ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - หมวยจ้า
หน้า: [1] 2 3 ... 12
1  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / เข้าเว็บได้ยาก คะ ช่วงนี้ เมื่อ: กันยายน 25, 2015, 02:04:55 pm
เข้าเว็บได้ยาก คะ ช่วงนี้

   :58: thk56
2  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ถูก หน. งาน แกล้งเพื่อไล่เราออกจากงาน ควรทำอย่างไร ดี คะ เมื่อ: มิถุนายน 06, 2015, 09:47:22 pm
 ask1
ถูก หน. งาน แกล้งเพื่อไล่เราออกจากงาน ควรทำอย่างไร ดี คะ
กว่าจะเรียนจบมา ก็ นานมาก ใช้จ่ายไปก็เยอะ
กว่า จะหางานได้ ต้องสมัครกันหลายที่ สอบกันหลายหน
ทำงานไม่ถึงปี คนที่เข้ามาทีหลัง มาเป็น หน. แล้ว ต้องการบีบเรา เพื่อเอาญาต เขามาทำงาน อย่างนี้
จะแก้ป้ญหา อย่างไร ดี คะ

   :03: :03: :03:
3  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / เพื่อน ๆ ลองศึกษา การเผยแผ่พระธรรม ของ พระจีนกันบ้าง ดีหรือไม่จ้า เมื่อ: กันยายน 11, 2014, 04:15:51 pm
เนื่องด้วยกระแส การเผยแผ่ ที่รอบ ๆ ตัวของ หมวย มีแต่การเผยแผ่พระธรรม แบบ มหายาน เนื่องด้วยตระกูล ตอนนี้เข้าบุญกับวัดฝ่าย มหายาน กันทั้งหมด ไม่มีใครยากทำบุญกับพระหินยาน ตั้งแต่ ข่าวของ เณรคำ ที่ผ่านมาทำให้ พวกเราผิดหวังกับพระฝ่าน หินยาน เป็นอย่างมาก และ ต่อมา พระที่เคารพอย่าง พอจ.มิตซูโอะ สึกเพื่อวิวาห์ อีก ตระกูลที่เคยศรัทธาทำบุญ ก็เลยเอือมมากขึ้น ยิ่งตอนนี้บ้านเราอยู่แถว วัดสระเกศ ทำบุญวัดสระเกศแต่ปรากฏว่า พระวัดสระเกศตอนนี้เป็นข่าวอีก

   ลองศึกษาธรรมแบบ มหายาน กันดีหรือไม่ คะ เพราะพระทาง มหายาน ไม่เหมือน พระทางหินยาน คือ ทาง มหายาน พระไม่ถือตัว เราไม่จำเป็นต้องไหว้พระก็ได้ เพราะทางมหายาน ถือว่า ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ทัดเทียมกัน

   


   :s_hi: :88: :welcome:
4  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / 《悟》: รู้แจ้งเพลงประกอบภาพยนตร์ shaolin เมื่อ: ธันวาคม 08, 2013, 04:55:24 pm


《悟》: รู้แจ้งเพลงประกอบภาพยนตร์ shaolin

เครดิต คนอัพโหลด และ คำแปล

ดำรงในพรหมวิหาร ผลบุญสนองไพศาลไร้ขอบเขต
การเกิดดับอันไม่สิ้นสุดต่างผูกโยงไว้ด้วย­ความรัก
เหตุใดท่านเห็นแล้วจึงมองข้าม ว่าล้วนเป็นกฏเกณฑ์นี้กำหนดโลก
รู้ ตื่น เบิกบาน ด้วยความยินยอมพร้อมใจ
ละอุปาทาน ละหมอกควันอันลวงตา
ละตัณหาในรูปธาตุอรูปธาตุ ละความห่วง
เพิ่มหนึ่งสิ่ง กลับพอกพูนซึ่งภยันตราย
ลดหนึ่งสิ่ง โลภ โกรธ หลง ลดลงตาม
หากมีวาสนา แม้ขื่นขมยังคงหอมหวาน
หากไร้วาสนา เพียงเก็บความรักเอาไว้ในดวงใจ
เรื่องทางโลก แม้ตัดบัวยังเหลือใย สามารถหวนกลับชั่วพริบตา
ปลูกสร้างความดี เป็นเพื่อนเคียงข้างเธอไปในทุกวัน
มีเพียง ใจพ้นความกังวล ปนิธานบรรลุ
มีเพียง ใจไร้เหตุปัจจัย จึงงดงามเกินเอ่ย
ทำนายชะตาฟ้าดิน ทำนายสิ้นถึงอดีต
มิอาจทำนาย วัน เกิด-ดับ จะมาถึงในวันใด
ไร้ความโกรธ แววตาฉายแววว่างเปล่า
ไร้ความแค้น ความสุขอยู่ไม่ไกล
พันธนาการความคิดปรารถนา ดี-เลวห่างกันเพียงพลิกฝ่ามือ
ใจขออโหสิกรรม เป็นเพื่อนเคียงข้างเธอไปในทุกวัน
ต่อให้คำมดเท็จหนักแน่นเพียงใด ล้วนหนีไม่พ้นเนตรสวรรค์
ก่อนถึงวันพรุ่งนี้ ดวงใจจากจรไปยิ่งไกล
เมฆหมอกบดบังตา ใจคนแตกแยก
ความทุกข์ระทมก่อเกิดไม่หยุดหย่อน
ดำรงในพรหมวิหาร ผลบุญสนองไพศาลไร้ขอบเขต
การเกิดดับอันไม่สิ้นสุดต่างผูกโยงไว้ด้วย­ความรัก
ปุถุชนต่างมองข้าม ว่าล้วนเป็นกฏเกณฑ์นี้กำหนดโลก
รู้ ตื่น เบิกบาน ด้วยความยินยอมพร้อมใจ
ผ่านชีวิตอย่างเรียบง่าย เป็นเพื่อนเคียงข้างเธอไปในทุกวัน

5  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ใช้ ธรรม คือ ความอดทน เป็นเครื่องดำรงชีวิต คร้า... เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2011, 04:32:59 pm
ใครจะซวย ซ้ำ ซวย ซ้อน อีก กว่านี้ มีอีกไหม ?

  น้ำท่วม อยุธยา ที่บ้าน ก็ปลอบใจ ว่า เรายังมีอาชีพอยู่ มีบ้านนอน รับ พี่น้อง มาพักก่อนชั่วคราว

  จากนั้นมา น้ำท่วม ที่บ้านพัก หนีเสือ มา ปะจรเข้ ปลอบใจ ว่า อดทน นะ เพราะยังมีงานทำ

  ต่อมา น้ำบุกที่ทำงาน ปิดไม่มีกำหนด ...... รายได้ หาย จ้อย ต้อง อพยพ มาอยู่ ศุนย์

  ฝากท้อง ชีวิต กับ เพื่อน ๆ ที่ใจบุญ

   คนเราล้ม แล้ว ต้องลุก อย่า เครียด  เครียดแล้ว เป็น ทุกข์ หายใจเข้าออก เป็น พุทโธ กันเถิด

   ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมากมาย

   มาบ่น และให้กำลังใจ ทุกท่าน คร้า.....

6  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / e-book content จำเป็นหรือไม่ ( ตอนนี้มีขายราคาตั้งแต่ 2000 บาท ขึ้นไป ) เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2011, 07:21:16 am

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://graphics.sci.ubu.ac.th

เมื่อคราวที่แล้วได้กล่าวถึงแท็บเล็ตพีซีและอีรีดเดอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงเนื้อหาสาระความรู้ ต่าง ๆ ซึ่งมีมากมายหลายประเภทในระบบอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่รูปภาพ วิดีโอ ข้อความ เสียง ซึ่งขอรวมเรียกว่า คอนเทนต์ ตรงนี้ครับที่สำคัญมากเพราะการที่มีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์แล้ว จำเป็นต้องมีคอนเทนต์มาพร้อม ๆ กันเพื่อให้ครบวงจร
   
ในปัจจุบัน ใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในภาษา HTML ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ไปใส่ไว้บนโลกของอินเทอร์เน็ตได้ วิธีการไม่ต่างจากการพิมพ์เอกสารหรืออัพโหลดไฟล์ธรรมดา แต่การที่ใครก็ได้สามารถใส่คอนเทนต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ทำให้เนื้อหานั้นอาจไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง และมาสู่คำถามถึงความน่าเชื่อถือของเนื้อหาดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากกระบวนการทำหนังสือซึ่งมีที่มาที่ไปชัดเจน มีการตรวจสอบคุณค่าเนื้อหาสาระโดยสำนักพิมพ์
   
บนโลกของอินเทอร์เน็ต ก็มีหนังสือเช่นกันซึ่งเราเรียกว่า อีบุ๊ก (eBook) ซึ่งเป็นการแปลงหนังสือที่อยู่ในรูปของกระดาษมาเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ อีบุ๊กจึงถือเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญอีกอันหนึ่ง อีบุ๊กมีข้อดีอยู่หลายประการคือ ไม่มีต้นทุนการพิมพ์ ไม่ต้องใช้กระดาษ ไม่ต้องใช้หมึก ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำคัญของหนังสือเลยทีเดียว อีกทั้งยังลดการขนส่งหนังสือจากโรงพิมพ์ไปยังร้านขายหนังสือได้อีก ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนการผลิตหนังสือไปได้มาก ลดการตัดต้นไม้ ลดพลังงานและมลพิษที่เกิดจากการขนส่ง ดังนั้นต้นทุนส่วนใหญ่ของอีบุ๊กจึงไปอยู่ที่ค่าลิขสิทธิ์ และผู้อ่านก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้านขายหนังสือ สามารถค้นหาหนังสือผ่านทางออนไลน์ได้ สร้างความสะดวกสบายในการซื้อหาหนังสือ
   
ถ้าไปดูตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2551 ที่ได้สำรวจการอ่านหนังสือของประชากร เกี่ยวกับวิธีการรณรงค์ให้คนรักการอ่านหนังสือพบว่า อันดับแรกคือ หนังสือควรมีราคาถูกลงถึงร้อยละ 28.7 ดังนั้นราคาของหนังสือจึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง อีบุ๊กจึงถือเป็นโอกาสอีกอันหนึ่งที่จะทำให้หนังสือนั้นมีราคาที่ถูกลง
     
ถ้าหากเข้าไปในเว็บอเมซอนจะพบว่ามีอีบุ๊กนับล้านเล่ม อีกทั้งยังมี อีแม็ก กาซีน (eMagazine) อีกมากมาย แต่เราลองมาดูในประเทศไทย อีบุ๊ก ที่เป็นภาษาไทยนั้นยังไม่ค่อยมีให้เห็นกันสักเท่าไรนัก
 
ดังนั้นการที่จะส่งเสริมประชาชนให้เข้าถึงความรู้บนโลกอินเทอร์เน็ต นอกจากจะคำนึงถึงตัวอุปกรณ์เช่นแท็บเล็ตหรืออีรีดเดอร์แล้ว ยังจะต้องส่งเสริมอีบุ๊กให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นและมีราคาถูกด้วย.

ดร.โชคดี เลียวพานิช
ภาควิชาไอที คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อัสสัมชัญ
chokdee@scitech.au.edu
7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เกิดแต่กรรมใดหนอ สำหรับคนที่เกิด ( บางคนอยากมีลูก บางคนไม่อยากมี ) เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2011, 07:18:33 am
อ่านกระทู้ คุณ saiphone แล้ว มี หญิงชาย ที่อยากมีลูก แต่โลกเรานี้อะไรคือความพอดี
พอได้อ่านข่าวนี้แล้ว ก็เห็นว่า ความพอดี บนความอยากนั้นไม่มี คร้า...



แม่ใจยักษ์จับลูกเพิ่งเกิดยัดถุงทิ้งสวนหย่อมห้างดัง โชคดี รปภ.ผ่านมาเห็นแจ้งตำรวจช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน(ชมคลิป)

เมื่อ วันที่  21 ก.ค.  พ.ต.ท.สมาน เสมี พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ว่าพบเด็กทารกแรกเกิดถูกใส่ถุงพลาสติกนำมาทิ้งไว้กลางสวนหย่อม เกาะกลางถนนด้านข้างห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี  โดยเด็กยังมีชีวิตอยู่ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมหน่วยแพทย์กู้ชีพเทศบาลเมืองรังสิต และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบเด็กทารกแรกคลอด เพศหญิง ตามตัวยังมีคราบเลือดและสายรกติดอยู่ ถูกจับใส่ถุงพลาสติกสีขาว ก่อนมัดปากถุงแล้วนำมาทิ้งเอาไว้ที่สวนหย่อม โดยพลเมืองดีช่วยเหลือนำตัวเด็กทารกคนดังกล่าวออกมาจากถุงพลาสติกแล้ว ก่อนนำตัวส่งรพ.ปทุมธานีให้ความช่วยเหลือ
   

สอบสวนนายบุญทัน หยาดประโคน รปภ.ห้างฯ ให้การว่า ระหว่างเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ก็สังเกตเห็นรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มีลักษณะหลังคาสูง มีผ้าใบปิดมิดชิด คล้ายรถสองแถว มาจอดตรงจุดที่พบเด็กทารกอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่ได้เอะใจเพราะคิดว่าเป็นรถที่มาส่งของที่ห้าง กระทั่งได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเด็กทารกถูกใส่ถุงนำมาทิ้งไว้ เมื่อมาตรวจสอบพบว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า แม่ของเด็กน่าจะเป็นวัยรุ่น นักศึกษา หรือสาวโรงงานที่เกิดตั้งท้องทั้งที่ยังไม่พร้อมมีลูก เมื่อคลอดออกมาจึงนำใส่ถุงมาทิ้ง อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนติดตามแม่ใจยักษ์รายนี้มาดำเนินคดี ต่อไป

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=419&contentID=152504

8  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / วิหารธรรม คือ อะไรคะ เหมาะแก่ใครบ้างคะ เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 05:21:35 am

ขอบคุณภาพจาก http://www.dhammada.net

วิหารธรรม คือ อะไรคะ เหมาะแก่ใครบ้างคะ ตามหัวข้อกระทู้เลยคร้า...

มิได้มาลองภูมิ นะคร้า....

แต่เป็นเพราะยังไมทราบ คร้า....

ช่วยอธิบาย กันหน่อย นะคร้า.....



 :88: :58: :c017: :25:
9  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.wattanen.org/ วัดตาลเอน เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 05:14:57 am


http://www.wattanen.org/

วัดตาลเอน
10  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เคืองมะกันต้อนรับองค์ “ดาไลลามะ” เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 05:01:53 am
จีนตำหนิสหรัฐ ที่ยอมให้มีการพบหารือกันระหว่างผู้นำสหรัฐกับองค์ดาไลลามะ

สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ว่า สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานถ้อยแถลงของนายหม่า เจ้าซือ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนว่า รัฐบาลจีนขอตำหนิอย่างรุนแรงต่อรัฐบาลสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ต้อนรับ องค์ดาไลลามะ ผู้นำด้านจิตวิญญาณแห่งทิเบต ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างสองประเทศ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า สหรัฐทำการเช่นนี้เท่ากับเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน ทำร้ายจิตใจของประชาชนชาวจีน และยังกระทบความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองประเทศอีกด้วย เพราะจีนถือว่าทิเบตเป็นส่วนหนึ่งที่แยกออกไม่ได้อย่างเด็ดขาดของจีน และองค์ดาไลลามะคือผู้ต้องการแยกดินแดนออกมา จึงเกิดให้เกิดประท้วงหลายต่อหลายครั้งในการเดินทางไปเยือนต่างประเทศของ องค์ดาไลลามะ.
11  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รร.วัดโพทะเลจัดสุขภาพก้าวหน้า เก้ากิจกรรมสร้าง 'ดีเจน้อย' ดูแล4มิติ เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 04:55:24 am
ที่โรงเรียนวัดโพทะเล อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างยากจน พ่อและแม่ต้องไปทำงานรับจ้างยังต่างจังหวัด หลายคนต้องอยู่กับปู่ย่าตายายหรือญาติ ทำให้ขาดการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ทำให้ขาดความรู้และทัศนคติในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง รวมไปถึงขาดความรู้ในการตัดสินใจเลือกแนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งปัญหาฟันผุ โภชนาการ ปัญหาเรื่องของการบริโภคสื่อสมัยใหม่ที่ไม่เหมาะสม ปัญหาด้านศีลธรรมและจริยธรรม รวมถึงปัญหาด้านอบายมุขและยาเสพติดที่ส่งผลให้เยาวชนในพื้นที่ดำเนินชีวิตไป ในทางที่ไม่เหมาะสม
   
จากปัญหาที่เกิดขึ้นทางคณะผู้บริหารและครูของโรงเรียนวัดโพทะเล จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการ “สุขภาพก้าวหน้าด้วยเก้ากิจกรรม” ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้นในทุกมิติ และมีภูมิคู้มกันในการดำรงชีวิตได้ในสังคมอย่างมีความสุข โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง 9 กิจกรรมประกอบไปด้วยกิจกรรมเยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจคุณธรรม, กิจกรรมกีฬากีฬาเป็นยาวิเศษ, กิจกรรมแอโรบิกเพื่อสุขภาพ, กิจกรรมยิ้มหวานฟันสวย, กิจกรรมเด็กไทยห่างไกลจากอบายมุขและยาเสพติด, กิจกรรมร้านค้าสะอาดอาหารปลอดภัยและมีคุณค่า และกิจกรรมอาคารและสิ่งแวดล้อมสะอาดปราศจากมลพิษ โดยยังมีอีกสองกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นและสอดแทรกสาระความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่นอกเหนือไปจากเรื่องของสุขภาพให้กับนักเรียนได้อย่างต่อเนื่องนั่นก็คือ “กิจกรรมสื่อสีขาว” ที่มุ่งเน้นให้เด็กรู้จักการบริโภคสื่ออย่างถูกต้อง และร่วมกันผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์เพื่อขยายความรู้ออกไปสู่เพื่อน ๆ ผ่าน “หนังสือพิมพ์จิ๋ว” ที่เหล่าบรรดาดีเจรุ่นเยาว์จาก “กิจกรรมดีเจน้อย” จะหยิบยกความรู้ต่าง ๆ จากสื่อเหล่านี้มาบอกเล่าผ่านเสียงตามสายช่วยกระจายความรู้ออกไปสู่สมาชิก ทุกคนในโรงเรียนเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 11.30-11.45 น.
   
