พิมพ์

[RDNpromote]

ขอเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ 9 ประเทศ ประดิษฐาน  ณ  พระธาตุโกฏิแก้ว ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย

                          ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2555

   พระบรมสารีริกธาตุ 9 ประเทศ อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า เนปาล จีน ลาว กัมพูชา ภูฏาน และประเทศไทย โดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงเมตตาประทานมายังพุทธสมาคม จังหวัดเชียงราย เพื่อให้ศาสนิกชนชาวเชียงรายและใกล้เคียงได้มีโอกาสสักการะบูชา  เนื่องในปีพุทธชยันตี ครบรอบ 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ ในวันอาสาฬหบูชา (ตรงกับวันที่ 2 สิงหาคม 2555) ซึ่งเป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้ เป็นครั้งแรก คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หรือ พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม  ทางพุทธสมาคมจังหวัดเชียงรายได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานชั่วคราว   ณ พระธาตุโกฏิแก้ว
โอกาสนี้จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา  โดยกำหนดการมีดังต่อไปนี้
วันที่ 28 กรกฎาคม 2555     
     เวลา 16:00 น.     จัดขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดดอยพระบาท อ.เมือง จ.เชียงราย มาประดิษฐาน ณ พระธาตุโกฏิแก้ว ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย                                                                                         
     เวลา 18:30 น.      ร่วมสวดมนต์ และ ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา
วันที่ 29 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2555                       
     เวลา 18:30 น.    จะมีการสวดมนต์และปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชาทุกวัน
วันที่ 3 สิงหาคม 2555
     เวลา 17:00 น. อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกลับ

ท่านผู้สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณวิทิศ   แสงทอง   081 9617138                       
คุณณัฎฐินี  เชี่ยวศิลป์  089 6372998

[RDNpromote]

ประวัติพระธาตุโกฏิแก้ว
          พระธาตุโกฏิแก้วแห่งนี้ เดิมเป็นวัดร้าง ไม่ปรากฏหลักฐานที่มาว่า ก่อสร้างขึ้นเมื่อไหร่ เดิมเป็นแต่ซากเจดีย์เก่า และอิฐ กระจายอยู่ทั่วไป ชาวบ้านทราบแต่เพียงว่าเป็นเจดีย์เก่า ไม่ทราบว่าผู้ใดสร้างไว้ แต่คาดว่าน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า200ถึง300ปี
          ชาวบ้านเล่าว่า มักจะเห็นดวงไฟลอยอยู่บริเวณนี้เป็นประจำ ชาวบ้านเรียกดวงไฟนี้ว่า พระธาตุเสด็จ ชาวบ้านคนไหนที่ขึ้นมาตัดไม้ ก็มักจะไม่สบาย เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ จนทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าขึ้นมาที่แห่งนี้  บริเวณรอบ ๆ พระธาตุนี้ เป็นที่นา เคยมีชาวบ้านไถนาไปเจอะกับอิฐโบราณอยู่ จึงคาดว่าอาจจะเป็นอาณาเขตของวัดร้างแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติมที่นี่นะครับ
http://kotkaew.blogspot.com/2011/11/blog-post.html