ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศีลรักษา : ไม่มีกลิ่นอื่น ที่ยิ่งไปกว่า กลิ่นศีล  (อ่าน 3219 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28418
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ศีลรักษา : ธรรมะยู-เทิร์น บายไลน์ อิทธิโชโต

ลูกศิษย์ทำครัวมีปัญหา เรื่องมดจะทำอย่างไร.?

เราได้แต่บอกว่า เราก็อยู่กับมด เลี้ยงมันบ้าง แล้วก็หาทางล่อให้มันออกมา โดยหาอาหารให้มันไว้อีกที่หนึ่ง มันก็จะย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งก็เท่านั้น แล้วก็ต้องหาทางป้องกัน มีวิธีมากมายในการป้องกันมด เช่น ทำความสะอาดทุกๆ ที่ไว้ก่อนเสมอ แต่ก็นั่นแหละ ถ้ามดมันจะมา มันก็มา แต่เราต้องมีสติที่จะไม่ไปยุ่งกับมัน

   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมด หรือเรื่องอื่นๆ ก็เหมือนกัน ต้องป้องกัน

จะว่าไปความใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องสำคัญ แท้จริงแล้วเรื่องมดไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียวสำหรับนักภาวนา เพราะนักภาวนาต้องเริ่มต้นจากการสังเกตและมีความเมตตา

 :25: :25: :25: :25:

คนเราส่วนใหญ่มักประมาท ถ้าสติไม่ดีพอ ความระลึกรู้ตัวไม่ดีพอ มันก็เป็นอย่างนี้ เวลากล่าวว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ก็ว่ากันไป แต่ไม่เข้าใจความหมาย อะไรๆ ก็ขาดตกบกพร่อง ถ้าเราปากอย่าง การกระทำอีกอย่าง มันยังไม่ไปถึงใจ พระพุทธเจ้าท่านจึงให้ถือสัจจะ ถือศีลเป็นพื้นฐาน  เพราะศีลเป็นบ่อเกิดของทุกสิ่งทุกอย่าง การที่เราจะรักษาศีลก็ต้องมีสติสัมปชัญญะ ระลึกรู้อยู่เสมอ คิดให้ทัน

               สีเลนะ สุคะติง ยันติ ศีลเป็นบ่อเกิดของความสุข
               สีเลนะ โภคะสัมปะทา ศีลเป็นบ่อเกิดของโภคทรัพย์
               สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ศีลเป็นหนทางให้เข้าสู่นิพพาน
               ตัสมา สีลัง วิโสทะเย ดั่งนี้แล้ว ทุกคนจึงควรรักษา


เห็นไหมว่า ศีลสำคัญขนาดไหน ศีลเป็นพื้นฐานของการภาวนาตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว

 st12 st12 st12 st12

การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราไม่เพียงเกี่ยวข้องกับมด แต่ต้องเกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ใช้หลักเดียวกันในการเกี่ยวข้องคือ สติ ถ้ามีสติระลึกรู้ถึงพร้อมก็ไม่มีปัญหา คนฝึกช้างยังทำได้ มดก็ต้องฝึกได้ คือฝึกที่ตัวเรา ไม่ต้องไม่สนใจเรื่องของคนอื่น สนใจที่ใจเรา สนใจการกระทำของเราเอง เรื่องศีลก็เหมือนกัน ไม่ต้องบอกให้คนอื่นรักษา แต่บอกให้ตัวเจ้าของนี่แหละรักษาก่อน ถ้าตัวเจ้าของไม่รักษาไปบอกใครเขา ใครจะฟัง จริงไหม

    เรื่องของคนอื่นไว้ทีหลัง ทำที่ตัวเองก่อน
     เรื่องศีล เรื่องการภาวนาเป็นเรื่องเฉพาะตัว
     ใครมีความมุมานะแค่ไหน มีสัจจะกับตัวเองแค่ไหน
     มันก็เหมือนกับฝึกความอดทน ซึ่งความอดทนของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอดทนได้ ๕ เปอร์เซนต์เขาก็บอกว่า ดีแล้วของเขา บางคนอดทนได้ ๑๐๐ เปอร์เซนต์ ก็จะไม่มีปัญหาอะไรกับใคร


เราฝึกอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น มากน้อยก็แล้วแต่ตัวเจ้าของ แต่จะให้คนอื่นมาฝึกเหมือนเราก็ไม่ได้ เราต้องเริ่มต้นที่ตัวเราทุกอย่างเลย ถ้ามัวแต่ไปอยากให้คนอื่นฝึก นั่นแหละ กิเลสเอาไปกินอีกแล้ว ...


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150623/208499.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28418
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ศีลรักษา : ไม่มีกลิ่นอื่น ที่ยิ่งไปกว่า กลิ่นศีล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 09:02:58 am »
0


พระมหาสิวะ เถระผู้ไม่เคยล้างเท้ามา ๓๐ ปี

ในวันมหาปวารณาปี (ที่) สามสิบ พระเถระยืนยึดแผ่นกระดานสำหรับพิง คิดว่า เมื่อเราทำสมณธรรมมาตั้งสามสิบปีเข้านี้แล้ว เราก็ไม่สามารถสำเร็จพระอรหัตตผลได้ ในอัตภาพของเรานี้ มรรคหรือผลย่อมไม่มีเป็นแน่ เราไม่ได้ปวารณาชนิดวิสุทธิปวารณากับเพื่อนพรหมจรรย์แล้ว. และก็เมื่อท่านคิดอยู่อย่างนั้น ก็เกิดโทมนัสขึ้นมา สายน้ำตาก็หลั่งไหล.

     ขณะนั้น ในที่ใกล้ๆ มีเทพธิดาองค์หนึ่ง กำลังยืนร้องไห้อยู่.
     เถระ.    ใครร้องไห้ที่นี้.
     เทพธิดา.    ดิฉัน นางเทพธิดา เจ้าค่ะ.
     เถระ.    ร้องไห้ทำไม.
     เทพธิดา.    เมื่อมรรคผลกำลังเกิด เพราะการร้องไห้ ดิฉันคิดว่า แม้เราก็จะให้เกิดมรรคผลหนึ่ง (หรือ) สอง จึงร้องไห้เจ้าค่ะ.

     จากนั้น พระเถระก็คิดว่า นี่แน่ะ มหาสิวะ แม้แต่เทพธิดาก็ยังมาเยาะเย้ยเธอได้ นี่มันควรแก่เธอหรือหนอ แล้วก็เจริญวิปัสสนา ได้ถือเอาความเป็นพระอรหันต์พร้อมกับปฏิสัมภิทาทั้งหลายแล้ว.

     st12 st12 st12 st12

     ท่านคิดว่า บัดนี้ เราจะนอน แล้วก็จัดแจงเสนาสนะ ปูลาดเตียง ตั้งน้ำในที่น้ำ คิดว่า เราจะล้างเท้าทั้งสองข้าง แล้วก็นั่งลงที่ขั้นบันได.

     แม้พวกศิษย์ของท่าน ก็พากันคิดอยู่ว่า เมื่ออาจารย์ของเราไปทำสมณธรรมตั้งสามสิบปี ท่านอาจทำคุณวิเศษให้เกิดได้หรือไม่อาจ เห็นว่าท่านสำเร็จพระอรหัตแล้ว นั่งลงเพื่อล้างเท้า จึงต่างก็คิดว่า อาจารย์พวกเรา เมื่อพวกศิษย์เช่นพวกเรายังอยู่ คิดว่า จะล้างเท้าด้วยตนเองนี้ไม่ใช่ฐานะ เราจะล้าง เราจะล้าง แล้วทั้ง ๓๐,๐๐๐ รูปต่างก็เหาะมาไหว้ แล้วกราบเรียนว่า กระผมจะล้างเท้าถวาย ขอรับ.