นายประเสริฐ กลิ่นหอม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพทะเล และหัวหน้าโครงการฯ เปิดเผยว่า จากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน ถ้าหากปล่อยไว้จะขยายกลายเป็นปัญหาต่าง ๆ ของสังคมเกิดขึ้นตามมาจึงได้ให้มีกิจกรรมทั้ง 9 ขึ้นเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในด้าน ต่าง ๆ ของเด็ก
   
“กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านั้นจะส่งผลดีต่อระบบการเรียนการสอนของเด็ก เพราะเป็นความรู้ที่ถูกนำไปปฏิบัติจริง อย่างน้อยก็จะเป็นทักษะที่ติดตัวไปตลอด เป็นพฤติกรรมในการใช้ชีวิตให้ถูกต้องเพราะเด็กหลายคนอาจจะไม่ได้เรียนต่อใน ระดับสูง เนื่องจากส่วนใหญ่มีฐานะยากจน แต่ความรู้ที่ได้รับจะทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ปลอดโรค มีสุขภาพที่แข็งแรง และเมื่อจบออกไปแล้วทำให้เขาสามารถอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างมีความสุข” หัวหน้าโครงการฯกล่าวสรุป.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=420&contentID=151771
12  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เหตุใกล้ตัว หมอนรองกระดูกทับเส้น เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 04:53:45 am
'หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท' เป็นอีกอาการป่วยที่ได้ยินกัน บ่อยๆ ใครโชคไม่ดีได้เป็นแล้วก็จะปวดหลัง บางรายลามลงขา ถึงขั้นชาและหมดแรง เกิดจากหมอนรองกระดูกซึ่งมีหน้าที่รองรับแรงกระแทกของกระดูกสันหลังเกิด เสื่อมสภาพจนสูญเสียความยืดหยุ่น เมื่อมีแรงกระแทกก็จะทำให้หมอนรองกระดูกเกิดการนูนหรือฉีกปลิ้นออกมากดทับ เส้นประสาทที่อยู่ด้านหลัง

สำหรับสาเหตุนั้น นพ.นันทเดช หิรัณยัษฐิติ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ รพ.บำรุงราษฎร์ เผยว่า หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทอาจเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมใกล้ตัวที่ หลายๆ อาจไม่เคยคาดคิดมาก่อน

คุณหมอนันทเดช ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวมากๆ ให้ฟังว่า เพียงแค่การจามแรงๆ แบบไม่ทันตั้งตัว คนท้องผูกที่ออกแรงเบ่งเพื่อขับถ่ายจนเกิดความดันในช่องท้อง หรือแม้กระทั่งการเดินทางไกลที่ต้องนั่งหรือนอนนานๆ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า พอถึงที่หมายก็รีบยกกระเป๋าสัมภาระน้ำหนักมาก ทั้งๆ ที่ขณะนั้นกล้ามเนื้อหลังหรือแม้กระทังกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ยังคงอ่อนล้า ไม่พร้อมกับการใช้แรง ด้วยเหตุนี้อาจส่งผลให้หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท ทำให้รู้สึกปวดแปลบๆ

หากไม่อยากให้หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แสดงว่า ก่อนจะจามต้องตั้งตัวให้ดี หรือห้ามท้องผูก ห้ามยกของหนักๆ เด็ดขาดหรือ? คุณหมอนันทเดช ไขข้อสงสัยว่า พฤติกรรมใกล้ตัวดังตัวอย่างอาจทำให้หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ก็ต่อ เมื่อร่างกายของคนๆ นั้นกำลังอ่อนแออยู่ด้วย

กรณีที่โชคไม่เข้าข้าง เกิดป่วยด้วยอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะทำอย่างไร ต้องผ่าตัดเปิดหลัง กลายเป็นเรื่องใหญ่เชียวหรือ? คุณหมอนันทเดช  บอกแนวทางการรักษาว่า มีหลายวิธีทั้งกินยา ทำกายภาพ ฉีดยา  ผ่าตัดผ่านกล้องเอ็นโดสโคป ที่มีรอยแผลเล็กแค่ 8 มิลลิเมตร และการผ่าตัดเปิดหลังแบบเก่า ซึ่งขึ้นอยู่กับอาการของโรคและความชำนาญของแพทย์ด้วย

และนับจากนี้ไป คนไทยที่ป่วยจากหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หรือปวดหลังจากสาเหตุอื่นๆ คงพอเบาใจในด้านการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศ เนื่องจาก รพ.บำรุงราษฎร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ รพ.เซนต์ แอนนา ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้คิดค้นเทคนิคใช้กล้องเอ็นโดสโคปผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง และบริษัท ริชาร์ด วูล์ฟ ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ระดับสูงของเยอรมนี ในการแต่งตั้งศูนย์ฝึกอบรมการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องฯ ของภูมิภาคเอเชียที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ให้แพทย์ในสถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์สามารถฝึกอบรมเทคนิคดังกล่าวให้ กับแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ อย่างนี้แสดงว่า ต่อไปบ้านเราจะมีแพทย์รักษาหมอนรองกระดูกสันหลังด้วยเทคนิคเอ็นโดสโคปมาก ขึ้นนั่นเอง.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=457&contentId=151666
13  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เล่นไสยศาสตร์ดับปริศนาคาเตียง โดนของแน่ ๆ ( เป็นไปได้อย่างไร ) เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 04:52:13 am
หนุ่มใหญ่หัวหน้าคนงานก่อสร้างเล่นไสยศาสตร์ดับปริศนาคาเตียง แพทย์ไม่ฟันธงหัวใจวายเฉียบพลัน เร่งส่งศพชันสูตร

วันนี้ (18ก.ค.) พ.ต.ท.พูลทรัพย์ ทหราวานิช  สารวัตรเวร สภ.เมืองจันทบุรี  รับแจ้งพบศพคนเสียชีวิตอยู่ใน อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่ 547/4-5 ถนนท่าแฉลบ ต.ตลาด ไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี และ หน่วยกู้ภัยสว่างกตัญญู  ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างต่อเติมตกแต่ง พบศพนายธนพล มะเทศ อายุ 46 ปี หัวหน้าคนงาน นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนเตียงไม้บริเวณชั้น 2  ที่คอห้อยสร้อยผ้าร่มแขวนพระ 1 องค์  และ จี้ไม้กางเขน  1 อัน  ในกระเป๋ากางเกงพบเงินสด  420 บาท  และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ใกล้กันมีไฟแช็ค  หนังสือดูดวง  และหนังสือคุณไสย ไทย – เขมร ตกอยู่

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=151780

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นคอสุรา และชอบนั่งท่องบริกรรมคาถาไสยศาสตร์อยู่เป็นประจำ ก่อนพบศพช่วงเย็นวันที่ผ่านมาเพิ่งตั้งวงดื่มสุราอยู่กับลูกน้อง กระทั่งรุ่งเช้ามีคนมาพบเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพดังกล่าว  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะหัวใจวายอย่างเฉียบพลัน ซึ่งจะได้สอบวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.
14  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เขียนเรียงความเฉลิมพระเกียรติ เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:38:34 am
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่สำนักงานศาลยุติธรรม นายสราวุธ  เบญจกุล  รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดประกวดเรียงความฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา เปิดเผยว่า ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดประกวดเรียงความภายใต้แนวคิด “ศาลยุติธรรมกับคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” โดยการอัญเชิญพระบรมราโช วาทหรือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่คณะผู้พิพากษาศาลยุติธรรมในโอกาสต่าง ๆ มาเป็นแนวคิดสำคัญในการเขียนเรียงความ เพื่อเป็นการร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวด้านความยุติธรรม ชิงเงินรางวัลชนะเลิศ 100,000 บาท รองชนะเลิศ 50,000 บาท 30,000 บาท  พร้อมโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณ และรางวัลชมเชย 10,000  บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
   
ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรม ขอเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ที่สนใจสามารถส่งเรียงความเข้าประกวดได้คนละ 1 เรื่อง โดยพิมพ์ในกระดาษขนาด  A4  ด้วยตัวอักษรขนาด 16 พอยท์  ไม่จำกัดจำนวนหน้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค. ส่งมาที่ กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์  สำนักงานศาลยุติธรรม  อาคารศาลอาญา  ชั้น 4  ถนนรัชดาภิเษก  เขตจตุจักร  กทม. 10900 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2541-2188 และ 0-2541-2329 ในวันและเวลาราชการ
หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ www.coj.go.th/iprd.
15  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เปิดตัวกองทุนออมแห่งชาติอาชีพอิสระสะสมเงินยามแก่ เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:36:37 am
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ว่า กระทรวงการคลังได้ขับเคลื่อนแนวคิดที่ให้ประชาชนที่มีอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้า แม่ค้า มีเงินบำนาญไว้ใช้ในยามชรา เช่นเดียวกับพนักงานบริษัท ซึ่งจากนี้ไปจะเป็นการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการต่าง ๆ ก่อนจะเปิดรับสมาชิกตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 55 เป็นต้นไป เชื่อว่า กอช.จะเป็นการลดภาระของรัฐบาลในอนาคต ในการดูแลประชาชนในวัยชรา และเป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ด้วย         
   
ทั้งนี้ ผู้มีอาชีพอิสระที่มีสิทธิส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ รวมทั้งสิ้น 25-26 ล้านคน คาดว่าปีแรก จะมีผู้ส่งเงินเข้าสมทบ 10% หรือคิดเป็น 2.5 ล้านคน โดยรัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณเบื้องต้น ด้วยการตั้งงบสำรองในปี 55 ไว้ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งหากผู้มีสิทธิทั้งหมดส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ รัฐบาลจะต้องส่งเงินสมทบอีกปีละ 20,000 ล้านบาท
   
“สิ่งสำคัญของกอช.คือ ห้ามถอนเงิน เพราะเราต้องการสะสมเงินออมไว้ให้ใช้ยามชรา แต่หากสมาชิกจะถอนเงิน ก็ทำได้ แต่สิทธิที่รัฐบาลส่งเงินเข้าสมทบไว้ รัฐบาลจะเอาคืน เพื่อให้ประชาชนมีวินัยในการออม”
   
สำหรับผู้ที่จะเป็นสมาชิกกอช.ได้ ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 15-60 ปี ไม่เป็นสมาชิกกองทุนอื่นใด ที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง และไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญภาครัฐหรือเอกชน สมาชิกต้องสะสมเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่ไม่เกินปีละ 13,200 บาท และรัฐบาลจะให้เงินสมทบตามช่วงอายุของสมาชิก ซึ่งเป็นอัตราส่วนกับจำนวนเงินที่สมาชิกสะสมเข้ากองทุน ตั้งแต่ 50-100% โดยไม่เกินเงินสมทบสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด.
16  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ความหมายตามลายมือ ลายมือก้นหอย เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:34:44 am
ความหมายตามลายมือ

ลายมือก้นหอยเป็น เครื่องหมายที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากต่อการจดจำก้นหอยจะเกิดขึ้นเป็นลักษณะเลข ๑ ไทยวงเวียนกลมเหมือนก้นหอยจึงจะเป็นการดีที่สุด แต่ถ้ากลับกันกับเลข ๑ ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง ในที่นี้จะนำมาเฉพาะปลายนิ้วก่อน ดังนี้

หมายเลข ๑
ก้นหอยบนนิ้วหัวแม่มือ แสดงถึงการมีพลังกำลังใจเข้มแข็ง

หมายเลข ๒
ก้นหอยบนปลายนิ้วชี้ บ่งบอกถึงอำนาจวาสนาที่ดีเป็นผู้นำ

หมายเลข ๓
ก้นหอยบนนิ้วกลาง บ่งบอกถึงการเป็นนักคิดมีหลักฐานมาก

หมายเลข ๔
ก้นหอยบนนิ้วนาง บ่งบอกถึงความร่ำรวยมีเงินทองชื่อเสียงดี

หมายเลข ๕
ก้นหอยบนนิ้วก้อย บ่งบอกถึงการค้าขาย เป็นนักพูดวาทศิลป์ดี.

ต้อย ตุลา

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=492&contentId=149790
17  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมทำบุญสร้างวิหาร'พระพุทธอุดมมงคลเวฬุวัน' เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:33:19 am


สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) หรือพุทธศาสนิกชนทั่วไปคุ้นเคยในสมญา “สมเด็จโต” นั้น เป็นพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณทางด้านสรรพวิชาต่าง ๆ ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นพุทธมนต์อาคมขลัง เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคลที่ท่านสร้างแจกญาติโยมในอดีตก็คือ “พระสมเด็จวัดระฆัง” พระผงรูปทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระนั่งสมาธิหรือปรกโพธิ์ด้านหลังเรียบ ได้รับความนิยมกว้างขวางและเป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมาก จนถูกจัดเข้าในทำเนียบพระเบญจภาคี ๑ ใน ๕ ของสุดยอดพระเครื่อง มูลค่าการเช่าบูชาหลายล้านบาท ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่านที่เล่าขานกันมา คนไทยทั่วไปนับถือว่าท่านในฐานะสุดยอด “อมตะเถราจารย์” รูปหนึ่งของเมืองไทย

ประวัติโดยย่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) เกิดเมื่อเวลา ๐๗.๐๐ น. ของวันพฤหัสบดี เดือน ๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๓๑ ณ ต.ไก่จัน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ในรัชสมัยต้นแผ่นดินรัตนโกสินทร์ มารดานามว่า เกสรคำ เมื่อวัยเยาว์ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดระฆังโฆสิตารามมหาวรวิหาร จังหวัดธนบุรี ทรงประพฤติอยู่ในเพศพรหมจรรย์โดยตลอด จนพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา จึงได้ทรงอุปสมบท ณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานครนั่นเอง และอยู่ในสมณเพศจนสิ้นอายุขัย ในเช้าตรู่ของวันอาทิตย์เวลา ๐๖.๐๐ น. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๑๕ สิริอายุนับรวมได้ ๘๔ ปี กับ ๒ เดือนเศษ ถือว่าเป็นพระสงฆ์ ๕ แผ่นดิน ในยุคต้นแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ องค์ที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีชวด พุทธศักราช ๒๔๐๗

อย่างไรก็ตามมีข้อมูลบางส่วนยังขัดแย้งกันอยู่ เกี่ยวกับการบรรพชาเป็นสามเณรของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) บ้างก็ว่าบรรพชาตั้งแต่วัย ๕ ขวบ บางข้อมูลว่าบรรพชาอายุ ๑๓ ปี แต่จากหลักฐานจากการสร้างพระเป็นรูปไก่ ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (สุก ไก่เถื่อน) ทรงบันทึกข้อความไว้ว่า “ไก่ ตัวนี้ สุก ไก่ เถื่อน เป็นผู้สร้าง ประสม ทอง เงิน นาน (นาก) ปลุกเสก ๓ พรรษา พ.ศ. ๒๓๓๒ พอ พ.ศ. ๒๓๓๕ หัวโต วัดระฆังก็ขอไปเลี้ยง” ปัจจุบันหลักฐานชิ้นนี้เก็บรักษาไว้ที่สำนักธรรมพรหมรังสี หากอ้างอิงตามบันทึกของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) บ่งชี้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) น่าจะบรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่สิริอายุ ๕ พรรษา ที่วัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งข้อมูลนี้ยังต้องค้นคว้าข้อเท็จจริงกันต่อไป

ครั้นบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว สามเณรโต ก็เริ่มศึกษาด้านปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ ศึกษาพระไตรปิฎกจนแตกฉาน ตลอดจนเร่งฝึกวิปัสสนาพระกรรมฐานความรู้แจ้งเห็นจริงก็ปรากฏขึ้นในดวงจิตที่ มุ่งมั่นสะอาดและบริสุทธิ์ จวบจนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ฝึกฝนจนจิตกล้าแกร่งก็ธุดงค์จาริกแสวงบุญตามป่าเขาและสถานที่เงียบสงัด หนึ่งในสถานที่ที่ท่านเคยไปคือ ถ้ำอิสีคูหาสวรรค์ จ.กำแพงเพชร ซึ่งมีการค้นพบของเก่าและที่สำคัญคือใบลานเก่าชำรุด เขียน “พระคาถาชินบัญชร” เป็นภาษาสิงหล ท่านได้นำกลับมาเรียบเรียงแก้ไขเป็นภาษามคธ-บาลี เพื่อให้อ่านง่ายและเข้าใจง่าย และได้แปลความหมายของพระคาถาที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นร้อยแก้ว สามารถนำไปใช้ได้ ๑๐๘ ประการด้วยการสวดท่องและอธิษฐานให้ขจัดทุกข์และบำรุงสุขได้อย่างมหัศจรรย์ ได้รับความนิยมตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้

สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญพระคาถาและพลังจิตอันเป็นหนึ่งของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) คือ การทำผงวิเศษต่าง ๆ ด้วยดินสอพอง โดยเขียนลงกระดานชนวนลงอักขระเลขยันต์ตามสูตรและลบกลายเป็นผงวิเศษ คือ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช นำมาผสมคละเคล้ากับ เกสรร้อยแปด ดินเจ็ดโป่งเจ็ดท่า ดินใจกลางเมือง ดินกำฤาษี ผงวิเศษตามป่าตามเขา ตามถ้ำต่าง ๆ ไคลเสมา ไคลโบสถ์ ดินใจกลางเมือง ว่านยาต่าง ๆ ที่ท่านเก็บรวบรวมมาจาก จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สุโขทัย กำแพงเพชร เป็นต้น เพื่อนำมาทำพระสมเด็จวัดระฆังอันเลื่องลือ

ปัจจุบันนี้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า “พระสมเด็จวัดระฆัง” ของท่านมีกี่พิมพ์ กี่เนื้อหากันแน่ แต่ตามสากลนิยม โดยสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย ได้แบ่งพิมพ์มาตรฐาน ได้แก่ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม และพิมพ์ฐานแซม นอกเหนือจากนี้ยังมีพิมพ์ปรกโพธิ์ (มีจำนวนน้อยมาก)

ทั้งนี้ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) นอกจากเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระแล้ว ท่านยังเป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงและไม่ปรารถนาลาภ ยศ สมณศักดิ์ใด ๆ จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ท่านจึงยอมน้อมรับสมณศักดิ์โดยดี

ในปี พ.ศ. ๒๓๙๕ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งพระมหาโตเป็นพระราชาคณะที่พระธรรมกิติ เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ในปีขาล พ.ศ. ๒๓๙๗ ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่พระเทพกวี ศรีนายกตรีปิฎกปรีชามหาคณฤศร บวรสังฆราชคามวาสี ครั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สน) วัดสระเกศ มรณภาพ ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ รูปที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๑๐ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีชวด ตรงกับวันที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๐๗

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ได้สร้างวัดและสิ่งปลูกสร้างในพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม หลวงพ่อโตนั่งกลางแจ้งวัดไชโย จังหวัดอ่างทอง พระเจดีย์นอน วัดลครทำ เป็นต้น

ด้วยคุณวิเศษอันอเนกอนันต์ของ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ที่กล่าวทั้งหมดในข้างต้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) แห่งวัดบวรนิเวศวิหาร ก็ทรงศรัทธาในสมเด็จพระพุฒาจารย์เป็นอันมาก ทรงศึกษาประวัติและบทสวดมนต์ต่าง ๆ รวมทั้ง พระคาถาชินบัญชร จนเชี่ยวชาญและพระองค์ท่านทรงรวบรวมบทนิพนธ์เป็นประวัติพระคาถาชินบัญชรขึ้น ซึ่งใช้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนนิยมสวดเพื่อความเป็นสิริ มงคลในทุกวันนี้

เมื่อกล่าวถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) และสมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) แล้ว ทั้ง ๒ องค์ ซึ่งเป็นพระมหาเถระที่ต่างยุคสมัยกัน แต่หากพิจารณาปฏิปทาจริยาวัตรและทรงคุณด้านวิชาคาถาอาคมแล้ว ในปัจจุบันนี้พระพุทธศาสนิกชนได้มีความศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จทั้ง ๒ องค์ยิ่งนัก

ด้านประวัติการสร้างวัตถุมงคลนั้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงสร้างพระพุทธพิมพ์ และพระกริ่งเอาไว้เป็นส่วนมาก แต่มีที่พิเศษคือเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ คราวพระองค์ท่านยังพระพลานามัยแข็งแรง ได้ทรงสร้างรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) เอาไว้ ประกอบด้วย รูปหล่อบูชา ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว มี ๓ เนื้อ คือ เนื้อเงิน เนื้อสัตโลหะ และเนื้อทองเหลืองรมดำ นอกจากนี้ยังได้สร้างเหรียญสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) มีลักษณะเป็นเหรียญกลม ด้านหลังเป็นรูปพระพรหม มี ๔ เนื้อ คือ เนื้อผง เนื้อทองแดงนอก เนื้อเงิน และเนื้อทองคำ อีกด้วย

ในการสร้างรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ครั้งนั้น เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประกอบพิธีเททอง และพิธีมังคลาภิเษกด้วยพระองค์เอง ทรงจุดเทียนชัยและนั่งอธิษฐานจิตตลอดพิธี เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๓๖ เวลา ๑๕.๑๙ น. โดยมีพระเกจิที่มีชื่อเสียงยุคนั้นทั่วประเทศเป็นจำนวนมากเดินทางมาร่วมนั่ง ปรก โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม) วัดชนะสงครามประกอบพิธีดับเทียนชัย วัตถุมงคลรุ่นนี้จึงได้รับความนิยมกันมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเปี่ยมล้นด้วยพุทธคุณและความเข้มขลัง

นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี พระรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) รุ่นนี้ยังเหลือเก็บไว้ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เนื่องจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ โปรดให้เก็บรักษาเอาไว้บางส่วน และพระองค์ท่านทรงมีดำริมอบให้สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชฯ นำออกมาให้ผู้มีจิตศรัทธาเช่าบูชาในปี ๒๕๕๔ เพื่อหาทุนทรัพย์ร่วมก่อสร้างพระพุทธวิหารพระพุทธอุดมมงคลเวฬุวัน ณ วัดเวฬุวัน จ.บึงกาฬ เพื่อให้แล้วเสร็จตามโครงการที่ทรงดำริไว้

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชฯ โทร.๐-๒๒๘๑-๒๘๓๑-๒, ๐๘-๑๕๕๒-๙๙๖๗.

