโยมย่าจึงจะสนใจธรรมะ.!! เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 04:50:37 pm
ในฐานะของความเป็นลูกยากที่บุพการีจะเห็นคล้อย ฟัง เชื่อ ทั้งนี้เป็นด้วยทิฏฐิส่วนหนึ่งชัด ปัญหาเยื่องอย่างนี้มีประสบทุกบ้าน กรณีอย่างผมก็เช่นกัน บิดาผมเป็นชาวจีนที่ไม่ใส่เชื่อเรื่องกรรม ทำบุญไม่ได้กิน คบพระขาดทุน คติความคิดท่านคนจะดีดีเอง ชั่วชั่วเอง ชาตินี้ชาติหน้าไม่มี มีชีวิตต้องตักตวง เห็นแก่ตัวไว้ก่อนมีกิน ผมเห็นอาการเจ็บป่วยชราวัยของท่านก็พยายามสอดแทรกกล่าวธรรมทุกครั้งที่มีโอกาสซึ่งท่านก็แสดงกิริยาเดินหนีตลอด ผมพยายามสวดมนต์นั่งภาวนาท่านก็จะกล่าววาจาสอดเสียดอ้างกล่าวว่าไร้สาระ งมงาย ไล่ตะเพิดให้ลุกให้เลิกทุกคราไป จนใจครับกับวิบากที่มืดมามืดไปของบิดาเยื่องนี้ ยิ่งผมช่วงนี้รับวิบากกรรมถึงแม้มิเจ็บป่วยสาหัสแต่ทว่าร่างกายก็เสื่อมสภาพตามวัยรอวันที่จะต้องเยียวยา เจ้ากรรมนายเวรลุกผมหนักมาดว่าจะให้ผมจนตรอกค่อยๆตาย ผมคงไม่เหลืออะไรคงเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งจนวันตายตายไปกับคำว่า "พุทโธ"
88  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ขั้นเทพ! แพทย์ศิริราช จบเกียรตินิยมอันดับ 1 ครึ่งคณะ เมื่อ: กันยายน 11, 2015, 04:05:57 pm
ซอยหมอเหล็ง
     เรียนหมอเก่ง เด่นตำรา น่ายินดี
หมอเก่งเก่ง ใช่มีดี ที่รักษา
เรียนเพียรรู้ เพียงใช่รู้ รักษ์อัตตา
หมอเยียวยา เพียงพอเพียง เด่นเพียรจริง.

                                               ธุลีธวัช.!
89  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เปิดใจนิสิตหญิง จุฬาฯ คนเก่ง ลงสอบบาลีศึกษาได้ถึง 6 ประโยค กำลังศึกษาประโยค 7 เมื่อ: กันยายน 08, 2015, 01:05:31 pm
60 ล้านคนมีได้เพียงหนึ่ง ก็ยังดีหนะ ผมสมัยก่อนตระเกียกตระกายดิ้นรนหาศึกษาเล่าเรียนด้วยลำแข้งตัวเองเรียน กศน ก็เลือกภาษาบาลีเรียน ใครใครเห็นว่าไอ้นี่มันบ้ากูไม่เอาด้วยหรอก ซึ่งก็ผ่านได้เกรด 2 มา ส่วนใหญ่จะเลือกภาษาอังกฤษ แต่ใครเผลอเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศส,เยอรมัน ผมว่าคงบ้ามากกว่าเด็ก กศน จะเก่งขนาดเลือกเรียนเชียวหรือ เลือกที่จะเรียนต้องขวนขวายเองนะครับ กศน เนี่ย
90  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอบคุณ "ที่คิดถึง" แต่การภาวนา "นั้นไม่เกี่ยว" เมื่อ: กันยายน 08, 2015, 09:59:40 am
 :s_good:     ;)    :c017:     :72:     :32:     :67:
91  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เจ้านายขัดขวางการทำงาน ควรย้ายที่หรือไม่.? เมื่อ: กันยายน 07, 2015, 08:18:16 pm
การทำงานที่มีลำดับบังคับบัญชามาก เราคนทำงานทำอย่างเดียวไม่มีสิทธิ์พูด นำเสนอ สาธยาย ใดใด ผู้บังคับบัญชาเขาไม่ฟัง หากขืนพูดผิดทุกคำ ฟังคำติ,เตือนอย่างเดียว ผมโดนมาเต็มๆ เดือดร้อนถึงออฟฟิตส่วนกลางลงมาเคลียร์ แต่น่าเศร้า ระดับสูงเขาพูดกันเป็นพิธีผลที่จะส่งถึงเราไม่กระเตื้อง เราคงยังต้องแบกปัญหาและถูกเพ่งเล็งที่สุดช่องว่างระหว่างกันก็กว้างขึ้นสุดเยียวยาต่างคนต่างหันหลังเพิกเฉยงานไม่ประสานกันคนรับกรรมก็คือเราต้องถูกสถานการณ์บีบให้จนตรอกหมดอนาคต
92  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: เรียนถาม ท่านผู้ดูแล เมื่อคืน วิทยุไม่มีเสียง คะ เมื่อ: กันยายน 06, 2015, 10:30:34 am
 :73:    ไม่รู้จะไปฟังที่ไหน    :03:
93  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ชมรุ่นพี่ 'รับน้องสร้างสรรค์' พาเข้าวัดฟังธรรมะ-รับศีล เมื่อ: กันยายน 06, 2015, 04:02:28 am
เป็นอันว่ามหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต คาดว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนกลับมีการสร้างค่านิยมอบรมนักศึกษาได้ดีกว่ามหาวิทยาลัยของรัฐ แสดงให้เห็นได้ว่าคุณภาพไม่ได้ดิบดีอะไร การบริหารจัดการระหว่างนักศึกษาครูอาจารย์ห่างกันไกลกันมากไม่แนบแน่น ครูไม่ได้เป็นครูที่อ่อนน้อมกรุณาแต่เป็นข้าราชการอกผายไหล่ตั้งจึงละเลยในกิจกรรมนักศึกษาเสมือนพ่อปล่อยลูกจึงขายหน้าเยื่องอย่างนี้ น่าเศร้า.!
94  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทรงติเตียนภิกษุผู้แสดงอิทธิปาฏิหารย์ว่า "เหมือนมาตุคามแสดงของลับ" เมื่อ: กันยายน 05, 2015, 04:21:08 pm
ครั้นจะกล่าวเรื่องอิทธิวิถีนั้นดูเหมือนพระมหาโมคคัลลานะจะได้สิทธิ์เพียงรูปเดียว กล่าวแม้เรื่องของโกสิยะเศรษฐีผู้มีความตระหนี่อยากทานขนมเบื้อง ด้วยข่ายพระญาณแห่งองค์สมเด็จพระศาสดาทรงเห็นความเป็นไปแห่งศรัทธาแม้เพียงความถึงแห่งไตรสรณะคมน์ในโกสิยะเศรษฐี มีที่สุดแห่งโสดาปัตติผล ถึงกับทรงใช้ให้พระมหาโมคคัลลานะไปนำพาโกสิยะเศรษฐีมาเพื่อหมู่สงฆ์ ลองอ่านกันดูนะครับ

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภเศรษฐีชื่อโกสิยะ ผู้มีความตระหนี่ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ยถาปิ ภมโร ปุปฺผํ" เป็นต้น.
               เรื่องตั้งขึ้นแล้วในกรุงราชคฤห์.

               สมบัติของเศรษฐีไม่อำนวยประโยชน์แก่ใครๆ               
               ดังได้สดับมา ในที่ไม่ไกลแห่งกรุงราชคฤห์ ได้มีนิคมชื่อสักกระ,
               เศรษฐีคนหนึ่งชื่อโกสิยะ มีความตระหนี่ มีสมบัติ ๘๐ โกฏิ ประจำอยู่ในนิคมนั้น. เขาไม่ให้แม้หยดน้ำมัน (สักหยดเดียว) ด้วยปลายหญ้าแก่คนเหล่าอื่น ทั้งไม่บริโภคด้วยตนเอง. สมบัติของเขานั้นไม่อำนวยประโยชน์แก่ปิยชนทั้งหลาย มีบุตรและภรรยาเป็นต้น ไม่อำนวยประโยชน์แก่สมณะและพราหมณ์ทั้งหลาย คงเป็นของไม่ได้ใช้สอย ตั้งอยู่เหมือนสระโบกขรณี ที่ผีเสื้อน้ำหวงแหน ด้วยประการฉะนี้แล.

               เศรษฐีอยากกินขนมเบื้องจนผอม               
               วันหนึ่ง เวลาจวนสว่าง พระศาสดาเสด็จออกจากสมาบัติอันประกอบด้วยความกรุณาใหญ่ ทรงตรวจดูหมู่สัตว์ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ที่พอแนะนำในการตรัสรู้ได้ในสกลโลกธาตุ ได้ทรงเห็นอุปนิสัยโสดาปัตติผลของเศรษฐีพร้อมทั้งภรรยา ซึ่งอยู่ในที่สุดแห่งที่ ๔๕ โยชน์.
               ก็ในวันก่อนแต่วันนั้น เศรษฐีนั้นไปสู่พระราชมนเทียร เพื่อบำรุงพระราชาทำการบำรุงพระราชาแล้วกลับมา เห็นคนบ้านนอกคนหนึ่งถูกความหิวครอบงำ กำลังกินขนมกุมมาส (ขนมเบื้อง) ให้เกิดความกระหายในขนมนั้นขึ้น ไปสู่เรือนของตนแล้ว คิดว่า "ถ้าเราบอกว่า ‘เราอยากกินขนมเบื้อง’ ไซร้, คนเป็นอันมากก็จัก (พากัน) อยากกินกับเรา, เมื่อเป็นอย่างนั้น วัตถุเป็นอันมาก มีงา ข้าวสาร เนยใส น้ำอ้อยเป็นต้น ของเรา ก็จักถึงความหมดไป, เราจักไม่บอกแก่ใครๆ" ดังนี้แล้ว อดกลั้นความอยากเที่ยวไป, เมื่อเวลาล่วงไปๆ เขาผอมเหลืองลงทุกที มีตัวสะพรั่งด้วยเส้นเอ็น, แต่นั้น ไม่สามารถจะอดกลั้นความอยากไว้ได้ เข้าห้องแล้วนอนกอดเตียง. เขาแม้ถึงความทุกข์อย่างนี้ ก็ยังไม่บอกอะไรๆ แก่ใครๆ เพราะกลัวเสียทรัพย์.

