ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เกี่ยวกับการกินเจ  (อ่าน 7249 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
เกี่ยวกับการกินเจ
« เมื่อ: ธันวาคม 07, 2009, 09:45:02 pm »
0
 ;D ฉันได้รับข้อความของเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องการกินเจ ส่งมาให้อ่าน ก็เลยแบ่งกันอ่านคะ

.....แฟชั่น เป็นกระแสความนิยมของสังคมอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าเด็กทำตามก็จะถูกพวกผู้ใหญ่ด่าอย่างเสียๆหาย โดยไม่เคยดูว่ามันจะถูกหรือผิด แต่ถ้าแฟชั่นนั้นมีผู้ใหญ่ทำตาม ผู้ใหญ่ก็จะชักชวนเด็กให้ทำตามด้วย โดยไม่ดูว่ามันจะถูกหรือผิด



.....การ กินเจคือแฟชั่น นิยมกันเป็นช่วงๆแล้วก็ค่อยจางหาย บ้านโน้นก็เจ บ้านนี้ก็เจ ดังนั้นเราก็ต้องเจ ครอบครัวของเสียงกระซิบก็เจกันหมด แต่เสียงกระซิบไม่เคยเจ เพราะเห็นว่ามันเป็นอะไรที่ไม่จำเป็น แค่กินให้ถูกสุขอนามัย ครบห้าหมู่ก็พอ และก็ไม่เคยมีใครให้เหตุผลชัดแจ้งที่ควรจะเจให้เสียงกระซิบฟังซะทีว่ามันจำ เป็นมากมั้ย เหตุผลแต่ละอย่างก็เป็นเหตุผลแค่เปลือกทั้งนั้น ปรัชญาการกินเจมันมีเหตุผล(ปัญญาอ่อน)อย่างนี้หรือ



.....การ กินเจ บางคนว่าเป็นการชำระล้างบาป บ้างว่าเป็นการล้างสิ่งสกปรกในร่างกาย บ้างว่าเพื่อสุขภาพ แล้วอะไรคือนัยลึกซึ้งของการกินเจที่แท้จริง



.....การ สอนเรื่องการกินเจ ก็เหมือนกับการสอนฮวงจุ้ย ที่วางของไว้ตรงนั้นตรงนี้ก็จะทำให้พลังงานความดีความชั่ว พัดผ่านมาสะสมอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ที่จริงการจัดวางสิ่งต่างๆ ก็เป็นไปตามหลักสถาปัตยกรรม ตามหลักวิทยาศาสตร์ ถ้าจัดวางสิ่งต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม ชีวิตก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่เกี่ยวกับอิทธิพลของกระแสพลังอะไรเลย



.....การกินเจก็ เช่นกัน สอนว่าเป็นการลดการทำบาป ชำระล้างบาป แต่ที่จริงแล้วไม่เกี่ยวกับบาปบุญอะไรเลย เพราะธรรมชาติสร้างมนุษย์มาเพื่อให้กิน ถ้าการกินเป็นบาปแล้ว สิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ก็บาปหมด สิ่งที่ไม่มีชีวิตอย่างเช่นหินงอกเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิม ก็คงเป็นสิ่งประเสริฐที่เราควรกราบไหว้กระมัง ดังนั้นเราจึงจะต้องเข้าใจเรื่องบาปบุญให้ลึกซึ้งก่อน



.....ถ้า เราคิดปรัชญาการกินเจอย่างตื้นๆ ก็จะพบความแปลกใจว่า ทำไมการกินพืชผักถึงไม่บาป ซึ่งถ้าคิดแบบศีลธรรมความเป็นมนุษย์ ก็จะเอามนุษย์ไปเปรียบกับสัตว์ เพราะมีหูมีตามีขาเหมือนกัน แต่พืชไม่มี ดังนั้น การฆ่าสัตว์จึงเป็นบาปมหันต์ แต่ถ้าคิดแบบวิทยาศาสตร์ จะพบว่า ไม่ว่าสัตว์หรือพืชก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกันหมด ฉะนั้นไม่ว่าจะกินอะไรก็เป็นบาปหมดกระนั้นหรือ ดังนั้นเราควรเลิกกิน จริงแล้วมันไม่ใช่ เราต้องเข้าใจบาปบุญในการกินเสียก่อน



.....การ กินต้องฆ่าสัตว์ การฆ่าสัตว์เป็นบาป ยิ่งฆ่าสัตว์ที่ใหญ่มากก็ยิ่งบาปมาก วิธีคิดแบบนี้ไม่น่าจะถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น คนหนึ่งฆ่าสัตว์เพื่อมากินประทังชีวิต อีกคนฆ่าสัตว์เป็นกีฬาการแข่งขันชนิดหนึ่ง คนไหนที่เรียกว่าบาป หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง คนหนึ่งฆ่าวัวตัวใหญ่เพื่อมาแบ่งเป็นอาหารในหมู่บ้าน กับอีกคนฆ่าแมลงโดยการเด็ดทีละขา ทีละปีก เพื่อความสะใจ คนไหนที่เรียกว่าบาป จะเรียกว่าบาปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ จุดประสงค์ของการกระทำของคนนั้น คนที่ฆ่าสัตว์เพื่อความสนุกสะใจต่างหากที่จะเรียกว่าบาป ไม่ขึ้นกับว่าสัตว์นั้นจะใหญ่หรือเล็ก



.....สรุปว่า นัยการกินเจ ไม่เกี่ยวกับบาปบุญอะไรเลย แต่ประโยชน์ที่ได้จะรับโดยร่างกาย ตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่ได้วิตามินเกลือแร่จากพืชผัก ไม่มีไขมัน ไม่มีคอเลสเตอรอล ไม่ทำให้เป็นโรคอ้วน ความดันเลือดสูง ฯลฯ เป็นประโยชน์จากการกินผักทั่วๆไป ซึ่งบางครอบครัวมักบังคับเด็กให้กินเจด้วย ซึ่งการกินเจนี้เด็กไม่ควรกิน เพราะเด็กต้องการสารอาหารที่มากกว่านั้น จะเห็นได้ว่า เด็กมักไม่ชอบกินผัก เนื่องจากเด็กต้องการโปรตีนสารอาหารมาบำรุงร่างกายมากกว่าผู้ใหญ่มากมายนัก
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: เกี่ยวกับการกินเจ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2009, 10:29:12 pm »
0
ขอบคุณคุณฟ้าใส(ไม่ทราบสะกดถูกรึเปล่า)ที่หาบทความดีๆมาให้อ่าน

  ผมมีการบ้านมาฝากคุณฟ้าใส ให้กลับไปปวดหัวเล่น
       ๑.ทำไมพระพุทธเจ้าไม่เสวยอาหารเจ(มังสวิรัติ)
       ๒.ข้าวมะุธุปายาส ที่นางสุชาดาถวายพระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้นั้น เป็นอาหารเจ(มังสวิรัติ)หรื่อไม่
       ๓.การฉันท์เนื้อสัตว์ของพระภิกษุ ต้องมีลักษณะเช่นไร จึงจะไม่บาป
       ๔.พระเทวทัต(ที่ปัจจุบันอยู่ในนรกชั้นอเวจีนั่นแหละ)มีความเกี่ยวข้องกับอาหารเจ(มังสวิรัติ)

   ไม่ยากใช่ไหมครับ ใช้สมาธิให้มากหน่อย เดี๋ยวก็ตอบได้
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