อาราธนานัง รายงาน

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=502&contentId=149794
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พิษรัก และความไม่เข้าใจชีวิต คืออะไร ( ในสังคมที่ยังมีอยู่อีกมาก ) เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:30:37 am
หนุ่มรับจ้างขับรถบรรทุก ก่อเหตุทุบหัวเมียรักที่กำลังตั้งครรภ์ก่อนตัดสินใจผูกคอตายตาม หนีปัญหาชีวิต

วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.อ.พรนรินทร์ เปรื่องกระโทก พนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในห้องเช่า บ้านเลขที่ 24 ม.9 ต.เชียงรากน้อย จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดุลย์ เม่นบางผึ้ง ผกก. แพทย์เวร รพ.บางปะอิน  และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบนที่นอนพบศพ น.ส.ปิยฉัตร กิจเกษม อายุ  23 ปี สภาพสวมชุดนอนสีเทายาว มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะและใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้กันพบศพนายศราวุธ ไทยอุสาห์ อายุ29 ปี สภาพสวมเสื้อโปโลสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาวดำ  ใช้สายไฟผูกคอกับช่องระบายอากาศเสียชีวิต แพทย์ระบุทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 วัน นอกจากนี้ที่ฝาผนังห้องมีข้อความเขียนด้วยปากกาเมจิก ว่า “ขอโทษพี่ถามเราแล้ว แต่เราก็ไม่ว่าอะไร  นี่แหละที่บอกว่าถ้าพี่ตายจะเอาเราไปอยู่ด้วย ขอโทษทุกคนเราเลือกทางออกไม่ได้”

ต่อมาแพทย์ได้ทำการชันสูตรศพ น.ส.ปิยฉัตร ถึงกับต้องผงะเมื่อพบว่าที่บริเวณช่องคลอดพบถุงน้ำคล่ำไหลออกมาและมีก้อน เนื้อคล้ายทารกคาอยู่ โดยนายชัยพันธุ์ ฉายศรีรุ่งศิริ  อายุ 48 ปี เจ้าของห้องเช่าเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากันมาเช่าห้องอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง โดยนายศราวุธ มีอาชีพขับรถบรรทุก ส่วนภรรยาไม่ได้ทำงานอะไรแต่จะออกติดตามสามีไปด้วยทุกครั้ง และไม่เคยได้ยินเสียงหรือเห็นว่าทั้ง 2 คนมีปากเสียงกัน เมื่อช่วงเช้ามีลูกน้องมาบอกว่าได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากห้องจึงสั่งให้เปิด ประตู จึงพบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว

พ.ต.อ.อดุลย์  เปิดเผยว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า นายศราวุธก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาตนเองจนเสียชีวิต จากนั้นได้ผูกคอฆ่าตัวตายตาม ส่วนสาเหตุคาดว่าคงมีปัญหาเรื่องชีวิตคู่ หรือปัญหาเรื่องของลูกที่อยู่ในท้อง และหาทางออกไม่ได้ โดยเขียนข้อความระบายออกมาไว้ที่ฝาผนังก่อนที่จะจบชีวิต อย่างไรก็ตามมอบศพให้เจ้าหน้าที่นำไปชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=561&contentId=149935
19  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / จับหลักสมาธิ เป็นบันทึกที่น่าอ่านอีกเล่ม คร้า... เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 04:17:38 am
http://www.xlsiam.com/meditationkey.pdf

จับหลักสมาธิ เป็นบันทึกที่น่าอ่านอีกเล่ม คร้า...

20  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Sleep Apnea : ง่วง นอนกรน นอนไม่อิ่ม เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 04:00:38 am


ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ(sleep apnea) เป็นภาวะที่มีการหยุดหายใจเป็นระยะๆหรือมีการหายใจตื้นๆสลับกับการหายใจที่ เป็นปกติในระหว่างที่นอนหลับ ซึ่งช่วงการหยุดหายใจดังกล่าวอาจเป็นเพียงไม่กี่วินาทีหรืออาจยาวเป็นนาทีก็ ได้ โดยมักเกิด 5-30 ครั้งหรือมากกว่าในเวลา 1 ชั่วโมง ส่งผลให้นอนหลับได้ไม่เต็มที่ และมีอาการง่วงมากผิดปกติในช่วงระหว่างวันตามมา ซึ่งอาจนำมาสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น การหลับขณะขับรถ เป็นต้น รวมทั้งสมาธิและความจำก็จะลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงไปด้วย

            โดยส่วนใหญ่แล้วภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่พบนั้นจะเป็นประเภทที่มีการอุดกั้น ของทางเดินหายใจ (obstructive sleep apnea) มีสาเหตุมาจากการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่ทางเดินหายใจ การหนาตัวของเนื้อเยื่อผนังคอในผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาก การโตของต่อมทอนซิลในเด็ก หรือภาวะเนื้องอกบริเวณทางเดินหายใจ เป็นต้น ซึ่งการที่อากาศต้องเดินทางผ่านทางเดินหายใจที่แคบลงสามารถก่อให้เกิด เสียงกรนขึ้นได้

            อีกประเภทหนึ่งที่พบได้น้อยกว่านั่นคือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องความผิดปกติของการสั่งงานของสมอง (central sleep apnea) ภาวะนี้สมองส่งสัญญาณควบคุมที่ผิดปกติไปยังกล้ามเนื้อในระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการหยุดหายใจชั่วครู่

 อันตรายหรือไม่? หายานอนหลับมารับประทานเองได้หรือไม่?

            การหยุดหายใจขณะหลับทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง ส่งผลให้สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จึงมีการกระตุ้นร่างกายให้ตื่นขึ้นมาเพื่อหายใจ เมื่อเกิดการหยุดหายใจบ่อยๆ ผู้ป่วยจึงหลับๆตื่นๆตลอดคืนและไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำให้รู้สึกว่าตนเองนอนไม่หลับและตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น จากระดับออกซิเจนในเลือดที่ลดลงประกอบกับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ส่งผลเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงของภาวะความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และหัวใจวาย นอกจากนี้ภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ไม่ได้รับการรักษายังสามารถนำไปสู่การใช้ พลังงานของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเพิ่มความเสี่ยงของภาวะอ้วนและเบาหวาน

          จากที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ป่วยบางรายที่รู้สึกว่าตนเองนอนไม่หลับนั้นจะพยายามหายานอนหลับมารับประ ทางเองเพื่อให้นอนหลับได้ดีขึ้น ซึ่งยานอนหลับบางชนิดที่ออกฤทธิ์กดประสาทแรง เช่น midazolam, alprazolam และ diazepamจะมีผลกดการกระตุ้นของร่างกายที่ทำให้ตื่นขึ้นเมื่อระดับออกซิเจนใน เลือดลดต่ำลง ดังนั้นการใช้ดังกล่าวอาจทำให้ผู้ป่วยถึงกับเสียชีวิตจากการหยุดหายใจได้ เพราะฉะนั้นแล้วจึงไม่ควรหายามาใช้เอง

 ปัจจัยเสี่ยงมีอะไรบ้าง?

            ภาวะหยุดหายใจขณะหลับพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และมีการพบสูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ผู้หญิงมักเริ่มมีภาวะนี้เมื่อตั้งครรภ์และเข้าสู่วัยทอง นอกจากนี้บุคคลที่มีโครงสร้างของระบบทางเดินหายใจแคบ ไม่ว่าจะเพราะโครงสร้างแต่กำเนิด ภูมิแพ้ หรือผลจากการใช้ยาบางชนิด มีแนวโน้มที่จะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากกว่าปกติ

 จะสังเกตได้อย่างไร?

            ภาวะหยุดหายใจขณะหลับนี้ สามารถสังเกตเบื้องต้นได้จากอาการต่อไปนี้

    * การกรน ถือเป็นอาการหลักเนื่องจากการเกิดเสียงกรนเป็นลักษณะที่พบมากในผู้ที่มีภาวะ หยุดหายใจขณะหลับประเภทที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจ และประเภทดังกล่าวเป็นประเภทที่พบได้มากดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น แต่มิได้หมายความว่าผู้ที่มีอาการกรนทุกคนจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การกรนที่เกิดขึ้นอาจมีการหยุดเป็นช่วงๆร่วมกับการสำลักซึ่งการสังเกตดังกล่าวต้องอาศัยคนในครอบครัวหรือคนรอบตัวเป็นผู้สังเกต
    * อาการอ่อนล้าเมื่อตื่นนอนตอนเช้า หรือรู้สึกว่านอนไม่เต็มอิ่มทั้งๆที่นอนพักผ่อนเต็มที่แล้ว
    * อาการง่วงมากผิดปกติในช่วงระหว่างวัน จนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานหรือเรียนลดลง
    * ในเด็กอาจหงุดหงิดง่าย สมาธิจดจ่อต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งสั้น ท่านอนผิดปกติ หรือปัสสาวะราดที่นอนในเวลากลางคืน

 ควรปฏิบัติตนอย่างไร?

            เมื่อเริ่มสังเกตหรือสงสัยว่าอาจมีภาวะดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

 มีวิธีการรักษาหรือไม่? อย่างไรบ้าง

            วิธีการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีหลากหลายตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้เครื่องมือช่วยให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น ไปจนถึงการผ่าตัด ซึ่งการตัดสินใจเลือกใช้วิธีใดนั้นต้องพิจารณาตามความเหมาะสมตามแต่ละบุคคล จึงควรได้รับการดูแลจากแพทย์

            1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

    * หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    * ห้ามใช้ยาที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางแรง เช่น ยานอนหลับ ยากล่อมประสาทบางชนิด
    * ควบคุมน้ำหนักหากมีภาวะน้ำหนักเกิน
    * เปลี่ยนท่าทางในการนอนเป็นท่านอนตะแคง หลีกเลี่ยงท่านอนหงาย เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจได้ง่ายกว่าท่านอนตะแคง
    * เลิกการสูบบุหรี่

            2. การใช้เครื่องมือ

    * อุปกรณ์ mouthpieceช่วยปรับให้กรามล่างและลิ้นอยู่ในลักษณะที่ไม่ปิดกั้นทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
    * เครื่องมือcontinuous positive airway pressure (CPAP) ลักษณะเป็นหน้ากากที่จะให้ลมที่ความดันเป็นบวกออกมา ทำให้ทางเดินหายใจไม่เกิดการอุดกั้น

            3. การผ่าตัด

                        ต้องอยู่ภายใต้ดุลยพินิจและการดูแลของแพทย์

 

บทความโดย: ภญ.กิตติมา วัฒนากมลกุล

ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล


http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=49
21  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 03:46:58 am
หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 1/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 2/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 3/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 4/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 5/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 6/12   




 
22  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / สมาธิรักษาโรค เรื่องจริงของคุณพวงพิกุล ทิพย์สังวาลย์ เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 03:43:20 am
สมาธิรักษาโรค

 

พวงพิกุล ทิพย์สังวาลย์

R13001

 

        แรงบันดาลใจที่ทำให้ดิฉันเขียนเรื่องนี้มา เพื่อที่จะให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยด้วยโรคร้ายทั้งหลาย ได้มีกำลังใจต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บด้วยความอดทน พร้อมที่จะสร้างกำลังใจให้กับตนเอง โดยการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเพื่อรักษาโรค

          ดิฉันโชคดีที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ดี คุณพ่อเป็นคนเก่งแต่ดุมาก คุณแม่เป็นคนดีมีเมตตากรุณา มีจิตใจงดงามมาก ดิฉันมีพี่น้องเป็นผู้หญิงทั้งหมด ๓ คน ปัจจุบันเสียชีวิตหมด ดิฉันจึงเป็นลูกคนเดียวที่ต้องดูแลคุณแมที่เจ็บป่วยด้วยการรักษาโดยการผ่าตัดมาแล้ว ๓ ครั้ง (คุณพ่อเสียชีวิตเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗)

            ดิฉันเป็นข้าราชการครูธรรมดาคนหนึ่ง สามีก็รับราชการครูเช่นเดียวกัน ดิฉันมีลูก ๓ คน คนที่ ๑ และ ๒ เป็นผู้หญิง ได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาพร้อมกัน ในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) คณะบริหารธุรกิจ ส่วนคนสุดท้ายเป็นผู้ชาย

          ในวันธรรมดา ดิฉันจะดูแลคุณแม่ตลอด แต่วันเสาร์ – อาทิตย์ ดิฉันต้องเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปดูแลลูกเพื่ออบรมลูกเป็นคนดี เพราะดิฉันคิดว่า ถ้าเขาเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว โอกาสที่จะสอนเขาให้เป็นคนดีมีน้ำใจ มีเมตตากรุณาต่อผู้อื่นนั้นคงยาก

          ดิฉันได้ซื้อคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญให้ลูกทั้ง ๓ คน พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ลูกคนสุดท้องเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากการที่ลูกเรียนมหาวิทยาลัยทั้ง ๓ คน จึงเป็นภาระที่หนักมาก เงินเดือน ๒ คนรวมกัน แม้จะไม่ถูกหักเลย ก็ไม่พอส่งลูกเรียน ดิฉันเริ่มเป็นหนี้ธนาคาร

          ในปี ๒๕๓๙ ลูกคนที่ ๒ ก็ป่วยมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัด ตัวร้อนจัด หน้าซีด ได้พาส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้คอนโด หมดให้ยาแก้ไข้ แต่อาการไม่ดีขึ้นเลย จึงพาส่งโรงพยาบาลภูมิพล พักรักษาในห้องพิเศษ ลูกอายุเกิน ๒๐ ปี จึงเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้เลย แต่ดิฉันก็ไม่เกี่ยงค่ารักษาพยาบาล อยู่ในโรงพยาบาลได้ ๒ วัน สามีก็โทรศัพท์มา บอกว่า แม่ไม่สบาย ดิฉันได้บอกให้สามีพาแม่เข้ารักษาในโรงพยาบาลประชาเวช จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ดีมาก เพราะดิฉันตั้งใจว่า ถ้าแม่ป่วยอีกครั้งหนึ่งจะพาแม่รักษาในโรงพยาบาลที่ดีที่สุด เพราะตอนนั้นแม่อายุเกือบ ๘๐ ปีแล้ว ดิฉันต้องขออนุญาตหมอพาลูกสาวซึ่งอาการหนักมาก และยังไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร มารักษาด้วยกันกับยาย หมอได้ให้สเตอร์รอยด์กับลูก และต้องผ่าตัดยายเป็นการด่วน เพราะมีนิ่วในท่อน้ำดี ถึง ๔ ก้อน ก้อนละ ๔ ซ.ม. ดิฉันกังวลมาก เพราะแม่อายุมากแล้ว แต่ก็ได้รับกำลังใจจากคุณหมอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาเวช ได้ยืนยันว่าจะรักษาคุณแม่อย่างสุดความสามารถ หลังแม่ผ่าตัดออกมา ฟื้นเร็วมาก แม่เห็นดิฉันเป็นคนแรก ดิฉันได้ดูแลคนป่วยทั้ง ๒ คน ด้วยความเต็มใจและเอาใจใส่อย่างที่สุด

