ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อพระพุทธเจ้า ตรัส ธรรม วินัย 8 ประการ ภิกษุณีพระนางมหาปชาบดี  (อ่าน 3576 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
ธรรมวินัย ๘ ประการ แก่พระนางมหาปชาบดีภิกษุณีไว้ดังนี้

         ธรรม ใดเป็นไปเพื่อ
๑. ความกำหนัด (สราคะ)
๒. การประกอบตนอยู่ในทุกข์ (สังโยคะ)
๓. สะสมกิเลส (อาจยะ)
๔. ความมักใหญ่ อยากใหญ่ (มหิจฉตา)
๕. ความไม่สันโดษ (อสันตุฏฐิตา)
๖. ความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ (สังคณิกา)
๗. ความเกียจคร้าน (โกสัชชะ)
๘. ความเลี้ยงยาก (ทุพภรตา)
ทั้ง ๘ นี้ พึงทราบเถิดว่า ไม่ใช่ ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสอนของพระศาสดา

        ส่วนธรรมใด เป็นไปเพื่อ
๑. ความคลายกำหนัด (วิราคะ)
๒. การไม่ประกอบตนไว้ในกองกิเลส (วิสังโยคะ)
๓. การไม่สะสมกองกิเลส (อปจยะ)
๔. ความปรารถนาน้อย (อัปปิจฉตา)
๕. ความสันโดษ (สันตุฏฐิตา)
๖. การไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ (อสังคณิกา)
๗. ความไม่เกียจคร้าน คือความเพียรติดต่อสม่ำเสมอ (วิริยารัมภะ )
๘. ความเลี้ยงง่าย (สุภรตา)
พึงทราบเถิดว่า ทั้ง ๘ นี้เป็น ธรรม เป็นวินัย เป็นคำสอนของพระศาสดา

        เมื่อเอาลักษณะ ทั้ง ๘ ประการนี้มาตัดสินว่า อะไรดี อะไรชั่ว อะไร
ควรเว้น อะไรควรทำ แล้วจะเห็นว่ามาตรฐานแห่งกรรมดีของพระพุทธองค์นั้น
อยู่ในระดับสูง และเป็นการแน่นอนว่า ความดีเช่นนี้ย่อมมีจุดจบในตัวเอง คือ

        ไม่ใช่ความดีเพื่อ ลาภ ยศ ชื่อเสียง หรือเพื่อจุดมุ่งหมายอื่น แต่เป็น
ความดีเพื่อความดี ความดีเพื่อพ้นจากความวนเวียนในสังสารวัฏ
เพราะถือว่าการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏนั้น แม้จะเกิดดีเพียงไร
ก็ยังเจืออยู่ด้วยทุกข์ ต่างกัน แต่เพียงรูปแบบของความทุกข์เท่านั้น
แต่ในเนื้อหาแล้วเป็นความทุกข์เหมือนกัน

        ในความหมายอย่างสูง ที่ว่า “ความดีเพื่อความดี” นี้
ทำให้เราเข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นซึ่งพระพุทธ ภาษิตที่ว่า



 เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง เหมือน หนึ่งยูง มีดี ที่แววขน
หากใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา

                                                 พุทธทาส ภิกขุ
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
โลกธรรม ๘ (ธรรมดาของโลก, เรื่องของโลก, ความเป็นไปตามคติธรรมดาซึ่งหมุนเวียนมาหาสัตว์โลกและสัตวโลกก็หมุนเวียนตามมันไป)

๑. ลาภ (ได้ลาภ, มีลาภ)
๒. อลาภ (เสื่อมลาภ, สูญเสีย)
๓. ยส (ได้ยศ, มียศ)
๔. อยส (เสื่อมยศ)
๕. นินทา (ติเตียน)
๖. ปสํสา (สรรเสริญ)
๗. สุข (ความสุข)
๘. ทุกข์ (ความทุกข์)


โดยสรุปเป็น ๒ คือ ข้อ ๑-๓-๖-๗ เป็น อิฏฐารมณ์ คือ ส่วนที่น่าปรารถนา;

ข้อที่เหลือเป็น อนิฏฐารมณ์ คือ ส่วนที่ไม่น่าปรารถนา

โลกธรรมเหล่านี้ ย่อมเกิดขึ้นทั้งแก่ปุถุชนผู้มิได้เรียนรู้ และแก่อริยสาวกผู้ได้เรียนรู้

ต่างกันแต่ว่า คนพวกแรกย่อมไม่รู้เห็นเข้าใจตามความเป็นจริง ลุ่มหลง ยินดียินร้าย

ปล่อยให้โลกธรรมเข้าครอบงำย่ำยีจิต ฟูยุบเรื่อยไปไม่พ้นจากทุกข์

มีโสกะปริเทวะ เป็นต้น

 
ส่วนอริยสาวกผู้ได้เรียนรู้ พิจารณาเห็นตามเป็นจริงว่า

สิ่งเหล่านี้อย่างใดก็ตามที่เกิดขึ้นแก่ตน ล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์

มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ไม่หลงใหลมัวเมาเคลิ้มไปตามอิฏฐารมณ์

ไม่ขุ่นมัวหม่นหมอง คลุ้มคลั่งไปในเพราะอนิฏฐารมณ์

มีสติดำรงอยู่ เป็นผู้ปราศจากทุกข์ มีโสกะ ปริเทวะ เป็นต้น

 
ที่มา  พจนานุกรม พุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม(ป.อ.ปยุตโต)



ขออนุญาตนำมาเสริมให้คุณฟ้าใสนะครับ

ผมรู้สึกว่า ไม่เห็นกระทู้คุณฟ้าใสมานานแล้ว หรือไม่ก็ผมเองที่หายไปนาน

คุณฟ้าใสครับ หากผมได้ล่วงเกินคุณฟ้าใสด้วยกาย วาจา ใจ ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน

โปรดอโหสิกรรมให้ผมด้วย


 :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นมนุษย์ หรือ เป็นคน

เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง

เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน

ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน

ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา

ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ

ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา

เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา

เปรมปรีดา คืนวัน สุขสันติ์จริง

ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า

ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง

เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง

แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย

คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตก

จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย

ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย

ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอย ฯ

พุทธทาสภิกขุ
บันทึกการเข้า