               ภรรยาเศรษฐีทอดขนมเบื้อง               
               ลำดับนั้น ภรรยาเข้าไปหาเขาลูบหลังถามว่า "ท่านไม่สบายหรือ? นาย."
               เศรษฐี. ความไม่สบายอะไรๆ ของฉันไม่มี.
               ภรรยา. ก็พระราชากริ้วท่านหรือ?
               เศรษฐี. ถึงพระราชาก็ไม่กริ้วฉัน.
               ภรรยา. เมื่อเป็นเช่นนั้น ความไม่พอใจอะไรๆ ที่พวกลูกชายลูกหญิง หรือปริชนมีทาสกรรมกรเป็นต้น กระทำแก่ท่าน มีอยู่หรือ?
               เศรษฐี. แม้กรรมเห็นปานนั้นก็ไม่มี.
               ภรรยา. ก็ท่านมีความอยากในอะไรหรือ?
               แม้เมื่อภรรยากล่าวอย่างนั้น เขาก็ไม่กล่าวอะไร คงนอนเงียบเสียง เพราะกลัวเสียทรัพย์. ลำดับนั้น ภรรยากล่าวกะเขาว่า "บอกเถิดนาย, ท่านอยากอะไร?" เขาเป็นเหมือนกลืนคำพูดไว้ ตอบว่า "ฉันมีความอยาก."
               ภรรยา. อยากอะไร? นาย.
               เศรษฐี. ฉันอยากกินขนมเบื้อง.
               ภรรยา. เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไม ท่านไม่บอกแก่ดิฉัน, ท่านเป็นคนจนหรือ? บัดนี้ ดิฉันจักทอดขนมเบื้องให้พอแก่คนที่อยู่ในสักกรนิคมทั้งสิ้น.
               เศรษฐี. ประโยชน์อะไรของเธอด้วยคนพวกนั้น, พวกเขาทำงานของตน ก็จักกิน (ของตน).
               ภรรยา. ถ้ากระนั้น ดิฉันจักทอดขนมเบื้องให้พอแก่คนที่อยู่ในตรอกเดียวกัน.
               เศรษฐี. ฉันรู้ความที่เธอเป็นคนรวยทรัพย์ละ.
               ภรรยา. ดิฉันจะทอดให้พอแก่คนทั้งหมด (ที่อยู่) ในที่ใกล้เรือนนี้.
               เศรษฐี. ฉันรู้ความที่เธอเป็นคนมีอัธยาศัยกว้างขวางละ.
               ภรรยา. ถ้ากระนั้น ดิฉันจะทอดให้พอแก่ชนสักว่าลูกเมียท่านเท่านั้นเอง.
               เศรษฐี. ประโยชน์อะไรของเธอด้วยคนพวกนั้น.
               ภรรยา. ก็ดิฉันจะทอดให้พอแก่ท่านและดิฉันหรือ?
               เศรษฐี. เธอจักทำ ทำไม?
               ภรรยา. ถ้ากระนั้น ดิฉันจะทอดให้พอแก่ท่านผู้เดียวเท่านั้น.
               เศรษฐี. เมื่อเธอทอดขนมที่นี้ คนเป็นจำนวนมากก็ย่อมหวัง (ที่จะกินด้วย) เธอจงเว้นข้าวสาร (ที่ดี) ทั้งสิ้น ถือเอาข้าวสารหักและเชิงกรานและกระเบื้อง และถือเอาน้ำนม เนยใส น้ำผึ้ง และน้ำอ้อยหน่อยหนึ่งแล้ว ขึ้นไปชั้นบนแห่งปราสาท ๗ ชั้น แล้วทอดเถิด, ฉันคนเดียวเท่านั้น จักนั่งกิน ณ ที่นั้น.
               นางรับคำว่า "ดีละ" แล้วให้ทาสีถือสิ่งของที่ควรถือ เอาขึ้นไปสู่ปราสาท แล้วไล่ทาสีไป ให้เรียกเศรษฐีมา. เศรษฐีนั้น ปิดประตูใส่ลิ่มและสลักทุกประตูตั้งแต่ประตูแรกมา แล้วขึ้นไปยังชั้นที่ ๗ ปิดประตู แล้วนั่ง ณ ชั้นแม้นั้น. ฝ่ายภรรยาของเขาก็ติดไฟที่เชิงกราน ยกกระเบื้องขึ้นตั้ง แล้วเริ่มทอดขนม.

               พระมหาโมคคัลลานะไปทรมานเศรษฐี               
               ครั้งนั้น พระศาสดาตรัสเรียกพระมหาโมคคัลลานเถระมาแต่เช้าตรู่ ตรัสว่า
               "โมคคัลลานะ ในสักกรนิคม (ซึ่งตั้งอยู่) ไม่ไกลกรุงราชคฤห์ เศรษฐีผู้มีความตระหนี่นั่นคิดว่า ‘เราจักกินขนมเบื้อง’ จึงให้ภรรยาทอดขนมเบื้องบนปราสาท ๗ ชั้น เพราะกลัวคนเหล่าอื่นเห็น, เธอจงไป ณ ที่นั้นแล้วทรมานเศรษฐี ทำให้สิ้นพยศ๑- ให้ผัวเมียแม้ทั้งสองถือขนม และน้ำนม เนยใส น้ำผึ้งและน้ำอ้อย แล้วนำมายังพระเชตวันด้วยกำลังของตน; วันนี้ เรากับภิกษุ ๕๐๐ รูป จักนั่งในวิหารนั่นแหละ, จักทำภัตกิจด้วยขนมเท่านั้น."
               แม้พระเถระ ก็รับพระดำรัสของพระศาสดาว่า "ดีละ พระเจ้าข้า" แล้วไปยังนิคมนั้นด้วยกำลังฤทธิ์ทันทีทีเดียว เป็นผู้นุ่งห่มเรียบร้อย ได้ยืนอยู่ที่ช่องสีหบัญชร๒- แห่งปราสาทนั้น เหมือนรูปแก้วมณีลอยเด่นอยู่กลางอากาศเทียว. เพราะเห็นพระเถระนั้นแล ดวงหทัยของมหาเศรษฐีก็สั่นสะท้าน เขาคิดว่า "เรามาที่นี่ เพราะกลัวบุคคลทั้งหลายผู้มีรูปอย่างนี้นั่นแล, แต่สมณะนี้ยังมายืนอยู่ที่ช่องหน้าต่างได้" เมื่อไม่เห็นเครื่องมือที่ตนควรจะฉวยเอา เดือดดาลทำเสียงตฏะๆ ประดุจก้อนเกลือที่ถูกโรยลงในไฟ จึงกล่าวอย่างนี้ว่า "สมณะ ท่านยืนอยู่ในอากาศ จักได้อะไร? แม้จงกรมแสดงรอยเท้าในอากาศซึ่งหารอยมิได้อยู่ ก็จักไม่ได้เหมือนกัน." พระเถระจงกรมกลับไปกลับมาในที่นั้นนั่นแล. เศรษฐีกล่าวว่า "ท่านจงกรมอยู่จักได้อะไร? แม้นั่งด้วยบัลลังก์๓- ในอากาศก็จักไม่ได้เช่นกัน." พระเถระจึงนั่งคู้บัลลังก์.
____________________________
๑- นิพฺพิเสวนํ แปลตามศัพท์ว่า มีความเสพผิดออกแล้ว.
๒- ศัพท์ว่า "สีหบัญชร" หมายความว่า หน้าต่างมีลูกกรง แปลตามศัพท์ว่า "หน้าต่างมีสัณฐานประดุจกรงเล็บแห่งสีหะ
๓- นั่งขัดสมาธิ.

               ลำดับนั้น เศรษฐีกล่าวกะท่านว่า "ท่านนั่งในอากาศ จักได้อะไร? แม้มายืนที่ธรณีหน้าต่างก็จักไม่ได้." พระเถระได้ยืนอยู่ที่ธรณี (หน้าต่าง) แล้ว. ลำดับนั้น เขากล่าวกะท่านว่า "ท่านยืนที่ธรณี (หน้าต่าง) จักได้อะไร? แม้บังหวนควันแล้ว ก็จักไม่ได้เหมือนกัน." แม้พระเถรก็บังหวนควัน. ปราสาททั้งสิ้นได้มีควันเป็นกลุ่มเดียวกัน.
               อาการนั้น ได้เป็นเหมือนเวลาเป็นที่แทงตาทั้งสองของเศรษฐีด้วยเข็ม เศรษฐีไม่กล่าวกะท่านว่า "แม้ท่านให้ไฟโพลงอยู่ก็จักไม่ได้" เพราะกลัวไฟไหม้เรือน แล้วคิดว่า "สมณะนี้ จักเป็นผู้เกี่ยวข้องอย่างสนิท ไม่ได้แล้วจักไม่ไป, เราจักให้ถวายขนมแก่ท่านชิ้นหนึ่ง" แล้วจึงกล่าวกะภรรยาว่า "นางผู้เจริญ เธอจงทอดขนมชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง ให้แก่สมณะแล้ว จงส่งท่านไปเสียเถอะ."
               นางหยอดแป้งลงในถาดกระเบื้องนิดเดียว. (แต่) ขนม (กลาย) เป็นขนมชิ้นใหญ่ ได้พองขึ้นเต็มทั่วทั้งถาด ตั้งอยู่แล้ว. เศรษฐีเห็นเหตุนั้น กล่าวว่า "(ชะรอย) หล่อนจักหยิบแป้งมากไป" ดังนี้แล้ว ตักแป้งหน่อยหนึ่งด้วยมุมทัพพีแล้ว หยอดเองทีเดียว. ขนมเกิดใหญ่กว่าขนมชิ้นก่อน. เศรษฐีทอดขนมชิ้นใดๆ ด้วยอาการอย่างนั้น, ขนมชิ้นนั้นๆ ก็ยิ่งใหญ่โตทีเดียว. เขาเบื่อหน่าย จึงกล่าวกะภรรยาว่า "นางผู้เจริญ เธอจงให้ขนมแก่สมณะนี้ชิ้นหนึ่งเถอะ."
               เมื่อนางหยิบขนมชิ้นหนึ่งจากกระเช้า, ขนมทั้งหมดก็ติดเนื่องเป็นอันเดียวกัน. นางจึงกล่าวกะเศรษฐีว่า "นายขนมทั้งหมดติดเนื่องเป็นอันเดียวกันเสียแล้ว, ดิฉันไม่สามารถทำให้แยกกันได้." แม้เขากล่าวว่า "ฉันจักทำเอง," แล้วก็ไม่อาจทำได้. ถึงทั้งสองคน จับที่ริม (แผ่นขนม) แม้ดึงออกอยู่ ก็ไม่อาจให้แยกออกจากกันได้เลย. ครั้นเมื่อเศรษฐีนั้นปล้ำอยู่กับขนม (เพื่อจะให้แยกกัน), เหงื่อก็ไหลออกจากสรีระแล้ว, ความหิวกระหายก็หายไป.
               ลำดับนั้น เขากล่าวกะภรรยาว่า "นางผู้เจริญ ฉันไม่มีความต้องการขนมแล้ว, เธอจงให้แก่สมณะเถิด." นางฉวยกระเช้าแล้วเข้าไปหาพระเถระ.
               พระเถระแสดงธรรมแก่คนแม้ทั้งสอง, กล่าวคุณพระรัตนตรัย, แสดงผลทานที่บุคคลให้แล้วเป็นอาทิ ให้เป็นดังพระจันทร์ในพื้นท้องฟ้าว่า "ท่านที่บุคคลให้แล้ว ย่อมมีผล, ยัญที่บุคคลบูชา ย่อมมีผล." เศรษฐีฟังธรรมนั้นแล้ว มีจิตเลื่อมใส กล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ ท่านจงมานั่งฉันบนบัลลังก์นี้เถิด."