          ดิฉันกล้าพูดได้เลยว่า ดิฉันเป็นคนเฝ้าไข้ที่ดีที่สุด บางคืนดิฉันไม่ได้นอนเลย อาศัยหลับในสมาธิ มหัศจรรย์มาก ดิฉันสามารถอยู่ได้โดยในเวลากลางวันไม่ได้งีบหลับเลย ซึ่งในตอนหลังดิฉันได้นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อจรัญที่บอกว่าผู้ให้ย่อมมีความสุขที่สุด ธรรมะของพระพุทธองค์ยิ่งใหญ่นัก ดิฉันได้ทำหน้าที่ของลูกและแม่ในเวลาเดียวกัน ลูกได้รับการรักษาในโรงพยาบาลได้ ๕ วัน อาการดีขึ้น แต่คุณแม่มีอาการแย่ลง กินอาหารไม่ได้เลย ทุกคนบอกว่าแม่ไม่รอดแน่ ลูกคนที่สองของดิฉันเห็นแม่มีภาระเรื่องของยายมาก จึงเดินทางกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯ คนเดียว ดิฉันได้วิ่งเต้นสุดฤทธิ์เพื่อจะได้เงินมาซื้อสารอาหารที่แพงมาก ระยะเวลาที่แม่อยู่โรงพยาบาลก็ยืดออกไปอีก เป็นเวลาถึงเดือนเศษ ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ดิฉันก็ยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเสียเพื่อได้ หลังได้รับสารอาหารแม่มีอาการดีขึ้นมาก แต่ก่อนที่ไม่จะได้ออกจากโรงพยาบาล ลูกคนที่สอง มีอาการหนักมาก และกลับเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลประชาเวช อยู่ในห้องเดียวกันกับยาย ดิฉันได้พาแม่กลับบ้าน แต่ให้สามีและหลานดูแลแม่แต่อ ดิฉันได้กลับมาดูแลลูกในโรงพยาบาลต่อ หมดได้ตรวจลูกอย่างละเอียด จึงได้ทราบว่าลูกป่ายเป็นโรค S.L.E (โรคเดียวกับคุณพุ่มพวง) โดยลูกสาวของดิฉันมีอาการอักเสบที่ไตและหัวใจ และในวันที่ ๒๘ เมษายน ลูกก็มีอาการอักเสบที่สมอง คือ บ้าเลย ตาขวาง เดินเหมือนหุ่นยนต์ สุดท้ายนอนนิ่งไม่พูดไม่อ้าปาก ปัสสาวะรดที่นอนตลอดเวลา เหงื่อออกท่วมตัว แต่มีอาการหนาวสั่นต้องห่มผ้าถึง ๕ ผืน ลูกคงทรมานมาก คุณหมอบอกว่าอาการทางสมองนี้ต้องใช้เงินรักษาเป็นหลักล้าน ถ้าภายใน ๓ วัน ลูกไม่พูดไม่อ้าปากไม่สนองตอบด้วยอาการใด ๆ หมดจะช็อตด้วยไฟฟ้า ทุกคนไม่อยากให้ลูกถูกช็อตด้วยไฟฟ้า ดิฉันและสามีเข็นเตียงเข้าไปใกล้ลูกที่สุด นอนกอนเขาตลอดเวลา ๒ วัน น้องชายและพี่สาวก็จับขาเรียกเขาตลอดเวลา และนึกขึ้นมาได้จึงบีบจมูก พอเขาอ้าปากก็กรอกยาเข้าไป ลูกฟื้นขึ้นมาในตอนเช้าของวันที่ ๓ จิตแพทย์เริ่มเรียกความทรงจำเขาคืนมา โดยถามว่าเขาชื่ออะไร ลูกก็ตอบหมดได้ว่า ชื่อเล่นชื่อน้อยหน่า ชื่อจริงคือ น.ส.พิลาสินี ทิพย์สังวาลย์ เรียนที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ลูกบอกว่า ๓ วันที่เขานอนนิ่งอยู่เฉย ๆ นั้น รู้สึกว่าตัวเองไม่มีแขนขา เหลือแต่จิตดวงเดียว

          ในการรักษาลูกครั้งนี้ ต้องใช้หมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ๒ คน จิตแพทย์อีก ๒ คน เสียค่าใช้จ่ายไปเป็นจำนวนมาก แต่ดิฉันไม่เคยคิดเสียดายเลย คนมีค่ามากกว่าเงินมากมายนัก แม่ดิฉันมีอาการดีขึ้นเป็นอย่างมาก แต่วันหนึ่งแม่นอนเล่นอยู่ที่เปลใต้ต้นมะม่วง มะม่วงลูกใหญ่หล่นมาถูกท้องแม่ เลยต้องส่งเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง และได้อยู่ในห้องเดียวกันกับลูกอีกครั้ง จากการรักษาอย่างดี อาการปวดท้องของแม่ก็ทุเลาลง แต่สำหรับลูกสาวของดิฉัน จิตแพทย์บอกว่า S.L.E. ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ รักษาได้โดยวิธีเดียว คือ ฝึกสมาธิจนจิตสงบในระดับหนึ่ง แล้วกลับคำสั่งไม่ให้ภูมิคุ้มกันไปทำลายอวัยวะตัวเอง ทุกวันเวลา ๑๗.๐๐ น. จิตแพทย์จะมาพาลูกนั่งสมาธิ ตอนนั้นลูกพูดง่ายมาก บอกให้ทำอะไรก็ทำ พอฝึกได้ครบ ๕ วัน ก็เกิดโอภาสขึ้นเหนือสะดือขึ้นมา ๒ นิ้ว สามารถเขียนภาษาอังกฤษด้วยคำศัพท์ยาก ๆ ได้ ๔ – ๕ แผ่น จิตแพทย์บอกว่า ตอนที่เขาอักเสบทางสมองนั้น เท่ากับได้ไปกระตุ้นสมองให้เกิดความเป็นอัจฉริยะด้านภาษาขึ้น ประกอบกับเขาได้ฝึกนั่งสมาธิทุกวัน ทำให้อาการทางสมองที่ยังอักเสบอยู่ไม่ได้แสดงอาการทางกายเป็นที่น่าเกลียดเหมือนคนไข้รายอื่น นอกจากพอเดินผ่านเตียงคุณยายเขาจะเดินเร็ว ๆ เข้าไปหายายที่นอนป่วยอยู่เป็นประจำ จนดิฉันต้องเอาม่านมากั้นไว้กลัวยายจะตกใจ ดิฉันเกิดความเครียดสะสมที่เฝ้าไข้คุณแม่และลูก หลายเดือนเข้าก็เกิดแผลที่กระเพาะอาหาร ปวดท้องอย่างรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไปอีกคน เลยกลายเป็นคนป่วยเฝ้าคนไข้ แต่ดิฉันก็สู้เสมอไม่ยอมถอย ถึงแม้จะไม่ได้หลับไม่ได้นอนเต็มที่ แต่ลึก ๆ แล้ว ดิฉันก็เป็นสุขใจที่ได้มีโอกาสทดแทนพระคุณของคุณแม่ที่เลี้ยงดูดิฉันมา แม่อาการดีขึ้นมาก ได้ออกจากโรงพยาบาลก่อนลูกสาว สามีดิฉันต้องทำหน้าที่ดูแล้คุณแม่อีกตามเคย

          คุณหมอทั้ง ๔ คนได้ทำการรักษาลูกอย่างสุดความสามารถ โดยบอกว่าอาการทางสมองนี้จะหายเร็วที่สุดประมาณ ๖ เดือน แต่จากการนั่งสมาธิทุกวันของลูกสาว ลูกก็หายจากอาการอักเสบทางสมองในเวลา ๑ เดือนกับ ๑ วัน กลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเดิมได้ตามปกติ แต่ต้องเปลี่ยนคณะใหม่คือ คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ลูกยังคงนั่งสมาธิทุกวันเพื่อรักษาตัวเองต่อ ตอนนี้ลูกต้องไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลทุกเดือน แต่ไม่ต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาล อาการอักเสบทางสมองก็ไม่เกิดขึ้นกับลูกอีกเลยเป็นเวลากว่า ๓ ปีแล้ว จากการนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ ทำให้อาการของลูกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในด้านการเรียนภาษาอังกฤษดีขึ้นจนเห็นได้ชัด เกรดเฉลี่ยเพิ่มมากขึ้น ลูกเรียนหนังสืออย่างมีความสุข ลูกยังคงสวยเหมือนเดิม ผิวพรรณก็ผุดผ่อง วาจาไพเราะเสียงใส ลูกบอกว่าการฝึกสมาธิเป็นประจำ ทำให้หนูมีจิตใจที่ดีงาม รักเพื่อนมนุษย์ทุกคน มีเมตตาไม่อิจฉาริษยาใคร ดิฉันไม่เคยได้ยินลูกนินทาใครเลย เขาบอกว่าตามความคิดเห็นของลูก โรค S.L.E. น่าจะเกิดจากความเครียด และอาการที่ร้อนมากนั่นเอง เขาบอกว่าหนูโชคดีที่ป่วยด้วยโรคนี้ ทำให้หนูขยันนั่งสมาธิมากกว่าเดิม เพราะต้องนั่งเพื่อให้ตัวเองรอดจากโรคนี้ เลยเป็นผลพลอยได้ทำให้การเรียนดีขึ้นมาก และมีโอกาสที่จะจบเอแบคได้เท่ากับคนดี ๆ ที่ไม่ป่วย ถ้าไม่มีอุปสรรคอะไรลูกจะจบภายในเดือนตุลาคม ๒๕๔๒ นี้ ลูกบอกว่าในที่สุดความฝันของหนูก็เป็นความจริง เพราะตอนเด็ก ๆ เขาชอบภาษาอังกฤษมาก แต่เรียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร หลังจากได้นั่งสมาธิแล้ว สารเอนโดฟิลได้หลั่ง ทำให้ช่วยรักษาโรค และสามารถช่วยให้ทำงานหรืออ่านหนังสือได้ทั้งวันโดยไม่เหนื่อย

          ลูกคนโตก็นั่งสมาธิเป็นประจำ บอกว่ามีประโยชน์มาก ทำให้เรียนภาษาได้ดี ลูกคนนี้มีความกตัญญูมาก เขามักพูดอยู่เสมอว่า เมื่อเขาเรียนจบแล้ว เขาจะส่งน้องชายคนสุดท้องเรียน แม่ไม่ต้องห่วง แม่เคยดูแลยายอย่างไรหนูก็จะดูแลแม่อย่างนั้น ลูกเป็นกำลังใจที่สำคัญมากสำหรับดิฉัน จากการต้องส่งลูกเรียนในมหาวิทยาลัยทั้ง ๓ คน และต้องรักษาคนป่วย ทำให้ดิฉันมีปัญหาเรื่องการเงิน มีหนี้สิน แต่ดิฉันก็ไม่เคยท้อถอย ดิฉันโชคดีมากที่มีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณของแม่ ได้ซื้อชีวิตให้ลูก ได้ทำหน้าที่ของลูกและของแม่ในเวลาเดียวกัน

          การที่ดิฉันได้เฝ้ารักษาและดูแลคุณแม่ในขณะที่แม่เจ็บป่วยนั้น บุญกุศลได้ส่งผลเร็วมาก คือ คุณหมอผู้อำนวยการและคุณหมออื่น ๆ ในโรงพยาบาลนี้ได้ให้กำลังใจดิฉันในการรักษาแม่และลูก และได้ดูแลดิฉันในขณะที่ดิฉันเป็นโรคกระเพาะเป็นอย่างดี พระคุณครั้งนี้ดิฉันไม่มีวันลืม ลูกและแม่ประทับใจในความเอาใจใส่ของคุณหมอมาก ลูกบอกว่าหมอที่นี่คือเทวดา ไม่เคยเห็นหมอใจดีอย่างนี้เลย ถ้าเขาหายเด็ดขาดจากโรค S.L.E. คุณหมอได้ขอร้องลูกสาวไว้ว่า ให้มาช่วยบรรยายให้นักศึกษาแพทย์ฟัง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนป่วยที่เป็นโรค S.L.E. เขาจะได้ไม่ตาย

          จากการดูแลคนป่วยทั้ง ๒ คน ทำให้ดิฉันได้ข้อคิดว่า ปัญหาทั้งหลายของมนุษย์นั้นสามารถแก้ได้เสมอ ถ้าเราพยายามแก้ไขปัญหานั้นด้วยสติ ใช้ความสามารถ ความมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีน้ำใจต่อผู้อื่น สำคัญที่สุดคือ มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณทั้งหลาย การที่ดิฉันได้ทุ่มเททั้งกำลังกาย และกำลังใจดูแลคุณแม่และลูกสาว ทำให้ดิฉันได้สมมุติฐานของโรค พร้อมที่จะบอกอาการของทั้ง ๒ คน กับคุณหมอได้ตลอดเวลา ทำให้ง่ายต่อการรักษา ในปีนั้นดิฉันได้ลางานถึง ๑๒ ครั้ง ในการดูแลคนป่วย ดิฉันได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นคน ดิฉันได้อ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อจรัญ เรื่อง กรรมฐานแก้ปัญหาชีวิตแล้ว รู้สึกซาบซึ้งในคำสอนนั้นมาก ๆ ขณะนี้โรคกระเพาะของดิฉันดีขึ้นมากโดยไม่ต้องใช้ยาเลย กรรมฐานรักษาโรคได้จริง ๆ

          ดิฉันได้น้อมระลึกถึงคำสอนของหลวงพ่อจรัญ ที่พร่ำสอนอยู่เสมอว่า จงเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ แม้แต่คำขอบคุณ ให้เป็นคนดีมีน้ำใจ กตัญญูต่อบุพการี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักได้แม่กระทั่งศัตรูตัวเอง ทุกครั้งที่ได้ฟังเทศน์ของหลวงพ่อจรัญ ดิฉันจะมีกำลังใจต่อสู้ชีวิตเสมอ ดิฉันโชคดีที่มีโอกาสมารับใช้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน (เป็นวิทยากรพิเศษ) ถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ขึ้นไปช่วยในโครงการอบรมบนศาลาพระราชสุทธิญาณมงคล พระอาจารย์พระครูสมุห์ธีรวัฒน์ ฐานุตตโร ท่านวิทยากร และทุกคนในศูนย์ปฏิบัติสวนเวฬุวันแห่งนี้ ได้ให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจดิฉันในการต่อสู้ชีวิต พระคุณครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันลืม ดิฉันจะขอรับใช้หลวงพ่อจรัญ และศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน เท่าที่โอกาสจะอำนวย ไม่มีที่พึ่งใดจะอบอุ่นเท่าธรรมะของพระพุทธองค์อีกแล้ว ดิฉันคิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว และได้ตั้งใจไว้ว่าจะทำงานด้านพัฒนาจิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด เท่าที่จะทำได้
นางพวงพิกุล ทิพย์สังวาลย์

อาจารย์ ๒ ระดับ ๗ โรงเรียนผดุงนารี จ.มหาสารคาม

http://www.alternativecomplete.com/jarun/j5.htm


23  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เปิดประตู'มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย' เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 05:43:13 am
สถาบันแม่ชีผลิตสตรีวิถีพุทธสู่สังคม
“อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารโทรม” ใครที่เคยให้คำจำกัดความของ “แม่ชี” ผู้หญิงในพุทธศาสนาที่โกนผม โกนคิ้ว นุ่งขาวห่มขาว รักษาศีล 8 และ “อุบาสิกา” ผู้หญิงที่รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด แต่ยังไม่โกนผม โกนคิ้ว คงต้องคิดกันใหม่ หากได้มาเห็นแม่ชี และ อุบาสิกา ที่เป็นนักศึกษาของ “มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย ในพระสังฆราชูปถัมภ์” (มปถ.) หรือ “วิทยาลัยแม่ชี” หนึ่งในส่วนงานของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เพราะภาพเหล่านักศึกษาสตรีผู้ทรงศีลของที่นี่แต่ละคนดูสดใส เรียบร้อย น่ารักสมวัย มีความเลื่อมใส ศรัทธาในธรรมะ และมุ่งมั่นที่จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือพระสงฆ์เผยแผ่พระพุทธ ศาสนา     

นับเป็นเวลากว่า 13 ปีแล้ว ที่มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัยฯ ซึ่งถือเป็นวิทยาลัยบัณฑิตสตรีวิถีพุทธแห่งแรกในประเทศไทย ได้จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของมูลนิธิสถาบันแม่ชีไทยฯ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ และ มมร. ปัจจุบันมีวิทยาลัยถาวรตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 77 ไร่ เพียบพร้อมไปด้วยอาคารเรียนและหอพัก ที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของป่าเขา ลำเนาไพร ณ ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี เปิดรับเฉพาะแม่ชี และ สตรีทั่วไป ที่จบการศึกษา ป.ธ.5, จบชั้น ม.6 หรือ เทียบเท่า เข้าศึกษาแบบอยู่ประจำและไม่จำกัดอายุ โดยรับนักศึกษารุ่นแรกในปีการศึกษา 2542 มีการบริหารงานโดยคณะแม่ชี และมีพระเมธีธรรมสาร เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัย ซึ่งขณะนี้มีนักศึกษาทั้งสิ้น 80 คน เป็นแม่ชี 38  คน อุบาสิกา 42 คน เรียนใน 2 คณะ คือ คณะศาสนาและปรัชญา สาขาวิชาเอกพุทธศาสตร์ และ คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษ

แต่ในปีการศึกษา 2554 นี้ จะเปิดรับนักศึกษาใหม่ ในคณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการสอนพระพุทธศาสนา และหากมีจำนวนนักศึกษามาสมัครเข้าเรียนมากพอก็จะเปิดสอนคณะสังคมศาสตร์ วิชาเอกสังคมสงเคราะห์ด้วย โดยการเปิดสอนในคณะดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา มมร.               

จากปรัชญาเริ่มต้นที่เชื่อว่า “สังคมดีขึ้นได้ด้วยผู้มีธรรม” นอกจากจะมีการจัดการเรียนการสอนที่เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรของสำนักงานคณะ กรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และเน้นการให้ความรู้ด้านพระพุทธศาสนาตามหลักการของ มมร.ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแม่แล้ว ตลอดระยะเวลาการศึกษา เหล่านักศึกษาจะต้องดำเนินชีวิตตามแนววิถีพุทธ ที่เน้นการเรียนรู้ และพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น การมีจิตสาธารณะ และการมีทักษะชีวิต ที่สามารถจัดการกับชีวิตของตนเองได้ทั้งทางกายและทางใจ โดยในทุก ๆ วันจะตื่นนอนตั้งแต่เวลา 04.30 น. เพื่อเตรียมตัวรับวันใหม่ด้วยชั่วโมงแห่งสติในการเดินจงกรม ทำวัตรทั้งช่วงเช้า และช่วงเย็น เพื่อพร้อมเรียนรู้วิชาการ ทั้งนี้ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน นักศึกษาจะมีการแบ่งกลุ่มรับผิดชอบงานออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มบิณฑบาต กลุ่มดูแลรักษาน้ำ  กลุ่มอาหาร  กลุ่มสันทนาการ  และกลุ่มจัดการขยะ

นักศึกษาของที่นี่มาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และบางรายเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งจะว่าไปแล้ววิทยาลัยแม่ชี ในสังกัด มมร. แห่งนี้เปรียบเทียบได้กับโรงเรียนคาทอลิกหญิงในคริสต์ศาสนา แต่ผู้ปกครองอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ และไม่รู้จักวิทยาลัยแม่ชีว่าเป็นสถานที่ขัดเกลาสตรีให้มีความดีงาม ทั้งภายนอกและภายในโดยไม่จำเป็นต้องเป็นแม่ชีไปตลอดชีวิต จึงยังไม่นิยมส่งบุตรหลานผู้หญิงมาเข้าเรียน บรรดานักศึกษาส่วนใหญ่จึงต้องรบเร้าผู้ปกครองเพื่อขอเข้ามาเรียนเอง เช่น แม่ชียุพารักษ์ ชนะบวรวัฒน์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะศาสนาและปรัชญา วิชาเอกพุทธศาสตร์ เล่าว่า แม่ชีจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนสหศึกษาที่ชลบุรี เห็นว่ามีวิทยาลัยแม่ชีที่สอนถึงระดับปริญญาตรี จึงขอพ่อ แม่ เข้ามาเรียน ซึ่งครั้งแรกที่ขอผู้ปกครองก็เป็นห่วงและกังวลว่าเพื่อนบ้านจะมองลูกสาวแปลก ๆ ที่มาเรียนในโรงเรียนแม่ชี โดยเข้ามาเป็นอุบาสิกาก่อน และเมื่อเรียนได้ 3 เดือน เห็นแม่ชีที่ปฏิบัติดีจึงเกิดศรัทธาและคิดว่าเส้นผมยังไม่สำคัญในช่วงเวลา นี้ จึงตัดสินใจบวชเป็นแม่ชี เพื่อสร้างบุญบารมีให้ตนเอง และพ่อ แม่ เมื่อบวชนานขึ้นผู้ปกครอง และเพื่อน ๆ ก็ยินดีกับแม่ชีด้วย เพราะเห็นการปฏิบัติดีของเรา เนื่องจากอาจารย์ที่นี่สอนในทุกเรื่องรวมถึงการทำให้เราเป็น “เบญจกัลยาณี” โดยตั้งใจว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะเรียนต่อระดับปริญญาโท ด้านภาษาบาลีและพระอภิธรรมต่อเนื่อง พร้อมทั้งเรียนกฎหมายควบคู่กันไปตามความต้องการของพ่อที่เป็นตำรวจ และอยากทำงานด้านสังคมสงเคราะห์

