ศรัทธาธรรมธาตุ เปิดให้ประชาชนกราบสักการะบูชา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
อิ่มบุญสูงล้นกับการบูชาพระธาตุที่รวบรวมครบถ้วนที่สุด ณ “แสงแห่งศรัทธา”
ชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย จัดโครงการ "ศรัทธาธรรมธาตุ" พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ พระธาตุของพระอริยสงฆ์ทั่วแผ่นดินไทย ประดิษฐานถาวร ณ "แสงแห่งศรัทธา" รวบรวมพร้อมจัดงานแสดงให้ประชาชนร่วมสักการบูชามากที่สุดเป็นครั้งแรก ระยะเวลา 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 57 เป็นต้นไป
นายสกล แสงมาลี ประธานกิตติมศักดิ์และผู้อุปถัมภ์ ชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการ “ศรัทธาธรรมธาตุ” ว่าเพื่อเป็นการจัดหาสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุยุคพุทธกาล และพระธาตุของพระอริยสงฆ์ในยุคปัจจุบัน เป็นการเจริญศรัทธาให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะบูชาอย่างใกล้ชิด และเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระธาตุอีกด้วยสกล แสงมาลี ประธานกิตติมศักดิ์และผู้อุปถัมภ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย หัวเรือใหญ่ของการจัดงาน
สำหรับจุดเด่นในการดำเนินโครงการ คือเป็นการรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต์ธาตุยุคพุทธกาล และพระธาตุของพระอริยสงฆ์ในยุคปัจจุบัน ครบถ้วนที่สุด ใช้เวลารวบรวมมากกว่า 20 ปี เป็นการรวบรวมและจัดแสดงมากที่สุดเป็นครั้งแรก โดยพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต์ธาตุยุคพุทธกาล และพระธาตุของพระอริยสงฆ์ในยุคปัจจุบันมากกว่าล้านองค์ โดยประดิษฐานถาวร ณ “แสงแห่งศรัทธา” บางแค
“ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ และศรัทธาร่วมสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในศาสนาพุทธ ที่เป็นหลักฐานยืนยันผลจากการปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จนกระทั่งละจากกิเลสทั้งปวงได้บรรลุธรรม และเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน โดยผู้ที่ได้สักการบูชา พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ถือได้ว่าได้กระทำสิ่งที่เป็นมงคลอย่างยิ่งกับตนเอง มีผลให้ได้รับความสุข ความเจริญ ขณะเดียวกันก็จะทำให้เกิดศรัทธาที่จะปฏิบัติธรรมให้บรรลุมรรคผล นิพพาน ในกาลต่อไปด้วย โดยสถานที่ ณ แสงแห่งศรัทธา แห่งนี้” สกลกล่าว
พิธีบวงสรวงพระบรมสารีริกธาตุ
ด้านนายปราโมช ประสพสุขโชคมณี ประธานชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า โครงการ "ศรัทธาธรรมธาตุ" จะเป็นโอกาสให้พุทธศาสนิกชนจากทุกสารทิศได้ ร่วมสักการบูชา “พระบรมสารีริกธาตุ” ซึ่งเปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ ที่เป็นตัวแทนที่มีคุณค่าสูงสุด แทนองค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงพระอรหันต์ธาตุยุคพุทธกาล และพระธาตุของพระอริยสงฆ์ในยุคปัจจุบันมากกว่าล้านองค์ ซึ่งชมรมใช้เวลารวบรวมมากกว่า 20 ปี โดยระยะเวลา 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 นี้จะเป็นช่วงที่จัดแสดงมากที่สุด จึงเป็นโอกาสที่จะได้ศึกษาเรื่องราวของพระธาตุ และหลังจากนั้นจะลดจำนวนลงบางส่วน เพื่อนำไปจัดแสดงในสถานที่อื่นๆ ให้พุทธศาสนิกชนได้ชื่นชมพระบารมี และเป็นการสืบทอดพุทธศาสนาให้เจริญงอกงาม
ดร.สรณ์ จงศรีจันทร์ นักสร้างแบรนด์มือทอง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุให้ท่านพระราชวรคุณ
“การจัดแสดงนิทรรศการเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแผ่ประวัติความเป็นมา ความรู้ ความเข้าใจ
เกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุสมัยพุทธกาล และสมัยปัจจุบัน ซึ่งเป็นภาระกิจสำคัญของชมรมฯ นอกจากการเก็บรวบรวม และรักษาพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุสมัยพุทธกาล และสมัยปัจจุบัน ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชาสืบไป และให้พุทธศาสนิกชนได้เลื่อมใส ศรัทธา ตระหนักในความสำคัญของพุทธศาสนา เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติต่อไป การประดิษฐานถาวรจึงนับเป็นโอกาสที่ดี ของพุทธศาสนิกชนที่จะได้มาสักการบูชา ณ แสงแห่งศรัทธา แห่งนี้” ปราโมชกล่าวพระอรหันตธาตุครบถ้วนตามพระไตรปิฎก ใช้เวลารวบรวมมากกว่า 20 ปี ก่อนนำมาจัดแสดง
สำหรับพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ และพระธาตุของพระอริยสงฆ์ทั่วแผ่นดินไทยนั้น จะเปิดให้ประชาชนร่วมสักการะบูชามากที่สุดเป็นครั้งแรกเป็นระยะเวลา 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 57 ณ “แสงแห่งศรัทธา”(ห้างสังฆภัณฑ์เดิม) ตั้งอยู่ที่ ถนนบางแวก 85 (จรัญสนิทวงศ์ 13) ฝั่งกาญจนาภิเษก เขตบางแค กทม. เปิดตั้งแต่เวลา 9.00-21.00 น. ทุกวัน ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมที่ โทร.0-2865-3999ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000056655