               พระเถระนำเศรษฐีและภรรยาไปเฝ้าพระศาสดา               
               พระเถระกล่าวว่า "มหาเศรษฐี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งในวิหารกับภิกษุ ๕๐๐ รูป ด้วยตั้งพระหฤทัยว่า "จักเสวยขนม, เมื่อท่านมีความชอบใจ. เศรษฐี ท่านจงให้ภรรยาถือเอาขนมและวัตถุอื่นมีน้ำนมเป็นต้น, พวกเราจักไปสู่สำนักของพระศาสดา."
               เศรษฐี. ก็บัดนี้ พระศาสดาประทับอยู่ ณ ที่ไหนเล่า? ขอรับ.
               พระเถระ. ประทับอยู่ในพระเชตวันวิหาร ในที่สุดแห่งที่ ๔๕ โยชน์จากที่นี้ เศรษฐี.
               เศรษฐี. ท่านผู้เจริญ พวกเราจักไปสิ้นหนทางไกลมีประมาณเท่านี้ จะไม่ล่วงเลยเวลาอย่างไร?
               พระเถระ. มหาเศรษฐี เมื่อท่านมีความชอบใจ, เราจักนำท่านทั้งสองไปด้วยกำลังของตน. หัวบันไดปราสาทของท่านจักมีในที่ของตนนี่เอง, แต่เชิงบันไดจักมีที่ซุ้มประตูพระเชตวัน, เราจักนำไปสู่พระเชตวัน โดยกาลชั่วเวลาลงจากปราสาทชั้นบนไปยังชั้นล่าง.
               เขารับว่า "ดีละ ขอรับ." พระเถระทำหัวบันไดไว้ในที่นั้นนั่นเองแล้ว อธิษฐานว่า "ขอเชิงบันไดจงมีที่ซุ้มประตูพระเชตวัน." บันไดก็ได้เป็นแล้วอย่างนั้นนั่นแล. พระเถระให้เศรษฐีและภรรยาถึงพระเชตวันเร็วกว่ากาลที่ลงไปจากปราสาทชั้นบนลงไปยังชั้นล่าง.
               สามีภรรยาแม้ทั้งสองคนนั้น เข้าไปเฝ้าพระศาสดาแล้ว กราบทูลกาล. พระศาสดาเสด็จเข้าไปสู่โรงฉันแล้ว ประทับนั่งบนพุทธอาสน์ที่เขาปูลาดไว้แล้ว พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์. มหาเศรษฐีได้ถวายทักษิโณทกแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข, ภรรยาใส่ขนมในบาตรของพระตถาคตเจ้าแล้ว แม้มหาเศรษฐีพร้อมด้วยภรรยา ก็บริโภคขนมพอแก่ความต้องการ. ความหมดสิ้นของขนมไม่ปรากฏเลย. แม้เมื่อเขาถวายขนมแก่ภิกษุในวิหารทั้งสิ้นและ (ให้) แก่คนกินเดนทั้งหลายแล้ว ความหมดสิ้นไป (แห่งขนม) ก็ไม่ปรากฏอยู่นั่นเอง. เขาทั้งสองจึงกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขนมหาถึงความหมดไปไม่."
               พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ถ้ากระนั้น ท่านทั้งสองจงทิ้งเสียที่ซุ้มประตูพระเชตวัน." เขาทั้งสองก็ทิ้งที่เงื้อมซึ่งไม่ไกลซุ้มประตู (พระเชตวัน). แม้ทุกวันนี้ ที่นั้น ก็ยังปรากฏชื่อว่า "เงื้อมขนมเบื้อง." มหาเศรษฐีพร้อมด้วยภรรยาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่งแล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงกระทำอนุโมทนาแล้ว.
               ในกาลจบอนุโมทนา สามีและภรรยาแม้ทั้งสองดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว ถวายบังคมพระศาสดา ขึ้นบันไดที่ซุ้มประตู (พระเชตวัน) แล้ว สถิตอยู่ที่ปราสาทของตนทีเดียว. ตั้งแต่นั้นมา เศรษฐีได้เกลี่ยทรัพย์จำนวน ๘๐ โกฏิ ในพระพุทธศาสนานั่นแหละ.

               พวกภิกษุสรรเสริญพระมหาโมคคัลลานะ               
               ในเวลาเย็นวันรุ่งขึ้น พวกภิกษุประชุมกันในโรงธรรม นั่งกล่าวคุณกถาของพระเถระว่า "ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย จงดูอานุภาพของพระมหาโมคคัลลานะ, ท่านชื่อว่าไม่กระทบกระทั่งศรัทธา ไม่กระทบกระทั่งโภคะ ทรมานเศรษฐีผู้มีความตระหนี่โดยครู่เดียว กระทำให้หมดพยศแล้ว ให้เขาถือขนมนำมาสู่พระเชตวัน กระทำไว้ตรงพระพักตร์พระศาสดาแล้ว ให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล น่าอัศจรรย์ พระเถระมีอานุภาพมาก.”
               พระศาสดาทรงสดับถ้อยคำของพวกภิกษุ ด้วยพระโสตธาตุอันเป็นทิพย์ เสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งประชุมด้วยเรื่องอะไรกันหนอ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า "ด้วยเรื่องชื่อนี้" จึงตรัสสรรเสริญพระเถระว่า "ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาอันภิกษุผู้ทรมาน ไม่กระทบกระทั่งศรัทธา ไม่กระทบกระทั่งโภคะ ไม่ให้สกุลชอกช้ำ ไม่เบียดเบียน (สกุล) เป็นดุจแมลงภู่เคล้าเอาละอองจากดอกไม้ เข้าไปหา (สกุล) แล้ว ควรให้รู้พุทธคุณ, โมคคัลลานะบุตรของเราก็เป็นเช่นนั้น"
               ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
                         ๕.    ยถาปิ ภมโร ปุปฺผํ    วณฺณวนฺตํ อเหฐยํ
                            ปเลติ รสมาทาย                   เอวํคาเม มุนี จเร.
                            มุนีพึงเที่ยวไปในบ้าน เหมือนแมลงภู่ไม่ยังดอก สี
                            และกลิ่นให้ชอกช้ำ ถือเอาแต่รสแล้วบินไปฉะนั้น.

               แก้อรรถ               
               ชาติแห่งสัตว์ผู้กระทำน้ำหวานชนิดใดชนิดหนึ่ง ชื่อว่า ภมร ในพระคาถานั้น.
               บทว่า ปุปฺผํ เป็นต้น ความว่า แมลงภู่เมื่อบินไปในสวนดอกไม้ ไม่ยังดอก สี และกลิ่นให้ชอกช้ำ คือว่าไม่ให้เสียหาย บินไป.
               บทว่า ปเลติ ความว่า ครั้นบินไปอย่างนั้นแล้ว ดื่มรสจนพอความต้องการ คาบเอารสแม้อื่นไป เพื่อประโยชน์แก่การกระทำน้ำหวานแล้วบินไป. แมลงภู่นั้นร่อนลงสู่ป่าชัฏแห่งหนึ่งแล้ว เก็บรสซึ่งเจือด้วยธุลีนั้นไว้ในโพรงไม้แห่งหนึ่งแล้ว กระทำรสน้ำหวานให้เป็นน้ำผึ้งโดยลำดับ; ดอก หรือสี และกลิ่นของดอกไม้นั้นหาชอกช้ำไป เพราะการเที่ยวไปในสวนดอกไม้แห่งแมลงภู่นั้นเป็นปัจจัยไม่ ที่แท้ สิ่งทั้งหมดคงเป็นปกติอยู่นั่นเอง.
               บาทพระคาถาว่า เอวํ คาเม มุนี จเร ความว่า พระอนาคาริยมุนี ต่างโดยเสขะและอเสขะก็ฉันนั้น เที่ยวรับภิกษาในบ้านโดยลำดับสกุล.
               แท้จริง การเสื่อมศรัทธาหรือการเสื่อมโภคะ หามีแก่สกุลทั้งหลาย เพราะการเที่ยวไปในบ้านของมุนีนั้นเป็นปัจจัยไม่, ศรัทธาก็ดี โภคะก็ดี คงเป็นปกติอยู่นั่นเอง;
               ก็แล พระเสขมุนีและอเสขมุนี ครั้นเที่ยวไปอย่างนั้นออกมาแล้ว, พระเสขมุนีปูสังฆาฏิ นั่ง ณ ที่ที่สบายด้วยน้ำ ภายนอกบ้านก่อนแล้วพิจารณา (อาหารบิณฑบาต) ด้วยสามารถแห่งการเปรียบด้วยน้ำมันหยอดเพลา ผ้าปิดแผล และเนื้อแห่งบุตร แล้วฉันบิณฑบาต หลบเข้าไปสู่ไพรสณฑ์เห็นปานนั้น พิจารณากัมมัฏฐานเป็นไปภายใน กระทำมรรค ๔ และผล ๔ ให้อยู่ในเงื้อมมือให้ได้,
               ส่วนพระอเสขมุนี ประกอบการอยู่สบายในทิฏฐธรรมเนืองๆ บัณฑิตพึงทราบความที่มุนีนั้นควรเห็นสมกับแมลงภู่โดยการกระทำน้ำหวานเช่นนี้. แต่ในที่นี้ทรงประสงค์เอาพระขีณาสพ.
               ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
               พระศาสดา ครั้นตรัสพระธรรมเทศนานี้แล้ว เพื่อจะประกาศคุณของพระเถระ แม้ให้ยิ่ง จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย โมคคัลลานะทรมานเศรษฐีผู้มีความตระหนี่ ในบัดนี้เท่านั้นก็หาไม่, แม้ในกาลก่อน เธอก็ทรมานเขาแล้ว ให้รู้ความเกี่ยวเนื่องกันแห่งกรรมและผลแห่งกรรมเหมือนกัน"
               ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนี้ ทรงนำอดีตนิทาน (มาสาธก)
               ตรัสอิลลีสชาดก๑- นี้ว่า :-
                                   "คนทั้งสองเป็นคนกระจอก คนทั้งสองเป็นคนค่อม
                         คนทั้งสองเป็นคนมีตาเหล่ คนทั้งสองมีต่อมบนศีรษะ, เรา
                         ไม่รู้จักเศรษฐีชื่ออิลลีสะ (ว่า) คนไหน?" ดังนี้แล.
____________________________
๑- ขุ. ชา. เล่ม ๒๗/ข้อ ๗๘; อรรถกถา ขุ. ชา. เล่ม ๒๗/ข้อ ๗๘

               เรื่องโกสิยะเศรษฐีผู้มีความตระหนี่ จบ.               