เช่นเดียวกับ แม่ชีสุเพีย รวม แม่ชีชาวเขมร อายุ 26 ปี นักศึกษาชั้นปี 4 อดีตตำรวจยศพันเอกหญิง สังกัดอุดรเมียนชัย ประเทศกัมพูชา ได้บอกถึงความมุ่งมั่นในการเรียนว่า อยากทำงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาระหว่างประเทศ

ขณะที่คนซึ่งเคยเกเรอย่าง “น้องไหม” หรือ น.ส.บุญวิไล รินทระ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เล่าว่า จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง  (ปวส.) จากโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนแห่งหนึ่ง โดยแม่เป็นคนพามาเรียนที่นี่ ตอนเข้ามาใหม่ ๆ ก็ต่อต้านเพราะไม่อยากอยู่ในกฎเกณฑ์ของแม่ชี จึงไม่ยอมช่วยงานเพื่อน ๆ แต่เมื่อความเกเรอิ่มตัว อยู่หอพักนานขึ้นเห็นเพื่อนทำงาน และต้องมารอคอยเมื่อตนเองเข้าเรียนสายก็รู้สึกว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว รู้สึกเป็นบาป จึงค่อย ๆ ปรับตัวจนเข้ากับคนอื่นได้ และรู้สึกดีขึ้น ซึ่งก็ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกดีไปด้วย           

แม่ชีศรีวรรณ เพ็งสมุทร อายุ 34 ปี อดีตช่างเสริมสวย นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ประธานนักศึกษาฯ ได้ฝากเชิญชวนผู้ปกครอง แม่ชี และสตรีที่กำลังหาที่เรียนในระดับอุดมศึกษา ให้พิจารณาวิทยาลัยแม่ชีเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะที่นี่จะได้ “เรียนความรู้ ทำการงาน และทำความดี” โดยเรียนความรู้ ด้านคุณธรรม จริยธรรม ควบคู่กับวิชาการ ทำการงานที่พัฒนาตนเอง ตลอดจนสังคมรอบข้าง และทำความดี คือ การเสียสละต่อสังคม ทั้งการสอนเด็ก เยาวชน และเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณเวลาที่ผู้คนมีความทุกข์ ก็สามารถใช้หลักธรรมทางศาสนาให้คำแนะนำได้

ในการเรียนผู้เรียนจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการเรียน เทอมละประมาณ  3,000-5,000 บาท พักในหอพักฟรีแต่ต้องชำระค่าไฟฟ้าเอง ซึ่งถ้าเป็นอุบาสิกา ต้องจ่ายค่าอาหารอีกเดือนละ 500 บาท แต่ถ้าใครอยากเรียนฟรีก็มีช่องทางได้รับทุนการศึกษาแบบไม่จำกัดจำนวนทุน เพียงมีเงื่อนไขว่าผู้ขอรับทุนต้องทำวัตรเช้าและเย็นได้ถึง 80% หรือ 44 ครั้งต่อเดือน และเรียนได้เกรดเฉลี่ยน 2.50 ขึ้นไป รวมทั้งเพื่อน ๆ และอาจารย์ยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความประพฤติดี นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการจัดอบรมระยะสั้น 10-15 วันให้แก่สตรีทั่วไปที่สนใจในวิชาพระพุทธศาสนาด้วย

ดูแล้ววิทยาลัยแม่ชีแห่งนี้ช่างเหมาะกับการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจให้มี ความมั่นคงทางอารมณ์ ในยุคที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เมื่อธรรมะในวิทยาลัยแม่ชีเปิดประตูออกมาสวัสดีแล้ว สตรีคนใดที่สนใจเล่าเรียนระดับอุดมศึกษาตามแนววิถีพุทธก็สามารถสมัครเข้า เรียนในปีการศึกษา 2554 ได้ที่มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัยฯ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทรศัพท์ 0-4424-9398-9.

ณัชชารีย์ วิเชียรรัตน์

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=42&contentID=131540
24  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วัดเทวราชฯจัดพิมพ์หนังสือ พ่อหลวงกับพระพุทธศาสนา เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 05:41:34 am
พระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธ.ค. 2554 วัดเทวราชกุญชรได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)จัดพิมพ์หนังสือสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชุด “พ่อหลวงกับพระพุทธศาสนา” โดยในหนังสือจะมี 4 บท บทที่ 1 เป็นการรวบรวมประวัติของพระมหากษัตริย์ของไทยทุกพระองค์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับพระพุทธศาสนา บทที่ 2 พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา บทที่ 3 เป็นเรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นที่เคารพรักและให้การเทิดทูน ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของพสกนิกรชาวไทย และบทที่ 4 เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระจริยวัตรอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ ทรงเป็นพุทธมามกะและเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก องค์อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา และทรงประกอบพุทธศาสนพิธีเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หนังสือดังกล่าวจัดพิมพ์ไปแล้ว 1 ครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดพิมพ์ครั้งที่ 2 จำนวน 3,000 เล่ม คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 5 พ.ค.นี้ หน่วยงานราชการ สถานศึกษาที่สนใจสามารถติดต่อขอรับได้ที่วัดเทวราชกุญชร.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=42&contentID=131638
25  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ผุดกิจกรรมดันคนไทยจัดเต็ม เที่ยวสงกรานต์กระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 05:37:00 am


2ปีมาแล้วที่คนไทย ไม่ได้ดื่มด่ำกับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มที่ การท่องเที่ยวไทยไม่ได้สดใสซาบซ่า อ้าแขนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากช่วงสงกรานต์ เพราะมีสถานการณ์การเมือง ซึ่งเปรียบเสมือน “มาร” มาผจญ จนทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ที่ไม่คึกคักอย่างที่ควรจะเป็น
   
แต่สำหรับสงกรานต์ปีนี้ แม้จะมีข่าวภัยน้ำท่วมทางภาคใต้ ออกมาบั่นทอนอารมณ์อยากท่องเที่ยวของคนไทยลงไปบ้าง ภาคท่องเที่ยวก็ยังมีความหวังว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ คนไทยจะยังออกมาท่องเที่ยวในประเทศกันมากกว่า 2 ปีที่ผ่านมา เพราะอย่างน้อย ก็ยังมีคนส่วนหนึ่งที่กินแห้ว อดไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะจุดหมายยอดฮิตอย่างญี่ปุ่น อันเป็นผลจากแผ่นดินไหว จนทำให้เกิดสึนามิ และส่งผลให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้รับความเสียหาย จนเกิดกัมมันตรังสีรั่วไหล
   
ขณะที่ภูมิภาคตะวันออกกลาง ก็ยังมีเรื่องวุ่น ๆ จากสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุ  และระหว่างนี้ก็มีเหตุภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้งในหลายประเทศ ซึ่งแต่ละครั้งก็เป็นภัยธรรมชาติที่ทำลายสถิติรุนแรงที่สุดในโลกทั้งนั้น จนพาลให้คนไทยเริ่มไม่อยากทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองไปไหนไกล
   
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. คาดว่า ช่วงสงกรานต์ปีนี้ น่าจะมีคนไทยออกมาท่องเที่ยวเฉพาะ 13 พื้นที่หลักทั่วประเทศที่ ททท. สนับสนุนการจัดกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 900,000 คน ช่วยกระจายรายได้ให้กับภาคท่องเที่ยวได้กว่า 1,450 ล้านบาท ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวรวมช่วงสงกรานต์อยู่ที่ 1.05 ล้านคน กระจายรายได้ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่นับรวมพื้นที่รอง ๆ อื่น ๆ ที่มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์เช่นกัน
   
สงกรานต์นี้จึงถือเป็น “สงกรานต์แห่งความหวัง” ซึ่งก็คงต้องหวังพึ่งคนไทยให้ร่วมแรงร่วมใจออกมาเที่ยว ลืมเรื่องเครียด ๆ จากเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในประเทศช่วงที่ผ่านมากันแล้ว
   
สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออก ว่าสงกรานต์นี้จะไปท่องเที่ยว ปลดปล่อยอารมณ์ความเครียดกันที่ไหน มองหาที่เที่ยวช่วงนี้ก็ยังไม่สายเกินไป เพราะมีพื้นที่ที่จัดกิจกรรมที่น่าสนใจช่วงสงกรานต์กระจายอยู่ทั่วประเทศ ใครอยากเที่ยวใกล้ ก็เลือกเที่ยวในภูมิภาคของตัวเองได้ โดยเฉพาะคนภาคใต้ ที่อาจจะมีอุปสรรคจากภัยน้ำท่วมช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ไม่อยากไปไหนไกล ก็เดินสายเที่ยวกันเองภายในภูมิภาค น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะได้ผ่อนคลายความเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเกื้อ กูลให้เกิดการ กระจายรายได้ในภูมิภาคของตัวเองอีกด้วย
   
และสำหรับใครที่อยากเที่ยวไกล ๆ การไปเที่ยวข้ามเขตภูมิภาคของตัวเองก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่เพื่อความมั่นใจ ว่าไปแล้วมีที่ให้พัก ก็ควรตรวจสอบที่พักว่างในพื้นที่ที่จะไปเที่ยวกันก่อน ซึ่งเรื่องนี้ สามารถตรวจสอบได้ทาง เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672 ที่ ททท. ได้ระบุไว้แล้วว่า จะใช้เบอร์นี้เป็นศูนย์กลางคอยให้ข้อมูลว่าที่พักที่ไหนยังว่างอยู่บ้าง พร้อม ๆ กับการให้ข้อมูลผ่านช่องทางสังคมออนไลน์ที่มีอยู่ 
   
ทั้งนี้กิจกรรมสำคัญที่ทุกพื้นที่มี คือ การทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุ เพียงแต่จะมีรูปแบบกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ตามขนบธรรมเนียม ประเพณีของพื้นที่นั้น ๆ รวมทั้งมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่เป็นจุดเด่นของพื้นที่มากระตุ้นต่อมอยากเที่ยว แตกต่างกันไป ซึ่ง “เดลินิวส์” ได้คัดเลือกพื้นที่ที่มีกิจกรรมน่าสนใจบางส่วน มาเสนอเป็นทางเลือกให้ ดังนี้

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=310&contentID=132032
26  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / กิจกรรมวันสงกรานต์ และเรื่องน่ารู้ ปี 2554 เมื่อ: เมษายน 09, 2011, 05:42:32 am
กิจกรรมวันสงกรานต์ และเรื่องน่ารู้

เป็นลิงก์เก่าอ่านแล้วมีสาระเหมือนทุกปี นะคร้า...

จึงไม่ต้องโพสต์ใหม่ คร้า...



อ่านได้ที่ลิงก์นี้ นะคร้า...
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=449.0
27  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / อนาถลูกชายนั่งเฝ้าศพแม่นาน5วันย่านบางมด เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 07:18:10 am
สลด...ลูกชายมีอาการทางประสาท นั่งเฝ้าศพแม่เฒ่าวัยดึก  นานประมาณ 5 วัน ย่านบางมด

วันนี้ 7 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   ร.ต.ท.บุญช่วย ร่วมสมัคร ร้อยเวร สน.บางมด รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตที่ห้องเช่าเลขที่ 32/11 ม.4 ซ.พระราม 2 ซ. 18 แขวงและเขตจอมทอง ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์จากรพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 2 ชั้นแบ่งเป็นห้องให้เช่าจำนวน 16 ห้อง ที่ห้องหมายเลข 10 ชั้นล่าง พบศพนางซุ้นยู้ แซ่พั้น อายุ 88 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่พื้นห้องสวมเสื้อคอกระเช้าสีเขียวอ่อน สวมผ้าถุงสีดำ สภาพศพขึ้นอืดแล้ว มีนายสมชาย แซ่จู อายุ 59 ปีลูกชายนั่งเฝ้าศพผู้เป็นแม่อย่างใกล้ชิดและตะโกนเรียกแม่อยู่ตลอดเวลา เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็นอย่างมาก จากการตรวจสอบไม่พบบาดแผลใด ๆ ตามร่างกายของผู้ตายแพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน จึงมอบให้เจ้าหน้าที่นำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสีย ชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

จากการสอบสวนนางวลิสา อำนวยผล อายุ 58 ปี เจ้าของห้องเช่า ให้การว่า ปกติผู้ตายอาศัยอยู่กับนางหมวย แซ่จู และนายสมชาย ลูกสาวและลูกชายที่ห้องเช่ากัน  3 คน โดยเช่าห้องอยู่มานานกว่า 8 ปีแล้ว โดยทั้งหมดไม่ได้ทำงานอะไร เนื่องจากผู้ตายอายุมากแล้ว ส่วนนางหมวยและนายสมชายก็ป่วยมีอาการทางประสาทด้วยกันทั้งคู่ ทุกวันนางหมวย จะเป็นคนออกไปขออาหารชาวบ้านที่ใจบุญมาประทังชีวิตกันทั้งครอบครัว  กระทั่งในวันนี้มีผู้ที่พักอยู่ห้องข้าง ๆ มาบอกตนว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงโชยออกมาจากห้องดังกล่าว ตนจึงมาเคาะประตูเรียกแต่ก็ไม่มีใครเปิดจึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปก็ต้องตกใจ เมื่อพบนายสมชายกำลังนั่งเฝ้าศพผู้เป็นแม่อย่างน่าเวทนา

เบื้องต้นสันนิษฐานว่าสาเหตุที่ผู้ตายเสียชีวิตมาจากโรคประจำตัวประกาย

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=131621

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม วันนี้ ก็ดูที่อดีตชาติ ก็จะรู้กรรมที่ผ่านมา
เกิดเป็นมนุษย์ ก็ชื่อว่าโชคดี เกิดมาแล้วมีอาการครบ 32 ก็โชคดี เกิดมาแล้วมีสติ ปัญญา ก็โชคดี
เกิดมาแล้วมีกัลยาณมิตร ก็โชคดดี เพิ่มขึ้น แต่โชคดีเหล่านี้ ก็คือผลกรรมที่สร้างไว้ในเวลาที่ผ่านมา
บางคนไม่สร้า่งกรรมดี อะไร ที่หมายต่อไปก็คือความลำบาก ลำบน ยิ่งกว่าปัจจุบัน

จากข่าวนี้จะเห็นว่า ชีวิต ที่ลำบากนั้นไม่ใช่มีชีวิตเราเพียงผู้เดียว ดังนั้นอยากให้คนที่มีความทุกข์
เวลาอ่านข่าวที่หมวยจ้า นำมาโพสต์ ได้นำกลับไปกระทบชีวิต ให้เห็นทุกข์...เข้าใจทุกข์ และเหตุแห่งทุกข์
เพื่อจะได้ออกจากวนเวียนแห่งความทุกข์กันเสียที

แค่นี้ หมวยจ้า ก็ดีใจ และ ขออนุโมทนากับชีวิตที่เห็นตามความเป็นจริง คร้า..
28  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แผ่นดินไหวที่ พม่า ส่งผลถึง ไทย ด้วยคะ เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 07:03:00 am
แผ่นดินไหว ที่พม่า 4.6 ริกเตอร์ ส่งผลถึงประเทศไทย ที่ แม่จัน และ เชียงแสน ห่างกัน 118 กม.

แรงสั่นสะเทือนนี้ ทำให้คนทางเขตภาคเหนือ ต้องระวังตัวกันมากขึ้น เพราะยังมีการสั่นไหว อย่างต่อเนื่อง เป็นระยะ

 ???
29  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เมืองทุ่งสงจมบาดาล เขื่อนวังอ้ายว่าวแตก น้ำทะลักเข้าท่วม ชาวบ้านหนีตายชุลมุน เมื่อ: มีนาคม 30, 2011, 06:11:48 am
เมืองทุ่งสงจมบาดาล เขื่อนวังอ้ายว่าวแตก น้ำทะลักเข้าท่วม ชาวบ้านหนีตายชุลมุน ตร.-ทหารเร่งออกเรือช่วยราษฎร



พระราชทานถุงยังชีพช่วยราษฎร

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลอากาศตรีจักรพงษ์ หอมไกรลาส กรมวังผู้ใหญ่ กองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 1,000 ถุง ไปมอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ต่อจากนั้น ผู้แทนพระองค์เดินทางไปมอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 1,000 ถุง ไปมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ โรงเรียนพนังตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยจัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร มาตรวจรักษาผู้ประสบภัยพิบัติที่มีอาการเจ็บป่วย

ฝนถล่ม-น้ำท่วมหนักตายแล้ว 8 ราย

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะอำนวยการกำกับและติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย( คชอ.) แถลงว่า ขณะนี้มีการประกาศภัยพิบัติ 7 จังหวัดได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สงขลา และกระบี่ สถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยกรมอุตุนิยมวิทยารายงานให้ที่ประชุมทราบว่า สถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องลักษณะนี้จะเป็นไปอีกอย่างน้อย 5 วัน ทำให้รัฐบาลกังวลว่า สถานการณ์จะรุนแรงกว่าปลายปี 2553 และขณะนี้ถือว่า บางพื้นที่สถานการณ์หนักกว่าปี 2553 แล้ว โดยเทียบเคียงได้กับปี 2531 น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ เพราะในเดือนมี.ค.ไม่เคยมีน้ำท่วมหนักขนาดนี้มาก่อน ล่าสุดได้สั่งการอพยพคนออกจากบริเวณแหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราชแล้ว เนื่องจากคลื่นลมค่อนข้างแรง และจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 คน

อย่างไรก็ตามคชอ.กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแยกแยะการให้ความช่วยเหลือ ประชาชนเป็นรายกลุ่มคือ 1.พื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม และเคยมีปัญหาดินถล่มมาแล้ว ให้อพยพประชาชนมาอยู่ในที่ปลอดภัย โดยไม่ต้องรอดูสถานการณ์ 2.กลุ่มประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่ม น้ำท่วมถึง แต่ละจังหวัดต้องประเมินว่า ปริมาณน้ำท่วมจะมากกว่าปี 2553 หรือไม่ จึงค่อยเคลื่อนย้ายอพยพสิ่งของออกจากพื้นที่ 3.นักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน ก็เตือนไม่ให้ออกไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ เนื่องจากสภาพทะเลมีปัญหาทั้งสองฝั่ง
   