     ท่านห้ามว่า คุณ ฉันไม่ได้ล้างเท้ามาตั้งสามสิบปีเข้านี่แล้ว พวกคุณไม่ต้องฉันจะล้างเอง.



    แม้ท้าวสักกะก็ทรงพิจารณาว่า พระคุณเจ้ามหาสิวะเถระของเรา สำเร็จพระอรหัตแล้ว เมื่อพวกศิษย์สามหมื่นรูปมาแล้วด้วยคิดว่า พวกเราจะล้างเท้าทั้งหลายถวาย ก็ไม่ให้ล้างเท้าให้ ก็เมื่ออุปัฏฐากเช่นเรายังมีอยู่ พระคุณเจ้าคิดว่าจะล้างเท้าเองนี่เป็นไปไม่ได้ แล้วทรงตัดสินพระทัยว่า เราจะล้างถวายจึงพร้อมด้วยสุชาดาเทวีได้ทรงปรากฏในสำนักของหมู่ภิกษุ.

     ท้าวเธอทรงส่งนางสุชาดาผู้เป็นอสุรกัญญาล่วงหน้าไปก่อน ให้เปิดโอกาสว่า ท่านเจ้าขา พวกท่านจงหลีกไป โปรดให้โอกาสผู้หญิง แล้วทรงเข้าไปหาพระเถระ ไหว้แล้วนั่งกระหย่งต่อหน้าตรัสว่า ท่านขอรับ กระผมจะล้างเท้าถวาย.

     พระเถระตอบว่า
     โกสีย์ อาตมภาพไม่เคยล้างเท้ามาตั้งสามสิบปีเข้านี่แล้ว
     และแม้โดยปกติ ชื่อว่ากลิ่นตัวคนเป็นของน่าเกลียดสำหรับพวกเทพ
     แม้อยู่ไกลตั้งร้อยโยชน์ เหมือนเอาซากศพมาแขวนคอ
     อาตมภาพจะล้างเอง.


     ans1 ans1 ans1 ans1

     ตรัสตอบว่า
     ท่านขอรับ ชื่อว่ากลิ่นอย่างนี้ไม่ปรากฏ เพราะว่า กลิ่นศีลของท่านเลยเทวโลกหกชั้นไปตั้งอยู่สูงถึงชั้นภวัคคพรหมในเบื้องบน ไม่มีกลิ่นอื่นที่ยิ่งไปกว่ากลิ่นศีล
     ท่านขอรับ กระผมมาเพราะกลิ่นศีลของท่าน แล้วก็ทรงเอาพระหัตถ์ซ้ายจับข้อต่อตาตุ่ม แล้วเอาพระหัตถ์ขวาลูบฝ่าเท้า. เท้าของท่านก็เป็นเหมือนกับเท้าของเด็กหนุ่มขึ้นมาทันที.
     ครั้นท้าวสักกะทรงล้างเท้าถวายเสร็จแล้วก็ทรงไหว้ แล้วเสด็จไปสู่เทวโลกตามเดิม.


อ้างอิง : อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค สักกปัญหสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10.0&i=247&p=2
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎกได้ที่ http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=10&A=5727&Z=6256
ขอบคุณภาพจาก
http://www.oknation.net/
http://files.palungjit.org/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศีลรักษา : ไม่มีกลิ่นอื่น ที่ยิ่งไปกว่า กลิ่นศีล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 09:25:35 am »
0
 gd1
  อ่านแล้ว รู้สึก ซาบซึ้งในความเป็นผู้มีศีล จริง ๆ

