ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อรหันต์จะไม่หัวเราะ | การยิ้มและหัวเราะของ อริยบุคคลกับปุถุชน จะต่างกัน  (อ่าน 706 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28420
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




อรหันต์จะไม่หัวเราะ | การยิ้มและหัวเราะของ อริยบุคคลกับปุถุชน จะต่างกัน

จิตยิ้มของพระอรหันต์ มีหลายประเภท หสิตุปปาทจิตสำคัญเป็นไฉน.? มีลักษณะจำเพาะเป็นไฉน.?

สาระน่ารู้ของหสิตุปปาทจิต

ถาม : หสิตุปปาทจิต เป็นจิตยิ้มของพระอรหันต์ ตลอดถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหตุใดจึงจัดเป็นอโสภณจิต.?
ตอบ : อโสภณจิต หมายความเพียงว่า เป็นจิตที่ไม่มีโสภณเจตสิกประกอบ ไม่ใช่หมายความว่าเป็นจิตชั่วไปทั้งหมด เพราะถ้าหมายเป็นจิตชั่ว ก็จะเหมาะสมแต่เฉพาะอกุศลจิตเท่านั้น แม้อกุศลวิบากก็เป็นแต่เพียงผลของจิตชั่วเท่านั้น ไม่ใช่เป็นจิตชั่วโดยตนเอง อกุศลวิบากจิตนี้ แม้พระอรหันต์ก็ยังต้องประสบอยู่ ดังนั้นหสิตุปปาทจิต จึงหมายเพียงเป็นจิตที่ไม่มีโสภณเจตสิกประกอบเท่านั้น

อาการความเบิกบานใจด้วย การยิ้มและการหัวเราะ มี 6 อย่าง ตามประเภทบุคคลดังนี้ คือ
   1. อุปหสิตะ การหัวเราะจนน้ำตาไหล เป็นของปุถุชน
   2. อปหสิตะ การหัวเราะจนไหวทั้งกาย เป็นของปุถุชน
   3. อติหสิตะ การหัวเราะตื้นมีเสียงดัง เป็นของปุถุชน และของพระโสดาบัน พระสกทาคามี
   4. วิหสิตะ การหัวเราะลึกมีเสียงเบา เป็นของปุถุชน และของพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี
   5. หสิตะ การยิ้มเพียงเห็นไรฟัน เป็นของปุถุชน และของพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์
   6. สิตะ การยิ้มของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะที่อิ่มเอิบเปล่งปลั่ง เหตุเพราะทรงละวาสนา(ความคุ้นเคยที่กิเลสสะสมไว้)ได้ (ในนิสสยะอักษรธรรมล้านช้างกล่าวว่า ปุถุชนที่ทำยิ้มและหัวเราะเหมือนพระอริยะได้ดี คือ ข้อ 3-5 นั้น หมายเอาพระโพธิสัตย์ที่มีบารมีศีลสังวรดี)

ถาม : การยิ้มทั้ง 6 อย่างของบุคคลต่างๆกันนั้น บุคคลใดยิ้มหัวเราะด้วยจิตใด.?
ตอบ : ปุถุชนยิ้มหัวเราะด้วยจิต 8 ดวง ดวงใดดวงหนึ่ง คือ โลภโสมนัสสสหคตจิต 4 ดวง มหากุศลโสมนัสสสหคตจิต 4 ดวง รวม 8 ดวง
     พระเสกขบุคคลยิ้มหัวเราะด้วยจิต 6 ดวง ดวงใดดวงหนี่ง คือ โลภโสมนัสสสทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต 2 ดวง มหากุศลโสมนัสสสหคตจิต 4 ดวง รวม 6 ดวง
     พระอรหันต์ยิ้มด้วยจิต 5 ดวง ดวงใดดวงหนึ่ง คือ หสิตุปปาทจิต 1 ดวง มหากิริยาโสมนัสสสหคตจิต 4 ดวง รวมเป็น 5 ดวง

@@@@@@@

ถาม : การยิ้มหัวเราะของบุคคลต่างๆ ย่อมกระทบถึงกายวิญญัตติรูป จิตที่ใช้ในการยิ้มหัวเราะจึงน่าจะเป็นสเหตุกจิต จิตอี่นๆล้วนเป็นสเหตุกจิต ไม่สังสัย เว้นแต่หสิตุปปาทจิต ซึ่งเป็นอเหตุกจิต จะใช้ในการยิ้มได้อย่างไร.?
ตอบ : สเหตุกจิตหมายความว่าเป็นจิตที่มีกำลังมาก สามารถยึดอารมณ์ได้มั่นคง หสิตุปปาทจิต เป็นจิตยิ้มที่ไม่ประสงค์จะยึดมั่นในอารมณ์ จึงไม่จำเป็นต้องเป็นสเหตุกจิต

ถาม : โสมนัสสมหากิริยาจิต ก็มีความยึดมั่นในอารมณ์เช่นนั้นหรือ.?
ตอบ : หามิได้ มหากิริยาจิตเป็นจิตรับกามารมณ์(เว้นแต่ขณะที่ทำหน้าที่ปัจจเวกขณะญาณ) ในขณะที่มหากิริยาจิตเกิดรับกามารมณ์ ฉฬังคุเปกขาก็เกิดร่วมด้วย การรับกามารมณ์ของพระอรหันต์จึงสักแต่ว่ารับไปไม่ได้ติดอยู่ในอารมณ์นั้นๆ

ถาม : การยิ้มของพระอรหันต์ก็มีโสมนัสสมหากิริยาจิตอยู่แล้ว เหตุใดจึงต้องมีหสิตุปปาทจิต สำหรับยิ้มเป็นพิเศษอีกต่างหาก.?
ตอบ : มหากิริยาโสมนัสสจิต ตามปกติมีอารมณ์เป็น โอฬาริกอารมณ์(อารมณ์หยาบ)เว้นแต่ขณะทำหน้าที่ปัจจเวกขณะ จึงจะมีอารมณ์เป็นอโนฬาริกอารมณ์(อารมณ์ละเอียดปราณีต) ส่วนหสิตุปปาทจิต มีอารมณ์เป็นอโนฬาริกอารมณ์อย่างเดียว เช่น
      พระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา เห็นสัตว์บางเหล่าต้องทนทุกขเวทนา ด้วยผลแห่งกรรมของตน เช่นเปรตที่ไฟกำลังไหม้อยู่ หรือเห็นสัตว์บางเหล่าที่จะต้องรับกรรมของตนในอนาคตกาล เช่นเห็นเทวดาและนางฟ้า กำลังหลงระเริงด้วยกามคุณอารมณ์เป็นต้น ท่านก็รู้ว่าฐานะอย่างนั้นย่อมไม่มีแก่ท่านแล้ว หสิตุปปาทจิตก็เกิดขึ้น
      ส่วนพระอรหันต์ผู้ไม่ได้อภิญญา เมื่อท่านได้เห็นเหล่าพระภิกษุปุถุชนกล่าวคำเยื้อแย่งอาหารกันเป็นต้นว่า จงให้เราและอุปัชฌาย์อาจารย์ของเราก่อนเถิด ท่านก็รู้ว่าฐานะที่กิเลสครอบงำอย่างนั้นไม่มีแก่ท่านแล้ว หสิตุปปาทก็เกิดขึ้น(นิสสยะอักษรธรรมล้านช้าง)




ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : อาจารย์ สมเกียรติ พลเดชอุดมคุณ
website : dhamma.serichon.us/2022/07/26/จิตยิ้มของพระอรหันต์-มี/
Posted date : 26 กรกฎาคม 2022 , By admin.
Photo : pinterest
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