คอช.เยียวยาเหยื่อน้ำท่วมใต้ 5 พัน

นายสาทิตย์กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมการช่วยเหลือเยียวยาโดยกำชับให้ ผู้ว่าฯใช้เงินทดรองราชการแต่ละจังหวัด หากไม่เพียงพอก็ทำเรื่องขอขยายวงเงินมายังรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่มีจังหวัดใดทำเรื่องขอขยายวงเงิน และวันที่ 30 มี.ค.กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)จะส่งอุปกรณ์ต่างๆในการช่วยเหลือประชาชน และอุปกรณ์ยังชีพที่ระดมจากภาคกลางและกทม. อาทิ แพยาง เรือติดเครื่องยนต์ ถุงยังชีพเข้าไปในพื้นที่ นอกจากนี้กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจะอนุมัติงบฯเบื้องต้น 20 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อถุงยังชีพไปแจกให้ประชาชน บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นก่อน จากนั้นในวันที่ 31 มี.ค.รัฐบาลจะจัดงานเพื่อขอบริจาคเงินช่วยเหลือผ่านทาง ช่อง 9 อสมท. อย่างไรก็ตามคชอ. จะประชุมในวันที่ 30 มี.ค.เพื่อพิจารณาและกำหนดหลักเกณฑ์ให้ความช่วยเหลือประชาชน และการให้เงินเยียวยา 5 พันบาท โดยจะพิจารณาจากภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อดูพื้นที่ได้รับความเสียหายว่า ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด

ภาคใต้ฝนมากสุดในรอบ 30 ปี

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (29 มี.ค.) อุณหภูมิพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร บางจุดวัดได้ 19 องศาเซลเซียส มีอากาศเย็น เนื่องจากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุม คาดว่า จะคงสภาพอย่างนี้จนถึงวันที่ 31 มี.ค. จากนั้น จะเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับพื้นที่ภาคใต้ที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำยังปกคลุมภาคใต้ตอนกลาง ทำให้มีฝนตกต่อเนื่องอีก 1-2 วัน คาดว่า วันที่ 30 มี.ค.จะเบาบาง โดยระบุว่า ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีปริมาณฝนสะสมช่วง 24 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 28-29 มี.ค. ถึง 414.7 มม. ถือว่าเป็นปริมาณมากผิดปกติ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 30 ปี

สองอ่างเก็บน้ำเมืองคอนเกินพิกัด

ขณะเดียวกัน อ่างเก็บน้ำคลองดินแดง ต.เขาพระ และอ่างเก็บน้ำกระทูน ต.กระทูน จ.นครศรีธรรมราช ไม่สามารถรองรับน้ำเพิ่มได้อีกแล้วเนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระบายน้ำออกจากอ่าง เพราะเกรงจะเกิดการแตกร้าว  นอกจากนี้ดินและหินบนภูเขาในพื้นที่หมู่ 10 ต.เขาพระ ได้เกิดถล่มลงมาเป็นวงกว้างหลายจุด จนสะพานขาดหลายแห่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายได้
 
เขื่อนวังอ้ายฯ แตกทุ่งสงจมบาดาล
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลทะลักลงมาตามลำคลองท่าเลาและคลองทุ่งสงเข้า ท่วมตลาดในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ประกอบกับเขื่อนวังอ้ายว่าว ต.นาหลวงเสน แตกเป็นเหตุให้น้ำเข้าท่วมตัวเมืองอย่างรวดเร็วจนชาวบ้านพากันหนีน้ำตั้งตัว แทบไม่ทัน ต่างพากันขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย ถนนทุกสายในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสงจมอยู่ใต้น้ำ ถนนชนปรีดาซึ่งเป็นถนนสายเศรษฐกิจระดับน้ำสูงถึง 1-2 เมตร ลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้ใหญ่หลายต้นในเขตเทศบาลโค่นล้มลงมาจำนวนหลายต้น

นาย ทรงชัย วงษ์วัชรดำรง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองทุ่งสง นำเจ้าหน้าที่เทศกิจและหน่วยบรรเทาสาธารณภัยระดมกำลังไปช่วยเหลือประชาชนที่ ประสบภัยแล้วอย่างรีบด่วน ขณะเดียวก้นทหารจากค่ายเทพกษัตรี-ศรีสุนทร และ ตชด.ที่ 42  ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง นำเรือท้องแบนและรถยนต์ทหารมาช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของประชาชนหนีน้ำกันแล้ว

เขาธงถล่มอพยพชาวบ้านหนีตายวุ่น

นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ นายอำเภอช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช  ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า ได้เกิดภูเขาพังถล่มลงมาปิดถนนสายช้างกลาง-นครศรีธรรมราช เหตุเกิดบริเวณเขาธงอยู่เทือกเขาบรรทัด หมู่ 14 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.สภ.ช้างกลาง พบมีก้อนหินขนาดใหญ่ และดินจากภูเขาธง พังทลายลงมาทับถมถนน มีความหนาจากระดับผิวถนนถึง 4 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 200 เมตร และยังมีก้อนหินพังถล่มลงมาตลอดเวลาเนื่องจากฝนยังคงตกหนัก เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามเชิงเขาลงมาไปอยู่ในที่ ปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย

ด้าน พ.ต.อ.สมโชค ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดแจ้งเตือนรถยนต์ที่จะเดินทางไปนครศรีธรรมราช

ยังไม่รู้ชะตากรรม ผญบ.ปากหมาก

ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทุกพื้นที่ของจังหวัดยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อ.ไชยา อ.ท่าชนะ และ อ.ท่าฉาง ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และสถานที่ราชการ ระดับน้ำสูงประมาณ 60 ซม. นอกจากนี้ บนถนนสายเอเชีย 41 ตั้งแต่หลักกิโลเมตรที่ 134 ไปจนถึงบริเวณแยกไชยา ระยะทางประมาณ 5 กม. ระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม. รถยนต์เล็กไปจนถึงรถบรรทุก 6 ล้อ ไม่สามารถสัญจรได้ ส่งผลให้การจราจรทั้งขาขึ้น และขาล่องเป็นอัมพาต

ส่วนกรณีที่ นายชำนาญ ไมอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ปากหมาก อ.ไชยา ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดหายลงไปในคลองปากหมาก ขณะนำลูกบ้านช่วยกันเขี่ยกิ่งไม้ที่ติดอยู่ใต้สะพานป้าปุก เพื่อระบายน้ำนั้น จนถึงช่วงสายวันนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งทาง นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งค้นหาตั้งแต่รับแจ้งเหตุแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แวว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมารถไฟสายใต้ไม่สามารถเดินรถได้ เนื่องจากเกิดน้ำท่วมทางช่วงสถานีไชยา เขาพนมแบก ท่าชนะ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ท่าชนะ พบว่า กระแสน้ำได้พัดพาหินโรยทางหายไปเกือบหมด ทำให้ทางรถไฟเสียหายเป็นระยะทางประมาณ 30 เมตร

นายประเสริฐ รัตนพันธ์ นายสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ประกาศหยุดเดินรถอย่างไม่มีกำหนด โดยขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ อ.ไชยา และท่าชนะ ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น สำหรับผู้โดยสารที่ติดค้างอยู่ที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีนั้น ได้ส่งขึ้นรถยนต์โดยสารไปยังจุดหมายแล้ว ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์เดินทางต่อ ทางสถานีได้จ่ายเงินค่าตั๋วคืนเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางล่วงหน้าสามารถขอคืนเงินได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง

อพยพ 717 นักโทษคุกไชยาหนีน้ำ

นายพัชรพล แสงจำนงค์ ผบ.เรือนจำกลางไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้น้ำได้ไหลเข้าท่วมเรือนนอนชั้น 1 สูง 1 เมตร  จนเจ้าหน้าที่ต้องเคลื่อนย้ายนักโทษทั้งหมดที่มีอยู่ 717 คน เป็นนักโทษหญิง 100 คน ขึ้นไปอยู่บนเรือนนอนชั้น 2  ขณะที่สถานการณ์ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลงแต่อย่างใด และระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงได้รายงานเหตุการณ์ไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอความเห็นชอบในการ เคลื่อนย้ายนักโทษทั้งหมดไปยังเรือนจำกลาง จ.นครศรีธรรมราช

สุราษฎร์เจ๊ง 1,500 ล้านบาท

นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ อ.ชัยบุรี อ.เวียงสระ อ.บ้านนาเดิม และ อ.นาสาร ให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำตาปีที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง และ อ่างเก็บน้ำกะทูน ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้ ต้องปล่อยน้ำเฉลี่ย 85 ลบ.ม.ต่อวินาที   ซึ่งหากปริมาณฝนยังคงตกหนักต่อเนื่องคาดว่าภายใน 2 วัน น้ำจะไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.พุนพิน อ.เมือง และ อ.บ้านนาเดิม จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการการระบายน้ำและวางแผน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว อย่างไรก็ตามพบว่าประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวมีการเตรียมตัวรับมือ กันเป็นอย่างดี และต้องยอมรับว่าอุทกภัยครั้งนี้รุนแรงกว่าเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นประเมินความเสียหายใน 19 อำเภอ  มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,200 ล้านบาท ส่วนที่ อ.สมุย ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท

เขื่อนรัชประภาหยุดผลิตไฟไม่มีกำหนด

ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ ผลพฤกษ์ ผู้อำนวยการเขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ชี้แจ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อน หลังประชาชนในพื้นที่ใต้เขื่อนเกิดความไม่มั่นใจเกรงว่าเขื่อนฯจะปล่อยน้ำ ว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ได้หยุดเดินเครื่องมาตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาเพื่อช่วยลดปริมาณน้ำในคลองพุมดวง  และจะหยุดเดินเครื่องโดยไม่มีกำหนด อย่างไรก็ตามขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนมีอยู่ราวร้อยละ 80 ส่วนอ่างเก็บน้ำสามารถกักเก็บน้ำได้อีก 1,735 ลบ.ม.

ทัศนวิสัยแย่เที่ยวบินเกาะสมุยระงับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้ประกาศเลื่อนเวลาทุกเที่ยวบินที่จะเดินทางไปยัง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  เนื่องจากยังมีฝนตกหนัก และสภาพอากาศแปรปรวน โดยคาดว่า จะเริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกได้ในเวลา 12.00 น. วันนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1771

บางกอกแอร์ฯ เลื่อนบินสมุยอีก 3 ชม.

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ประกาศเลื่อนเวลาทุกเที่ยวบินที่ให้บริการเข้าออกจากเกาะสมุยตั้งแต่ 06.00-15.00 น. โดยจะเริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกจากกรุงเทพ เวลา 15.00 น. เนื่องจากสภาพอากาศบริเวณเกาะสมุยยังคงมีฝนตกหนักและมีลมมรสุมแปรปรวนซึ่ง ไม่อำนวยต่อการทำการบิน

“อ้อม-พิยดา” ทวิตฯ ติดเกาะเต่า 3 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเอกละคร และพิธีกรดัง อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ โดยบอก ตัวเองติดอยู่ที่เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี มา 3 วันแล้ว ส่วนอาหารของแห้งยังพอดี แต่ถ้าสภาพอากาศยังเป็นแบบนี้อีก 5 วัน คงแย่ เพราะน้ำมันเหลือน้อยมาก โดนน้ำพัดไปหลายลิตร อาจจะไม่มีไฟใช้ ตอนนี้ตัวเองยังไม่ลำบากเท่าไหร่ แต่คนอื่นลำบากมากกว่าเยอะ นอกจากนี้ ยังทวิตบอกว่า เสื้อผ้าที่เอามาใส่หมดแล้ว ตอนนี้ต้องซักเปลี่ยนใส่เอง

13 อำเภอนราธิวาสเผชิญวิกฤติน้ำท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ราบลุ่มทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ได้เกิดน้ำท่วมขังสูงเฉลี่ย 40-50 เซนติเมตร โดยเฉพาะถนนย่านธุรกิจการค้าสำคัญของอำเภอเมือง และสุไหงโก-ลก น้ำได้ไหลทะลักเข้าร้านค้าต่างได้รับความเสียหาย ส่วนบริเวณริมถนนภายในซอยละม้ายอุทิศ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส มีต้นไม้ใหญ่ถูกพายุพัดหักโค่น  คาดว่า หากฝนยังไม่หยุด จะเกิดน้ำท่วมขยายเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดอย่างแน่นอน

น้ำป่าเทือกเขาบูโดไหลบ่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่าจากเทือกเขาบูโด จ.นราธิวาส ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรอยต่อระหว่าง อ.แว้ง กับ อ.สุไหงปาดี ได้ไหลทะลักลงมาเข้าท่วมถนนสายหลักที่มุ่งสู่น้ำตกฉัตรวารินทร์ ทำให้คอสะพานหมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง ถูกกระแสน้ำกัดเซาะพังเสียหาย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว จำนวนกว่า 100 ครัวเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

พังงาน้ำท่วมถนนทรุดดินถล่ม

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ถนนเพชรเกษม สายเขานางหงส์-ตำบลถ้ำทองหลาง อ.ทับปุด จ.พังงา ได้เกิดดินจากภูเขาถล่มลงมากีดขวางเส้นทางการจราจรหลายจุด และในบางช่วงพื้นผิวถนนยังทรุดตัวแตกร้าว จนเจ้าหน้าที่ได้ประกาศปิดถนนสายดังกล่าวเพื่อเข้าไปซ่อมแซม ส่วนอีกจุดที่บริเวณหมู่ 5 ต.บางเหรียง  ถนนสายบางเหรียง-พนม มีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 60 เมตร รถยนต์ขนาดเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง

 

ส่งเรือรบหลวงสุโขทัยช่วยนักท่องเที่ยว

พล.ร.ท.วิฑูรย์ คัมภีระพันธ์ ผบ.ทัพเรือภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากนายก อบต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งต้องการเดินทางออกจาก เกาะเต่า แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากคลื่นลมแรงและเรือโดยสารหยุดให้บริการมาตั้งแต่ วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางกองทัพเรือจึงได้จัดส่งเรือหลวงสุโขทัย เข้าให้การช่วยเหลือเพื่อขนย้ายนักท่องเที่ยว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าใกล้เกาะได้ เนื่องจากคลื่นลมแรงจนไม่สามารถปล่อยเรือเล็กลงไปรับนักท่องเที่ยวได้ อย่างไรก็ตามหากพายุฝนลดลงคาดว่าเรือหลวงสุโขทัยจะสามารถปฎิบัติภารกิจได้

ทางด้านนายภานุ วรมิตร ผอ.ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีนักท่องเที่ยวอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ต้องการเดินทางออกจากเกาะอย่างน้อย 1,000 คน โดยที่ เกาะเต่า มีประมาณ 300 คน โดยหนึ่งในนั้นมีดาราสาวชื่อดัง ซึ่งเดินทางไปร่วมงานเปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่ารวมอยู่ด้วย ส่วนที่เกาะพะงัน จำนวน 200 คน และ ที่ อ.เกาะสมุยจำนวน 5-600 คน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนนี้ไม่ได้บุ๊คเดินทางด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ซึ่งตนกำลังประสานไปยังกองทัพเรือ ในการนำเรือรบเข้าไปรับนักท่องเที่ยวทั้ง 3 เกาะ ให้มาขึ้นฝั่งที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

ไฟเขียวลูกจ้างน้ำท่วมหยุดงานได้

ที่กระทรวงแรงงาน นางอัมพร  นิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงสถานประกอบการที่ได้ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ว่า ขณะนี้มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และพัทลุง โดยจังหวัดนครศรีธรรมราชมีสถานประกอบกิจการน้ำท่วม 12 แห่ง จังหวัดสุราษฏร์ธานี 15 แห่ง ส่วนจังหวัดพัทลุงยังไม่มีรายงานแจ้งจากสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปว่าประสบกับปัญหาน้ำท่วม แต่มีลูกจ้างประมาณร้อยละ 30 ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้
ทั้งนี้กสร.ได้ออกประกาศขอความร่วมมือนายจ้างให้ลูกจ้างหยุดงานโดยที่ไม่ถือ เป็นวันลาและไม่เป็นความผิด หากลูกจ้างมาทำงานไมได้ ขอให้คณะกรรมการความปลอดภัยร่วมมือกับนายจ้างในการตรวจสอบเกี่ยวกับระบบความ ปลอดภัยในสถานประกอบการ และให้สหภาพแรงงาน สภาองค์กรลูกจ้าง สภาองค์กรนายจ้าง และผู้ประกอบการ ปรึกษาหารือร่วมกันในการแก้ปัญหาดังกล่าว

คนคอนกว่า2แสนเดือดร้อน

ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เกิดขึ้น 7 จังหวัด 63 อำเภอ 316 ตำบล 2,763 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 310,406 ครัวเรือน 979,665 คน มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 22 อำเภอ 143  ตำบล  1,152 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 63,292 ครัวเรือน 202,715 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 114,824 ไร่ ถนนเสียหาย 665 สาย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอเมือง ลานสกา ร่อนพิบูลย์ พระพรหม พิปูน เฉลิมพระเกียรติ หัวไทร จุฬาภรณ์  ชะอวด ขนอม สิชล นบพิตำ ปากพนัง พรหมคีรี ท่าศาลา ถ้ำพรรณรา ช้างกลาง เชียรใหญ่ ฉวาง นาบอน ทุ่งใหญ่ และทุ่งสง

11 อำเภอพัทลุงจมชาวบ้านน้ำดับ1

ด้าน จ.พัทลุง น้ำท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ 63 ตำบล 563 หมู่บ้าน 45 ชุมชน ราษฎรเดือดร้อน 161,417 ครัวเรือน 508,738 คน  มีผู้เสียชีวิต 1 ราย  อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่  อำเภอเมืองพัทลุง เขาชัยสน ควนขนุน กงหรา ศรีบรรพต บางแก้ว ป่าพะยอม ศรีนครรินทร์ ป่าบอน ตะโหมด และปากพยูน

น้ำป่าถล่ม503หมู่บ้านสุราษฎร์

นาย วิบูลย์ กล่าวต่อว่า จ.สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 13 อำเภอ 76 ตำบล 503 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 49,676 ครัวเรือน 187,603 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 6,800,000 บาท อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ดอนสัก กาญจนประดิษฐ์  ไชยา  เวียงสระ ท่าชนะ บ้านนาสาร บ้านนาเดิม  คีรีรัฐนิคม เกาะสมุย วิภาวดี พุนพิน และท่าฉาง  จ. ตรัง เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ 34 ตำบล 106 หมู่บ้าน และ 3 เทศบาล ราษฎรเดือดร้อน 1,720 ครัวเรือน 5,520 คน อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่  อำเภอเมืองตรัง ห้วยยอด รัษฎา นาโยง และย่านตาขาว

ชุมพร-สงขลา-กระบี่ฝนถล่มยับ

นายวิบูลย์ กล่าวอีกว่า จ.ชุมพร เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ 1 เทศบาลเมือง 37 ตำบล 320 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 12,635 คน   37,045 ครัวเรือน ถนน 246 สาย พื้นที่การเกษตร 1,242 ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 30,904,00 บาท อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร  สวี หลังสวน ละแม พะโต๊ะ ทุ่งตะโก และปะทิว จ.สงขลา เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ 14 ตำบล 73 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 9,3758 ครัวเรือน 28,144 คน อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอระโนด และกระแสสินธุ์  จ. กระบี่ เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ 7 ตำบล 47 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,250 ครัวเรือน 9,750  คน อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอเขาพนม ลำทับ และเกาะลันตา