   แต่พิจารณาให้ดี แล้ว พระสิวะ ท่านเป็นพระอรหันต์ และมีลูกศิษย์เป็นพระอรหันต์ น่าจะฝ่ายเจโต ด้วย เพราะเหาะมาเพื่อล้างเท้าครูอาจารย์ ถึง 30000 รูป ไม่ใช่ธรรมดา
   ขนาดแค่ความคิดของท่าน ยังส่งเสียงไปถึง ศิษย์ในใจ แม้กระทั่ง ท้าวสักกะเทวราช ก็ยังได้ยิน นับว่า เป็นพระอรหันต์ ที่ไม่ธรรมดา ชื่อว่า พระอรหันต์แล้ว ได้อ่านข้อความบางส่วนจาก เว็บนี้ ว่า ผู้เป็นพระอรหันต์ ย่อมถึง กายวิสุทธิเทพ และ กายวิสุทธิเทพนั้น พ้นจากธาตุ เป็นอิัสสระ จากธาตุ ทั้งห้า เป็นเพียงสุญญธาตุ ดังนั้นกายพระอรหันต์ บางครั้งก็มีความพิศดารไม่ได้เป็นที่ลำบากแก่ เหล่าเทวดา เพราะเหล่าเทวดา นั้นย่อมหวังในบุญกุศลที่ทำต่อพระอรหันต์ทั้งนั้น

   ดังนั้นในการนี้ ท้าวสักกะ มาชิงบุญไปก่อน

   คงไม่ใช่แค่เรื่องกลิ่นศีล หรอก สำหรับพระอรหันต์ เป็นเพียงสำนวนของท้าวสักกะเท่านั้น แต่ท่านเป็นพระอรหันต์ ย่อมเหนือกว่าศีล กลิ่นแห่งพระอรหัตผล ย่อม เหนือกว่านั่นเอง

   st11 st12 st12 like1 like1 like1
บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ

painting

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 72
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศีลรักษา : ไม่มีกลิ่นอื่น ที่ยิ่งไปกว่า กลิ่นศีล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 10:05:03 am »
0
แน่นอน หากได้ทำบุญกับพระอรหันต์ แท้ ๆ แล้ว ผมเองก็เต็มใจ นะ
แต่ว่า พระอรหันต์ อยู่ที่ไหนบ้าง ที่เห็นมีแต่ พระอรหอย ( จำมาจากสวนโมกข์ ) ทั้ง นั้น เลย

  st11 st12
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศีลรักษา : ไม่มีกลิ่นอื่น ที่ยิ่งไปกว่า กลิ่นศีล
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2015, 09:18:03 pm »
0
 st12 st12 st12

ใช่เลยครับ พระอรหันต์ท่านสอนผมว่าศีลนี้หอมมาก มีกลิ่นหอมทวนลม เพื่อนผมผู้หนึ่งท่านมีศีลบริสุทธิ์ ได้ปารถนาพุทธภูมิไว้ พระอรหันต์ท่านเจอท่านบอกว่าศีลหอมมาก เพราศีลในพระพุทศาสนานี้เป็นเครื่องแห่งกุศล เป็นทางพ้นทุกข์ ศีลนี้มัในพระพุทธศาสนาเท่านั้น
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศีลรักษา : ไม่มีกลิ่นอื่น ที่ยิ่งไปกว่า กลิ่นศีล
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2015, 05:25:01 am »
0
กลิ่นแห่งศีล หรือ กลิ่น แห่ง พระอริยะ หนอ เพราะว่าอ่านแล้ว ท่านเป็นพระอรหันต์ ที่มีศิษย์ เป็น ฝ่ายเจโต มากกว่า 3 หมื่น องค์ อีก ขนาดแค่ความคิด พระอินทร์ ยังต้องร้อนลงมากิจที่ท่านคิดแทนเลย

  คิดว่า พระอรหันต์ ฝ่ายเจโต นี้ไม่ธรรมดา เลย นะคะ

   :88: thk56 like1 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศีลรักษา : ไม่มีกลิ่นอื่น ที่ยิ่งไปกว่า กลิ่นศีล
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2015, 06:27:18 am »
0
พระอริยะ หายาก ครับ แต่พระสูตร นั้นต้องการกล่าวว่า

 ผู้มีศีลงาม ดี ก็เหมือนเป็นพระอริยะ

 ผู้มีศีลงดงาม ย่อม ปราศจากธุลี ครับ

  :49:
บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