ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อ สามเณรราหุล หา "น้ำมะม่วงผสมน้ำตาลกรวด" ให้พระมารดา  (อ่าน 246 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณภาพจาก https://mapio.net/pic/p-121643492/


ความเป็นผู้ว่าง่าย และ ความกตัญญู ของ พระราหุล
เมื่อ สามเณรราหุล หา "น้ำมะม่วงผสมน้ำตาลกรวด" ให้พระมารดา



พระราหุล ไม่มีกล่าวไว้แน่ชัดว่าท่านได้มีบทบาทอย่างไรในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา แต่มีวัตรปฏิบัติส่วนตัวของท่านที่น่าเผยแพร่ในที่นี้ ๒ ประการ ซึ่งนอกเหนือจากความเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษาแล้ว ก็มีดังนี้

@@@@@@@

๑. ความเป็นผู้ว่าง่าย

เรื่องมีอยู่ว่า คราวหนึ่งมีการฟังธรรมะกันตอนกลางคืน โดยพระผู้ใหญ่ต่างผลัดกันแสดง เมื่อเลิกฟังธรรมแล้ว พระผู้ใหญ่ต่างกลับที่อยู่ของตน คงมีแต่พระผู้น้อย สามเณร และคณะอุบาสกเหลืออยู่ในโรงฟังธรรมเท่านั้น เนื่องจากเป็นเวลาค่ำคืน การเดินทางลำบาก พระผู้น้อย สามเณร และคณะอุบาสก เหล่านั้นจึงพักรวมกันในที่นั้นเอง พระและสามเณรไม่ระวัง นอนปล่อยตัวตามสบาย มีทั้งกรน ทั้งละเมอ ทั้งนอนดิ้นและน้ำลายไหล

คณะอุบาสกเห็นอาการดังนั้นแล้ว พากันตำหนิและนำความกราบทูลพระพุทธเจ้าให้ ทราบ พระพุทธเจ้าเจ้าจึงตรัสสั่งให้ประชุมสงฆ์ แล้วบัญญัติสิกขาบทห้ามไม่ให้พระนอนร่วมกับผู้ที่ไม่ใช่พระ (คือ สามเณร และคณะอุบาสก รวมทั้งนักบวชอื่นๆ นอกพระพุทธศาสนาด้วย)

พระราหุล ขณะนั้นยังเป็นสามเณรและรวมอยู่ในกลุ่มของผู้ที่มาร่วมฟังธรรมด้วย ดังนั้นเมื่อมีพุทธบัญญัติ นี้ พระจึงให้ท่านแยกออกไปนอนต่างหากนอกโรงฟังธรรม ท่านปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไข แต่เมื่อออกมาหาที่นอนไม่ได้ ท่านจึงหลบไปนอนในวัจกุฎี(ส้วม)ของพระพุทธเจ้า เช้ามืดพระพุทธเจ้าเสด็จมาหมายจะเข้าวัจกุฎี พระราหุลได้ยินเสียงกระแอมของพระพุทธเจ้า จึงรีบออกมาถวายบังคม

พระพุทธเจ้าได้ตรัสถามว่า “ราหุล ทำไมเธอจึงมานอนที่นี่”
พระราหุลจึงได้กราบทูลให้ทราบ พระพุทธเจ้าทรงสลดพระทัยโดยทรงดำริว่า หากเป็นเช่นนี้ในภายภาคหน้า พวกสามเณรจะลำบาก จะถูกทอดทิ้งไม่มีใครสนใจ

ต่อมาจึงรับสั่งให้ประชุมสงฆ์แล้วตรัสถามพระสารีบุตร
“สารีบุตร เธอรู้ไหมว่า เมื่อคืนนี้ราหุลนอนที่ไหน”
“ไม่ทราบ พระพุทธเจ้าข้า” พระสารีบุตรทูลตอบ

พระพุทธเจ้าจึงตรัสเล่าให้ฟัง แล้วตรัสตำหนิพระสาวก ในที่ประชุมสงฆ์ว่า
“ภิกษุทั้งหลาย ขนาดตถาคตยังอยู่ พวกเธอยังพากัน ทอดทิ้งสามเณรกันถึงขนาดนี้แล้ว ต่อไปภายหน้าเล่า เมื่อตถาคตนิพพานแล้วจะมีใคร ดูแลสามเณร”
จากนั้นพระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติเพิ่มเติมต่อจากที่ได้ทรงบัญญัติแล้ว โดยทรงอนุญาตว่า
“ภิกษุนอนร่วมกับผู้ที่ไม่ใช่พระได้ ๓ คืน ถ้าเกินจากนั้นไปต้องอาบัติปาจิตตีย์”