ทางหลวง5สายจว.ใต้ใช้การไม่ได้

นาย วิบูลย์ ยังกล่าวด้วยว่า จากการประสานข้อมูลเส้นทางจราจรที่มีน้ำท่วมขังกับกรมทางหลวง พบว่า มีน้ำท่วมขังเส้นทางจราจรไม่สามารถผ่านได้ 5 สาย ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย 1.  นครศรีธรรมราช 2 สาย ได้แก่ สาย  4186  โรงเหล็ก-กรุงชิง ท้องที่อำเภอนบพิตำ กม.1-2 คอสะพานขาดที่ กม.1 กม.5  สาย  4189  ท่าพุด- เขาหลวง ท้องที่อำเภอนบพิตำ กม.1-4 เป็นแห่งๆทางขาด ที่ กม.5  2. ตรัง 1 สาย ได้แก่ สาย  4270  ห้วยยอด-พัทลุง ท้องที่อำเภอห้วยยอด ดินสไลด์ปิดทับคันทาง ที่ กม. 29-30 ให้ใช้ทางหลวงชนบทแทน 3. ชุมพร 1 สาย ได้แก่ สาย  4006  ราชกรูด-หลังสวน ท้องที่อำเภอหลังสวน น้ำท่วมสูง 100 ซม. ที่กม. 54-55 ไม่มีสายทางทดแทน 4. ระนอง 1 สาย ได้แก่ สาย 4  กะเปอร์-คลองกำพวย ท้องที่อำเภอกะเปอร์ น้ำกัดเซาะทางที่ กม.670 ให้ใช้ถนนหมู่บ้านบางหินแทน

นายวิบูลย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สนามบินจังหวัดนครศรีธรรมราช และสนามบินเกาะสมุย ไม่สามารถเปิดใช้การได้ ส่วนสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ไม่สามารถเข้า-ออก สถานีได้ เนื่องจากยังมีน้ำท่วมสันรางสูงกว่า 10 ซม.เป็นระยะ ๆยาว 120เมตร ซึ่งรถไฟสายใต้ ให้บริการได้ถึงสถานีจังหวัดชุมพร

บางกอกแอร์เวย์-รพ.กรุงเทพ ตั้งศูนย์รับบริจาค

รายงาน ข่าวจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ร่วมกับเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ   จัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้” ขึ้นที่สำนักงานใหญ่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ถนน วิภาวดีรังสิต  โดยเปิดรับบริจาคเงิน และเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อส่งไปบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ประสบอุทกภัย   นอกจากนี้สายการบินบางกอกแอร์เวย์ยังได้ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ ประสบภัย จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือชาวบ้าน โดยใช้จังหวัดสุราษฏร์ธานีเป็นศูนย์กลางในการกระจายความช่วยเหลือต่าง ๆ โดยบางกอกแอร์เวย์พร้อมส่งเครื่องบินลำเลียงสิ่งของที่ได้รับบริจาคผ่านมา ทางสำนักงานของบางกอกแอร์เวย์ในจังหวัดต่างๆที่ทำการบินอยู่ เช่น เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย ตราด  ไปยังสนามบิน จ.สุราษฏร์ธานี
ส่วนทางเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ร่วมบริจาคเงินและสิ่งของมูลค่ารวม 10 ล้านบาท และส่งเฮลิคอปเตอร์ไปประจำที่สนามบินสุราษฏร์ธานี เพื่อช่วยลำเลียงสิ่งของบริจาคเข้าไปในพื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจาก เหตุอุทกภัยในครั้งนี้ รวมทั้งลำเลียงผู้ป่วยหนักส่งไปยังโรงพยาบาลกรุงเทพที่ สมุย ภูเก็ต และหัวหิน

มรภ.สุราษฎร์ให้โอกาสสอบรอบ 2

ผศ.ประสงค์ หลำสะอาด ผอ.สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ กำหนดสอบคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาต่อเป็นนักศึกษาภาคปกติ ประจำปีการศึกษา 2554 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าได้ในช่วงวันดังกล่าวได้เกิดอุทกภัยในเขตจังหวัดภาคใต้ทำให้มีนัก เรียนส่วนหนึ่งไม่สามารถมาทำการสอบได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือและให้โอกาสแก่นักเรียนได้เข้าศึกษาต่อ  มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีจึงอนุญาตให้นักเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ ไม่สามารถมาทำการสอบในวันดังกล่าวได้ ให้มาสอบในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เวลา 09.00-12.00 น. หรือหากมีข้อสงสัยสอบถามที่โทรศัพท์หมายเลข  077-913333 ต่อ 215


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=420&contentID=129601
30  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 10 อันดับผลไม้ที่บริโภค แล้วอ้วน คร้า.. เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 03:09:52 am
ทราบหรือไม่ว่าการกินผลไม้นอกจากมีประโยชน์แล้วยังสามารถทำให้อ้วนได้อีก
การกินผลไม้ กินแล้วดี มีประโยชน์มากมาย แต่บางครั้งก็ต้องเลือกกิน และกินในปริมาณที่พอดี เพราะมีผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้
                           
ผลไม้ที่กิน แล้วอ้วนสุด ๆ คือ กล้วยไข่                   
อันดับ 2 คือ กล้วยน้ำว้า                   
อันดับ 3 คือ ขนุน                   
 
อันดับ 4 คือ กล้วยหอม                       
อันดับ 5 คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก                   
อันดับ 6 คือ ลำไยกะโหลกเขียว                               
อันดับ 7 คือ ลองกอง                 
อันดับ 8 คือ เงาะ               
อันดับ 9 คือ ลางสาด                     
อันดับสุดท้ายน้ำตาลน้อยสุด คือ ละมุด



 

ไม่น่าจะหลุดจากอันดับ แต่ ก็เชื่อว่า อ้วนนะคร้า..

แต่ "ทุเรียน" ก็เป็นผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลสูงมาก ๆ ใครที่กินรับรองอ้วนแน่
 
ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ได้แก่ แอปเปิ้ล ขมพู่ ฝรั่ง มะม่วงดิบ มะละกอ และ แตงโม
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าไม่อยากอ้วนจนเกินไป ลองหาผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วนมากินกันได้
31  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / ตำนานพระกรรมฐาน กับ พระปฐมเจดีย์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 02:56:19 am



คณะพระโสณเถร พระอุตรเถร มานครศรีธรรมราช
คณะของพระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า พักเผยแผ่พระศาสนาอยู่ในเกาะลังกา เป็นเวลาระยะหนึ่ง  จึงเดินทางออกจากเกาะลังกา มานครตามพรลิงค์ หรือสิริธรรมราช หรือนครศรีธรรมราช 
เมื่อมาจากเกาะลังกานั้น มีพระสงฆ์สัทธิวิหาริก ติดตามมาอีก ๕ รูป คือ ๑.พระโสตถิยะเถร ๒.  พระชิตตะเถร ๓. พระเสวกะเถร ๔.  พระชินโสเถร ๕.  พระปาละเถร   รวมเป็น ๑๗ รูป
คณะพระโสณเถร พระอุตรเถร พักเผยแผ่พระศาสนาที่นครศรีธรรมราช เป็นเวลาประมาณ ๓ ปี จึงเดินทางออกจากนครศรีธรรมราช มาสุวรรณภูมิ มีสัทธิวิหริก จากนครศรีธรรมราช ติดตามจาริกมาด้วยอีก ๓ องค์ คือ ๑.พระโกลันยาเถร ๒.พระปิตะเถร ๓.พระเชตุเถร  รวมเป็น ๒๐ องค์
คณะพระโสณเถร พระอุตระเถร เดินทางมาถึงสุวรรณภูมิ
    คณะของ พระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถระเจ้า พระชาลตะเถรเจ้า พระกิตตระเถระเจ้า และ พระภูริยะเถรเจ้า พร้อมคณะสงฆ์อีก ๑๕  รูปคือ ๑.พระญาณเถรเจ้า ๒. พระณิชาเถรเจ้า ๓. พระปถวีเถรเจ้า ๔. พระชาติเถรเจ้า ๕. พระติสสเถรเจ้า ๖. พระปาโสเถรเจ้า ๗. พระเตชิตะเถรเจ้า ๘. พระโสตถิยะเถรเจ้า ๙. พระชิตตะเถรเจ้า ๑๐. พระเสวกะเถรเจ้า ๑๑. พระชินโสเถรเจ้า ๑๒. พระปาละเถรเจ้า ๑๓.  พระโกลันยาเถร ๑๔. พระปิตะเถร ๑๕.  พระเชตุเถร    รวมเป็นคณะพระสงฆ์ ๒๐ รูป  ออกเดินทางมายังดินแดนสุวรรณภูมิ
คณะของพระโสณเถร พระอุตรเถร ออกจากนครศรีธรรมราช (นครตาพรลิงค์) เข้าอ่าวจินหลิน (อ่าวไทย) มาขึ้นที่เมืองศรีสุวรรณ (เมืองนครปฐม) อันเป็นเมืองน้อย เป็นเมืองท่าชายทะเล เมื่อประมาณพุทธกาลล่วงแล้วได้ ๒๗๔ ปี   สมัยพระเจ้าศรีสุวรรณวงศาที่ ๑   
แถบนี้มีเมืองพระรถ (ชลบุรี) เมืองพลิบพลี (เพชรบุรี) เมืองตักศิลามหานคร เมืองโกสัมพี เมืองสาวัตถี  เมืองสุวรรณสังข์ (อู่ทอง-สุพรรณบุรี)  เมืองนครไชยศรี เมืองคูบัว (ราชบุรี) เมืองคูเมือง (สิงห์บุรี) เมืองอู่ตะเภา(ชัยนาท) เมืองจันเสน เมืองบน (นครสวรรค์) ดงละคร(ปราจีนบุรี) เมืองศรีเทพ(เพรชบูรณ์)
ปีพระพุทธศักราช ๒๗๔ นั้น อาณาจักรฟูนัน กำลังรุ่งเรื่อง แต่ไม่ได้แผ่ขยายอำนาจมาถึงเมืองเหล่านี้ เมืองเหล่านี้จึงตั้งตัวเป็นอิสระอยู่ทุกเมือง   
ยุคสุวรรณภูมิ มีศูนย์กลางอยู่ที่ เมืองตักศิลามหานคร และเมืองสุวรรณสังข์ (อู่ทอง) เพราะเป็นเมืองใหญ่ ภาคกลาง 
ส่วนทางทิศเหนือ  คือเมืองศรีเทพ (เพรชบูรณ์) เป็นเมืองใหญ่ เมืองเหล่านี้รวมเรียกว่า   ดินแดนสุวรรณภูมิ
ทีในดินแดนสุวรรณภูมิครั้งนั้น มีคนจำพวกหนึ่ง เป็นพวกชาวเกาะ เรียกว่าพวกผีเสื้อน้ำ เป็นผู้มีจิตใจร้าย มาจากเกาะกลางทะเล  ชอบกินเด็กทารกทั้งหลายที่เกิดแล้วในวัง ของพระเจ้าศรีสุวรรณ เมืองศรีสุวรรณ (นครปฐม) ครั้นกินเด็กแล้วก็กลับไปเกาะกลางทะเล มหาสมุทร
ขณะนั้นมีเด็กทารกคนหนึ่งคลอดในวัง ฝูงชนทั้งหลายเมืองศรีสุวรรณ (นครปฐม) เห็นคณะของ พระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า นุ่งห่มอย่างสมณะ คนเมืองศรีสุวรรณไม่เคยเห็น  ก็สำคัญผิดคิดว่าเป็นพวกของ นางมนุษย์กินคน ผีเสื้อน้ำ คนทั้งหลายก็กล่าวว่า พวกนางมนุษย์กินคนใจร้าย ผีเสื้อน้ำ  ของพวกเราทั้งหลายมาแล้ว
คณะของพระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า  ก็กล่าวว่า  พวกเราเป็นสมณะถือศีล ไม่ฆ่าสัตว์ มีกัลยาณธรรม   จะเป็นพวกของมนุษย์กินคน หามิได้  ท่านกล่าวยังไม่ทันจบ พวกผีเสื้อน้ำ มนุษย์กินคนนั้นก็มา
ขณะนั้นพวกมนุษย์กินคนใจร้าย ได้ออกมากับพวกพ้องด้วย  กล่าวว่าจะมากินทารกทั้งหลาย ของชาวเมืองศรีสุวรรณ  พวกชาวเมืองศรีสุวรรณพากันเห็นพวกนางมนุษย์กินคน ใจร้าย ก็พากันหวีดร้องทั่วไป  พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ตั้งกองระวังรักษา ณ. ที่นั้นอยู่โดยรอบ
คณะของพระเถรเจ้าทั้งหลายก็ แสดงตนให้ใหญ่กว่า พวกมนุษย์กินคนทั้งกลาย ๆ เห็นเข้าก็พากันกลัวหนีออกทะเลไปเกาะกลางสมุทร  พวกชาวเมืองศรีสุวรรณ ก็พากันชมชอบเคารพนับถือ คณะของพระโสณ พระอุตระเถร
คณะพระโสณเถร พระอุตระเถร เทศนาโปรดชาวเมือง
พระโสณเถรเจ้าเลือกเทศนา พรหมชาลสูตร  เพราะคนสมัยนั้นมีจิตใจร้ายชอบทำปานาติบาต กินคน ไม่มีกัลยาณธรรม
คำว่าผีเสื้อน้ำ หมายถึงคนมีจิตใจร้าย ใจบาป ไม่มีศีล ไม่มีธรรม เป็นชาวเกาะชาวประมง พระโสณเถรเจ้า เทศสอนให้ชนทั้งหลาย เมืองศรีสุวรรณ (นครปฐม) อยู่ในธรรมนองครองธรรม มีศีล มีกัลยาณธรรม ครั้งนั้นชาวเมืองศรีสุวรรณจำนวนมาก  คำรงอยู่ในไตรสรณคม  และศีลทั้งหลาย
ชาวเมืองศรีสุวรรณ ส่วนใหญ่เป็นชนชาติ มอญ โบราณ นับถือ ศาสนาพราหมณ์ นับถือผี  ต่อมามีผู้คนชาวเมืองศรีสุวรรณค่อยๆ เข้ามาบรรพชาอุปสมบทกันมากขึ้น ตามลำดับ โดยมีพระโสณเถร เป็นพระอุปัชฌาย์
พระเจ้าศรีสุวรรณวงศาที่ ๑ เมืองศรีสุวรรณ ทรงเลื่อมใส คณะของพระโสณเถภร พระอุตรเถร ทรงสร้าง  วัดปฐมโพธิ์คุณ (ปัจจุบันคือ วัดพระปฐมเจดีย์ ปฐมโพธิ์คุณ หมายถึงคุณแห่งพระพุทธเจ้า) ถวายพระมหาเถรผู้ใหญ่ทั้ง  ๕ รูป และคณะสัทธิวิหาริกของท่านอีก ๑๕ รูป อยู่จำพรรษา  ณ. วัดปฐมโพธิ์คุณ  เมืองศรีสุวรรณ
คณะของพระโสณเถรเจ้า และพระอุตระเถรเจ้า ได้อัญเชิญหน่อพระศรีมหาโพธิ์  จากพุทธคยา ในชมพูทวีป  และพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้ามาด้วยทะนานหนึ่ง  ทั้งสองสิ่งนี้ พระเจ้าอโศกมหาราช พระราชทานให้มาในครั้งนั้นด้วย  เพื่อนำไปประดิษฐานพระพุทธศาสนาในนานาประเทศ
ปัจจุบันนี้ หน่อพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งคณะของพระโสณเถร พระอุตระเถร นำมาได้สูญหายไปแล้ว  ส่วนพระบรมสารีริกธาตุจำนวนหนึ่ง อยู่ในองค์พระปฐมเจดีย์องค์เดิมข้างใน
ปูชณีย์วัตถุ สำดัญ ยุคสุวรรณภูมิ
๑.พระธาตุเจดีย์  พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงแจกพระบรมสารีริกธาตุ ไปประดิษฐานในประเทศต่าง ครั้งนั้นคณะของ พระโสณเถร พระอุตระเถร  ได้นำพระบรมสารีริกธาตุ มาสุวรรณภูมิในครั้งนั้นด้วย ปัจจุบันบรรจุอยู่ในพระเจดีย์องค์ใน ของพระเจดีย์  วัดปฐมเจดีย์
๒.บริโภคเจดีย์  คณะของพระโสณเถร พระอุตระเถร ได้หน่อพระศรีมหาโพธิ์มาจากพุทธคะยา มาปลูกไว้ที่วัดปฐมโพธิคุณ(วัดประปฐมเจดีย์)  ต้นเดิมสูญหายไม่มีเค้าเดิมเหลืออยู่
ต่อมามีกุลบุตรเลื่อมใสบรรพชาอุปสมบทกันมากแล้วใน  เมืองศรีสุวรรณ(นครปฐม)  พระมหาเถรผู้ใหญ่ทั้ง ๕ พระองค์ก็ได้ แยกย้ายกันไป เผยแผ่ ตั้งพระศาสนาตามเมืองต่างๆ
พระพุทธศาสนา ยุคสุวรรณภูมิ
พระพุทธศาสนาตั้งมั่นในดินแดนสุวรรณภูมิ
ยุคต้นสุวรรณภูมิ ตรงกับอาณาจักรฟูนัน กำลังรุ่งเรือง อาณาจักรฟูนัน  เป็นอาณาจักรเก่าแก่ ในดินแดนสุวรรณภูมิ มีอำนาจรุ่งเรืองมานานกว่า ๕๐๐ ปี  แผ่อำนาจไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของดินแดนที่เป็นราชอาณาจักรไทย และภาคใต้ของดินแดนที่เป็นประเทสลาว ทางใต้ถึงแหลมมาลายู ทางตอนใต้ของเวียดนาม  และมีอำนาจเหนืออาณาจักรขอมด้วย
  ศูนย์กลางของ ยุคสุวรรณภูมิคือ เมืองตักกศิลามหานคร ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ มีเมืองน้อยเป็นบริวารคือ เมืองสาวัตถี เมืองโกสัมพี(อยู่ใกล้เมืองตักกศิลามหานคร) เมืองทวารบุรี เมืองสันตะนาหะ เมืองอะเส  เมืองสุวรรณสังข์ (อู่ทอง) เป็นต้นส่วนเมืองศรีสุวรรณ(นครปฐม) ยังเป็นเมืองใกล้ชายทะเลฯลฯ
หมายเหตุ เมืองใหญ่ เมืองน้อยทั้งปวงในแถบนี้ต่างตั้งนามเมืองเลียนแบบ เมืองในดินแดนชมพูทวีป และเมืองตามลิทธิพราหมณ์
เมืองต่างๆเหล่านี้ต่าง ตั้งตัวเป็นอิสระแก่กัน ยังไม่รวมเป็นแว่นแคว้น เมืองศรีสุวรรณ(เมืองนครปฐม)  เป็นเมืองที่พระโสณเถรเจ้า พระอุตรเถรเจ้า ขึ้นมาประกาศศาสนาเป็นครั้งแรก
ยุคสุวรรณภูมิ ปีพระพุทธศักราช ๒๗๔ นั้น เมืองที่มีอำนาจมากที่สุดคือ เมืองตักกศิลามหานคร ชาวเมืองเป็นชนชาติมอญโบราณ   
ถึงประมาณปีพระพุทธศักราช  ๒๙๐–๓๐๖ ในยุคสุวรรณภูมินั้น พญาสักรดำ เจ้าผู้ครองเมืองตักกศิลามหานคร ทำการลบศักราช ตั้งจุลศักราชขึ้นมาใหม่ 
สิ้นสมัยพญาสักรดำแล้ว  เมืองตักกศิลามหานคร ก็เสื่อมหมดอำนาจลงตามลำดับ และหมดอำนาจไปในที่สุด  ต่อมาเมืองสุวรรณสังข์ (อู่ทอง) เริ่มมีอำนาจรุ่งเรืองขึ้นมา จนเข้าถึงยุคศรีทวารวดี  เมืองสุวรรณสังข์ จึงเปลี่ยนนามมาเป็นเมืองทวารวดี หรือเมืองศรีทวารวดี
พระพุทธศาสนา เริ่มต้นขึ้นในยุคสุวรรณภูมิ  เริ่มตั้งแต่ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๗๔ - ๔๖๗  รวมระยะเวลานาน   ๑๙๓ ปี