 :smiley_confused1:


http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=14&p=5

95  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: เรียนถาม ท่านผู้ดูแล เมื่อคืน วิทยุไม่มีเสียง คะ เมื่อ: กันยายน 05, 2015, 11:54:01 am
ไม่รู้จะไปหาฟังที่ไหน.?    :smiley_confused1:
96  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 10 เรื่องจริงจากผลวิจัย ผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชาย เมื่อ: กันยายน 05, 2015, 09:04:14 am
 :smiley_confused1:
97  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: บูรณะเสร็จสิ้น!! บวงสรวงสมโภชศาลท้าวมหาพรหม เพื่อสิริมงคล เมื่อ: กันยายน 05, 2015, 09:02:11 am
เทพ พรหม ปฏิมาใด คุ้มรักษา เมื่อวาสนาคุณไม่มี ไหว้พระโพธิสัตว์ไม่ดีกว่าหรือ
98  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สละชีพรักษาศีล หิวจนเป็นลม ถูกแบกขึ้นหลัง บรรลุอรหันต์บนหลังนั้นแล เมื่อ: กันยายน 05, 2015, 08:51:23 am
คนมีศีล มีสัตย์ ไม่มีเพื่อน
99  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: คนไปนิพพาน..แค่เขาโค คนท่องเที่ยวไปในภพ..เท่าขนโค เมื่อ: กันยายน 05, 2015, 08:44:24 am
เมื่อคุณปรารถนานิพพาน โลกใบนี้ก็ไม่มีพื้นที่ให้คุณยืน 
100  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: วัดเก่าจีนอายุ 2,000 ปี เตรียมขยายพื้นที่ สร้างวิหารใหม่สไตล์ราชวงศ์ฮั่น เมื่อ: กันยายน 04, 2015, 09:59:24 am
เรื่องราวของพระพุทธศาสนาในแผ่นดินสีเหลืองปรากฏหลักฐานชัดเจนในยุคฮั่นตะวันออก (พุทธศักราช 568-763) จักรพรรดิ์องค์ที่ 2 "ฮั่นหมิงตี้" (พุทธศักราช 600-618) ในฐานะผู้สืบสันตติวงศ์ทรงยึดถือแนวทางแห่งความผาสุกของประชาราษฎ์รตามเยื่องอย่างพระบิดา (หลิวซิ่ว) ภายหลังทรงครองราชแล้วในปีพุทธศักราช 608 ทรงส่งราชฑูตไปศึกษาพระพุทธศาสนา ณ ประเทศอินเดีย คณะราชฑูลได้อัญเชิญพระไตรปิฏกขนใส่หลังม้าขาวกลับมา จักรพรรดิ์ฮั่นหมิงตี้จึงทรงสร้างอนุสรณ์สถานชื่อ "วัดม้าขาว (ไป๋หม่าซื่อ)" ขึ้นเป็นวัดพระพุทธศาสนาแห่งแรกในแผ่นดินสีเหลือง วัดแห่งนี้ในชื่อภาษาไทยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "วัดเหมอัศวาราม" ครับ!
101  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถ้าต้องตั้งคำถาม ควรถาม เรื่องใด ก่อนดี ? เมื่อ: สิงหาคม 29, 2015, 08:41:31 pm
ask1
1.มีพระอริยะสงฆ์สาวกบางรูปเป็นตำนาน อย่างพระอุปคุตนั้น ท่านมีกิจอันใดไม่เข้านิพพาน

2.เนื่องตามจากเหตุข้อที่หนึ่ง เมื่อลาเข้าสู่กระแสพระนิพพานเป็นโสดาบัน,สกทาคามี,อนาคามี แต่ไม่เข้านิพพานยังคงปรารถนาเกิดประพฤติกิจโพธิสัตว์มีเป็นได้บ้างหรือไม่
 
102  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: บทกวีทิพย์จากนิพพาน :: อนิจจา วต สังขารา..... เมื่อ: สิงหาคม 27, 2015, 04:57:06 pm
บุญมี ผัว บุญเย็น แม่ บุญยืน
 :93:      :34:      ;)      :03:      :72:
     มีกำเนิด มีชรา มีพรากจาก
มีสุขสม มีตรำตราก เลิกหย่าร้าง
มีได้ลาภ มีเสื่อมสูญ อุปสรรคขวาง
มีสุดทาง มีตบะ หยั่งหทัย

     มีชีวิต มีค่ำเช้า ตื่นค้นเริ่ม
มีชีพชนม์ มีปราณเดิม ใส่ใจใช่
มีบรรพธรรม มีขมา เขลาอยู่ใย
มีกังขา มีทำไม มัชฌิมา.
                     ธุลีธวัช.
103  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / 28 สิงหาคม 2558 (วันไหว้ "สารทจีน" นะครับ) เมื่อ: สิงหาคม 27, 2015, 10:21:39 am


 ;) ;) ;) ;) ;)

พรุ่งนี้วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2558 เป็นวันไหว้สารทจีน ครับ
104  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / Re: 3 Broad Band or True Online อยู่ที่ใจคุณเลือก เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 11:51:02 pm
ผม(ธุลีธวัช)ช่วงนี้ไม่มีโอกาสลงกระทู้ ใช่ว่าไม่ตามกระทู้ใดใด แต่ขณะนี้ผมมีปัญหากับ 3BB เนื่องจาก Router พัง ต้องหาสตางค์จ่ายครับ เดือดร้อนเรื่องเงินทองอยู่บ้างติดไหว้สาร์ทจีน จักรยานก็ต้องซ่อมยางระเบิดช่วง Bike for Mom ผมขาดทุนจ่ายค่าเช่าสัญญาณเน็ตแต่ใช้เน็ตไม่ได้มาหนึ่งเดือนแล้ว ที่สุดต้องลาจาก 3BB เสียที ครับ
105  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / 3 Broad Band or True Online อยู่ที่ใจคุณเลือก เมื่อ: สิงหาคม 26, 2015, 11:41:11 pm
 
เปรียบเทียบ 3bb internet กับ true online เลือกใช้ของใครดี

แชร์เรื่องนี้:
 
เป็นคำถาม และเป็นปัญหา กันมาพอสมควร สำหรับการเลือกใช้งาน อินเตอร์เน็ต ภายในบ้าน หรือที่พักอาศัย ว่าจะเลือกใช้งาน จากเจ้าไหนดี ระหว่าง  3bb internet กับ ทรูอินเตอร์เน็ต จาก true online ซึ่งถือว่า เป็น 2 ผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ ภายในบ้านเรา และอย่างที่ทราบกัน หรือบางท่าน อาจจะไม่ทราบ ว่า ในตอนแรก ภายในเขต กรุงเทพ และปริมณฑลส่วนใหญ่ true internet จะได้รับ สัมปทาน พื้นที่ให้บริการ เป็นส่วนใหญ่ ส่วนในต่างจังหวัด 3bb internet ก็ได้รับสัมปทานไป แต่ในปัจจุบัน  มีการเปิดการแข่งขัน อย่างเสรี ทำให้มีการเข้าไปแข่งกัน ภายในพื้นที่เดียวกัน แทบจะทุกจังหวัด ณ ตอนนี้ ผลประโยชน์ ก็เลยตกลงมาที่ ประชาชนผู้ใช้บริการ อย่างพวกเรา แต่ต้องเลือกให้ถูกนะครับ ว่าจะเลือกใช้บริการ จากค่ายไหนดี ระหว่าง ติดเน็ต 3bb หรือจะติดเน็ต ทรู

วันนี้ ผมมีประสบการณ์ตรง จากการใช้บริการ จากทั้ง 2 ค่ายนี้ มาเล่าเพื่อเป็นข้อมูล สำหรับการตัดสินใจ ของแต่ละท่าน ในการเลือกใช้งาน อินเตอร์เน็ต ว่าจะเลือกใช้งาน เครือข่ายอินเตอร์เน็ต จากค่ายไหน เพราะมันมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ของแต่ละค่าย อันนี้ก็ต้องบอกว่า สำหรับ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ทับซ้อน ที่สามารถเลือกที่จะ ติดตั้งอินเตอร์เน็ต ได้ทั้ง 3bb internet หรือ อินเตอร์เน็ตทรู แต่ถ้าใคร มีให้เลือกแค่เจ้าเดียว ก็อย่างเพิ่งปิดหน้านี้นะครับ ขอให้อ่านเอาไว้ เป็นความรู้ เพราะเมื่อก่อน บ้านผมก็มี ผู้ให้บริการ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต แค่เจ้าเดียวเช่นกัน แต่ไม่นาน ปีกว่าๆ ก็มีอีกเจ้า เข้ามาให้บริการเช่นกัน เชื่อว่า อีกไม่นาน ทั้ง 2 ค่าย จะขยับขยาย พื้นที่ให้บริการ ทับซ้อนกัน ทั่วทั้งประเทศ อยู่ที่ว่า ต้นทุนใครจะมีมากกว่ากัน เพื่อจะได้ขยายจุดกระจายสัญญาณ ไปในที่ห่างไกลมากขึ้น

จะเลือก ติดตั้งอินเตอร์เน็ต จาก 3bb internet หรือ true online ดี?

