ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อค้นหา ตัวตน เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น ก็ยังใช้ได้ ( that 's ok )  (อ่าน 3787 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


เมื่อค้นหา ตัวตน เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น ก็ยังใช้ได้ ( that 's ok )
 
   วันนี้มาพูดเรื่อง สะเปะสะปะ อีกเรื่อง คือการค้นหาตัวตน

   การค้นหาตัวตน ช่างเหมือนเป็นคำที่ยิ่งใหญ่ เสียเหลือเกิน เพราะดูเหมือนท่านที่มีภูมิปัญญา เป็นบัณฑิต เวลาจะออกไปทำอะไร นอกสถานที่ ด้วยความทุ่มเท แล้ว มักจะใช้คำว่า ไปค้นหาตัวตนของตนเอง

   ลองพิจารณาดู จากตัวอย่าง ที่ยกให้อ่าน
   นักเดินป่า พอกลับมาก็ กลายเป็นนักเดินป่า
   นักปีนเขา พอกลับมาก็ กลายเป็นนักปีนเขา
   นักสงเคราะห์ชุมชน พอกลับมาก็ กลายเป็นนักสงเคราะห์ชุมชน

   และอีกหลายตัวอย่างไม่ได้กล่าว
   แต่ที่สังเกตก็คือ เป็นอะไร อยู่แล้ว พอออกไปแสวงหาตัวตน ก็กลับมาเป็นอันนั้น อย่างจริงจัง

   มองผิวเผิน เหมือนเป็นการค้น ตัวตนของตนได้จริง แต่ความเป็นจริง ยิ่งตกไปวังวนของตัวตนมากขึ้น บางคนก็ทิ้งชีวิตจมปลักกับ เรื่องราวที่เหมือนไร้สาระ จนหาแก่นสารไม่ได้เลย

    ในทางพุทธศาสนานั้น การแสวงหาตัวตน เป็นเรื่องดี เพราะเมื่อแสวงหาได้ ก็จะถึงคำธรรมประโยคหนึ่งว่า

   " ตนแลเป็นที่พึ่งแห่ง ตน นอกจาก ตน ไม่มีที่พึ่งอื่น ๆ อีก "

    แต่ครั้นพอศึกษา พระพุทธศาสนา ไปเรื่อย ๆ การเห็นตน มีประโยชน์ ตรงที่ละตัวตน นั่นเอง การมีตนอยู่ หมายถึง (สภาวะทางใจ) กิเลสที่มันยังฝังยึดมั่นถือมั่น ว่า นั่นของเรา นี่ของเรา นั่นตัวตนของเรา ดังนี้ ดังนั้นเมื่อศึกษา และ ภาวนาในทาง พุทธศาสนา มากขึ้น ยิ่งขึ้น คำว่า ตัวตน กลับเป็นสิ่งทีต้องละ การละในที่นี้ก็คือการละ อุปาทาน ( ความยึดมั่นถือมั่น ) นั่นเอง

    ดังนั้น การค้นหาตัวตน จึงสอดคล้องในธรรม ส่วนแรก ( That ' s ok  )

   ใช่ มันควรเป็นเช่นนั้น เพราะการละตัวตน ต้องหาตัวตนให้เจอ

    สรุปก็คือ การแสวงหาตัวตน ก็คือ การแสวงหาคำตอบของชีวิต ว่า

   "เรา เกิดมาทำไม ? "

    ฉัน ต้องขอบคุณครูอาจารย์ ในเบื้องต้นที่ได้ปูทาง สัมมาทิฏฐิ ในส่วนเบื้องต้น อย่างครูฉัน ฉันจึงขอบคุณท่านเหล่านี้ เช่น
     หลวงพ่อจริญ สุญญกาโม ( รูปแรก ) ที่ท่านได้บรรยายธรรม ให้ฉันเห็นสาระ ของการเกิดมาถึงแม้ไม่มาก แต่นั่นเป็นธรรมครั้งแรกในชีวิต ที่ชักนำฉันให้ไปแสวงหาตัวตน
     ขอบคุณ พระอาจารย์ถวิล สุญญธาตุ ที่ให้หยิบยืมหนังสือ อานาปานสติ ฉบับธรรมโฆษณ์ (ถึงแม้จะอ่านหลายรอบก็ไม่เข้าใจ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้พยายามทำตามหนังสือ)
    ขอบคุณพระอาจารย์วิรัช รวิวังโส ที่ท่านสอนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ นั่นก็คือ การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ท่านสอนเรื่องสมุนไพร การปลูกผัก การสวดมนต์ การใช้อุปกรณ์โสตทัศนศึกษา ขอบคุณ
    ขอบคุณพระอาจารย์วิรัต วิรตโน ผู้สอนแนวทางการนำธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะ ก ไก่ สอนธรรมนั้น เป็นแนวทางที่ฉันได้ศึกษา การสอนตนเองตอนที่ยังเยาว์
    ขอบคุณพระอาจารย์สมพงษ์  แห่งวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ที่ได้แนะนำการใช้ แผ่นกระดาษ สิ่งเหลือใช้ ในการสอนธรรม ผนวกกับ ก ไก่ สอนธรรม  ( มรณภาพแล้ว )
    ขอบคุณพระอาจารย์สงวน จันทะวังโส ที่ท่านได้สอนเทคนิคการใช้งานสื่อโสตทัศนะศึกษา และการดึงประสบการณ์ทางธรรม ของตนเอง มาถ่ายทอด  ( มรณภาพแล้ว )
    ขอบคุณพระมหาประทีป อุตตมปัญโญ ที่ท่านได้แสดงธรรม เป็นสากล ในความหมายของ ธรรมที่ไม่เป็นอะไร มีแต่สภาวะธรรม ( ถึงแม้จะแสดงไม่ถูกต้องในธรรม หลายส่วน เพราะปั้นธรรม เป็นลักษณะความหมาย ที่มีตัวตน ในสภาวะบัญญัติ เป็นอันตรายแก่พุทธศาสนาโดยตรง แนวคิดเหมือนพวกไม่มีศาสนาพูดนั่นแหละ สุดท้าย จะแย่ตรงที่ว่า ตถาคตโพธิสัทธา หายไป การอุบัติของพระพุทธเจ้า ไม่มีความสำคัญ ) 
    และครูอาจารย์ในสายสวนโมกขพลาราม อีกหลายรูป ถึงแม้ท่านจะมีการพูดการสอน อบรมฉันมา แต่ สติปัญญาของฉัน ก็ไม่ได้ก้าวหน้าในธรรม อย่างที่ฉันต้องการ เพราะคำตอบที่ฉันต้องการคือ การไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิด ในวัฏฏะสงสาร แต่ เนื้อหาที่ครูอาจารย์สายนี้สอนกลับกลายเป็นว่า ดันให้ฉันไปยุ่งชาวโลกมากขึ้น ด้วยการเป็นพระนักพัฒนา นักสอน นักพูด ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ

      แต่ อย่างไร ในเบื้องต้น ต้องตอบว่า That ' s ok  มันก็ใช้ได้ ในเบื้องต้น อย่างน้อยก็มีเกราะป้องกัน ทิฏฐิไปในทางที่ผิด ในสายสวนโมกขพลาราม นี้ สิ่งที่ได้ฉันการปลูกฝัง ไว้ ก็คือ การไม่ตกไปแนวทาง ไสยศาสตร์ หรือ เรื่องงมงาย นี่เป็นสิ่งที่ได้ การแสวงหาตัวตน นี่คือ สิ่งที่ได้ ( ถึงแม้ความพยายามที่ฉันทุ่มเทอย่างมาก )

     ตอนที่ฉัน เริ่มแสวงหาตัวตนของตนเอง บางคนก็ว่าไวไป นะ เพราะตอนนั้น อายุ 19 ปี เป็นสามเณรอยู่ ตอนนั้นตัดสินใจ ละสิ่งที่เขาเชิดชูคือ การเป็นเปรียญ การมีชื่อเสียง ตอนนั้น รวมพลกับเพื่อน ๆ อีก 4 ท่านเป็นสามเณรด้วยกัน ตัดสินใจแบกกลด สะพายบาตร จาก อ.สิงหนคร ( ธรรมสถานหาดทรายแก้ว ) เดินเลาะชายฝั่ง ข้ามทะเลสาปสงขลา เข้าพัทลุง ไปเขาชัยสน

     ที่เขาชัยสน นี้ เป็นสถานที่แรก ที่ฉันด้วยพบพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ โดยตรงรูปหนึ่งเลย ท่านเป็นพระชรา มีการภาวนาคือ เนสัชชิกธุดงค์ คือไม่นอน ตอนนั้นฉันเรียนธรรรมกับท่าน 1 วัน แต่ด้วยความเป็น ชน สวนโมกข เรื่องการภาวนาธุดงค์ ที่ดูเหมือนจะทรมานตนมากไป จึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่ นับว่าท่านเป็นครูตัวอย่าง ในการภาวนา เนสัชิกธุดงค์ แก่ฉัน

     หลังจากออกเขาชัยสน ก็ใช้เส้นใหญ่ ทุ่งใหญ่ ทุ่งสง นครศรีธรรมราช และ ก็ไปอุปสมบถเป็นพระ ที่เกาะสมุย กัน 3 รูปอายุครบพอดี ใช้เวลาเดินทางไปก็หลายคืน จากนั้นก็เดินทางไป เกาะพะงัน

     ชีวิตที่เกาะพะงัน ขณะนั้น นับว่า เงียบสันโดดเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนสมัยปัจจุบัน สมัยนั้นไม่มีทางรถยนต์ มีแต่ทางวิบากดินแดง ต้องเดินกัน รถที่วิ่งก็มีแต่มอร์เตอร์ไซค์วิบาก พออีก 25 ปีให้หลังกลับไปเยี่ยมอีกครั้ง สถานที่สงบ กลายเป็นไม่สงบ ไปเสียแล้ว

      อันนี้เล่า เพิ่มเติมไว้

      การแสวงหาตัวตน นับว่า ยังอยู่ ในคำตอบ อยู่บ้าง แม้จะไม่ถูกทั้งหมด แต่ มัน ก็ยังดี ที่ได้ทำแบบนั้น


     เจริญธรรม / เจริญพร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2015, 10:29:04 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

    ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การค้นหาตัวตน แล้ว ก็เกิดตัวตน ขึ้นมา เพิ่งจะได้ยินจากพระอาจารย์ครั้งแรก นี่แหละ
ค้นหาตัวตน สุดท้าย ก็ยึดมั่นในตัวตน

   กรรม
( หัวข้อธรรม ที่นี่ ภูมิปัญญา เหนือความคาดหมาย )

   st11 st12 st12 thk56
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

waterman

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 302
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าพระอาจารย์ แจก ธรรมทุกวันอย่างนี้ ผมว่า ข้อคิด แบบที่ผมคิดไม่ถึงเลย จะเพิ่มพูนมากขึ้น
อ่านแล้ว แง่มุม ที่พระอาจารย์ ท่านได้แสดงนั้น เป็นแง่มุม ที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ

  สมกับ เป็น สุปฏิปันโน

  st11 st12 st12 thk56 like1 :25:
บันทึกการเข้า