ที่มาเนื้อหา
จากหนังสือตำนานพระกรรมฐาน ของวัดราชสิทธาราม คณะ 5 โดย พระครูสิทธิัสังวร

32  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขยายเวลานมัสการ ธรรมเจดีย์ จาก นอร์เวย์ ถึง 20 พ.ค.54 ที่พุทธมณฑล เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 02:37:11 am


รัฐบาลและคณะสงฆ์ไทยได้ขยายเวลาสักการะธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณอายุยาวนานกว่า ๒,๐๐๐ ปี ที่ได้อัญเชิญจากราชอาณาจักรนอร์เวย์ มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ราชอาณาจักรไทย จนถึงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔

       นายกนก  แสนประเสริฐ  ผู้ อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลและคณะสงฆ์ไทยได้อัญเชิญธรรมเจดีย์                คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณอายุยาวนานกว่า ๒,๐๐๐ ปี จากราชอาณาจักรนอร์เวย์ มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ราชอาณาจักรไทย ที่อาคารพิพิธภัณฑ์ทางพระพุทธศาสนา   พุทธมณฑล เพื่อเป็นสิริมงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ตั้งแต่  วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้สักการบูชาและชมนิทรรศการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๐ น. ถึง เวลา ๑๘.๐๐ น. เพื่อ ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชาอย่างกว้างขวางทั่วถึง รัฐบาลและคณะสงฆ์ไทยได้ขยายเวลาสักการบูชาธรรมเจดีย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปไปจนกระทั่งถึงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ทุกวัน (เวลาเดิม) โอกาส นี้ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมสักการะธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณอายุยาวนานกว่า ๒,๐๐๐ ปี ได้ทุกวัน ที่พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

------------------------------------------
สำนักงานพุทธมณฑล  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ที่มาเนื้อหา
http://bbc.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=279:8-&catid=43:2008-10-29-14-41-47&Itemid=75
33  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / มารู้จัก 18 อรหันต์ ของจีนกันบ้างคร้า.. ในเทศกาล ตรุษจีน คร้า... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 02:54:29 am





































ขอบคุณที่มาของภาพคร้า
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10183791/Y10183791.html

34  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ถ้าเส้นผม เล็บ ของพระ เปลี่ยนเป็นลักษณะคล้าย พระูธาตุ ... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 02:42:37 am


ถ้าเส้นผม เล็บ ของพระ เปลี่ยนเป็นลักษณะคล้าย พระูธาตุ ...

 จะกล่าวได้หรือว่า พระรูปนั้น เป็นพระอริยะบุคคล ใช่หรือไม่ คร้า...

 หรือว่า แค่ระดับ พระโยคาวจร ก็สามารถ เปลี่ยนเป็นพระธาตุ ได้ คร้า... สงสัย อยู่คร้า..

 :smiley_confused1:
35  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ถ้าต้องการถอนการอธิษฐาน ที่เคยอธิษฐานไว้ที่ผ่านมา ต้องทำอย่างไร เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 02:32:30 am
การอธิษฐาน นั้นจัดว่าเป็นการแสดงความตั้งใจ หรือ ปณิธาน แต่บางครั้งเราก็เคยอธิษฐานไปตามเหตุเฉพาะหน้า

เช่น หมวยจ้า เคยอธิษฐานกับเพื่อนชายผู้หนึ่ง แบบว่าชอบนะ ว่าเราจะได้เป็นสามี ภรรยากันทุกชาติ แต่ปรากฏว่า

ผู้ชายคนนั้นกับแต่งงานไปมีภรรยา แล้ว ดังนั้นวันนี้หมวยนีย์ พึงนึกขึ้นได้เพราะได้อธิษฐาน ในวันมาฆะบูชาช่วง

ไปเที่ยวที่วัดพระพุทธบาท สองสามปีแล้ว

  ถ้าเราต้องการยกเลิกคำอธิษฐาน นั้น ควรทำอย่างไร คร้า...

 โปรดแนะนำด้วยคร้า....
 :58:
36  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไปรษณีย์เปิดตัวแสตมป์8เทพเจ้ารับตรุษจีน เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 02:22:42 am
จัดพิมพ์ 5 แสนชุด ใน 1 ชุด มี 8 ดวง ราคาดวงละ 3 บาท จำหน่ายที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้เป็นต้นไป

เวลา 10.40 น. (1 ก.พ.54) ที่ศาลเจ้าโป๊ยเซียน ย่านเยาวราช ของมูลนิธิสว่างเอื้ออาทรธรรมสถาน กทม. บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดงานเปิดตัวแสตมป์ชุดโป๊ยเซียน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน โดยแสตมป์ดังกล่าว จะมีองค์เทพเจ้าทั้งแปด เป็นต้นแบบภาพบนแสตมป์ ซึ่งบริเวณงานเปิดตัวมีการจัดกิจกรรมตามแบบประเพณีจีน สร้างบรรยากาศ และความคึกคักให้กับผู้ที่ผ่านไปมาบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก เพราะตรงกับวันจ่ายสิ่งของ เพื่อเตรียมสำหรับวันไหว้เจ้า ในวันที่ 2-3 ก.พ.54 ตามประเพณีจีน
นางสมใจ โฆสรัสวดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานอำนายการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการจัดสร้างตราไปรษณียากร เปิดเผยว่า แสตมป์ชุดโป๊ยเซียน มีด้วยกันทั้งหมด 8 ดวง 8 แบบ ตามองค์เทพเจ้าทั้งแปดของโป๊ยเซียน ซึ่งตามตำนานเชื่อว่า มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แตกต่างกันไป และได้รับความเคารพนับถือจากชาวจีนอย่างกว้างขวาง ถือเป็นสัญลักษณ์แห่ง “ความสุข โชคลาภ และอายุยืนยาว” เช่น หลีเถียกว่าย เทพผู้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ฮ่านจงหลี เทพแห่งโชคลาภ เหอเซียนกู เทพแห่งความงาม ปัญญาดี เป็นต้น
   
สำหรับแสตมป์ชุดโป๊ยเซียน จัดพิมพ์ทั้งหมด 5 แสนชุด ใน 1 ชุด มี 8 ดวง ราคาดวงละ 3 บาท จำหน่ายที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้เป็นต้นไป.
37  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 3BB ทิ้งลูกค้าต่างจังหวัดยกเลิกบริการไม่แจ้ง เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 02:19:03 am


สบท.กางข้อมูลผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 3BB ทั่วประเทศร้องเรียนถูกยกเลิกบริการดื้อๆ เหตุขัดแย้งทีทีแอนด์ทีเรื่องเช่าวงจร

วันนี้ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า    นายประวิทย์  ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา สบท.ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท ทริปเปิลทรี อินเทอร์เน็ต จำกัด เนื่องจากผู้ใช้บริการถูกตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า  เมื่อผู้ใช้บริการสอบถามก็ได้รับแจ้งว่า บริษัทฯยุติการให้บริการแล้ว ทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำธุรกิจเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต และประชาชนทั่วไป  ล่าสุดจากการร้องเรียนทั้งที่เข้ามาถึงสบท.โดยตรงและที่เป็นกระทู้ในสื่อ สังคมออนไลน์ต่างๆ พบว่ามีผู้เดือนร้อนมากกว่า 20 จังหวัดครอบคลุมทุกภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ลำพูน อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ ศรีสะเกษ สุราษฏร์ และตรัง
   
นายประวิทย์ กล่าวว่า จากเหตุร้องเรียนดังกล่าวพบว่า 3BB ได้ลดการใช้งานวงจรเช่าของบริษัท ทีทีแอนด์ทีจากที่เคยใช้งานอยู่ 320,278 วงจร เหลืออยู่เพียง 12,333วงจรเท่านั้น และมีแผนว่าจำนวนวงจรเช่าที่ใช้งานก็จะลดลงไปอีกตามลำดับ โดยจะลดลงเหลือ 0 ภายในระยะเวลาไม่นานนี้ จึงเป็นไปได้ว่า สำหรับลูกค้าต่างจังหวัดที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของ 3BB แบบมีเบอร์โทรศัพท์ของทีทีแอนด์ทีจะถูกแจ้งยกเลิกการให้บริการทั้งหมดในที่ สุด
   
“พื้นที่ที่ถูกร้องเรียนก็คือต่างจังหวัดเกือบทั้งหมด จากผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของทริปเปิลทรี บรอดแบนด์ แต่ใช้โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีเลขหมายซึ่งเป็นโครงข่ายของทีที แอนด์ที  อันนี้เป็นข้อสังเกตว่าจะถูกยกเลิกสัญญา ส่วนใครที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไม่มีเลขหมายของทริปเปิลทรี ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นโครงข่ายของเขาอยู่แล้วจะไม่เจอปัญหานี้  ตามตัวเลขประมาณการณ์ แสดงว่าบริษัทฯวางแผนที่จะยกเลิกการให้บริการกับผู้บริโภคอีก  ถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำให้มีผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศอย่างน้อย 12,000 ราย” ผอ.สบท.กล่าว
   
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตในต่างจังหวัดของ 3BB ในหลายจุดยังเป็นการทำสัญญาใช้บริการวงจรเช่าจาก บริษัททีทีแอนด์ที แต่เมื่อทีทีแอนด์ทีประสบปัญหาทางการเงิน และมีการตั้งบริษัทเอกชนเข้ามาทำแผนฟื้นฟูกิจการ ส่งผลต่อการเข้าไปใช้สิทธิของ 3BBในการใช้วงจรเช่าตามสัญญา เช่น  การเปลี่ยนกุญแจล็อคชุมสายทำให้ 3BB ไม่สามารถให้บริการได้ การสร้างเงื่อนไขการเข้าพื้นที่ชุมสายและมีเหตุรุนแรงถึงขั้นฟ้องร้องกันกับ พนักงานบริษัท  และเป็นเหตุให้3BB ไม่อาจใช้วงจรเช่าในพื้นที่ชุมสายของทีทีแอนด์ที เพื่อให้บริการกับลูกค้าได้  ซึ่งที่ประชุม กทช. ได้มีมติให้ทีทีแอนด์ทีระงับการรื้อถอนคู่สายหรือการหยุดการให้บริการแล้ว 3BB จึงยังคงมีสิทธิ์ใช้โครงข่ายทีทีแอนด์ทีเพื่อให้บริการต่อไปก่อนตามสัญญา เดิม การกระทำของ 3BB ด้วยการยกเลิกบริการผู้บริโภคเองโดยพลการเช่นนี้ ถือเป็นการยกเลิกสัญญาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
       
 “ตามกฎหมายมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม ระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการยกเลิกการให้บริการตามสัญญา ถ้าผู้บริโภคไม่ใช่ฝ่ายผิด และตาม พรบ. ประกอบกิจการโทรคมนาคมระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตจะพักหรือหยุดการให้บริการไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาต ซึ่งสบท.จะได้เชิญผู้ให้บริการมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้” ผอ.สบท.กล่าว
       
จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์  จำกัด (มหาชน) มีกรรมการบริษัท 7 คน  คือ นายพิชญ์ โพธารามิก นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล นางสาวสายใจ คีตสิน นางนงลักษณ์ พงษ์ศรีหดุลชัย นางสาวจงรัก โรจนวิภาต นายวสุ ประสานเนตร และนายอนุพงษ์ โพธารามิก

ที่มาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=310&contentID=118808
38  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / บุญ ๑๐ วิธี ( บุญกิริยาวัตถุ ) แบบสรุปคร้า เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2011, 02:41:11 am
บุญ ๑๐ วิธี
ตามหลักพุทธศาสนา มีการทำบุญด้วยกัน ๑๐ วิธี เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ (สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ ๑๐ ประการ) คือ

๑. ให้ทาน  แบ่งปันผู้อื่นด้วยสิ่งของ ไม่ว่าจะให้ใครก็เป็นบุญ (ทานมัย) การให้ทานเป็นการช่วยขัดเกลาความเห็นแก่ตัว ความคับแคน ความตระหนี่ถี่เหนียว และความติดยึดในวัตถุ นอกจากนี้สิ่งของที่เราแบ่งปันออกไปก็จะเป็นประโยชน์กับบุคคลหรือชุมชนโดย ส่วนรวม
๒. รักษาศีล ก็เป็นบุญ (ศีลมัย) เป็นการฝึกฝนที่จะ ลด ละ เลิกความชั่ว ไม่ไปเบียดเบียนใคร มุ่งที่จะทำความดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นเป็นการหล่อเลี้ยงบ่มเพาะให้เกิดความดีงามและ พัฒนาคุณภาพชีวิตไม่ให้ตกต่ำ
๓. เจริญภาวนา ก็เป็นบุญ (ภาวนามัย) การภาวนาเป็นการพัฒนาจิตใจและปัญญา ทำให้จิตสงบ ไม่มีกิเลส ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง เห็นคุณค่าสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ผู้ที่ภาวนาอยู่เสมอย่อมเป็นหลักประกันว่า จิตจะมีความสงบ ชีวิตมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้น สูงขึ้น
๔. อ่อนน้อมถ่อมตน ผู้น้อยอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็แสดงออกในความมีเมตตาต่อผู้น้อย และต่างก็อ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรมรวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพในความแตกต่างซึ่งกันและกันทั้งในความคิด ความเชื่อและวิถีปฏิบัติของบุคคลและสังคมอื่น เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตน ก็เป็นบุญ (อปจายนมัย)
๕. ช่วยเหลือสังคมรอบข้าง ช่วยเหลือสละแรงกาย เพื่องานส่วนรวม หรือช่วยงานเพื่อนบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็เป็นบุญ (ไวยาวัจจมัย)
๖. เปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำบุญกับเรา หรือในการทำงานก็เปิดโอกาสให้คนอื่นมีส่วนร่วมทำ ร่วมแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงการอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย ก็เป็นบุญ (ปัตติทานมัย)
๗. ยอมรับและยินดีในการทำความดี หรือทำบุญของผู้อื่น การชื่นชมยินดีหรืออนุโมทนาไม่อิจฉาหรือระแวงสงสัยในการกระทำความดีของผู้ อื่น ก็เป็นบุญ (ปัตตานุโมทนามัย)
๘. ฟังธรรม บ่มเพาะสติปัญญาให้สว่างไสว ฟังธรรมะ ฟังเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อสติปัญญา หรือมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นความจริง ความดี ความงาม ก็เป็นบุญ (ธรรมสวนมัย)
๙. แสดงธรรม ให้ธรรมะและข้อคิดที่ดีกับผู้อื่น แสดงธรรมนำธรรมะไปบอกกล่าว เผื่อแผ่ให้คนอื่นได้รับฟัง ให้เขาได้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นเรื่องของความจริง ความดี ความงามก็เป็นบุญ (ธรรมเทศนามัย)
๑๐. ทำความเห็นให้ถูกต้องและเหมาะสม มีการปรับทิฏฐิ แก้ไขปรับปรุงพัฒนาความคิดเห็น ความเข้าใจให้ถูกต้องตามธรรม ให้เป็นสัมมาทัศนะอยู่เสมอ เป็นการพัฒนาปัญญาอย่างสำคัญ ถือเป็นบุญด้วยเช่นกัน (ทิฏฐุชุกรรม)
ทิฏฐุชุกรรมหรือสัมมาทัศนะ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำบุญทุกชนิดและทุกโอกาส จะต้องประกบและประกอบเข้ากับบุญกิริยาวัตถุข้ออื่นทุกข้อ เพื่อให้งานบุญข้อนั้น ๆ เป็นไปอย่างถูกต้องตามความหมายและความมุ่งหมาย พร้อมทั้งได้ผลถูกทาง
การทำบุญ ๑๐ ประการนี้ สามารถสรุปเป็นข้อความคล้องจองกันว่า

๑. แบ่งปันกันกิน             ๒. รักษาศีล คือ กาย วาจา
๓. เจริญสมาธิภาวนา       ๔. กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
๕. ยอมตนรับใช้             ๖. แบ่งให้ความดี
๗. มีใจอนุโมทนา            ๘. ใฝ่หาฟังธรรม
๙. นำแสดงออกไม่ได้เว้น    ๑๐. ทำความเห็นให้ถูกต้อง

39  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการนั่งสมาธิคร้า.... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2011, 02:27:24 am
ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการนั่งสมาธิคร้า....
จากอุบาสิกา ผู้หนึ่งฝากมาถามคร้า...

เมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้านั่งสมาธิแล้วเกิดอาการตัวโยกอย่างรุนแรงเหมือนคนทรงเจ้า
ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่มีอยู่คืนหนึ่งนั่งสมาธิแล้วปรากฏสั่นอย่างรุนแรงแต่ไม่สามารถควบคุมกายนี้ได้
เป็นอยู่ประมาณ เกือย 20 นาทีรู้สึกมึนหัว และ ใจเต้นแรง เมื่ออาการสงบลง ก็เลยออกจากสมาธิเลยคะ
ลองทำอีกก็เป็นอีกเหมือนเดิม ไม่ทราบว่าอาการอย่างนี้ต้องเป็นกันทุกคนหรือไม่

มีเืพื่อนมาบอกว่า อาการนี้จะเป็นอาการของคนที่ พวกเทพหรือวิญญาณต้องการให้เป็นร่างทรง
เพราะเพื่อน ๆ พูดอย่างนั้น ข้าพเจ้าก็เลยกลัวมากขึ้น เลยไม่ได้ฝึกสมาธิอีกเลย

มีทางแก้หรือไม่คะ


ก็แบบว่า หมวยจ้าตอบไปบ้างแล้ว แต่ความน่าเชื่อถือ ของหมวยจ้ายังไม่พอสำหรับอุบาสิกาท่านนี้ ก็จึงนำคำถาม
มาให้ เพื่อนๆ สมาชิกศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ช่วยกันแนะนำด้วยคร้า...

 :c017:
40  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อภัยทาน กับ ธรรมทาน อันไหนมีอานิสงค์มากกว่าคร้า... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2011, 02:19:26 am
เคยได้รับฟังพระพุทธภาษิตว่า

  การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง

 แต่วันหนึ่งได้ฟังพระรูปหนึ่งท่านบรรยาย การให้ อภัยทาน เป็น ทานที่เลิศกว่าทานทั้งปวง

 คือไม่ทราบว่า อันไหนกล่าวถูกต้อง คร้า...

 อยากให้เพื่อน ๆ ช่วยกันวิจารณ์ เนื้อหา ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ หน่อยคร้า... ฟังแล้วก็ยัง งง  ๆ อยู่

ขอบคุณคร้า.....

 :c017:
หน้า: [1] 2 3 ... 12