คำถามนี้ ตอบได้ไม่ยากครับ สำหรับผมนะ เพราะผมผ่านการใช้งาน ได้รับการบริการ จากทั้ง 2 ค่ายมาแล้ว ในระยะเวลา 1 – 3 ปี ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ไม่ยาก ว่าสุดท้าย ผมจะเลือกใช้ อินเตอร์เน็ต จากเจ้าไหนดี แต่สำหรับทุกท่าน ที่บ้าน หรือ ที่พักอาศัย คอนโด อพาร์ทเมนต์ ยังไม่มี อินเตอร์เน็ต และกำลังมองหา ผู้ที่จะมาให้บริการ ติดตั้งอินเตอร์เน็ต แล้วล่ะก็ ลองพิจารณา จากข้อดีข้อเสีย ของแต่ละเจ้า ตามนี้เลยครับ

True Online Ultra Hi-Speed internet

ข้อดี ของ ทรูอินเตอร์เน็ต

ฟรีค่าติดตั้ง
ฟรีค่าอุปกรณ์ Router WiFi 4 ports
Router 1 ตัว มาพร้อมกับ สัญญาการใช้บริการ อินเตอร์เน็ตทรู 1 ปี พอครบ 1 ปีแล้ว Router เสียหรือไม่เสีย ก็ไปเอาตัวใหม่ ที่ True Shop ได้เลย ก็เป็นการเริ่มต่อสัญญาใหม่ อีก 1 ปี พูดง่ายๆ ว่ามี Router มาให้ใช้ตลอด ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรเลย ใช้งาน อินเตอร์เน็ต อย่างเดียว
ค่าบริการรายเดือนถูก
ช่องทางการติดต่อ แจ้งปัญหา มีหลายช่องทางมาก
บริการหลังการขาย ดีมากๆ
เคลมเปลี่ยน Router ได้ง่าย และสะดวกมาก โดยสามารถทำได้ที่ true shop ทุกสาขา ทั่วประเทศ
ข้อเสีย ของ ทรูอินเตอร์เน็ต

ช่างอาจจะมาแก้ปัญหาถึงบ้านให้ช้าบ้าง ในบางครั้ง เนื่องจาก ผู้ใช้งานเยอะ ปัญหาต่างๆ มันก็เยอะไปด้วย บางทีเลยกำหนดเวลามาหลายชั่วโมงทีเดียว แต่ก็ยังดี ที่มีการโทรมาแจ้งล่วงหน้า ว่าจะมาช้า

 
3BB Internet อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง

ข้อดี ของ อินเตอร์เน็ต 3BB

ใช้สายเคเบิ้ล ทำให้มีความเร็ว ที่เสถียร เป็น อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
พื้นที่การให้บริการ ครอบคลุมในต่างจังหวัด มากกว่า ทรู
ค่าบริการ ราคาถูก
มีพื้นที่ 3BB Cloud Storage ให้ด้วย พร้อมทั้งยังมี TV Online และมีหนังออนไลน์ ให้ดูฟรีอีกด้วย
ข้อเสีย ของ อินเตอร์เน็ต 3BB

ไม่ฟรีค่าติดตั้ง (ฟรีแค่ในบางเวลา ที่เป็นช่วงโปรโมชั่น )
ไม่มี router มาให้พร้อมใช้งาน ลูกค้าต้องมีอยู่แล้ว หรือไม่ก็ไปหาซื้อมา หรือจะซื้อกับทาง 3BB ก็ได้ แต่แพงกว่าเยอะ
การบริการหลังการขาย แย่มาก โทรนาน กว่าจะมีคนรับ แถมยังพูดจาไม่ดีอีก (ไม่ได้กล่าวหาลอย มี
บันทึกการสนทนาอยู่ แต่ไม่อยากเอามาลงยูทูปประจาน)
ที่จ่ายเงินหายาก ไม่เยอะเท่า true shop
ความเห็นส่วนตัว จากประสบการณ์ การใช้บริการจริงๆ จากทั้ง 2 เจ้า

สำหรับผมแล้ว ผมเลือกที่จะใช้บริการ ของ true internet ครับ เพราะว่า การบริการ ของ เจ้าหน้าที่ true online นั้น ถือว่ายอดเยี่ยมสุดๆ ในเมืองไทยแล้ว ผมไม่ได้ยกยอเกินเหตุ เพราะในปัจจุบันนี้ นอกจากจะมี call center true ที่ให้บริการ ด้วยการโทรเข้าไปสอบถามแล้ว ยังมีการให้บริการ Chat online จาก ทรู อีกด้วย คือเราสามารถ เข้าไปแชทกับพนักงาน เพื่อสอบถาม ปัญหา หรือสอบถาม โปรโมชั่น true ต่างๆ ได้ สะดวกสบายมากๆ สำหรับผม

3bb internet หรือ true online อินเตอร์เน็ต ดี

ที่สำคัญที่สุด และแบบว่า สุดๆ จริงๆ นั่นก็คือ เรื่องของ Router (เร้าเตอร์) ครับ มันมีความแตกต่าง ในเรื่องของ การรับประกัน และการทำสัญญากัน ระหว่างทั้ง 2 ค่ายนี้ อย่างชัดเจน ผมจะอธิบายง่ายๆ เลยนะครับ

3BB internet เริ่มต้นการติดตั้ง ค่าติดตั้ง อาจจะฟรี (สำหรับบางช่วง) แต่ต้องเสียเงิน ค่าซื้อ router 3bb เอง โดย ราคา router wifi 3bb นั้น มีราคาแพง กว่าท้องตลาดเยอะ และคุณภาพ ก็ห่วยกว่า ที่สำคัญ รับประกันอายุการใช้งาน เพียง 1 ปี แปลว่า อะไร ก็แปลว่า ถ้าครบ 1 ปี แล้วมันพัง หรือเสีย คุณก็ต้องไปหาซื้อ router wifi มาใส่แทนเอง

ผู้ที่เหมาะจะใช้งาน 3BB internet นั้น ควรจะเป็น คนที่ชอบจัดสเปค อุปกรณ์ต่างๆ เอง และชอบลองของใหม่ ของแปลก เพราะต้องไปเดินหาซื้อ Router มาใช้เอง โดยใช้ยี่ห้อที่ดังๆ เช่น TP Link หรือ router cisco อะไรประมาณนั้น ซึ่งก็ไม่ผิดครับ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน สำหรับผม ซึ่งไม่ได้โหลดบิท ไม่ได้ใช้งาน อะไรมากมาย ใช้อยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้ router ระดับ Hi-end เทพๆ ที่ต่อพ่วงกับ ฮาร์ดดิสก์ ได้ หรือรองรับการใช้งาน ของอุปกรณ์ได้หลายสิบเครื่องพร้อมๆ กัน หรือไม่จำเป็นต้องเป็นแบบ Wireless-N 5GHz ความเร็วในการรับส่งสูงๆ ด้วยเช่นกัน เพราะการใช้งานของผม ก็ใช้อยู่แค่ 2-3 คน อุปกรณ์ไม่ถึง 10 ตัว router ธรรมดาๆ ก็เหลือเฟือแล้วครับ

แต่ถ้าผู้ที่เป็นคนทั่วไป ไม่มีความรู้ ในเรื่องการเลือกซื้ออุปกรณ์ Network พวกนี้ ผมไม่แนะนำ ให้ ติดเน็ต 3bb ครับ เพราะว่าจะเจอปัญหาแบบผม คือ พอใช้ครบ 1 ปีปุ๊บ router wifi 3bb ตัวละ 3 พันกว่าบาท พังเรียบร้อย โดยส่วนที่พังก็คือ WiFi ที่ไม่สามารถใช้งานได้ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต เชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ ผมโทรไปขอความช่วยเหลือ จากทาง Call Center 3BB ก็ได้แจ้งว่า จะส่งช่างมาตรวจสอบ พอช่างมาถึง ( มาไวมาก ) ก็มาตรวจสอบ แล้วก็บอกว่า ทำอะไรไม่ได้ router wifi 3bb ของพี่ มันหมดอายุรับประกันมาได้ 1 เดือนแล้ว เคลมอะไร เปลี่ยนอะไรไม่ได้ “พี่ต้องไปเดินหาซื้อ router ตัวใหม่เอาเอง” ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่า จะเป็นแบบนี้ ก็นึกเสียใจมาก รู้งี้ไม่น่าติดกับ 3BB เลย เพราะทรูที่บ้าน อีกหลังหนึ่งของผม เค้าดูแล เรื่องอุปกรณ์พวกนี้ให้ด้วย คือให้บริการ “อินเตอร์เน็ต” อย่างครบวงจร ผู้ใช้งาน ไม่ต้องเก่งเรื่องเน็ตเวิร์ก ก็สามารถใช้งาน อินเตอร์เน็ต ได้อย่างสบายๆ และง่ายๆ ดังนั้น ผมจึงไม่รอช้า รีบไปยกเลิก 3BB internet ที่ใช้งานที่บ้านทันที แล้วก็ไปเปิดบริการ True Online หลังจากนั้นเลย

ผมมีเงินเหลือเฟือ พอที่จะไปซื้อ router wifi ตัวใหม่ได้ครับ แต่ถามว่า ผมจะเอาเงิน ไปจ่ายค่า ราคา router ทำไม ในเมื่อผมเสียเงินน้อยกว่าได้ ด้วยการเปลี่ยนไปติดตั้ง ทรูอินเตอร์เน็ต ใหม่แทนเลย แล้วมันดียังไง? มาดูกันครับ

ทรูอินเตอร์เน็ต นั้นจัด โปรโมชั่น true internet ให้ผมงามๆ โดยในจุดที่บ้านผมอยู่ มีคู่สายของทั้ง ADSL และ Cable อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ผ่าน โดยค่าบริการรายเดือน ก็ 599 เท่ากัน ติดตั้งฟรี ฟรี router true ฟรีทุกอย่าง จะเสียเงินเพิ่ม ก็ตรงจุดที่ เราต้องการให้เดินสายเพิ่มเติม หรือระยะทาง เพิ่มเติม ก็เท่านั้น ซึ่งก็ไม่แพงครับ เมตรละ 25 บาท