พระพุทธพจน์นี้มีความหมายว่า ให้พระนอนร่วมกับผู้ที่มิใช่พระได้เพียง ๓ คืนพอถึงคืนที่ ๔ ให้เว้นเสียคืนหนึ่ง จากนั้นให้กลับมานอนร่วมกันได้อีก และให้นับเป็นคืนที่ ๑ ใหม่ ไปจนถึงคืนที่ ๓ พอคืนที่ ๔ ก็ให้เว้นเสียคืนหนึ่ง ทำอย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าจะแยกกันนอนได้โดยเด็ดขาด

ความเป็นผู้ว่าง่ายของพระราหุลครั้งนี้เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว พระสาวกได้นำมาพูดคุยกันในโรงฟังธรรม เป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าได้ตรัส ถึงอดีตชาติของท่าน


ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ้ค พระราหุลเถร คณะ 5 วัดราชสิทธาราม

๒. ความกตัญญู

เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งที่ท่านยังเป็นสามเณรอยู่นั้น พระมารดา คือ พระนางยโสธรา ซึ่งบัดนี้ได้ออก บวชเป็นภิกษุณีแล้วเกิดประชวรด้วยพระโรคลม พระราหุลได้ไปเยี่ยมพระมารดา ครั้นได้ทราบว่าประชวรก็ห่วง ใย ยิ่งได้ทราบว่าพระมารดาประชวรถึงขั้นไม่สามารถลุกขึ้นได้ ยิ่งทำให้ใจเสีย เกรงว่าพระมารดาจะสิ้นพระชนม์

พระราหุลเมื่อไปเยี่ยมพระมารดาแล้ว ทราบว่าพระโรคลมจะสงบได้ด้วยการได้เสวยน้ำมะม่วงผสมน้ำตาลกรวด จึงรับอาสาจะหามาถวาย พระราหุลรู้สึกหนักใจมาก เพราะไม่รู้วาจะหายาดังกล่าวมาถวายพระมารดาได้แต่ไหน แต่ที่รับปากจะหามานั้น ก็เป็นด้วยความรักความห่วงใยในพระมารดา

ตามปกติเมื่อมีเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือ พระราหุลจะระลึกถึงบุคคลสำคัญ ๔ คน คือ พระสารีบุตร(พระอุปัชฌาย์) พระมหาโมคคัลลานะ(พระอาจารย์) พระอานนท์(พระเจ้าอา) และพระพุทธเจ้า (พระพุทธบิดา)

ครั้นระลึกได้ดังนี้ ท่านจึงไปหาพระสารีบุตร แล้วแจ้งความประสงค์ให้ทราบ พระสารีบุตรมองดูสัทธิวิหาริกด้วยความกรุณา แล้วปลอบใจว่า “ราหุล อย่าวิตกไปเลย รอไว้พรุ่งนี้ก่อน คงจะหาได้”

รุ่งเช้า ท่านได้พาพระราหุลเข้าไปในเมืองสาวัตถีแล้วให้ท่านพักอยู่ ณ โรงฉันแห่งหนึ่ง ส่วนตัวพระเถระเองได้เข้าไปในพระราชวังเพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศล และโดยที่ยังมิทันได้ถวายพระพรให้ทรงทราบถึงเหตุที่มา พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ทรงปรุงน้ำมะม่วงผสมน้ำตาลกรวดถวาย

เมื่อได้น้ำมะม่วงผสมน้ำตาลกรวดนั้นแล้ว พระเถระก็ถวายพระพรลากลับออกมาหาพระราหุล ซึ่งนั่งคอยอยู่ด้วยความวิตกกังวล “ราหุล นี่น้ำมะม่วงผสมน้ำตาลกรวดที่เธอต้องการ” พระสารีบุตรบอกพร้อมกับส่งให้

ครั้นได้แล้ว พระราหุลก็รีบนำไปถวายพระมารดา พระมารดาได้เสวยแล้วไม่นานนักก็หายประชวร ซึ่งทำให้พระราหุลพระปิโยรสสบายพระทัยขึ้น

@@@@@@@

วัตรปฏิบัติของพระราหุลดังกล่าวมานี้ แม้จะเป็นเรื่อง ส่วนตัว แต่ก็เป็นเรื่องที่นักศึกษาธรรมะควรให้ความสนใจ และนำไปเผยแพร่ เพราะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน จึงถือเป็นการเผยแพร่พระศาสนาส่วนหนึ่งที่ได้จากวัตรปฏิบัติของพระราหุล






Thank to :-
URL : https://mgronline.com/dhamma/detail/9520000012653
อสีติมหาสาวก : ตอนที่ ๕๑ กลุ่มพระชาวแคว้นสักกะ (ต่อ)
เผยแพร่ : 3 ก.พ. 2552 17:22 ,โดย : MGR Online
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2022, 08:24:11 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