เจริญพร กับการทำหน้าที่ กัลลยาณมิตร และ กัลลยาณธรรม สาธุ สาธุ
ส่วนเรื่องการนิมนต์ ก็แจ้งมาทางเมล์ก็ได้ นะจ๊ะ บอกรายละเอียด วัน เวลา สถานที่
ยกเว้นในพรรษา จะยังไม่รับกิจนิมนต์ นะจ๊ะ ไม่อยากเดินทางไกล กาญจนบุรี ก็ไม่ใช่ใกล้
ถ้าต้องการมารับจริง ๆ ก็ให้รับปากว่าต้องส่ง พระอาจารย์ หรือต้องให้สัตตาหะ ก็ต้องนิมนต์เป็นทางการหน่อย
จะได้อาศัยเหตุ เพราะมีญาติธรรมนิมนต์ นะจ๊ะ
1.มีวิธีลัดในการเดินจิต กรรมฐาน ที่ได้ผลเร็ว มีหรือป่าว คะ
ต้องการลัดไปทำไม ละจ๊ะ โบราณกล่าวว่า ช้า ๆ ได้พร้า สองเล่ม งาม ถ้าผลีผลาม แล้ว จักช้า ไม่ทันการณ์
เพราะเสียข้าศึก ไม่ต้องลัดหรอกจ้า ถ้าต้องการให้จิตลงตัวเป็นสมาธิได้ไว ก็แนะนำไว้แล้ว
1.ทำงานออกแรงให้เหนื่อย แล้วมานั่งกรรมฐาน
2.เดินจงกรมกลับไปกลับมา แล้วมานั่งกรรมฐาน
ทั้งสองวิธีนี้ ก็ถือว่าลัดมากแล้ว แต่ขาดคนทำจริง ๆ อยู่ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะยอมเหนื่อยกัน
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=940.0 2.พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นมีที่ไปที่มาอย่างไร ( รู้สึกจะซ้ำกับหัวข้อของครูนภา )
ไปอ่านเพิ่มเติมในหัวข้อที่พระอาจารย์ ตอบให้ครูนภา ไปแล้ว
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1031.0 3.การฝึกกรรมฐาน ส่วนนี้ เพื่ออะไร
เพื่อความสิ้นทุกข์ และ ดับกิเลส และ ไม่กลับมาเกิด เพื่อ พระอรหัง ( ความเป็นพระอรหันต์ )
4.ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา กับ กรรมฐานอื่น หรือ วิปัสสนา ได้หรือไม่
ไม่มีใครฝึก กรรมฐาน เพียงแบบเดียว หรอกจ้า ยิ่งฝึกมหาสติปัฏฐาน แล้ว หลาย ปรรพะ มากนะ
โดยส่วนหลักแล้ว ต้องฝึก อารักขกรรมฐาน ด้วย เพื่อพอกพูนกรรมฐาน ด้วยนะจ๊ะ
5.ไม่ขึ้นกรรมฐาน ฝึกได้หรือป่าว ( อ้างพระพุทธเจ้า ไม่เห็นต้องให้ใครขึ้น กรรมฐานเลย )
ตอบว่า ไม่ผิด แต่ถ้าไม่ขึ้นกรรมฐาน ก็ไม่มีอาจารย์สอน การขึ้นกรรมฐาน คือการแสดงออกว่า เราจักตั้งใจ
เรียนกรรมฐาน และฝึกกรรมฐาน จักทำตามที่สอนเป็นการลดกิเลส คือมานะทิฏฐิ ด้วย ส่วนถ้าผู้ใดอ่านพระสูตร
ในพระไตรปิฏก แล้ว ปฏิบัติได้ผลจริง ก็ขออนุโมทนาด้วย ถือว่าท่านเป็นผู้มีบุญวาสนา แต่กรณีอย่างนี้ อาจจะมี
น้อยมาก สำหรับศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับนั้น ให้เรียนในภาคปกติ เรียนไปตามลำดับ ไต่ไปตามลำดับ ดีกว่ากระโจน พรวดพราด บางท่าน เรียนด้วยตนเอง 50 ปี 60 ปี 70 ปี 80 ปี บ้างก็ตายไปก่อน ก็
ปฏิบัติได้ไม่ถึงไหน การบรรลุคุณธรรม ต้องเด็ดขาดไม่กลับมาอีก เช่นละสังโยชน์ ได้ 3 ข้อ 5 ข้อ 10 ข้อ
เป็นต้น ละแล้ว ก็ไม่เกิดอีก ไม่ใช่ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย แบบนี้ไม่ชื่อบรรลุ หรือสิ้นสุด
ดังนั้นเรียน มีครู ก็ต้องดีกว่า เรียนด้วยตนเอง พระอาจารย์ หามาตั้งนานตั้งแต่อายุ 17 ปี พึ่งจะได้ครูที่สอน
ดี ๆ ก็ตอนที่อายุ 35 ปีเอง พลาดพลั้งไปเกือบ 20 ปี ทีเดียว
เจริญพร