ที่สำคัญแบบสุดๆ router true ตัวที่ให้มานี้ เป็น router wifi 4 ports มีอายุการรับประกัน 1 ปี เช่นกัน เหมือนกับ 3BB ภายใน 1 ปี ถ้าเสีย หรือมีปัญหา ถือเอาไปเปลี่ยน ที่ true shop ทุกสาขา ได้เลย (ผมเคยเอาไปเปลี่ยนมาแล้ว ง่าย และสะดวกมากๆ) ถ้าเกิน 1 ปี แล้วมันเสีย หรือมีปัญหา ไปเบิกที่ศูนย์ true shop ทุกสาขาย ได้เลยเช่นกัน โดยจะได้ router ตัวใหม่ รุ่นใหม่ ล่าสุด จากทาง ทรู มาให้เลย แต่มีข้อแม้ว่า ต้องใช้บริการ true internet ต่ออีก 1 ปีนะ ซึ่งก็คงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พูดง่ายๆ ว่า ใช้ อินเตอร์เน็ต จาก ทรู ไม่ต้องกังวลอะไรเลย router เสีย ก็เคลมได้ตลอด แค่ใช้ บัตรประชาชน ของเจ้าของเบอร์ ที่เปิดบริการ แค่นั้น จบครับ

การบริการ หลังการขาย service ดูแล และตรวจสอบปัญหา ทรู ก็ดีกว่าเยอะครับ อย่างที่ผมบอกไปแล้ว ช่องทางการติดต่อสื่อสารกับทาง true online นั้นมีมากมาย แถมยังให้บริการ 24 ชั่วโมงอีกด้วย สำหรับผม 3bb internet เน็ตแรงดี แต่บริการแย่ครับ แถมการมอบอุปกรณ์ต่างๆ ก็ไม่มีให้ คือ เป็นผู้ให้บริการ “อินเตอร์เน็ต” อย่างเดียวจริงๆ คือ อย่างอื่น คุณไปหามาเองก็แล้วกันนะ ถ้าหากทำการ test speed 3bb แล้วมาเทียบกับ ผลที่ได้จากการ เทสความเร็วเน็ต ของ ทรู ที่ใช้สายเคเบิ้ล เหมือนกันแล้วล่ะก็ ทรูแรงกว่าครับ สำหรับผมนะครับ true online คือคำตอบครับ 3BB Internet แค่ทางเลือก ลองพิจารณากันดูครับ ว่าเจ้าไหน คือคำตอบของคุณ
106  กรรมฐาน มัชฌิมา / บันทึกความทรงจำ Memorytime / Re: อยากทราบที่มาของคำว่า "ธัมมะวังโส" คะ เมื่อ: สิงหาคม 20, 2015, 07:21:33 pm
พระอาจารย์สนธยา เดิมท่านมีครูอาจารย์ที่นับถือ 2 รูป รูปหนึ่งนั้นอยู่ภาคเหนือ ฉายาท่าน "จันทะวังโส (จนฺทวํโส) แปลว่า วงษ์แห่งพระจันทร์ หรือ จันทะวงษ์" อีกรูปอยู่ภาคใต้ ฉายาท่าน "ระวิวังโส (รวิวํโส) แปลว่า วงษ์แห่งพระอาทิตย์ หรือ อาทิตยวงษ์ / ระวีวงษ์" ครูอาจารย์ทั้งสองรูปมีนามฉายาที่พระอาจารย์สนธยาชื่นชอบเป็นอย่างมาก ดังนั้น นามฉายา "ธัมมะวังโส (ธมฺมวํโส) แปลว่า วงษ์แห่งธรรม หรือ ธรรมวงษ์" จึงเป็นที่ชื่นชอบแก่ท่านเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเป็นเสมือนนิมิตหมายอันดีแก่ท่านพระอาจารย์สนธยาด้วย เนื่องเพราะท่านสืบธำรงพุทธธรรมก้าวล่วงพ้นอนุสัยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในชาตินี้ จะกล่าวใดใดบังเอิญเป็นไม่ใช่ครับ ก็เป็นอันไขข้อขุ่นให้น้องกบพอคร่าวๆเท่านี้
107  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: คนที่ชอบด่าว่าคนอื่นโดยไร้เหตุผลจะได้รับกรรมอย่างไรบ้าง เมื่อ: สิงหาคม 20, 2015, 06:39:09 pm
ฟังจากคุณน้องจารวีแล้ว ต้องบอกเลยว่าเจอะเจอคนประเภทนี้หดหู่ครับ พอๆกับแต่งตัวสวยแต่สะเพร่าเหยียบขี้หมาแบนติดรองเท้ากลิ่นนี้ตามรังควานให้เสียอารมณ์ เผลอๆทำให้ทานข้าวไม่ลงเอาได้ ผมนี้เจอคนประเภทนี้แล้วอยากอาเจียน(อ้วกนั่นแหละ) ลับหลังเดินผละหนีฟ้านี้หม่นเลย ใครไม่เจอไม่รู้หรอกว่ามันอย่างนั้นจริงๆ อยากพูด "มันคนหรือสัตว์กันวะเนี่ย" อัปรีย์แท้ เฮ้อ! ผมคนใจร้อนอยากใส่สักหมัดทันที แต่ต้องหยั้ง สติต้องมี ไมตรีไว้ ใจเย็นให้ได้ ไม่ไหวเดินหนี งานทิ้งทันทีถ้ามันสุดๆ มีปัญหาข้องใจเดี๋ยวค่อยกลับมาเคลียร์ ไปหาอะไรเย็นๆดื่มให้ใจมันคลาย อย่างในวันนี้ผมก็เจอมา พูดจาลามก หยาบคาย เสียงดังตะโกนข้ามหัว ใหญ่โต คนปกติอายปากที่จะแสดงกิริยาพูดจาอย่างนั้น แต่ก็เป็นปกติของเขา เราเลี่ยงหนีไปจากตรงนั้นให้เร็วก็คงพอ หากแต่ทำงานด้วยกันนี่ซิ ยากทำใจแต่ก็อดใจไม่ได้มีเรื่องทุกทีเหมือนกัน ชีวิตคนเราตื่นเช้าได้ยินไก่ขัน เย็นกลับบ้านหมาเห่าไล่ ตกค่ำจิ้งหรีดร้อง มันก็หลากหลาย ทำใจให้เป็นกลางๆอย่ายึดถือหน่วงหนักหทัยเลย ผ่านมาผ่านไป มาเอาใจวางไว้ที่นาภี อิติปิโส ฯลฯ ไปเรื่อยๆ นับพุทโธได้ด้วยยิ่งดี ครับ!
108  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: มาใหม่ อยากให้ช่วยแนะนำ ด้วย ครับ ว่าจะเริ่มตรงไหน ที่จะศึกษาสายนี้ เมื่อ: สิงหาคม 18, 2015, 07:47:23 pm
ชื่นชอบคุณน้องไซอิ๋วช่วยงานรับหน้าเสื่อได้ดี ช่วงนี้รับวิบากดูท่าไม่เลิกลา ในพรรษานี้เห็นทีตามข้อกระทู้น้อยลงสักหน่อย เนื่องจากเน็ต 3BB สัญญาณขาดหายแจ้งศูนย์ซ่อมแก้ไขให้มาช่วยคลีคลายปัญหาหลายรอบไม่มาดูดำดูดีใดใดให้เลยเงินก็เสียสัญญาณก็ไม่มีจนใจต้องใช้มือถือปวดตามากๆแว่นใช้งานก็มาชำรุด จิตใจช่วงนี้หดหู่ ล่าสุดงานปั่นเพื่อแม่ยางระเบิดไม่สามารถปฏิบัติภาระกิจร่วมกับกลุ่มทีมในการแปลอักษรต้องเข็นจักรยานกลับบ้านเดียวดาย คนสวดมนต์ภาวนาใช่ว่าจะโชคดีชีวิตมักอาภัพเยื่องนี้ ขอบคุณอีกครั้งในข้อแนะนำรับน้อง อยากคุยสาระธรรมด้วยมากกว่านี้ แต่ปวดตาเหลือเกินลำบากจิ้มอักษรคีร์ความ สวัสดีลาก่อน / ราตรีสวัสดิ์ ....... Good bye / Good night.
109  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เมื่อออกบวชเป็นพระภิกษุ ไม่พึงไหว้ 10 จำพวก และพึงไหว้ 3 จำพวก เมื่อ: สิงหาคม 14, 2015, 08:24:40 pm
[๒๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลอันภิกษุไม่ควรไหว้คือ

(2) ไม่ควรไหว้อนุปสัมบัน ๑ (ผู้ที่ไม่ใช่นักบวช)
(4) ไม่ควรไหว้มาตุคาม ๑ (ผู้หญิง)

บุรุษเมื่อถือเอาซึ่งธรรมวินัยนี้ประพฤติพรหมจรรย์อยู่ พึงศึกษาข้อควรระวังในจริยาสงฆ์สำเหนียกเอาว่าเราคือสมณะในพุทธโคดมมีเพศอันประเสริฐแล้ว สละแล้วไม่มีเรือน ไม่คลุกคลีด้วยหมู่ ไม่เสพ ยืน หรือ ถือกิริยาเยื้องคฤหัสถ์ ดังนั้น การกระทำเยื่องภาพที่ปรากฏถือได้ว่าไม่พึงควร อันอาจทำให้เป็นเยื่องอย่าง เป็นมลทินแก่บุพการี แม้ไม่มีอาบัติปรับเอาผิดชัดเจน หรือ ปรากฏในข้อให้ภิกษุพึงศึกษาในเสขิยะวัตร 75 ด้วยการปรับทุกกฏนั้น แต่ด้วยจริยาแห่งสงฆ์ผู้ถือเอาธรรมวินัยโดยญัติแล้วต้องทรงจริยานั้นเสมอดุจศาสดาเทียว จึงอย่าได้กระทำจริยาแห่งผู้ถือบวชตกพร่องโดยไม่เคารพธรรมวินัยดุจไม่เคารพพุทธบัญญัตินั้น ชื่อว่าไม่งามในจริยา กลายเอาว่า ไม่สำเหนียก กล่าวสอนยาก ทั้งนี้อุปัชฌาย์สามารถเรียกกระทำตักเตือนได้ ครับ
110  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พิจารณาวิบากกรรม ของศิษย์แต่ละคน ( หรือผู้ที่เคยนับถือกัน ) เมื่อ: สิงหาคม 11, 2015, 07:03:44 pm
ขอขอบคุณในคำเชื้อเชิญ สวนโมกข์ฯ ผมไม่เคยไป เสฐียรธรรมฯ ผมไม่เคยเห็น แนวทางปัญญาเป็นของบัณฑิตกลุ่มชนอุดมปัญญา ดีขึ้นมาขั้นกลางๆก็ สวนสันติธรรม ผมชื่นชอบไปกราบหาครูอาจารย์ก็สายอรัญวาสี แต่ไม่ไปหรือใส่ใจเลยก็ธรรมกาย วันนี้ที่ไหนๆก็เสื่อมถอยโรยร่วง วาสนาผมสร้างมาดีแล้วจึงไม่แคล้วได้ครูอาจารย์เลิศ โอกาสมานับมาเริ่มเยื่องครูบาอาจารย์ก่อนๆ ณ คณะ 5 วัดราชสิทธิ์ฯ ประเสริฐกว่า เราท่านทั้งหลายเห็นความเสื่อมถอยวุ่นวายทั้งทางโลกแลทางธรรม โลก-รัฐก็รู้ๆกันอยู่วุ่นวายใฝ่อำนาจ ธรรม-สงฆ์เสื่อมบัณฑิตครองเมืองหลงลาภสักการะ เราท่านทั้งหลายระอาเอือมในศรัทธาหาที่พึ่งกันไม่ได้ วันนี้มีสงฆ์ครูอาจารย์ผู้นำทางชี้ผิดถูกอยู่ในครรลองต้องพิจารณาขวนขวายครับ อย่านิ่งนอนใจครูอาจารย์อาจไม่ได้พบแต่คุณวิถีท่านชี้ไม่อำพรางค้นคว้าใส่ใจไว้ไม่เสียหายดำเนินไปมีแต่หนทางเจริญมิเช่นนั้นจะหวนหลงไพรพงดงชัฏกันไม่มีทางออกอีกนานแสนนาน ครับ!
111  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พิจารณาวิบากกรรม ของศิษย์แต่ละคน ( หรือผู้ที่เคยนับถือกัน ) เมื่อ: สิงหาคม 11, 2015, 10:31:20 am
ผมในฐานะศิษย์ที่ศึกษาภาวนาในสายวัดพลับ เรียนรู้เข้าใจในแบบฉบับของตัวเองเสมอมา สิ่งใดที่เราท่านยังอ่อนก็ให้ศึกษาก่อน ผมเองนั้นสั่งสมเรียนรู้หาอ่านกระทั่งถุงกล้วยแขกยันเศษขยะเลยนะ แรกพบครูอาจารย์ฟังก็ต้องพิจารณาใคร่ครวญใช่เห็นตาม ครูอาจารย์ให้ลาพุทธภูมิก็ใช่ลาสุ่มสี่สุ่มห้าบ้านแตกสาแหรกขาดได้ง่ายๆ เพื่อนผมหลายรายที่ผมนำพามากราบครูอาจารย์ต่างล้วนประสบเคราะห์กรรมรับวิบากกันถ้วนทุกคนแตกต่างกันไป นี่เป็นเพราะไม่เข้าใจอ่อนศึกษาฟังไม่เป็น ผมเป็นคนเริ่มนำแต่เป็นคนเดียวที่ไม่ลาพุทธภูมิ พ่อแม่ยังต้องพึ่งพาเราจะมาด่วนจากพรากหนีคงไม่ได้ ด้วยฐานะครอบครัวยากจนผมไม่อาจทนเรียนหนังสือได้จึงออกบรรพชาเป็นสามเณรเรียนนักธรรมบาลีจึงได้พบอาจารย์ แต่ก็ต้องพรากจากกันไปร่วม 20 ปี จึงได้พบกัน ผมกลับสู่เพศฆราวาสมาช่วยพ่อแม่หาบ้านช่องเป็นหนี้สินทั้งส่งเสียตนเองเรียนจนจบปริญญาแม้วันนี้ชีวิตยังตรากตรำอยู่มาก แต่กรรมฐานไม่เคยทิ้งแม้จะไม่ต่อเนื่องทุกวันเนื่องด้วยวิบากต้องทนทุกข์ตรากตรำร่างกายเจ็บป่วยบ่อยครั้ง มารขวางอารมณ์คนทุศีลพาลหาเรื่องต่อยตี ผมผ่านประสบการณ์ทั้งเรียนรู้ภาวนาจึงมาเข้าใจในเรื่องโลกเรื่องคน อารมณ์ภาวนา มาร วิบาก ดังนั้นข้อเขียนผมจึงกล่าวตรงในแบบฉบับรู้เห็นจริงไม่อำพรางซ่อนแสร้ง บุญผมขวนขวายทำไม่หวังอานิสงส์ใดใด กรรมจากอาการเจ็บป่วยมันบั่นทอนความเพียรผม แต่ผมไม่เคยท้อ ดันทุรังตลอด เพราะปรารถนามหาโพธิสัตว์ไม่นิพพาน ครูอาจารย์ท่านกล่าวเตือนแล้วว่าต้องทนกับวิบากแต่อาศัยบารมีครูอาจารย์ให้ได้ทอนบรรเทา ใครกล่าวว่าผมลบหรู่ครูอาจารย์นั้นไม่ใช่แล้ว ผมเคารพครูอาจารย์อย่างยิ่งยวดหากถูกกล่าวตำหนิผมก็ยินดีถอยด้วยอ่อนวาสนากว่าไม่ว่ากัน แต่จะตามหลังห่างๆเป็นอันรู้กัน ครับ
112  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พิจารณาวิบากกรรม ของศิษย์แต่ละคน ( หรือผู้ที่เคยนับถือกัน ) เมื่อ: สิงหาคม 09, 2015, 02:30:29 am
ด้วยความเคารพสหาย ก่อนอื่นต้องขอแก้ต่างอย่างนี้นะครับ ประเด็นอยู่ที่การเรียนรู้ภาวนาเพื่อการละสังสารวัฏฏ์ 1 ความอาจหาญในการยอมรับวิบาก 1 ผมมีโอกาสไปกราบขมาครูอาจารย์ สดับธรรม ในสายอื่นๆ สิ่งหนึ่งประการแรกท่านกล่าวอ้างนิพพาน มุ่งมั่นนำศิษย์ภาวนา และ ความอาจหาญในวิบากของท่านเอง ผมเป็นคนฟังธรรมเป็น เข้าใจ ด้วยศึกษาสั่งสมมาแต่วัยเยาว์ การที่ผมตรากตรำและเจ็บป่วยนั้น ผมไม่เคยเสียกำลังใจเลยสักนิด บุญทานใดใดผมทำทิ้งทำขว้างไม่เคยจำ ผมอุปัฏฐากครูอาจารย์อยู่ใกล้กว่าใครฟังได้มากกว่าใครเข้าใจทุกเรื่อง ที่ผมกล่าวไว้ในกระทู้ก่อนใช่ว่าตัดพ้อครูอาจารย์ บาปกรรม แต่ผมพินิจประมวลแล้ว เพียงต้องการให้เพื่อนๆพิจารณาให้เห็นสองสิ่งคือ การภาวนาเพื่อพ้นสังสารวัฏฏ์ และ วิบากที่ต้องเผชิญ ประเด็นอยู่ตรงนี้ ผมอาจจะเลือดร้อน ฟังมากกว่าโต้แย้ง หากการเป็นศิษย์ผิดที่เลือดร้อนต้องขออภัย ผมฟังครูอาจารย์เข้าใจ แต่ผิดที่ใครไม่เข้าใจผม ผมก็ยินดีปลีกหลีกทางให้ในอันที่จะดำเนินวิถีพุทธภูมิเต็มกำลังครับ
113  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พิจารณาวิบากกรรม ของศิษย์แต่ละคน ( หรือผู้ที่เคยนับถือกัน ) เมื่อ: สิงหาคม 08, 2015, 11:07:41 am
นับเนื่องแต่ผมได้มีโอกาสศึกษาภาวนาในสายธรรมกรรมฐานมัชฌิมามา แรกเริ่มก็เพียรภาวนาปิติเกิดได้บ่อยจากการนั่งภาวนาเวลาอย่างน้อย 30 นาที อย่างมากก็ 1.50 นาที ผลที่ตามมาเห็นได้ชัดคือเอ็นข้อเข่าซ้ายอักเสบเรื้อรังรักษาไม่หาย เหลือเพียงเข่าขวาพยุงกายผลที่ตามมาข้อเข่าค้ำยันใช้งานหนักเกิดอาการเสียวรับน้ำหนักกายไม่ได้ถนัดเหมือนเดิม สรุปเจ็บทั้ง 2 ข้างทุกวันนี้ การงานเหน็ดเหนื่อยกายล้าทุกวันภาวนาเป็นหลับพักผ่อนน้อยอาการข้อเข่าจึงตึงขัดเสียวในการก้าวเดินยืนนานเดินนานไม่ได้ กระทั่งลามไปที่สันหลังเจ็บเสียวเกร็งยกของหนักไม่ทน ทั้งหมดทั้งมวลทวนดูแล้วคงเป็นวิบากกระทำไว้แต่ไหนไม่รู้ การภาวนาสายพระกรรมฐานมัชฌิมาเป็นไปเพื่อละโลกละสังสารวัฏฏ์วิบากเป็นต้องทะยอยใช้ และนี่เป็นเหตุผลที่ผมไม่ตัดสินใจลาพุทธภูมิมิฉะนั้นหนักหนาสาหัสแน่ในการรับวิบากกรรม ถึงกระนั้นผมก็ยังเคารพครูอาจารย์ และจะยังคงปกป้องอุปัฏฐากครูอาจารย์ต่อไป แม้ต้องตัดทอนอายุขัยตนเองก็ยังจะสู้เพื่อรักษาธรรม ศิษย์พระอาจารย์จักมีกลุ่มสาวกบารมีที่ต้องรักษาพุทธวงษ์ อีกกลุ่มคือพุทธภูมิที่ต้องอยู่รั้งท้ายคอยส่งเสริมสละตนแม้ต้องแลกด้วยชีวิต คุณคุณเป็นศิษย์กลุ่มไหนกันหละครับ
114  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: มีเรื่องเล่าสู่เพื่อนกรรมฐานฟัง เมื่อ: สิงหาคม 05, 2015, 10:34:58 am
เงาดำทาบทับร่างนายเวรไม่อาจที่จะเกาะเกี่ยวเธอ รั้งเธอ ได้แล้ว จากนี้ให้ตามสมเด็จปู่ไปนิพพานเถอะ
115  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ความฉลาด เป็นอุปสรรค ในกรรมฐาน แต่ก็เป็นคุณ ในญาณทั้ง 10 และมีค่าในบารมี เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2015, 08:42:37 pm
                             

คนฉลาดมักถือดี ด้วยความเป็นผู้ใคร่ครวญมาก ข้องในอรรถอยู่เนืองๆ และ แย้งคำครู สิ่งใดอันตนเพียรแล้วชอบ ผู้อื่นยกแล้วให้เป็นครู แม้มุนีผู้แจ้งแล้วกล่าวคนฉลาดย่อมใคร่ครวญหนักจิตหยั่งตามยากจึงล่าช้าทอนตัวเอง ซึ่งก็ไม่แปลก แม้ในฐานะแห่งอัครสาวกขวา "อุปติสสะปริพาชก" นั้น ท่านมีอุปนิสัยเยื่องอย่างนี้มาครั้งแต่ได้พบ "อโนมทัสสีพุทธเจ้า" นั้นแล้ว อีกท่านที่จักกล่าวคือ "พระโมฆะราช" หนึ่งในสิบหกมานพศิษย์พราหมณ์พาวรีท่านผู้นี้ถือดีชิงถามคำถามถัดลำดับอชิตะมานพศิษย์พี่แต่พระบรมศาสดารั้งท่านไว้ท้ายก่อนปิงคิยะมานพ ผมพอระลึกได้ในเถระสองรูปนี้ท่านหนึ่งนั้นปัญญามาก ใคร่ครวญมาก จึงล่าช้า อีกท่านถือดีไม่ใคร่ครวญ พระเถระสองรูปในความต่าง แต่คล้ายกันในสิ่งเดียวคือ ใคร่ครวญ ที่ผมกล่าวยกมาก็ด้วยครูอาจารย์ท่านกล่าวสอนว่า สาวกบารมีนั้นปัญญาให้มีไว้ก่อน มีศรัทธาแล้วมีศีลดำเนินไป สมาธิเป็นที่สุด แต่เราท่านนั้นมากใช่น้อยที่ศึกษาปัญญามากก็ขวางตนเองสมาธิไม่เอา ภาวนาไม่จำเป็น ชีวิตจึงล้มลุกคลุกคลาน พลั้งแล้วพลาดอีก ช้ำชอกเรื่อยร่ำไป เหตุเพราะใจไม่หนักนิ่งไม่ภาวนา ปัญญาพาตัวปลักจมเป็นเหยื่อเลือดให้ปลิง นี้เพียงกล่าวถึงไนยชนที่โอกาสยังมีนะครับ!
116  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เรียนถาม เรื่อง การขัดแย้ง ของครูอาจารย์ กรรมฐาน มีจริงหรือ ครับ ? เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2015, 07:53:48 pm
ไม่มีหรอก เรื่องความขัดแย้ง ในระดับ ครูอาจารย์ เพราะว่า ครูอาจารย์ ท่านเจริญแล้ว เข้ากันได้หมด ทุกสำนัก นั่นแหละ คะ 

ครูอาจารย์ท่านเข้ากันได้ แต่ศิษย์นั้นเขลา วุ่นวายอ้างครูอาจารย์แยกขั้วค่ายอวดดี น่าเศร้า! ครับ!
117  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เรียนถาม ครับ พระอรหันต์ ยังสามารถ มีบุตรได้หรือไม่ ? เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2015, 11:57:05 am


พระอริยะสงฆ์ผู้ละสังโยชน์ได้ในระดับชั้นอนาคามีราคะนั้นละสิ้นเชื้อเบ็ดเสร็จ อสุจิจะฝ่อไปเอง นี้เป็นข้อชี้เนื่องมาแต่ครูอาจารย์กล่าวไว้ผมมาบอกต่อ แต่ก็มีข้อที่ผมยังสงสัยในการตั้งครรภ์ของพระเถรีอุบลวรรณาที่ถูกนันทะมานพกระทำล่วงเกินทำไมอิตถียังมีสัตว์เจริญในครรภ์นั้นได้อยู่ หรือนี่เป็นข้อปรามในความไม่ยินดีในสาวิกาในอันที่จะสืบพระศาสนาจึงมีพุทธบัญญัติบวชภิกษุณีในสงฆ์สองฝ่าย และหมดสิ้นไม่เหลือกล่าวไว้ครั้งพุทธปรินิพพาน
118  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ถ้าเป็นพระสงฆ์ ไม่เผยแพร่ ธรรมได้หรือ ไม่ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2015, 11:27:57 am
ถ้าเป็นพระสงฆ์ ไม่เผยแพร่ ธรรมได้หรือ ไม่ครับ  ?

มีพระสงฆ์อริยะสาวกรูปหนึ่งที่ทรงฤทธิ์อภิญญามากกระทำฤทธิ์จนเป็นเหตุให้ต้องถูกพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าขับไปอยู่ ณ อมรโคยานทวีป สงฆ์รูปดังกล่าวมีนามนั้นว่า "พระปิณโฑลภารทวาชเถระ" ผู้เอกทัคคะเลิศในทางบันลือสีหนาท เป็นผู้มีปกติกล่าวตวาดเสียงห้าวหาญต่อหมู่สงฆ์เสมอๆว่า "ใครผู้ใดสงสัยในมรรคผลให้ถามข้าพเจ้า" ด้วยวาสนาท่านห้าวหาญตวาดดัง คงไม่มีใครกล้าถามอาจจะด้วยคร้ามเกรงท่าน ท่านเองก็มิได้มีสงฆ์ศิษย์อนุจรแวดล้อมดั่งเช่นพระเถระรูปอื่นๆ ดังนั้นการกล่าวถามถึงสงฆ์ที่ไม่เผยแผร่ธรรมก็คาดว่าคงมี ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องทำ ทั้งนี้ต้องอยู่ที่วาสนาท่านธำรงสัจจ์ปรารถนาในกิจที่รับเนื่องไว้เป็นภาระสืบสัตย์ตามนั้น พระสงฆ์ที่ไม่มุ่งเผยแผร่ธรรมจักอยู่สันโดษ ถ้าถามผมอย่างในปัจจุบันก็เพียงรับทักษิณาทานให้เหรียญ เจิมแป้ง เขกกระโหลก ลงนะที่หน้าปิดแผ่นทอง เพียงนั้นอยู่รอดปลอดภัยค้าขายรุ่งเรือง หากแต่พระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์สอนสั่งนำศิษย์ได้มีไม่มาก มากก็ไม่จริง จริงก็ไม่แท้ แท้ก็ไม่ใช่ เรื่องอย่างนี้อยู่ที่วาสนาบุคคลครับ
119  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: จัดตักบาตรทางเรือวันแม่ 06.00น.วันที่12สิงหาฯนี้-เชิงสะพานมัฆวานฯฝั่งทำเนียบ เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2015, 04:49:11 pm



เพื่อนๆหลายท่านคงได้เห็นแผ่นภาพประชาสัมพันธ์งาน Bike for Mom "ปั่นเพื่อแม่" ในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 กันบ้างในหลายพื้นที่จังหวัด งานนี้มีพระราชทานเสื้อให้ปั่นกันทั้งประเทศครับ สำหรับจังหวัดสระบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายวิเชียร พุฒิวิญญู ได้เปิดแถลงการงานไปแล้ว มีการปั่นสำรวจเส้นทางไปเมื่อ วันพุธที่ 1 กรกฎาคม 2558 และจะทำการซ้อมใหญ่พร้อมเข้ารับพระราชทานเสื้อ ในวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2558 เวลา 15.00 น. ทุกกลุ่มทีมในจังหวัดจักได้มีโอกาสรวมร่วมในกิจกรรมปั่นเทิดพระเกียรติในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงยิ่งใหญ่ ผมก็หนึ่งในกลุ่มนักปั่น Mountain Bike (MTB) / จักรยานเสื้อภูเขา สังกัดกลุ่มทีม Wihandaeng Bike Club (WBC Team) / ชมรมจักรยาน อ.วิหารแดง ก็จะเข้าร่วมรวมกลุ่มปฏิบัติการปั่นกับเขาด้วย งานนี้งานใหญ่ครับ ปั่นเทิดพระเกียรติ แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ แม่ของแผ่นดิน ทราบกันแล้วใครไปได้ก็ไปนะครับ
120  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ที่จงกรม ควรมีขนาดเท่าไหร่ อย่างไร.? เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2015, 07:08:13 pm


การเดินจงกลมใช้ระยะไปกลับ 25 ก้าว ศิษย์พระอาจารย์ ธัมมะวังโส ฝึกก้าวย่างลักษณะคล้ายอย่างภาพ แต่ต่างด้วยการกำหนดคำ ไม่มีคำว่า ยืน, ยก, เหยียด, ย่าง, ก้าว, จรด(ปลาย)เท้า, ยืนหนอ มีเพียงการใช้คำกำหนด ปฐวี, เตโช, วาโย, อาโป, ปฐวี นี่เป็นเคล็ดวิชาหนึ่งเดียวที่ไม่มีอื่นใครเหมือน เรียกว่า "จตุธาตุววัฏฐานธาตุ" กำหนดเท้าข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ แต่ต้องกำหนดให้ทัน การเดินจงกลมมีได้ทั้งที่เป็นสมถะและวิปัสสนาแต่ไม่ขอกล่าว การฝึกจงกลมเดินนั้นครูอาจารย์หลากหลายท่านให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด ท่านที่ปรารถนาในรูปแบบสาวกบารมีจะสำเร็จธรรมใดใดก็ด้วยวิถีจงกลมเป็นหลัก การนั่งสำเร็จธรรมเป็นของพระพุทธเจ้าเท่านั้น พระอาจารย์ธัมมะวังโส ท่านให้บรรดาศิษย์ใส่ใจฝึกด้วยท่านประจักษ์ด้วยวิธีนี้มาก่อน ทั้งครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน แห่งอัญญาวิโมกข์โพธิรังษี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก็รับรองเช่นกัน ซึ่งครูบาเจ้าเพชรนั้นท่านได้รับคำชี้แนะในเรื่องการจงกลมเดินสำเร็จธรรมจากหลวงปู่โอวเจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริฑัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ดังนั้นการฝึกเดินจงกลมจึงมีความสำคัญกับเราเราท่านท่านทุกคน พระสงฆ์ที่เดินจงกลมแสดงฤทธิ์ฉกาจจนเป็นที่เลื่องลือในวิชากรรมฐานสายมัชฌิมาย่นฟ้าย่อพสุธาคือ ขรัวตาแสง วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี พระอาจารย์รูปสำคัญของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมฺรังษี วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ผมพูดคุยเป็นเพื่อนพอหอมปากหอมคอเท่านั้น หากแต่จะลืมเสียก็ได้ ไม่เชื่อก็ดี ถือว่าผมไม่ได้พูด ลาก่อน!
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 70